คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 13 : Past Time V - Our Story
CHAPTER 13
Past Time V - Our Story
อิจิโกะก้าวลงจากมอเตอร์ไซด์คู่ใจ แล้วรีบวิ่งขึ้นภูเขาอย่างเร่งรีบ
เพราะระหว่างทางที่เข้าใกล้ที่นี่
เขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจนทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นอยู่แล้ว กลับยิ่งกังวลมากขึ้นกว่าเดิม
อีกทั้งเขายังไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง
โดยเฉพาะอาวุธที่จำเป็นต้องใช้ป้องกันตัว
ตลอดทางที่เขาวิ่งผ่านเต็มไปด้วยร่างของคนไร้ซึ่งลมหายใจ เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ
ก่อนตัดสินใจเลือกหยิบดาบเล่มหนึ่งมาจากมือของคนพวกนี้
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในขณะที่ไม่ยังมาไม่ถึง แต่ทุกอย่างมันช่างเลวร้ายยิ่งกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก
อิจิโกะรีบออกวิ่งต่อ เพื่อตามหาคนที่เขาต้องการจะเจอ จนมาถึงที่ที่หนึ่ง
ที่ที่ทำให้เขาสังเกตเห็นเด็กสาวร่างเล็กกำลังวิ่งหนีใครบางคนอย่างเอาเป็นเอาตาย
เธอดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา เขาเห็นดังนั้นจึงวิ่งขนาบข้างตามไปติดๆ โดยเว้นระยะห่างไว้พอสมควรเพื่อไม่ให้เธอรู้ตัว
เขาสังเกตเห็นทุกอย่าง ทุกการกระทำของเด็กสาวคนนั้น เธอหลบชายชุดดำหลายคนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
ก่อนที่จะออกจากที่ซ่อนแล้วใช้ดาบที่ถืออยู่ในมือสังหารคนพวกนั้น อิจิโกะขมวดคิ้วแน่น
มองดูด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
อิจิโกะต้องการออกไปช่วยเธอตั้งแต่แรก เขาพยายามอยู่หลายครั้งเพื่อจะไปช่วยเธอให้ได้
แต่...เขากลับถูกขัดขวาง และต้องสู้กับชายชุดดำพวกนี้เช่นกัน เขาเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าถูกคนพวกนี้จ้องจะเอาชีวิตอยู่
ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้ความมืดหันกลับไปมองเด็กสาวคนนั้นอีกครั้ง
เธอกำลังล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดแรงโดยใช้ดาบเป็นตัวค้ำ
ร่างเล็กทั้งร่างสั่นเทาท่ามกลางความมืดที่เขาสามารถมองเห็นได้เพียงแค่เงา
เสียงคมดาบปะทะกันดังสนั่น ไม่ใช่เสียงของดาบที่ลูเคียกำแน่นอยู่ในมือนี้แน่นอน
เธอยังคงนั่งคุกเข่าอยู่เช่นเดิม และแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เคียหันหน้าไปมองอย่างสงสัยว่าใครกันที่ช่วยชีวิตเธอไว้
ภาพที่เห็นคือร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังใช้ดาบของตัวเองต่อสู้กับชายคนนั้นอยู่
ด้วยความมืดและความเหนื่อยล้าทำให้ดวงตาที่พร่ามัวมองเห็นใบหน้าของเขาคนนั้นไม่ชัด
มันช่างเลือนลางเหลือเกิน เงา รูปร่าง และ ทรงผมแบบนั้น
...พี่ไคเอ็นงั้นเหรอ...
ความคิดแรกที่เธอนึกถึง
ถึงแม้อาจจะดูโง่ไปหน่อยที่คิดแบบนั้น แต่เธอกลับหวังให้เป็นเขา…
"รีบหนีไปสิ ยัยเบื้อก!"
ลูเคียสะดุ้งตามเสียงนั้นแล้วได้สติทันใด
น้ำเสียงและวิธีการเรียกแบบนี้ ไม่ใช่พี่ไคเอ็นแน่นอน แล้วเขาเป็นใครกัน?
"ฉันบอกให้รีบหนีไปไง นั่งทำบ้าอะไรอยู่ห้ะ!"
เขาตะคอกใส่เธอเสียงดัง พลางใช้ดาบเล่มใหญ่สะบัดตัวออกจากการต้านกันของดาบอีกเล่ม
แล้วใช้ด้ามดาบกระแทกเข้าที่หลังคอของอีกฝ่ายอย่างแรง ส่งผลให้ร่างของชายคนนั้นสลบล้มลงกับไปพื้นทันที
ลูเคียมองไปยังเขานิ่งอยู่สักพัก พยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาที่ไม่ปรากฏสีให้เห็นท่ามกลางความมืดมิด
แต่ยิ่งเพ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นหน้าไม่ชัดเท่าที่ควร เขา...เป็นใครกัน? คนที่เธอไม่เคยเจอ และไม่เคยรู้จักมาก่อน
หลังจากที่ช่วยเด็กสาวให้รอดพ้นจากอันตรายมาได้ อิจิโกะก็รีบพาเธอวิ่งมาอีกทาง
จนเขาแน่ใจว่าหนีพ้นแล้วจึงหยุดวิ่ง
หลังพิงต้นไม้คนล่ะฝั่งอย่างหมดแรง ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัดและมืดมิด มีเพียงเสียงหอบหายใจที่แสดงให้เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยของแต่ละฝ่าย
และไม่มีคำพูดใดๆออกมาให้คนอีกฝ่ายได้รับรู้อยู่ชั่วครู่ จนอิจิโกะตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเสียเอง
"เธอเป็นใคร แล้วมาที่นี่ทำไมห้ะ!? รู้หรือเปล่าว่ามันอันตรายแค่ไหน" อิจิโกะถามเชิงตำหนิ
"ล...แล้วนายเป็นใครล่ะ?" ลูเคียไม่ตอบ
แต่ถามอีกฝ่ายกลับ
"นี่ฉันถามเธอก่อนนะ เธอก็ต้องตอบฉันก่อนสิ..."
"แต่ก็ช่างเถอะ แค่รอดมาได้ก็ดีแล้ว"
ลูเคียได้ยินที่เขาพูด แล้วเงียบไปสักพัก
เพราะนิสัยของคนคนนี้เหมือนกับพี่ไคเอ็นไม่มีผิด
"ขอบใจนะที่ช่วย นาย...ไม่เป็นไรใช่มั้ย"
อิจิโกะนิ่งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงขนาดนี้
ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งๆที่เขาสามารถทิ้งให้เธอต่อสู้คนเดียวอย่างนั้นแล้วไปตามหาไคเอ็นต่อก็ได้
แต่เขาไม่ทำ เขากลับเข้าไปช่วยเธอ คงเป็นเพราะเขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สามารถทนนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของคนอื่นได้ล่ะมั้ง
แต่อิจิโกะกลับรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
มากกว่าจิตใต้สำนึกที่เรียกร้องบอกว่าต้องช่วยเธอให้ได้
"แค่นี้สบายๆน่า ว่าแต่เธอเถอะ เห็นมีแผลเต็มตัวเลยนี่
ไม่เจ็บบ้างรึไง"
"หึ... ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ"
ลูเคียยกยิ้มเหยียดให้กับความอ่อนแอของตัวเอง
พลางส่งเสียงตอบคนที่นั่งพิงต้นไม้อยู่อีกฝั่งด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
จนอิจิโกะสัมผัสได้
...ร้องไห้อยู่รึไง...
"แค่นี้...แค่นี้น่ะ มันคงจะน้อยไป
ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำให้ฉัน"
ลูเคียพยายามกลั้นน้ำตาอย่างถึงที่สุดในขณะที่กำลังพูด
แต่ดูเหมือนว่าหัวใจของเธอคงจะบอบช้ำเกินที่จะทำตามคำสั่ง ความเจ็บปวดภายในจิตใจเริ่มทะลักไหลรินกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาอีกครั้ง
ลูเคียไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอมเสียน้ำตาให้คนแปลกหน้าอย่างผู้ชายคนนี้ได้รับรู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง
อีกฝ่ายเงียบและตั้งใจฟัง
ทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร แม้อยากจะถามว่า'เขา'ที่เธอพูดถึงคือใคร
แต่นี่คงไม่ใช่เวลาจะมาถาม และไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งคุยกันแบบนี้ อิจิโกะรู้ดี...
แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาลืม ลืมว่าเขามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร
เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อรู้ว่าเธอร้องไห้
เขาได้แต่นึกสงสัยในใจว่าเธอคือคนคนเดียวกันกับเด็กสาวที่ใช้คมดาบต่อสู้กับคนเหล่านั้นจริงๆหรือเปล่า
"ถ้าเธอจะร้องก็ร้องออกมาให้หมดเถอะนะ รู้ไว้ด้วยว่าฉันปลอบใครไม่เป็น
ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดีนี่ ฉันไม่เคยรู้จักเธอ ฉันเองก็อยากช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นนะ
แต่ฉันไม่รู้... ฉันเลยไม่รู้ว่าจะปลอบเธอยังไงดี"
น่าแปลกที่คำพูดตรงๆของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ลูเคียไม่รู้จักทำให้เธอยิ้มออก
"ขอบใจนะ แต่...ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ"
ลูเคียพูดพลางใช้มือเช็ดน้ำตาที่เริ่มหยุดไหล
ไม่เข้าใจอีกแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำตาถึงหยุดไหลง่ายๆแบบนี้นะ
"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
ฉันเองก็ไม่มีเวลามาฟังเธอคร่ำครวญนานนักหรอกนะ"
อิจิโกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ ฟังดูก็รู้ว่าประโยคหลังที่พูดมานั้นตั้งใจที่จะกวนประสาทกันชัดๆ
แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับทำให้ลูเคียยิ้มได้อีกครั้ง
"ฉันก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน
เพราะฉันต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ไคเอ็น ยินดีนะที่ได้เจอนาย
หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก"
ลูเคียพึมพัมไม่หวังให้คนที่นั่งอยู่อีกฝั่งได้ยิน
เธอเตรียมลุกขึ้น เพื่อจะเดินหนีออกจากภูเขาแห่งนี้ต่อ
แต่อิจิโกะกลับได้ยินคำๆหนึ่งที่สะดุดหูเขาอย่างมาก คำว่า 'พี่ไคเอ็น' ทำให้เขาต้องรั้งตัวเธอเอาไว้
"เดี๋ยว! เธอรู้จักไคเอ็นด้วยงั้นเหรอ?"
อิจิโกะลุกขึ้นคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้
ลูเคียหันมามองเขาด้วยความตกใจ เขาจ้องตาเธอแต่กลับมองไม่เห็นแววตาที่แท้จริง
เพราะมันมืดมาก เช่นเดียวกับเธอ
"ใช่ ท...ทำไมเหรอ หรือว่านายก็รู้จักเข..."
ลูเคียกระพริบตาปริบๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจคนตรงหน้าสักเท่าไร
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!
เสียงร้องของใครบางคนทำให้ทั้งลูเคียและอิจิโกะใจเสีย
หัวใจหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ทำไมพวกเขาจะจำไม่ได้ว่านี่เป็นเสียงร้องของใคร
"พี่ไคเอ็น!"
"ไคเอ็น!"
ทั้งลูเคียและอิจิโกะอุทานชื่อเจ้าของเสียงร้องที่เพิ่งได้ยินออกมาพร้อมกัน
ก่อนที่อิจิโกะจะออกแรงดึงมือร่างบางให้วิ่งตามเขาไปยังต้นทางของเสียงนั้น
สิ่งที่ทั้งสองคนได้เห็น แทบจะทำให้คนทั้งคู่หยุดหายใจ
ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
ภาพของงินที่ใช้เข็มฉีดยาขนาดใหญ่ปักลงบนลำคอของไคเอ็นจนทำให้ร่างของไคเอ็นทรุดลงกับพื้น
ใบหน้าของชายผมสีเงินภายใต้ฮูทเสื้อคลุมสีดำกำลังแสยะยิ้มร้าย ราวกับอสรพิษกำลังแยกเขี้ยวเมื่อมันเจอเหยื่อ
งินตวัดสายตามองมาทางพวกเขาอย่างเชื่องช้า เหมือนรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาที่นี่
ลูเคียตัวสั่นไปทั้งร่าง รู้สึกเจ็บแปลบอยู่กลางอก
ที่ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ
เด็กสาวนิ่งไปนานกับภาพที่ได้เห็นก่อนออกแรงพุ่งตัวเพื่อวิ่งเข้าไปหาร่างของไคเอ็นอย่างไว
แต่กลับถูกอิจิโกะรั้งแขนเอาไว้ทันที จนเธอต้องหันมามองค้อนเขา
"ปล่อยฉันสิ!
นายรู้จักเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ช่วยเขาล่ะ ทำไม!?"
ลูเคียตะคอกเสียงดังลั่นด้วยความโมโห แต่ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว
รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆที่กำลังจะไหลรินออกจากดวงตาในไม่ช้า ไม่...
มันต้องไม่เป็นแบบนี้ เธอต้องช่วยไคเอ็นให้ได้
อิจิโกะไม่ตอบ เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน
ที่เขารั้งเธอไว้ เพราะเขารู้ดีว่ายาที่งินฉีดเข้าสู่กระแสเลือดของไคเอ็นคือยาอะไร
มันอันตรายเกินไป เด็กหนุ่มกำดาบที่ถือไว้อีกข้างแน่นด้วยอารมณ์โกรธ อยากจะฆ่าชายหนุ่มภายใต้เสื้อคลุมสีดำให้ตายคามือเสียตรงนี้
“เธอคิดว่าเธออยู่ตรงนี้แล้วจะช่วยอะไรเขาได้อย่างนั้นเหรอ
มันสายไปแล้วล่ะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเตือนสติเธอ
จนทำให้ลูเคียชะงักและคิดตาม ใช่แล้ว เธอช่วยอะไรไคเอ็นไม่ได้จริงๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
“เธอบอกว่าเธอต้องหนีไปจากที่นี่ตามสัญญาของเขาไม่ใช่หรือไง
ไปสิ! หนีไปซะ!”
อิจิโกะตะคอกกลับบ้าง เพื่อให้ทำเธอกลัวแล้วหนีไปตามคำสั่งของเขา
“...”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไคเอ็นสำคัญกับเธอยังไง
แต่เธอ...ลืมไปแล้วเหรอว่าต้องหนีออกจากที่นี่เพราะอะไร!?”
คำพูดนี้ทำให้ประโยคๆหนึ่งแล่นเข้ามาในโสตประสาทของลูเคียอย่างไว
//"หนีไปซะ ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
แล้วก็...อย่าหันกลับมาเด็ดขาด เข้าใจมั้ย!?"//
ไม่รอช้า ร่างเล็กกำหมัดแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
ดวงตาคู่สวยมองไปยังร่างสูงของเจ้าของประโยคนี้ที่กำลังนอนสลบอยู่บนพื้นหญ้าแวบหนึ่ง
ก่อนจะหันหลังให้อิจิโกะทันที แล้วก้าวเท้าออกวิ่งหายลับไปกับความมืดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง
เมื่อเห็นดังนั้นอิจิโกะก็มั่นใจขึ้นมาได้เล็กน้อยว่าเธอจะปลอดภัยและหนีออกจากที่แห่งนี้ได้โดยเร็วที่สุด
ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววโรจน์ด้วยความโกรธแค้นภายใต้ความมืดมิดอีกครั้ง
เขาจ้องมองคนที่ทำร้ายไคเอ็นอย่างกินเลือดกินเนื้อ
พร้อมที่จะสังหารคนตรงหน้าเสียเต็มที่
“หึ...”
เสียงหัวเราะของงินมันทำให้อิจิโกะแทบจะระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่
มันช่างยั่วโมโหเขาเหลือเกิน เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เด็กหนุ่มกำดาบในมือแน่น พุ่งตัวเข้าหาศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต
งินไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด
เพียงแต่เบี่ยงหลบคมดาบที่ฟาดฟันลงมาอย่างใจเย็น พลางถือดาบกันเอาไว้หลวมๆ
ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ความเลือดร้อนของอิจิโกะเดือดพล่าน
เขารู้ว่าคนๆนี้ฝีมือไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เขาไม่มีทางเลือก นอกจากจะโจมตีใส่ไม่ยั้ง
เพราะเขาจะต้อง...แก้แค้นแทนไคเอ็นให้ได้!
ด้วยทักษะและความสามารถที่อิจิโกะมีมันทำให้เขาสามารถไล่ต้อนงินได้ไม่ยาก
ความตั้งใจของเขามันมากพอที่จะทำให้งินเสียหลัก แล้วล้มลงกับพื้นทันใด หรืองินอาจจะตั้งใจล้มลงเอง? เด็กหนุ่มไม่สน เขาฉวยโอกาสนี้เตรียมฟาดฟันดาบลงไปที่ร่างของงินอย่างเต็มแรง
แต่แล้ว...
เคร้ง!!!
คมดาบของอิจิโกะถูกหยุดไว้ด้วยดาบอีกเล่มหนึ่ง
ซึ่งไม่ใช่ดาบของงินอย่างแน่นอน เพราะงินปล่อยให้ดาบของตัวเองหลุดมือไปแล้ว
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาก็จะฆ่าคนตรงหน้าได้แล้ว ใครกันที่ขัดขวางเขา!?
“โอ๊ะโอว...
ได้เวลาแล้วสินะ ชิบะ ไคเอ็น”
งินแสยะยิ้มอย่างสนุกสนานเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา
อิจิโกะรู้สึกว่าร่างของเขาชาไปทั้งตัว
เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนขัดขวางเขา ไคเอ็น! คนที่น่าจะนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนพื้นหญ้านั่น
กลับลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องศัตรูของตัวเอง เป็นไปได้อย่างไร?
“ไคเอ็น!
ทำบ้าอะไรของนายห้ะ!?”
อิจิโกะตะโกนใส่อย่างไม่เข้าใจ
แต่ไม่นานร่างของเขาก็ถูกผลักอย่างเต็มแรงจนกระเด็นออกห่างจากร่างของงิน ไคเอ็นตั้งท่าจะสู้กับอิจิโกะอีกครั้ง
“เป็นบ้าไปแล้วรึไง!? ตั้งสติหน่อยสิ ไคเอ็น”
อีกครั้งที่อิจิโกะตะโกนเสียงดัง
แต่ไม่มีทีท่าว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้จะหยุดโจมตีเขา
ทุกครั้งที่คมดาบของไคเอ็นฟาดฟันลงมา เขารู้สึกได้ถึงความหนักแน่น รุนแรง
และกำลังที่มากเกินมนุษย์ มันทำให้อิจิโกะเกือบพลาดท่า เขาเคยสู้กับไคเอ็น
เขารู้ดี
ในขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น
ดวงตาของอิจิโกะก็เหลือบเห็นงินลอบยิ้มร้ายอย่างสะใจ นั่นทำให้เขาเข้าใจทันที
นี่ไม่ใช่ไคเอ็นที่เข้ารู้จัก มันเพราะยาบ้าๆนั่นแน่นอน!
แม้จะมืดเพียงใด แต่แววตาที่แข็งกร้าวที่จ้องมองมายังอิจิโกะราวกับแค้นเคียงเขามาแสนนาน
ไม่หลงเหลือนัยน์ตาสีครามคู่เดิมของไคเอ็นที่เขาเคยรู้จัก อีกทั้งการแสยะยิ้มร้ายที่ไคเอ็นไม่เคยทำ
แต่วันนี้เขากลับได้เห็น
“อึก...”
ในที่สุดเขาก็พลาดท่าให้กับไคเอ็นในระยะเวลาอันสั้น
เพราะมัวแต่กลัว กลัวว่าถ้าเขาลงมือจริงๆ
คนที่ฆ่าไคเอ็นจะไม่ใช่ชายที่สวมชุดดำคนนั้น แต่เป็นเขาคนนี้ต่างหาก
ปลายโลหะสีเงินอันคมกริบจ่อเข้าที่ลำคอของอิจิโกะจนเขารู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบนั้น
แปะๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นจากงินที่ได้เห็นคนของสองตระกูลใหญ่อีกทั้งยังมีสายเลือดเดียวกันเข่นฆ่ากันเอง
เรียกความสนใจให้อิจิโกะหันไปมองอย่างโกรธแค้นโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยในเวลานี้
“หึๆ... พอได้แล้วล่ะ ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“...”
อิจิโกะนิ่งเงียบเพราะคมดาบจ่อเข้าที่ลำคอเขาอยู่ ขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้จะให้ไคเอ็นหยุดทำไม
ทั้งที่จะสังฆ่าเขาเลยทันทีก็ได้
งินค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ไคเอ็นก่อนจะกระซิบเบาๆ
ซึ่งอิจิโกะก็ได้ยินเช่นกัน ซึ่งคำพูดนั้นทำให้อิจิโกะเบิกตากว้างขึ้นมาทันใด
“ชิบะ ไคเอ็น คนที่นายจะต้องจัดการน่ะ ไปทางนั้นแล้วล่ะ”
เขาพูดพลางชี้ไปยังทางที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งวิ่งหนีไป
...ไม่นะ!...
“รีบตามไปสิ นายต้อง...ฆ่าเธอซะ”
หลังจากได้ยินคำสั่ง
ร่างของไคเอ็นก็ลดดาบลงจากลำคอของอิจิโกะ แล้วออกวิ่งไปทางที่งินชี้ไปอย่างรวดเร็ว
เร็วมากจนอิจิโกะกังวลว่าจะไคเอ็นจะตามเด็กผู้หญิงคนนั้นทัน
อิจิโกะได้แต่มองตามอย่างร้อนใจ เตรียมลุกขึ้นอีกครั้ง
ก่อนออกวิ่งตามไปทางนั้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาเคยทำได้ แต่มีทางเหรอที่คนอย่างเขาจะวิ่งตามไคเอ็นที่กำลังบ้าอยู่อย่างนั้นทัน
แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องตามให้ทัน ไม่งั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นแย่แน่
งินมองตามเงียบๆ โดยที่ไม่คิดจะตามไป
พลันปรากฏร่างของใครคนหนึ่งหลังต้นไม้ใหญ่ก้าวมายืนอยู่ข้างกายของงิน ‘จูฮาบัช’ ยกยิ้มอย่างนึกสนุก ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายอย่างเลือดเย็น ไม่ว่าใครในสามคนนั้นที่จะต้องจากโลกนี้ไปในคืนนี้
มันก็คุ้มทั้งนั้น
ลูเคียวิ่งหาทางออกจากภูเขาแห่งนี้จนขาอ่อนแรง
หกล้มถลอกไปหลายครั้ง แต่ก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ริมฝีปากบางซีดราวกับคนป่วย รอยแผลตามแขนขามีมากขึ้น และชัดเจนมากขึ้นกว่าที่เคย
จากที่วิ่งมากลับต้องเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
เมื่อร่างกายเริ่มถึงขีดจำกัดมันทำให้เธอไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป
มีเพียงแค่ดาบเล่มเดียวที่ทำหน้าที่เป็นไม้เท้าคอยค้ำจุนร่างของเธอให้ทรงตัวอยู่ได้
กึก...
ลูเคียหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง มันกำลังพุ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็ว
มือเล็กกำดาบแน่นเตรียมยกขึ้นมาต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่แล้วเสียงนั้นก็หยุดลง กลายเป็นเสียงของที่คนกำลังเดินเข้ามาหาเธอช้าๆอย่างใจเย็น
เพียงแค่เห็นเงาเธอก็แทบจะร้องไห้ออกมา ร่างสูงของไคเอ็นไม่ผิดแน่
“พี่ไคเอ็น...”
ลูเคียพูดเสียงเบาทว่ากลับเต็มไปด้วยความดีใจ
เมื่อเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“พี่ไคเอ็นจริงๆใช่มั้ย?”
แม้จะรู้ดี
แต่ที่ถามออกไปอย่างนั้นเพราะเธอกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
มันอาจจะเป็นภาพที่เธอสร้างขึ้นมาเอง มือเรียวยื่นออกไป หวังจะสัมผัสคนตรงหน้าเพื่อความแน่ใจ
แต่เขากลับปัดมือของเธอทิ้งอย่างไม่ใยดี
ตึง!!!
ร่างของลูเคียถูกเหวี่ยงกระแทกกับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง
ดวงตาแดงก่ำและแข็งกร้าวของไคเอ็นจ้องมาที่เธอราวกับปิศาจร้าย
ลูเคียจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นอย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่นานคนตรงหน้าก็พุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็วจนเธอแทบจะตั้งตัวไม่ทัน
คมดาบปะทะกันอีกครั้งอย่างแรง
ลูเคียทำอะไรไม่ถูก แต่รู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่พีไคเอ็นที่เธอเคยรู้จักอย่างแน่นอน
“พี่ไคเอ็น!” ลูเคียตะโกนเสียงดังหวังให้เขาได้สติ
“ทำไม เธออยากช่วยฉันไม่ใช่หรือไง
ถ้าอย่างนั้นก็ตายไปซะสิ! เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเธอ!”
ไคเอ็นหรี่ตามอง พูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวไม่ต่างจากแววตา
จนลูเคียตัวสั่นน้อยๆ
คำพูดเสียดแทงจิตใจที่ออกมาจากปากของเขาทำร้ายความรู้สึกเธอได้ไม่น้อย ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้สติเลยก็ตาม
ไม่...
เธอไม่อยากสู้กับพี่ไคเอ็น ทำไมนะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้
เมื่อคิดได้ดังนั้นลูเคียตัดสินใจหันหลังแล้ววิ่งหนี
แต่มันก็ช้าไปจนเขาตามเธอทัน หนีไม่ได้แล้วสินะ...
ลูเคียหันกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง
เธอได้แต่ถือดาบตรงไปข้างหน้าอย่างนึกกระบวนท่าไม่ออก
แววตาคู่นั้นที่จ้องมองมาที่เธอราวกับโกรธแค้นเธอมาแต่ชาติปางไหน ทั้งสีหน้า ดวงตา
และรอยยิ้มที่ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการที่ได้ไล่ฆ่าเธอ เธอลืมทุกอย่าง
ลืมแม้กระทั่งว่าจะต้องก้าวขาวิ่งหนีออกไปอย่างไร ดวงตานั้นสะกดให้เธอหยุดนิ่งราวกับก้อนหิน
ถึงแม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ไคเอ็น
แต่จู่ๆน้ำตาก็ไหลรินออกมาไม่ยอมหยุด พี่ไคเอ็นต้องทรมานขนาดไหนกันนะ เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยสักอย่างจริงๆเหรอ
ฉัวะ!!!
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วทั้งใบหน้าของลูเคีย
เลือดของไคเอ็น...
คมดาบของเธอแทงทะลุอกของชายหนุ่มอย่างแรง
ร่างของไคเอ็นแน่นิ่งไปทันที มือหนาปล่อยให้ดาบของตนร่วงหล่นลงสู่พื้น
รวมทั้งน้ำหนักตัวที่ทิ้งกดทับลงมายังร่างเล็กอย่างหมดเรี่ยวแรง
เขาได้สติแล้ว และเขารู้ว่าเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน
ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เขาได้รับตอนนี้
มันจะเทียบเท่ากับบาดแผลที่เกิดขึ้นในหัวใจของลูเคียได้ไหมนะ?
สายฝนโปรยปรายลงมาในวินาทีต่อมา
จากที่ตกเบาๆกลับกลายเป็นหนักและรุนแรง
ราวกับตกลงมาเพื่อเยาะเย้ยความผิดพลาดครั้งใหญ่ของลูเคีย หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น
เมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง
สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
พอๆกับหยดน้ำตาใสๆของเด็กสาวที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก เส้นผมสีดำสนิทที่ยาวประบ่าของเธอเปียกลู่เรียบลงไปกับแก้มเนียน
ชุดที่เธอใส่ก็ชุ่มน้ำจนแนบเนื้อ แต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะในขณะนี้มือเธอได้กุมด้ามดาบที่กำลังเสียบแทงทะลุอกร่างของชายหนุ่มที่เธอรักและเคารพ
ลูเคียได้แต่ร้องไห้อย่างหนัก
ทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี อีกทั้งในใจนั้นยังส่งเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานอย่างแสนสาหัสไม่ยอมหยุด
"พี่ขอบใจเธอมากนะ ลูเคีย
เพราะเธอ...หัวใจของพี่ถึงได้อยู่ตรงนี้"
ร่างนั้นใช้มือที่เหลือเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดโอบกอดลูเคียไว้
ทั้งยังเอ่ยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แม้ว่าอยู่ท่ามกลางสายฝนอันหนาวเหน็บก็ตาม
ขอบคุณ...ขอบคุณอย่างนั้นเหรอ
เธอเป็นคนที่ฆ่าเขากับมือแท้ๆ แต่ยังอุตส่าห์มาขอบคุณเธออีกอย่างนั้นเหรอ
แบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดไปกันใหญ่ แถมยังทรมานเจ็บปวดใจไม่ใช่น้อย
ลูเคียหลับตาแน่น
ใช้ร่างเล็กๆของตัวเองแบกรับร่างของเขา แล้วใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กุมดาบ
โอบกอดเขาโดยที่มือยังสั่นเทา ทั้งๆที่ตัวเขาก็หนักพอสมควร
แต่เธอกลับต้องการที่จะโอบกอดเขาเอาไว้ตลอดไป
"พี่ไคเอ็น..."
เธอสัมผัสได้ว่าตัวเขานั้นเย็นเฉียบ
หัวใจของพี่ไคเอ็นเต้นช้าลงอย่างผิดจังหวะ และเลือดสีแดงฉานที่กำลังหลั่งไหลออกจากบาดแผลบนตัวเขา
บาดแผลที่เธอเป็นคนสร้าง มันบ่งบอกว่าเขากำลังจะจากเธอไปในไม่ช้า
ไคเอ็นก็รู้ตัวดีเหมือนกัน
ว่าเขาก็คงทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกไม่นาน เขาจึงใช้ช่วงเวลานี้ กระซิบถ้อยคำคำหนึ่ง
ที่ทำให้เด็กสาวแทบอยากจะตายตามเขาไปในทันที
"พี่...รักเธอนะ
ลูเคีย"
เพียงแค่คำๆนี้เท่านั้น
ที่ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากอันซีดเซียวเปล่งออกมาเป็นประโยคสุดท้าย
หัวใจของเขาก็หยุดเต้นทันที มือหนาที่โอบร่างเธอเอาไว้ก็ร่วงลงสู่พื้นดินตามแรงโน้มถ่วงของโลก
อย่างไร้แรงต้านทานใดๆมาเหนี่ยวรั้งลมหายใจของเขาเอาไว้ได้
ลูเคียได้ยินดังนั้น
หัวใจของเธอก็แทบสลาย เธอจะไม่เสียใจมากสักเท่าไรเลย ถ้าคนตรงหน้าที่เธอฆ่า ไม่ใช่คนที่เธอ...รักเช่นกัน
มันสายไปแล้ว
"พี่ไคเอ็นนนนนนนนนนน..."
ลูเคียตะโกนกรีดร้องอย่างสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด
แต่ต่อให้เธอเรียกชื่อเขาอีกสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
ตอนนี้หัวใจของเธอเจ็บปวดเจียนตาย น้ำตาที่หลั่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ไม่อาจจะแทนความเจ็บปวดสักเสี้ยวหนึ่งของหัวใจเธอได้เลย
ความเจ็บปวดของคนทั้งสองนั้นได้ถูกถ่ายทอดความรู้สึกออกมาจนคนที่ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆอย่างอิจิโกะรู้สึกได้
เขายืนนิ่ง ดวงตาไร้ความรู้สึก เขาเองเจ็บปวดไม่แพ้ใคร
นี่เขาช่วยใครไม่ได้อีกแล้วเหรอ?
ท่ามกลางสายฝนแบบนี้
อีกแล้ว...
เขามาช้าเกินไป
ขอโทษนะ
ไคเอ็น
ฉันขอโทษ
เธอด้วย...
อิจิโกะรู้ดีว่าตอนนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดคงจะไม่ใช่เขา
แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอฆ่าคนที่เธอรักกับมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกที่อิจิโกะเข้าใจดี
ขาของอิจิโกะอ่อนแรงลงทันใด
เข่าของเขาทรุดลงแตะลงบนผืนหญ้าที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน
เด็กหนุ่มกำมือแน่นท่ามกลางสายฝน
ปึก...
เสียงของแข็งที่ฟาดลงมาบนท้ายทอยของอิจิโกะ
ทำให้ร่างของเขาล้มลงไปนอนกับพื้น และสลบไปทันที โดยเบื้องหน้าของเขาคือภาพของคนที่เขาทั้งรักและเคารพได้จากทุกคนไปแล้วตลอดกาล
ภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็น
หลายนาทีกว่าลูเคียจะได้สติ
เธอค่อยๆละมือจากด้ามดาบเล่มนั้น แล้วใช้มือทั้งสองข้าง โอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของไคเอ็นเอาไว้แน่น
แล้วใช้ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาและสายฝน ซบกับไหล่กว้าง ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก
ในเวลานี้ และสถานที่แบบนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตเขาได้หรอก เธอรู้ดี
เพราะกำลังร้องไห้อยู่
หรือเพราะสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
ทำให้ลูเคียไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาที่เธอ
ชายหนุ่มร่างสูงถือดาบอันคมกริบอยู่ในมือ เขาก้าวเข้ามาอย่างใจเย็น
แล้วหยุดที่ด้านหลังของเด็กสาว ในระยะห่างพอสมควร
และเขาก็เงื้อมมือที่ถือดาบขึ้นมา เตรียมจะฟาดฟันคมดาบลงไปยังแผ่นหลังของลูเคีย
ในขณะนั้นลูเคียเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนจับจ้องมองเธออยู่
เธอจึงละใบหน้าจากร่างของไคเอ็น แล้วหันหลังเพื่อกลับไปมอง แต่ไม่ทันแล้ว
ในเมื่อชายคนนั้นกำลังตวัดด้ามดาบลงมาที่เธออย่างแรง
ลูเคียเบิกตากว้างตกใจ
และใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นมากั้นตามสัญชาตญาณ
เพราะในตอนนี้เธอไม่มีสติพอที่จะต่อสู้กับคนตรงหน้า แต่ถ้าจะตายจริงๆ ก็ไม่เป็นไร
เธอพร้อมที่จะตายตั้งแต่ชายที่ชื่อไคเอ็นจากเธอไปแล้วด้วยซ้ำ
ในเวลานั้น นัยน์ตาของเธอยังคงเบิกกว้าง
ใบหน้าที่เธอเห็นนั้นไร้ซึ่งความปราณี ใบหน้านั้นที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ใบหน้านั้นที่เธอไม่มีวันลืม...
ไอเซ็น!!!
และแล้วคมดาบก็ฟาดฟันลงมาในที่สุด
ความคิดเห็น