ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach] For you forever - Ichiruki

    ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 13 : Past Time V - Our Story

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 58


    CHAPTER 13

    Past Time V - Our Story

     





     


     

    อิจิโกะก้าวลงจากมอเตอร์ไซด์คู่ใจ แล้วรีบวิ่งขึ้นภูเขาอย่างเร่งรีบ เพราะระหว่างทางที่เข้าใกล้ที่นี่ เขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจนทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นอยู่แล้ว กลับยิ่งกังวลมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเขายังไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง โดยเฉพาะอาวุธที่จำเป็นต้องใช้ป้องกันตัว

     

     

    ตลอดทางที่เขาวิ่งผ่านเต็มไปด้วยร่างของคนไร้ซึ่งลมหายใจ เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติ ก่อนตัดสินใจเลือกหยิบดาบเล่มหนึ่งมาจากมือของคนพวกนี้ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในขณะที่ไม่ยังมาไม่ถึง แต่ทุกอย่างมันช่างเลวร้ายยิ่งกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก

     

     

    อิจิโกะรีบออกวิ่งต่อ เพื่อตามหาคนที่เขาต้องการจะเจอ จนมาถึงที่ที่หนึ่ง ที่ที่ทำให้เขาสังเกตเห็นเด็กสาวร่างเล็กกำลังวิ่งหนีใครบางคนอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา เขาเห็นดังนั้นจึงวิ่งขนาบข้างตามไปติดๆ โดยเว้นระยะห่างไว้พอสมควรเพื่อไม่ให้เธอรู้ตัว

     

     

    เขาสังเกตเห็นทุกอย่าง ทุกการกระทำของเด็กสาวคนนั้น เธอหลบชายชุดดำหลายคนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่จะออกจากที่ซ่อนแล้วใช้ดาบที่ถืออยู่ในมือสังหารคนพวกนั้น อิจิโกะขมวดคิ้วแน่น มองดูด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

     

     

    อิจิโกะต้องการออกไปช่วยเธอตั้งแต่แรก เขาพยายามอยู่หลายครั้งเพื่อจะไปช่วยเธอให้ได้ แต่...เขากลับถูกขัดขวาง และต้องสู้กับชายชุดดำพวกนี้เช่นกัน เขาเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าถูกคนพวกนี้จ้องจะเอาชีวิตอยู่

     

     

    ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้ความมืดหันกลับไปมองเด็กสาวคนนั้นอีกครั้ง เธอกำลังล้มตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดแรงโดยใช้ดาบเป็นตัวค้ำ ร่างเล็กทั้งร่างสั่นเทาท่ามกลางความมืดที่เขาสามารถมองเห็นได้เพียงแค่เงา

     

     

    แต่ไม่นาน อิจิโกะก็สังเกตเห็นชายชุดดำอีกคนหนึ่งพุ่งเข้าหาเธอจากด้านหลังพร้อมกับคมดาบที่กำลังจะฟาดฟันลงบนร่างนั้นเพื่อหมายจะเอาชีวิต เด็กหนุ่มคิดอะไรไม่ออกเลยสักนิด คิดได้แค่เพียงเขาจะต้องช่วยเธอ... ช่วยเธอให้ได้!

     




     

     

     




    เคร้ง!!!

     

     

    เสียงคมดาบปะทะกันดังสนั่น ไม่ใช่เสียงของดาบที่ลูเคียกำแน่นอยู่ในมือนี้แน่นอน เธอยังคงนั่งคุกเข่าอยู่เช่นเดิม และแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เคียหันหน้าไปมองอย่างสงสัยว่าใครกันที่ช่วยชีวิตเธอไว้ 

     

     

    ภาพที่เห็นคือร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังใช้ดาบของตัวเองต่อสู้กับชายคนนั้นอยู่

     

     

    ด้วยความมืดและความเหนื่อยล้าทำให้ดวงตาที่พร่ามัวมองเห็นใบหน้าของเขาคนนั้นไม่ชัด มันช่างเลือนลางเหลือเกิน เงา รูปร่าง และ ทรงผมแบบนั้น

     

     

    ...พี่ไคเอ็นงั้นเหรอ...

     

    ความคิดแรกที่เธอนึกถึง ถึงแม้อาจจะดูโง่ไปหน่อยที่คิดแบบนั้น แต่เธอกลับหวังให้เป็นเขา

     

     

     

    "รีบหนีไปสิ ยัยเบื้อก!"

     

     

    ลูเคียสะดุ้งตามเสียงนั้นแล้วได้สติทันใด น้ำเสียงและวิธีการเรียกแบบนี้ ไม่ใช่พี่ไคเอ็นแน่นอน แล้วเขาเป็นใครกัน?

     

     

     

     

     

    "ฉันบอกให้รีบหนีไปไง นั่งทำบ้าอะไรอยู่ห้ะ!"

     

    เขาตะคอกใส่เธอเสียงดัง พลางใช้ดาบเล่มใหญ่สะบัดตัวออกจากการต้านกันของดาบอีกเล่ม แล้วใช้ด้ามดาบกระแทกเข้าที่หลังคอของอีกฝ่ายอย่างแรง ส่งผลให้ร่างของชายคนนั้นสลบล้มลงกับไปพื้นทันที

     

     

    ลูเคียมองไปยังเขานิ่งอยู่สักพัก พยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาที่ไม่ปรากฏสีให้เห็นท่ามกลางความมืดมิด แต่ยิ่งเพ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นหน้าไม่ชัดเท่าที่ควร เขา...เป็นใครกัน? คนที่เธอไม่เคยเจอ และไม่เคยรู้จักมาก่อน

     

     

    แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา จู่ๆเด็กหนุ่มปริศนาก็รีบคว้าข้อมือของเธอให้ลุกขึ้น แล้วออกแรงดึงให้รีบวิ่งตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

     



     

     



    หลังจากที่ช่วยเด็กสาวให้รอดพ้นจากอันตรายมาได้ อิจิโกะก็รีบพาเธอวิ่งมาอีกทาง จนเขาแน่ใจว่าหนีพ้นแล้วจึงหยุดวิ่ง

     


    ทั้งเขาและเธอทรุดตัวนั่งลงบนผืนหญ้าด้วยอาการเหนื่อยหอบ ใช้แผ่น

    หลังพิงต้นไม้คนล่ะฝั่งอย่างหมดแรง ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัดและมืดมิด มีเพียงเสียงหอบหายใจที่แสดงให้เห็นถึงความเหน็ดเหนื่อยของแต่ละฝ่าย และไม่มีคำพูดใดๆออกมาให้คนอีกฝ่ายได้รับรู้อยู่ชั่วครู่ จนอิจิโกะตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาเสียเอง

     

     

    "เธอเป็นใคร แล้วมาที่นี่ทำไมห้ะ!? รู้หรือเปล่าว่ามันอันตรายแค่ไหน" อิจิโกะถามเชิงตำหนิ

     

     

    "ล...แล้วนายเป็นใครล่ะ?" ลูเคียไม่ตอบ แต่ถามอีกฝ่ายกลับ

     

     

    "นี่ฉันถามเธอก่อนนะ เธอก็ต้องตอบฉันก่อนสิ..."

     

    "แต่ก็ช่างเถอะ แค่รอดมาได้ก็ดีแล้ว"

     

    ลูเคียได้ยินที่เขาพูด แล้วเงียบไปสักพัก เพราะนิสัยของคนคนนี้เหมือนกับพี่ไคเอ็นไม่มีผิด

     

     

    "ขอบใจนะที่ช่วย นาย...ไม่เป็นไรใช่มั้ย"

     

    อิจิโกะนิ่งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วงขนาดนี้ ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งๆที่เขาสามารถทิ้งให้เธอต่อสู้คนเดียวอย่างนั้นแล้วไปตามหาไคเอ็นต่อก็ได้ แต่เขาไม่ทำ เขากลับเข้าไปช่วยเธอ คงเป็นเพราะเขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่ไม่สามารถทนนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของคนอื่นได้ล่ะมั้ง แต่อิจิโกะกลับรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าจิตใต้สำนึกที่เรียกร้องบอกว่าต้องช่วยเธอให้ได้

     

     

    "แค่นี้สบายๆน่า ว่าแต่เธอเถอะ เห็นมีแผลเต็มตัวเลยนี่ ไม่เจ็บบ้างรึไง"

     

     

    "หึ... ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ"

     

    ลูเคียยกยิ้มเหยียดให้กับความอ่อนแอของตัวเอง พลางส่งเสียงตอบคนที่นั่งพิงต้นไม้อยู่อีกฝั่งด้วยน้ำเสียงสั่นๆ จนอิจิโกะสัมผัสได้

     

    ...ร้องไห้อยู่รึไง...

     

     

    "แค่นี้...แค่นี้น่ะ มันคงจะน้อยไป ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำให้ฉัน"

     

    ลูเคียพยายามกลั้นน้ำตาอย่างถึงที่สุดในขณะที่กำลังพูด แต่ดูเหมือนว่าหัวใจของเธอคงจะบอบช้ำเกินที่จะทำตามคำสั่ง ความเจ็บปวดภายในจิตใจเริ่มทะลักไหลรินกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาอีกครั้ง

     

     

    ลูเคียไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอมเสียน้ำตาให้คนแปลกหน้าอย่างผู้ชายคนนี้ได้รับรู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง

     

     

    อีกฝ่ายเงียบและตั้งใจฟัง ทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร แม้อยากจะถามว่า'เขา'ที่เธอพูดถึงคือใคร แต่นี่คงไม่ใช่เวลาจะมาถาม และไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งคุยกันแบบนี้ อิจิโกะรู้ดี... แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาลืม ลืมว่าเขามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อรู้ว่าเธอร้องไห้ เขาได้แต่นึกสงสัยในใจว่าเธอคือคนคนเดียวกันกับเด็กสาวที่ใช้คมดาบต่อสู้กับคนเหล่านั้นจริงๆหรือเปล่า

     

     

    "ถ้าเธอจะร้องก็ร้องออกมาให้หมดเถอะนะ รู้ไว้ด้วยว่าฉันปลอบใครไม่เป็น ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดีนี่ ฉันไม่เคยรู้จักเธอ ฉันเองก็อยากช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นนะ แต่ฉันไม่รู้... ฉันเลยไม่รู้ว่าจะปลอบเธอยังไงดี"

     

    น่าแปลกที่คำพูดตรงๆของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ลูเคียไม่รู้จักทำให้เธอยิ้มออก

     

     

    "ขอบใจนะ แต่...ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ"

     

    ลูเคียพูดพลางใช้มือเช็ดน้ำตาที่เริ่มหยุดไหล ไม่เข้าใจอีกแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำตาถึงหยุดไหลง่ายๆแบบนี้นะ

     

     

    "ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ฉันเองก็ไม่มีเวลามาฟังเธอคร่ำครวญนานนักหรอกนะ"

     

    อิจิโกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ ฟังดูก็รู้ว่าประโยคหลังที่พูดมานั้นตั้งใจที่จะกวนประสาทกันชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับทำให้ลูเคียยิ้มได้อีกครั้ง

     

           

    "ฉันก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน เพราะฉันต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ไคเอ็น ยินดีนะที่ได้เจอนาย หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก"

     

     

    ลูเคียพึมพัมไม่หวังให้คนที่นั่งอยู่อีกฝั่งได้ยิน เธอเตรียมลุกขึ้น เพื่อจะเดินหนีออกจากภูเขาแห่งนี้ต่อ แต่อิจิโกะกลับได้ยินคำๆหนึ่งที่สะดุดหูเขาอย่างมาก คำว่า 'พี่ไคเอ็น' ทำให้เขาต้องรั้งตัวเธอเอาไว้

     

    "เดี๋ยว! เธอรู้จักไคเอ็นด้วยงั้นเหรอ?"

     

    อิจิโกะลุกขึ้นคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้ ลูเคียหันมามองเขาด้วยความตกใจ เขาจ้องตาเธอแต่กลับมองไม่เห็นแววตาที่แท้จริง เพราะมันมืดมาก เช่นเดียวกับเธอ

           

    "ใช่ ท...ทำไมเหรอ หรือว่านายก็รู้จักเข..."

     

    ลูเคียกระพริบตาปริบๆอย่างไม่ค่อยเข้าใจคนตรงหน้าสักเท่าไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!

     

     

     

    เสียงร้องของใครบางคนทำให้ทั้งลูเคียและอิจิโกะใจเสีย หัวใจหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ทำไมพวกเขาจะจำไม่ได้ว่านี่เป็นเสียงร้องของใคร

     

     

    "พี่ไคเอ็น!"

     

     

    "ไคเอ็น!"

           

    ทั้งลูเคียและอิจิโกะอุทานชื่อเจ้าของเสียงร้องที่เพิ่งได้ยินออกมาพร้อมกัน ก่อนที่อิจิโกะจะออกแรงดึงมือร่างบางให้วิ่งตามเขาไปยังต้นทางของเสียงนั้น

     

     

    "มาทางนี้"









     

     

    สิ่งที่ทั้งสองคนได้เห็น แทบจะทำให้คนทั้งคู่หยุดหายใจ ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

     

    ภาพของงินที่ใช้เข็มฉีดยาขนาดใหญ่ปักลงบนลำคอของไคเอ็นจนทำให้ร่างของไคเอ็นทรุดลงกับพื้น ใบหน้าของชายผมสีเงินภายใต้ฮูทเสื้อคลุมสีดำกำลังแสยะยิ้มร้าย ราวกับอสรพิษกำลังแยกเขี้ยวเมื่อมันเจอเหยื่อ

     

    งินตวัดสายตามองมาทางพวกเขาอย่างเชื่องช้า เหมือนรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาที่นี่

     

     

    ลูเคียตัวสั่นไปทั้งร่าง รู้สึกเจ็บแปลบอยู่กลางอก ที่ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ เด็กสาวนิ่งไปนานกับภาพที่ได้เห็นก่อนออกแรงพุ่งตัวเพื่อวิ่งเข้าไปหาร่างของไคเอ็นอย่างไว แต่กลับถูกอิจิโกะรั้งแขนเอาไว้ทันที จนเธอต้องหันมามองค้อนเขา

     

     

    "ปล่อยฉันสิ! นายรู้จักเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ช่วยเขาล่ะ ทำไม!?"

     

    ลูเคียตะคอกเสียงดังลั่นด้วยความโมโห แต่ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว รู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆที่กำลังจะไหลรินออกจากดวงตาในไม่ช้า ไม่... มันต้องไม่เป็นแบบนี้ เธอต้องช่วยไคเอ็นให้ได้

     

     

    อิจิโกะไม่ตอบ เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน ที่เขารั้งเธอไว้ เพราะเขารู้ดีว่ายาที่งินฉีดเข้าสู่กระแสเลือดของไคเอ็นคือยาอะไร มันอันตรายเกินไป เด็กหนุ่มกำดาบที่ถือไว้อีกข้างแน่นด้วยอารมณ์โกรธ อยากจะฆ่าชายหนุ่มภายใต้เสื้อคลุมสีดำให้ตายคามือเสียตรงนี้

     

     

    “เธอคิดว่าเธออยู่ตรงนี้แล้วจะช่วยอะไรเขาได้อย่างนั้นเหรอ มันสายไปแล้วล่ะ”

     

     

    เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเตือนสติเธอ จนทำให้ลูเคียชะงักและคิดตาม ใช่แล้ว เธอช่วยอะไรไคเอ็นไม่ได้จริงๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง

     

     

    “เธอบอกว่าเธอต้องหนีไปจากที่นี่ตามสัญญาของเขาไม่ใช่หรือไง ไปสิ! หนีไปซะ!

     

    อิจิโกะตะคอกกลับบ้าง เพื่อให้ทำเธอกลัวแล้วหนีไปตามคำสั่งของเขา

     

     

    “...”

     

     

    “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไคเอ็นสำคัญกับเธอยังไง แต่เธอ...ลืมไปแล้วเหรอว่าต้องหนีออกจากที่นี่เพราะอะไร!?”

     

     

    คำพูดนี้ทำให้ประโยคๆหนึ่งแล่นเข้ามาในโสตประสาทของลูเคียอย่างไว

     

    //"หนีไปซะ ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แล้วก็...อย่าหันกลับมาเด็ดขาด เข้าใจมั้ย!?"//

           

    ไม่รอช้า ร่างเล็กกำหมัดแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ ดวงตาคู่สวยมองไปยังร่างสูงของเจ้าของประโยคนี้ที่กำลังนอนสลบอยู่บนพื้นหญ้าแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหลังให้อิจิโกะทันที แล้วก้าวเท้าออกวิ่งหายลับไปกับความมืดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

     

     

     

    เมื่อเห็นดังนั้นอิจิโกะก็มั่นใจขึ้นมาได้เล็กน้อยว่าเธอจะปลอดภัยและหนีออกจากที่แห่งนี้ได้โดยเร็วที่สุด

     

    ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววโรจน์ด้วยความโกรธแค้นภายใต้ความมืดมิดอีกครั้ง เขาจ้องมองคนที่ทำร้ายไคเอ็นอย่างกินเลือดกินเนื้อ พร้อมที่จะสังหารคนตรงหน้าเสียเต็มที่

     

     

    “หึ...”

     

    เสียงหัวเราะของงินมันทำให้อิจิโกะแทบจะระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่ มันช่างยั่วโมโหเขาเหลือเกิน เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

     

     

    เด็กหนุ่มกำดาบในมือแน่น พุ่งตัวเข้าหาศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต งินไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงแต่อย่างใด เพียงแต่เบี่ยงหลบคมดาบที่ฟาดฟันลงมาอย่างใจเย็น พลางถือดาบกันเอาไว้หลวมๆ

     

    ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ความเลือดร้อนของอิจิโกะเดือดพล่าน เขารู้ว่าคนๆนี้ฝีมือไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เขาไม่มีทางเลือก นอกจากจะโจมตีใส่ไม่ยั้ง เพราะเขาจะต้อง...แก้แค้นแทนไคเอ็นให้ได้!

     

     

    ด้วยทักษะและความสามารถที่อิจิโกะมีมันทำให้เขาสามารถไล่ต้อนงินได้ไม่ยาก ความตั้งใจของเขามันมากพอที่จะทำให้งินเสียหลัก แล้วล้มลงกับพื้นทันใด หรืองินอาจจะตั้งใจล้มลงเอง? เด็กหนุ่มไม่สน เขาฉวยโอกาสนี้เตรียมฟาดฟันดาบลงไปที่ร่างของงินอย่างเต็มแรง แต่แล้ว...

     

     

     

    เคร้ง!!!

     

     

            คมดาบของอิจิโกะถูกหยุดไว้ด้วยดาบอีกเล่มหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ดาบของงินอย่างแน่นอน เพราะงินปล่อยให้ดาบของตัวเองหลุดมือไปแล้ว อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาก็จะฆ่าคนตรงหน้าได้แล้ว ใครกันที่ขัดขวางเขา!?

     

     

            “โอ๊ะโอว... ได้เวลาแล้วสินะ ชิบะ ไคเอ็น

     

            งินแสยะยิ้มอย่างสนุกสนานเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา

     

            อิจิโกะรู้สึกว่าร่างของเขาชาไปทั้งตัว เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนขัดขวางเขา ไคเอ็น! คนที่น่าจะนอนสลบไม่ได้สติอยู่บนพื้นหญ้านั่น กลับลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องศัตรูของตัวเอง เป็นไปได้อย่างไร?

     

     

            “ไคเอ็น! ทำบ้าอะไรของนายห้ะ!?

     

            อิจิโกะตะโกนใส่อย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่นานร่างของเขาก็ถูกผลักอย่างเต็มแรงจนกระเด็นออกห่างจากร่างของงิน ไคเอ็นตั้งท่าจะสู้กับอิจิโกะอีกครั้ง

     

     

            “เป็นบ้าไปแล้วรึไง!? ตั้งสติหน่อยสิ ไคเอ็น”

     

            อีกครั้งที่อิจิโกะตะโกนเสียงดัง แต่ไม่มีทีท่าว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้จะหยุดโจมตีเขา ทุกครั้งที่คมดาบของไคเอ็นฟาดฟันลงมา เขารู้สึกได้ถึงความหนักแน่น รุนแรง และกำลังที่มากเกินมนุษย์ มันทำให้อิจิโกะเกือบพลาดท่า เขาเคยสู้กับไคเอ็น เขารู้ดี

     

            ในขณะที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น ดวงตาของอิจิโกะก็เหลือบเห็นงินลอบยิ้มร้ายอย่างสะใจ นั่นทำให้เขาเข้าใจทันที นี่ไม่ใช่ไคเอ็นที่เข้ารู้จัก มันเพราะยาบ้าๆนั่นแน่นอน!

     

     

            แม้จะมืดเพียงใด แต่แววตาที่แข็งกร้าวที่จ้องมองมายังอิจิโกะราวกับแค้นเคียงเขามาแสนนาน ไม่หลงเหลือนัยน์ตาสีครามคู่เดิมของไคเอ็นที่เขาเคยรู้จัก อีกทั้งการแสยะยิ้มร้ายที่ไคเอ็นไม่เคยทำ แต่วันนี้เขากลับได้เห็น

     

     

     

            “อึก...”

     

            ในที่สุดเขาก็พลาดท่าให้กับไคเอ็นในระยะเวลาอันสั้น เพราะมัวแต่กลัว กลัวว่าถ้าเขาลงมือจริงๆ คนที่ฆ่าไคเอ็นจะไม่ใช่ชายที่สวมชุดดำคนนั้น แต่เป็นเขาคนนี้ต่างหาก

     

            ปลายโลหะสีเงินอันคมกริบจ่อเข้าที่ลำคอของอิจิโกะจนเขารู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบนั้น

     

     

    แปะๆๆๆๆๆๆๆ

     

    เสียงปรบมือดังขึ้นจากงินที่ได้เห็นคนของสองตระกูลใหญ่อีกทั้งยังมีสายเลือดเดียวกันเข่นฆ่ากันเอง เรียกความสนใจให้อิจิโกะหันไปมองอย่างโกรธแค้นโดยที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยในเวลานี้

     

     

    “หึๆ... พอได้แล้วล่ะ ที่เหลือฉันจัดการเอง”

     

     

    “...”

     

    อิจิโกะนิ่งเงียบเพราะคมดาบจ่อเข้าที่ลำคอเขาอยู่ ขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้จะให้ไคเอ็นหยุดทำไม ทั้งที่จะสังฆ่าเขาเลยทันทีก็ได้

     

    งินค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ไคเอ็นก่อนจะกระซิบเบาๆ ซึ่งอิจิโกะก็ได้ยินเช่นกัน ซึ่งคำพูดนั้นทำให้อิจิโกะเบิกตากว้างขึ้นมาทันใด

     

     

    “ชิบะ ไคเอ็น คนที่นายจะต้องจัดการน่ะ ไปทางนั้นแล้วล่ะ” เขาพูดพลางชี้ไปยังทางที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเพิ่งวิ่งหนีไป

     

     

    ...ไม่นะ!...

     

     

    “รีบตามไปสิ นายต้อง...ฆ่าเธอซะ

     

     

    หลังจากได้ยินคำสั่ง ร่างของไคเอ็นก็ลดดาบลงจากลำคอของอิจิโกะ แล้วออกวิ่งไปทางที่งินชี้ไปอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนอิจิโกะกังวลว่าจะไคเอ็นจะตามเด็กผู้หญิงคนนั้นทัน

     

    อิจิโกะได้แต่มองตามอย่างร้อนใจ เตรียมลุกขึ้นอีกครั้ง ก่อนออกวิ่งตามไปทางนั้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาเคยทำได้ แต่มีทางเหรอที่คนอย่างเขาจะวิ่งตามไคเอ็นที่กำลังบ้าอยู่อย่างนั้นทัน แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องตามให้ทัน ไม่งั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นแย่แน่

     

     

    งินมองตามเงียบๆ โดยที่ไม่คิดจะตามไป พลันปรากฏร่างของใครคนหนึ่งหลังต้นไม้ใหญ่ก้าวมายืนอยู่ข้างกายของงิน  จูฮาบัช ยกยิ้มอย่างนึกสนุก ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายอย่างเลือดเย็น ไม่ว่าใครในสามคนนั้นที่จะต้องจากโลกนี้ไปในคืนนี้ มันก็คุ้มทั้งนั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลูเคียวิ่งหาทางออกจากภูเขาแห่งนี้จนขาอ่อนแรง หกล้มถลอกไปหลายครั้ง แต่ก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ริมฝีปากบางซีดราวกับคนป่วย รอยแผลตามแขนขามีมากขึ้น และชัดเจนมากขึ้นกว่าที่เคย

     

     

    จากที่วิ่งมากลับต้องเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เมื่อร่างกายเริ่มถึงขีดจำกัดมันทำให้เธอไม่สามารถวิ่งได้อีกต่อไป มีเพียงแค่ดาบเล่มเดียวที่ทำหน้าที่เป็นไม้เท้าคอยค้ำจุนร่างของเธอให้ทรงตัวอยู่ได้

     

     

    กึก...

     

    ลูเคียหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง มันกำลังพุ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็ว มือเล็กกำดาบแน่นเตรียมยกขึ้นมาต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่แล้วเสียงนั้นก็หยุดลง กลายเป็นเสียงของที่คนกำลังเดินเข้ามาหาเธอช้าๆอย่างใจเย็น เพียงแค่เห็นเงาเธอก็แทบจะร้องไห้ออกมา ร่างสูงของไคเอ็นไม่ผิดแน่

     

     

    “พี่ไคเอ็น...”

     

    ลูเคียพูดเสียงเบาทว่ากลับเต็มไปด้วยความดีใจ เมื่อเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

     

     

    “พี่ไคเอ็นจริงๆใช่มั้ย?

     

    แม้จะรู้ดี แต่ที่ถามออกไปอย่างนั้นเพราะเธอกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา มันอาจจะเป็นภาพที่เธอสร้างขึ้นมาเอง มือเรียวยื่นออกไป หวังจะสัมผัสคนตรงหน้าเพื่อความแน่ใจ แต่เขากลับปัดมือของเธอทิ้งอย่างไม่ใยดี

     

     

     

    ตึง!!!

     

            ร่างของลูเคียถูกเหวี่ยงกระแทกกับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง ดวงตาแดงก่ำและแข็งกร้าวของไคเอ็นจ้องมาที่เธอราวกับปิศาจร้าย ลูเคียจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นอย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่นานคนตรงหน้าก็พุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็วจนเธอแทบจะตั้งตัวไม่ทัน

     

     

            คมดาบปะทะกันอีกครั้งอย่างแรง ลูเคียทำอะไรไม่ถูก แต่รู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่พีไคเอ็นที่เธอเคยรู้จักอย่างแน่นอน

     

     

            “พี่ไคเอ็น!” ลูเคียตะโกนเสียงดังหวังให้เขาได้สติ

     

     

            “ทำไม เธออยากช่วยฉันไม่ใช่หรือไง ถ้าอย่างนั้นก็ตายไปซะสิ! เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเธอ!

     

    ไคเอ็นหรี่ตามอง พูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวไม่ต่างจากแววตา จนลูเคียตัวสั่นน้อยๆ คำพูดเสียดแทงจิตใจที่ออกมาจากปากของเขาทำร้ายความรู้สึกเธอได้ไม่น้อย ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้สติเลยก็ตาม

     

     

            ไม่... เธอไม่อยากสู้กับพี่ไคเอ็น ทำไมนะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้

     

     

            เมื่อคิดได้ดังนั้นลูเคียตัดสินใจหันหลังแล้ววิ่งหนี แต่มันก็ช้าไปจนเขาตามเธอทัน หนีไม่ได้แล้วสินะ...

     

            ลูเคียหันกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง เธอได้แต่ถือดาบตรงไปข้างหน้าอย่างนึกกระบวนท่าไม่ออก แววตาคู่นั้นที่จ้องมองมาที่เธอราวกับโกรธแค้นเธอมาแต่ชาติปางไหน ทั้งสีหน้า ดวงตา และรอยยิ้มที่ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการที่ได้ไล่ฆ่าเธอ เธอลืมทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่าจะต้องก้าวขาวิ่งหนีออกไปอย่างไร ดวงตานั้นสะกดให้เธอหยุดนิ่งราวกับก้อนหิน

     

     

            ถึงแม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ไคเอ็น แต่จู่ๆน้ำตาก็ไหลรินออกมาไม่ยอมหยุด พี่ไคเอ็นต้องทรมานขนาดไหนกันนะ เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยสักอย่างจริงๆเหรอ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉัวะ!!!

     

     

            เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วทั้งใบหน้าของลูเคีย เลือดของไคเอ็น...

     

            คมดาบของเธอแทงทะลุอกของชายหนุ่มอย่างแรง ร่างของไคเอ็นแน่นิ่งไปทันที มือหนาปล่อยให้ดาบของตนร่วงหล่นลงสู่พื้น รวมทั้งน้ำหนักตัวที่ทิ้งกดทับลงมายังร่างเล็กอย่างหมดเรี่ยวแรง

     

            เขาได้สติแล้ว และเขารู้ว่าเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน

     

            ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เขาได้รับตอนนี้ มันจะเทียบเท่ากับบาดแผลที่เกิดขึ้นในหัวใจของลูเคียได้ไหมนะ?

     

     

            สายฝนโปรยปรายลงมาในวินาทีต่อมา จากที่ตกเบาๆกลับกลายเป็นหนักและรุนแรง ราวกับตกลงมาเพื่อเยาะเย้ยความผิดพลาดครั้งใหญ่ของลูเคีย หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้น เมื่อรู้ว่าเธอเป็นคนฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง

     

     

    สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พอๆกับหยดน้ำตาใสๆของเด็กสาวที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก เส้นผมสีดำสนิทที่ยาวประบ่าของเธอเปียกลู่เรียบลงไปกับแก้มเนียน ชุดที่เธอใส่ก็ชุ่มน้ำจนแนบเนื้อ แต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะในขณะนี้มือเธอได้กุมด้ามดาบที่กำลังเสียบแทงทะลุอกร่างของชายหนุ่มที่เธอรักและเคารพ

     

     

    ลูเคียได้แต่ร้องไห้อย่างหนัก ทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี อีกทั้งในใจนั้นยังส่งเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานอย่างแสนสาหัสไม่ยอมหยุด

     

     

    "พี่ขอบใจเธอมากนะ ลูเคีย เพราะเธอ...หัวใจของพี่ถึงได้อยู่ตรงนี้"

     

    ร่างนั้นใช้มือที่เหลือเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดโอบกอดลูเคียไว้ ทั้งยังเอ่ยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แม้ว่าอยู่ท่ามกลางสายฝนอันหนาวเหน็บก็ตาม

     

     

    ขอบคุณ...ขอบคุณอย่างนั้นเหรอ เธอเป็นคนที่ฆ่าเขากับมือแท้ๆ แต่ยังอุตส่าห์มาขอบคุณเธออีกอย่างนั้นเหรอ แบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดไปกันใหญ่ แถมยังทรมานเจ็บปวดใจไม่ใช่น้อย 

     

     

    ลูเคียหลับตาแน่น ใช้ร่างเล็กๆของตัวเองแบกรับร่างของเขา แล้วใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กุมดาบ โอบกอดเขาโดยที่มือยังสั่นเทา ทั้งๆที่ตัวเขาก็หนักพอสมควร แต่เธอกลับต้องการที่จะโอบกอดเขาเอาไว้ตลอดไป

     

     

    "พี่ไคเอ็น..."

     

     

    เธอสัมผัสได้ว่าตัวเขานั้นเย็นเฉียบ หัวใจของพี่ไคเอ็นเต้นช้าลงอย่างผิดจังหวะ และเลือดสีแดงฉานที่กำลังหลั่งไหลออกจากบาดแผลบนตัวเขา บาดแผลที่เธอเป็นคนสร้าง มันบ่งบอกว่าเขากำลังจะจากเธอไปในไม่ช้า

     

     

    ไคเอ็นก็รู้ตัวดีเหมือนกัน ว่าเขาก็คงทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกไม่นาน เขาจึงใช้ช่วงเวลานี้ กระซิบถ้อยคำคำหนึ่ง ที่ทำให้เด็กสาวแทบอยากจะตายตามเขาไปในทันที

     

     

     

     

     

    "พี่...รักเธอนะ ลูเคีย"

     

    เพียงแค่คำๆนี้เท่านั้น ที่ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากอันซีดเซียวเปล่งออกมาเป็นประโยคสุดท้าย หัวใจของเขาก็หยุดเต้นทันที มือหนาที่โอบร่างเธอเอาไว้ก็ร่วงลงสู่พื้นดินตามแรงโน้มถ่วงของโลก อย่างไร้แรงต้านทานใดๆมาเหนี่ยวรั้งลมหายใจของเขาเอาไว้ได้

     

     

    ลูเคียได้ยินดังนั้น หัวใจของเธอก็แทบสลาย เธอจะไม่เสียใจมากสักเท่าไรเลย ถ้าคนตรงหน้าที่เธอฆ่า ไม่ใช่คนที่เธอ...รักเช่นกัน มันสายไปแล้ว

     

     

     

     

     

    "พี่ไคเอ็นนนนนนนนนนน..."

     

     

    ลูเคียตะโกนกรีดร้องอย่างสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด แต่ต่อให้เธอเรียกชื่อเขาอีกสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ตอนนี้หัวใจของเธอเจ็บปวดเจียนตาย น้ำตาที่หลั่งออกมาอย่างไม่ขาดสาย ไม่อาจจะแทนความเจ็บปวดสักเสี้ยวหนึ่งของหัวใจเธอได้เลย

     

     

     

     

            ความเจ็บปวดของคนทั้งสองนั้นได้ถูกถ่ายทอดความรู้สึกออกมาจนคนที่ได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆอย่างอิจิโกะรู้สึกได้ เขายืนนิ่ง ดวงตาไร้ความรู้สึก เขาเองเจ็บปวดไม่แพ้ใคร

     

            นี่เขาช่วยใครไม่ได้อีกแล้วเหรอ?

     

            ท่ามกลางสายฝนแบบนี้ อีกแล้ว...

     

            เขามาช้าเกินไป

     

            ขอโทษนะ ไคเอ็น

     

            ฉันขอโทษ เธอด้วย...

     

     

            อิจิโกะรู้ดีว่าตอนนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดคงจะไม่ใช่เขา แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนนั้น เธอฆ่าคนที่เธอรักกับมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกที่อิจิโกะเข้าใจดี

     

     

            ขาของอิจิโกะอ่อนแรงลงทันใด เข่าของเขาทรุดลงแตะลงบนผืนหญ้าที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน เด็กหนุ่มกำมือแน่นท่ามกลางสายฝน

     

     

            ปึก...

     

            เสียงของแข็งที่ฟาดลงมาบนท้ายทอยของอิจิโกะ ทำให้ร่างของเขาล้มลงไปนอนกับพื้น และสลบไปทันที โดยเบื้องหน้าของเขาคือภาพของคนที่เขาทั้งรักและเคารพได้จากทุกคนไปแล้วตลอดกาล ภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็น

     

     

     

     

     

     

    หลายนาทีกว่าลูเคียจะได้สติ เธอค่อยๆละมือจากด้ามดาบเล่มนั้น แล้วใช้มือทั้งสองข้าง โอบกอดร่างที่ไร้วิญญาณของไคเอ็นเอาไว้แน่น แล้วใช้ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาและสายฝน ซบกับไหล่กว้าง ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก ในเวลานี้ และสถานที่แบบนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตเขาได้หรอก เธอรู้ดี

     

     

     

     

     

    เพราะกำลังร้องไห้อยู่ หรือเพราะสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ลูเคียไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาที่เธอ ชายหนุ่มร่างสูงถือดาบอันคมกริบอยู่ในมือ เขาก้าวเข้ามาอย่างใจเย็น แล้วหยุดที่ด้านหลังของเด็กสาว ในระยะห่างพอสมควร และเขาก็เงื้อมมือที่ถือดาบขึ้นมา เตรียมจะฟาดฟันคมดาบลงไปยังแผ่นหลังของลูเคีย

     

     

    ในขณะนั้นลูเคียเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนจับจ้องมองเธออยู่ เธอจึงละใบหน้าจากร่างของไคเอ็น แล้วหันหลังเพื่อกลับไปมอง แต่ไม่ทันแล้ว ในเมื่อชายคนนั้นกำลังตวัดด้ามดาบลงมาที่เธออย่างแรง

     

     

    ลูเคียเบิกตากว้างตกใจ และใช้มือข้างหนึ่งยกขึ้นมากั้นตามสัญชาตญาณ เพราะในตอนนี้เธอไม่มีสติพอที่จะต่อสู้กับคนตรงหน้า แต่ถ้าจะตายจริงๆ ก็ไม่เป็นไร เธอพร้อมที่จะตายตั้งแต่ชายที่ชื่อไคเอ็นจากเธอไปแล้วด้วยซ้ำ

     

     

    ในเวลานั้น นัยน์ตาของเธอยังคงเบิกกว้าง ใบหน้าที่เธอเห็นนั้นไร้ซึ่งความปราณี ใบหน้านั้นที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ใบหน้านั้นที่เธอไม่มีวันลืม...

     

     

    ไอเซ็น!!!

     

     

     

     

     

    และแล้วคมดาบก็ฟาดฟันลงมาในที่สุด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     






    Loading...100



    To Be Con.




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×