คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 10 : Past Time II - Our Promise
CHAPTER 10
Past Time II – Our Promise
"คืนนี้ พี่จะต้องไปจัดการเรื่องของไอเซ็น"
น้ำเสียงทุ้มของไคเอ็นบอกกับเด็กสาวข้างกายที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนม้านั่งหินอ่อน หลังจากการฝึกซ้อมดาบเมื่อครู่ ลูเคียหันมามองหน้าชายหนุ่ม ก่อนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
"จัดการ? คืนนี้..."
"เรื่องนี้มันต้องจบภายในคืนนี้ เพื่อนๆของเธอจะต้องปลอดภัย เอาเป็นว่าขอให้เธอเชื่อใจพี่ก็พอ ตกลงมั้ย"
สายตาของไคเอ็นฉายแววความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า พร้อมกับคำพูดที่เปล่งออกมาราวกับคำมั่นสัญญา และยิ้มกว้างให้เธอ
"ฉันน่ะเชื่อใจพี่ไคเอ็นอยู่แล้วล่ะ"
ลูเคียพูดพร้อมกับสบตาเขา และยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เพื่อให้กำลังใจ
หลายวัน หลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างลูเคียและไคเอ็นพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า'พี่' ซึ่งมันทำให้ลูเคียรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เพราะนอกจากโซเดะโนะ ชิรายูกิ กับเร็นจิแล้ว เหมือนเธอได้มีครอบครัว ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปช้าๆ ความรู้สึกเธอเปลี่ยน ความรู้สึกเขาเปลี่ยน จนเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ทั้งคู่ก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน...
"แต่ว่ามันจะอันตรายรึเปล่า ถ้าเกิด..."
เด็กสาวขัดขึ้น แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องชะงัก เมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายกมือขึ้นมายีหัวเธอเบาๆ
"พี่น่ะ ชิบะ ไคเอ็น เชียวนะ อย่าดูถูกฝีมือกันสิ ยัยเด็กมีปัญหา"
เขายิ้มกว้างอีกครั้ง พร้อมชูนิ้วโป้งขึ้นประกอบคำพูด
ไคเอ็นไม่ต้องการให้ลูเคียรู้สึกกังวล เขาอยากให้เธอสบายใจ ถึงแม้จะรู้ว่าภารกิจที่ได้รับมันจะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต และอาจจะไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาพบหน้าเธออีกครั้งก็ได้ และที่เขาพูดออกไปนั้นเพื่อความสบายใจของลูเคียล้วนๆ
ลูเคียยิ้มบางรับ แม้ว่าเขาจะบอกเธอแบบนั้น แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจเขา แต่เธอไม่ไว้ใจไอเซ็นต่างหาก จากการที่เขาเล่าให้เธอฟัง ไอเซ็น โซสึเกะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ เหลี่ยมจัด แถมหาตัวจับยากสุดๆ แบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเข้าไปใหญ่
หลังจากนั่งคุยได้สักพัก ลูเคียก็รู้ว่าไคเอ็นจะไปจัดการเรื่องของไอเซ็นที่ภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองลูคอนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเซเรเทย์มากนัก
จากนั้นเธอก็เดินไปส่งเขาที่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเวลานี้ก็เย็นมากแล้ว แถมเมฆยังตั้งเค้ามาเรื่อยๆ จนท้องฟ้าครึ้มไปหมดเหมือนฝนจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ
"ไปนะ พี่สัญญา...พรุ่งนี้พี่จะกลับมาหาเธอให้ได้"
"อื้อ...โชคดีคะพี่ไคเอ็น"
ทั้งสองบอกลากัน พลางยิ้มให้กัน และโบกมือร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย...
ลูเคียยืนเหม่อมองรถยุโรปสีดำคันหรูที่ไคเอ็นเพิ่งขับออกไปจนลับสายตา วันนี้ฟ้าครึ้มแปลกๆ ชวนให้รู้สึกถึงลางสังหรณ์ร้ายอย่างบอกไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้
"เฮ้อ..."
ลูเคียถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด
"เป็นห่วงเหรอ?"
จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของลูเคีย จนเธอเผลอพูดตอบรับไปโดยยังไม่ทันได้หันไปมองว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร
"ใช่ ฉันเป็นห่ว...อ๊ะ"
ลูเคียนึกได้ ก่อนหันควับกลับไปมองต้นเสียงนั้น
"เร็นจิ นายเองเหรอ"
"ก็ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าเป็นใครล่ะ"
เร็นจิพูดเสียงเขียว พลางขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น
"ไปกันเถอะ ดูท่าฝนคงจะเทลงมาแน่"
"อืม..."
ลูเคียพยักหน้ารับคำ แต่สายตายังจับจ้องเหม่อมองไปยังทางเดิม ก่อนหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาเพื่อนชายคนสนิท แล้วเดินเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โดยมีเร็นจิเดินตามไปห่างๆ
เร็นจิลอบแอบมองลูเคียอยู่ตลอดเวลา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวของเขารู้สึกยังไงกับผู้ชายที่ชื่อไคเอ็น ถึงแม้เขาจะรู้สึกเจ็บปวด และเสียใจแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางความสัมพันธ์นั้น เพียงเพราะได้เห็นลูเคียมีความสุข แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว และที่ลูเคียบอกเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง หมายความว่าเธอยังเชื่อใจ และไว้ใจเขา ทำให้เขารู้สึกดีใจไม่น้อยที่ลูเคียไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังกับเขา
เร็นจิเองก็ได้ฝึกดาบไปพร้อมๆกับลูเคีย แต่ส่วนใหญ่มักจะฝึกฝนด้วยตัวเอง โดยที่อาศัยความจำจากการสังเกตเอา ถึงจะบอกว่าไม่ได้เข้าไปขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้น แต่เขาก็รู้สึกหมั่นไส้ และไม่ชอบขี้หน้าไคเอ็นอยู่ดี
เขาได้ยินมาว่าไคเอ็นจะไปปฏิบัติภารกิจเรื่องของไอเซ็นคืนนี้ ซึ่งดูท่าทางลูเคียเป็นห่วงผู้ชายคนนั้นไม่น้อย และถ้าหากผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรไป ลูเคียต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน เขาก็ทำได้เพียงแต่ภาวนาให้ไคเอ็นปลอดภัยจากการทำภารกิจเท่านั้น เขากลัว... กลัวลูเคียจะเสียใจ และต้องเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนั้น
ณ คฤหาสน์ตระกูลชิบะ
รถยุโรปหรูคันหนึ่งวิ่งชะลอเข้ามาจอดในคฤหาสน์ สักพักร่างสูงของเจ้าของคฤหาสน์ก็เดินลงมาจากที่นั่งคนขับ เขาเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์ โดยมีคนรับใช้หลายคนคอยต้อนรับลูกชายคนโตของตระกูลชิบะอย่างเขา
"ไง...ไคเอ็น"
เสียงทุ้มจากปากเด็กหนุ่มผมส้มดังขึ้นทักทายทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น
"อ้าว ว่าไง อิจิโกะ"
ไคเอ็นหันมองต้นเสียง ก่อนยิ้มทักทายเด็กหนุ่มผู้ที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา คุโรซากิ อิจิโกะ
"นายไปที่บ้านเด็กกำพร้านั่นอีกแล้วเหรอ รู้มั้ยว่าฉันมารอนายตั้งแต่บ่าย"
เด็กหนุ่มที่ชื่ออิจิโกะพูดคุยกับเขาด้วยความเป็นกันเอง ราวกับเป็นเพื่อนกัน ทั้งๆที่เขาอายุมากกว่าอิจิโกะ
แต่ไคเอ็นก็ไม่ถือสาว่าความแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเด็กคนนี้เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเช่นกัน
คุณอาอิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นน้องของพ่อไคเอ็น ทำให้เขาสนิทกับครอบครัวคุโรซากิมากเป็นพิเศษ แต่พ่อของเขายอมละทิ้งธุรกิจทุกอย่างเพื่อไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่ต่างประเทศหลังจากที่อิชชินแยกตัวออกไปแต่งงานกับ คุโรซากิ มาซาคิ แล้วก่อตั้งตระกูลขึ้นมาโดยใช้นามสกุลของภรรยา และประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆอย่างเกินความคาดหมาย จนได้เป็นตระกูลชนชั้นสูง จากที่ตระกูลใหญ่ของเซเรเทย์มี 4 ตระกูล คุจิกิ ชิบะ ชิโออิน ไอเซ็น ก็เพิ่มตระกูลคุโรซากิเข้ากลายเป็น 5 ตระกูลใหญ่แห่งเซเรเทย์ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน
เพราะเหตุนี้ทำให้ไคเอ็นต้องรับช่วงดูแลรับผิดชอบธุรกิจของตระกูลชิบะต่อจากพ่อของเขา และที่เขาไม่ต้องการไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศ เพราะเขาต้องการที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ นั่นก็คือการเป็นสายลับของหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์
"อืม ฉันไปฝึกดาบให้เด็กที่นั่นน่ะ"
ไคเอ็นยักไหล่ ก่อนตอบอิจิโกะด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ซึ่งอิจิโกะก็มองตามเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"จริงเร้อออ... ไม่ใช่แอบไปหาสาวที่ไหนรึไง"
"ถ้าบอกว่าใช่ แล้วจะทำไม"
ไคเอ็นตอบอิจิโกะ พลางยักคิ้ว และส่งสายตาเจ้าเล่ห์กลับไปหาอิจิโกะ ในขณะที่ภายในใจก็นึกถึงใบหน้าหวานของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสั้นสีดำเข้มระต้นคอ และดวงตาสีไพลินเป็นประกายงดงามคู่นั้น ก่อนจะยิ้มบางๆกับตัวเอง
อิจิโกะมองท่าทางนั้นแล้วก็อดเบะปากให้กับความหน้าหมั่นไส้ของผู้ที่เปรียบเสมือนพี่ชายของตนไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าช่วงนี้ไคเอ็นมักจะไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่หนึ่งทุกครั้งที่มีเวลาว่าง จนเขาแทบจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้วก็ว่าได้ เพราะปกติเขากับไคเอ็นมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่ตอนนี้เขากลับต้องไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแทน อิชิดะ อาชิโดะ อุลคิโอร่า และกริมมจอว์ ซึ่งเพื่อนของเขาแต่ล่ะคนนั้น...
"นายสอนดาบให้ฉันบ้างสิ ไคเอ็น"
อิจิโกะโพล่งบอกกับไคเอ็นด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงแกมขอร้อง โดยไม่ได้หวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาจะตอบรับ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังอยากให้พี่ชายคนนี้ฝึกให้เขาอยู่ดี เพราะเขารู้ว่าฝีดาบของไคเอ็นนั้นร้ายกาจมากแค่ไหน
"ฉันไม่สอนนายหรอกนะอิจิโกะ ถ้านายอยากเก่งล่ะก็ เอาชนะฉันให้ได้สิ"
อิจิโกะได้ยินคำตอบก็ถึงกับตีหน้ายุ่งคิ้วขมวดแน่นขึ้นทันใด พลางทำสายตาประชัดประชัน
"เหอะ ทีกับน้องไม่เห็นจะสอนให้บ้างเลยนะ"
"นายเก่งอยู่แล้ว จะให้สอนอีกทำไม"
"ได้...ไคเอ็น คอยดูนะ ซักวันฉันจะต้องชนะนายให้ได้"
"เอาสิ แล้วฉันจะรอวันนั้นนะ"
ไคเอ็นยิ้มกว้างอีกครั้งอย่างพอใจ ถึงเขาจะมองอิจิโกะเป็นเพื่อน แต่ยังไงอิจิโกะก็ยังเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่ดี
"คืนนี้น่ะ ฉันจะไปทำภารกิจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันจริง..."
จู่ๆแววตาขี้เล่นของไคเอ็นก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง แถมยังพูดราวกับว่าเป็นคำสั่งลา จนทำให้อิจิโกะอดใจหายขึ้นมาไม่ได้
"เฮ้ อย่ามาพูดเป็นลางอย่างนี้สิ คนอย่างนายต้องรอดมาได้อยู่แล้วล่ะน่า"
"ชีวิตมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปหรอกนะ แล้วก็ฉันอยากให้นาย..."
'ปกป้องเด็กคนนั้นแทนฉันที'
ก่อนที่ไคเอ็นจะพูดจบประโยค อิจิโกะก็ลุกขึ้นจากโซฟาโดยไม่บอกไม่กล่าวเหมือนจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ทำให้เขาต้องเงียบไป
"ฉันไม่รับฝากอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้านายอยากทำอะไร ก็ทำเองสิ ฉันกลับล่ะ"
ไคเอ็นเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับท่าทางของอิจิโกะ
"จะกลับแล้วเหรอ?"
"ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวป๋ากับน้องฉันเป็นห่วง ขี้เกียจฟังคนบ่นด้วย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันมารอนายตั้งแต่บ่าย จนตอนนี้ฟ้ามืดแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ หวังว่าฉันจะเห็นหน้านายวันพรุ่งนี้นะ แล้วนายก็ต้องรอดกลับมาให้ฉันชนะนายให้ได้ล่ะ"
อิจิโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนเล่นๆ แต่ฟังดูหนักแน่น ก่อนเขาจะหันหลังแล้วเดินออกไป
เขาไม่รู้หรอกว่าไคเอ็นไปทำภารกิจเกี่ยวกับอะไร แต่รู้ว่ามันต้องอันตรายและเสี่ยงภัยแน่ๆ เพราะนอกจากไคเอ็นจะต้องคอยดูแลธุรกิจของตระกูลชิบะแล้ว เขายังเป็นคนของหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์ ซึ่งอิจิโกะเองก็เคยถามไปหลายครั้งแล้ว แต่ไคเอ็นไม่ยอมบอกว่าภารกิจนี้คืออะไร พอเขาไปถามพ่อของเขาเอง ตาแก่นั่นก็ไม่ยอมบอก จนเขาจนปัญญาจริงๆ จึงไม่ได้ถามอีกเพื่อความสบายใจของพวกผู้ใหญ่
ไคเอ็นมองตามผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเดินออกไปแล้วก็ต้องอมยิ้มเล็กๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคำพูดที่ดูเหมือนข้ออ้างนั่น เป็นคำพูดที่เด็กคนนั้นพยายามให้กำลังใจเขาอยู่
ที่ไคเอ็นไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับอิจิโกะ เพราะเห็นว่าตระกูลคุโรซากิ และไอเซ็นสนิทกันมาก อีกทั้งอิจิโกะยังเป็นเพื่อนสนิทกับลูกบุญธรรมของไอเซ็น จนกว่าเรื่องนี้จะจบลงจริงๆ เขาจะให้อิจิโกะรู้ไม่ได้เด็ดขาด
ท้องฟ้ายามนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทั้งยังมีเมฆหมอกเคลื่อนตัวมาบดบังแสงสว่างจากดวงจันทร์ ทำให้รอบๆเมืองแทบจะไร้แสงสว่าง ถ้าหากไม่มีแสงไฟจากไฟฟ้า สายลมหนาวเย็นยะเยือกพัดไปตามทิศทางแต่ดูอ้อยอิ่ง และเลื่อนลอยกว่าทุกๆคืน
ไคเอ็นเหม่อมองท้องฟ้าและบรรยากาศรอบกายอยู่ริมระเบียงชั้นหนึ่งของคฤหาสน์ ก่อนก้มหน้ามองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของตน ก็พบว่าใกล้เวลานัดหมายกับคนๆนั้นแล้ว เขาจึงเตรียมตัวที่จะออกจากคฤหาสน์อย่างใจเย็น และไม่รีบร้อน
ชายหนุ่มเดินตรงไปยังรถคันเดิม แล้วขึ้นรถขับออกไปด้วยแววตามุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด
นั่นสินะ... เขาจะต้องผ่านคืนนี้ไปให้ได้ เพราะเขาได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับคนๆหนึ่งแล้วนี่
ความคิดเห็น