ปาฏิหาริย์รัก ดินแดนต่างมิติ Miracle love Territorial dimension - นิยาย ปาฏิหาริย์รัก ดินแดนต่างมิติ Miracle love Territorial dimension : Dek-D.com - Writer
×

    ปาฏิหาริย์รัก ดินแดนต่างมิติ Miracle love Territorial dimension

    ผู้เข้าชมรวม

    56

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    56

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 มิ.ย. 60 / 03:54 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ปาฏิหาริย์รัก  ดินแดนต่างมิติ

     

    Miracle love Territorial dimension

    การเดินทางวันที่ 1



            “ท่านริวจิ  เรารอการมาขอท่านอยู่  ได้โปรดมาช่วยเราด้วย ท่านริวจิ”  เสียงที่เรียกผมอยู่นั้น  มันดูเศร้าและเจ็บปวด แต่ทำไมต้องเป็นเราด้วยนะ  และ  ผมที่นอนอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนได้นอนหมุนไปหมุนมาจน

            “โอ๊ย... เจ็บ”   เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดโดยที่เกิดจากการตกจะที่สูง ก็ตื่นขึ้นมาโดยทันที  พร้อมกับเสียงประกาศได้ดังขึ้น “ขอประกาศในนักเรียนที่จบการศึกษาได้มารวามตัวกันที่หอประชุมด้วยค่ะ”  ผมที่ตื่นขึ้นมาก็นึกได้ว่า  วันนี้ผมเรียนจบแล้วนินะ  นั้นสินะ  ชีวิตของ นักเรียน ม.ปลายก็ได้จบลงแล้ว

           “ริวจิ  นายไปไหนมา  พวกเราตามหายแกตั้งนาน” ผมที่เดินมาจากดาดฟ้าก็ได้เจอกับ เพื่อนๆที่กำลังจะเดินไปที่หอประชุมก็ได้ถามผมด้วยที่หายผมไม่เจอ “ไปนอนเล่นมานะ  นี้ก็พึ่งจะตื่นนะนิ” ผมได้ตอบคำถามพร้อมกับเกาหัวไปด้วย

           “หรอ ให้หาตั้งนาน แต่แกกลับไปนอนนินะ  เจ๋งวะ”  ผมที่ตอบคำถามนั้นไป  เพื่อนผมก็ตอบกลับด้วยการประชดหน่อยและพวกผมก็เดินไปที่หอประชุมต่อ

     หลังจากที่ผมได้เจอเพื่อนและพากันเดินไปที่หอประชุม ให้หอประชุมที่คนพากันนั่งเป็นแถวตามที่ ได้จะที่นั่งไว้

            “ยินดีกับนักเรียนที่จบทุกคนด้วยนะ  ที่ได้เรียนจบจากที่แห่งนี้ไป  ครูก็ขอให้นักเรียนทุกคนเจอแต่สิ่งดีๆนะ”

    หลังจากที่ผู้อำนวยการพูดจบก็ได้เริ่มการมอบเกียรติบัตรและเอกสารจบหลังจากนั้นก็มีการกล่าวอำลาจากรุ่นน้อง

    หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกับกัน  ผมที่ได้เดินแยกออกมาจากกลุ่ม  ผมเดินมาจากโรงเรียนก็คิดเรื่องของคำพูด เมื่อตอนเช้า เสียงที่เรียกผมนั้นเป็นใคร  และ มาจากไหน  ผมที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ก็ได้เดินมาจนถึงนะ  ตึกแห่งนึ่ง

    นั้นคือ ที่อยู่ของผมเอง  พ่อแม่ผมไปทำงานต่างประเทศเลยไม่ได้กลับมา  ผมเลยอยู่คนเดียวนะ  แต่พ่อแม่มักจะส่งของอะไรต่างๆมาเป็นของฝากนะ  จนห้องผมจะเป็นที่เก็บของโบราณวัตถุแล้ว

           “มาดีสิวันนี้มีอะไรน่าทานบ้าง” ผมที่กำลังเดินไปที่ห้องครัวนั้นก็มีกล่องขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น  มันดูขนาดความยาวเท่าผมและหน้าหลังก็แบนๆ  คงจะเป็นของฝากจากพ่อแม่อีกตามเคย  แต่มันมาอยู่กลางบ้านได้ไงนิ  ปกติมันจะอยู่หน้าประตูทางเข้านิ  เอาเป็นว่าเดียวคอยถามคนดูแลอีกทีละกัน

             “ส่งอะไรมาอีกนะ  แกะดูก่อนละกัน  คงเป็นของเก่าอีกชิ้นละมั่ง”   ผมได้ลงมือแกะดูของข้างใน  ตอนนั้นเองของข้างในนั้นมันเป็นกระจกบานใหญ่ตัวกรอบกระจกเป็นลายเถาวัลย์ ดูสวยมาก  มันน่าจะเป็นของเก่าแก่แน่เลย  “เอ๋  มีอะไรเขียนอยู่ด้วย” ผมที่กำลังดูลายของกระจกอยู่นั้นก็ได้เห็นมีข้อความเขียนไว้ด้านล่างของกรอบ

              “  กระจดเอ๋ย  จงแสดงสิ่งที่อยู่หลังกระจกนี้   แด่ผู้ที่เลือกด้วยเทิด” ผมที่พูดตามนั้น  จู่ๆแสงก็ออกจากกระจก  และ  ตอนนั้นเองกระจกก็ได้ไปติดอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่น  แล้วได้สะท้อนภาพของทุ่งหญ้าแห่งนึ่ง ที่กว้างสุดสายตา ผมจึงได้จะยืนมือไปจับที่กระจก  จังวะนั้นเอง กระจกได้ดูดผมเข้าไป  รอบตัวผมก็เป็นสีขาวโพลน   สติของผมก็เริ่มช้าๆลง 

     

              “$.....@....”เสียงใครกัน ใครเรียกผมอยู่ และนั้นภาษาอะไร  และ ตอนที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น  จู่ๆเสียงของคนที่เรียกผมนั้นก็เริ่มเป็นภาษาที่ผมเข้าใจแล้ว

             “นี้เจ้าตื้นเดียวนี้นะ  ข้าบอก....ให้....ตื่น”จู่ๆเสียงที่กำลังเรียนผมนั้นก็กลายเป็นมีอะไรบ้างอย่างมาโดนที่หน้าผม  มันคือน้ำ  เสียงเด็กสาวจบไปก็มีน้ำมาโดนที่หน้า “เฮ้อ  เกิดอะไรขึ้น” ผมที่โดนน้ำราดที่หน้าก็ได้ตื่นขึ้นโดนทันที  และด้วยตกใจก็เอยถามเพื่ออยากรู้เหตุผล

            ”เกิดอะไรขึ้น  และ  เธอเป็นใคร” ผมหันไปถามคนที่อยู่ข้างๆผม

           “ฉันสิ คงถาม จู่ๆเจ้าก็ตกลงมาที่บ้างข้า” เด็กสาวก็ได้อธิบายให้ฟังแบบโมโหนิดๆ

           “ผมหรอตกลงมา  และที่นี้ที่ไหน  และ เธอเป็นใคร” ผมหันมองรอบๆและหันไปถามเธออีกรอบ

            “เจ้าตกมาจากฟ้า   นี้บ้านข้า  ข้าชื่อ ริน  เป็นมนุษย์  อาศัยอยู่ที่  เขาแห่งนี้ “ รินได้อธิบายแบบละเอียด

            “งั้นหรอ  ผมจำอะไรไม่ได้เลย  ผมจำได้แต่ว่า  ผมกำลังดูกระจกอยู่และพอจับมัน  หลังจากนั้นก็ได้มาเจอเธอนิละ”

    หลังจากที่ผมอธิบายสิ่งที่ผมจำได้  รินก็มาหน้าผมก่อนที่จะ เดินไปที่ห้องด้านหลัง และ  สักพัก ก็เดินมาพร้อมกับ น้ำและขนมปังนึ่งก้อน “กินซะ  และ เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” หลังจากที่รินพูดเสร็จก็ได้  กลับไปนั่งที่เก้าอี้

    “นี้ให้ผมกินหรอ”  ผมหันไปถาม

    “เออสิ  มีเจ้าคนเดียวนิ  ไม่ใช้เจ้า  และ  ข้าจะให้ใคร”  รินนั้นมาดุผม  และ หันกับไปอ่านอะไรบ้างอย่าง

    หลังจากที่ผมทานขนมปังเสร็จ ผมจึงเล่าเหตุการณ์ ให้รินฟัง ไม่ว่าจะเรื่อง ผมเป็นใคร  มาจากไหน  และเกิดอะไรขึ้น

    รินฟังผมไปด้วยสลับกับเขียนไปด้วย  ดูเหมือนเธอคนนี้จะเป็น นักเขียนไม่ก็นักวิจัยอะไรประมาณนี้นะ  ผมก็เล่าไปได้สักพัก  ริมก็เดินมาที่ผมและพูดว่า

    “นี้  เจ้ามาจากต่างโลกหรอ    ข้าไม่เคยคิดเลยนะ  ว่าจะมีใครมาจากต่างโลกจริงๆ   เจ้าชื่อ  ริวจิสินะ “

    “ใช้  ผมชื่อ  ริวจิ  อายุ 18 ปี “ผมได้แนะนำตัวอีกครั้ง

    “ข้าชื่อ  ริน  เป็นนักวิจัยของเมืองหลวงนะ  อายุ  ข้าก็ดูจากเจ้าแล้ว  ข้าคงจะเป็นพี่เจ้านะ” 

    “ผมจะได้กลับโลกเดินได้ไหมนิ “ผมที่กำลังคิดหนักเรื่องจู่ๆตัวเองมาต่างโลกได้ไง  คิดและก็คิดไม่ออกเลย

    “งั้นเจ้ามากลับข้าสิ   ข้าจะพาไปหาที่จะให้คำตอบเจ้าได้” รินได้บอกผมให้ไปกลับเธอ  เธอจะพาไปหาคนที่สามารถหาทางกับโลกของผมได้ “แต่วันนี้เจ้าต้องนอนที่นี้นะ  และพรุ่งนี้ออกเดินทางกัน  แต่เจ้าช่วยเล่าเรื่องของโลกเจ้าให้ข้าฟักด้วยนะ”

    ผมก็ได้เล่าทุกเรื่องที่ผมเรียนมาจากโรงเรียน ไม่ว่าจะในตำราหรือนอกตำราก็ตาม  เล่าไปก็อดจะคิดไม่ได้ว่าทำไมมันถึงไม่รู้สิกลัวเลย  กลัวที่ได้มาต่างโลกแบบนี้  ผมเล่าจนตัวเองได้หลับไป  มันเป็นการนอนที่นานที่สุดของวันนี้เลย

    “ริวจิ  ตื่นได้แล้ว” เสียงของริวที่เรียกผม   “อ่า  เช้าแล้วหรอ  “ผมที่ตื่นขึ้นมาก็ได้  เดินไปล้างหน้าที่บ่อน้ำ 

    “ริวนี้  ชุดเปลี่ยนของเจ้า”  รินบอกผม  พร้อมกัน  เอาชุดเสื้อผ้ามาให้  พร้อมกับ  เครื่องป้องกัน  ผมจึงหันไปถามว่า ”เอานี้ผมทำไม” ผมอดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องใส่ด้วยนะ “ก็เราจะเดินทางกันไปที่เมืองหลวงกันไง “ รินตอบผมพร้อมกับแต่งตัวเต็มชุด “แต่เราต้องใช้เวลา  2 อาทิตย์  กว่าจะถึง”  รินหันมาบอกผม

    “เหอะ  2 อาทิตย์เลยหรอ  แล้วเราจะเดินทางอย่างไง”  ผมตกใจ  เพราะมันนานมากเลยนะ  การเดินทางไปเมืองหลวงนะ  มันพอกับผมไปเที่ยวรอบโลกได้เลยนะ

    “เราจะนั่งม้าไปกันนะ  ข้าจอดมันไว้ข้างนอกแล้ว “ผมได้ยินแบบนนั้นก็ได้  วิ่งไปดู   รถม้าจริงด้วย    มันมีขนาดใหญ่พอสมควรนะ  แถมมีสัตว์ตัวแปลกๆด้วย  มันเหมือนนกกระจอกเทศ แต่มันตัวใหญ่มากเลยนะ

    “เจ้านั้นมันเรียกว่า   นกบิ๊กมาด   มันเป็นสัตว์ของโลกนี้นะ  ใช้ไว้ลากรถทุกชนิดเลยนะ”  หรอ สัตว์ของโลกนี้สินะ

    “มันชื่อเล่นว่า  มิมิ  น่ารักนะ  ข้าเจอมันบาดเจ็บในป่านะ  เลยเก็บมาเลี้ยง  และใช้งานได้ดีเลยนะ”  อะไรของ  เขานะ  น่ารักหรอ  ความน่ารักของที่นี้  น่ากลัวจัง  ผมที่ฟัง  ริน อธิบายเสร็จก็ได้ไป แต่งตัวตามที่ยัยนั้นเอามาให้  แต่ไปเอามาจากไหนนะ  มันดูเก่าๆจัง   หลังจากนั้นผมกับรินก็พากันเก็บของและนำไปขึ้นรถม้า(นกสิมิว่า) ก็มีพวกของกินและอุปกรณ์ต่างๆ  จากนั้นทุกอย่างก็เสร็จกันทั้งหมด  เราก็เริ่มออกเดินทาง

    “นี้ ริว  เจ้าต่อสู้เป็นไหม”  รินหันมาถาม

    “ก็พอได้นะ  เคยฝึกเคนโด กลับ คาราเต้ มานะ “ผมตอบกลับไป

    “เคนโดหรอ  มันคืออะไรหรอ” ลืมไป  ยัยนี้ไม่รู้จักนิ

    “มันเป็นวิชาป้องกันตัวนะ”  ผมก็ได้อธิบายให้รินฟัง “หรอ  ก็ดีนะ  เพราะโลกนี้มัน  มีทั้งคนไม่ดี  ไหนจะมอนสเตอร์อีก

     เจ้าควรจะฝึกไว้มากๆนะ  “  ผมถึงกลับอึ่งนิดๆเลยนะ  จริงด้วยเราควรฝึกให้เก่งๆดีกว่า

    หลังจากนั้นผมก็คุยกับรินไปตลอดทาง   รินก็ได้อธิบายเรื่องโลกแห่งนี้ให้ฟัง   โลกแห่งนี้  มีสิ่งมีชีวิตมากมายไม่ว่าจะ  มนุษย์     ครึ่งสัตว์   เอลฟ์  สัตว์เทพ  มอนสเตอร์   เทพ  แม้แต่ ปีศาจก็มีนะ แต่มนุษย์จะมีมากกว่า  โดย มีประเทศต่างๆมากกว่า  30 กว่าประเทศ  โดนมี เมืองชองมนุษย์และครึ่งสัตว์อาศัยร่วมกัน  แต่มักจะมี  มอนสเตอร์หรือพวกปีศาจมักจะมาจุ่โจมบ่อยๆนะ  และยังมีพวก  เอลฟ์อีก   มักจะอยู่ในป่าก็ไม่จะไปอยู่แถวภูเขา ก็ประมาณนี้นะ   ผมก็ฟังไปก็อดคิดไม่ได้ว่า  ผมอยู่ได้ไหมละ   แต่ผมก็อยากรู้นะ  ว่าโลกนี้จะมีอะไรรออยู่บ้างและมีอะไรที่ผมยังไม่รู้อีกมากมาย  จังหวะนั้นเอง  เราก็มาถึง  เมืองเล็ก  เมืองนึง  มันชื่อว่า.......อ่านไม่ออก

    “นี้ชื่อว่าอะไรหรอ”  ผมหันไม่ถามริน  “นี้เมือง  หน้าด่านนะ  เป็นเมืองที่จะไปสู่เมืองหลวงนะ  เป็นที่ๆ  มาแวะซื้อของนะ”

    หรอ    คงต้องเรียนรู้ไว้หน่อยก็ดีนะ

    “และเรามาทำไมหรอ”

    “ก็ซื้อของให้เจ้าไง  ข้านี้นะ  ใจบุญจริง”  ครับ แม่คนใจดี  หลังจากนั้นผมก็เดินตามรินไป  โดยเราเอารถไปจอดไว้ที่โรงรถม้า  และ  เดินไปที่ร้านค้าต่างๆ  ผมเองก็มีความตื่นเต้นนะ  ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

    “รินเราจะมาซื้ออะไรบ้าง”ผมหันถามริน  “เราก็จะซื้อเสื้อผ้าให้เจ้านะ  และก็มีพวกของใช้ต่างๆอีก   ”

    หรอนี้  ยัยนี้สนใจเรื่องของเราด้วยแฮะ  “และเจ้าก็ต้องมีอาวุธติดตัวด้วยนะ” รินได้เอยขึ้นมา

     จริงสิเรายังไม่มีเลยนิ  อาวุธนะ  ตอนนั้นเอง รินก็เดดินไปหยุดที่ร้าน ร้านแห่งนี้  มีอาวุธและชุดเกราะมากมายเลย  “ นี้เจ้ารองไปดูสิ  ว่าเราใช้อันไหนได้บ้าง”  ผมก็เดินเข้าไปในร้าน  ขณะที่ผมเดินไปดูอยู่นั้น  ก็ไปเห็นดาบเล่นนึ่ง  มันดูเป็นดาบเหมือนของโลกผมเลย  มันคือ  ดาบคาตานะ

    ผมจึงได้จับดาบนั้นขึ้นมา  แต่แล้วจู่ๆก็ในหัวของผมมันก็มีอะไรอะไรบ้างอย่างเข้าให้หัว  แต่แล้ว  ก็มี  ชายแก่เดินมา

    “นี้เจ้า  ได้รับเลือกจากดาบเล่มนี้แล้ว  ดาบเล่มนี้  มันคือ  ดาบที่ทำมาจากแห่เหล็กในตำนาน  มันดูบางแต่มันก็แข็งดุจเหล็กกล้า  มีคนเล่าว่า  ใครที่ดาบเล่มนี้เลือกแล้วมันจะมอดพลังให้แก่ผู้ที่ถือมัน”  จู้ตาลุงแก่ก็มาอธิบายยาวจนผมกับรินยืนขาแข็งเลย”และนี้ค่าดาบ รวมทั้งหมอ 2  เหรียญทอง  “  และสุดท้ายแกก็ขายดาบให้กับผม

    “นี้เจ้า  ข้าฟังมาตั้งนาน  มันดูจะเป็นของวิเศษเลยนะ  เอาเป็นว่า  เจ้าก็ลองฝึกดูนะ”จ้า แม่คุณ

    “งั้นเราไปซื้อของอื่นๆต่อดีกว่า”  หลังจากนั้น  ผมก็รินก็ได้ไปซื้อของกันต่อ  ตอนที่กำลังเดินอยู่นั้น  รินก็ได้บอกผมเรื่องเกี่ยวกับค่าเงินของที่นี้  มันก็คือ  ค่าเงินของที่นี้  มีอยู่ 3  แบบ   ได้แก่  เหรียญทองแดง  เหรียญเงิน  และ เหรียญทอง  และค่าใช่จ้าก็แบบตามความเหมาะสม  โดยจะมีการเปรียบค่าเงินได้ดังนี้  (100 ทองแดงจะได้เป็น1เงิน)  (100เงินจะได้1ทอง) การใช้จ่ายคนคนให้โลกนี้มันไม่มีอะไรมากมาย  เหมือนกับโลกของผมเลย  ผมกับรินก็เดินไปจนมาหยุดที่หน้าบ้านขนาดใหญ่ที่เขียนว่า  (ที่ทำการเมือง)  “นี้เรามาทำไรกันหรอ”

    “เราจะมาทำธุระที่นี้ก่อนนะ  เจ้าก็เข้ามาสิ”  ผมก็เดินเข้าไป  “ยินดีต้องรับค้า”  ตอนนั้นเองก็มีพนักงานสาวที่ยืนอยู่ข้างกล่าวท้าทาย “  ไม่ทราบจะมาทำอะไรค่ะ”  พนักงานถาม

    “ข้าจะมา  เลือกอาชีพให้เขานะ  “  จู่ๆยัยนั้นก็ชี้มาทางผม  ผมเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป  “งั้น  เชิญทางนี้ค่ะ”  พนักงานสาวก็ได้นำทางไปที่โต๊ะที่ผมพนักงานอีกคนนั่งอยู่  “  งั้นเชิญ  เลือกอาชีพที่ท่านสนใจเลยค่ะ”   ผมก็ได้เปิดสมุดเล่นหนาๆ

    ขณะที่ผมเปิดอยู่นั้น  ก็ได้อ่านไปที่ละหน้า   ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาหาอาชีพด้วยนะ  “นี้เจ้าคงไม่คิดว่า  จะเดินทางทั้งๆแบบนี้นะ  ขอเตือนอะไรอย่างนี้   เงินข้าไม่ได้ออกเป็นต้นมานะ  กว่าจะถึงเมืองหลวง  ข้ากับเจ้ามีหวังอดตายกันพอดี”

    จู่รินก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา  ผมก็เริ่มเข้าใจมานิดๆละ   การเดินทางมันก็ต้องใช้เงิน   ถ้าเงินหมด  เราก็คงอดตาย  อย่างน้องก็หางานทำไว้ก่อนก็ดีนะ  และเราจะทำอะไรดีนะ  เราเองก็พึ่งมาโลกนี้นิน่า  จะว่าไป ยัยนี้ทำอาชีพ  อะไรเอย  ถามดูดีกว่า

    “ริน  เธอทำอาชีพ อะไรหรอ”

    “ข้าหรอ  พ่อค้านะ  ข้าเป็นนักวิจัยก็จริงแต่มันก็มีอาชีพรองสิ  สรุปง่ายๆนะ  ข้า  มีอาชีพหลักคือ  นักวิจัย  และ  อาชีพรอง คือพ่อขาย   ข้านะ  ถึงไปอยู่ในป่าให้เขาไง  ก็หาเรื่องทำวิจัยไปด้วยและก็หาของหายากมาขายด้วยนะ  เช่น  พวกแร่  ไม่ก็  ชิ้นสิ่งของอะไรต่างๆนะ โดยเฉพาะ  พวกของมอนสเตอร์นะ  ข้าก็จะไปจ้าง  นักล่าไม่ก็นักผจญภัยมาช่วยอีกแรกนะ”ถึงว่า  ยัยนี้ถึงไปอยู่ในป่าในเขา และถึงมีเงินขนาดนั้น  เดียวก่อนนะ  นักผจญภัยหรอ  น่าสนใจดี  เอานี้ละกันนะ

    “ผมเลือกได้แล้วครับ “  ผมหันไปบอกพนักงาน

    “งั้นเชิญบอกได้เลยค่ะ”  พนักงานเอย  เพราะกับเก็บสมุดลง  “ผมของเป็น  นักผจญภัย  ครับ”

    “งั้นเชิญลงชื่อ  และ  พร้อมกับจ่ายค่าสมัคร 1 เหรียญทองค่ะ  “  ยังเก็บค่าสมัครด้วยโลกนี้น่ากลัวจริงๆ

    หลังจากนั้น  พนักงานก้ได้เอาสร้อยคอที่ผมรูปเป็นสี่เหลียมที่ผมชื่อผมและอาชีพหลักของผม  หลังจากนั้นผมกับรินก็เดินออกมาข้างนอกและเดินไปที่โรงแรม(โรงเตี่ยม)   โดนรินเปิดห้องเดียวเพราะจะประหยัดเงินนะ”นี้รินจะดีหรอ  ให้ผมนอนด้วยนะ”  ผมถามก่อน

    “ไม่เป็นหรอ  ประหยัดดี  อีกอย่างเจ้าเองก็เคยนอนบ้านข้าแล้วนิกลัวอะไร”  จ้าๆแม่คนกล้า  ผู้หญิงโลกนี้กล้าทุกคนไหมนิหลังจากนั้น  ยัยนั้นก็นอน  หลับไป  ส่วนผมก็ได้คิดเรื่องของวันนี้  มันดูตลกนะ  แต่ก็สนุกดีนะ  ได้ทำอะไรใหม่ด้วย  ไหนจะได้ไปซื้อของ  ได้ดาบ  จริงสิ

    ”ว่างแล้วนิ  ไป ฝึกดีกว่า”  ผมละคิดอะไรลงไปละนิ    หลังจากที่ผมตัดสินใจแล้ว  ผมจึงได้ฝึกไปพรางลองท่าทางไปพรางจนตกเย็นผมที่กำลังฝึกอยู่นั้นก็ได้ลองทำจริงๆดู

     ผมจึงได้ตั้งท่าจับดาบ  โดยให้ต้นไม้เป็นเป้าหมาย  จังหวะนั้นเองผมก็วาดดาบลงไปที่ต้นไม้  แต่แล้วดาบที่ผมวาดดาบไปนั้น  มันไปติดที่กลางลำต้น  ผมที่กำลังหาวิธีจะดึงดาบออกมา  จู่ๆ

     “ไง  เจ้าหนุ่ม  มาฝึกหรอ”  ตาแก่ที่ร้านอาวุธนินะ  “ครับผมมาลองดุนะ  แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้นะครับ”  

    “555  เจ้ายังใช่แรงไปไม่ถึงเต็มที่สินะ เจ้าคิดแต่ว่าจะวาดดาบลงที่เป้าหมายแต่เจ้ากับไม่ได้สนใจว่าจะทำไงถึงจะวาดดาบให้สามารถฟันต้นไม้ให้ขาดได้  แต่จะว่าไป  ท่าฟันของเจ้ามันดูแปลกๆนะ  ดูมีพลังแต่ขาดความมั่นใจนะ “  ลุงแก่ก็พูดขึ้นโดยที่ดูจากที่ผมฟันต้นไม้แบบตรงๆ

     “เดียว  ข้าจะบอกอะไรเป็นค่าดาบละกันนะ”  ค่าดาบหรอ  เอาเถอะ

    “เจ้าลองเปลี่ยนท่าฟันนะ  ก่อนที่จะฟันเจ้าลองก้าวเท้าออกไปนิด  และโน้มตัวไป  เพื่อให้ดาบมีแรงให้ดาบสามารถฟัดได้อย่างเต็มที่  ข้าไปละ” หลังจากนั้น  ลุงแกก็หายไป  ส่วนผมก็ลองทำตาม    ผมจึงลองอีกครั้ง  ผมได้ฟันดาบลงที่ต้นไม้ด้านข้าง แต่จังหวะที่จะฟันผมได้ก้าวขาไปพร้อมกับโน้มตัวไป ตอนนั้นเองก็ได้เกิดแรงของดาบที่ฟันลงไปจนทำให้ต้นไม้ขาดครึ่งเลยและเกิดเป็นลอยแยกที่พื้น  นั้นทำให้ผมรู้ว่าการฟันตามที่ลุงแกบอกเกิดเป็นท่าใหม่

    ผมที่กำลังตื้นตกใจกับการฟันอยู่นั้น  ก็ได้ยินเสียงของอะไรบ้างอย่าง  นั้นคือ  หมีตัวใหญ่ที่มีสองหัว  และ  สี่แขนถ้าจำไม่ผิด  มันชื่อว่า  หมีสองหัว  เลเวล 5  (ข้อมูลนี้ไปได้มีจาก  หนังสือคู่มือนักผจญภัยนะ มีบอกทั้งชื่อของมอนสเตอร์และ

    เลเวลของมัน )ผมที่กำลังตัวใจนั้น  จู่ๆหม๊ตัวนั้นก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว  พร้อมกับใช่กรงเล็บมาจู่โจมที่ผม  ผมได้ใช่ดาบกันไปและใช้ดาบปัดมันออก ไป  เพราะกับตั้งท่ากันไว้โดย แต่เจ้าหมีมันก็ได้ตั้งตัวทันที่และจู้โจมอีกครั้ง  และจังหวะนั้นผมกระโดหลบได้แล้วใช่ได้ฟันไปที่ลำตัว  มันจึงได้รับบาดเจ็บ และผมก็ไม่รอช้า  ผมได้ใช้ท่าแทงคอหอยไปที่กลางตัว  ในที่สุดมันก็ได้หลังจากนั้น  ร่างของผมก็สะลายไป  แต่มีสิ่งของตกไว้นั้นคือ  2  เหรียญแดง  กับ  อุ้มมือหมี

    ”เป็นตามที่นั่งสมุดเขียนไว้เลย”  ในหนังสือคู่มือนักผจญภัย เขียนไว้ว่า  มอนสเตอร์ที่ตายจะสะลายไปโดยจะเหลือแต่สิ่งของแทนค่าชีวิต(ก็ไอเทมนั้นละ)โดยที่จะสามารถเก็บได้เฉพาะคนที่ฆ่าได้เท่านั้น  ถ้ามีคนอื่มมาจับหรือเก็บไป  มันจะหายไปโดยตามถึงเล่ามาสิ่งของแทนชีวิตนั้นเป็นพรจะเทพแด่คนที่จัดการมอนสเตอร์ตัวนั้นได้   แต่ถ้าเจ้าของสิ่งของนั้นยกให้คนอื่นมันก็จะไม่หายไป  ผมละอยากบ้าตามกับโลกนี้จริงๆแต่มันดีนะ  และ  ทำไมมันเจ็บที่ต้นขานะ”เจ็บจังโดนอะไรที่ไหนนะ  หรือว่าจะเป็นตอนนั้นที่เจ้าหมีมันใช้กรงเล็บนะ”  นั้นสินะ  หมีตัวนั้นมันมีตั้งสี่แขนจะไม่โดนเลยก็จะเทพเกินแต่ครั้งแรกก็ถึงว่าดีนะ  ถ้าเจอตัวโหดๆมากคงตายจริงๆแล้ว    หลังจากนั้นผมก็เดินกลับไปที่โรงแรมโดนที่ยังไม่ได้ทำแผลเลย

    “เจ้าไปไหนมา  และแผลนี้เกิดอะไรขึ้น” รินที่ยืนอยู่ข้างน่าโรงแรมก็ได้ดุผมก่อนที่จะเข้ามาดูที่แผลผมและทำแผลให้ผมด้วย

    “พอดีไปฝึกดาบนะ  แต่จู่ๆก็มีหมีสองหัวออกมานะ  เลยสู้กับมันนะ  เกือบตายเลยนะ”  ผมเล่าให้รินฟัง

    “หรือ ดีแล้วนะ  ถึงว่าเป็นประสบการณ์เอาละ  เจ้านั้นพักได้แล้ว   พรุ่งนี้เราจะเดินทางกันต่อ”  พอ  รินพูดจบ  เฮก็เดินไปที่เตียนแล้วก็นอน  ส่วยผมที่เจ็บแผลอยู่ก็เลยนอนลำบาก  แต่สุดกท้ายผมก็หลับ คงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและบวกกับเจอกับหมีสองหัวเลยเอาเหนื่อยจบหลับเป็นตายเลย  และการเดินทางของผมกับรินก็ได้ ดำเนินต่อไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น