ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...The Key...

    ลำดับตอนที่ #3 : รุ่นพี่แปลกๆป้อมรัตติกาลและภูต

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 50


    อ่านต่อกันเรย
    **********************************************************************************************************************************

    /////3/////

                    หลังจากแย่งซีนเจ้าหญิงคนสวยแล้ว ทั้งห้าก็หายตัวไปที่ผ้าม่าน ไปโผล่ที่ป้อมปราการหลังใหญ่ทำโดยอิฐสีดำสนิทที่แทบจะกลืนหายไปกับความมืดที่กำลังโรยตัวครอบคลุมเมืองกาเรเทียแห่งนี้ ทั้งห้าเดินตัดสนามหญ้าสีเขียว ประตูด้านหน้าใหญ่พอที่จะเอาบ้านชั้นครึ่งใส่เข้าไปได้สบายๆ ด้านข้างมีประตูเล็กสำหรับคนและเปิดอ้าอยู่

                    ทางนั้นมั้ง เดสท์ผู้สายตาดีชี้ไปที่ประตูนั่น ก่อนจะเดินนำเข้าไป

                    ห้องโถงกว้างใหญ่ประดับประดาด้วยสายรุ้งและดอกไม้กระดาษ ตรงกลางมีเวทีขนาดใหญ่ ผู้ชายรุ่นๆกำลังยืนพูดด้วยเสียงอันดัง แต่พอทั้งห้าเข้ามาทั้งห้องก็เงียบกริบ ทุกสายตาหันมาจ้องทั้งห้า 1 2 3 4 5 6…….

                    เอ้า.......วิ้ว.......โห่รับน้องใหม่หน่อยเร็ว เอ้า....วิ้ว......................... พอเสียงหนึ่งพูดขึ้นทั้งห้องก็โห่แบบไม่มีหยุดยั้ง จนคนบนเวทีต้องปราม

                    อ้าว เฮ้ย เงียบเว้ยสงสารเด็กใหม่มั่ง น้องอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกแล้วเห็นมะ เครทเอียงหัวก่อนจะแย้งด้วยท่าทางกวนตีนที่แสนจะน่ารัก

                    ผมไม่อึ้งแถมพวกผมก็พูดได้ด้วย พี่รู้ได้ไงว่าพวกผมอึ้งจนพูดไม่ออก กีร่าส่งเสียงสนับสนุน

                    นั่นดิ พี่รู้ได้ไงอ่ะว่าอึ้ง อึ้งตรงไหนเจ้าพวกพี่ตัวดียิ้มค้างทันที ไอ้เด็กใหม่พวกนี้กวนบาทาดีนักท่าทางคงชอบ

                    ดูท่าทางพวกน้องเนี่ยคงชอบบาทาสินะ มีลยิ้มรับ

                    คนไหนไม่ชอบเท้ามั่งล่ะพี่ ไม่มีเท้าก็เดินไม่ได้อ่ะดิคำกวนตีนซื่อๆเล่นเอาไอ้พวกเด็กเก่าทึ่งกันเป็นแถบ แถมบางคนยังส่งซิกเตือนรุ่นน้องประมาณว่า ระวังหน่อยมันเก่ง

                    วันแรกไม่เป็นไร มานี่สิ แนะนำตัวกันหน่อย ปากก็พูดไปงั้นแต่ในใจข่มนับหนึ่งถึงสิบ อาเทอร์เดินนำไปที่เวทีด้วยความหวังที่ว่าตัวเองจะได้นอนเสียที  พี่ที่อยู่บนเวทีเป็นผู้ชายแน่นอน ผมสีทองคล้ายขนของสิงโตใบหน้าจัดว่าหล่อเหลามากๆ แต่ตาสีเทาเปล่งประกายนี่สิ ทำให้รู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่ย่อย

                    พี่เป็นหัวหน้าป้อมรัตติกาล ชื่อโรมา ฟาเรเรีย เรียกง่ายๆว่าโรม ถ้าอยากจะสมัครเป็นสิบสองผู้พิทักษ์ก็มาติดต่อได้ พี่จะแนะนำอีกคนให้รู้จัก ไอ้เชน ขึ้นมานี่หน่อย!!!!!!” โรมตะโกนเรียกผู้ชายอีกคนหนึ่งชื่อเชน เจ้าตัวเดินขึ้นมาบนเวที แต่งกายถูกระเบียบถือน้ำแดง ไม่กินไวน์ถูกระเบียบ

                    พี่ชื่อเชน โมลาโล่ เป็นผู้คุมกฎ นักเวทย์อันดับหนึ่งประจำป้อมรัตติกาล ถ้าอยากได้ตำแหน่งก็มาติดต่อได้ ส่วนฝ่ายผู้คุมข่าวก็ยังว่าง ติดต่อพี่ได้ในป้อมนี้ยังมีหน้าที่สำคัญอีกหลายตำแหน่งถ้าอยากรู้ก็หาอ่านเอาตามบอร์ด หลังจากที่รู้เรื่องราวเบื้องตนแล้วเครทก็ขวมดคิ้วถามแบบง่ายๆแต่มีผลให้รุ่นพี่หยุดหายใจ

                    พี่เชนที่นี่เล่นพนัน กินเหล้าได้ป่ะ เชนมองเด็กใหม่ที่พึ่งเข้ามาอย่างพิจารณา ไอ้นี่ดูท่าชอบแหกกฎคงต้องซ้อมให้อยู่หมัด

                    ทำอะไรก็ได้แต่อย่าให้เห็นเท่านั้น มีลที่รอรับมุขกวนโอ๊ยอยู่รีบต่อทันที

                แล้วอย่างนี้พวกพี่ๆที่อยู่ในห้องเกือบทั้งหมดก็ผิดกฎน่ะสิ แต่พี่เชนไม่เห็นทำอะไรสักอย่าง

                    เพล้ง  ทุกคนได้ยินเสียงเหล่านี้ชัดเจนและดูท่าทางจะดังมาจากเชนที่ยืนหน้าเหวออยู่เพราตั้งแต่อยู่มาจนถึงปีที่สามไม่เคยมีใครทำเชนหน้าแตกได้ขนาดนี้ แต่แล้วเดสท์ก็ตัดบทช่วยเหลือผู้คุมกฎไม่ให้หน้าแตกไปมากกว่านี้

                    พี่ครับพวกผมขอขึ้นไปเก็บของก่อน ห้องพักอยู่ไหนเหรอฮะ เดสท์พูดสุภาพต่างจากปกติเพราะทั้งสี่คนรู้ดีว่าปกติก็ปากสุนัขกันทั้งกลุ่ม ประเภทที่ว่าคิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ทุกคนรอคำตอบจนมีเสียงหวานของผู้หญิงดังขึ้น และมันดูคุ้นหูเครทอย่างน่าประหลาด ร่างบางระหงในชุดบิกินี่สีฟ้าผ้าแพรสีขาวบางจนเห็นส่วนโค้งเว้าทุกส่วนของร่างกาย ดวงตาสีฟ้าทอดมองลงมาเบื้องหน้าอย่างสูงศักดิ์ผมสีดำสนิททอดยาวถึงพื้น ที่ปลายเท้ามีน้ำแอ่งเล็กๆ นี่มัน!!!!!!!!!!!!!!!!!

                    เชนและทุกคนภายในห้องก้มหัวทำความเคารพไม่เว้นแต่เพื่อนๆทั้งสี่ตัวกก้มทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียงเหลือเครทยืนเอ๋ออยู่คนเดียว

                ข้าไม่นึกว่าท่านจะมา ขออภัยด้วย โรมพูดอย่างนอบน้อม ภูตน้ำตนนั้นเพียวงผงกหัวเล็กน้อยสายตากวาดไปทั่วมองหน้าเด็กใหม่ทุกคนจนสะดุดตากับเครท ก่อนจะก้าวขาเข้าไปหา สายน้ำพุ่งออกจากมือของนางเป็นรูปมือยื่นไปหาเครทที่ยื่นมือไปจับ

                    เราเคยเจอกันก่อน ฝีมือท่านร้ายกาจมาก ข้าไม่น่าประมาทนางพูด เครทยิ้มรับท่าทางขี้เล่นหายไปในทันใด

                    ขออภัยข้าช่างโง่เขลานัก ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไร ทุกคนในห้องอึ้งกับท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่ของเครทและมารยาทที่เหมือนภูตหรือเอลฟ์ไม่มีผิดเพี้ยน

                    ข้าชื่อนารา ธีราเนี่ยน องค์รักษ์อันดับหนึ่งของแคว้นธาราเนี่ยน เครทขมวดคิ้วแต่คราวนี้แตกต่างไปจากเดิม ราวกับว่าเขาเป็นภูติที่อายุมากและผ่านโลกมานานนับร้อยปี

                    อา...ข้าพอจะนึกออก ไม่ทราบว่ารานาพี่สาวท่านเกษียนแล้วหรือ ทุกคิ้วในห้องขมวดกันเป็นปม รานาอดีตองค์รักษ์เครท เด็กคนนี้เนี่ยนะรู้จักแถมเหมือนจะสนิทสนมด้วย

                    ใช่ นางพึ่งจะเกษียนไปเมื่อไม่นานมานี้ เครทหัวเราะ ก่อนจะกล่าวตอบ

                    ข้าลืมไปเมื่อปีกลายข้าพึ่งจะไปงานวันเกิดของนางมา นางอายุ 3000พันปี พอดี ใช่แล้ว ใช่แล้ว......

    นารายืดตัวตรงขึ้นกว่าเดิมก่อนจะกล่าวเป็นภาษาโบราณที่แม้แต่โรมกับเชนยังไม่เข้าใจ

                    ดรู วิล นีการ์อาเซล (ขอให้ทุกสิ่งคุ้มครองท่าน) เครทโค้งหัวเหมือนได้รับเกียตริก่อนจะพูดตอบ

                    ชาเกร ตียี อูดูจาร์กวา ซีลี ตีอาซัส (ขอให้สายน้ำทั้งหลายจงสถิตแก่ท่านเช่นกัน) ภูตน้ำโค้งหัวอีกครั้งก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันดังก้อง

                    เด็กใหม่ทุกคนขอจงมารวมตัวกันที่ด้านข้างของเวที เครทและพวกพ้องก้าวลงจากเวทีก่อนที่กีร่าจะกระซิบถามอะไรบางอย่าง

                    นี่เครท ไอ้ภาษาตะกี้มันแปลว่าอะไรเครทยิ้มละลายใจสาว(ยกเว้นกีร่า)

                    เดี๋ยวบอก นาราเดินนำไปที่ชั้นสามซึ่งเป็นที่พักทั้งหมด  อาเทอร์รับกุญแจห้องจากนาราก่อนจะพลิกดูด้านหลัง พยักหน้าเข้าใจ

                    กุญแจอยู่ในมือแล้วเดินหาหมายเลขห้องได้เลย อ้อ พรุ่งนี้ให้มารวมกันที่ชั้นสองหรือห้องอาหารเราจะพาไปซื้อของ และอย่าสาย อาเทอร์เดินนำไปที่ห้อง019545 ก่อนจะเสียบกุญแจแล้วเอ่ยคำบางอย่าง

    งานเลี้ยงจงมีแด่ท่าน ประตูห้องจึงเปิดออกที่เหลือรีบจดจำรหัสนั้นทันที

                    เตียงห้าเตียงเรียงติดกัน ที่ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าทั้งห้าและกระเป๋าสัมภาระของแต่ละคนวางอยู่ข้างๆเป็นโต๊ะหนังสือ มีห้องน้ำสองห้อง ระเบียงเป็นกระจกมีผ้าม่านสีขาวผืนใหญ่มองไปเห็นสนามหญ้าและป่ากว้างๆ

    อาเทอร์ถอดเสื้อนอกออกสวมเสื้อตัวใหม่ล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้วหลับไปในทันที เครทเริ่มหิวขึ้นมาเอามือลูบท้องตัวเอง หันไปพูดว่า

                    ฉันลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะ พวกนายอยากได้อะไรหรือเปล่า กีร่าหยุดคิด

                    เอาขนมปังทาแยมมาสักตั้งแล้วกัน

                ฉันขอเสต็กกับข้าวมีลตอบหันมายิ้มแบบอ้อนวอน

                    ฉันเอาเนื้ออบกับผลไม้ละกัน เดสท์พูดบ้าง แล้วเสียงสุดท้ายก็งึมงำลอดผ้าห่มมา

                    สลัดกับมันฝรั่งบด เครทพยักหน้าหงึกๆพลางคิดอย่างหนักใจว่าจะถือมายังไงหมดแค่ของตัวเองก็หมดมือ

                    เครทเดินไปที่ห้องโถงด้านล่างปรากฏว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำกับผลไม้ เครทเลยต้องเดินมาหาของกินที่ชั้นสอง มีโต๊ะอาหารยาวอยู่สี่โต๊ะเรียงเต็มห้อง ด้านหน้ามีเคาเตอร์ยาวๆมีช่องว่างๆให้พอยื่นหน้าไปสั่งอาหารได้ ที่นี่มีนักเรียนอยู่ไม่กี่คนเพราะลงไปที่ข้างล่างหมด

                    ป้าฮะ ผมจะเอา ขนมปังทาแยม10 ชิ้น เสต็กเนื้อหมูกับข้าวหนึ่งจาน เนื้ออบ สลัด มันฝรั่งบด ส้ม กล้วยแอปเปิ้ล มะเขือเทศ พลัม ทางที่ดีเอาผลไม้ที่มีอยู่มาอย่างละ 5 เลยก็ได้ครับ แล้วก็เอาข้าวผัดปูสองจาน ขนมเค้กรสช็อกโกแลต 2 ชิ้น ไข่เจียวหอยนางรม ต้มยำกุ้งแล้วก็น้ำเปล่าสักสี่ห้าขวดฮะ ป้าแกมองเครทแบบอึ้งๆก่อนจะรีบทำให้อย่างรวดเร็วภายในสามนาที อาหารทุกอย่างก็มาเรียงรายอยู่หน้าเครท จนคนที่เดินผ่านมาถึงกับมองแล้วถามว่า

                    โทษทีเถอะนายจะถือไปยังไงหมดเนี่ย เครทยิ้มกับคำถามที่เป็นห่วงนั้น ก่อนจะวาดมือฟึบเดียวอาหารทุกอย่างก็ลอยอย่างเป็นระเบียบไปที่ชั้นสาม ในมือถือ น้ำส้มปั่นกับมะพร้าวก่อนจะเดินตามอาหารพวกนั้นไป เครทกระโดดอยู่หน้าประตูห้องให้กุญแจหล่นออกจากกระเป๋าแล้วบังคับด้วยสายตาให้มันไขประตูเอง

                    งานเลี้ยงจงมีแด่ท่าน ประตูเปิดออกพร้อมกับอาหารที่ลอยเข้าไป กีร่ามีลและเดสท์กำลังรออย่างใจจดใจจ่อว่าอาหารจะมาเมื่อไหร่ กลางห้องมีโต๊ะพกพาได้ของมีลกางอยู่พร้อมเก้าอี้อีกห้าตัว อาเทอร์เมื่อได้ยินเสียงประตูก็งัวเงียตื่นขึ้นมา ลุกเข้าไปเข้าห้องน้ำก่อนจะมาร่วมในวงอาหารอย่างรวดเร็ว เครทแม้จะดูตัวเล็กๆแต่ก็สวาปามอาหารได้จนหมดเกลี้ยง อาเทอร์สั่งมาแค่สองอย่างแต่ก็ขอคนนู้นคนนี้กินจนอิ่มและเสวยผลไม้เข้าไปหลายอย่าง เดสท์เห็นหน้าเหี้ยมๆแบบนี้กินผลไม้เก่งยิ่งกว่าอะไรและดูท่าจะชอบกินลูกพลัมกับแอปเปิ้ลมากๆ กีร่ากินแต่ขนมปังกับแยมและมะเขือเทศ มีลกินเสต็กเก่งอย่างกับอะไรกินจานแรกหมดไปสั่งเพิ่มอีกสองจานสั่งผลไม้อีกก่ายกองมาสาวปามต่ออีก หลังจานกินอิ่มกันหมดแล้ว(ซึ่งกินเวลาไปนานโข)จานทุกอย่างก็หายวับไป

                    กีร่าเมื่อเย็นถามว่าฉันพูดภาษาอะไรใช่หรือเปล่า กีร่ายักหน้าหงึกหงักรอฟังคำตอบจากเครท

                ภาษาโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นภาษาพื้นทุกคำที่พูดจะไม่มีการโกหก การพูดภาษานี้ก็เหมือนกันการร่ายเวทย์เพียงแต่การทำให้ก้อนหินก้อนหนึ่งลอยโดยการใช้ภาษานี้ก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ ดังนั้นการที่จะพูดภาษานี้ก็เหมือนกับการร่ายเวทย์เพียงแต่ลำบากกว่ามากมายนัก เครทอธิบายโดยมีคนอื่นตั้งใจฟัง

                    สอนฉันหน่อยสิเอาสักนิดก็ยังดี กีร่าเซ้าซี้ เพียงแต่เครทแค่หัวเราะ

                    ฉันน่ะไม่มีเกียตริขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าให้สอนบางคำล่ะก็ได้เครทหยุดคิดสีหน้าเคร่งเครียดเพราะการสอนเรื่องนี้อันตรายมากทีเดียว การเรียกชื่อจริงๆของก้อนหินทำให้เราสามารถควบคุมก้อนหินทุกก้อนบนโลกนี้ได้ แม้แต่ตัวเครทเองก็ยังใช้ภาษานี้ได้แค่การให้พรและการร่ายเวทย์ชั้นสูงเท่านั้น

                    คำนี้เป็นไง  อูดูจาร์กวา แปลว่าน้ำ กีร่ารวบรวมสมาธิก่อนจะเปล่งคำที่ทรงพลังนั่น

                    อูดูจร์ากวา ฉับพลันน้ำที่อยู่ในขวดแก้วก็ลอยออกมาจากขวด น้ำทุกๆที่ลอยออกมารวมตัวกันเบื้องหน้ากีร่า เพียงแค่ 5 วินาทีจาการรวมตัวกันเท่านั้นน้ำก็สาดโครมลงบนพื้นพร้อมกับกีร่าที่นอนหมดแรงแผ่หลาอยู่บนพื้นห้อง เดสท์รีบวาดมือทำให้พื้นแห้ง มีลเป่าไอร้อนให้ตัวกีร่าหายเปียก

                    โอยเหนื่อชะมัด ฉันชักหิวอีกแล้วสิ นายเก่งมากเลยเครท ที่เปล่งคำยาวยืดนั่นโดยไม่เป็นลมตาย เครทหัวเราะหึๆ

                    ของแบบนี้มันต้องฝึกกันบ่อยๆ แล้วเวลาที่จะเรียกน้ำแล้วล่ะก็ต้องเพ่งสมาธิว่าน้ำที่ไหน ไม่งั้นนะน้ำทั่วทั้งโลกมารวมอยู่กับนายแน่ๆ กีร่า รีบลงไปหาอะไรกินเถอะเหนื่อยๆแบบนี้ต้องให้พลังงานแก่ร่างกาย กีร่าพยักหน้ารีบลุกออกจากห้องไปหาอะไรกิน

                    เมื่อกีร่าออกไปจากห้องอาเทอร์เลยเอ่ยปากถามอย่างเงียบๆว่า

                    นายรู้คำพวกนั้นมาจากไหนน่ะเครท พวกที่พูดได้ก็มีแต่เอลฟ์และภูตเก่าแก่เท่านั้นแล้วพวกนี้ก็หวงความรู้ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

                    เรื่องนั้นเป็นสิ่งที่ฉันตอบนายไม่ได้หรอกอาเทอร์ ต้องขอโทษด้วยแต่คนเราก็ต้องมีความลับกันมั่งเป็นธรรมดา มีลหัวเราะก่อนที่จะปิดบทสนทนานั้นด้วยมุขตลกร้าย

                แต่ที่รู้ความลับของนายมีมากกว่าหอสมุดเสียอีก

                    ใช่ ความลับของฉันมีมากมายกว่าหอสมุด แต่ความลับที่ฉันไม่รู้มีมากมายกว่าหอสมุดร้อยที่รวมกันเสียอีกโดยเฉพาะเรื่องของพวกนาย

                    แสงแดดอ่อนๆของวันใหม่ลอดผ่านผ้าม่านกระทบใบหน้าของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง เปลือกตาค่อยๆกระพริบและลืมอย่างช้าๆ ร่างๆนั้นค่อยๆยันกายลุกขึ้นก่อนจะเห็นขากับมือใครบางคนพาดอยู่บนลำตัว เมื่อมองเห็นใบหน้าที่หลับปุ๋ยนั่นแล้วก็ปลุกไม่ลงค่อยๆจัดแขนจัดขาของเจ้าตัวให้เรียบร้อยก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ

    มีลเป็นคนต่อมาที่ตื่น เขางัวเงียขึ้นมาก่อนจะหันไปถีบเครทแล้วหันไปถีบกีร่าต่อ เครทเดินไปที่โต๊ะพับได้ของมีลหาน้ำกินแก้วสองแก้ว อาเทอร์จึงเดินมาจากห้องน้ำผ้าขนหนูผืนเล็กๆเช็ดหัวที่เปียกของตัวเอง เครทคว้าเสื้อผ้าและวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำไปอย่างฉิวเฉียดแซงมีลไปได้เส้นยาแดงผ่าแปด

                    อาเทอร์ที่เรียบร้อยแล้วเดินไปหยิบแอปเปิ้ลที่หลงเหลือจากเมื่อวานมากินแล้วหันไปปลุกเดสท์ ที่ละเมอลุกมาคว้าแอปเปิ้ลในมืออาเทอร์ไปเฉยๆ แล้วถึงออกมาจากอาณาเขตเตียงได้ เครทเมื่อเดินออกมาแล้วก็รีบรุดไปหาอะไรกินข้างล่างทันทีโดยไม่รอพวกที่เหลือ

                    โรมและเชนกำลังนั่งปรึกษาอะไรบางอย่าง ไลนิสองค์หญิงแสนสวยนั่งอยู่คนเดียว รุ่นพี่อีกหลายคนนั่งเคี้ยวอาหารเช้าของตัวเองแต่เมื่อมองภาพรวมๆแล้วเงียบมากทีเดียว เครทเดินไปหาโรมและเชน ก่อนจะนั่งลง

                    นายตื่นเช้าดีนะ เชนทัก

                    พวกพี่ก็เหมือนกัน แต่อันที่จริงผมพึ่งตื่นเมื่อ10-15นาทีที่แล้วนี้เองแต่รีบชิ่งเข้าห้องน้ำมาได้ก่อนเป็นคนแรก เชนกับโรมหัวเราะน้อยๆแต่ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้น

                    หน้าเกลียด เครทชำเลืองทางหางตามององค์หญิงแสนสวย ชิ ที่แท้ก็แอบฟัง ไม่รู้ว่าที่วังนั่นสอนยังไง สวยแต่หยิ่งอย่างนี้คงจะหาเพื่อนได้หรอก มีน่าถึงลงมากินข้าวคนเดียว อย่างนี้มันต้องสอนสักหน่อย

                    เครทลุกขึ้นจากเก้าอี้ สาวเท้าไปหาองค์หญิงที่เชิดหน้ามองอย่างถือตัว และเครทก็ประสานสายตาของตัวเองเข้ากับองค์หญิงไลนิสผู้แสนจะอ่อนหวาน

                    มารยาทแย่ ไม่รู้เหรอว่าห้ามเข้าใกล้ตัวฉันเกิน1 เมตร แต่เครทก็ยังสาวเท้าไปเรื่อยๆจนหยุดอยู่ตรงหน้า แล้วคว้าคางขององค์หญิงขึ้นมา

                    ขอโทษนะ แต่ไม่ทราบว่า คำพูดดีๆที่ออกมาจากปากของแม่นางแล้ว ปากของแม่นางยังทำอะไรได้อีกบ้าง ไลนิสหน้าชาวาบขึ้นสีระเรื่อ แต่ก็รีบเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัว

                    เจ้าคนหยาบช้าเลวทราม เจ้าปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ เครทก้มใบหน้าลงมาเรื่อยๆจนริมฝีปากใกล้จะแตะกัน ไลนิสหลับตาพริ้มพร้อมรับสัมผัสที่นุ่มนวล แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นคำพูดที่เหมือนฉีกหน้าให้ขาดกระจุย

                    อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยองค์หญิง ข้าไม่มีวันแตะต้องของสูงที่ทำตัวต่ำหรอก จำเอาไว้ อย่าริมายุ่งกับข้า ถ้าตัวท่านสูงแต่ภายนอกแต่จิตใจกลับต่ำช้าเช่นนี้ ก็อย่าหมายจะได้รับความรักจากข้า อ้อ....แม้มิตรภาพข้าก็อาจจะไม่มีให้ เครทดันตัวไลนิสออกไปจนเธอลงไปนั่งกับพื้น แล้วเดินหันหลังจากไป

                    ข้าจะฟ้องท่านพ่อ เรื่องของนายจะไม่จบง่ายๆอย่างนี้แน่ๆ ไลนิสกล่าวอย่างโกรธแค้น แต่เครทกับหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง

                    ข้ารู้จักท่านพ่อของท่านดี องค์หญิง เมื่อเดือนก่อนข้ายังไปนั่งกินข้าวกับท่านพ่อองค์หญิงมา แค่เพียงข้าเขียนเรื่องที่ท่านทำ ไปรายงาน ภายในสามวันท่านพ่อของเจ้าจะรีบส่งจดหมายมาว่าเจ้า ข้ารับรอง เครทหันไปสั่งอาหารแล้วพามันลอยไปด้านบน ทิ้งให้ไลนิสยืนสะกดกลั้นเสียงกรีดร้องไว้คนเดียว

                    เครทเอาอาหารไปไว้ที่ห้อง แล้วลงมือกินอย่างรวดเร็วพร้อมกับเพื่อนๆ

                    อีกสิบนาทีเราต้องไปรวมกันที่ข้างล่าง กีร่าบอกพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ เรามีเวลาถึงบ่ายโมงที่จะไปซื้อของ กีร่าเสริม ยัดขนมปังเข้าปาก แล้วจานทุกอย่างก็หายไป เครทสะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองแล้วเดินรั้งท้ายล็อคห้อง

                    พอถึงในเมืองเครทก็หายตัวออกไปจากกลุ่มอย่างรวดเร็ว เพื่อไปซื้อของที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ เครทก้าวไปที่ร้านเสื้อผ้าสั่งเอาชุดนักเรียนชาย เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวมีตราโรงเรียนอยู่ที่หน้าอกด้านซ้าย ชื่อสีขาวทองอยู่ที่หน้าอกด้านขวา สายรัดขอมือขาวตัดทอง กางเกงที่ใส่คือกางเกงยีนส์สีอะไรก็ได้แต่ขาต้องยาว

                    อ้อ....พี่สาวฮะเอาชุดนักเรียนหญิงไซส์ตามนี้เลยฮะ ชุดนักเรียนหญิงเป็นเสื้อคอกลมสีขาวรัดรูปรูปแบบเหมือนกับของผู้ชายแต่เป็นกระโปรงลายสก็อตสีดำทองขาว เครทไปรอเสื้อผ้าที่เคาเตอร์และยื่นบัตรของร้านให้ก่อนจะกากาบาทไปบนกระดาษลงไปที่คำว่าเสื้อผ้า เหลือ ดาบ อุปกรณ์เวทย์ สัตว์เลี้ยง หนังสือ

                    ดูหนังสือก่อนแล้วกัน ร่างบางสาวเท้าไปทางขวาแล้วก็ต้องหยุดกึกเมื่อเห็น....

                    กีร่า.....หวา...ไปซื้ออุปกรณ์เวทย์ก่อนแล้วกัน  ว่าแล้วก็เดินดุ่มๆก้าวกลับทางเดิมเลี้ยวซ้ายย่านตรอกเวทย์ ทางที่เดินไปเงียบเชียบจนเจ้าตัวเริ่มหวั่นๆลางสังหรณ์ชักไม่ดี แต่ก็ก้าวขาหาร้านที่ต้องการต่อไป เดินวนไปวนมานานอยู่เกือบชั่วโมงไอ้ร้านที่ต้องการก็ไม่รู้หายไปไหนเลยนั่งพักตรงตรอกหนึ่ง เมื่อเริ่มหายเหนื่อยก็กวาดสายตามองไปรอบๆจนมาพบกับประตูบานเก่าๆ บนบานประตูมีกากบาทสีแดงขีดทับ แล้วเริ่มคิดเพราะมันดูคุ้นๆอยู่ก่อนจะร้องอ๋อ

                    ร้านนี้แหละ ใช่แน่ๆ ว่าแล้วก็เคาะประตูสามครั้งอย่างมีมารยาทก่อนจะเปิดเข้าไป

                    ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือลานในถ้ำกว้างใหญ่ ดาบมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นอย่างสวยงาม ทั้งมงกุฎ ดาบ คทา ลูกแก้ว ม้วนอักขระ สร้อย แหวนกำไล ต่างหูเวทย์และอื่นๆอีกมากมาย ฝั่งซ้ายมีทางเดินแยกออกไป ฝั่งขวาก็มีทางเดินแยกออกไป ส่วนตรงกลางด้านหน้าของเจ้าตัวมีหินก้อนมหึมาตั้งเอาไว้เหมือนเป็นเคาเตอร์ด้านหน้ามีป้ายเก่าๆฝุ่นจับเกาะเขียนเอาไว้ว่า

    /เชิญเลือกแล้วอย่าลืมเอาตัวรอดให้ได้จากการจ่ายเงินด้วย/เครทพิจารณาข้อความที่แปลกๆนั่นก่อนจะสะบัดหัวแบบไม่ใส่ใจ เครทมองไปรอบๆสำรวจดาบแต่ละเล่มด้วยสายตาอันคมกริบ มีแต่ของใหม่ทั้งนั้น อย่างนี้มันจะไปขลังได้ยังไงขาก้าวตามความคิดชะโงกหน้าไปทางด้านซ้าย พบดาบคทาอยู่ในตูกระจกเรียงรายยาวลึกเข้าไปจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดท่าทางจะเก่ามากจับนิดเดียวคงกลายเป็นผุยผงถึงต้องเก็บไว้ในตู้กระจก ใช้ไม่ได้แหงมๆ

                    ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินไปทางขวา ห้องที่ดูเก่าที่สุด รกที่สุด สกปรกที่สุด ไอ้ที่ว่าสกปรกเนี่ย ไม่ได้พูดปดแม้แต่นิดเดียว ดาบคทาและอื่นๆอีกมากมายกองกระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่มีแต่ขี้ฝุ่น หยากไย่และอื่นๆอีกมากมายจับเต็มไปหมด เดินทีมองทางก็ไม่ค่อนเห็นเดี๋ยวคงต้องสะ..

                    เฮ้ยๆ ลื่น....ว้าก.....คิดไม่ทันจบเจ้าคนซุ่มซ่ามก็เอาใบหน้าและตัวอันแสนสะอาดนอนกลิ้งลุกขี้ฝุ่นกับพื้นไปเรียบร้อย

                    “หืม” ลูกแก้วสีใสจับฝุ่นวางอยู่ติดกับจมูก และ.....และ.....

                    “ฮัดเช้ย!!!!” ร่างบางหยิบลูกแก้วนั้นขึ้นมาเช็ดกับเสื้อที่สกปรกพอๆกัน ก่อนที่ใบหน้าหวานน่ารักแบบผู้ชายจะแย้มรอยยิ้ม อันนี้ล่ะถูกใจที่สุด!!!!

                เครทเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ในขณะที่ฝุ่นและความสกปรกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยเช่นกัน และแล้วก็เดินมาถึงสุดห้อง บนพื้นมีดาบปักอยู่เล่มหนึ่งและมีอีกห้าเล่มปักอยู่รอบๆ ในรัศมี3เมตรของดาบไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้แต่น้อย ดาบยังคงเงาวับและสะท้อนทุกอย่างภายในห้อง เครทเดินเข้าไปหาดาบ สายตาไม่จับจ้องอย่างอื่นนอกจากดาบนั้น  ตัวด้าทำจากเหล็กกล้าแข็งแรงพันด้วยหนังสีดำอย่างดี ชายร้อยใบไม้ใบเล็กๆสีเงินเอาไว้และใบไม้นั้นก็ล่องลอยและพลิ้วไหวเหมือนต้องลมตลอดเวลา เครทค่อยๆจับด้ามดาบอันเย็นเฉียบนั้นความรู้สึกแปลกๆแผ่ซ่านจากปลายนิ้วไปที่แขนหน้าอกและไปทั่วร่างกาย ดวงตาสีนิลจับจ้องด้ามที่อยู่ในมือ เป็นดาบสองคม บางเฉียบแต่แข็งแกร่ง บนตัวดาบสลักอักษรที่แปลได้ว่า

    สายลมพลิ้วไหว สายน้ำล่องลอย รัตติและแสงเป็นหนึ่ง แมกไม้คำนึง อัคคีนึกถึงผู้เป็นหนึ่งในกุญแจ

    แต่แล้วเงาสะท้อนก็ทำให้เขาต้องตวัดดาบ ปลายคมนั้นจ่ออยู่ที่ลำคอของผู้มาเยือน ใบหน้าคมเข้มผมยาวบดบังดวงตาไว้ข้างหนึ่งชุดที่ไส่อยู่ดูเก่าแต่ยังคงความน่าเกรงขามไว้

                    “เก่งนี่สมแล้วที่เป็นถึง.....”ปลายดาบกดเข้ามาที่ลำคออีกครั้ง

                    “ท่ามาทำอะไรที่นี่” เครทถามเอาดาบจ่ออยู่ที่ลำคอของชายแปลกหน้า แค่เพียงตวัดดาบปราดเดียวคอของชายคนนั้นก็จะหลุดออกจากบ่า ชายหนุ่มผู้มาเยือนพิจารณาเด็กน้อยนี้และดาบที่ติดอยู่กับลำคอก็ให้คำตอบเขาได้แล้วว่าเด็กน้อยที่ว่าเป็นเช่นไร

                    “ไม่มีอะไรข้าก็แค่มาเก็บเงินค่าดาบนั่นเท่านั้น” เครทเลิกคิ้ว

                    “งั้นหรือ แล้วกริชที่อยู่ในมือท่าน กับคำที่ว่า อย่าลืมเอาตัวรอดจากการจ่ายเงินนั่นล่ะ” กริชในมือถูกโยนทิ้ง ดาบของเครทถึงออกมาจากคอของผู้มาเยือนได้

                    “ข้าชื่อ เวน ไดน์ อ่ะนี่ปลอกเก็บดาบของเจ้า” เครทรับมาก่อนจะเก็บดาบให้เรียบร้อย และยืนมองเวนที่เอามือลูบลำคอและบิดไปมาเหมือนเกร็งมานาน

                    “นานแล้วที่ข้าไม่ได้เจอพวกพรายอย่างท่าน เวน ไดน์ และยิ่งในสถานที่แบบนี้ ไดน์แบบท่าน เป็นเกียรติมากที่ได้พบ” เครทโค้งให้เล็กน้อย ตระกูลไดน์ เป็นตระกูลพรายที่เก่าแก่มากและมีชื่อเสียงในด้านการตีดาบและศาสตร์เกี่ยวกับดาบต่างๆ และคนในตระกูลนี้มักเป็นพวกเก็บตัว

                    “ข้ามีธุระสำคัญที่ต้องทำต่อ ต้องขอตัว คงจะดีมากถ้าหากเราได้พบกันอีก ขอลา” เครทโค้งหัวอีกครั้งก่อนจะก้าวเดินไปทางเก่าทิ้งให้พรายหนุ่มอายุ150ปี ยืนยิ้มกับตัวเอง แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเครทยังไม่ได้จ่ายเงิน

                    “เดี๋ยว....” ยังไม่ทันพูดจบบัตรสองใบก็ปะทะกับหน้าอก เขาหันไปมองเด็กหนุ่มที่หันหลังแล้วโบกมือเบาๆ

                    เครทก้าวขาออกมาจากตรอกแล้วกาลงไปบนกระดาษรายการของ เดินไปที่ร้านขายสัตว์วิเศษ คนที่นี่ไม่พลุกพล่านนักมีมาเรื่อยๆมีกรงขังสัตว์หน้าตาแปลกๆมากมาย แต่เครทกลับเมินสัตว์พวกนั้นแต่หันไปทางประตูที่เขียนป้ายว่าห้ามเข้าแทน มือเครทเปลี่ยนเป็นสีเงิน แล้วเป็นสีแดง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก ห้องนี้กว้างใหญ่ราวหอสมุด มีตู้กระจกเก็บไข่แปลกๆและเครทก็ไปสะดุดตากับไข่สองใบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×