ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mirror Worlds online

    ลำดับตอนที่ #1 : Ch.1 Normalแม้ว่าจะเขียนภาษาไหนก็แปลว่าธรรมดา

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 56


        โหลๆ เอ่อ.... มันคงเป็นบทเริ่มต้นไม่สวยหรูเท่าไหร่นัก แต่ผมก็ยังอยากให้ใครสักคนได้ยินเสียงของผมและได้รับรู้ชะตาชีวิตอันห่วยแตกที่ผมมักคิดเสมอว่าคนห่วยแตกพันธุ์ไหนกันที่เขียนให้เป็นแบบนี้ เอ๊ะ!! แต่ผมเกือบลืมแนะนำตัวไปเลย ตัวผมชื่อว่า เซฟิรอส คุณฟังไม่ผิดหรอกครับผมชื่อ เซฟิรอสจริงๆ พ่อของผมอยากให้ผมดูดีเหมือนทวยเทพแต่ดันใส่ตัวสะกดตัวสุดท้ายผิดชื่อมันก็เลยดูออกเทพเก๋ๆ แบบนี้ล่ะนะ สีผมและดวงตาสีดำที่ได้จากพ่อบวกกับส่วนสูง 178 เซนติเมตรและรูปร่างหน้าตาที่ธรรมดาสุดๆ ทำให้เป็นไอ่หนุ่มธรรมดาในหมู่คนธรรมดา ใช่ๆ พวกคุณคงคิดว่ามันธรรมดาไม่เห็นจะห่วยตรงไหนเลยนี่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นวันนั้นแหละครับวันเกิดผม วันที่ผมได้รู้จักโลกใหม่โลกที่ทำให้ตัวตนของผมเปลี่ยนไปตลอดกาล......

         'ก๊อก ๆ'เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง มีสาวน้อยผมทรงทวินเทลสีชมพูเข้มดวงตาสีเดียวกับสีผมใบหน้าจิ้มลิ้มคงจะดูน่ารักมากหากใบหน้านั้นไม่ได้บูดบึ้งด้วยความโมโห


         "เซฟ ! นายจะให้ฉันรอไปอีกนานไหม" สาวน้อยตะโกนด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

         "จ้าๆ มาแล้วจ้า" มีเสียงตอบกลับออกมาจากในบ้านพร้อมกับประตูที่เปิดออกมา

         "ยังโหด เอ้ย ! ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะบีเทล" เจ้าของบ้านเอ่ยทักแขก

         "หือ~ ตะกี้นายว่าอะไรนะ" แขกสาวถามพลางจ้องหน้าเจ้าบ้าน

         "ปะ เปล่าจ๊ะ" เจ้าบ้านบอกพลางยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกับโบกไม่โบกมือเชิงปฏิเสธ

         "เอาเถอะนี่ก็สายากแล้วรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะไปปฐมนิเทศสายเอา"

         "อืมๆ" เซฟขานรับแล้วออกเดินไปพร้อมบีเทล 

         เมืองที่เซฟกับบีเทลอาศัยอยู่ชื่อเมืองเทสเมืองหลวงของประเทศฮิวเมอร์ ตัวเมืองแบ่งออกเป็น 10 เขต 1-5 เป็นเขตอยู่อาศัยเขต 6-8 เป็นพื้นที่ส่วนกลางและเขต 9-10 เป็นเขตสำหรับผู้อพยพ จุดเด่นของเมืองคือต้นไม่ขนาดยักษ์ที่ตอนนี้ดูไม่ค่อยจะแข็งแรงแต่ก็เปรียบเสมือนโอเอซิสของประเทศรอบๆ ต้นไม้ยักษ์มีเรือนกระจกสำหรับการเพาะปลูกมากมายกินพื้นที่เขต 7-8 ไว้ทั้งหมด นั้นคือสิ่งที่ทำให้ประเทศนี้ยังไม่ล่มสลายไป

         "ถึงแล้วสินะ" เซฟพูดพลางมองป้ายที่ติดบนทางเข้าโรงเรียนซึ่งเขียนไว้ว่า'ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่โรงเรียนเทสอะคาเดมีี่'

         โรงเรียนเทสอะคาเดมี่อาจดูไม่ค่อยเหมือนโรงเรียนทั่วไปเนื่องจากมันมีแค่รั้วสีขาวล้อมรอบตึกๆ เดียวที่มีลานจอดรถด้านหน้าแค่นั้นเอง เนื่องจากที่นี่ใช้การเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีคลื่นสมองจึงไม่จำเป็นต้องมีตึกเรียน ส่วนพวกที่ไม่มีเครื่องเชื่อมต่อคลื่นสมองก็สามารถไปใช้ได้ที่ร้านเช่าหรือที่ห้องเชื่อมต่อที่โรงเรียน

         "รีบไปซิเซฟมัวเหมออะไรอยู่ได้" บีเทลพูดพลางดึงแขนเซฟเดินเข้าไปขึ้นลิฟท์

         "ชั้น20" บีเทลพูดกับหน้าจอสีฟ้าด้านข้างของลิฟท์ 'ชั้น 20 ทราบแล้วค่ะ' มีเสียงAIตอบกลับมาหลังจากนั้นลิฟท์ก็เลื่อนไปชั้น 20 อย่างรวดเร็ว

         บีเทลลากเซฟเข้าห้องประชุมเลือกที่นั่งแถวกลางๆ ที่คนไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ 

         "เฮ้ๆ ! พวกนายฉันขอนั่งตรงนี้ด้วยคนได้รึเปล่า" หนุ่มผมยาวสีเขียวอ่อนใบหน้าดูกวนๆ เอ่ยถามแต่ยังไม่ทันได้คำตอบชายคนนั้นก็นั่งลงข้างๆ เซฟแล้ว

          เซฟหันไปมองพลางคิดว่า 'ถ้าไม่คิดจะรอคำตอบตั้งแต่แรกจะถามทำพระแสงหอกพระยาปราการอะไรฟ่ะ'

         "เฮ้ๆ พวก ฉันชื่อคูลโรเมท เรียก คูล เฉยๆ ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะพวก" ชายผมยาวพูดทักทายพร้อมยื่นมือออกไปเชิงขอจับมือ

         เซฟยืนมือออกไปหวังจะจับมือทักทายแต่ในขณะที่มือกำลังจะได้สัมผัสอีกฝ่ายนั้นอีกฝ่ายกลับชักมือกลับไปเสยผมแล้วยิ้มโชว์ฟันขาวที่ส่องแสงปิ๊งๆ ให้อย่างน่าตายเฉย
        เซฟอึ้งไป1.25วินาทีแล้วคิดในใจว่า 'แบบนี้มันน่ากระโดดถีบยอดอกจริงๆ'

        "ฉันชื่อเซฟิรอส เรียกว่าเซฟก็ได้ส่วนยายนี่ชื่อเบลเทลล่าเรียกบีเทลเฉยๆ ก็ได้ยินดีที่ได้รู้จักนะคูล" เซฟสะกดอารมณ์ของเท้าไว้แล้วแนะนำตัวเองกับบีเทล

        "นักเรียนทำความเคารพท่านผอ.ทั้งหมดยืนตรง!" หลังจากนั้นการปฐมนิเทศก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มีการแนะนำวิชาที่จะลงเรียน เวลาในการเรียนที่จะได้เรียนอาทิตย์ละ 24 ชั่วโมงออนไลน์ซึ่งเท่ากับ 1 ชั่วโมงของโลกจริงหลังจากนั้นก็แจกดาต้าเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์สำหรับเข้าเรียน หลังจากนั้นก็สร็จสิ้นนักเรียนทั้งหลายก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เซฟ บีเทลและคูลจึงพากันเดินกลับบ้าน

         "นายอาศัยที่ไหนหรอคูลตรอกเปลี่ยวๆ หรือใต้สะพานลอยล่ะ" เซฟเอ่ยถ้ามคูล

         "ฉันนอนปูเสื่อขอตังอยู่แถวสะพานลอย เย้ย! ไม่ใช่! ฉันพักอยู่หอพักที่เขต 6 ต่างหาก" คูลตบมุขกับเซพอย่างแข็งขัน

         "เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะนายสองคนเนี่ย เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ" บีเทลที่ฟังอยู่นานพูดแทรกขึ้นมา
         "โธ่ เจ๊ก็ ผู้ชายอารมณ์ขันน่ะเขาหาเพื่อนง่าย ใครจะไปเหมือนเจ๊โหดแบบนี้ใครเค้าจะกล้าคุยด้วย"คูลเอ่ยกับบีเทลด้วยสีหน้ากวนประสาท
         "ว่าไงน๊า ! ไอ่หัวสาหร่ายกวนส้น" บีเทลตะเบงเสียงใส่คูลด้วยพลังเสียง 8 หลอดทำให้คูลถึงกับหูอื้อไปข้างนึงเลย
         "โหย~ เจ๊นี่โหดจริงๆ โหดแบบนี้ระวังขึ้นคานนะเจ๊"
         "จะเอาเหรอ ไอ่หัวหญ้าอ่อนน่าเหยียบ" บีเทลพูดพลางดึงแขนเสื้อขึ้นหวังจะตะบันหน้าพ่อหนุ่มหัวเขียวสักหมัดสองหมัด
        จนเซฟต้องรีบเข้าไปห้ามทัพก่อน "เอาน่าๆ ทะเลาะกันอย่างกะคนเป็นแฟนกันไปได้คู่นี้"
         "ใครจะไปเป็นแฟนกะอีตาแมลงวันหัวเขียวกันย่ะ ! ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกเหลือแค่ตานี่ฉันก็ไม่เอามาทำพันธุ์หรอก เห๊อะ!" ว่าแล้วบีเทลก็สะบัดหน้าหนี
         "โว๊! ผมก็ไม่เอาอาเจ๊พลังช้างสารไปเป็นแฟนหรอกครับ คนอะไร๊ดุยังกะเสือ เห๊อะ!" ว่าแล้วคูลก็สะบัดหน้าไปอีกทาง
         "เอาน่าๆ อย่าทะเลาะกันเลย ถึงบ้านเธอพอดีเลยบีเทล" บ้านของบีเทลมีลักษณะเป็นคฤหาสน์ใหญ่โตตระกูลของของบีเทลเป็นผู้ว่าของเมืองนี้ทุกรุ่น ครอบครัวบีเทลเลยค่อนข้างจะมีอิธิพลกับเมืองนี้
         "โหย~ บ้านเจ๊นี่ใหญ่โตยังกับวังแน่ะ สงสัยจะเป็นคุณหนูตะกูลผู้ดี แต่คงไม่ค่อยได้เรียนมารยาทมั้ง ถึงดุซะขนาดนี้" คูลยังไม่เลิกเหน็บแนมบีเทล
         "ว่าไงนะ! ไอ่หัวตะไคร่น้ำ" บีเทลไปหวังจะซัดปากพ่อหนุ่มหัวเขียวสักเปรี้ยงแต่เซฟก็ยังคว้าตัวไปทัน
         "นายก็พอได้แล้วน่าคูล" เซฟหันไปปรามคูลบ้าง
         "เชอะ! เห็นแก่เซฟเพื่อนรักฉันไม่พูดอะไรแล้วก็ได้"
         "หนอยแน่ะ ปล่อยฉันนะเซฟฉันฉันจะไปซัดไอ่หัวต้นไม้นี่"
         "เธอก็หยุดได้แล้วบีเทล ไม่อายชาวบ้านเค้ารึไงนี่หน้าบ้านเธอนะ เข้าบ้านได้แล้ว" เซฟรีบสงบศึกโดยเร็ว
         "เห๊อะ! ก็ได้ๆ เออ! วันนี้วันเกิดนายนี่ เด๋วสักสองสามทุ่มฉันจะเข้าไปนะทำอาหารอร่อยๆ ไว้รอด้วยล่ะ"
         "แต่แม่บ้านที่บ้านเธอยังทำอร่อยกว่าฉันอีกนา จะมากินอะไรที่บ้านฉันอีก" เซฟแย้ง
         "ก็ฉันเบื่อนี่ บางทีกินของบ้านๆ ที่นายทำก็อร่อยดี อีกอย่างวันนี้วันเกิดนายนะ นายต้องเลี้ยงสิ"
         "จร้าๆ จะทำไว้ให้แล้วกัน นายก็มาด้วยสิคูล" เซฟหันไปชวนคูลบ้าง
         "ได้สิเซฟเพื่อนรัก ฉันพร้อมเสมออยู่แล้ว" คูลตอบพลางยกนิ้วโป้งและยิ้มโชว์ฟันขาวปิ๊งๆ
         "อย่างนายไม่ต้องมาก็ได้ย่ะ" บีเทลก็ยังหาโอกาสแขวะคูลจนได้
         "ได้ไงล่ะขอรับหญิงป้า เจ้าของงานเค้าชวนทั้งที"
         "หน็อยอยากเจ็บตัวนักใช่ไหมไอ่เขียดหัวเขียว" บีเทลพุ่งเข้าไปหมายจะกระโดดเตะปากหนุ่มหัวเขียวปากปีจอสักที แต่ก็ไม่พ้นความเร็วของเซฟที่จับตัวไว้ได้ทัน
         "พอเถอะทั้งสองคน  ว่าแต่คูลนายจะให้ฉันไปส่งกลับหอไหม"
         "ไม่ต้องหรอกพวก ฉันว่าจะแวะห้างซื้อของซะหน่อย"
         "งั้นพวกเราแยกกันตรงนี้เลยละกันตอนค้ำเจอกัน"
         "อืม" บีเทลกับคูลตอบพร้อมกัน
         "เธอ/นาย พูดพร้อมฉันทำไมห่ะ!  
         "ไปเถอะทั้งสองคน ขอล่ะ" เซฟแทบยกมือขึ้นไหว้อ้อนวอน
         "เชอะ!" บีเทลสะบัดหน้าไปอีกทางแล้วก็เดินจ่ำอ้าวไปทันที
         "เอ่อ...บีเทลทางนั้นมันบ้านฉันบ้านเธอทางนี้ต่างหาก" เซฟทักบีเทลที่เดินไปผิดทาง
         "รู้แล้วล่ะน่า" บีเทลเขิลจนหน้าแดงแล้ววิ่งเข้าบ้านตัวเองไปอย่างรวดเร็ว
         หลังจากนั้นเซฟกับคูลก็พากันแยกย้ายกลับ ประมานสองทุ่มบีเทลก็มาพร้อมกับคูลซึ่งลืมถามเซฟก่อนว่าบ้านไปทางไหนจึงต้องไปรอบีเทลที่หน้าบ้านเพื่อขอตามมาด้วยคน หลังจากนั้นก็มีนายช่างมาติดตั้งเครื่องเชื่อมต่อคลื่นสมองรุ่นใหม่ล่าสุดให้เซฟ พอเซฟจะปฏิเสธบีเทลก็ขู่ว่านี่เป็นของขวัญถ้าไม่รับไว้จะโกรธมากเซฟเลยต้องจำยอมรับไว้ คิดไว้ว่าวันเกิดบีเทลจะซื้อเป็นของอย่างอื่นคืนให้ ส่วนของคูลนึกว่าเซฟมีเครื่องเชื่อมต่ออยู่แล้วจึงไปซื้อดาต้าเกมMWO(
    Mirror Worlds online) ซึ่งบีเทลกับคูลนั้นเล่นอยู่ก่อนแล้วจึงได้ชวนเซฟไปเก็บเลเวลด้วยกัน หลังจากช่างลงดาต้าครบหมดเรียบร้อยจึงกลับไปทุกคนจึงเริ่มฉลองวันเกิดกัน แม้บีเทลกับคูลจะเถียงกันตลอดงานแต่ก็ทำให้งานดูมีสีสัน พอถึง 5 ทุ่มบีเทลกับคูลก็ขอตัวกลับ เซฟจึงอาสาไปส่งคูลที่หอแต่เจ้าตัวปฏิเสธเพราะคูลขี่ฟายบอร์ดมา ฟายบอร์ดเป็นกระดานเรียบๆ บางๆ ลอยตัวบนพื้นได้ปรับความเร็วโดยตำแหน่งการวางเท้าของคนขี่ หลังจากนั้นพอเก็บจานชามไปทำความสะอาดเสร็จก็ราวๆ ห้าทุ่มครึ่งเซฟจึงหยิบคู่มือการใช่เครื่องเชื่อมต่อกับข้อมูลเบื้องต้นของเกมMWO

    ในตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงอนาคตผมไปตลอดกาล.........
    ณ.ห้องวิจัยใต้ดินลึกลับที่มีแค่แสงกระพริบปริบของไฟสีแดง ฟ้าและเหลือง มีชายสองคนยืนอยู่หน้าแผงควบคุมอะไรสักอย่าง คนแรกใส่เสื้อกาวน์สีขาวยืนกดปุ่มต่างๆ บนแผงควบคุมพลางดูมอนิเตอร์ไปด้วย อีกคนใส่ชุดสูทสีดำผูกเนคไทด์เหมือนนักธุรกิจ
    "นายแน่ใจเหรอที่จะทำแบบนั้นจริงๆ น่ะฉันว่ามันอันตรายเกินไปนะถ้าหากพลาดจะไม่ใช่แค่เรานะที่จะได้รับผลกระทบน่ะ" ชายชุดสูทเอ่อถ้าชายในชุดกาวน์
    "นายพูดแบบนี้เป็นครั้งที่ 100 แล้วมั้งเนี่ยฉันบอกแล้วไงเรามาไกลเกินครึ่งแล้วจะถอยไม่ได้แล้ว อีกอย่างคนทั้งโลกกำลังรอผลงานของฉันอยู่" ชายชุดกาวน์เอ่ยโดยทีตายังไม่ละไปจากจอมอนิเตอร์
    ชายชุดสูทจึงเดินออกห้องไปพลางถอนหายใจละกล่าวเบาๆกับตัวเองว่า"โลกจะอยากเห็นสิ่งที่เราทำจริงๆ เหรอ" .....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×