ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพนิยายกรีก

    ลำดับตอนที่ #48 : ^0^แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ (Jack The Ripper) 3 ค่ะ^0^

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 272
      0
      23 ส.ค. 48





                                     ^0^แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ (Jack The Ripper) 3 ค่ะ^0^





                         ตอนที่ 6 Catharine Eddowes





                         กลับมาอีกครั้งกับ JTR แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ อาชญากรแห่งยุค มาถึงตอนที่ 6 แล้วนะครับสำหรับ Series นี้ ความยาวไม่แพ้ CT เลย มาคราวนี้ก็เป็นรายละเอียดและฉากการฆาตกรรมเช่นเคย โดยจากฆาตกร (ที่เขาว่าเป็น) แจ็คจอมเชือด ผู้เคราะห์ร้ายคราวนี้ก็เป็นหญิงเช่นเคย เธอมีชื่อว่า Catherine Eddowes ครับ หรือ Kate ที่บรรดาเพื่อนชองเธอเรียกกัน Catherine นั้นอาศัยอยู่กับ John Kelly สามีของเธอมาถึง 7 ปีครับ ที่ Dean Street ก่อนที่จะถูกฆาตกรรม ซึ่งบริเวณที่เกิดการฆาตกรรมขึ้นก็เป็นบริเวณที่เคยเกิดเหตุมาแล้ว ใช่ครับ ที่ Mitre Square (จตุรัสมิเตอร์ ฟังพิลึกๆ นะ) นั่นเอง ครั้งนี้ตำรวจเป็นผู้พบร่างของเธอนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณที่ว่าไป ตอนแรกตำรวจก็ไม่รู้หรอกครับว่าผู้เคราะห์ร้ายคือใคร แต่จากการตรวจร่องรอยแล้วก็พบตั๋วจำนำใบหนึ่งอยู่ในกระเป๋าของเธอจึงระบุว่าคือเธอคือ Catherine Eddowes จะว่าไปแล้ว Catherine เป็นคนที่มีน้ำใจเลยทีเดียวและเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี ยิ้มง่าย เรียกได้ว่าเป็นคนดีคนนึงเลยทีเดียวที่สำคัญเธอร้องเพลงเพราะครับ (เกี่ยวไรเนี่ย อิอิ) เป็นคนนิสัยและใช้ชีวิตประมาณนี้ทำไมถึงเป็นเหยื่อของ JTR ได้ ? คงสงสัยกันอยู่ ครับ





                         เธอก็มีจุดร่วมอยู่จุดหนึ่งดังที่ผมกล่าวไปเมื่อตอนก่อนๆ ว่าเหยื่อของ JTR นั้นมักจะมีจุดร่วมในการถูกฆาตกรรมอยู่ประมาณ 3-4 อย่าง ซึ่ง ของ Catherine ก็เป็นในเรื่องของปัญหาการดื่มสุราจัดหรือว่าติดเหล้านั่นเอง ซึ่งจากสาเหตุนี้ต่อมาได้กลายเป็นปัญหาการทะเลาะกันกับเพื่อนและครอบครัวของเธอไป





                         มาดูประวัติของเธอกันหน่อยดีมั๊ย Catherine นั้นเกิดปี ค.ศ.1842 (อาจจะปีเดียวกับปู่โซนิคฯ ของหลายๆ คน อิอิ) เธอเป็นลูกกำพร้าครับ พอโตมาจนอายุได้ 16 เธอก็ได้ชอบพอกับ Thomas Conway จนกระทั่งแต่งงานอยู่กินกันมาถึง 20 ปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ก็อย่างที่บอกกล่าวไปเมื่อตอนต้นนั่นแหละครับว่า Catherine เธอมีปัญหาเรื่องติดเหล้าหนัก ซึ่ง Thomas นั้นก็ไม่พอใจเรื่อยมา มีปากเสียงกันบ่อยจนกระทั่งอยู่ด้วยกันไม่ได้ และหย่ากันในที่สุดเมื่อปี ค.ศ.1888 พอปีต่อมาเธอก็ได้พบกับ John Kelly และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนกระทั่งเธอถูกฆาตกรรม วันเกิดเหตุนั้นเป็นวันที่ Catherine ออกจากบ้านไปในตอนเย็นเพื่อที่จะไปขอยืมเงินจากลูกสาวของเธอ ซึ่งเส้นทางไปบ้านของลูกสาวเธอนั้นต้องผ่านบริเวณ Whitechapel และ John ก็ได้เตือนเธอเรื่องของฆาตกรที่กำลังกล่าวขวัญกันอยู่และบอกให้กลับบ้านมาก่อนมืด ซึ่งเธอก็ตอบเขาไปอย่างมั่นใจ \"อย่ากลัวไปเลยค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้\" โดยหารู้ไม่ว่านี่เป็นคำพูดของเธอกับ John ครั้งสุดท้าย ตามที่ John เป็นห่วงครับ Catherine นั้นไปไม่ถึงบ้านลูกสาวเธอ แต่ทว่ากลับมีเงินพอที่จะไปดื่มเหล้าได้ !!!





                         หลังจากที่เธอดื่มเหล้าเมาเรียบร้อยไปแล้วก็โดนตำรวจจับเข้าคุกที่ Bishopsgate Street Police Station เพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์ในนั้นสักพัก จนกระทั่งเวลา 00.30 น. (เที่ยงคืนครึ่ง…อีกแล้ว) เธอได้ร้องขอกลับบ้าน ในครู่ต่อมาตำรวจก็ได้ปล่อยตัวเธอไปครับ โดยขณะนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบตีหนึ่งแล้ว แต่ Catherine ก็กลับไปไม่ถึงบ้าน……





                         จากสภาพของ Catherine นั้นเหมือนกับกรณีของ Polly Nichols และ Annie Chapman คือโดนเชือดจากคอและบริเวณใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล และโดนชำแหละบริเวณช่องท้องเป็นแผลยาวไปถึงหน้าอก อวัยวะถูกตัดออกมาหลายชิ้น (บรื๋อออออ -_-\"\") นี่เป็นรายงานจากผลการชันสูตรของ Dr.Brown และจากรายงานชันสูตรเพิ่มเติมพบว่า รายละเอียดของการชำแหละนั้น





                         ฆาตกรจะต้องมีความรู้ในเรื่องตำแหน่งของอวัยวะและความชำนาญในการผ่าหรือตัดอะไรซักอย่างเป็นอย่างดี ถึงสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ (จริงๆ แล้วรายละเอียดของสภาพการฆาตกรรมมีมากกว่านี้แต่ผมไม่อยากเอามาลงด้วย ค่อนข้างจะโหดไปสักหน่อย เลยรู้สึกหดหู่น่ะครับ หึ หึ





                         แล้วพยานปากเอกล่ะมีมั๊ย ? มีครับ เค้าคือ Joseph Lawende ซึ่งได้ให้การว่าหลังจากที่ออกมาจาก Imperial Club พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ตอนประมาณตี 1.35 น. ก็ได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนคุยกันอยู่ที่บริเวณโบสถ์ใกล้กับ Mitre Square ซึ่ง Joseph มองไม่เห็นหน้าผู้หญิงเพราะว่า เธอยืนหันหลังให้ แต่เขาคิดว่าเป็น Catherine โดยดูจากเสื้อโค้ทที่เธอสวมอยู่ (รู้ได้งัยวั๊า O_O) และบรรยายถึงลักษณะฝ่ายชายว่าใส่เสื้อคลุมสีดำ สวมหมวก มีหนวดแต่ว่าตัวไม่สูงเท่าไหร่ (เห็นคำบรรยายถึงชายคนนี้แล้ว พอจะนึกอะไรออกมั่งมั๊ย ?? ใช่แล้วครับ ลักษณะของชายที่ Joseph กล่าวมานี้บังเอิญเหลือเกิ๊น ที่ไปตรงกันหรือใกล้เคียงกับคำบรรยายของเหล่าบรรดาพยานที่เห็น \"บุคคลน่าสงสัย\" ณ สถานที่และเวลาการเกิดเหตุการณ์ขึ้น) และหลังจากนั้นอีกประมาณ 9 นาทีต่อมา Catherine Eddowes ก็ถูกสังหาร และในอีกราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีสีชอล์คเขียนอยู่เหนือกำแพง Goulston Street ว่า The Juwes are the men that will not be blamed for nothing. ประโยคนี้อีกแล้ว O_O และทางตำรวจก็ยังจับตัวผู้กระทำผิดหรือว่าผู้ต้องสงสัยไม่ได้อีกเช่นเคย





                         หลายคนอาจจะสงสัยว่าแจ็คลงมือสังหารเธอเพราะว่าแค่เธอมีปัญหาเรื่องดื่มเหล้าหรือเปล่า ? คำถามที่ตามมาคือแล้วแจ๊ครู้ได้อย่างไรละครับว่า Catherine นั้นดื่มเหล้าจัดถึงขนาดติด ? ถ้าเรามองย้อนกลับไปตอนต้นจะเห็นว่ามีตอนนึงที่ Catherine นั้นออกจากบ้านไปหาลูกสาวเพื่อขอยืมเงินแต่กลับไปติดคุกเพราะดื่มเหล้าเข้า ตรงนี้เราอาจจะมองได้ว่าวันนั้นแจ็คเห็นเธอดื่มเหล้าจนกระทั่งไปติดคุกเข้า และอาจรอช่วงเวลาลงมือโดยอาจจะเฝ้าสังเกตการณ์และรออยู่ พอเห็น Catherine ออกมาจึงเข้าไปพูดคุยด้วยจนกระทั่งสบโอกาสจึงลงมือกับเธอก็เป็นได้ ครับ ก็เป็นการมองในแง่ที่ว่าเป็นปัญหาของเหยื่อที่ติดเหล้าจากจุดร่วมสังหารเหยื่อของแจ็ค แต่จะเป็นประเด็นนี้เพียงอย่างเดียวหรือไม่ ? คำตอบนี้มีบางคนเชื่อกันว่าจริงๆ แล้ว Catherine Eddowes นั้นมีอาชีพเป็นโสเภณีด้วยในบางครั้ง ?!?





                          แต่ว่าอาจจะเป็นแค่ตอนที่เธอดื่มเหล้าจนเมาแล้วจึงทำเท่านั้น เธอจะทำจริงหรือไม่ ก็เป็นแค่ความเชื่อละครับ แต่ไม่มีใครยืนยันว่าเธอทำอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เป็นข้อสันนิษฐานกันไป ซึ่งจากจุดนี้ก็ไปตรงกับจุดร่วมจากเหยื่อของ JTR พอดี ความต้องการสังหาร Catherine ของแจ๊คจึงตามมา ประเด็นที่น่าคิดต่อมาก็คือยังจำกันได้มั๊ยครับ (น่าจะได้นะถ้าอ่านมาตอนต้นๆ อิอิ) ว่าตอนที่เธออกจากบ้านเพื่อไปขอยืมเงินลูกสาว ตอนนั้นเธอน่าจะไม่มีเงินใช่มั๊ยครับ แต่ว่าเธอทำไมถึงมีเงินไปดื่มเหล้าจนติดคุกได้ ซึ่งตรงนี้คิดได้เป็น 3 ประเด็นครับ คือประเด็นแรกเธออาจจะทำอาชีพอย่างที่ว่ามาจริงแต่เป็นบางครั้ง





                          ประเด็นที่สองคือเธออาจนำอะไรซักอย่างที่มีไปจำนำ (จำตั๋วจำนำที่ตำรวจพบในกระเป๋าเธอได้หรือเปล่าขะรับ) ทำให้เธอมีเงินไปดื่มเหล้าได้ และประเด็นสุดท้ายมีคนชวนเธอไปดื่มและเลี้ยงเหล้าเธอ ชายคนนี้อาจจะเป็นแจ๊คหรือเปล่า ? ไม่มีใครทราบครับและทั้งสามประเด็นที่ว่านี้มาก็เป็นข้อที่น่าคิดนะครับ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นยังไงอีกนั่นแหละครับ หึ หึ

    อีกประเด็นที่น่าขบคิดกันก็คือคำพูดที่ทิ้งไว้ ณ บริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เป็นคำพูดที่มาจากของฆาตกรจริงๆ หรือเปล่า ? กรณีนี้ก็มีคนศึกษาเหมือนกันครับ เขาคือ Philips Sugden ได้ให้ข้อสังเกตเอาไว้ 3 ข้อด้วยกันคือ





                          1. ข้อความที่ปรากฏบนกำแพงนั้นไม่น่าจะเขียนโดยฆาตกร และน่าจะเกิดหลังจากที่ฆาตกรนำเศษชิ้นส่วนหรือเสื้อผ้าของเหยื่อไปทิ้งยังบริเวณนั้น แล้วมีใครบางคนมาเขียนเอาไว้ทีหลังมากกว่า





                          2. อาจจะเป็นปัญหาที่เกิดจากการอพยพมาอยู่ยังย่านนี้ของชาวยิว (ยังจำกันได้มั๊ย) กับชาวเมืองที่ Whitechapel กรณีนี้คืออาจจะเป็นการใส่ความให้ชาวยิวหรือเป็นอาจการประกาศศักดาของชาวยิวเอง และเรื่องที่คำว่า \"Jews\" แต่กลับสะกดเป็น \"Juwes\" อีกด้วย





                          3. ข้อนี้เค้าได้ตั้งสมมติฐานเอาไว้ว่า \"ฆาตกรตัวจริง\" นั้นถูกปกป้องจากตำรวจโดยชาวยิวเอง ซึ่งประเด็นนี้ เป็นที่กล่าวขานกันเป็นอย่างมากระหว่างตำรวจเอง





                           เป็นที่น่าสนใจดีนะครับระหว่างข้อสมมติฐาน 3 ข้อที่ผ่านมานี้ ก็น่าคิดดีนะครับ เหตุผลแต่ละข้อก็แตกต่างกันไป แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีผลดีกับชาวยิวเท่าไหร่นา อิอิ ก็ลองใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเอาก็แล้วกันนะครับ แต่ทางที่ดีอ่านแล้วอย่าไปซีเรียสกับมันเป็นดีที่สุด ถือซะว่าอ่านประวัติศาสตร์อังกฤษในอีกแง่มุมหนึ่งก็พอ ไว้เจอกันในตอนต่อไปครับ จบการรายงาน ^_^





                           Jack The Ripper ตอนที่ 7 The Major Suspects





                           สวัสดีครับ กลับมาพบกับ แจ๊คจอมเชือด ตอนที่ 7 ซึ่งตอนนี้จะเป็นการจบ Series JTR แล้ว จะว่าไปก็นานพอดูน่ะนะครับ หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานนี้ กว่าจะมาถึงตอนนี้ได้ นานจริงๆ อิอิ ก็อาศัยอู้เอามาซะเรื่อยผม จริงๆ แล้วข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ JTR นั้นมีมากมายครับ สามารถติดตามกันได้จากหลายๆ ที่ หรือไม่ก็ตอนนี้รู้สึกว่าจะมีหนังสือวางจำหน่ายแล้ว  ตอนนี้จะเป็นการมุ่งประเด็นไปยังที่ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นแจ๊คซะเป็นส่วนใหญ่ และบทสรุปจากผู้สอบสวนบางคนด้วย เอาล่ะไม่พูดพล่ามทำเพลงดีกว่า เชิญอ่านกันได้ตามอัธยาศัยเลยดีกว่าครับ ข้างล่างนี่เลย





                           ยังมีใครพอใจลักษณะเด่นหรือว่ารูปร่างของผู้ต้องสงสัยที่ทางการตำรวจตั้งเป้าไว้และคาดคะเนกันเอาไว้ว่า เขาผู้นั้นอาจจะเป็น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรจอมโหดของย่าน Whitechapel ยังมีใครพอจำได้บ้างครับ ? ไม่เป็นไร อิอิ ผมก็ลืมไปแล้วเหมือนกันงั้นก่อนอื่นเรามาดูข้อสรุปลักษณะของผู้ที่คาดว่าจะเป็น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ กันก่อนดีกว่านะ โดยลักษณะเด่นทั้งหมดนี่นำจากปากคำของพยานบุคคลต่างๆ ดูกันเลย





                           แจ๊ค - เป็นชายผิวขาวอายุระหว่าง 20 - 40 ปี โดยประมาณ





                           แจ๊ค - แต่งตัวค่อนข้างดี มีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง แน่นอนครับว่าทางศัลยแพทย์





                           แจ๊ค - อาจจะเป็นชาวต่างชาติ (สำหรับคนอังกฤษนะ) ส่วนใหญ่จะสงสัยว่าเป็นคนยิว





                           แจ๊ค - เป็นคนถนัดมือขวา





                           แจ๊ค - มีถิ่นพักอาศัยอยู่ในอีสต์เอนด์ (East End) หรือในย่าน Whitechapel





                           แจ๊ค - มีงานทำที่ค่อนข้างดี น่าจะฐานะดีด้วย และยังโสดอยู่





                           ดูซิครับ ข้อมูล ข้อสันนิษฐานต่อนายแจ๊คมีตั้งบานตะเกียง แต่ทำไมยังจับตัวกันไม่ได้ซักกะทีอ่ะเน้อ แต่ก็มีการตั้งข้อสันนิษฐานและระบุผู้ต้องสงสัยที่เข้าข่ายตามลักษณะที่ว่ามาอยู่บ้างเหมือนกัน จากการสืบสวนจากแฟ้มคดีต่างๆ ของนาย Sir Melville Macnaghten หมอนี่ได้ระบุผู้ต้องสงสัยที่ (ตัวเอง) คิดว่าน่าจะเป็น JTR มาด้วยกัน 3 คน แล้วใครบ้างอ่ะ ? ก็ตามนี้เลย





                           1. คนแรก Montague John Druitt คนนี้มีดีกรีเป็นถึงนายแพทย์มาจากครอบครัวที่อบอุ่นเรียกได้ว่ามีประวัติที่ดีหน่อย แต่ก็หายตัวไปหลังจากเกิดคดีตอน Miller\'s Court จากข้อมูลกล่าวว่าเป็นคนที่คลั่ง Sex พอสมควร แต่คำกล่าวก็ตกไปเนื่องจากมารู้เอาภายหลังว่าโดนฆาตกรรมไป





                           2. นาย Kosminski เป็นชายชาวยิวที่สติไม่ค่อยดี อาศัยอยู่ในย่าน Whitechapel ที่เกลียดชังผู้หญิงอย่างมาก โดยเฉพาะพวกคุณโสทั้งหลาย (ขนาดสติไม่ค่อยดียังจะรู้อีกนะ ว่าใครเป็นหรือไม่เป็น อิอิ) อ้อ อีกอย่างนึง ชายคนนี้ถูกปล่อยตัวออกมาจากสถานกักกันเมื่อปี 1889 เป็นสถานกักกันผู้ที่มีปัญหาทางจิต ซึ่งหมอนี่มักจะไปพัวพันกับหลายๆ เหตุการณ์ที่ไม่ดี จึงทำให้กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญไป นอกนั้นก็ไม่มีรายละเอียดของหมอนี่มากเท่าไหร่นัก





                           3. นาย Michael Ostrog แพทย์ชาวรัสเซียก็ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเหมือนกัน ซึ่งปูมหลังของหมอคนนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ค่อยจะขาวสะอาดซักเท่าไหร่นัก เคยเป็นแพทย์ในสถานกักกันคนมีปัญหาทางจิตด้วย ก็นับเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับต้นๆ เหมือนกัน





                           ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนนี้เป็นผลงานการสืบสวนของนายตำรวจ Sir Melville Macnaghten ที่แกะรอยจากทางแฟ้มคดีที่มีอยู่ของทางกรมและอาศัยการสืบสวนตามที่เกิดเหตุ และผู้ที่เรียกได้ว่ามีส่วนสำคัญในการสืบสวนคดี JTR อีกคนนี้ก็ได้แก่ หัวหน้าชุดสืบสวนนาย Frederick George Abberline ซึ่งมีบทบาทในการตามสอบสวนสืบสวนเรื่องราวนี้มานานพอดู แต่ว่าหมอนี่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับ Sir Melville เรื่องที่ว่าทั้ง 3 คนด้านบนเป็นผู้ต้องสงสัยเท่าไหร่นัก แต่กลับไปสนใจกระทาชายนาย George Chapman ที่โดนแขวนคอไปเมื่อปี ค.ศ.1903 เนื่องจากวางยาพิษฆาตกรรมภรรยาตัวเองเข้า ไม่ได้สนใจแบบพิศวาสอะไรเทือกนั้นนาค้าบ อิอิ แต่กำลังคิดว่านาย George เนี่ย อาจจะเป็น JTR ก็เป็นได้ แต่ก็นะครับได้แต่สงสัยเพราะหลักฐานพยานที่แน่นหนาก็ไม่มี แต่อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ว่าใครคือ JTR นั้นจนบัดนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานนับศตวรรษ ปริศนาทั้งหลายก็ยังไม่อาจไขกระจ่างได้ ยังคงเป็นม่านหมอกอันดำมืดในอดีตของอังกฤษที่ ณ ครั้งหนึ่งเคยมีฆาตกรใจโฉดนาม แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ อาศัยอยู่ แม้ว่าแฟ้มคดีของแจ๊คนั้นจะถูกปิดไปเมื่อปี ค.ศ. 1892 และวายร้ายคนนี้ก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ของอังกฤษอย่างสิ้นเชิง คงเหลือทิ้งไว้แต่ปมตำนานอันน่าสยองขวัญและลึกลับที่ผู้คนยังคงเล่าขานต่อกันมาจนถึงปัจจุบันพร้อมกับคำถามที่ว่า \"ใครคือ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ?\"





                          ครับ ผ่านมาจนถึงบทส่งท้าย ก็เป็นอันจบไปกับตำนานเรื่องนี้ สำหรับ JTR ในที่สุดก็มาถึงบทอวสานซะแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันมาครับ แหม ดีใจ อิอิ สำหรับ JTR เรื่องนี้นับว่านานนะครับกว่าผมจะทำเสร็จ อาศัยอู้เอาเป็นระยะๆ 555 ^O^ มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะมีคำถามว่าแจ๊คหายไปไหน โดนจับหรือเปล่า หรือว่ากลัวว่าจะโดนจับได้ซักวันเลยเลิกประกอบอาชญากรรมเด็ดขาดไป หรือว่าเสียชีวิตไปก่อน ก็มีหลายกระแสครับ เหมือนที่ว่าฮิตเลอร์ตายหรือไม่นั่นแหละ เอ๊ เอาเรื่องแจ๊คเข้าไปโยงกับพ่อหนวดนั่นได้ยังไง อิอิ แต่ว่านะผมว่าอาจจะมีคนที่รู้ว่า แจ๊คหายไปไหน คนๆ นั้นคือ ดีโอ บรันโด ครับหรือไม่ก็อาจจะเป็นโจเซฟ โจสตาร์ก็เป็นได้ ไม่เชื่อก็ไปดูโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษเล่ม 3 ซิ แล้วจะรู้ ฮี่ๆๆ ^O^ อ้อ ถ้าตอนนี้ใครอยากชมภาพยนตร์ล่าสุดที่ทำเกี่ยวกับแจ๊คนั้นก็เห็นจะเป็นเรื่อง From Hell ที่นาย Johny Depp นำแสดงนั่นละ เอาละ ส่งท้ายกันเสียที ขอบคุณที่ติดตามอ่าน Series นี้ครับ ^_^





                          ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×