ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพนิยายกรีก

    ลำดับตอนที่ #40 : ^0^กิเลนหรือขี่เลนในอีกเเง่มุมหนึ่งค่ะ^0^

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 253
      0
      23 ส.ค. 48





                                                                           ขี่หลิน

                



                         ขอบคุณ  คุณ Samadrsgon  ค่ะ





                         หมายเหตุ  จะไม่มีการเปลี่ยนเเปลงคำพูดใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ





                         ขี่หลิน หรือ ไคหลิน เป็นยูนิคอร์นของจีน บางทีคนตะวันตกเรียกว่า “ยูนิคอร์นตะวันออก”(Eastern Unicorn) หรือเขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งคือ Kylin, Ki lin หรือ Ch’i lin และคนไทยเรียกว่ากิเลน



                

                         ขี่หลินเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทนสัตว์ชนิดนี้ทั้งสองเพศ เพศผู้เรียกว่า ขี่ หรือ ไค เพศเมียเรียกว่า หลิน ขี่หลินมีลักษณะคือ มีลำตัวของกวาง กีบเท้าของม้า และหางของวัว มีขนห้าสี เป็นสีมงคลของจีนคือ สีแดง, สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีขาวและสีดำ ขนที่ท้องเป็นสีเหลือง บางแหล่งว่า ขี่หลินมีหัวของมังกร ลำตัวของม้า และมีเกล็ด(บางแหล่งว่าสีเขียว)เหมือนมังกร และบางแหล่งรวมลักษณะทั้งสองอย่างคือคือ มีหัวของมังกร แผงคอของสิงโต ลำตัวของกวาง และหางของวัว อย่างไรก็ตามขี่หลินมีเขาเดียวอยู่ที่กลางหน้าผาก เป็นเขาเนื้อมีลักษณะยาว(บ้างว่ายาวสิบสองฟุต) หรือบางแหล่งว่าสั้น, ตรง หรือบางแหล่งว่าเป็นแนวโค้งไปตามหลัง, เรียวและมีร่องเป็นเกลียว และเป็นสีงาช้าง ขี่หลินมีอายุ 1,000 ปีและเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจีน



                

                         ขี่หลินเป็นสัตว์ที่เมตตากรุณา และว่ากันว่าขี่หลินเป็นสัตว์ที่ใจอ่อน มันจะไม่เหยียบแม้แต่ใบหญ้าหรือแมลง ซึ่งบางแหล่งว่ามันเดินอย่างนิ่มนวลจนไม่มีเสียง บางแหล่งว่ามันจะไม่เดินเหยียบหญ้าหรือแมลง หรือบางแหล่งว่ามันสามารถเดินบนต้นหญ้าโดยที่ไม่ได้เหยียบ ขี่หลินสามมารถวิ่งได้ที่ความเร็วแสงตามที่บางแหล่งกล่าวไว้ ขี่หลินจะกินเฉพาะพืชที่มีอายุไม่ยืนเท่านั้น มันมีเสียงไพเราะเหมือนระฆังลมหนึ่งพันใบ และจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้โดยทุกวิถีทาง บางแหล่ว่าขี่หลินเป็นสัตว์ที่ไวต่อความรู้สึกมาก มันสามารถรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของเงาที่ถูกฉายโดยแสงจันทร์



                

                         ขี่หลินเกิดจากธาตุทั้งห้าคือ ไฟ, น้ำ, ไม้, โลหะ และดิน และเชื่อกันว่าขี่หลินมีกำเนิดจากพื้นดิน



                

                         การพบเห็นขี่หลินครั้งแรกและได้มีการบันทึกไว้น่าจะเป็นของจักรพรรดิ ฟู ซาย ซึ่งได้บันทึกไว้เมื่อประมาณ 2,800 ปีก่อน ค.ศ. เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งในขณะที่ท่านกำลังวิเคราะห์เกี่ยวกับ การผ่านไปอย่างรวดเร็วของชีวิตมนุษย์ กับความเป็นไปได้ที่ถูกจำกัดสำหรับสนับสนุนความยั่งยืนให้กับสังคม ฟู ซาย ชำเลืองมองเห็นกวางประหลาดยืนอยู่ใกล้แม่น้ำเหลือง(บางแหล่งว่าโผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำ) สัตว์ตัวนี้มีขนาดใกล้เคียงกับลูกแกะ แต่มีเขาสีเงินหนึ่งเขายื่นออกมาจากกลางหน้าผาก และมันมีหลายสี ที่ใดก็ตามที่มันยืนในแม่น้ำน้ำที่ขุ่นจะกลับเป็นใส ในขณะที่สัตว์ตัวนี้เดินออกไป ฟู ซาย เห็นเครื่องหมายแปลกๆที่ด้านข้าง และหลังของมัน ในขณะที่สัตว์ตัวนี้เดินไกลออกไป เขาพบว่าตัวเองกำลังวาดสัญลักษณ์นี้บนพื้นข้างหน้า ทันใดนั้นเขาก็รู้ว่า เครื่องหมายเช่นนี้สามารถใช้อธิบายความคิดและคำพูดได้ ด้วยเหตุนี้ ขี่หลินจึงเป็นต้นเหตุสำหรับการเรื่มต้นภาษาเขียนของจีน



                

                        จักรพรรดิ Huang เป็นคนออกแบบบ้านและเมืองครั้งแรก ในยุคนี้มีการเห็นขี่หลินอีกครั้งในวังของท่าน ตามที่ได้บันทึกไว้ในหนังสือไม้ไผ่ 2,672 ปีก่อน ค.ศ. ในเวลาที่ท่านแก่มากท่านเห็นขี่หลินยืนอยู่ในสวน สัตว์ตัวนี้เรียกท่านอย่างอ่อนโยนในขณะที่ท่านเพ่งมองอย่างเลื่องใสอยู่ หลังจากนั้นไม่นานท่านก็ตาย



                

                        551 ปีก่อน ค.ศ. ขี่หลินมาหาหญิงสาวที่ชื่อ เยน เชนเซ ขณะที่กำลังเดินทางไปนมัสการศาลเจ้าบนภูเขา มันคุกเข่าข้างหน้าเธอ แล้ววางแผ่นจารึกหยกขนาดเล็กไปในมือเธอจากปากของมัน บนข้างหนึ่งของแผ่นจารึกมีข้อความจารึกว่า เธอจะกลายเป็นแม่ของราชาไร้บัลลังก์ หลายเดือนจ่ากนั้น เยน เชนเซ ให้กำเนิดลูกชายชื่อ คัง ฟู ซู หรือที่คนไทยเรียกว่าขงจื้อ



                

                        เจ็ดสิบปีต่อมา ขงจื้อเป็นขี่หลินอีกครั้ง แต่มันถูกฆ่าตายแล้ว เขาจึงวามปากกาหยุดเขียนคำสอนอีก



                

                        ขี่หลินจะปรากฏตัวเฉพาะในเวลาที่จะมีเหตุการณ์สำคัญคือเมื่อผู้นำประเทศยุติธรรม และเมตตา และเมื่อเป็นยุคที่มีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง มันจะปรากฏเมื่อผู้นำที่ยิ่งใหญ่เกิดหรือตายอีกด้วย และการปรากฏของมันถือว่าเป็นเครื่องหมายของฤกษ์ดี



                

                        ประเทศไทยเรียกขี่หลินว่ากิเลน กิเลนไทยนั้นมีสองเขา ในขณะที่ของจีนมีเขาเดียว และบางทีของไทยมีการใส่ลายกนกมาด้วย





                        ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×