ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ^0^เดดาลัสกับอิคารัส^0^
                                                    ^0^เดดาลัสกับอิคารัส^0^
                  กาลครั้งหนึ่ง  มีเด็กชายผู้หนึ่งนามว่า  อิคารัส  กับบิดาของเขานามว่า  เดดาลัส  ทั้งสองถูกจองจำอยู่ ณ  หอคอยเเห่งหนึ่งบนเกาะครีต
                  จากช่องหน้าต่างเล็ก ๆ ของหอคอยซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายเเห่งนี้  สองพ่อลูกก็สามารถมองออกไปเห็นท้องสมุทรสีน้ำเงิน  เเละเฝ้ามองหมู่นกนางนวลกับนกอินทรีโผบินไป - มาในท้องฟ้าเหนือเกาะ
                  บางครั้ง  จะมีเรือสักลำหนึ่งเเล่นใบออกไปยังโพ้นทะเล  เเละเเล้ว  เดดาลัสกับอิคารัสก็เริ่มโหยหาอิสรภาพ  เเละปรารถนาที่จะล่องเรือออกไปยังดีลาสเเล้วไม่ต้องกลับมาพบเห็นเกาะครีตอีกต่อไป
                  สองพ่อลูกจำต้องหลบเร้นซ่อนตัวอยู่ในอาณาบริเวณอันรกร้างว่างเปล่าของเกาะ  เพราะกษัตริย์ไมนอสผู้สั่งให้นำตัวสองพ่อลูกไปคุมขังยังจับตาเฝ้าดูเรือทุกลำที่เเล่นเข้ามาหรือเเล่นออกจากเกาะ  ดังนั้นเดดาลัสกับอิคารัสจึงไม่กล้าเฉียดกรายเข้าไปใกล้ท่าเรือ  ซึ่งที่นั่น  มีเรือโบราณกรีกจอดทอดสมออยู่  เเละพร้อมที่จะลอยลำออกไปจากเกาะ
 
                  เเม้ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น  อิคารัสก็ค่อนข้างมีความสุข  นอกจากท้องทะเลสีน้ำเงิน  เรือทั้งหลาย  เเละเหล่านกกา  ซึ่งเขาชอบเฝ้ามองเเล้ว  เขาก็ยังเที่ยวหาจับหอยจับกุ้งตามชายฝั่ง  หาจับปูตามซอกหิน  รวมทั้งสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย
                  เเต่เดดาลัสกลับรู้สึกเดียวดายเเละเศร้าหมองยิ่งขึ้น  เขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเฝ้ามองหมู่นกนางนวลโผบินไปในท้องฟ้า  พล่างครุ่นคิดหาหนทางที่เขากับอิคารัสจะสามารถหลบลี้หนีไปจากเกาะเเห่งนี้
                 
                  ในที่สุด  เดดาลัสสามารถหาวิธีหลบหนีออกจากหอคอยได้...
                  ... วันหนึ่ง  เมื่ออิคารัสเอาก้อนหินขว่างฝูงนกนางนวล  เขาก็สามารถสังหารนกได้ตัวหนึ่ง  จึงนำกลับมาให้พ่อ
                  \"พ่อ  ดูสิ  ขนของมันเป็นมันวาว  เเละปีกก็ยาวเหลือเกิน\"  เด็กน้อยพูดกับพ่อ
                  เดดาลัสรับนกไปถือไว้ในมือ  เขาพลิกไปพลิกมาอย่างช้า ๆ พลางพินิจพิจารณาดูปีกของมัน
                  \"คราวนี้  หากเรามีปีก\"  อิคารัพูดปนเสียงหัวเราะ  \"เราก็สามารถโบยบินออกไปสู่อิสรภาพ\"
                  พ่อของเขานิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน  ขณะถือซากนกไว้ในมือพลางเเหงนหน้ามองดูฝูงนกเป็นระยะ ๆ  นกเหล่านั้นกำลังบินวนเป็นวงอยู่ในท้องฟ้าเหนือเกาะครีต
                  ในที่สุด  เขาก็เกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา  เขาจึงกล่าวกับลูกชายด้วยน้ำเสียงที่เเผ่วเบาว่า  \"เเล้วเราก็จะมีปีกเช่นกัน\"
                  นับเเต่นั้นมา  เดดาลัสก็ไม่นิ่งเฉยเซื่องซึมอีกต่อไปเเล้ว  เขาถอนขนนกออกจากนกทุกตัวที่อิคารัสสามารถล่ามาได้  เเล้วลงมือทำปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่ง    เขายึดขนนกติดเข้ากับโครงปีกด้วยขี้ผึ้งละลายเเละเส้นด้ายที่ดึงออกมาจากเสื้อคลุมของเขา
                  เมื่อปีกทั้งสองเสร็จเรียบร้อย  เดดาลัสก็นำมันมามัดเข้ากับเเขนของตน  เเละเมื่อกระพือเเขนขึ้น ๆ ลง ๆ เขาก็สามารถลอยตัวขึ้นไปในอากาศ  เเล้วเขาก็โผบินไกลออกไปเหนือท้องน้ำ
                  อิคารัสกระโดดโลดเต้นด้วยความดีอกดีใจ  พลางตะโกนเรียกให้พ่อกลับมาทำปีกอีกคู่หนึ่ง  เพื่อเขากับพ่อจะได้โบยบินออกไปจากเกาะครีตตลอดกาล
                  เมื่อเดดาลัสทำปีกคู่ที่สองซึ่งเล็กกว่าเสร็จเรียบร้อย  เขาก็เอามันมามัดเข้ากับเเขนของลูกชาย  เขาย้ำเตือนอิคารัสว่า  อย่าบินปลีกตัวออกไปตามลำพังในท้องฟ้า  เเต่จะต้องบินเคียงข้างเขาไปโดยตลอด
                  \"หากลูกบินต่ำเกินไป  ความชื้นจากน้ำทะเลจะทำให้ขนนกหนักขึ้น  เเล้วลูกก็จะร่วงลงไปเเละจมลงในทะเล\"  เดดาลัสอธิบายเหตุผล    \"เเต่หากลูกบินสูงขึ้นไปใกล้ดวงอาทิตย์  ความร้อนจะเเผดเผาให้ขี้ผึ้งละลาย  เเล้วลูกก็จะร่วงลงไปเช่นกัน\"
                  อิคารัสจึงรับปากว่าจะปฎิบัติตามดังที่พ่อกำชับไว้  เเล้วสองพ่อลูกก็พากันโผกระโจนจากชะง่อนผาที่สูงที่สุดบนเกาะเเห่งนั้น  เเละโบยบินมุ่งหน้าไปสู่ดีลาส
                  ตอนเเรก ๆ อิคารัสก็เชื่อฟังคำสั่งของพ่อเเละบินติดตามไปในระยะกระชั้นชิด  เเต่ไม่ช้าต่อมา  เขาก็เริ่มเพลิดเพลินกับการโบยบินกระทั่งลืมคำที่พ่อกำชับไว้จนหมดสิ้น    เขาเหยียดเเขนสูงขึ้น  เเล้วก็บินสูงขึ้นเเละสูงขึ้นไปยังสวรรค์เบื้องบน
                  เดดาลัสตะโกนเรียกลูกชายกลับลงมา  เเต่กระเเสลมพักกระหน่ำอย่างรุนเเรงเเละพัดพาถ้อยคำของเขาไกลห่างออกไป  อิคารัสจึงไม่ได้ยินเสียงเรียกของบิดา  ปีกทั้งสองยังคงพาเขาสูงขึ้นเเละสูงขี้นไป  กระทั่งขึ้นไปถึงเขตเเดนของหมู่เมฆ  เเละขณะที่บินสูงขึ้นเเละสูงขึ้นไป  เขาก็รู้สึกอบอุ่นเเละอบอุ่นขึ้น  เเต่เขาก็ลืมคำเตือนของพ่อ  เเละยังมุ่งหน้าบินสูงขึ้นไปอีก
                  สักครู่ต่อมา  เขาก็มองเห็นขนนกปลิวว่อนอยู่รอบตัว  ในทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำเตือนของพ่อขึ้นมาได้  เขาจึงรู้ว่า  ความร้อนของดวงตะวันได้เเผดเผาขี้ผึ้งที่ยึดขนนกติดกับโครงปีกละลายเเล้ว
                  ในที่สุด  อิคารัสก็ร่วงละลิ่วลงไป  เขาพยายามที่จะกระพือปีกเพื่อบินต่อ  เเต่กระเเสลมก็พัดกระหน่ำให้ขนนกปลิวว่อนอยู่รอบตัว  จึงทำให้เขามองไม่เห็นอะไร
                  เขาส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกขณะที่ร่างของเขาหมุนคว้างร่วงจากท้องฟ้า  เเล้วอิคารัสผู้น่าสงสารก็ดิ่งลงไปสู่ห้วงน้ำสีน้ำเงินของทะเล  ซึ่งได้รับการขนานนามว่าอิคาเรียนนับเเต่บัดนั้นมา
                  เดดาลัสได้ยินเสียงกรีดร้อง  จึงรีบบินตรงไปยังตำเเหน่งที่มาของเสียง  หากเขาก็ไม่พบเเม้เเต่อิราคัสหรือปีกของลูกน้อย  นอกจากขนนกสีขาวจำนวนหนึ่งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
                  ผู้เป็นพ่อจึงจำต้องเดินทางต่อไปด้วยความโศกเศร้า  ในที่สุดเขาก็มาถึงชายฝั่งของเกาะใกล้เคียงเเห่งหนึ่ง  บนเกาะเเห่งนั้น  เขาสร้างวิหารหลังหนึ่งขึ้นมาถวายเเด่เทพเจ้าอพอลโล  เเล้วก็เเขวนปีกของตรเป็นเครื่องสักการะบูชาพระองค์  ภายหลังที่คร่ำครวญทุกข์โศกถึงลูกชายที่จากไปเเล้ว  เขาก็ไม่เคยพยายามที่จะบินอีกเลย
                  ขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านค่ะ
                  ตอนต่อไปจะเป็นเรื่องของคิวปิดกับเทพเจ้าอพอลโลนะคะ  อย่าลืมติดตามอ่านให้ได้นะคะ
                 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น