ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพนิยายกรีก

    ลำดับตอนที่ #15 : ^0^เทพีอาเทน่า,เอเธน่า (Athena)^0^

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 722
      3
      26 ก.ค. 48



                        

                         ตรงที่โดนเซ็นเซอร์เเก้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ  ขอโทษค่ะ

                                                      



                                                  ^0^เทพีอาเทน่า,เอเธน่า (Athena)^0^





                         ...ในคณะเทพโอลิมเปียนมีเทวีพรหมจารีอยู่ 3 องค์ ทรงนามตามลำดับว่า เอเธน่า (Athene) อาร์เตมิส (Artemis) เฮสเทีย (Hestia)   2 องค์เเรกเป็นธิดา องค์หลังเป็นเทวีภคินีของเทพปริณายกซูส  แต่ละองค์มีประวัติและความสำคัญดังจะกล่าวต่อไปนี้





                         อันเทวดาของกรีกนั้นถึงแม้ไม่ตายก็หาความรู้สึกเจ็บปวดในกายองค์ไม่ การถือกำเนิดของเอเธน่านั้น กล่าวกันว่า ครั้งหนึ่ง ซูส เทพบดีได้รับคำทำนายว่า โอรสธิดาที่ประสูติแต่มเหสีเจ้าปัญญานาม มีทิส (Metis) นั้นจะ มาโค่นบัลลังก์ ของพระองค์ ไท้เธอก็แก้ปัญหาด้วยการจับเอามีทิสซึ่งทรงตั้งครรภ์แก่นั้นกลืนเข้าไปในท้อง แต่เวลาไม่ นานนัก เทพปริณายกซูสบังเกิดอาการปวดเศียรขึ้นมา ให้รู้สีกปวดร้าวเป็นกำลัง ไท้เธอจึงมีเทวโองการสั่งให้เรียก ประชุมเทพ ทั้งปวงบนเขาโอลิมปัส ให้ช่วยกันหาทางบำบัดเยียวยา แต่ความอุสาหพยายามของทวยเทพก็ไม่เผล็ดผล   ซูส  ไม่อาจทนความเจ็บปวดต่อไปได้  ในที่สุดจึงมีเทวบัญชาสั่งโอรสองค์หนึ่งของไท้เธอ คือ ฮีฟีสทัส (Hephaestus) หรือ วัลแคน (Vulcan) ให้ใช้ขวานแล่งเศียรของไท้เธอออก เทพฮีฟีสทัสปฏิบัติตาม เอาขวานจามลงไป ยังไม่ทันเศียรซูสจะแยกดี เทวีเอเธน่าก็ผุด ขึ้นมาจากเศียรเทพบิดา ในลักษณะเจริญวัยเต็มที่แต่งฉลององค์หุ้มเกราะแวววาว พร้อมสรรพ ถือหอกเป็นอาวุธ และประกาศชัยชนะเป็นลำนำกัมปนาทเป็นที่พิศวงหวั่นหวาดแก่ทวยเทพเป็นที่สุด พร้อมกันนั้นทั่วพื้นพสุธาและมหาสมุทรก็บังเกิดอาการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างใหญ่หลวง  ประกาศกำเนิดเทวีองค์นี้สนั่นไปทั้งโลก





                        การอุบัติของเทวีองค์นี้ถือว่าเป็นไปเพื่อยังสันติสุขให้บังเกิดในโลกและขจัดความโฉดเขลาที่ครองโลกจนตราบเท่าบัดนั้นให้สิ้นไปด้วยว่าพอเจ้าแม่ผุดจากเศียรซูส   เทวีแห่งความโฉดเขลาซึ่งไม่ปรากฏรูปก็ล่าหนีให้เจ้าแม่เข้าครองแทนที่  ด้วยเหตุนี้เทวีเอเธน่าจึงเป็นที่นับถือบูชาในฐานะเทวีครองปัญญา นอกจากนั้นเจ้าแม่ยังมีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย และการยุทธศิลปป้องกันบ้านเมือง





                        ภายหลังการอุบัติของเจ้าแม่เอเธน่าไม่นาน มีหัวหน้าชนชาวฟีนิเชียคนหนึ่งชื่อว่า ซีครอบส์ (Cecrop) พาบริษัทบริวาร อพยพเข้าไปในประเทศกรีซเลือกได้ชัยภูมิอันตระการตาแห่งหนึ่งในแคว้นอัตติกะ (Attica)  ตั้งภูมิลำเนาก่อสร้างบ้านเรือนขึ้นเป็นนครอันสวยงามนครหนึ่ง   เทพทั้งปวงเฝ้าดูงานสร้างเมืองนี้ด้วยความเลื่อมใสยิ่ง  ในที่สุดเมื่อเห็นว่าเมืองมีเค้าจะกลายเป็นนครอันน่าอยู่ขึ้นมาแล้ว  เทพแต่ละองค์ต่างก็แสดงความปรารถนาใคร่จะได้เอกสิทธิ์ประสาทชื่อนคร   จึงประชุมกันถกถึงเรื่องนี้  เมื่อมีการอภิปรายโต้แย้งกันพอสมควรแล้ว เทพส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็พากันยอมสละสิทธิ์ คงเหลือแต่เทพโปเซดอนและเทวีเอเธน่า 2 องค์เท่านั้นยังแก่งแย่งกันอยู่





                        เพื่อยุติปัญหาว่าใครควรจะได้เอกสิทธิ์ประสาทชื่อนคร  เทพปริณายกซูสไม่พึงประสงค์จะชี้ขาดโดยอำนาจตุลาการที่ไท้เธอ จะพึงใช้ได้ด้วยเกรงว่าจะเป็นที่ครหาว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไท้เธอจึงมีเทวโองการว่านครนั้นพึงอยู่ในความคุ้มครองของเทพหรือเทวี   ซึ่งสามารถเนรมิตของที่มีประโยชน์ที่สุดให้มนุษย์ใช้ได้  และมอบหน้าที่ตัดสินชี้ขาดให้แก่ที่ประชุม





                        เทพโปเซดอนเป็นฝ่ายเนรมิตก่อน  เธอยกตรีศูลคู่หัตถ์ขึ้นกระแทกลงกับพื้น  บันดาลให้มีม้าลำยองตัวหนึ่งผุดขึ้นท่ามกลางเสียงแสดงความพิศวงและชื่นชมของเหล่าเทพ   เมื่อเทพผู้เนรมิตม้าอธิบายคุณประโยชน์ของม้าให้เป็นที่ตระหนักแก่เทพทั้งปวงแล้ว  เทพต่างองค์ต่างก็คิดเห็นว่า  เทวีเอเธน่าคงไม่สามารถเอาชนะเนปจูนเสียเป็นแน่แล้ว  ถึงกับพากันแย้มศรวลด้วยเสียงอันดังแกมเย้ยหยันเอาเสียด้วย  เมื่อเจ้าแม่เอเธน่าเนรมิตต้นมะกอกต้นหนึ่งขึ้นมา   แต่ครั้นเจ้าแม่อธิบายถึงคุณประโยชน์ของต้นมะกอกที่มนุษย์จะเอาไปใช้ได้นานัปการนับตั้งแต่ใช้เนื้อไม้ ผล กิ่งก้าน ไปจนใบ กับซ้ำว่ามะกอกยังเป็นเครื่องหมายถึงสันติภาพและความรุ่งเรืองวัฒนาอีกด้วย   และเพราะฉะนั้นจึงเป็นที่พึงประสงค์ยิ่งกว่าม้า   ซึ่งเป็นเครื่องหมายของสงครามดังนี้ มวลเทพก็เห็นพ้องต้องกันว่าของที่เจ้าแม่เอเธน่าเนรมิตมีประโยชน์กว่า จึงลงมติตัดสินชี้ขาดให้เจ้าแม่เป็นฝ่ายชนะ





                        เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงชัยชนะครังนี้  เจ้าแม่เอเธน่าได้ประสาทชื่อนครนั้นตามนามของเจ้าแม่เองว่า เอเธนส์ (Athens) และสืบจากนั้นมาชาวกรุงเอเธนส์ก็นับถือบูชาเจ้าแม่ในฐานะเทวีผู้ปกครองนครของเขาอย่างแน่นแฟ้น





                        ตามที่อ่านกันมานั้น เห็นได้ว่าเรื่องนี้ใช่จะแสดงตำนานที่มาของชื่อกรุงเอเธนส์เท่านั้นไม่ หากยังเป็นตำนานกำเนิดของม้าในเทพปกรณัมกรีก และเป็นต้นเรื่องของการที่ชาวตะวันตกถือว่า ช่อมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพสืบ ๆ กันมาจนตราบทุกวันนี้





                        ยังมีอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเทวีเอเธน่า แสดงที่มาหรือกำเนิดของสิ่งธรรมชาติสนองความอยากรู้ของคนโบราณดังจะเล่าต่อไปนี้





                        ในประเทศกรีซสมัยดึกดำบรรพกาลโพ้น  มีดรุณีน้อยคนหนึ่งประกอบด้วยรูปโฉมสะคราญตาน่าพิสมัยยิ่งจนถึงแก่ว่า ถ้านางไม่มีความหยิ่งผยองในฝีมือทอผ้าและปั่นด้ายเป็นยอดเยี่ยมเสียอย่างเดียวเท่านั้น   นางก็คงจะเป็นที่รักของเทพและมนุษย์ทั้งมวลอย่างไม่ต้องสงสัย

    แน่งน้อยมีชื่อว่า อาแรคนี (Arachne) ด้วยความลุ่มหลงทะนงตนนางสำคัญว่าไม่มีผู้ใดอีกแล้วจะมีฝีมือเสมอกับนาง   ในที่สุดจึงกำเริบถึงแก่คุยฟุ้งเฟื่องไปว่าถึงเจ้าแม่เอเธน่าจะลงมาประกวดฝีมือกับเธอ   นางก็ยินดีจะขันสู้ไม่รอช้าเลย   นางโอ้อวดดังนี้เนือง ๆ จนเจ้าแม่เอเธน่าสุดแสนจะทนรำคาญต่อไปได้ ต้องลงมาจากเขาโอลิมปัสเพื่อลงโทษนางอาแรคนีมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่างสืบไป





                        เจ้าแม่จำแลงองค์เป็นยายแก่ เดินเข้าไปในบ้านของนางอาแรคนี   และนั่งลงชวนคุย    ชั่วประเดี๋ยวเดียวนางแน่งน้อยก็จับคุยถึงฝีมือตนและเริ่มโวเรื่องจะแข่งขันประกวดฝีมือกับเจ้าแม่เอเธน่าอีก   เจ้าแม่ตักเตือนโดยละม่อมให้นางยับยั้งคำไว้เสียบ้าง   เกลือกว่าคำของนางซึ่งพูดเอาเองเป็นเหตุให้เทพเจ้าขัดเคืองจะทำให้นางเคราะห์ร้าย   แต่นางอาแรคนี้มีจิตมืดมนมัวเมาไปในความทรนงตนเสียแล้วจนไม่แยแสต่อคำตักเตือน   กลับพูดสำทับว่า   นางอยากให้เจ้าแม่ได้ยินและลงมาท้าประกวดฝีมือเสียด้วยซ้ำ  นางจะได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อพิสูจน์ว่าคำกล่าวอ้างของนางเป็นความจริงเพียงใด ไม่ใช่พูดเอาเอง  คำหยาบหยามนี้ยั่วโมสะเจ้าแม่ถึงขีดสุด  ถึงกับสำแดงองค์ให้ปรากฏแก่อาแรคนีตามจริงและรับคำท้านั้นทันที





                        ทั้ง 2 ฝ่ายจัดแจงตั้งหูก แล้วต่างฝ่ายต่างทอลายผ้าอันงามวิจิตรขึ้น  เทวีเอเธน่าเลือกเอาภาพตอนเจ้าแม่แข่งขันกับเทพโปเซดอน  ส่วนนางอาแรคนีเลือกเอาภาพซูสลักพานางยูโรปาเป็นลาย   ครั้นทอเสร็จ  ต่างฝ่ายต่างเอาลายผ้ามาเทียบเคียงกัน สาวเจ้าอาแรคนีรู้สึกทันทีว่าของนางแพ้หลุดลุ่ย  ลายรูปโคโลดแล่นลุยไปในทะเล  มีคลื่นซัด  สาดออกเป็นฟองฝอยกับนางยูโรปาเกาะเขาอยู่ดูอาการกึ่งยิ้มกึ่งตกใจประกอบด้วยเกศาและผ้าสไบปลิวสยายด้วยแรงลม ไม่สามารถจะเทียบกับลายรูปชมรมทวยเทพพร้อม ด้วยรูปม้าและต้นมะกอกเนรมิต ซึ่งดูประหนึ่งมีชีวิตกระดุกกระ-ดิกได้นั้นเลย  อาแรคนีแน่งน้อยเสียใจนัก  ทั้งเจ็บทั้งอายในความผิดพลาดของตนไม่อาจทนอยู่ได้  เอาเชือกผูกคอหมายจะแขวนตัวตาย  เจ้าแม่เอเธน่าเห็นนางจะด่วนหนีโทษทัณฑ์ไปดังนั้น  จึงรีบแปรเปลี่ยนร่างของนางให้กลายเป็นแมงมุมห้อยโหนโตงเตงกับสาปนางให้ต้องปั่นและทอใยเรื่อยไปไม่มีเวลาหยุด   เป็นการเตือนมนุษย์ผู้ทรนงทั้งปวงมิให้หลงไปว่าตนอาจจะเทียมเทพใดเป็นอันขาด





                        ตามปกติเทวีเอเธน่าประทับอยู่เคียงข้างซูสเทพบิดามิได้ขาด  ด้วยซูสมักจะโปรดหารือฟังความเห็นคำแนะนำอันแยบคายของเจ้าแม่เนือง ๆ   ยามมีศึกสงครามเกิดขึ้นในโลกเจ้าแม่ขอประทานยืมโล่อันพึงสยบสยอนของเทพบิดาสพายลงมาสนับสนุนฝ่ายที่มีเหตุผลอันชอบธรรมในการสงครามเป็นนิตย์   ดังเช่น   สงครามกรุงทรอยอันลือลั่นนั้น  เอเธน่าก็เข้าร่วมด้วย  โดยยืนอยู่ข้างฝ่ายกรีก ในขณะที่เทพองค์อื่น ๆ เช่น เทวีอโฟร์ไดทีกับเทพเอเรสเข้าข้างฝ่ายทรอย เรื่องราวความสามารถในการสงครามของเทวีเอเธน่า จึงทำให้เจ้าแม่กลายเป็นเทวีอุปถัมภ์ของบรรดานักรบอีกอย่างหนึ่งด้วย   วีรบุรุษคนสำคัญ ๆจะไม่เกิดขึ้น หากขาดความช่วยเหลือของเจ้าแม่   เอเธน่าเคยช่วยเฮอร์คิวลิสในการทำงาน 12 อย่างตามคำสั่งของเทวีฮีร่า  เคยช่วยเปอร์เซอุสสังหารนางการ์กอนเมดูซ่า  ช่วยโอดีสซีอุส (หรือยูลิซิส) ให้เดินทางกลับบ้านจากยุทธภูมิทรอย อย่างปลอดภัย  กับทั้งยังช่วยเหลือเตเลมาคัส  บุตรชายของโอดีสซีอุสให้ตามหาพ่อจนสำเร็จ





                        ชาวกรีกนับถือเจ้าแม่อย่างแพร่หลายอยู่มาก   ถึงกับสร้างวิหารและที่บูชาอุทิศถวายเจ้าแม่ไว้เป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน  ที่มีชื่อเสียงที่สุดได้แก่ วิหารพาร์ธีนอน ณ กรุงเอเธนส์  ซึ่งเดี๋ยวนี้เหลือแต่ซาก แต่ก็ยังมีเค้าของฝีมือก่อสร้างอย่างวิจิตรพิสดารปรากฏอยู่ให้เห็น





                        นอกจากชื่อเอเธน่าหรือมิเนอร์วาแล้ว  ชาวกรีกและโรมันยังรู้จักเจ้าแม่ในชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อ   ในจำนวนนี้มีชื่อที่แพร่หลายกว่าเพื่อนได้แก่  พัลลัส (Pallas) จนบางทีเขาเรียกควบกับชื่อเดิมว่า  พัลลัสเอเธน่าก็มี   ว่ากันว่า มูลเหตุของชื่อนี้สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมตอนเจ้าแม่ปราบยักษ์ชื่อ พัลลัส ซึ่งไม่ปรากฏตำนานชัดแจ้ง  อาศัยเหตุที่เจ้าแม่ถลกหนังยักษ์มาคลุมองค์   คนทั้งหลายเลยพลอยเรียกเจ้าแม่ในชื่อของยักษ์นั้นด้วย  และเรียกรูปประติมา หรือ อนุสาวรีย์อันเป็นเครื่องหมายถึงเจ้าแม่ว่า พัลเลเดียม (Palladium) ในที่สุดคำว่า Palladium ก็มีที่ใช้ในภาษาอังกฤษถึงภาวะหรือปัจจัยที่อำนวยความคุ้มครองหรือความปลอดภัยให้เกิดแก่ชุมชนทำนอง Palladium ที่ชาวโรมัน อารักขาไว้ในวิหารเวสตาฉะนั้น





                       เกี่ยวกับการครองความบริสุทธิ์ของเจ้าแม่   มีเรื่องเล่าว่า เทพฮีฟีสทัสหมายปองเจ้าแม่ใคร่จะได้วิวาห์ด้วย  ได้ทูลขอต่อเทพบิดา  เทพบิดาประทานโปรดอนุญาต  แต่ให้ฮีฟีทัสทาบทามความสมัครใจของเจ้าแม่เอาเอง  เทพฮีฟีทัสไปทำรุ่มร่ามเข้าอย่างไรไม่ปรากฏ เจ้าแม่ไม่เออออด้วย  ในที่สุดฮีฟีสทัสก็เดินแบบเจ้าชู้ยักษ์หมายจะรวบรัด  ในระหว่างการฉุกละหุกอุตลุดนั้นของไม่บริสุทธิ์ของฮีฟีทัสตกลงมายังพื้นโลก เป็นเหตุให้เกิดทารกผุดขึ้นมาเป็นเพศชาย  เจ้าแม่รอดพ้นมลทินแปดเปื้อน  แต่รับทารกไว้ในปกครอง เอาทารกบรรจุหีบให้งูเฝ้า และฝากไว้ให้ลูกสาวท้าวซีครอปส์ดูแล  โดยห้ามเด็ดขาดมิให้เปิดหีบดู  แต่ลูกสาวท้าวซีครอปส์ไม่เชื่อฟัง  พยายามจะเปิดหีบ  ครั้นเห็นงูเข้าก็ตกใจวิ่งหนีตกเขาตาย  ทารกนั้นได้ขนาน ชื่อว่า อิริคโธเนียส (Erichthonius) และดำรงชีวิตอยู่สืบมา   จนภายหลังได้ครองกรุงเอเธนส์  ส่วนเจ้าแม่เอเธน่าก็ไม่ได้รับการเกี้ยวพานของเทพองค์หนึ่งองค์ใดอีกต่อไปตั้งแต่บัดนั้น  แม้ว่าจะมีบางตำนาน กล่าวว่าเอเธน่าเคยแอบรักบุรุษรูปงามคนหนึ่งชื่อว่า เบลเลอโรฟอน จนถึงกับเอาอานม้าทองคำมาให้เขาในความฝัน  เนื่องจาก บลเลอโรฟอนต้องการขี่ม้าวิเศษ เปกาซัส แต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าแม่ได้สานเรื่องราวระหว่างเจ้าแม่กับเบลเลอโรฟอนต่อไปแต่อย่างใด  แต่ทว่าบุรุษหนุ่มผู้นั้นเสียชีวิตเกิดตกม้าตาย  





                       ในตอนหลังเทวีเอเธน่ามีต้นโอลีฟเป็นพฤกษาประจำตัว และนกฮูกเป็นนกคู่ใจ...





                       ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ   ส่วนตอนต่อไปเป็นเทพีอาร์เตมิส (ไดอานา)  ฝาเเฝดผู้น้องของเทพเจ้าอพอลโลนะคะ  





                       หมายเหตุ   เทพีหรือเทวีมีความหมายเหมือนกันนะคะ



























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×