ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [KYUMIN] : YI SAN QI : love potion

    ลำดับตอนที่ #7 : SF: FLY AWAY // 6

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58


    FLY AWAY

                                  ** ทุกรูปขโมยมาจากกูเกิ้ลหมด 5555 บางอันอาจเซฟมาแต่จำเครดิตไม่ได้แล้ว รูปที่เป็นเอสเจอย่าเอาออกไปเดี๋ยวเขาด่าเอา







    part 6













     

                        เมื่อเช้ามืดแม่ผมก็ได้ไปที่สนามบินเรียบร้อยในขณะที่ผมยังหลับปุ๋ยอยู่ แม่คงไม่อยากที่จะปลุกผมเพราะคิดว่าผมคงจะไปโรงเรียนตอนเช้า แม่คงไว้ใจผมเกินไป ... วันนี้วันศุกร์สุดสัปดาห์แล้วผมก็เลยคิดว่าหยุดสักวันก็คงไปเป็นไร เมื่อเช้าป้าฮันนาเอาเบอร์โทรผมจากจากไหนก็ไม่รู้น่าจะจากแม่ผมนั่นแหละ เธอโทรมาบอกผมว่าจะให้พี่คยูมารับผมที่บ้านวันพรุ่งนี้ก็เลยคิดว่าวันนี้ผมน่าจะหยุดจัดของเตรียมไปเป็นปรสิตพี่เขาให้เต็มที่สักหน่อย โทรให้ไอ้ฮยอกแจโดดเรียนมาเป็นเพื่อนดีกว่า ...

     
     

                            “ฮาโหล มึงอยู่ไหนอ่ะ” ซองมินกรอกเสียงไป

     
     

                            “กูก็เพิ่งเสร็จจากงานถ่ายแบบอ่ะเดี๋ยวจะเข้าไปเรียนภาคบ่ายนะ แล้วนี่มึงไม่ได้เรียนอยู่หรอถึงโทรมาหากูได้”

     
     

                            “กูไม่ได้ไปโรงเรียนเลยเหอะ นี่มึงไม่ต้องไปเรียนหรอกมาซื้อของเป็นเพื่อนกูหน่อย”  หลังจากที่ผมรู้ว่าไอ้ฮยอกแจไม่ได้ไปโรงเรียนเช้านี้ผมก็เริ่มปฏิบัติการชวนเพื่อนโดดเรียนทันที

     
     

                            “โอเคได้”  ฮยอกแจตอบตกลง สมแล้วที่เป็นเพื่อนผม...

     
     

                           “เจอกันที่ห้างเดิม ชั้นซุปเปอร์มาร์เก็ตกูจะนั่งรอมึงที่ร้านไอติม”

     
     

                           ผมนั่งรอไอ้ฮยอกแจได้ครึ่งชั่วโมงแล้วครับไม่ยักจะเห็นหน้าเพื่อนรัก นี่ผมขี้เกียจรอมันแล้วถึงสั่งไอศครีมมากินสองถ้วยเบาๆปรกติจะมานั่งรอฟรี ...

     

     

     

                           ติ้ง!~  

     


     

     

      12.45 น.  

      พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าพี่จะมารับเรานะครับ ขอที่อยู่ให้พี่ด้วย        

                                                                   โจวคยูฮยอน    

     

     


     

                             และแล้วหลังจากที่เบื่อไอ้เพื่อนรักอยู่นานก็มีเทวดามาโปรดส่งความสุขให้ผมกับความข้อความสั้นๆ ... ซองมินรีบส่งที่อยู่ให้เทวดาสุดหล่อไป ตอนนี้ต่อให้ผมนั่งเป็นชั่วโมงก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับไม่โกรธใครแล้วล่ะ คิคิ อารมณ์ดี

     
     

                            ไม่นานไอ้ฮยอกแจก็เดินเข้ามาพร้อมชุดที่ผมคิดว่าใส่ห่าอะไรของมันว่ะยังกะจะไปเดินแฟชั่น มันเดินมาเนี่ยสาวๆเหลือบตามองกันเป็นแถบทำยังไงถึงจะเป็นแบบมันบ้างหรือว่าผมต้องใส่ไอ้ชุดแบบนี้คนถึงสนใจผมนะ งั้นก็ไม่เอาหรอกประหลาดสิ้นดี...

     
     

                             “โย่วมึง ..นินทากูอยู่ในใจอ่ะดิ”  ฮยอกแจนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามของซองมิน

     
     

                             “แสนรู้หนิมึง ... ใส่ชุดเชี่ยไรของมึงเนี่ยพะลุงพะลังนี่กว่าจะมาตั้งนานมึงยังไม่ได้เปลี่ยนชุดอีกหรอ”

     
     

                              “ไม่เปลี่ยนโว้ยยยย กูเอาชุดจากคอสตูมมาเห็นว่าสวยดีไปอ้อนสไตล์ลิสเขาเลยให้ฟรีมาตัวนึงใส่ให้คุ้มสิว่ะ  ..  พี่สาวครับขอวานิลาซันเดย์ที่นึง”   ฮยอกแจหันไปบอกพนักงานสาวด้วยยิ้มสวย ... ที่ผมคิดว่ายิ้มยิงเหงือกให้อ่านะ ดูเหมือนว่าพนักงานสาวคนนั้นก็ตกหลุมพรางสาวตาแพรวพราวของเพื่อนผมไปด้วย นี่พวกผู้หญิงชอบแบบนี้หรอ...

     
     

                              “เออ เรื่องของมึงเหอะ  นี่กูมีข่าวดีจะบอก”

     
     

                              “ข่าวดีของมึงละซิ  เป็นไงไหนเล่าดิ” 

     
     

                              “มึงจำที่กูบอกได้ป่ะว่าแม่กูไปดูพ่อที่อเมริกาแล้วกูต้องอยู่คนเดียวอ่ะ  กูไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนะมึง กู! อยู่! กับ! พี่คยู!”  ประโยคสุดท้ายผมตะโกนใส่หน้าไอ้ฮยอกแจดังๆเพื่อความสะใจในอกที่อยากระบายออกมา

     
     

                             “ดีมากไอ้เพื่อนรักปฏิบัติการอ่อยของมึงทำได้ดีมาก นี่เขาพิศวาสตัวมึงถึงขั้นอยากให้มึงอยู่ด้วยเลยหรอว่ะ เป็นเพราะกูเลือกชุดให้แน่ๆเลย ฮ่าๆ” 

     
     

                            “ปฏิบัตรการอ่อยห่าไรล่ะ กูไปแทบจะไม่ได้อ่อยไม่ได้อะไรเลยเนี่ย เรื่องทั้งหมดแม่พี่เขาจัดการให้ป่านี้พี่คยูสาปแช่งกูอยู่ล่ะมั้งกูไปเป็นปรสิตพี่เขาอ่ะ”   ถึงแม้ว่าผมจะดีใจมากก็เหอะที่ได้อยู่กับพี่เขา แต่เอาจริงดูจากงานวันนั้นที่พี่คยูหนีคนอื่นมาหาผมพี่เขาคงเป็นคนมีโลกสูงการที่ผมจะไปกินอยู่แบบนั้น เชื่อว่าลึกๆคงไม่พอใจบ้างแหละ

     
     

                            “ถึงแม้ว่ามึงจะอ่อยไม่ดี แต่แม่ผัวมึงดีมากกกกกก สงสัยแม่ของพี่เขานี่จะเชียร์มึงเต็มพิกัดแล้วหละถวายมึงให้ลูกชายขนาดนั้น”   หลังจากที่ไอ้ฮยอกแจมันพูดออกมาแบบนั้นก็ทำให้ผมคิดได้ว่าป้าฮันนาเธอคงอยากให้ผมได้กับลูกชายเธอไม่น้อย ...ลองทบทวนดูดีๆแล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็เป็นเธอที่เอื้อให้พี่คยูเข้ามาผมมากที่สุด

     
     

                          “มึง ... แล้วถ้าเกิดกูรักพี่เขาขึ้นมาจริงๆล่ะ ... แบบว่า..กูรักเขามากแต่เขาไม่ได้รักกูเลย กูกลัวว่ากูจะหลงเขาหัวปักหัวปำตอนสุดท้ายกูนี่ตายสากเลยนะ”   ผมคิดเอาไว้ถ้าผมรักพี่คยูจริงๆไม่ใช่แบบนี้นี้ที่หยอกเอินเล่นๆ ถ้าผมรักเขาแล้วจริงจังด้วยทั้งที่พี่เขาถูกแม่บังคับ...

     
     

                          “ซองมิน กูจะบอกอะไรมึงให้นะชีวิตมึงนี่อายุแค่ 18 อย่าไปจริงจังอะไรมาก แต่พี่คยูฮยอนของมึงเนี่ยจะสามสิบแล้วเขาคงจะคิดที่จะสร้างครอบครัวหรือจริงจังกับชีวิตคู่ได้แล้ว  อย่าหาว่ากูใจร้ายเลย..เขาคงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอก พี่คยูฮยอนหล่อ รวย นิสัยดี มีผู้หญิงหลายคนเข้ามาในชีวิตพี่เขาถึงแม้ว่ามึงจะอยากเสนอตัวให้เขาเท่าไรหรือว่าเขาอาจจะรู้ว่ามึงชอบเขา เขาก็ไม่เลือกมึงอยู่ดี”   ฮยอกแจตอบมาอย่างตรงๆ มันทำให้ผมสะอึกไปนิด

     
     

                          “แล้วที่ผ่านมามึงช่วยกูอ่อยเขาทำไม -_- มึงบอกไม่ใช่หรอว่าแม่พี่เขาเชียร์กู”

     
     

                         “ก็เผื่อมึงจะฝึกฝนกับพี่คยูฮยอนแล้วเอาไปใช้กับคนอื่นได้ไง นี่มึงจริงจังกับพี่คยูฮยอนหรอ ฮ่าๆ เลิกฝันไปได้เลย แค่สปีชี่ส์ก็ไม่เข้ากันแล้ว มังกรทองกับปรสิตตัวน้อย... กูนึกว่ามึงจะแหย่เล่นกูเลยช่วยหรือว่ามึงอยากได้พี่เขาจริงว่ะ”   ซองมินเงียบไม่ตอบคำถามหลังประโยคที่ไอ้ฮยอกแจพูด พี่พนักงานสาวคนเดิมที่ไอ้ฮยอกแจส่งสายตาให้ก็เดินมาเสิร์ฟไอศกรีมของมัน ผมแอบสังเกตเห็นลายหมึกตรงปลายกระดาษชิดชู่เล็กๆ 0102 ****...... แหม่ผู้หญิงสมัยนี้

     
     

                         หลังจากที่ผมกับไอ้ฮยอกแจกินเสร็จพากันมาเดินดูของยังชีพ ผมซื้อผ้าขนหนูใหม่แล้วก็พวกเครื่องใช้ส่วนตัวที่ผมจะเอาไปที่นู่นเพราะคิดว่าการที่ตัวเองจะเอาแปลงสีฟันฟูๆกับผ้าขนหนูดำๆไปอวดพี่คยูคงจะไม่ดีนัก พวกเราซื้อของกินของใช้มาจนถึงตอนเย็น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผมชอบกิน สาหร่าย หัวไชเท้าดองแล้วก็น้ำมันงาเอาไว้พรุ่งนี้ผมจะโชว์ฝีมือคิมบับให้พี่คยูกินเพราะมันเป็นอาหารไม่กี่อย่างที่ผมพอจะทำได้

     
     

                        พอผมกลับมาจากห้างผมก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบใหญ่สองใบเผื่อกับการที่ไปอยู่ที่นั้นซึ่งไม่รู้ว่าจะกี่เดือน นับจากนี้ไปอีซองมินจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโจวคยูฮยอนโดยที่โจวคยูฮยอนจะเต็มใจหรือไม่..นั่นก็อีกเรื่องนึง

     
     

                        “เฮ้อ...ชีวิตเนอะชีวิต นี่กูต้องไปอยู่บ้านพี่เขากูทำตัวยังไงถูกดีเนี่ย”  ซองมินบ่นไปเก็บเสื้อไป บางทีก็เริ่มอยากไปกับแม่ล่ะตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดหรือถูกที่จะมาอยู่บ้านพี่คยู ตอนแรกก็นึกว่าจะอยู่คนเดียวเปรี้ยวซ่ากับไอ้ฮยอกแจ อยู่กับพี่คยูผมคงเกรงใจเขามากๆจะเที่ยวทีก็คงต้องขออนุญาต  จะกินมูมมามก็คงไม่ได้ จะใส่บ็อกเซอร์เดินรอบบ้านทีก็สงสารพี่เขา

     
     

                         ซองมินล้มตัวลงนอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะเขาต้องตื่นเช้าไปคอนโด 9 โมง ปรกตินอนเที่ยงคืนเที่ยงวันเสมอในวันหยุด .. ผมคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าพี่คยูปรกติเขาจะตื่นกี่โมงกันนะ นอนกี่ทุ่ม กินข้าวเช้าไหม กินมื้อดึกหรือเปล่าแล้วผมต้องทำอะไรยังไงให้เขาได้บ้าง เมื่อซองมินคิดไปคิดมาก็พลอยหลับไป...คืนนี้คงฝันดีฝันถึงพี่คยู...

     

     
     

     

    ....

    .

    .

     

     


     

                        เป็นเวลา 9 โมงครึ่งรถพี่คยูฮยอนก็มาถึงหน้าบ้านผมทันที รถออดี้ A7สีดำที่ผมคิดเสมอว่าชีวิตนี้คงไม่มีบุญได้นั่ง ก็จะได้นั่งในไม่กี่อึดใจ ผมเชิญพี่เขาเข้ามาในบ้านโพรงกระต่ายของผม วันนี้พี่เขาแต่งตัวดีมีราคาเหมือนทุกๆวันคาดว่าคงออกไปทำงานตอนบ่ายๆผมทำตัวเป็นเด็กดีเสิร์ฟน้ำโค้กเย็นๆให้พี่เขาที่โซฟา เพราะผมไม่ได้แช่น้ำเปล่าไว้

     
     

                       “บ้านน้องซองมินน่ารักดีนะครับ”  คยูฮยอนเอ่ยทักขึ้น สิ่งที่เข้าเห็นตอนนี้มันไม่ค่อยมีอะไรมาก เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้เสียส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยเข้ากับบ้านปูนสีขาวหลังเล็กนี้แต่มันก็ทำให้ดูอบอุ่นดี... พอคิดว่าซองมินกับแม่อยู่ด้วยกันสองคนคงจะเหงาน่าดู

     
     

                      “เอ่อ...บ้านผมเล็กพี่อึดอัดไหมครับ เดี๋ยวผมจะรีบเอาของลงแล้วจะดับคัทเอ้าท์พี่คยูฮยอนรอผมหน่อยนะครับ” ซองมินวิ่งวุ่นลงชั้นหนึ่งชั้นสอง น้องเป็นคนที่ผมเห็นแล้วทำผมอารมณ์ดีตลอด เขาดูเป็นเด็กขี้เกรงใจยิ่งวันนี้ผมเห็นน้องใส่แว่นแต่งตัวตอนอยู่บ้านซองมินเป็นเด็กที่ดูเนิร์ดและไร้พิษภัยเป็นอย่างมาก มันทำเอาผมสงสัยว่าตอนอยู่โรงเรียนเขาจะถูกเพื่อนแกล้งบ่อยหรือเปล่า ...

     
     

                      เกือบครึ่งชั่วโมงซองมินก็ขนของลงมาหมด น้องวิ่งขึ้นลงมาเปิดโทรทัศน์ให้ผมดูทีหยิบขนมให้ผมกินทีเห็นอย่างนี้แล้วตอนผมอยู่คอนโดคงไม่ลำบากอย่างที่คิด คิดสะว่ามีน้องชายมาคอยเอาใจก็คงจะดี ถึงตานี้ผมคงต้องดูแลน้องบ้างผมเองก็ไม่ค่อยถนัดเอาใจคนเท่าไรอีกอย่างกลับคอนโดไม่ค่อยเป็นเวลา แล้วน้องจะไปเรียนยังไงจะกลับบ้านยังไงคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องในวันสองวันนี้อีกที 

     
     

                          คยูฮยอนและซองมินพากันขึ้นรถ ไม่นานคยูฮยอนก็ขับพาซองมินเข้าเขตอัพกูจอง ตึกสวยตระหง่านตาเรียงรายไปมาแทบไม่เห็นท้องฟ้าและแล้วรถก็จอดที่ตึกสูงซึ่งเป็นที่อยู่ของคอนโดคยูฮยอน นี่คือที่ๆซุปเปอร์สตาร์หลายคนอาศัยอยู่ซองมินเห็นข่าวในทีวีออกบ่อยๆคอนโดหรูที่คาดว่าจะน่าหลายตังค์อยู่พอสมควร รถขับเข้าไปในที่จอดของคอนโดชั้นใต้ดินและเมื่อขาซองมินเหยียบถึงพื้นปั๊ป! ก็สำเนียกได้ว่าตัวเองเอาของมาเยอะขนาดนี้แล้วกูจะขนขึ้นไปยังไงว่ะ -_-  ซองมินยืนนิ่งอยู่สักพักแล้วหันไปยืนยิ้มแหย่ให้กับคนฝั่งประตูตรงข้าม...

     
     

                        “คือ .... พี่ช่วยผมขนมันหน่อยได้ไหมครับ”

     
     

                        “แน่นอนสิพี่ต้องช่วยเราอยู่แล้ว”

     
     

                        ผมกับพี่คยูพากันแบกของขึ้นลิฟท์ไปถึงห้อง...ก็ไม่มีอะไรมากครับผมก็แค่พูดไม่ออกและไม่รู้จะอธิบายยังไง นี่แค่ห้องนั่งเล่นกับครัวของพี่เขาก็เท่ากับห้องนอนผมบวกกับห้องนั่งเล่นของผมแถมห้องน้ำข้างล่างบ้านอีก.. โซฟาที่นั่งได้สองคนสีเทาวางไว้สองตัวข้างกันไหนจะเก้าอี้เดี่ยวลายขอยๆนั่นอีกสองตัว สาบานว่าเมื่อก่อนพี่เขาอยู่กับเมเนเจอร์กันแค่สองคน ... มันออกจะเกินความจำเป็นไปหน่อยแต่เมื่อเทียบกับห้องกว่างตรงหน้ามันดูเป็นสัดส่วนน่ารักไปหมด พี่เขาคงจ้างมัณฑนากรฝีมือดีมาแต่งห้องให้แน่ๆ

     
     

                       “นี่คีย์การ์ดของซองมินพี่ไปทำมาให้แล้ว แล้วก็ห้องของซองมินอยู่ตรงใกล้กับห้องครัวนะครับของพี่อยู่ตรงข้ามเห็นไหม ห้องน้ำมีในตัวทุกห้องนอน แล้วก็ห้องน้ำข้างนอกตรงนั้นหนึ่งห้อง ห้องซองมินมีคอมพิวเตอร์ด้วยนะใช้ได้เลยไวไฟเปิดทิ้งไว้เลยก็ได้ตอนพี่ไม่อยู่ โอเคไหมครับ”   คยูฮยอนยื่นคีย์การ์ดสีดำใส่มือซองมินหลังจากนั้นเขาก็จัดแจงทุกอย่างให้ฟังอย่างชัดเจน

     
     

                      ซองมินยืนอึนอยู่สักพักก็รู้ตัวว่าควรที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ เขาพยักพยักหน้ารับคยูฮยอนแล้วลากของตัวเองไปเก็บในห้องที่พี่คยูบอกว่าเป็นห้องของเขา ....หือออ หลังจากนี้ผมจะอยู่ยังไงดีผมจะทำอะไรต่อไปยังไม่รู้เลยครับ คงจะน่าเกลียดน่าดูถ้าผมมาถึงแล้วนอนเลย...อ่อจำได้แล้วว่าซื้อของทำคิมบับมา! ถึงเวลาที่ผมจะโชว์เสน่ห์ปลายจังหวะแล้วครับ

     
     

                       “พี่คยูฮยอนหิวไหมครับเดี๋ยวผมทำคิบับให้กินพอดีผมซื้อของมาน่ะครับ” หลังจากที่ซองมินว่าออกมาจากห้องนอนของตนหน้าตาตื่นเขาก็เปิดประเด็นนี้ทันที

     
     

                        “ หื้ม...เอาสิครับ พี่คิดว่าจะพาเราไปทานข้าวอยู่พอดี พี่จะได้คุยกับเราด้วย” คยูฮยอนที่นั่งตรงโซฟาสีเทาเอ่ยขึ้น พอมาดูอย่างนี้พี่เขาเหมือนกับถ่ายแบบนิตยสารอยู่เลยละครับ เสื้อเชิ้ตสีดำที่ปลดกระดุมข้อแขนออกแล้วพับมันขึ้น   โอ่ยยยเซ็กซี่กายจริงๆ... ผมแอบมองเส้นเลือดที่แขนพี่เขานิดๆถึงแม้ว่ามันจะมองไม่ค่อยเห็นเพราะพี่เขาขาวจัดก็เหอะ อิจฉาจังแขนผมนี่มีแต่ไขมันอย่างที่ไอ้ฮยอกแจมันบอกจริงด้วย

     
     

                         หลังจากที่พี่คยูตกลงรับคำผมก็วิ่งไปเอาสาหร่าย หัวไชเท้าดอง น้ำมันงา แล้วก็ไปถือวิสาสะแอบเปิดตู้เย็นของพี่คยู อื้ม...เป็นระเบียบเรียนร้อยดีกว่าแม่ผมทำอีก ผมเตรียมหยิบแฮมกับไข่มาทอด แครอทที่มีอยู่มาหั่นเป็นแท่งยาว ระหว่างนั้นก็ไปหุงข้าวรอ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภรรยามากเลย...-///-

     
     

                          “ให้พี่ช่วยอะไรไหมครับซองมิน”   คยูฮยอนเดินมาซ้อนข้างหลังเขา ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว แขนข้างซ้ายที่เท้าอยู่ตรงข้างๆผมกับหน้าตาเหมือนหมาน้อยแบบนั้น...หมาน้อย...หมาน้อย

     
     

                          “ไม่เป็นไรครับ ....พี่คยูฮยอนไปรอกินเถอะ...”  ซองมินพูดด้วยเสียงเย็นยะเยือก ไม่ได้อยากจะปล่อยรังสีอัมหิตอะไรหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว...

     
     

                          “ได้ครับเชฟ!”  คยูฮยอนตอบตกลงหร้อมยิ้มยิงฟันไปให้ฉากหนึ่งเพราะเขาไม่อยากจะให้บรรยากาศระหว่าเขากับซองมินต้องอึดอัดแบบที่เขาคิด

     
     

                        “ โอเคครับ! หมาน้อย!

     
     

                        “....”

     
     

                        “เอ่อ....”     

     



                      ชิบหายละซองมิน...

     


     

                        “ ผมขอโทษครับ ที่หลุดปากปะ..ไป....”

     
     

                       “ ฮ่าๆ นี่เราบอกว่าพี่เป็นหมาน้อยหรอ คิคิๆ ”   คยูฮยอนหัวเราะร่าไม่หยุด ไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้เลย อีซองมินนี่มันอีซองมินจริงๆ ผมไม่คิดว่าเขาจะเล่นมุกต่อผมแต่ก็เกิดปฏิหารขึ้นจนได้

     
     

                       “ถ้าทำเสร็จแล้วยกมาที่โซฟานะ เดี๋ยวพี่มีเรื่องคุยกับเราเยอะเลย หึหึ”

     
     

                       หลังจากพี่ผมหลุดปล่อยไก่ไป ผมก็หั่นแครอทรัวเลย...พระเจ้านี่ถ้าพี่คยูโกรธขึ้นมาผมคงไม่รู้เอาหน้าไว้ที่ไหน ไอ้ปากที่มันไปไวกว่าสมองนี่ควรจะทำยังไงกับมันดี ว่าไปว่ามาผมก็ตักข้าวผสมกับน้ำมันงา เกลือ น้ำตาลนิดหน่อยเอาไปป้ายๆกับสาหร่าย ดูเหมือนโปรมากใช่ไหมครับ ก็เก่งแหละเพราะกับเป็นอาหารไม่กี่อย่างที่ผมทำได้ดี ซองมินเอาแฮมแครอทและหัวใชเท้าดองวางเรียงใส่ไข่ที่ทอดมาตบท้ายแล้วม้วนสาหร่ายเป็นโรล เออะ...มันอาจจะบีบแน่นไปหน่อย..ข้าวสองข้างก็เลยทะลักออกมา สาหร่ายที่เคยกรอบเริ่มเหี่ยวเพราะแรงกด ...แม่งตอนนี้รูปลักษณ์มันโคตรอุบาทว์เลย ไม่เป็นไรๆหั่นเสร็จคงดูดี

     
     

                        “อ่ะ พี่ครับเสร็จแล้ว” ซองมินยื่นคิมบับเหี่ยวๆนั้นให้คยูฮยอน มันดูหน้าตาไม่ค่อยดีเท่าไรไม่กลมสมบูรณ์สาหร่ายขาดบ้างข้าวหลุดบ้าง แต่นึกว่าคนทำตั้งใจทำให้มันก็คงจะใจร้ายเกินไปถ้าไม่กิน

     
     

                       “ครับ” คยูฮยอนรับคำพร้อมรับจานคิมบับในมือมาวางไว้บนโต๊ะ ซองมินมานั่งข้างๆเขาแล้วจ้องลุ้นตัวโก่ง มันกดดันให้คยูฮยอนต้องยัดคิบับคำโตเข้าไปในปาก อื้ม...รสชาติดีกว่าที่คิด ...อร่อยเลยแหละดีกว่าหน้าตาของมันไหนๆ

     
     

                       “เป็นไงบ้างครับ” คนตัวเล็กกว่านั่งทำตาปริบๆ

     
     

                       “ดีกว่าที่คิดแหะ อร่อยมากครับ”  คยูฮยอนตอบอย่างจริงใจถึงว่าน่าตามันจะไม่ได้ดีแต่การทำอาหารของซองมินถือได้ว่าไม่พากันอดตายแน่ๆ

     
     

                       หลังจากคยูฮยอนชมซองมินก็ลุกขึ้นไปหยิบแก้วแล้วรินน้ำให้ทันที ผมอยากเอาใจพี่เขาบ้างตอบแทนที่พี่เขาเหนื่อยเพราะผม อีกอย่างหลังจากนี้คาดว่าเขาคงจะปวดหัวกับผมอีกเยอะ ผมอยากดูแลเขาให้ดีไม่อยากให้พี่เขาเหนื่อยเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะทำให้พี่คยูได้

     
     

                       คยูฮยอนยกยิ้มเมื่อซองมินบริการน้ำให้กับเขาจริงๆน้องไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้ ตอนแรกผมคิดว่าการที่มีซองมินมาอยู่ด้วยมันจะทำให้ผมอึดอัดใจเพราะผมเป็นคนโลกส่วนตัวสูงแต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ซองมินเป็นคนไม่ได้เต็มไปด้วยความสดใสแต่ก็อ่อนโยนอยู่มาก เขาเอาใจใส่เรื่องเล็กๆน้อยอยู่เสมอเวลาผมอยู่กับเด็กคนนี้แล้วรู้สึกสบายใจ

     
     

                       “ซองมิน คอนโดที่พี่ห่างจากโรงเรียนเรามากไหม เวลาเราไปโรงเรียนจะทำยังไงล่ะ” คยูฮยอนเอ่ยถามเด็กน้อยที่นั่งข้างๆ

     
     

                       “ไม่เป็นไรครับผมนั่งรถเมล์ไปได้  คงต้องตื่นเช้าหน่อยแต่ว่าไม่ต้องกังวลครับเพื่อนผมก็อยู่แถวนี้เหมือนกันคงจะไปด้วยกันได้”  ซองมินเอ่ยบอกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าฮยอกแจเพื่อนรักก็อยู่ในย่านนี้เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนเพราะเขาไม่เคยมาบ้านเพื่อน มีแต่ไอ้ฮยอกแจที่ถ่อมาบ้านเขาเสมอ

     

             
                    “อย่างนี้พี่ก็หายห่วง เวลาที่พี่ทำงานพี่กลับบ้านไม่ตรงเวลาบางทีพี่กลับดึกๆเราไม่ต้องรอพี่นะหลับไปก่อนเลย แล้วเวลาอยากไปไหนขึ้นรถสาธารณะไม่เป็นถ้าพี่อยู่เดี๋ยวพี่พาไปโอเคไหมครับ” คยูฮยอนบอกซองมินไว้  เขาเองก็ต้องดูแลน้องเหมือนกัน

     
     

                      “ครับ”

     
     

                      “ เดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมงพี่มีงาน ซองมินอยู่บ้านคนเดียวไปก่อนนะครับตอนเย็นถ้าหิวเดี๋ยวพี่พาไปกินข้าวข้างนอก”  คยูฮยอนพูดไปพลางหยิบคิมบับเข้าปากไปจนหมด เขาลุกขึ้นจะเก็บจานไปล้างแล้วมีเสียงเล็กๆทักขึ้นจนได้.. 

     
     

                      “พี่คยูปล่อยไว้เถอะครับ เดี๋ยวผมล้างเอง!

     
     

                      “ได้ไงละครับ ซองมินทำให้พี่กินนะ”  เมื่อกี้ถ้าฟังไม่ผิดน้องเรียกผมว่าพี่คยู..

     
     

                      “ตั้งแต่จากนี้เป็นต้นไประหว่างที่ผมอยู่บ้านพี่คยูฮยอนให้ผมทำงานบ้านเถอะครับ  ผมไม่รู้จะตอบแทนพี่ยังไงดีผมไม่อยากเป็นภาระ ให้ผมทำเถอะครับ!”   ซองมินก้มหัวเก้าสิบองศาให้คนแก่กว่า มันทำเอาคยูฮยอนยิ้มออกมาเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวัน โดยที่คยูฮยอนไม่เคยรู้ตัว...

     
     

                      “เรียกพี่ว่าพี่คยูก็ได้ครับ...”

     
     

                      “หื้อ?

     
     

                      “ก็เห็นว่าเราเมื่อกี้เรียกพี่ว่าคยู ต่อไปนี้ก็เรียกอย่างนั้นเถอะ”

     
     

                      รอยยิ้มตบท้ายประโยคของพี่คยูฮยอนรู้ไหมมันทำอีซองมินใจเต้นแรงนะ... อยู่กับพี่คยูต่อไปเรื่อยผมคงเป็นโรคหัวใจตายแน่เลย

     
     

                       “ครับ...” ซองมินตอบสั้นๆ  

     

                      บางทีผมอาจจะรักพี่คยูจริงๆแล้วก็ได้...







    ................................................................................................................................................................





    ** ถ้าใช้แท็กเรื่องนี้ใช้ #FlyAway นะคะ
    **เรื่องโปรโมตที่คยูมินฟิคไรเตอร์ยังไม่อยากลงเพราะขี้อายมาก... -_-* รอให้อะไรเข้าที่ดีๆก่อน
    **เจอคำผิดก็ข้ามๆไปนะเพราะคงไม่กลับมาแก้ เดี๋ยวมันขึ้นอัพเดท
    **สุดท้านนี้อย่ารำคาญไรเตอร์ ต่อจากนี้ไปสาธุให้คยูมินได้กันนะ เพราะต้องเจออะไรพีคๆอีกเยอะ

    **นี่ถามจริงลงตอนแค่นี้สั้นไปไหม ถ้าอยากให้ยาวกว่านี้ทำได้แต่ขอเวลา เอาแบบไหนคนอ่านรีเควสมาด้วยก็ได้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×