ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [KYUMIN] : YI SAN QI : love potion

    ลำดับตอนที่ #5 : SF: FLY AWAY // 4

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 58


    FLY AWAY














    part 4





     

     

                               “น้องซองมินครับ พี่นั่งด้วยได้ไหม”

                                                   ….

                                                     ..

                                                     .

     
     

                               นี่เรื่องจริงใช่ไหม ... ที่พี่คยูเขามาขอนั่งกับผม รู้สึกเหมือนอยู่ในฝันเลยแต่พอนึกได้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่พี่เขาทักผมก็เพราะป้าฮันนาบังคับให้มา พอคิดแล้วใจผมนี่ห่อเหี่ยวลงเหมือนลูกโป่งโดนเจาะ ครั้งนี้ก็คงเหมือนครั้งที่แล้วป้าฮันนาคงเห็นผมนั่งตบยุ่งอยู่ ดูท่าทางว่าคงจะไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วยเลยสั่งให้พี่คยูมาอยู่เป็นเพื่อนอีกล่ะสิ

     
     

                               “ก็ได้ครับ ถ้าพี่อยากตบยุงเป็นเพื่อนผม” ซองมินพูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กๆ

     
     

                               “ทำไมไม่ไปขอที่กันยุงจากแม่บ้านล่ะครับ”

     
     

                               “ไม่เอาอ่ะ  ผมไม่อยากให้เขาว่าผม ผมเดินไปกินขนมเขาหลายรอบแล้ว เกรงใจครับ”  ซองมินตอบตรงๆ มันทำเอาคนฟังยิ้มกว้างเลยล่ะ ผมชอบนะที่ซองมินเป็นคนแบบนี้ คนแบบที่เขาไม่ค่อยได้เจอเท่าไรในชีวิต

     
     

                                 “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คิดซะว่าบ้านพี่ก็เหมือนบ้านเรา เดี๋ยวพี่ไปเอาให้นะ” คนตัวสูงทำท่าว่าจะลุกเดินออกไปก่อนที่จะมีเสียงเล็กๆแทรกมา

     
     

                                 “เดี๋ยว! พี่คยูฮยอนไม่ต้องลำบากหรอก ผมว่าอีกสักพักจะไม่นั่งตรงนี้แล้วแหละครับคงจะกลับแล้ว”

     
     

                                 “หืม ..ทำไมรีบกลับละครับ แม่เราน่ะดูท่าว่าจะไม่กลับง่ายๆนะ”  ผมยอมรับ ว่าตอนนี้ไม่อยากให้ซองมินกลับเลย เพราะผมกลัวว่าจะต้องเดินกลับเข้าไปในงานกลับเข้าไปตอบคำถามหรือพูดคุยกับคนอื่นๆอีก การที่มีเด็กคนนี้อยู่ถือว่าเป็นตัวการที่ผมจะอู้ได้โดยที่แม่ของผมไม่บ่นสะก่อน

     
     

                                 “พี่คยูฮยอนน่ะ ... ถูกป้าฮันนาบังคับให้มาอยู่เป็นเพื่อนผมอีกแล้วใช่ไหมครับ ....ผมก็เลย ... ก็เลยไม่อยากกวนพี่ คิดว่าจะไปบอกแม่ให้กลับก่อน”  ซองมินเอ่ยหน้าเศร้า แต่จะเศร้าจริงไหมนั่นอีกเรื่องหนึ่ง หึหึ ผมก็แค่แสดงละครนิดหน่อย ความจริงประเด็นแรกผมขี้เกียจตบยุงตรงนี้  ประเด็นที่สองคือถ้าผมย้ายที่พี่เขาคงด่าผมในใจแน่ว่าเรื่องมาก อุตส่าห์มาคุยด้วยแล้วยังร้ำรี้ร้ำไร หรือไม่ก็พี่เขาอาจจะไม่ตามมาคุยกับผมอีก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้าผมจึงทำการชะนี้แล

     
     

                               “ไม่ใช่ครับ! ตอนแรกที่เข้ามาทักพี่ไม่ปฏิเสธหรอกนะเพราะตอนนั้นพี่ยังไม่เห็นซองมินต่างหาก แต่ตอนนี้...พี่แค่ไม่อยากอยู่กับคนพวกนั้นน่ะ...”   สุดท้ายคยูฮยอนเองก็ต้องพูดความจริงออกไปสินะ ...

     
     

                               “ แล้ว? ”   แล้วพี่คยูเขาจะมาหาผมทำไมในเมื่อเขาก็แค่เดินเข้าไปในบ้านตัวเองก็จบเรื่อง มันเป็นสิ่งที่ซองมินสงสัย

     
     

                               “ พี่เห็นซองมินนั่งอยู่ที่นี่คนเดียว เลยคิดว่าเข้ามาคุยกับเราดีกว่า แล้วอีกอย่างแม่พี่คงไม่ว่าถ้าเห็นพี่มาอยู่กับซองมิน”   คยูฮยอนเถรตรงไปเสียทุกอย่าง น่าแปลกนะครับทั้งที่ผมเป็นนักแสดงแท้ๆ ถ้าถามว่างานนี้ใครเฟคเก่งที่สุดคงเป็นผม แต่พอคุยกับเด็กคนนี้ผมกลับโกหกไม่ได้เลย คงเป็นเพราะแววตาที่คาดคั้นของเด็กคนนี้ เขาเอาแต่จ้องหน้าผมเวลาคุยกันซองมินไม่เคยหลบสายตา มันเลยเหมือนเขาสะกดจิตผมอย่างนั้นแหละปากผมมันควบคุมไม่ได้เลย

     
     

                                 “ ครับ”

     
     

                                ซองมินตอบเขาสั้นๆ ที่แท้พี่คยูก็ใช้เขาให้เป็นเครื่องมือในการหลีกหนีความวุ่นวายสินะ ก็ยังดีที่พอจะมีประโยชน์บ้างในสายตาพี่เขา ที่ผ่านมาอย่างที่บอกผมไม่ค่อยอยู่ในสายตาใครยกเว้นแม่ผมกับไอ้ฮยอกแจ เหมือนพวกไม่มีคนคบ แล้วผมก็เป็นคนไม่ชอบพูดมากด้วย ผมชอบคิดคนเดียวมากกว่ามากกว่า

                      

                                หลังจากที่ซองมินตอบคยูฮยอนสั้นๆแบบนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก คนตัวเล็กเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตบยุง เวลาก็ผ่านไปหลายนาทีจนซองมินสังเกตเห็นคยูฮยอนที่นั่งนิ่งข้างๆสายตาของเขาเหม่อลอย พี่เขากำลังคิดอะไรอยู่นะ...

     
     

                                “พี่คยูฮยอนเบื่อผมไหมครับ”  ซองมินถามเขาไป  บางทีที่พี่คยูเขานิ่งอาจจะเพราะคิดว่าผมน่าเบื่อมากก็ได้ ไม่น่ามานั่งด้วยเลยอะไรแบบนี้

     
     

                               “อ่อ .. เปล่าครับพี่แค่เหนื่อยน่ะ”

     
     

                               “พี่จะให้ผมชวนคุยไหม หรืออยากให้ผมนั่งเงียบๆครับ” ซองมินตัดสินใจถามออกไปแบบนั้น ก็ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงดีพี่คยูอุตส่าห์หนีร้อนมาหาเย็น?(บางทีอยากจะร้อนกว่า) ผมอยากจะแบ่งเบาเขาบ้าง

     
     

                              “ฮ่าๆ เรานี่นะซื่อจริงๆ อยากชวนคุยก็ได้ครับ” คยูฮยอนหัวเราะออกมา ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้เลยตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้ยิน

     
     

                              สาบานเลยครับว่าพี่คยูเข้าใจผมผิด คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้น -_- แต่ก็ดีแล้วที่พี่เขาเข้าใจแบบนี้  หลายคนไม่อยากจะคบกับผมเพราะบอกว่าผมแปลก ทำไมหรอแค่ผมพูดในแบบของผมแล้ว การถามหรือการคุยในแบบของผมมันก็ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านด้วย ผมคิดว่าผมจะเริ่มถามคำถามไหนกับพี่เขาก่อนดี อะไรที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับพี่เขาที่สุด ... อ่า! นี่เลย

     

              

                             “พี่คยูฮยอน ชอบสีอะไรครับ?

    ....

    ...

     
     

                               คยูฮยอนชะงักไปเล็กน้อย .. นี่ซองมินจะถามผมอย่างนี้จริงใช่ไหม ทำความรู้จักกันครั้งแรกก็ควรถามว่า อายุเท่าไร ทำงานอะไร จบอะไรมา อย่างนี้เป็นปกติไม่ใช่หรอครับ หรือไม่ก็เหมือนที่คนทั่วไปเขาถามผมกัน  มีแฟนหรือยัง  ทำงานสนุกไหม  แสดงกับใครบ้างล่ะ มันก็น่าตลกอยู่พอควรที่น้องถามผมแบบนี้ มันเป็นคำถามที่แม้แต่รายการที่ผมไปออกยังไม่เคยถามแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวผมง่ายที่สุด

     
     

                             “พี่ชอบ ...สีฟ้าครับ”

     
     

                             “แปลกนะครับ ผมคิดว่าพี่จะชอบสีดำแบบที่ผู้ชายคนอื่นชอบซะอีก”

     
     

                             “แล้วซองมินล่ะ ชอบสีอะไร” ผมอยากรู้ครับว่าคนแบบซองมินจะชอบสีอะไรกัน หวังว่าคำตอบของเขาจะทำให้ผมประหลาดใจ มันอาจจะเป็นสีโคลน หรือสีของแมลงทับก็ได้ หึหึ แต่คำตอบของน้องก็ทำเอาคยูฮยอนประหลาดใจ

     
     

                             “ผมชอบ สีดำครับ แล้วก็.... สี ชมพู” ซองมินตอบอย่างหลังเสียงค่อยๆ  ก็ผมอายหนิพี่เขาจะหาว่าผมเหมือนผู้หญิงไหม

     
     

                             “พี่คยูฮยอนรู้ไหมครับ สีมันก็บอกนิสัยคนเราได้เหมือนกัน ผมทายว่า..พี่คงจะเป็นคนที่อ่อนไหวมากๆ แม้ว่าข้างนอกจะเป็นคนสุขุม จริงไหมครับ” 

     
     

                             “อืม....ก็ใช่นะ แล้วเรารีเสิร์ชมาว่าอะไรอีก หึหึ”  คยูฮยอนหัวเราะน้อยๆ ผมว่าพี่เขารู้แน่ว่าผมอ่านจากอินเตอร์เน็ตมา

     
     

                               “พี่เป็นคนหวั่นไหวในเรื่องความรัก รักเดียวใจเดียว รักใครก็รักมากและฝังใจเวลาเลิกกันแล้วเฮิร์ทมากกกก”  ผมก็บอกไปตามที่รีเสิร์ชมานั่นแหละครับ ถ้าใช่เครดิตผมนี่ดูดีขึ้นมาทันที ถ้าไม่ใช่ก็ขายหน้านิดหน่อย งานนี้ต้องลุ้นครับ

     
     

                              “ อืมมมมม..ใช่ไหมน้า”  คนตัวสูงเอ่ยหยอก ทำเอาซองมินนี่ใจแป้วไปเลย

     
     

                              “ ถ้าไม่ใช่ ผมขายหน้านะครับพี่ ช่างเหอะมันอาจจะไม่ตรงก็ได้ผมก็เอามาจากคอลัมน์ทายนิสัยห่วยๆนั่นแหละ” 

     
     

                             “พี่ยังไม่ได้บอกเลยนะว่าไม่ใช่น่ะ  ที่เราพูดมามันก็ถูก พี่เป็นคนอย่างนั้นจริงๆแหละ”  คยูฮยอนยิ้มเขินๆ ผมชอบให้พี่คยูยิ้มนะ แต่ครั้งนี้ผมยอมรับว่าเกลียดมันจริงๆ รู้ได้เลยว่าเจตนาไม่ได้ยิ้มให้ผม พี่เขาคงยิ้มเพรานึกถึงแฟนเก่าละสิ ...

     
     

                               พอคยูฮยอนตอบคำถามของซองมินจบ บทสนทนามันก็หยุดลงตรงนั้น ซองมินไม่ถามเขาต่อ ก็แน่ล่ะใครมันจะไปมีอารมณ์ว่ะ...ไม่น่าถามคำถามนี้เลย เหมือนเหวี่ยงบูมเมอร์แรงแล้วมันย้อนกลับเข้าหาตัว มาโดนหน้าผมอย่างจัง... ผมเป็นคนที่เก็บอารมณ์ทางสีหน้าไม่ค่อยได้ถึงแม้ว่าจะเสแสร้งเก่งก็เหอะ เดาได้เลยว่าตอนนี้ผมหน้าหงิกยังไง ไม่หายใจแรงก็บุญแล้วกลัวพี่เขารู้

     
     

                               “คยูฮยอน ...”  หญิงสาวร่างเล็กยืนอยู่ข้างหลังหัวผมกับพี่คยู ผมเป็นคนหันไปก่อน แล้วพี่คยูก็หันตามมาเมื่อเห็นผมขยับ  สายตาที่พี่คยูมองผู้หญิงคนนั้นมันเต็มไปด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด รอยยิ้มที่ผมบ่นว่าเกลียดเมื่อกี้ ผมเกลียดมันคูณสองเลยตอนที่พี่เขายิ้มมันให้กับผู้หญิงตรงหน้า

     
     

                                “โอ๊ะ! นูนาผมคิดถึงนูนาจัง” คยูฮยอนโผเข้ากอดรัดผู้หญิงตัวเล็ก

     
     

                                ถึงผมบอกว่าไม่ได้ชอบพี่เขามากมายขนาดนั้น  แต่ตอนนี้หน้าผมชาไปหมดตอนที่เห็นพี่คยูกอดกับคนนั้น ผมรู้สึกเหมือนเข็มนับพันมาทิ่มใจ แต่ก็แสดงอาการณ์อะไรออกไปไม่ได้เพราะเราก็แค่รู้จักกัน  บางที ... ผมก็อาจจะชอบพี่เขาจริงๆก็ได้ แต่อนิจจาผมมันดวงซวยในเรื่องความรัก  พี่เขามีแฟนแล้วผมคงต้องยอมรับสินะ...

     
     

                                   “นี่ใครหรอคยู” พี่ผู้หญิงคนนั้นหันมามองผมด้วยสายตาสงสัย

     
     

                                   “นี่น้องซองมิน ลูกชายของน้าซองจา” 

     
     

                                   ผมก็ทำหน้าเหรอหราใส่ไป เพราะอยากรู้ชื่อของเธอเหมือนกัน ตอนนี้ผมเหมือนเป็นใบ้เลยไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น

     
     

                                   “ อ๋อ.... พี่จำได้แล้วตอนนั้นครั้งสุดท้ายที่เจอซองมินตัวเท่านี้เอง คิคิ ” หญิงสาวทำท่าวัดขนาดเธอเอาแขนหนึ่งมาเทียบให้ผมดู ทำไงต่อละผมก็งงละสิ นี่เธอเคยเจอผมตอนไหน

     
     

                                   “เราคงจำไม่ได้หรอกมั้ง ตอนนั้นเราเพิ่งเกิด คยูฮยอนอายุแค่ 9 ขวบเอง คยูก็จำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ” อะไรกันเนี่ย เธอมาอยู่กับผมตอนที่ผมเกิดได้ยังไง งงไปหมดแล้ว

     
     

                                   “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิซองมิน คิคิ  พี่ชื่ออารา เป็นพี่สาวของคยูฮยอนเอง"

     
     

                                   พี่สาวของพี่คยู? … แล้วเมื่อกี้ที่ผมนั่งดราม่ากับตัวเองคืออะไร ..โห่! แทบจะร้องไห้อยู่ล่ะ นี่ถ้าดราม่าออกอาการหน้าผมคงเหลือสองนิ้ว เธอสวยมากจนผมเข้าใจผิดเลยครับพี่น้องตระกูลนี้นี่หน้าตาดีจริงๆ ป้าฮันนาแกปั้นมายังไงนะ

     
     

                                   “สวัสดีครับพี่อารา” ซองมินลุกขึ้นแล้วก้มหัวให้คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า

     
     

                                   “มองแวบๆซองมินเหมือนผู้หญิงเลยนะ เมื่อกี้พี่เดินมานึกว่าคยูฮยอนนั่งกับสาวที่ไหน”

     
     

                                   “หรอครับ”  ผมไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่พี่อาราบอกว่าผมคล้ายผู้หญิง ผู้หญิงอะไรอ้วนขนาดนี้แถมผมก็สั้นด้วย พี่อาราอาจจะอยากบอกว่าผมเหมือนตุ๊ดก็ได้

     
     

                                   “ อื้อเด็กๆเข้าไปในบ้านกันเถอะ เดี๋ยวก็โดนยุงกัดหรอก” อาราดันไหล่ของคนที่เด็กกว่าทั้งสองไป

     
     

                                   หลังจากที่เราเดินกันเข้ามาในบ้าน แม่ผมกับป้าฮันนาก็ยืนรอพวกเราแล้ว ผมรู้ได้เลยว่าแม่ผมคงต้องขอกลับตามสัญญาที่ให้กับผมไว้ ระหว่างที่ผมรอแม่จัดการของทุกอย่างเสร็จ ป้าฮันนาก็ให้พ่อบ้านตัวใหญ่แบกถุงใบใหญ่มาให้ผม เธอบอกว่าเห็นพี่คยูบอกว่าผมคงจะชอบคุกกี้มากก็เลยเอามาให้กลับบ้านเต็มเลย ... สงสัยพี่เขาคงจะติดตากับภาพที่ผมแทะมันอย่างเอร็ดอร่อยแน่ๆ...

     
     

                                  “นี่หนูซองมิน มีเบอร์ตาคยูกับพี่อาราหรือยัง ? ”  ป้าฮันนาหันมาถามผม แหม..ช่างเป็นคำถามที่ดีจริงๆเลยครับ ผมก็เกือบลืมไปแล้วอย่างที่ไอ้ฮยอกแจบอกว่ามางานนี้ต้องได้พี่คยูกลับมาถึงแม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ไอ้ฮยอกแจมันเลือกให้ก็เถอะ อย่างน้อยยังไม่ได้ใจก็ได้เบอร์กลับมาก็ยังดีแล้วพี่เขาโดนกึ่งบังคับด้วยผมที่กะว่าจะดีใจแต่ก็ดีใจก็ไม่เต็มร้อย

     
     

                                 “ยังครับผมยังไม่ได้แลกกันไว้”  ซองมินเอ่ยตอบหญิงสูงวัย ถ้าผมตอบเฉยๆว่ายังครับผมยังไม่ได้ขอมันก็จะได้แค่เบอร์พี่คยูอย่างเดียว แน่นอนว่าที่ผมตอบแบบนี้เพราะผมอยากจะยัดเยียดเบอร์ผมให้พี่เขาด้วย เรื่องชั่วๆนี่ขอให้บอก

     
     

                                  “งั้นแลกกันเลยนะ มีอะไรจะได้โทรหากันได้หนูซองมินมีปัญหาอะไรอยากปรึกษาพี่เขาสองคนโทรหาได้ตามสบายเลยนะ”

     
     

                                   “ครับ” ซองมินตอบสั้นๆ

     

     

     

    ....

    .

    .

    .

     

     

     

                                     ผมพูดได้เลยครับว่าวันนี้เป็นวันที่หัวใจพองโตที่สุดแห่งปี โทรศัพท์ธรรมดาๆในมือผมตอนนี้มันมีเบอร์ซุปตาร์สุดหล่อ โจ! คยู! ฮยอน! แล้วเว้ยยยยยยย พ่วงด้วยพี่สาวของพี่คยูอีกคน คิคิ  ก่อนจะกลับมาบ้านผมเตรียมอวดไอ้ฮยอกแจเต็มที่แต่ติดว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นไปเรียน เลยทำการแคปหน้าจอที่เมมเบอร์ไว้ ขีดเส้นใต้เบอร์พี่คยูเน้นๆให้อิจฉาเล่นแล้วกดส่งไลน์ให้มันรัวๆ  มันคงอยากจะบล็อกผมมากเพราะแจ้งเตือนมันคงจะดังทั้งคืนด้วยภาพเดิมๆที่ผมอยากอวด

     
     

                                    ซองมินล้มตัวลงนอน เห้อ.... วันนี้ผมคงหลับยากแน่ๆ ว่าแต่เราควรจะส่งข้อความไปให้พี่คยูไหมนะ ฮึฮึ ก็นะเผื่อพี่เขาจะตอบ  ไวกว่าความคิดมือของซองมินก็กดตัวอักษรที่จะส่งผ่านข้อความไปถึงพี่คยูสุดหล่อ

     
     

                                    “ ยินดีที่ได้รู้จัก.... แล้วก็ฝันดี...”

     

                                     “ส่ง!

     
     

                                 หึ้ยยยย ... นี่ผมออกตัวเกินไปหรือเปล่านะ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเดียวก็พอแล้วมั้ง ...งื้อออ ทำไมผมต้องบอกว่าฝันดีด้วยเนี่ย! ฝันดีกับผีนะสิ(ผมหมายถึงตัวเอง) ไอ้ซองมินมึงพอได้แล้ว จงหลับ จงหลับ จงหลับ….

     

     


    ตึ้ง! ~

    0:45 น.

    ยินดีที่ได้รู้จัก..

    แล้วก็ ...ฝันดีนะครับ

                            ลีซองมิน

     

     
     

     

                                     “หึ”

     
     

                                     คนตัวสูงหัวเราะ เขาทิ้งโทรศัพท์ไว้แล้วเข้าห้องน้ำไป ยี่สิบนาทีผ่านมาคยูฮยอนเดินมาที่เตียงใหญ่ๆของเขา เด็กคนนี้นี่ก็น่ารักดีนะผมก็ไม่นึกว่าเขาจะส่งข้อความมาแบบนี้ทั้งจริงๆมันก็เป็นการเคารพผู้ใหญ่เวลาได้เบอร์ของใครมาก็ควรติดต่อหรือส่งข้อความขอบคุณกับยินดีเขาบ้าง แต่ไม่เคยมีใครส่งมาว่าฝันดี ฝันดีนี่มันจะแปลกไปไหม ...หึ คงไม่แปลกหรอกถ้าเด็กที่ชื่ออีซองมินเป็นคนส่งอ่ะนะ ว่าแล้วคยูฮยอนกดโทรศัพท์ในมือเพื่อตอบข้อความไป แต่น่าเสียดายคนอีกฝากไม่มีโอกาศได้รู้เพราะซองมินหลับเป็นตายแล้วล่ะ...

     

     


     

    1:08

    เหมือนกันครับน้องซองมิน …

                                 โจคยูฮยอน















    ....................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×