คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SF: FLY AWAY // 5
FLY AWAY
part 5
สวัสดีครับทุกคน เมื่อเช้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น... ตอนที่ผมตื่นมาผมได้รับข้อความตอบกลับจากพี่คยูหลังจากนั้นให้เดาว่าเกิดอะไร .... ผมดีใจมาก แต่อาจจะดีใจมากไปหน่อย ผมกระโดดโลดเต้นอยู่ที่เตียงอย่างมีความสุขสุดพลังแล้วบังเอิญ...เสียหลักเซหัวเลยไปฟาดกับเสาบ้านตอนนั้นลุ้นมากว่าแตกหรือไม่แตก แต่สุดท้ายหน้าผากผมก็ได้เลือดไปอย่างช่วยไม่ได้ ก็ยังดีที่ไม่ได้เย็บดังนั้นเช้านี้จึงเป็นอะไรที่วุ่นวายมากกับการที่แม่แบกผมไปโรงพยาบาล คิดว่าจะได้หยุดเรียน...แต่แม่ก็ถีบผมมาภาคบ่ายอยู่ดี
“ ซองมินมึงไปตีกับใครมา ” แน่นอนว่าไม่ใช่เสียงใครที่ไหน ตั้งแต่ผมเดินเข้าห้องไปพร้อมกับผ้าก็อตแป๊ะหัวไอ้ฮยอกแจมันก็ถามออกมาทันที
“ ไปตีกับเสาบ้านมา..”
“โอ๊ะไอ้ห่า! ทำไมมึงโง่อย่างนี้เนี่ย” ไม่เคยเลยที่มันจะโอ๋ผม รู้อยู่แล้วล่ะว่ามันต้องสมน้ำหน้า ถ้ามันได้ฟังสาเหตุนะ เชื่อเถอะมันแทบจะหัวเราะใส่หน้าผมเลย
“ แล้วทำไงเอาหัวไปสีกับเสาบ้าน ฟินไม่หายรึไง ” สมกับเป็นเพื่อนผมจริงๆไอ้ฮยอกแจแม่งทายถูก
“ก็เออ! แต่ที่ยิ่งกว่านั้นเมื่อคืนกูส่งข้อความให้พี่เขาไป เมื่อเช้าเขาเลยตอบกลับมา กูเสือกดีใจเวอร์ไปหน่อยดิ้นไปดิ้นมาหัวเลยชนเสาบ้าน” ซองมินพูดไปพลางเขยิบตัวเองลงที่นั่ง หลักจากพูดจบไอ้ฮยอกแจแม่งก็หัวเราะใส่ผมทันที
“กร๊ากกกก ฮ่าๆ โอ้ยยยย มึงนี่” สัส..หัวเราะอย่างนี้ถ่มน้ำลายใส่หน้าผมเหอะ
“พอแล้วมึง ขากเสลดใส่หน้ากูเลยไหมน้ำลายเป็นฝอยเต็มหน้ากูแล้ว”
“เออ กูขอโทษ ฮ่าๆ” ฮยอกแจยื่นกระดาษเช็ดชู่ให้เพื่อนรักก่อนที่ซองมินจะเอาถูหน้าตัวเองอย่างเซ็งๆ
แล้ววันนี้มันก็ผ่านไปเหมือนเดิม ~
เกือบสองอาทิตย์แล้วครับที่ผมส่งข้อความไปหาพี่คยูวันนั้น หลังจากที่ได้ข้อความตอบกลับมาข้อความนึง ... มันก็ไม่มีมาอีกเลย -_- เราไม่ได้คุยอะไรกันอีกหลังจากนั้น นี่ผมยังมีความหวังว่าพี่เขาคงจะทักมาบ้าง แต่ก็ไม่มีเลยครับ แล้วผมก็ไม่กล้าส่งไปอีกเพราะกลัวพี่เขารำคาญ อีกอย่างก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุย วันนี้ผมก็คิดว่าจะส่งไปข้อความนึงก่อนนอนแล้วกันหลังทำการบ้านเสร็จ ยังไม่รู้จะหาเรื่องชวนคุยอะไรเลยคงต้องโทรไปปรึกษาฮยอกแจระหว่างนี้ทำหารบ้านไปเรื่อยๆดีกว่า
ก๊อกๆ
“ซองมินแม่เข้าไปนะ..” ซองจาเดินเข้ามาหลังพูดเสร็จ ซองมินที่อยู่ที่โต๊ะข้างๆเตียงนอนหันมามองหน้าเธอด้วยความสงสัย คนเป็นแม่หันไปนั่งที่เตียงนอนของลูกชายเธอนิ่งสักพัก ก่อนที่จะเริ่มต้นพูดสิ่งที่เธออยากบอก
“ซองมิน ....เมื่อกี้ลุงฮันซองโทรมาบอกว่า พ่อถูกยิงตอนที่เข้าไปบุกจับโกดังยาเสพติด ตอนนี้อยู่ไอซียูที่โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น” เธอกลั้นใจพูดจนจบ แน่นอนว่าซองมินอาจจะเครียดและเสียใจได้แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรปิดบังลูก ซองมินสมควรที่จะรู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้น
“แล้วพ่อเป็นไงบ้างครับ” ซองมินยังนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมพยายามควบคุมอารมณ์ให้ได้ที่สุดเพราะผมรู้ว่าถ้าผมตกใจแม่ก็จะยิ่งเครียด
“พ่อโดนยิ่งที่ซี่โครง กระสุนฝังเข้าไปในปอด ตอนนี้หมอผ่าตัดออกแล้วแต่พ่อยังหายใจเองไม่ได้” อีซองจาพูดเสียงสั่น ถึงเธอจะตกใจมากแค่ไหนแต่ก็ดีที่ซองมินไม่ใจเสียมากเธอรู้ว่าลูกชายเธอเข้มแข็ง
“ซองมิน แม่ต้องไปดูพ่อที่อเมริกาแต่ตอนนี้ซองมินกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแม่ไม่อยากทิ้งหนูไป ซองมินไปอยู่อเมริกาสักปีนึงได้ไหมลูก”
นี่มันอะไรกัน ... ทำไมผมต้องทิ้งการเข้ามหาลัยไปอยู่ที่นั่นด้วย ถึงแม้ว่าผมอยากจะออกไปต่างประเทศมากๆก็เถอะ แล้วพ่อก็ป่วยหนัก แต่นี่มันเป็นเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของผม ผมไม่อยากเสียเวลาไป 1 ปี กับการที่แม่คิดว่าผมอยู่คนเดียวไม่ได้
“แม่ ... แม่ไม่ต้องห่วงผมหรอกว่าผมจะอยู่ไม่ได้แม่ก็รู้ว่าผมเอาตัวรอด แล้วการที่แม่บอกให้ผมไปอยู่นั่นในเวลานี้ มันจะไปมีประโยชน์อะไร ต่อให้ผมไปพ่อก็ไม่ดีขึ้นหรอก...อีกอย่างพ่อคงไม่ต้องการผมไปดูแล” ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก แต่ถ้าผมไปมันคงจะไม่มีประโยชน์รู้ทั้งรู้ว่าพ่อไม่ค่อยสนใจผม
“ซองมิน เราอายุแค่ 18 เองนะ อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก นี่ซองมิน...พ่อเขารักลูกนะไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกตัวเองหรอก”
“แม่ฟังนะ ผมไม่ได้บอกว่าพ่อไม่รักผม ผมบอกว่าผมไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะพ่อก็มีแม่ดูแลอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายไปที่นู่นแม่ก็รู้ว่ามันเยอะค่าเครื่องบินค่าที่อยู่อีก ไหนจะค่ารักษาพ่อถึงแม้ว่ากรมจะออกให้แต่มันก็ไม่หมดอยู่ดี จนกว่าจะถึงเวลาที่พ่อหายดีจะต้องเสียไปเท่าไร ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะทิ้งผมไว้ที่นี่เถอะผมอยู่ได้ ...” ซองมินพูดออกมาเป็นชุด พฤติกรรมไม่ยอมฟังใครของซองมินแบบนี้ทำให้เธออ่อนใจ
“ โอเค..งั้นเอาอย่างนี้ แม่จะโทรหาป้าฮันนาให้ป้าฮันนาช่วยดูแลโอเคไหม แล้วเราจะทำอะไรก็เชื่อฟังป้าเขาด้วยเข้าใจไหม”
“ทำไมแม่ต้องไปรบกวนคนอื่นเขาด้วย ผมบอกว่าอยู่คนเดียวได้คืออยู่ได้ ผมเป็นเด็กผู้ชายนะ” ถึงแม้ว่าผมอยากจะเจอหน้าพี่คยูมากก็เหอะ แต่ผมไม่ชอบที่จะไปพึ่งพิงคนอื่นแบบนั้นทั้งที่เป็นเป็นเรื่องของครอบครัวเรา
“นี่! แม่ก็จะบอกเป็นคำสุดท้ายเหมือนกัน ถ้าไม่ยอมรับข้อเสนอก็เก็บกระเป๋าไปกับแม่!” ความดื้อรั้นของซองมินทำให้ผู้เป็นแม่โกรธ ซองจาขึ้นเสียงใส่ลูกชาย ทันทีที่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจของซองมินหลังเธอตะคอกใส่ ซองจาก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่รับฟังซองมินอีก
ผมไม่เคยชินกับอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของแม่ ปรกติแม่ก็ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นยกเว้นตอนที่ผมไม่ฟังเธอซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่ผ่านไปเมื่อกี้ นี่คือเรื่องจริงที่ผมไม่สามารถควบคุมความเอาแต่ใจและความดื้อรั้นของตัวเองได้ สุดท้ายผมกับแม่ก็ทะเลาะกันบ่อยถึงแม้ว่าผมจะสนิทกับแม่ที่สุดในบ้านก็ตาม
ซองมินวางชีทเรียนทุกอย่างไว้บนโต๊ะ หลังจากผ่านสงครามมาผมก็ไม่มีอารมณ์จะทำการบ้านแล้ว โครงการข้อความหาพี่คยูก็ต้องเป็นอันพับไปเพราะผมมีเรื่องให้ปวดหัวมากกว่า ผมควรนอนให้ความเดือดด่านในอารมณ์มันหายไป ถึงมันจะแก้ปัญหาไม่ได้ทุกอย่างแค่ให้ผมผ่านวันนี้ไปเร็วๆก็พอ...
.....
...
..
.
คยูฮยอนเดินเข้ามาในบ้านของตัวเองบ้านที่เขากับครอบครัวอยู่ด้วยกัน วันนี้เขาว่างงานเลยอยากมาหาแม่ ตอนเย็นๆกะว่าจะพาพ่อแม่แล้วก็พี่อาราไปทานเข้าเย็นด้วยกันเพราะนานๆทีเขาจะว่างขนาดนี้ เมื่อวานพี่จงอินผู้จัดการของผมเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่กับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไปหยกๆเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวที่คอนโด การที่กลับบ้านไปแล้วไม่มีอะไรกิน วันหยุด 3 วันนี้ผมอยากมาอยู่ที่บ้านมากกว่า เห็นทีผมคงต้องหาแม่บ้านสักคนแล้วล่ะ ไม่งั้นคอนโดผมได้กลายเป็นสุสานขยะแน่ๆ
“ผมคิดถึงแม่จัง จุ๊บหน่อย” คยูฮยอนโผเข้ากอดคนเป็นแม่แล้วจุ๊บปากเธออย่างที่เคยทำทุกๆครั้ง
“ทำไมถึงมาได้ละ ไม่มีงานหรอลูก” ชินฮันนาถาม
“ผมหยุดตั้งสามวันแหนะ พี่จงอินก็เพิ่งย้ายออกไปอยู่คนเดียวมันเหงาเลยมาหานี่ไง ผมอยู่ตั้งสามวันนะไม่ดีใจหรอ” คนเป็นลูกกอดอ้อนมารดา คยูฮยอนเป็นคนรักครอบครัวและเกรงใจแม่เป็นที่สุด ตั้งแต่เด็กจนโตคยูฮยอนไม่ค่อยขัดใจแม่ของเขาเท่าไรนัก แม้ว่าเขากับพ่อมักจะทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่องเท่าไรก็ตาม แต่ก็จะมีแม่เพียงคนเดียวที่คอยให้ท้ายตลอดเพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก พ่อเคยบอกกับเขาว่าแม่อยากมีลูกผู้ชายเอาไว้สืบทอดตระกูล พอพี่อาราออกมาลืมตาดูโลกแม่เลยผิดหวังเล็กน้อยดังนั้นแม่จึงสนับสนุนคยูฮยอนเป็นพิเศษ
“จ้า ดีเลยหยุดสามวันนานๆจะได้อยู่บ้านยาวสักที เย็นนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันไหมลูก”
“ดีเลยครับแม่ ผมก็กะว่าจะพาไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วเห็นแม่บ่นอยากทานอาหารจีนใช่ไหม ผมจำได้นะ”
~ โอนึล พาโบชอรอม คือ ชารีเอ ซอ อิซนึน กอยา~
เสียงเพลงเรียกเข้าเป็นเสียงลูกชายสุดที่รักร้องประกอบละครที่ตัวเล่นดังขึ้น ฮันนาปล่อยอ้อมกอดของลูกชายแล้วเดินเข้าไปที่ต้นเสียงบนโซฟาที่เธออ่านนิตยสารเมื่อครู่.. ซองจา.. หน้าเจอของเธอขึ้นรายชื่อเรียกเข้า มือกดรับอย่างไม่ต้องสงสัย
“พี่ค่ะ คือฉันมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย ตอนนี้พ่อของซองมินโดนยิงเขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันต้องไปดูเขาแต่ซองมินไม่ยอมไปด้วยเลย” ซองจาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนหลังจากที่เธอทะเลาะกันลูกเมื่อคืนตื่นมาเธอก็รีบโทรหาพี่คนสนิทก่อนเลย อีกสองวันเธอต้องเดินทางไปแล้วถ้าชินฮันนาไม่ตกลงว่าจะดูซองมินให้เธอก็คงไม่สบายใจเป็นแน่
“ไม่เป็นไร พี่ดูซองมินให้ได้ไปเถอะไม่ต้องห่วง ลูกเธอก็เหมือนลูกพี่” ไม่ต้องเอ่ยคำขอร้องฮันนาก็เข้าใจดี เธอสนิทกับซองจามากและรู้จักกันมานานตั้งแต่เรายังเป็นวัยรุ่น หลายต่อหลายครั้งที่มีปัญหาซองจาไม่เคยบ่นที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอต้องตอบแทนน้องบ้างและมันคงถึงเวลาแล้ว...
“ขอบคุณพี่มากค่ะ ถ้าไม่มีพี่ฉันคงไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว” ทั้งสองคุยกันสักพักเรื่องของการกินอยู่ของซองมินที่ซองจาอยากฝากฝัง สงสัยลูกชายเธอคงได้รูมเมทคนใหม่แทนเมเนอเจอร์แล้วล่ะมั้ง...
….
…
..
.
ครอบครัวโจวพากันมาที่ภัตตาคารอาหารจีนแห่งหนึ่งในย่านคังนัม ภาพที่ลูกชายกับลูกสายพากันแย่งตักอาหารให้คนเป็นแม่ช่างน่าเอ็นดูสำหรับสายตาของคนทั่วไปยิ่งหนึ่งในนั้นเป็นพระเอกชื่อดังที่กำลังมีผลงานอยู่ตอนนี้ ยิ่งถูกจับตาจากคนในร้านมากขึ้น
“แม่ครับทานเยอะๆนะครับ” ลูกชายตัวสูงตักผัดเปรี้ยวหวานจานใหญ่แบ่งใส่ให้คนเป็นแม่ การกระทำของคนเป็นลูกทำให้ผู้เป็นแม่หัวเราะคิกคัก
“โอเคๆ ตอนนี้แม่ก็อ้วนมากแล้วนะ แม่แก่แล้วกินไม่ไหวแล้วล่ะ”
“ไม่เห็นอ้วนเลย กินเยอะๆจะได้แข็งแรงไงครับ” ว่าแล้วคยูฮยอนก็ตักอาหารให้คนเป็นแม่อีก
“กินเยอะๆแล้วจะได้เป็นแบบเรางั้นหรอเดี๋ยวนี้น้ำหนักขึ้นเยอะนะเนี่ย ลูกแม่จะกลายเป็นหมูแล้วเป็นดาราแล้วอ้วนแบบนี้ใครเขาจะจ้างหื้ม” ฮันนาเอ่ยหยอกลูกชายที่ช่วงนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะ
“แม่ไม่รู้หรอลูกชายแม่นี่สาวๆติดตรึมนะ ถึงผมจะอ้วนขึ้นแต่ไม่นานก็คงกลับมาผอมแล้วล่ะไม่มีใครทำอาหารให้กินที่คอนโดแล้ว” พอพูดถึงเรื่องที่ลูกชายเธอต้องอยู่คนเดียวก็เพิ่งนึกเรื่องของซองมินได้
“นี่ทุกคน เมื่อเช้าน้าซองจาโทรมาหาแม่บอกว่าอาจุนฮวาอยู่ที่โรงพยาบาล อาจุนฮวาถูกยิงน่าจะตอนที่ไปทำงานอีกสองวันแม่กับพ่อจะไปเยี่ยมอาเขาที่อเมริกา แม่มีเรื่องจะให้คยูฮยอนช่วยหน่อยได้ไหมลูก” ชินฮันนาตัดสินใจเข้าเรื่องที่เธอต้องการบอกกับลูกชาย
“ได้ครับ”
“ดีเลย ที่แม่อยากให้ช่วยก็คือแม่อยากให้คยูฮยอนเอาหนูซองมินไปอยู่ด้วยสักระยะหนึ่งได้ไหม...น้องเขากำลังเข้ามหาวิทยาลัยเลยไม่อยากไปอเมริกากับน้าซองจา น้าเขากังวลว่าน้องจะอยู่คนเดียวแม่เห็นว่าจงอินย้ายออกไปจากคอนโดลูกพอดีเลยคิดว่าถ้าได้น้องไปอยู่เป็นเพื่อนคงจะไม่เหงา”
“แล้วแม่ไม่เอาน้องไว้ที่บ้านเราหรอครับ พี่อาราก็อยู่พ่อกับแม่ก็อยู่อีกอย่างห้องว่างก็เยอะ” คยูฮยอนเอ่ยถามสิ่งที่เขาสงสัยถึงแม้ว่าเขาจะมีคำตอบในใจอยู่ก็ตาม แม่คงอยากให้ผมอยู่กับน้องแน่ๆ
“พี่จะกลับอาทิตย์หน้าแล้วคยูฮยอนวงเรียกพี่ไปเล่นที่ออสเตรเลีย” อาราเอ่ยเสริมเมื่อเธอกำลังรับรู้ว่าแม่ต้องการอะไร
“ ที่แม่อยากให้ซองมินอยู่กับคยูฮยอนก็เพราะไม่อยากให้ซองมินเหงา น้องเป็นเด็กผู้ชายอยู่กับป้าแก่ๆอย่างแม่ก็กลัวน้องจะเบื่อพ่อเราก็ไปทำงานทุกวัน อีกอย่างไหนลูกบอกว่าอยู่คนเดียวที่คอนโดเหงาก็เอาน้องไปอยู่ด้วยเลยสิจะได้พากันอยู่พากันหาข้าวกิน”
“ก็ได้ครับ แล้วนี่แม่บอกน้องหรือยัง”
“ยังเลย แม่จะโทรบอกน้าซองจาพรุ่งนี้แหละ” ชินฮันนายิ้มตอบ
คยูฮยอนจำนนต่อเหตุผมล้านแปดที่แม่กับพี่สาวยัดให้ คยูฮยอนส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากพ่อก็ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับอะไรทั้งสิ้น การที่มีซองมินมาอยู่ด้วยผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอกซองมินเป็นเด็กที่ใม่ค่อยพูดและไม่ค่อยวุ่นวาย แต่ผมคิดว่าผมแค่ยังไม่สนิทกับน้องมากเท่านั้น กลัวว่าอยู่กันไปจะอึดอัดกันเปล่าๆแล้วคนอย่างอีซองมินผมคงจะไม่ค่อยเข้าใจน้องเท่าไรนัก....นับจากวันนี้เป็นต้นไปซองมินคงได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมอย่างที่แม่ต้องการจริงๆแล้วล่ะ
...
..
.
ซองมินกลับบ้านมาจากโรงเรียนในตอนเย็นแล้วตรงเข้าห้องนอนทันที ...บางทีผมว่าผมก็คงดื้อเกินไปแต่ผมคงจะไม่ยอมเสียเซลฟ์ไปขอโทษแม่หรอกนะ เมื่อเช้าผมไม่ได้คุยกับแม่เลยแม่ทำอาหารไว้ให้ผมก็ไปกินที่โรงเรียน พรุ่งนี้แม่ก็จะไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วผมก็ไม่อยากให้เราจากกันแบบนี้เท่าไร ก่อนนอนผมคงต้องไปง้อแม่แล้วล่ะ ...
ก๊อกๆ
“เข้ามาเถอะครับ” ซองมินตอบรับเสียงเคาะประตูของมารดา แม่คงจะมาง้อผมแล้วล่ะสิ
“แม่มีเรื่องจะคุยด้วย...ป้าฮันนาโทรมาบอกว่าให้ซองมินต้องไปอยู่ที่คอนโดพี่คยูฮยอนเพราะเมเนเจอร์พี่เขาย้ายออกเลยอยากให้เราไปดูคอนโดพี่คยูฮยอนที่นั่นให้หน่อย เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม”
“ห๊ะ! อะไรนะ..ไปยู่ที่บ้านพี่คยูหรอ แล้วทำไมป้าฮันนาไม่ให้ผมอยู่กับป้า” ซองมินตกใจเสียงดัง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ไปอยู่ที่นั่นจริงๆ
“ก็อย่างที่แม่บอกเมเนเจอร์พี่เขาเพิ่งย้ายออกจากคอนโด ป้าฮันนากลัวลูกชายเหงาเลยอยากให้ซองมินอยู่เป็นเพื่อน เราไม่ต้องกังวลไปหรอกนะป้าฮันนาบอกว่าจะให้พี่คยูช่วยดูแลเราด้วย ถ้าอยากให้พี่เขาช่วยเรื่องสอบหรือเรื่องอะไรก็บอกพี่เขาได้เลย” ซองจาเดินเข้ามานั่งที่เตียงข้างๆลูกชาย เธอลูบหัวซองมินอย่างนึกรักนี่เป็นครั้งแรกที่เธอกับลูกต้องห่างกันแรมเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้นจนกว่าสามีเธอจะหายดี...
“ ซองมิน..ไปอยู่กับพี่เขาทำตัวดีๆนะรู้ไหม ทำงานบ้านดูแลพี่เขาอย่าให้พี่เขาเหนื่อยใจ ตอบแทนที่พี่เขาให้เราพักพิงนะ” เธอรั้งตัวซองมินเข้ามากอด
“ครับ ผมจะช่วยเหลือพี่เขา” ซองมินรับคำ แอบเขินนิดๆที่แม่พูดมันเหมือนว่าผมทำหน้าที่ภรรยาพี่เขาเลย -///- จากที่เศร้าเรื่องตีกับแม่ไปก่อนหน้านี้ตอนนี้ผมใจชื้นขึ้นเยอะ
“แม่ผมขอโทษนะที่ดื้อ ... แต่ผมต้องทำตามผลประโยชน์ของตัวผม ผมรู้ว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัวแต่แม่ก็รู้ว่าอนาคตมันสำคัญกับผมมาก แม่ภูมิใจที่ผมเรียนเก่งมาตลอดแล้วแม่ก็รู้ใช่ไหมครับว่าผมให้ความใส่ใจกับมันมาก แม่อย่าโกรธผมเลยนะที่ทำแบบนี้...ผมก็ห่วงพ่อเหมือนกันแต่แม่ไปคนเดียวเถอะครับไม่ต้องห่วงผม บอกพ่อด้วยว่าผมคิดถึงพ่อ พอผมได้มหาวิทยาลัยเมื่อไรผมจะไปหาพ่อนะครับ”
.................................................................................................
ความคิดเห็น