ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [KYUMIN] : YI SAN QI : love potion

    ลำดับตอนที่ #2 : SF: FLY AWAY // 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 58


    FLY AWAY

           

     

     

     

     

     

              

     

               




                คุณเคยรักใครแบบสุดหัวใจบ้างไหมครับ ครั้งนึงผมเคยรักผู้ชายคนหนึ่งสุดหัวใจ ผมรักเขามากถึง
    ขั้นตายแทนกันได้ ทุกๆอย่างมันทำให้ผมเปลี่ยนไป จากที่ผมเป็นคนที่เคยร่าเริงสดใสตอนนี้กลายเป็นเศร้า
    หมอง ไม่ใช่ว่าความรักมันไม่ดี ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนนั้นเขาทำอะไรให้ผมหรอกครับ ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้คือหัวใจผม
    มันทำตัวของผมเอง.....

               

                 ตอนนี้ผมอาศัยอยู่ที่ฮังการี ผมต้องการหลีกหนีทุกอย่างในชีวิต หลายคนคงบอกว่าผมโง่ ใช่แล้ว ผม
    มันโง่มาก แต่หากคุณรู้ว่าชีวิตผมมันผ่านอะไรมาบ้างผมเชื่อว่าถ้าคุณเป็นผม คุณจะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน
    เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันที่พี่เค้าเข้ามาในชีวิตผม

     

     

     

         

     

     

               “ซองมินสวัสดีป้าฮันนาสิลูก จำป้าเขาได้ไหม” สาวสูงวัยที่หน้าตายังคงความอ่อนเยาว์ไว้เสมอเอ่ยกับ
    ลูกชายที่รัก

                วันนี้เป็นวัยเลี้ยงรุ่น เหล่าบรรดานักศึกษาเก่ารุ่นปี1883 ทั้งหลายมารวมตัวกันเพื่อพบปะสังสรรค์กัน
    ตามประสาคนสูงวัย บรรดาหญิงสาวสะสวยหลายคนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ตอนนี้กลายมาเป็นคุณแม่วัยทอง
    พาลูกพาหลานพาสามีมาอวดกันอย่างที่คนสูงวัยมักเป็น

            

                “สวัสดีครับคุณป้าฮันนา” ร่างอวบหันหน้าไปก้มหัวอย่างสุภาพให้คนที่เป็นมารดาเอ่ยถึง ผมก็เป็น
    หนึ่งในนั้น เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่บรรดาคุณหญิงทั้งหลายนำมาโอ้อวดกันเหมือนตอนที่แม่ผมอวดเครื่อง
    เพชรกับน้าผม ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร

          

                 “อ่าววว...หนูซองมินนี่เองโตขึ้นเยอะป้าจำไม่ได้เลยนะเนี่ย น่ารักขึ้นเป็นกองเลย” หญิงสูงวัยยื่นมือมาจับที่ใบหน้าของคนร่างอวบ สายตาที่ฟ่าฟางตามอายุมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู หากเขามีลูกอีกคนคงอยากให้น่ารักเหมือนเด็กคนนี้

         

                  “ขอบคุณครับ” ผมตอบรับเบาๆ จริงๆไม่ใช่แค่คุณป้าจำผมไม่ได้หรอกครับ ผมก็จำคุณป้าไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ใครเป็นใครผมไม่รู้ ผมรู้สึกว่าผมเบื่อแล้วอยากกลับบ้านมากที่สุด ผมปวดเท้า ปวดตัวไปหมด

         

                   “ซองจา ดูเหมือนซองมินจะจำฉันไม่ได้นะเนี่ย โตขึ้นเยอะซะขนาดนี้”

                    “นั่นมันก็นานมาแล้วนะคะพี่ ตั้งแต่ซองมินเกิดแล้วก็สักซองมินอายุสามขวบได้มั้ง จากนั้นซองมินก็ไม่เห็นพี่อีกเลยคงจะจำไม่ได้ ขอโทษทีนะคะ”

                     “ไม่เป็นไรหรอกซองจา ฉันเห็นซองมินครั้งแรกก็จำไม่ได้เหมือนกัน หนูซองมินหน้าตาน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงเลยเนอะ”

                     “อ๋อ คงจะสวยเหมือนแม่มั้งคะพี่ คิคิ ”

                     

                      ตอนนี้ผู้ใหญ่เขาคุยอะไรกันผมไม่สนใจแล้ว ผมค่อนข้างเบื่องานแบบนี้มากๆทำไมผมต้องสละเวลาเล่นอินเตอร์เน็ทของผมไปกับงานที่น่าเบื่อแบบนี้ด้วยเนี่ย -_- ตอนนี้ผมหิวมากๆ โมโหสุดๆเลย วันนี้เป็นวันเสาร์และการบ้านผมเยอะมาก พอผมเพิ่งทำการบ้านเสร็จก็รีบแต่งตัวเพราะโดนคุณเธอลากมากตั้งแต่ยังไม่ทัน 5 โมงเย็น ยังไม่ได้กินเข้าเย็นสักคำ อาหารที่นี่ก็เป็นช็อตเล็กๆไม่พอยาไส้ผมเลยบอกตรงๆ...

          

                   “ซองจาจำตาคยูฮยอนได้ไหม วันนี้พี่พามาด้วยนะ ช่วงนี้งานเยอะมากกกกก”

                   “จำได้สิๆ วันนั้นตอนซองมินเกิดก็มาดูน้องไม่ใช่หรอ ตอนนี้ดังใหญ่แล้วสินะ” อีซองจากับชินฮันนาหันไปหัวเราะคิกคักกันใหญ่ 

             

                    ผมไม่รู้ว่าผู้ใหญ่นี่เขาไม่มีอะไรให้อวดหรือไงถึงชอบเอาลูกเอาหลานไปอวดกัน บ้านผมฐานะก็พูดได้เลยว่าไม่ได้ดีมากจนถึงขั้นคนรวยแต่ก็พอมีพอกินมีสวัสดิการตามประสาครอบครัวข้าราชการพลเรือน ส่วนป้าฮันนาผมก็จำเธอไม่ได้แล้วล่ะ แต่ดูจากการแต่งตัวของเธอกับสร้อยเพชรโตๆนั่น ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอมแต่คงจะราคามากโขอยู่ เธอคงรวยน่าดู

          

                    “นี่หนูซองมินจำพี่คยูฮยอนได้ไหมจ๊ะ” ชินฮันนาหันมาถามคนร่างอวบเพื่อให้ร่วมบทสนทนา เธอชอบเด็กคนนี้มาก ดูน่ารักสมวัย ถึงหน้าตาจะไม่ได้ดีมากแต่ก็ถือว่าน่ารักใช้ได้ ตอนที่เด็กคนนี้อยู่ในท้องอีซองจาเธอเคยคิดจะให้หมั่นกับลูกชายของเธอถ้าเป็นผู้หญิง แต่เสียดายที่ดันเกิดมาเป็นผู้ชาย…

                     “คงจำไม่ได้ครับ ผมไม่คิดว่าเคยเห็นพี่เขานะครับ” ผมตอบเธอไปอย่างนอบน้อม เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทกับผู้ใหญ่ สองมือผมไขว้ประสานตรงหน้าเพื่อให้ดูน่ารักน่าเอ็นดูเล็กน้อย แหม่....กุแอ๊บเต็มที่.....

                    ป้าครับขนาดป้าผมยังจำไม่ได้เลยนี่ป้าถามหาลูกป้า ผมคงจำได้มั้ง -_-*

                 “ทำไมจะไม่เคยเห็นล่ะซองมิน ก็ตอนนี้พี่คยูฮยอนเขาเป็นดาราดังสุดๆไปเลย พูดแล้วก็อิจฉาพี่นะคะได้ลูกชายดี ดูไอ้ตัวเล็กของฉันสิทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง” อีซองจาหันมากล่าวว่าคนตัวอวบเล่นๆ ลูกชายเธอน่ะวันๆไม่ทำอะไรหรอกเล่นแต่อินเตอร์เน็ท เลี้ยงหมา เลี้ยงแมว เล่นกีต้าร์ ยังดีที่เป็นเด็กเรียนเก่งได้เกรดดีไม่อย่างนั้นเธอคงจะเหนื่อยใจน่าดู

                    “แหม่ ไม่หรอกน่า ... ซองมินน่ะยังเด็กอยู่ยังเรียนไม่จบเลย ตาคยูฮยอนอายุ 28 แล้ว หนูซองมินห่างกับตาคยู 9 ปีไม่ใช่หรอเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยเองเด็กมันยังเลือกทางไม่ถูกหรอก”

           

                    หืม? ... คยูยงคยูฮยอนลูกของป้าแกนี่เป็นดาราใช่ไหม ... หรือจะเป็นคยูฮยอนซุปตาร์ที่เล่นละครหลังข่าวที่ดังมากๆตอนนี้ป่ะ ตัวผมเองไม่ใช่คนที่บ้าดาราเท่าไร ไม่อยากจะบอกถ้าใช่นี่ผมดูหนังของพี่เขาทุกตอนไม่เคยพลาดเลย -///- ถ้าเขาคือโจคยูฮยอนนี่ผมฟินเลยนะ ดาราทั้งโลกนี่ผมติดตามผลงานของพี่เขาคนเดียว จะบอกว่าเป็นแฟนคลับก็ไม่ถึงขั้นนั้นแต่ผมติดใจหน้าหล่อๆแล้วก็การเล่นละครดีๆของพี่เขามากกว่า

             

                    “นั่นไงตาคยูฮยอนมาแล้ว” หญิงวัยกลางคนมีศักดิ์เป็นมารดาของคนที่เดินมาตรงหน้าหันไปมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตน

                   
                     ผู้ชายตัวสูง ผิวขาวซีด ตาโตและคมเหมือนหมาป่า ปากหยักได้รูป ผู้ชายคนนั้นกำลังเดินเข้ามาในวงสนทนาแบบเงียบๆ แม้จะมีคนรอบกายเหม่อมองในความหล่อเหลาและโด่งดังเขาของเขา แต่สายตาของชายหนุ่มกลับตรงมาที่กลุ่มสนทนาที่เดียว

            ….

             .

             .

           

                   โอ้ยยยยยย  พี่คยูจริงๆด้วย ตาย ตาย ตายตรงนี้แหละ ตัวจริงขาวออร่ามากกกกก ขนาดผมเป็นผู้ชายด้วยกันผมยังหลงในความหล่อของพี่เขา หลังจากนี้ต้องทำความรู้จักกันยาวแล้วครับ -.,-

           

                  “สวัสดีครับน้าซองจา ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเยอะเลยนะครับ” ชายหนุ่มตัวสูงเอ่ยชมหญิงร่างเล็กอย่างสนิทสนม ซองจายิ้มทักทายอย่างจริงใจ  ดูสิครับแค่พี่เขาหยอดหน่อยแม่ผมนี่เขินตัวม้วนยิ่งกว่าสาวแรกรุ่นซะอีก

                  “ไม่หรอกจ๊ะน้าก็แก่แล้ว แล้วเป็นยังไงบ้างละคยูฮยอนงานไปได้ดีไหม”

                  “ก็พอตัวครับ ช่วงนี้ยุ่งๆหน่อยเพราะละครใกล้ปิดกล้องแล้ว แล้วคุณน้าล่ะครับเป็นยังไงบ้าง” คนตัวสูงเอ่ยถามซองจากลับอย่างนอบน้อม ท่าทีที่ดูสุภาพและอ่อนโยนมักทำให้ใครหลายๆคนหลงใหล ระหว่างที่คยูฮยอนพูดคุยกับกลุ่มสนทนาที่อีซองจาเปิดขึ้นก็ยังคงเป็นที่สนใจแก่คนรอบข้างได้อย่างมาก ก็แหม...คนดังมางานทั้งทีได้รับความสนใจเป็นธรรมดา

                  “น้าก็เรื่อยๆแหละจ๊ะ ตอนนี้น้าว่างไม่ค่อยมีอะไรทำก็เปิดร้านเบเกอร์รี่เล็กๆว่างๆคยูฮยอนมาชิมฝีมือน้านะ”

                  “ได้ครับ ผมว่างเมื่อไรจะไปหานะครับ”

            

                  พี่คยูฮยอนนี่เขาสุภาพอย่างนี้ตลอดหรือเปล่านะ พี่รู้ไหมว่าสายตาวิวับที่พี่ส่งมาตอนคุยกับคนที่คุยกับพี่อยู่น่ะ มันทำให้คนฟังใจละลาย -///- ผมว่าถ้าผมอยู่ตรงนี้ต่อไปผมพี่คงแอ็คเทคผมจนตาบอดแล้วล่ะ ไปฉี่ดีกว่าตอนนี้ผมหน่วงๆที่มินมินน้อยแล้วอ่ะ...

            

                  “เอ่อ...แม่ครับผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” คนตัวอวบเอ่ยขัดวงสนทนา ทุกสายตาหันมาที่คนร่างอวบ ที่แต่ก่อนไม่ได้เป็นที่สนใจในวงสนทนาเท่าไร

                  “เอ่อ... นี่....” คนตัวสูงหันมาทำหน้าสงสัย เอ่อ ... พี่จะหันมาหาผมทำไมครับ        

     

                 “อ๋อนี่ น้องซองมินไงคยูฮยอน น้องโตเป็นหนุ่มแล้วนะ” ป้าฮานนาจับตัวผมมายู่ที่ตรงกลางวงสนทนา แหม...ป้านี่ยัดเยียดผมให้ลูกชายเหลือเกินนะครับ ก็ดีแล้ว ผมก็ชอบพี่เขาเหมือนกัน -///- หวังว่าในอนาคตผมจะได้รู้จักพี่เขาให้ลึกกว่านี้นะครับ -.,-

                 “ สวัสดีครับน้องซองมิน” คนตัวโตเอ่ยทักร่างเล็กตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่เขามักใช้ตอนกระชากใจสาวๆ 

                “ สวัสดีครับน้องซองมิน”

                  “ สวัสดีครับน้องซองมิน”

          

                “ สวัสดีครับน้องซองมิน”

     

                 ป๊าดดดดดด คนอะไรหน้าหล่อแล้วเสียงยังนุ่มยังกับสำลี  เสียงพี่นี่มันสะเทือนรูหูผมมาก ถ้าได้พี่ร้องเพลงกล่อมนอนทุกวันผมคงจะสุขใจจนลอยไปดาวอังคาร -///-

                 “ครับ...” ผมก็ได้แค่เอ่ยคำสั้นๆแค่นั้นไป เพราะว่าปากผมมันเหมือนโดนคนใช้ไม้หน้าสามตีซ้ำๆสักสิบรอบ เสียงนุ่มๆกับหน้าหล่อๆของพี่เขานี่ทำให้ปากของผมกลายเป็นอัมพาตไปเลย

                 “น้องซองมินกินอะไรหรือยังครับ เดี๋ยวพี่ไปเอาให้เอาไหม”  ผมมองหน้าพี่แค่นี้ก็อิ่มแล้วครับ

                 “ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาจากบ้านแล้ว เชิญพี่เถอะครับ” โกหกไปคำโต โอ้โห... อีซองมินพูดมาได้
    เนอะว่ากินข้าวมาแล้ว ตอนนี้ช้างทั้งตัวซองมินก็เอาอยู่วะ แต่เพื่อการสร้างภาพ(พจน์)ที่ดีให้แก่ตัวเอง ผมจำเป็นต้องแอ๊บว่าไม่หิวอะไรทั้งสิ้นเหมือนนางเอกในละครที่กินน้อยพูดน้อย ไม่เป็นไรเดียวผมไปปอปลงที่บ้านดีกว่า...

                  เห้อ ... พี่เขาหล่อจนผมลืมปวดฉี่เลยครับ .... เอาจริงๆผมไม่คาดคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วอีกอย่างพี่เขาหล่อกว่าในทีวีมากกกกกกก ผมละสุขใจจริงๆที่ได้รู้จักมักจีกับคนที่หน้าตาไล่เลี่ยกัน ฮุฮุฮุ

                  “ เอ่อ...แม่ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ว่าอย่างนั้น คนตัวเล็กก็รีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเร็วไปตามเป้าหมาย

                   ใบหน้าเล็กหันมาส่องกระจกที่อยู่ตรงหน้า  ริ้วแดงๆที่เผยบนเนื้อปรางทำเอาเขาตกใจ เห้ยยยยยย นี่กูเป็นถึงขนาดนี้เลยหรอว่ะ แล้วพี่คยูเขาจะเห็นว่าเราเขินไหมเนี่ย ตายๆๆ บ้าผู้ชายซะไม่มีอีซองมิน คริคริ

           ..

    ..

    .

    .

                  “ท่านผู้มีเกียรติ์ศิษย์เก่าฮยอนเซทุกท่านครับ  ถึงเวลาอันควรแล้วที่เราจะย้อนเวลาไปด้วยกัน อีก10นาที เราจะเปลี่ยนลานตรงนี้ให้เป็นฟลอร์เต้นรำ  ขอเชิญทุกๆท่านย้อนอดีตงานพรอมไปกับเรานะครับ” สิ้นเสียงประกาศผู้คนในงานก็ตื่นเต้นครึกครื้นกันใหญ่โดยเฉพาะคุณนายทั้งสอง

                  “นี่ซองจาพี่อยากเต้นมากเลย  ไม่รู้ว่าไอ้แก่ยองฮวาไปไหน สงสัยไปเหล่สาวอีกแน่เลย”

                  “แหม่พี่คะ  พี่มีลูกชายสุดหล่ออยู่ทั้งคน เต้นด้วยกันคงมีแต่คนอิจฉา” 

                  “ไม่เอา  พี่เบื่อตาคยูแล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กยันโตจนจะแต่งงานได้แล้ว พี่อยากเต้นกับหลาน เดี๋ยวรอน้องออกมาพี่ขอยืมตัวลูกชายเธอหน่อยนะ” สิ้นเสียงหญิงวัยกลางคนคุยกัน ชายหนุ่มคนนึงที่อยู่ในบทสนทนาก็เอาแต่ยืนยิ้มทำเหมือนมีอารมณ์ร่วมกับคุณแม่ทั้งสอง  สงสัยแม่ของคงชอบน้องซองมินมากสินะถึงอยากเต้นด้วยขนาดนั้น ปรกติแม่เป็นคนเข้ากับคนยาก แต่ตอนนี้ดูท่าจะเอ็นดูน้องมาก สงสัยต่อไปนี้คงได้เจอน้องบ่อยแน่ๆ

                 “นี่ น้องไปเข้าห้องน้ำนานจัง ตาคยูไปตามน้องหน่อยสิลูกเผื่อเป็นอะไรไป”

                  “อีกไม่นานผมคงกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วมั้งครับคุณน้า  ดูแม่ผมติดน้องขนาดนี้ หึหึ” ชายหนุ่มกันไปคุยเอ่ยหยอกแม่ตนกับคุณน้า

                  “มีลูกแบบนี้มันก็น่าเบื่อไหมล่ะ วันๆเอาแต่เงียบจะทำตัวเก๊กหล่อไปไหน ไปสิเร็วๆเขาจะเต้นกันแล้ว” คนเป็นแม่โบกมือไล่ลูกชายสุดหล่อไกวๆ เฮ้อ ... ถ้าได้ลูกสะใภ้แบบหนูซองมินก็คงดี ไม่รู้ทำไมเขาถูกชะตากับเด็กคนนี้เหลือเกิน  ทั้งที่เด็กคนนั้นหน้าตาก็ไม่ได้ดีถึงขั้นชมได้ว่าดูเหมาะสมกับตาคยูนักแต่ก็พอไปวัดไปวาได้  สังเกตจากตอนที่ซองมินหลุดทำหน้าเบื่อหน่ายกับงานหลายครั้งเจ้าตัวคงเป็นเด็กดื้อไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะดูเป็นเด็กรั้นแต่เขามองเห็นบางอย่างในตัวซองมิน เห็นสายตาตอนที่เด็กคนนั้นมองตาคยู สงสัยคงจะชอบตาคยูสินะ...

        ...

    ..

    ..

    .

         ซ่า~

    เสียงน้ำไหลจากก๊อกอีกครา  มือเล็กยื่นมือไปรับน้ำที่ไหลออกมา ห้องน้ำไร้ผู้คน ทำให้มีเสียงน้ำอยู่ที่เดียวที่ริมขวาสุดของอ่างเรียงยาวที่คนตัวอวบใช้อยู่

                        “เห้อ...” เสียงอวดครวญด้วยความล้าออกมาจากปากเล็ก

                        เหนื่อยจริง ... เมื่อกี้ที่ผมบอกว่าไปฉี่    พอฉี่ไปฉี่มาก็รู้สึกปวดอึสะงั้น ทั้งที่ไม่ได้ถ่ายมาเกือบสามวันได้ คือช่วงนี้ผมขับถ่ายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะผมไม่ค่อยปลื้มกับผักสีเขียวที่มีกลิ่นเหม็น เอาเหอะถึงผมจะเกลียดผักสักเท่าไรแม่ก็พยายามบังคับตลอด  พอเข้าไปอึอึ ก็รู้สึกว่ามันปวดแต่แบ่งไม่ออกสะงั้น เลยเป็นอย่างที่ทุกคนเห็นเนี่ยแหละครับ แสบมากเลย....

                        “เอ่อ ... น้องซองมินครับ ... ”

                       “หือ...” ใครเรียกว่ะ ผมคิดในใจ แล้วหันหน้าไปมองที่ต้นเสียงตรงประตูทางเข้า

                       “ คือ...คุณแม่พี่เขาให้มาเรียก อีกเดี๋ยวจะเต้นรำกันแล้ว ไปกับพี่นะครับ”  ใช่ ... โจวคยูฮยอนยืนอยู่หน้าประตู  สีข้างของหนุ่มหล่อหยัดกายตัวเองเอาไว้ที่ขอบไม้  สายตาที่คมกริบจ้องมองมาอย่างอ่อนโยน แขนเรียวยาวที่กอดอดตนเองนั้น ท่าของพี่มัน.... ทำเอาผมไปไม่เป็นเลย ....

                       แต่เดี๋ยว! ... ไอ้ไปกับพี่นะครับนี่มันหมายความว่ายังไง  นี่พี่เค้าจะชวนผมเต้นรำหรือเปล่า  อีซองมินหยุดมโนเดี๋ยวนี้นะ!  แต่ถึงผมบอกตัวเองให้เลิกเพ้อเจ้ออย่างไง ผมก็หยุดอาการหน้าเห่อร้อนของตัวเองไม่ได้แล้ว พระเจ้า..หน้าผมคงแดงน่าดู พี่เขาจะรู้ไหมนะ

     

    .........................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×