[fic Danmachixfate] วีรชนผจญภัยในโลกแห่งดันเจี้ยน
หลังจบสงครามจอกครั้งที่ 5 อาเชอร์ ได้รับโอกาสในการไปมีชีวิตในแบบของตัวเอง ในต่างโลก
ผู้เข้าชมรวม
19,117
ผู้เข้าชมเดือนนี้
95
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความสามารถ
ตาแห่งจิต (แท้)
ระดับ: B
เป็นความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ในระหว่างการต่อสู้
ซึ่งเป็นทักษะที่ได้มาจากประสบการณ์ในการต่อสู้หลายครั้งต่อหลายครั้งที่ผ่านมาของตัวเขา
ทำให้เขาสามารถที่จะวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้
และวางแผนที่จะต่อสู้ได้อย่างเฉียบขาด ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะชนะนั้นมีเพียง 1%
เขาก็สามารถที่จะวางแผนการต่อสู้ให้ตนเป็นฝ่ายชนะได้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ความต้านทานเวทมนตร์
ระดับ: D
ความสามารถในการต่อต้านหรือทำให้ผลกระทบที่ได้รับจากเวทมนตร์จากคู่ต่อสู้นั้นน้อยลง
และเป็นเวทที่จะต้องร่ายไว้ตลอดเพื่อคุ้มกันตัวเองในระดับหนึ่งแล้ว
จึงทำให้ดูเหมือนเป็นเกราะคุ้มภัยที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาไป
ตาทิพย์
ระดับ: C
ช่วยในการเพิ่มระยะการมองเห็นของสายตา
ซึ่งเกิดจากการใช้ทักษะ "เสริมความแข็งแกร่งของวัตถุ
(รีเอ็นฟอร์ซเมนท์)" ของเขา โดยใช้เสริมความแข็งแกร่งให้กับดวงตาของตน
ซึ่งส่งผลให้เขาสามารถที่จะโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาที่อยู่ในระยะห่างอย่างต่ำ 4
กิโลเมตร ได้อย่างแม่นยำ และยังทำให้เขาเคลื่อนที่ได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
คงอยู่โดยปราศจากแหล่งพลัง
ระดับ: B
ความสามารถนี้ทำให้เขาสามารถคงอยู่ได้โดยปราศจากมาสเตอร์
แต่ก็เพียงแค่ 2 วันเท่านั้นและจะหายไปหากไม่ทำพันธสัญญาใหม่
นอกจากนั้น หากแกนวิญญานของเขาได้รับความเสียหายมากๆ
เขาสามารถที่จะคงอยู่ได้นานกว่าข้ารับใช้ตนอื่นเพียงเล็กน้อย
(ไม่ได้ใช้หลอก)
ศาสตร์เวท
ระดับ: C
ทักษะเวทพื้นฐานที่ผู้ใช้เวททุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้
ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถฝึกทักษะนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดไปยังทักษะอื่นๆ ได้
ดูเหมือนว่าตัวอาเชอร์เองนั้นไม่มีความสามารถพิเศษอะไรโดดเด่นเลยในเรื่องของศาสตร์เวท
แต่เขาก็มีความสามารถพิเศษเกี่ยวกับเวทแขนงหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งนั่นคือการ
"เทรซซิ่ง" (หรือสั้น ๆ ว่า "เทรซ")
คือความสามารถในการจำลองหรือสำเนาวัตถุๆ หนึ่งขึ้นมาโดยจินตนาการจากสิ่งต่างๆที่เขาเคยพบเห็นมาในอดีต
ซึ่ง "วัตถุ"
ที่เขาจำลองหรือสำเนาขึ้นมานั้นจะมีประสิทธิภาพที่ด้อยลงกว่าของเดิมหนึ่งระดับ
และมีรูปร่างภายนอกเหมือนของต้นฉบับทุกประการ
โดยปกติแล้ว เรียลลิตี้
มาร์เบิลของเขานั้นไม่จำเป็นต้องมีพิธีการมากมาย เขาสามารถที่จะจดจำรายละเอียด
รูปร่างลักษณะ ประวัติและความสามารถของอาวุธชิ้นนั้นๆ
โดยอาศัยการมองผ่านเพียงครู่เดียวเท่านั้น
และสามารถสำเนามันออกมาได้เหมือนกับต้นฉบับทุกประการ
ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรือเวทมนตร์ประจำอาวุธชนิดนั้นๆ
และยังรวมไปถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของอาวุธชิ้นนั้นๆ ด้วย
ซึ่งเขาเองจะสามารถรับรู้เรื่องราวพวกนี้ผ่านทางการเทรซนั่นเอง
แต่แล้วความสามารถของเขาก็มีข้อจำกัดเช่นกัน
นั่นก็คืออาวุธทุกชิ้นที่เขาสำเนาขึ้นมานั้นจะถูกลดระดับลง 1
ระดับ และไม่สามารถจำลองสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในโลกได้เช่นกัน
นอกจากนั้น ในการ "แปรสภาพวัตถุ"
ของเขา ทำให้เขาสามารถที่จะดัดแปลงวัตถุที่เขาสำเนาขึ้นมานั้น
ซึ่งวัตถุที่ถูกเขาสำเนาและดัดแปลงออกมานั้นจะถูกเรียกว่า "ศาสตราที่พังทลาย
(โบรเคน แฟนตาซึ่ม)" ซึ่งมันคือโนเบิล แฟนตาซึ่ม (ศาสตราแห่งตำนาน)
ที่เอ่อล้นไปด้วยพลังเวท ที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อตัวโนเบิล
แฟนตาซึ่มเองด้วย
จึงทำให้ข้ารับใช้ส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้วิธีนี้เนื่องจากไม่ต้องการให้อาวุธของตนเองนั้นได้รับความเสียหายมากๆ
นั่นเอง แต่สำหรับตัวอาเชอร์เองซึ่งมีความสามารถนี้
ก็เปรียบเสมือนมีคลังอาวุธอยู่กับตัว จึงมักจะเห็นเขาสร้าง โบรเคน แฟนตาซึ่ม
ขึ้นมาและใช้มันโจมตีคู่ต่อสู้โดยการยิงออกไปเหมือนธนูอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากความสามารถในการเทรซและแปรสภาพวัตถุที่เขามีแล้ว
เขายังมีทักษะพื้นฐานของศาสตร์ทั้งสองนี้อีก ซึ่งนั่นก็คือการ
"เสริมความแข็งแกร่งของวัตถุ (รีเอ็นฟอร์ซเมนท์)"
ซึ่งเป็นทักษะที่ทำให้วัตถุที่ได้รับการใช้ทักษะนี้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
และยังทำให้ผู้ที่ใช้ทักษะนี้ได้รับรู้ถึงรายละเอียดต่างๆ ของวัตถุ
และเข้าใจถึงส่วนประกอบต่างๆ ของวัตถุอย่างชัดแจ้ง
ซึ่งการใช้งานของทักษะนี้จะส่งผลต่างๆ ต่อวัตถุมากมาย
เช่นถ้าใช้กับดาบก็จะทำให้ดาบเล่มนั้นๆ มีความคมและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ถ้าใช้กับโล่หรือเกราะก็จะทำให้เกราะหรือโล่นั้นทนทานยิ่งขึ้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าการเสริมความแข็งแกร่งนี้จะทำได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง
เพราะสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถจะเสริมความแข็งแกร่งได้นั้นคือสิ่งมีชีวิต
หรือเสริมความแข็งแกร่งได้ แต่จะมีความซับซ้อนมากกว่าวัตถุอื่นๆ
เพราะการเสริมความแข็งแกร่งนั้นคือการเสริมพลังเวทเข้าไปในมวลของวัตถุนั้นๆ
ซึ่งเป็นการยากหากจะเสริมให้กับสิ่งมีชีวิต
และอาจทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นได้รับผลเสียย้อนกลับมาเป็นได้
ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ใช้ทักษะนี้เสริมความสามารถของดวงตาให้มีระยะในการมองเห็นที่ไกลยิ่งขึ้น
โดยความสามารถนี้จะถูกเรียกว่า ตาทิพย์
เขามักจะใช้ ธนูยาว
สีดำขลับที่มีชื่อว่าธนูแห่งอาเชอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นจากโลหะที่สามารถยืดหยุ่นได้
ซึ่งยังไม่มีอยู่จริงในยุคปัจจุบัน
ซึ่งคันธนูนี้ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการยิงอาวุธในหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะศาสตราแห่งตำนาน ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้เป็นลูกธนูเสมอ ทำนองเดียวกัน
แผ่นที่ช่วงลำตัวของเขาและรองเท้าก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากวัตถุดิบชนิดเดียวกัน
เสื้อคลุมสีแดงที่เขาสวมนั้นก็เป็นชุดที่ได้รับการปลุกเสกให้มีความต้านทานสิ่งอันตรายรอบด้านอีกด้วย
ทักษะจำลองวัตถุ (โพรเจคชั่น)
ระดับ: A , ถ้าใช้ในการจำลองดาบจะเป็น
A+ (เฟท/ แกรนด์ ออเดอร์)
ตาเหยี่ยว
ระดับ: B+ (เฟท/
แกรนด์ ออเดอร์)
Unlimited Blade Works (อันลิมิเต็ด เบลด เวิร์คส์) : รังสรรค์คมดาบไร้ที่สิ้นสุด
ระดับ: E ~ A++
ประเภท: ???
เรียลลิตี้ มาร์เบิล (Reality Marble) หรือที่รู้จักกันว่าอาณาเขตพิเศษเฉพาะตัว,
คือศาสตร์เวทที่อันตรายและเป็นเวทมนตร์ชั้นสูงที่หาได้ยาก
หลักการของมันคือการสร้างมิติเสมือนจริงที่สะท้อนจิตใจของผู้ใช้
โดยใช้วัตถุดิบนั่นคือพลังวิญญานของผู้ใช้เวทนั้น ซึ่งในเรียลลิตี้ มาร์เบิลนี้
ผู้ใช้จะสามารถกระทำการอันใดที่ขัดต่อธรรมชาติได้
อย่างเช่นการสร้างสนามรบที่เหนือธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม
มันก็ไม่ใช่ศาสตราแห่งตำนาน หากแต่เป็น 'พิภพเอกเทศ'
อันลิมิเต็ด เบลด เวิร์คส์ นั้นคือ พิภพเอกเทศ
(เรียลลิตี้ มาร์เบิ้ล) ของอาเชอร์และ, ตามเทคนิคแล้ว, ก็เป็นศาสตราแห่งตำนานของเขาเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีศาสตราแห่งตำนานของ ตัวเอง เลยก็ตาม, ถ้าศาสตราแห่งตำนานคือตัวตนและสัญลักษณ์ของตำนานของวีรชนเหล่านั้น,
งั้นอันลิมิเต็ด เบลด เวิร์คส์นั่นแหละคือศาสตราแห่งตำนานของอาเชอร์
มันเป็นมิติที่มีสภาพเป็นทุ่งร้าง และมีศาสตราแห่งตำนานประมาณจำนวนไม่ได้
ปักอยู่เรียงรายคล้ายป้ายหลุมศพ
พร้อมทั้งมีฟันเฟืองจักรจำนวนมากมายล่องลอยอยู่ในอากาศภายในมิตินั้น
และมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทอดยาวไปจนสุดขอบลูกตา
จนเห็นหมอกควันและประกายไฟประทุอยู่ทั่วบริเวณ
ที่ถูกกำเนิดขึ้นมาจากต้นกำเนิดและธาตุของ “ดาบ”,
ในฐานะศาสตร์เวทขั้นสูงที่เขียนทับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยโลกของตัวเอง
อันลิมิเต็ด เบลด
เวิร์คส์จะคอยจดจำอาวุธทั้งหมดที่อาเชอร์พบเห็นผ่านตามาโดยอัตโนมัติ, วิเคราะห์โครงสร้างของมันและสะสมเก็บเอาไว้ในโลกของตนและวัตถุทั้งหมดจะมีสภาพเป็นไปตามเดิมของวัตถุนั้น
ๆ ในความทรงจำของเขาทุกประการ
(ศาสตราแห่งตำนานส่วนใหญ่ที่เขาจำลองออกมานั้น จะมาจากการจดจำอาวุธต่างๆ ใน เกท
ออฟ บาบิโลน และอาวุธที่เขาเคยผ่านตามาตลอดทั้งชีวิตของเขา)
หลังจากนั้นอาเชอร์ก็สามารถที่จะจำลอง (เทรซ)
อาวุธเหล่านั้นมายังโลกแห่งความจริงได้ตามต้องการ
รวมถึงเมื่อใช้งานเขาก็จะมีฝีมือและสามารถใช้กระบวนท่าต่าง ๆ
เหมือนที่เจ้าของเดิมทำได้ทุกอย่าง
โดยที่ข้างในอันลิมิเต็ด เบลด เวิร์คส์นั้น,
จะสามารถจำลอง (เทรซ) อาวุธได้อย่างง่ายดายและในทันที
แต่ว่าระดับของอาวุธที่เขาจำลอง (เทรซ) ขึ้นมาจะถูกลดระดับลงมาหนึ่งระดับ
เขายังสามารถที่จะจำลอง (เทรซ) อาวุธประเภทป้องกันตัวอย่างโล่ได้, แต่ว่ามานาในการจำลอง
(เทรซ) มันจะสูงกว่าดาบมาก ด้วยการชาร์จมานาเข้าไปยังศาสตราแห่งตำนาน, อาเชอร์สามารถที่จะยิงมันออกจากธนูของเขาเป็น
ศาสตราที่พังทลาย (โบรเคน แฟนตาซึ่ม), ที่เพิ่มพลังการโจมตีและสิ่งเร้นลับของศาสตรานั้นเป็นอย่างมาก
(โดยที่พลังที่เพิ่มมานั้นมันมากพอที่จะเพิ่มระดับของศาสตรานั้น ๆ
ขึ้นมาหนึ่งระดับ หรือก็คือมันจะมีพลังเทียบเท่ากับของต้นฉบับนั่นเอง), แต่ต้องแลกมากับการสูญเสียมันไปเมื่อมันโจมตีโดน
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการพนันที่อันตรายมากสำหรับเซอร์แวนท์ตนอื่น ๆ , มันกลับไม่ใช่สำหรับอาเชอร์เลยแม้แต่น้อย
เพราะเขาก็เพียงแค่จำลอง (เทรซ) มันขึ้นมาใหม่ก็พอ แต่ว่า, มันอาจจะต้องใช้เวลาถึงสี่สิบวินาทีในการชาร์จศาสตราที่พังทลาย,
ขึ้นอยู่กับว่าอาเชอร์อยากให้มันมีพลังมากขนาดไหน นอกจากนั้น,
อาเชอร์ยังสามารถที่จะควบคุมอาวุธทุกชิ้นในมิติเทียม (เรียลลิตี้
มาร์เบิล) ของเขาได้ดั่งใจ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่เขาควบคุมอาวุธต่าง ๆ ให้ลอยอยู่กลางอากาศ แล้วปล่อยให้พุ่งตกลงมาราวกับสายฝนสู่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างเซเบอร์หรือชิโร่
โดยการที่จะใช้งานมันได้นั้น, อาเชอร์จะต้องกล่าวบทสวดตามนี้
และความสามารถเมื่อไปยังอีกโลกได้รับการยกระดับไปอีกขั้นทุกอย่าง
ผลงานอื่นๆ ของ yatokame yukito ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ yatokame yukito
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น