คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 - 20%
ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเลยจริงๆ ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกทรายดูดนี่มันอะไรกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าเด็กคนนั้น เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน ทุกอย่างดับมืด ไร้สรรพเสียงใดๆทั้งสิ้น เหลือแค่เสียงหัวใจของผมกับใบหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้น
ชั่วแวบหนึ่งที่ผมกับเขาสบตากัน ผมแทบหยุดหายใจตรงนั้น ไม่กล้ากระทั่งจะหลบสายตาด้วยซ้ำ จนเขาต้องเป็นฝ่ายเสตาไปทางอื่นก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดวงตาของผมหายพร่ามัวเลย ภาพดวงตาคู่นั้นยังติดอยู่ในหัวของผม
แต่ไม่นานเด็กคนนั้นก็หันหลังแล้วเดินหายไป
อา…อย่าพึ่งไปสิ ฉันอยากมองนายต่อไปเรื่อยๆอีกนิดก็ยังดี
ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ผมก็ทำได้แค่ยืนนิ่งๆเท่านั้นแหละ…
“เมื่อกี้ใครเหรอ?” เมื่อหลังของผู้ชายคนนั้นลับสายตาไปในที่สุดผมก็หาเสียงของตัวเองเจอ เพื่อนใหม่สดๆร้อนๆคนแรกของการย้ายโรงเรียนของผมเอียงคอเล็กน้อย
“เซฮุน โอเซฮุน เด็กปีหนึ่งน่ะ อยู่ชมรมเดียวกับฉัน”
เด็กกว่าผมงั้นเหรอ ทำไมดูโตจัง?
ลู่หานให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะและอาสาไปซื้ออาหารกลางวันให้ ผมจึงนั่งคิดทบทวนอาการเมื่อครู่อย่างถี่ถ้วน
เขาใช่ว่าจะไม่เคยมีคนรัก ใช่ว่าไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร…แต่นี่ทำไม?
นายเป็นคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้ โอเซฮุน
อยากเจอ อยากเจออีก…
อยากได้…
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
ทุกๆคนต่างทยอยกลับบ้านไปจนหมดแล้ว ตอนนี้ทั้งอาคารคงเหลือเพียงแค่ผมกับเซฮุนที่นั่งอยู่ในห้องเรียนเท่านั้น สาเหตุนั่นก็เพราะหลังจากเขาไปไล่ซักกับลู่หานจนแน่ใจแล้วว่าตอนนี้เซฮุนยังไม่มีแฟน และไม่ได้รังเกียจการรักร่วมเพศ เขาก็ขอร้องให้ลู่หานช่วยนัดเซฮุนรั้งไว้ในห้องให้ที
ผมไม่ใช่นางเอกนิยายในอุดมคติหรอกที่จะมาคอยกระมิดกระเมี้ยนแอบตาม ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ผมอยากได้ ก็ต้องได้ ไม่ว่ายังไง เซฮุนก็ต้องเป็นของผมคนเดียว จากนี้…และตลอดไป
ของผมคนเดียว…
เอาอีกแล้ว อาการแปลกๆแบบนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยต้องการการผูกมัด ไม่เคยวาดฝันว่าจะอยู่กับใครไปชั่วชีวิต เพราะผมมันคนขี้เบื่อและไม่มีความอดทน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่า ขอแค่เด็กคนนี้รักผม ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการใครแล้ว…
เซฮุน ฉันทนไม่ไหวหรอกนะ ความรู้สึกแบบนี้ ก็บอกแล้วไงว่าผมมันขี้เบื่อและไม่มีความอดทน
เมื่อวานเขากลับไปถึงบ้านอย่างไร ตอนไหนก็ไม่รู้ ทานข้าวหรือยัง อาบน้ำหรือยัง เมื่อกี้ได้นอนจริงๆหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำ
เอาเป็นว่า ฟินมาก…
จางอี้ชิงนั่งเขี่ยนิ้วบนโต๊ะกินข้าวไปวนเป็นวงกลมมา
คือเขิน ไม่ใช่อะไรหรอก
ว่าแต่นี่ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ผมเริ่ม ปกติจะโดนอีกฝ่ายเล้าโลมอย่างนู้นอย่างนี้ก่อน แต่ถึงยังไง แค่ครั้งเดียวมันร็สึกยังไม่สะใจจริงๆน้า…
เจอหน้ากันอีกหนเซฮุนจะยอมโดนคั่วแต่โดยดีแบบคราวนี้รึเปล่าก็ไม่รู้
“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว สยองพิลึกชะมัด” อี้ชิงชะงัก หยุดนิ้วแล้วเงยหน้ามองพี่ชายแท้ๆทั้งที่ยังไม่หยุดยิ้ม
“ไม่มีอะไรน่า เฮียกินข้าวเหอะ ผมจะไปเรียนแล้ว” เฮีย ที่ว่าหรืออู๋อี้ฟานขมวดคิ้วหมุ่น แต่ไม่นานก็คลายแล้วเปลี่ยนเป็นถอนหายใจแทน
“รีบไปได้แล้วไป คาบแรกใกล้จะเริ่มแล้วนี่” อี้ฟานวางจานขนมปังปิ้งทาเนยลวกๆลงกับโต๊ะก่อนจะทรุดตัวนั่งแล้วลงมือกิน คนเป็นน้องก็ไม่พูดอะไร ผุดลุกขึ้น เดินไปคว้ากระเป๋าแล้วเตรียมจะเปิดประตูออกไป
“เออ อี้ชิง อย่ามาแอบขโมยรถเฮียไปขับอีกล่ะ กลับมาทีไรคลุกฝุ่นทุกรอบ” อี้ฟานตะโกนผ่านครัวจนมาถึงหน้าประตู ซึ่งอี้ชิงก็เพียงยิ้มและไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เพื่อลงลิฟท์
อี้ไม่ได้ขโมยนะเฮีย เค้าเรียกทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
อาคารจอดรถชั้นล่างสุดของคอนโดมีเนี่ยมหรูเหยียบล้าน จางอี้ชิงเดินผิวปากไปขึ้นคร่อมดูตาตีสีดำด้านคันหนึ่งเข้า ควักกุญแจที่ติดมือมา(?) สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วแล่นออกไปสู่ถนนใหญ่
คาบสามเริ่มไปครึ่งชั่วโมงแล้วครับ แหม ก็รถมันติด ทางมันไกลบลาๆๆๆ เด็กหนุ่มมัถยมปลายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในห้องพักครูด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนต่อคำตำหนิมากมายจากทั้งอาจารย์ที่ปรึกษาและบรรดาเพื่อนอาจารย์ที่เดินผ่านไปมา ด้วยคดีอุกอาจ อย่างมาสายโด่งชนิดหยุดๆไปเลยน่าจะดีกว่า แล้วไหนจะขับมอเตอร์ไซค์คันเบ่อเร้อเข้ามาจอดในส่วนของที่จอดรถสำหรับอาจารย์อีก
กว่าจะถูกปล่อยตัวออกมาก็จวนจะได้เวลาของคาบที่สี่ อี้ชิงเดินออกจากห้องพักครูอย่างเอ้อระเหย หากแต่จุดหมายปลายทางกลับไม่ใช่ห้องเรียนของตัวเอง แต่เป็นห้องน้ำชายแทน
ยังไงซะวันนี้ก็ไม่ได้มาเพื่อจะเรียนหรืออะไรอยู่แล้ว
หลังจากนั่งเล่นโทรศัพท์ฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ ในที่สุดเสียงออดพักกลางวันก็ดังขึ้น อี้ชิงเก็บโทรศัพท์มือถือก่อนจะเริ่มเดินไปรอบๆบริเวณโรงอาหาร
นั่นไง
ทันทีที่เห็นเป้าหมาย ขาเรียวๆก็สับไปทางทิศนั้นอย่างรวดเร็ว…
ไม่เข้าใจ…โคตรจะไม่เข้าใจ
ใบหน้าหล่อเหลาเครียดตึงตามอารมณ์ของเด็กหนุ่ม
เกิดมาเพิ่งเคยเจอ จู่ๆก็มายั่ว พอเสร็จปุ๊บก็ใส่เสื้อผ้าลอยหน้าลอยตาหายไปไหนก็ไม่รู้ คิดแล้วเครียด
นิ้วยาวเคาะกับโต๊ะเป็นจังหวะอย่างคนใช้ความคิด ถึงจะพอเดาได้ว่าเป็นอาการของคนคิดไม่ตกแต่มันก็ค่อนข้างน่ารำคาญ
“เลิกทำเสียงน่ารำคาญแบบนั้นซะทีได้ไหม”
“…”
“เซฮุน…”
“…”
“โอเซฮุน!!”
“…”
“ปัดโธ่เว้ย ไม่สนแล้ว เดินไปโรงเรียนคนเดียวแล้วกัน!” ถึงแม้จะโดนญาติผู้พี่งอนปึงปังไปแล้ว แต่เซฮุนก็ยังไงไม่ขยับไปไหน
คาบแรกจะเริ่มแล้ว ไปเรียนดีกว่าเนอะ
เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งหยัดตัวลุกขึ้นจากโต๊ะทานข้าว และเดินออกจากอย่างไม่รีบร้อน บ้านอยู่ข้างๆโรงเรียนมันสบายแบบนี้เอง…
จนกระทั่งพักเที่ยง เขาต้องลงมากินข้าวกลางวันที่โรงอาหารกลับเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งแค่สองคนเพราะคนอื่นๆติดธุระกันหมด คนหนึ่งมีประชุมสภานักเรียน คนหนึ่งต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบย่อยคาบหลังกินข้าว อีกคนนัดสาวไว้ ส่วนที่เหลือจำไม่ได้แล้ว
ที่หน้าโรงอาหารจู่ๆก็มีร่างบางคุ้นตาวิ่งเข้ามาขวางหน้าพวกผมเอาไว้
“โอเซฮุน”
-------------------------------------------------------------------------
131108 20% UPDATE
FLONN.
ความคิดเห็น