ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : I have...{2}
I have ตอนที่ 2
ขอร้องล่ะ ขอร้องให้เจ๊แกเมื่อปากซักทีเถอะครับ..
รู้สึกอยากกลอกตาแต่ถ้าทำนี่สงสัยต่อยาวยันลูกเป็นเมนส์
อ่ะ ไอ้นี่อีกคน ทำไมยังต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยวะ?
สาเหตุคร่าวๆที่ว่าทำไมพวกเราต้องมาจบชีวิตลงในห้องปกครองแบบนี้คือ หนึ่ง! ฮวางจื่อเทามาสายชนิดที่เกินคำว่าสายตั้งแต่เปิดเรียน สอง! หวางจื่อเทากับเพื่อนมันโดดคาบหลังพักกลางวัน
มันกับเพื่อนมันถึงได้ต้องก้มหน้าก้มตาโดนครูอาเจ๊ด่าเละอยู่เนี่ย!
ครูแกนี่ก็อึดจริง พูดอยู่คนเดียวตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดด้วย
แล้วเพื่อไอ้จื่อแม่งก็เสือกเป็นผมเนี่ยแหละ
เมื่อยอ้ะ!!
อีกครึ่งชั่วโมงผ่านไป...
ผมกับจื่อเทาเดินออกจากห้องอย่างระโหยโรยรา ไม่ใช่ว่าซึมเพราะถูกดุหรอกครับแต่เมื่อยขา
ถามว่าทำไมพวกผมถึงไม่ได้สลดกันเลย? เพราะโดนบ่อยมั้งครับแบบนี้ แหม พวกผมไม่ใช่นักเรียนตัวอย่างที่ดีนักหรอก
ส่วนเรื่องผลการเรียนนี่ไม่ต้องห่วงครับ...แล้วบังเอิญผมกับจื่อเทาก็ไม่ใช่พระเอกนิยาย_(เซนเซอร์)_ใส ที่แบบไม่เข้าเรียนแต่ดันเรียนเก่งโคตรๆ
ผมกับจื่อเทานี่...จบเทอมทีแทบต้องวิ่งกราบเท้าครูทั้งโรงเรียนงามๆ ไม่เข็ดบอกเลย เป็นทุกเทอม
แต่ที่ผมกับจื่อเทายังคงอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้เพราะผมเป็นเด็กกิจกรรมครับ เหมาทุกงาน งานในงานนอกจนค่อนข้างเป็นที่รู้จัก เคยกระทั่งออกโฆษณาหรือเป็นแดนซ์เซอร์ให้นักร้องดังๆมาแล้ว ก็ถือว่าดาราเล็กๆน่ะครับ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนพอสมควร
ส่วนไอ้จื่อเทามันก็แชมป์วูซู แชมป์กีฬาระดับประเทศน่ะครับ ไล่ออกนี่คิดผิดอย่างแรงบอกเลย
ว่าแต่...
"ทำไมนายต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยเนี่ย" ผมอดไม่ไหวหันไปถามจื่อเทา มันทำหน้างี้ตั้งกะเอาโทรศัพท์มาจิ้มๆก่อนเข้าห้องปกครองแล้ว
"เลย์...พี่อี้ชิงเป็นลมล้มพับไปอีกแล้วอ่ะ" อ่าว ก็นึกว่าสลดเพราะโดนดุ แล้วดูมันยู่ปาก เห็นแล้วอยากพุ่งเข้าไปฟัดว่ะ แต่เดี๋ยวมันจะมองด้วยสายตาแปลกๆงั้นไม่ทำดีกว่า
"เออๆ แล้วเป็นไงมั่ง"
"ฟื้นแล้ว นอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาล...วันนี้ยกเลิกนัดทานข้าวกับพี่คริสแล้วไปรับพี่อี้ชิงกลับบ้านดีกว่า
ไอ้จื่อเทาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอีก ทีนี้ส่งเมลหาแฟนมันอีกคนครับ
สับรางกันให้วุ่น
ว่าแล้วผมก็คุยไลน์บ้างดีกว่า... 102 เด้ง เปิดไปดูมีทักมา 5 คน ป๊าดโธ่ ไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่าหน้าไหนส่งมาบ้าง
ผมจัดการไล่ตอบทีละคนๆ ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดหนักในแต่ละวันเลยทีเดียว ก็อปวางก็ไม่ได้ เนื้อความคล้ายกันก็ไม่ได้ แฟนผมแต่ละคนมันดันเป็นรู้จักกันอีก เกิดเอามาเทียบกันแล้วรู้ว่าผมก็อปวางหรือตอบส่งๆ เคลียร์ยาวบอกเลย
วันนี้ให้ใครมารับดีว้า...เอ๊ย! สัญญาว่าจะไปกินข้าวกับพี่แพคฮยอนนี่หว่า ตายๆเกือบลืม
ผมกับจื่อเทาที่เข้ามาหลบสายตาบรรดาครูอาจารย์ที่เคารพเพราะมันยังไม่หมดเวลาเรียนกำลังเดินวนไปวนมาและจิ้มโทรศัพท์อย่างเมามันส์ในห้องเก็บอุปกรณ์พละ
ผมกำลังสับรางอยู่ ส่วนไอ้จื่อเทา ดูจากปากมันที่เบะขึ้นเรื่อยๆกับที่มันพูดกันก่อนหน้านี้คงกำลังเคลียร์กับแฟนไซส์ตึกของมันชัวร์
"โดนพี่คริสงอนอ่ะ"
เอาแล้วไง...โหมดงอแงคอมโบ้เซ็ตเพิ่มสิบบาท ไอ้พี่คริสอย่าให้เจอน่ะ พ่อจะนิ้วแยงรูจมูกให้ จู่ๆก็มาทิ้งระเบิดไว้ที่ผมเฉยเลย
I have ตอนที่ 2
I have ตอนที่ 2
เสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังขึ้นทำให้ผมกับจื่อเทาค่อยๆเดินเลียบๆออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์พละ ใช่ครับ สรุปคือโดดทั้งวัน
หลังจากทนฟังไอ้แพนด้าขี้แยบ่นง๊องแง๊งด้วยภาษาเกาหลีแปลกๆมาสองสามชั่วโมงในที่สุดผมก็เซย์กู๊ดบายและเด้งไลน์ใส่พี่แพคฮยอนทันที
ร้านอาหารฝรั่งที่ไม่หรูจนเกินไปใกล้ๆโรงเรียนที่สุดจะเบสิคคือสถานที่่เดตหวานชื่นของผมกับพี่แพคฮยอนวันนี้
...แต่มันก็เบสิคไปม้ั้งพี่
ผมได้แต่นั่งบิดไปบิดมาเพราะอึดอัดกับบรรยากาศรอบโต๊ะของผมกับพี่แพคฮยอนวันนี้
ตัวต้นเหตุคือหนึ่ง พี่แพคฮยอนที่จ้องทั้งสองคนสลับไปสลับมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ สองพี่จุนยองที่หันไปสั่งเมนูบางอย่างราวกับแพคฮยอนไม่มีตัวตนอยู่บนโลก สามคือพี่คยองซูที่นั่งจ้องตากับพี่แพคฮยอนอย่างท้าทาย
ทำไมสามตัวอันตรายขนาดนี้ต้องมาป้ะกันด้วยวะครับ แล้วต้นเหตุของปัญหาหลักๆดูเหมือนจะเป็นผมซะด้วย
อันที่จริงทั้งสามคนก็ค่อนข้างมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่นะ เห็นว่าสมัยยังอยู่มอปลายก็ก๊วนเดียวกัน พึ่งจะมาไฝว้ๆกันเวลาแย่งผมเนี่ยแหละ แต่ยกเว้นเรื่องผมพวกเค้าก็เป็นเพื่อนรักกันธรรมดา
ดูสิขนาดเลือกร้านกินข้าวยังใจตรงกันเลย...
เฮ้อ สรุปเรื่องนี้มีผมเป็นนายบาปสินะ
เกิดมาน่าตาดีนี่ลำบากจัง อยากขี้เหร่! เซฮุนอยากขี้เหร่!
โอเค ผมรู้ว่าคุณกำลังจะด่าผมในใจว่าดัดจริตแต่เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือแก้วน้ำเปล่าที่เค้าเอามาเสิร์ฟไว้ก่อนในมือพี่แพคฮยอนเหมือนจะมีรอยร้าวเบาๆและกำลังจะแตก
...แน่นอนว่ารอยนี่พึ่งเกิดแน่ๆ พิจารณาจากสีหน้าพี่แพคฮยอน
พี่ครับน่ากลัวมากบอกเลย...
ผมว่าผมเอาแก้วออกจากมือพี่แพคฮยอนก่อนดีกว่า...
พนักงานนำจานมาเสิร์ฟแล้วครับ แต่ไม่ยักกะมีใครแตะต้องอะไรเลย
"เอ้อ...กินข้าวกันเถอะครับ" ได้ผลแฮะ ทุกคนเริ่มลงมือกินสเต๊คด้วยความ...เงียบและกดดัน
โต๊ะเรายังคงตลยอบอวลไปด้วยเสียงส้อมมีดกระทบกับจานและเสียงเคี้ยวหงุบหงับ
ไม่มีใครอยากจะพูดอะไรหน่อยเหรอครับ...
เสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังขึ้นทำให้ผมกับเซฮุนค่อยๆเดินเลียบๆออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์พละ ใช่ครับ สรุปคือโดดทั้งวัน
วันนี้ผมตัดสินใจเดินไปรับพี่อี้ชิงที่ห้องพยาบาลทางฝากมหาลัย' ถึงจะโดนพี่คริสทั้งดุทั้งงอน แต่ก็เดี๋ยวค่อยง้อก็แล้วกันเนอะ
พี่อี้ชิงสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ผมเป็นแฟนนี่เนอะก็ต้องดูแลสิ
ผมกระโดดข้ามรั้วกั้นระหว่างฝ่ายมัถยมปลายกับมหาลัย' (ขี้เกียจเดิน) แล้วร่อนลงเบาๆบนพื้นหญ้า
โชคดีจังที่ถนัดทางด้านกีฬา เมื่อเช้าถ้าไม่มีคนมาวิ่งชนผมก็ไม่ร่วงลงมาหมดท่าแบบนั้นหรอก
ผมรีบรุดไปที่ห้องพยาบาล เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนเข้าไปนักศึกษาที่ประจำห้องพยาบาลก็มองผมเลิ่กลั่ก
"จางอี้ชิงอยู่ที่นี่รึเปล่าครับ?"
นักศึกษาคนนั้นชีนิ้วไปที่เตียงที่มีผ้าม่านบังตาสี่ด้านเตียงหนึ่งอย่างลังเล ผมก็รีบมุดตัวเข้าไป
"พี่อี้ชิงกลับบ้านกัน...เหวอ!!" ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายหรืออะไรเลยนะ ผมไม่รู้นี่ แต่พี่อี้ชิงนี่ผอมชะมัดเลย แต่ก็มีกล้ามเนื้อแฮะ นี่ผมมองอะไรอยู่เนี่ย...
"อ้าว? เทา ไม่ต้องมารับพี่หรอก พี่กลับเองได้" พี่อี้ชิงเงยหน้าขึ้นมายิ้มละมุนให้ แต่ยังไงก็ใส่เสื้อแล้วก็รูดซิบกางเกงให้ดีก่อนดีกว่ามั้ง?
อันที่จริงผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเวลาผู้ชายถอดเสื้อนะ เพราะผมก็ผู้ชายเหมือนกัน แล้วยิ่งเป็นนักกีฬาต้องเปลี่ยนชุดนู่นนี่ย่อมเห็นบ่อยๆ แต่มันก็ไม่ใช่ระยะประชิดขนาดนี้ แถมยังเป็นแฟนผมอีกตะหาก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ กลับด้วยกันนะ" พี่อี้ชิงยิ้มกว้าวกว่าเดิมแล้วใส่เสื้อยืดเป็นที่เรียบร้อย ทำไมไม่ใส่ชุดนักศึกษาน่ะ...?
"พี่เป็นลมล้มใส่แอ่งน้ำขังน่ะ ชุดนักศึกษาเปียกเลยต้องเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวท ...? วันนี้พี่เข้าชมรมน่ะเลยเตรียมชุดมาเปลี่ยน"
พี่อี้ชิงเหมือนอ่านใจผมได้เลยแฮะ
"เอาใบเซ็นชื่อมาให้ทีสิจงออบ" พี่อี้ชิงรูดม่านเปิด นักศึกษาคนเมื่อกี้ก็วิ่งเอากระดานรองเอกสารเซ็นชื่อสถิติจำนวนผู้ป่วยมาให้
พอเซ็นเสร็จก็หันมายิ้มละมุนให้ผมอีกรอบ
สวยจัง...
"เทา กลับบ้านกัน"
แล้วก็ยื่นมือมาให้ผมจับ
ถึงจะพึ่งหกโมงเย็นแต่เพราะเป็นหน้าหนาว ท้องฟ้าเลยถูกย้อมเป็นสีดำ ธรรมชาติเนี่ยดีจริงๆ
"ยิ้มอะไรเหรอ" มือที่ถูกจับไว้ถูกบีบเบาๆ
"ผมชอบธรรมชาติมากๆเลย มันสวยดี" ผมยิ้มตอบพี่อี้ชิงที่ยิ้มละมุนเหมือนทุกครั้ง
"แล้วพี่กับธรรมชาติอะไรสวยกว่าล่ะ?"
"หา?"
"เปล่าๆไม่มีอะไร ซื้อน้ำกันพี่คอแห้ง"
เมื่อได้ยินอะไรกว่าๆนะ?
พี่อี้ชิงไขกุญแจประตูรั้วเหล็กดัดหน้าบ้านแล้วลากผมเข้าไปด้วย ด้วยเหตุผลประมาณว่า
'เดินมาเหนื่ิอยๆอยู่กินน้ำกินท่าก่อนสิ'
จะปฏิเสธก็เสียน้ำใจแย่
"ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอครับ?"
"อ๋อ ไม่มีหรอก พ่อพี่ไปดูงานต่างประเทศ ส่วนแม่เข้าเวรที่ทำงานกลับมากลับอีกทีพรุ่งนี้น่ะ" พี่อี้ชิงถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัวแล้วยื่นให้ผม
"งั้นคืนนี้พี่ก็อยู่คนเดียวน่ะสิ" ผมรับแก้วน้ำส้มมากระดก
"ใช่ เทาอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนก่อนได้รึเปล่า'
"อื้ม เอาสิครับ" กลับไปบ้านก็ได้แต่ลวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเองล่ะนะ
เสร็จล่ะ...
"พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ" หลังกินข้าวเสร็จสุดท้ายก็ถูกพี่อี้ชิงรั้งไว้อีกจนได้ดูเหมือนจะต้องค้างแฮะ
"ครับ" ผมตอบส่งๆเพราะหนังกำลังเข้าจุดไคลแม็กซ์พอดี
-20 นาทีผ่านไป-
ผมลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์ที่กำลังโชว์เครดิตของภาพยนต์ ทำไมพี่อี้ชิงอาบน้ำนานจัง
ผมหยัดตัวลุกจากโซฟาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เดินไปวนหน้าห้องน้ำเผื่อว่าพี่อี้ชิงจะเป็นลมในห้องน้ำหรือลื่นล้ม
ข้างๆห้องน้ำคือห้องครัวที่เปิดโล่ง ผมเผลอเหลือบมองในถังขยะที่มุมหนึ่ง
ทำไมพี่อี้ชิงดื่มแต่เครื่องดื่มบำรุงกำลังล่ะ?
ผมจ้องถังขยะที่เต็มไปด้วยขวดเปล่าของบรรดาเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเกลือแร่ต่างๆ ด้วยความที่เป็นคนขี้สงสัยก็เดินเลยไปจนถึงตู้เย็น
"ยังไม่อิ่มเหรอเทา" เสียงประตูห้องน้ำกับเสียงพี่อี้ชิงทำให้ผมสะดุ้งแล้วม้วนตัวกลับไปแล้วก็พูดไม่ออกอีกรอบของวัน
พี่อี้ชิงครับผ้า...ผ้าเช็ดตัว ทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวเหมือนจะหลุดจากเอวแบบนั้นล่ะ
"เทาก็อาบน้ำสิ"
"ครับ..."
ผมจัดการอาบน้ำสระผมและเปลี่ยนเป็นชุดของพ่อพี่อี้ชิงครับ(ชุดพี่อี้ชิงมันเล็กเกินสำหรับผม)
ว่าแต่...ชุดที่วางไว้ตรงนี้เมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะ?
ห้องน้ำบ้านพี่อี้ชิงมีผ้าม่านน่ะครับก็เลยไม่ทันเห็นว่าพี่อี้ชิงอาจจะเข้ามาหยิบชุดออกไปเพราะกลัวชุดจะเปียกก็ได้ คิดได้ดังนั้นก็เดินออกไปเลย
"พี่อี้ชิงครับ ชุดที่ผมจะต้องเปลี่...ง่ะ..." พี่อี้ชิง ใกล้ไปแล้ว แล้ว แล้ว แล้วทำไมยังไม่ไปใส่เสื้อผ้า
"อืม...นั่นสิเนอะ สงสัยอยู่ในห้องพี่ที่ชั้นบนน่ะ ไปเอากัน" ทำไมถึงต้องลากผมขึ้นไปด้วยอ่ะ?? ผมขึ้นไปเอาเองหรือพี่ขึ้นไปเอาให้หน่อยก็ได้
ไปเอากัน
แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่ใส่เสื้อผ้าซักทีเนี่ย!
พี่อี้ชิงลากผมขึ้นบันไดไปชั้นสองแล้วผลักผมเข้าห้องของพี่เขาก่อนจะตามเข้ามา ห้องธรรมดาที่วันนี้ทันทีที่ก้าวเข้าไปจู่ๆก็มีกลิ่นอะไรหอมๆหวานๆแปลกจมูก
ปกติพี่อี้ชิงไม่ฉีดน้ำหอมในห้องนี่ ยกเว้นแต่ว่า...
แกร๊ก
ล๊อก...ล๊อกประตูแล้วง่ะ...
"พี่อี้ชิง พี่ไม่สบายอยู่นะครับ" ทำไมเสียงต้องสั่นด้วยเนี่ย
"พูดเรื่องอะไรน่ะเทา ...พี่ไม่เห็นจะเข้าใจเลย"
แล้วอี้ชิงก็ผลักจื่อเทาลงกับเตียงและกดไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"ผ้าขนหนูเกะกะเนอะเทา"
แล้วพี่อี้ชิงก็ยิ้มละมุนตอนที่กระชากผ้าขนหนูของผมกับพี่เค้าออก...
ผมคงบรรยายฉากต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ
เสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังขึ้นทำให้ผมกับจื่อเทาค่อยๆเดินเลียบๆออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์พละ ใช่ครับ สรุปคือโดดทั้งวัน
หลังจากทนฟังไอ้แพนด้าขี้แยบ่นง๊องแง๊งด้วยภาษาเกาหลีแปลกๆมาสองสามชั่วโมงในที่สุดผมก็เซย์กู๊ดบายและเด้งไลน์ใส่พี่แพคฮยอนทันที
ร้านอาหารฝรั่งที่ไม่หรูจนเกินไปใกล้ๆโรงเรียนที่สุดจะเบสิคคือสถานที่่เดตหวานชื่นของผมกับพี่แพคฮยอนวันนี้
...แต่มันก็เบสิคไปม้ั้งพี่
ผมได้แต่นั่งบิดไปบิดมาเพราะอึดอัดกับบรรยากาศรอบโต๊ะของผมกับพี่แพคฮยอนวันนี้
ตัวต้นเหตุคือหนึ่ง พี่แพคฮยอนที่จ้องทั้งสองคนสลับไปสลับมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ สองพี่จุนยองที่หันไปสั่งเมนูบางอย่างราวกับแพคฮยอนไม่มีตัวตนอยู่บนโลก สามคือพี่คยองซูที่นั่งจ้องตากับพี่แพคฮยอนอย่างท้าทาย
ทำไมสามตัวอันตรายขนาดนี้ต้องมาป้ะกันด้วยวะครับ แล้วต้นเหตุของปัญหาหลักๆดูเหมือนจะเป็นผมซะด้วย
อันที่จริงทั้งสามคนก็ค่อนข้างมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่นะ เห็นว่าสมัยยังอยู่มอปลายก็ก๊วนเดียวกัน พึ่งจะมาไฝว้ๆกันเวลาแย่งผมเนี่ยแหละ แต่ยกเว้นเรื่องผมพวกเค้าก็เป็นเพื่อนรักกันธรรมดา
ดูสิขนาดเลือกร้านกินข้าวยังใจตรงกันเลย...
เฮ้อ สรุปเรื่องนี้มีผมเป็นนายบาปสินะ
เกิดมาน่าตาดีนี่ลำบากจัง อยากขี้เหร่! เซฮุนอยากขี้เหร่!
โอเค ผมรู้ว่าคุณกำลังจะด่าผมในใจว่าดัดจริตแต่เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือแก้วน้ำเปล่าที่เค้าเอามาเสิร์ฟไว้ก่อนในมือพี่แพคฮยอนเหมือนจะมีรอยร้าวเบาๆและกำลังจะแตก
...แน่นอนว่ารอยนี่พึ่งเกิดแน่ๆ พิจารณาจากสีหน้าพี่แพคฮยอน
พี่ครับน่ากลัวมากบอกเลย...
ผมว่าผมเอาแก้วออกจากมือพี่แพคฮยอนก่อนดีกว่า...
พนักงานนำจานมาเสิร์ฟแล้วครับ แต่ไม่ยักกะมีใครแตะต้องอะไรเลย
"เอ้อ...กินข้าวกันเถอะครับ" ได้ผลแฮะ ทุกคนเริ่มลงมือกินสเต๊คด้วยความ...เงียบและกดดัน
โต๊ะเรายังคงตลยอบอวลไปด้วยเสียงส้อมมีดกระทบกับจานและเสียงเคี้ยวหงุบหงับ
ไม่มีใครอยากจะพูดอะไรหน่อยเหรอครับ...
เสียงกริ่งคาบสุดท้ายดังขึ้นทำให้ผมกับเซฮุนค่อยๆเดินเลียบๆออกมาจากห้องเก็บอุปกรณ์พละ ใช่ครับ สรุปคือโดดทั้งวัน
วันนี้ผมตัดสินใจเดินไปรับพี่อี้ชิงที่ห้องพยาบาลทางฝากมหาลัย' ถึงจะโดนพี่คริสทั้งดุทั้งงอน แต่ก็เดี๋ยวค่อยง้อก็แล้วกันเนอะ
พี่อี้ชิงสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ผมเป็นแฟนนี่เนอะก็ต้องดูแลสิ
ผมกระโดดข้ามรั้วกั้นระหว่างฝ่ายมัถยมปลายกับมหาลัย' (ขี้เกียจเดิน) แล้วร่อนลงเบาๆบนพื้นหญ้า
โชคดีจังที่ถนัดทางด้านกีฬา เมื่อเช้าถ้าไม่มีคนมาวิ่งชนผมก็ไม่ร่วงลงมาหมดท่าแบบนั้นหรอก
ผมรีบรุดไปที่ห้องพยาบาล เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนเข้าไปนักศึกษาที่ประจำห้องพยาบาลก็มองผมเลิ่กลั่ก
"จางอี้ชิงอยู่ที่นี่รึเปล่าครับ?"
นักศึกษาคนนั้นชีนิ้วไปที่เตียงที่มีผ้าม่านบังตาสี่ด้านเตียงหนึ่งอย่างลังเล ผมก็รีบมุดตัวเข้าไป
"พี่อี้ชิงกลับบ้านกัน...เหวอ!!" ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายหรืออะไรเลยนะ ผมไม่รู้นี่ แต่พี่อี้ชิงนี่ผอมชะมัดเลย แต่ก็มีกล้ามเนื้อแฮะ นี่ผมมองอะไรอยู่เนี่ย...
"อ้าว? เทา ไม่ต้องมารับพี่หรอก พี่กลับเองได้" พี่อี้ชิงเงยหน้าขึ้นมายิ้มละมุนให้ แต่ยังไงก็ใส่เสื้อแล้วก็รูดซิบกางเกงให้ดีก่อนดีกว่ามั้ง?
อันที่จริงผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเวลาผู้ชายถอดเสื้อนะ เพราะผมก็ผู้ชายเหมือนกัน แล้วยิ่งเป็นนักกีฬาต้องเปลี่ยนชุดนู่นนี่ย่อมเห็นบ่อยๆ แต่มันก็ไม่ใช่ระยะประชิดขนาดนี้ แถมยังเป็นแฟนผมอีกตะหาก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ กลับด้วยกันนะ" พี่อี้ชิงยิ้มกว้าวกว่าเดิมแล้วใส่เสื้อยืดเป็นที่เรียบร้อย ทำไมไม่ใส่ชุดนักศึกษาน่ะ...?
"พี่เป็นลมล้มใส่แอ่งน้ำขังน่ะ ชุดนักศึกษาเปียกเลยต้องเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวท ...? วันนี้พี่เข้าชมรมน่ะเลยเตรียมชุดมาเปลี่ยน"
พี่อี้ชิงเหมือนอ่านใจผมได้เลยแฮะ
"เอาใบเซ็นชื่อมาให้ทีสิจงออบ" พี่อี้ชิงรูดม่านเปิด นักศึกษาคนเมื่อกี้ก็วิ่งเอากระดานรองเอกสารเซ็นชื่อสถิติจำนวนผู้ป่วยมาให้
พอเซ็นเสร็จก็หันมายิ้มละมุนให้ผมอีกรอบ
สวยจัง...
"เทา กลับบ้านกัน"
แล้วก็ยื่นมือมาให้ผมจับ
ถึงจะพึ่งหกโมงเย็นแต่เพราะเป็นหน้าหนาว ท้องฟ้าเลยถูกย้อมเป็นสีดำ ธรรมชาติเนี่ยดีจริงๆ
"ยิ้มอะไรเหรอ" มือที่ถูกจับไว้ถูกบีบเบาๆ
"ผมชอบธรรมชาติมากๆเลย มันสวยดี" ผมยิ้มตอบพี่อี้ชิงที่ยิ้มละมุนเหมือนทุกครั้ง
"แล้วพี่กับธรรมชาติอะไรสวยกว่าล่ะ?"
"หา?"
"เปล่าๆไม่มีอะไร ซื้อน้ำกันพี่คอแห้ง"
เมื่อได้ยินอะไรกว่าๆนะ?
พี่อี้ชิงไขกุญแจประตูรั้วเหล็กดัดหน้าบ้านแล้วลากผมเข้าไปด้วย ด้วยเหตุผลประมาณว่า
'เดินมาเหนื่ิอยๆอยู่กินน้ำกินท่าก่อนสิ'
จะปฏิเสธก็เสียน้ำใจแย่
"ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอครับ?"
"อ๋อ ไม่มีหรอก พ่อพี่ไปดูงานต่างประเทศ ส่วนแม่เข้าเวรที่ทำงานกลับมากลับอีกทีพรุ่งนี้น่ะ" พี่อี้ชิงถือแก้วน้ำออกมาจากห้องครัวแล้วยื่นให้ผม
"งั้นคืนนี้พี่ก็อยู่คนเดียวน่ะสิ" ผมรับแก้วน้ำส้มมากระดก
"ใช่ เทาอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนก่อนได้รึเปล่า'
"อื้ม เอาสิครับ" กลับไปบ้านก็ได้แต่ลวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเองล่ะนะ
เสร็จล่ะ...
"พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ" หลังกินข้าวเสร็จสุดท้ายก็ถูกพี่อี้ชิงรั้งไว้อีกจนได้ดูเหมือนจะต้องค้างแฮะ
"ครับ" ผมตอบส่งๆเพราะหนังกำลังเข้าจุดไคลแม็กซ์พอดี
-20 นาทีผ่านไป-
ผมลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์ที่กำลังโชว์เครดิตของภาพยนต์ ทำไมพี่อี้ชิงอาบน้ำนานจัง
ผมหยัดตัวลุกจากโซฟาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เดินไปวนหน้าห้องน้ำเผื่อว่าพี่อี้ชิงจะเป็นลมในห้องน้ำหรือลื่นล้ม
ข้างๆห้องน้ำคือห้องครัวที่เปิดโล่ง ผมเผลอเหลือบมองในถังขยะที่มุมหนึ่ง
ทำไมพี่อี้ชิงดื่มแต่เครื่องดื่มบำรุงกำลังล่ะ?
ผมจ้องถังขยะที่เต็มไปด้วยขวดเปล่าของบรรดาเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเกลือแร่ต่างๆ ด้วยความที่เป็นคนขี้สงสัยก็เดินเลยไปจนถึงตู้เย็น
"ยังไม่อิ่มเหรอเทา" เสียงประตูห้องน้ำกับเสียงพี่อี้ชิงทำให้ผมสะดุ้งแล้วม้วนตัวกลับไปแล้วก็พูดไม่ออกอีกรอบของวัน
พี่อี้ชิงครับผ้า...ผ้าเช็ดตัว ทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวเหมือนจะหลุดจากเอวแบบนั้นล่ะ
"เทาก็อาบน้ำสิ"
"ครับ..."
ผมจัดการอาบน้ำสระผมและเปลี่ยนเป็นชุดของพ่อพี่อี้ชิงครับ(ชุดพี่อี้ชิงมันเล็กเกินสำหรับผม)
ว่าแต่...ชุดที่วางไว้ตรงนี้เมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะ?
ห้องน้ำบ้านพี่อี้ชิงมีผ้าม่านน่ะครับก็เลยไม่ทันเห็นว่าพี่อี้ชิงอาจจะเข้ามาหยิบชุดออกไปเพราะกลัวชุดจะเปียกก็ได้ คิดได้ดังนั้นก็เดินออกไปเลย
"พี่อี้ชิงครับ ชุดที่ผมจะต้องเปลี่...ง่ะ..." พี่อี้ชิง ใกล้ไปแล้ว แล้ว แล้ว แล้วทำไมยังไม่ไปใส่เสื้อผ้า
"อืม...นั่นสิเนอะ สงสัยอยู่ในห้องพี่ที่ชั้นบนน่ะ ไปเอากัน" ทำไมถึงต้องลากผมขึ้นไปด้วยอ่ะ?? ผมขึ้นไปเอาเองหรือพี่ขึ้นไปเอาให้หน่อยก็ได้
ไปเอากัน
แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่ใส่เสื้อผ้าซักทีเนี่ย!
พี่อี้ชิงลากผมขึ้นบันไดไปชั้นสองแล้วผลักผมเข้าห้องของพี่เขาก่อนจะตามเข้ามา ห้องธรรมดาที่วันนี้ทันทีที่ก้าวเข้าไปจู่ๆก็มีกลิ่นอะไรหอมๆหวานๆแปลกจมูก
ปกติพี่อี้ชิงไม่ฉีดน้ำหอมในห้องนี่ ยกเว้นแต่ว่า...
แกร๊ก
ล๊อก...ล๊อกประตูแล้วง่ะ...
"พี่อี้ชิง พี่ไม่สบายอยู่นะครับ" ทำไมเสียงต้องสั่นด้วยเนี่ย
"พูดเรื่องอะไรน่ะเทา ...พี่ไม่เห็นจะเข้าใจเลย"
แล้วอี้ชิงก็ผลักจื่อเทาลงกับเตียงและกดไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้
เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
"ผ้าขนหนูเกะกะเนอะเทา"
แล้วพี่อี้ชิงก็ยิ้มละมุนตอนที่กระชากผ้าขนหนูของผมกับพี่เค้าออก...
ผมคงบรรยายฉากต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ
I have ตอนที่ 2
-----------
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ >_<
FLONN.
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ >_<
FLONN.
:) Shalunla
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น