คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF] LUHAN X MINSEOK : LISTEN TO ME
Title : [SF]Listen to me
Author : FLOCKYCHOU’DONUT
Couple : LUHAN X XIUMIN
Rate : PG
Author’s note : รีไรท์เป็นภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของทุกคนคะ
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: Listen ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
‘ฉันชอบนาย....’
“ไอ้หาน !! ปั่นจักรยานด้วยความเร็วเท่าส่วนสูงหน่อยได้ไหมห่ะ !!??”
เจ้าของนาม ‘ลู่หาน’ หันไปมองเจ้าของเสียงหวานที่พูดประโยคขัดกับหน้ากับตาเสียเหลือเกิน ทำไมไม่มีความอ่อนหวานเอาเสียเลย...
และมันก็ไม่มีเฉพาะกับเขาคนเดียวด้วยสิ
ทำไมกันนะ ??
‘คิม มินซอก’
“จะเหม่อทำหน้ากวางอีกนานป่ะ เอาเวลามาปั่นจักรยานสิโว้ย !!”
ทำไมกันนะ.... พูดดีๆกันมั่งไม่ได้เหรอ มินซอก... แค่พูดดีกับฉันนิดเดียวเท่านั้นเอง !!!!
ลู่หานถอนหายใจก็จะทำตามอีกคนพูดอย่างจำใจ ไม่อยากขัดใจ และก็ไม่อยากทะเลาะด้วยเท่าไหร่หรอกนะ ไม่ชอบเลยเวลาที่มีปัญหากันแล้วไอ้ตัวเล็กข้างหลังนี้มันงอน
ง้อยากชิบเป๋ง..... แต่ก็อย่างว่า ‘เต็มใจจะง้อล่ะนะ’
.
.
.
ถ้าฉันชอบเธอ..ให้ฉันบอกเธอได้ไหม
ว่าฉันชอบเธอ..ให้ฉันบอกเธอวันไหน
??
พอมาถึงหน้าโรงเรียน มินซอกก็กระโดดลงจากรถแทบจะทันที ร่างสูงหยุดรถกึกพร้อมหันมามองคนที่เพิ่งกระโดลงจากรถไปพร้อมถามเสียงเรียบ
“ไม่เอารถไปเก็บด้วยกันรึไง...”คนโดนถามเงียบ ทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ลู่หานทำหน้าไม่ค่อยจะพอใจซะเท่าไหร่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพึมพำเบาๆ
“คนเราก็เงี้ย...”
คนตัวเล็กกว่ายิ้มจนตาหยีให้เพื่อนสนิท ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ดีจัด จนน่าหมั่นไส้แต่มันน่ารักจนโกรธไม่ลง... สำหรับลู่หาน
ร่างสูงเดินเข้าห้องเรียนได้เพียงครู่ ก็ถูกบรรดาผองเพื่อนถาโถมเข้ามายิงคำถามใส่มาก
“เหย ! ทำไมมาโรงเรียนกับมินซอกว่ะ...”
“เป็นอะไรกับน้องซาลาเปาของกู !!”
“เป็นแฟนกันหรอว่ะ ?”
และอีกมากมายที่ทำให้คนจีนแบบเขาแทบอยากจะตะโกนออกไปว่า เขาแปลไม่ทัน ฟังไม่ค่อยจะออก แถมยังจะมึนๆอีกต่างหาก นี่เล่นพ่นภาษาถิ่นกันอย่างมั่นใจแบบนี้ ใครจะไปฟังทัน ถึงจะอยู่มานาน แต่นี่ก็คนต่างชาตินะครับพ่อคุณ !
“โอ้ยยย... พ่อมึงตายกันเหรอ พอๆหยุด !!”
ทุกคนเงียบกริบ ลู่หานยิ้มอย่างพอใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแผ่วแถมยังตะกุกตะกักอีกต่างหาก
“ฉ...ฉันกับเขาเป็นแค่ “เพื่อน” กันว่ะ”
เฮ้อ.... ไม่ชอบเลยว่ะ กับคำว่าเพื่อนแบบนี้
.
.
. .
จากนี้ที่เธอฟัง จะคิดเป็นเช่นไร
ก็คงไม่สนใจ แค่เพียงได้บอกฉันพอใจ
!?
“เฮ้ออ....”เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ในวันนี้ของลู่หาน ดวงตากลมมองร่างเล็กที่กำลังเรียนคาบกรีฑาอยู่ด้านนอก ที่ถอนหายใจไม่ใช่เพราะคนนั้นหรอกนะ แต่คำพูดของเพื่อนร่วมห้องเขาเมื่อเช้าต่างหาก
‘ชอบเขาก็ไปบอกเขาสิว่ะ มึงอย่าคิดว่าพวกกูโง่หน่อยเลย’
‘หมาคาบไปแดกแล้วมึงจะรู้สึก’
ยุกันหรอ ??... อ่วยจริง นี่ก็เครียดนะ ยิ่งเย็นนี้ต้องกลับบ้านกับเขาอีก แล้วเล่นมาพูดให้คิดแบบนี้ แล้วเขาจะมองหน้า ’เพื่อนสนิท’ ติดหรอว่ะ แค่ทุกวันนี้ก็เครียดจะตายห่าอยู่แล้ว พอคิดแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือก และถึงจะพยายามไล่ความคิดพวกนี้ออกไปเท่าไหร่ ภาพคนตัวเล็กยิ้มร่ามันก็ปรากฏเด่นชัดในหัว เลวร้ายกว่าเดิมเสียอีก..
แย่จริง... จะบอกได้จริงๆงั้นหรอ ??
ลู่หานเม้มริมฝีปากทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน จนรู้สึกตัวอีกที เสียงออดบอกเวลาหมดคาบก็ดังขึ้น ร่างสูงเลยรีบลุกพรวดออกจากห้องท่ามกลางความมึนงงของเพื่อนๆที่กำลังจะหันมายุยงส่งเสริมให้เขาทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อ แต่พอเห็นคนหลักของเรื่องเดินหนีออกไปแล้วก็ได้แต่มองตามและหัวเราะไล่หลังราวกับรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“กูพนันว่าวันนี้มันบอกแน่ กูลง 100 นึงเลย แบคฮยอน”
“กูใจดีให้อีก 100 เลยชานยอล ! วันนี้ไปแดกเหล้าเถอะ”
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาเดินก้าวฉับๆมาจนถึงหน้าห้องเรียนของคนตัวเล็ก ตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมาจากห้องเรียนเลยแม้แต่คนเดียว แต่ใจเขาก็ยังเต้นตุบๆ และยิ่งเต้นเร็วขึ้นพอเห็นหน้าใสๆของคนที่รอคอยนั่นอยู่ไม่ไกลจากสายตาเท่าไหร่ ลู่หานหมายจะเดินเข้าไปหาแต่ก็มีอุปสรรคทางพระพุทธมาขัดเขาเสียก่อน
“อ้าว เฉิน !”เสียงใสๆนั่นเรียกชื่อคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งของบางอย่างมาให้เขา แถมท่าทางยังดูขัดเขินจนอดเอ็นดูไม่ได้อีกต่างหาก
“เราไปไทยมา เลยซื้อมาฝากมินซอกน่ะ.... บทสวดสรภัญญะก่อนนอน เราคิดถึงมินซอกเป็นคนแรกเลยนะ”
นี่สินะ.... ที่ว่าหมาคาบไปเคี้ยวยั๊บๆ ?
คราวนี้มินซอกกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างลำบาก ยื่นมือเล็กไปรับมา พร้อมกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายเบาๆ
“ไม่เป็นไร เราเต็มใจซื้อให้มินซอกนะ อย่าลืมสวดอุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวณด้วยนะ”
“เฉินก็สวดให้ตัวเองเยอะๆด้วยนะ เจ้ากรรมนายเวณเฉินนี่คงเยอะพอตัวเลยละ”
น้ำเสียงราบเรียบที่เอ่ยขึ้นมานั่น มินซอกจำได้ดีว่าเป็นของใคร... ประโยคที่พูดเมื่อครู่เหมือนจะแฝงด้วยความเป็นห่วง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวเองเป็นเฉิน คงอยากจะรีบๆออกไปจากตรงนี้เป็นแน่ ดวงตากลมมองไปทางต้นเสียงก่อนจะถลึงตาใส่เป็นการคาดโทษ
“หุบปากไปเลย...”ลู่หานเห็นอีกฝ่ายทำปากขยุบขยิบเป็นคำนี้ เขารู้และสัมผัสได้ เลยได้แต่ทำหน้ามุ่ยๆตอบไป ไม่กล้าพูดหรือเถียงอะไรไปมากกว่านั้น
....ใช่เซ่ ก็เขาเป็นแค่กวางจากจีน จะมีดีอะไรไปสู่กับท่านพ่อมหาที่ขยันทำคะแนนให้มินซอกทุกวันละ....
สวดมนต์ก็ไม่ได้ !
แผ่เมตตาก็อาจจะไม่จบ !
แต่เห็นอย่างนี้... ไหว้พ่อกับแม่ก่อนออกบ้านทุกวันนะครับ !
บรรยากาศดูเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เฉินเลยขอตัวกลับห้องไปก่อน เพื่อนๆของมินซอกเองก็เดินเข้าห้องตัวเองไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ตอนนี้ให้พูดจริงๆก็เหลือแค่ไอ้เพื่อนสนิทชาวจีนที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่นี่แหละ
“มาทำอะไรหน้าห้องฉัน ไม่มีเรียนหรือไง ?”ภาษาถิ่นด้วยเสียงใสๆนั่นชวนฟัง ไม่ได้ตะโกนหรือด่าถอใส่เขาแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะเมื่อครู่นั่นตัวเขาเองไม่ได้ขัดใจคนตรงหน้าด้วยละมั่ง... นี่คงเป็นรางวัลของคนทำดีงั้นสิ ?
“มีสิ แต่เราอยากมาหามินซอก”
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือว่าแก้มของมินซอกดูแดงระเรื่อขึ้นมานิดๆ แถมยังทำสายตาล่อกแล่กจนอดคิดไม่ได้ว่ากำลังเขินสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่หรือเปล่า
“มาเพื่อ ? เดี๋ยวตอนเย็นก็กลับบ้านด้วยกันอยู่ดี หรืออยากกลับคนเดียว ?”บ่นอุบอิบแถมยังฟาดมือเล็กๆไปยังแขนของอีกฝ่าย ลู่หานลูบแขนปอยๆแต่ใบหน้ากลับยิ้มเสียจนตีนกาแทบจะวาดเต็มใบหน้า
“อื้อ งั้นตอนเย็นกลับมาด้วยกันนะ”
.
.
.
ตึกตัก ตึกตัก...
หัวใจเต้นถี่เร็วจนน่ากลัวเมื่อร่างเล็กๆเหมือนซาลาเปานั่นกำลังเดินมาหาเขา ปกติแล้วลู่หานจะต้องกุลีกุจอไปรับอีกฝ่ายด้วยท่าทางร้อนรนหรือเร่งรีบ แต่วันนี้อาจจะเป็นเพราะความกังวลใจทำให้เขาเลือกที่จะเงียบไปตลอดทาง
....จนมินซอกรู้สึกอึดอัดแบบนี้...
“เป็นอะไรรึเปล่าไอ้หาน ทำไมวันนี้เงียแปลกๆ !?”
..
“นี่คือ จะไม่คุยกันแล้วใช่ไหม ใจคอจะเงียบให้ฉันพูดคนเดียวตลอดทางเลยหรอ ลู่หาน !”
..
“ลู่หาน...”
“ฟังเรานะมินซอก !!”
“อย่าเพิ่งพูดขัดเรา อย่าเพิ่งขึ้นเสียงใส่เรา”อยู่ๆ ร่างสูงกตะคอกกลับมา ทำเอาคนที่พยายามชวนคุยเมื่อครู่น้ำตาปริ่ม ลู่หานสูดหายใจเขาลึกๆก่อนจะเริ่มร่ายความรู้สึกที่ปกปิดมานาน.. ความรู้สึกที่ทำให้อึดอัดจนอยากจะยกมันออกตามที่เคยได้ฟังใบเตยร้องว่ารักต้องเปิด ตามที่พี่ปราโมทย์เคยร้องว่าถ้าไม่บอกไม่พูดไม่กล่าวแล้วเค้าจะรู้รึเปล่า นั่นแหละ.... ที่ทำให้อึดอัด ไอ้คำว่า...
“เราชอบมินซอกนะ”
“......” ไม่มีเสียงใดออกจากคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย คราวนี้หนุ่มจากแดนมังกรถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสรรพนามที่คิดว่าคงจะได้ยินจากอีกฝ่ายทันทีที่เขาพูดจบเป็นแน่
“ถ้ากูบอกแล้ว มึงจะเกลียดกูก็ได้นะ แต่กูเก็บมันต่อไปไม่ไหวแล้วว่ะ...”น้ำเสียงนั่นดูจริงจังเสียจนต้องคนฟังก้มหน้าหลบสายตาเหมือนเด็กสำนึกผิด ในสมองยังมีแต่คำว่ารักที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดมันออกมาสะท้อนไปมาเสียจนแทบไม่รู้เรื่องไอ้ประโยคที่กล่าวถัดมาเสียแล้ว
“กูแค่อยากบอกว่า.....”
“กูชอบมึงมานาน... แล้ววันนี้กูเก็บมันไม่ไหวแล้ว ถ้าเราห่างกันเพราะว่ากูบอกชอบมึงกูพอทนได้ แต่ถ้าจะต้องห่างกันเพราะมึงมีคนอื่นมาแทนที่กูไม่ว่าในฐานะอะไร กูทนไม่ได้...” พอพูดจบ ก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมสักครู่หนึ่ง ก่อนมินซอกลุกพรวดขึ้นมายืนตรงหน้าลู่หาน ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น
.
.
.
“แผ่นดินมึงสอนบอกชอบคนแบบนี้รึไง ?”
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาจ้องใบหน้าหวานนิ่ง ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นสีแดงจางๆบนใบหน้าของร่างเล็ก มือแกร่งยื่นไปขยี้หัวอีกคนอย่างหมั่นไส้ ก่อนพยักหน้ารับคำแต่ก็นึกเสียดายที่คำตอบไม่ได้เป็นการแสดงความชัดเจนความรู้สึกของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย
.
.
.
“วันนี้... กูขอกลับบ้านไปพิจารณามึงก่อนล่ะกัน”
เสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบา ก่อนจะซ่อนใบหน้าเขินอายแล้วก็กลับไปยังที่นั่งของตนเอง รอใครสักคนแถวนี้ไปส่งที่บ้าน แถมยังบ่นอุบอิบไล่หลังอีกว่า
“ดีนะ... ที่มึงบอกกู ถ้าไปบอกชอบคนอื่นแบบนี้ มีหวังต่อยหน้ามึงแหกไปแล้ว”
...นี่ถ้าไม่มีใจให้นะลู่หาน... นายคงต้องกลับบ้านไปเย็บสิบเข็มแล้วละ !...
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: Listen ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ถ้าเกิดว่าได้รับการตอบรับดี.. ก็คงมีกำลังใจจะลงต่อ
เค้ากลัวไม่มีคนสนใจฟิคเค้ามากเลยละ... ทำไงดีนะ TT"
:) Shalunla
ความคิดเห็น