ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SFllOS] ALL FOR MINSEOK ft.exo

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] LUHAN X MINSEOK : LISTEN TO ME

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 57



     

    Title : [SF]Listen to me

    Author : FLOCKYCHOU’DONUT

    Couple : LUHAN X XIUMIN

    Rate : PG

    Author’s note : รีไรท์เป็นภาษาไทยเพื่อความเข้าใจของทุกคนคะ 

     

     

    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: Listen ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

     ฉันชอบนาย....

     

     

     

     

    ไอ้หาน !! ปั่นจักรยานด้วยความเร็วเท่าส่วนสูงหน่อยได้ไหมห่ะ !!??”

    เจ้าของนาม ลู่หานหันไปมองเจ้าของเสียงหวานที่พูดประโยคขัดกับหน้ากับตาเสียเหลือเกิน ทำไมไม่มีความอ่อนหวานเอาเสียเลย...

     

    และมันก็ไม่มีเฉพาะกับเขาคนเดียวด้วยสิ

    ทำไมกันนะ ??

    คิม มินซอก

     

     

    จะเหม่อทำหน้ากวางอีกนานป่ะ เอาเวลามาปั่นจักรยานสิโว้ย !!”

    ทำไมกันนะ....  พูดดีๆกันมั่งไม่ได้เหรอ มินซอก...   แค่พูดดีกับฉันนิดเดียวเท่านั้นเอง !!!!

    ลู่หานถอนหายใจก็จะทำตามอีกคนพูดอย่างจำใจ  ไม่อยากขัดใจ และก็ไม่อยากทะเลาะด้วยเท่าไหร่หรอกนะ ไม่ชอบเลยเวลาที่มีปัญหากันแล้วไอ้ตัวเล็กข้างหลังนี้มันงอน

    ง้อยากชิบเป๋ง.....    แต่ก็อย่างว่า  เต็มใจจะง้อล่ะนะ

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

     

    ถ้าฉันชอบเธอ..ให้ฉันบอกเธอได้ไหม

    ว่าฉันชอบเธอ..ให้ฉันบอกเธอวันไหน

     

    ??

     

     

    พอมาถึงหน้าโรงเรียน มินซอกก็กระโดดลงจากรถแทบจะทันที ร่างสูงหยุดรถกึกพร้อมหันมามองคนที่เพิ่งกระโดลงจากรถไปพร้อมถามเสียงเรียบ

    ไม่เอารถไปเก็บด้วยกันรึไง...คนโดนถามเงียบ ทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ลู่หานทำหน้าไม่ค่อยจะพอใจซะเท่าไหร่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพึมพำเบาๆ

    คนเราก็เงี้ย...

    คนตัวเล็กกว่ายิ้มจนตาหยีให้เพื่อนสนิท ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียนไปด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ดีจัด จนน่าหมั่นไส้แต่มันน่ารักจนโกรธไม่ลง... สำหรับลู่หาน

     

     

     

    ร่างสูงเดินเข้าห้องเรียนได้เพียงครู่ ก็ถูกบรรดาผองเพื่อนถาโถมเข้ามายิงคำถามใส่มาก

     

    เหย ! ทำไมมาโรงเรียนกับมินซอกว่ะ...

    เป็นอะไรกับน้องซาลาเปาของกู !!”

    เป็นแฟนกันหรอว่ะ ?

     

    และอีกมากมายที่ทำให้คนจีนแบบเขาแทบอยากจะตะโกนออกไปว่า เขาแปลไม่ทัน ฟังไม่ค่อยจะออก แถมยังจะมึนๆอีกต่างหาก นี่เล่นพ่นภาษาถิ่นกันอย่างมั่นใจแบบนี้ ใครจะไปฟังทัน ถึงจะอยู่มานาน แต่นี่ก็คนต่างชาตินะครับพ่อคุณ !

     

    โอ้ยยย... พ่อมึงตายกันเหรอ พอๆหยุด !!”

    ทุกคนเงียบกริบ ลู่หานยิ้มอย่างพอใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแผ่วแถมยังตะกุกตะกักอีกต่างหาก

     

     

    ฉ...ฉันกับเขาเป็นแค่ “เพื่อน” กันว่ะ

    เฮ้อ.... ไม่ชอบเลยว่ะ กับคำว่าเพื่อนแบบนี้ 

     

    .

     

    .

     

    .               .

     

     

     

     

    จากนี้ที่เธอฟัง จะคิดเป็นเช่นไร

    ก็คงไม่สนใจ แค่เพียงได้บอกฉันพอใจ

    !?

     

     

    เฮ้ออ....เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ในวันนี้ของลู่หาน  ดวงตากลมมองร่างเล็กที่กำลังเรียนคาบกรีฑาอยู่ด้านนอก  ที่ถอนหายใจไม่ใช่เพราะคนนั้นหรอกนะ แต่คำพูดของเพื่อนร่วมห้องเขาเมื่อเช้าต่างหาก

     

    ชอบเขาก็ไปบอกเขาสิว่ะ มึงอย่าคิดว่าพวกกูโง่หน่อยเลย

     

    หมาคาบไปแดกแล้วมึงจะรู้สึก

     

    ยุกันหรอ ??... อ่วยจริง นี่ก็เครียดนะ ยิ่งเย็นนี้ต้องกลับบ้านกับเขาอีก แล้วเล่นมาพูดให้คิดแบบนี้ แล้วเขาจะมองหน้าเพื่อนสนิทติดหรอว่ะ แค่ทุกวันนี้ก็เครียดจะตายห่าอยู่แล้ว  พอคิดแล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกเฮือก และถึงจะพยายามไล่ความคิดพวกนี้ออกไปเท่าไหร่ ภาพคนตัวเล็กยิ้มร่ามันก็ปรากฏเด่นชัดในหัว เลวร้ายกว่าเดิมเสียอีก..

     

    แย่จริง...   จะบอกได้จริงๆงั้นหรอ ??

    ลู่หานเม้มริมฝีปากทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน จนรู้สึกตัวอีกที เสียงออดบอกเวลาหมดคาบก็ดังขึ้น ร่างสูงเลยรีบลุกพรวดออกจากห้องท่ามกลางความมึนงงของเพื่อนๆที่กำลังจะหันมายุยงส่งเสริมให้เขาทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อ แต่พอเห็นคนหลักของเรื่องเดินหนีออกไปแล้วก็ได้แต่มองตามและหัวเราะไล่หลังราวกับรู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

     

    “กูพนันว่าวันนี้มันบอกแน่ กูลง 100 นึงเลย แบคฮยอน”

    “กูใจดีให้อีก 100 เลยชานยอล !  วันนี้ไปแดกเหล้าเถอะ”

     

    ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาเดินก้าวฉับๆมาจนถึงหน้าห้องเรียนของคนตัวเล็ก ตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมาจากห้องเรียนเลยแม้แต่คนเดียว แต่ใจเขาก็ยังเต้นตุบๆ และยิ่งเต้นเร็วขึ้นพอเห็นหน้าใสๆของคนที่รอคอยนั่นอยู่ไม่ไกลจากสายตาเท่าไหร่  ลู่หานหมายจะเดินเข้าไปหาแต่ก็มีอุปสรรคทางพระพุทธมาขัดเขาเสียก่อน

     

    “อ้าว เฉิน !”เสียงใสๆนั่นเรียกชื่อคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งของบางอย่างมาให้เขา แถมท่าทางยังดูขัดเขินจนอดเอ็นดูไม่ได้อีกต่างหาก

     

    “เราไปไทยมา  เลยซื้อมาฝากมินซอกน่ะ.... บทสวดสรภัญญะก่อนนอน เราคิดถึงมินซอกเป็นคนแรกเลยนะ”  

     

    นี่สินะ.... ที่ว่าหมาคาบไปเคี้ยวยั๊บๆ ?

     

    คราวนี้มินซอกกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างลำบาก ยื่นมือเล็กไปรับมา พร้อมกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายเบาๆ

    “ไม่เป็นไร เราเต็มใจซื้อให้มินซอกนะ  อย่าลืมสวดอุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวณด้วยนะ”

     

    “เฉินก็สวดให้ตัวเองเยอะๆด้วยนะ เจ้ากรรมนายเวณเฉินนี่คงเยอะพอตัวเลยละ”

    น้ำเสียงราบเรียบที่เอ่ยขึ้นมานั่น  มินซอกจำได้ดีว่าเป็นของใคร... ประโยคที่พูดเมื่อครู่เหมือนจะแฝงด้วยความเป็นห่วง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัวเองเป็นเฉิน คงอยากจะรีบๆออกไปจากตรงนี้เป็นแน่  ดวงตากลมมองไปทางต้นเสียงก่อนจะถลึงตาใส่เป็นการคาดโทษ

     

    “หุบปากไปเลย...”ลู่หานเห็นอีกฝ่ายทำปากขยุบขยิบเป็นคำนี้ เขารู้และสัมผัสได้ เลยได้แต่ทำหน้ามุ่ยๆตอบไป ไม่กล้าพูดหรือเถียงอะไรไปมากกว่านั้น

    ....ใช่เซ่  ก็เขาเป็นแค่กวางจากจีน จะมีดีอะไรไปสู่กับท่านพ่อมหาที่ขยันทำคะแนนให้มินซอกทุกวันละ....

     

    สวดมนต์ก็ไม่ได้ !

    แผ่เมตตาก็อาจจะไม่จบ !

    แต่เห็นอย่างนี้... ไหว้พ่อกับแม่ก่อนออกบ้านทุกวันนะครับ !

     

    บรรยากาศดูเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น เฉินเลยขอตัวกลับห้องไปก่อน เพื่อนๆของมินซอกเองก็เดินเข้าห้องตัวเองไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ตอนนี้ให้พูดจริงๆก็เหลือแค่ไอ้เพื่อนสนิทชาวจีนที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่นี่แหละ

     

    “มาทำอะไรหน้าห้องฉัน  ไม่มีเรียนหรือไง ?”ภาษาถิ่นด้วยเสียงใสๆนั่นชวนฟัง  ไม่ได้ตะโกนหรือด่าถอใส่เขาแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะเมื่อครู่นั่นตัวเขาเองไม่ได้ขัดใจคนตรงหน้าด้วยละมั่ง... นี่คงเป็นรางวัลของคนทำดีงั้นสิ ?

    “มีสิ  แต่เราอยากมาหามินซอก”

    ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือว่าแก้มของมินซอกดูแดงระเรื่อขึ้นมานิดๆ แถมยังทำสายตาล่อกแล่กจนอดคิดไม่ได้ว่ากำลังเขินสิ่งที่พูดไปเมื่อครู่หรือเปล่า

     

    “มาเพื่อ ? เดี๋ยวตอนเย็นก็กลับบ้านด้วยกันอยู่ดี หรืออยากกลับคนเดียว ?”บ่นอุบอิบแถมยังฟาดมือเล็กๆไปยังแขนของอีกฝ่าย ลู่หานลูบแขนปอยๆแต่ใบหน้ากลับยิ้มเสียจนตีนกาแทบจะวาดเต็มใบหน้า

     

    “อื้อ งั้นตอนเย็นกลับมาด้วยกันนะ”

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

     

    ตึกตัก  ตึกตัก...

     

    หัวใจเต้นถี่เร็วจนน่ากลัวเมื่อร่างเล็กๆเหมือนซาลาเปานั่นกำลังเดินมาหาเขา ปกติแล้วลู่หานจะต้องกุลีกุจอไปรับอีกฝ่ายด้วยท่าทางร้อนรนหรือเร่งรีบ แต่วันนี้อาจจะเป็นเพราะความกังวลใจทำให้เขาเลือกที่จะเงียบไปตลอดทาง

    ....จนมินซอกรู้สึกอึดอัดแบบนี้...

     

     

    “เป็นอะไรรึเปล่าไอ้หาน  ทำไมวันนี้เงียแปลกๆ !?

    ..

     

    “นี่คือ จะไม่คุยกันแล้วใช่ไหม ใจคอจะเงียบให้ฉันพูดคนเดียวตลอดทางเลยหรอ ลู่หาน !

    ..

     

    “ลู่หาน...”

     

    “ฟังเรานะมินซอก !!

    อย่าเพิ่งพูดขัดเรา อย่าเพิ่งขึ้นเสียงใส่เราอยู่ๆ ร่างสูงกตะคอกกลับมา ทำเอาคนที่พยายามชวนคุยเมื่อครู่น้ำตาปริ่ม  ลู่หานสูดหายใจเขาลึกๆก่อนจะเริ่มร่ายความรู้สึกที่ปกปิดมานาน.. ความรู้สึกที่ทำให้อึดอัดจนอยากจะยกมันออกตามที่เคยได้ฟังใบเตยร้องว่ารักต้องเปิด ตามที่พี่ปราโมทย์เคยร้องว่าถ้าไม่บอกไม่พูดไม่กล่าวแล้วเค้าจะรู้รึเปล่า นั่นแหละ.... ที่ทำให้อึดอัด ไอ้คำว่า...

     

     

    เราชอบมินซอกนะ”

    ...... ไม่มีเสียงใดออกจากคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย คราวนี้หนุ่มจากแดนมังกรถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสรรพนามที่คิดว่าคงจะได้ยินจากอีกฝ่ายทันทีที่เขาพูดจบเป็นแน่

    ถ้ากูบอกแล้ว มึงจะเกลียดกูก็ได้นะ แต่กูเก็บมันต่อไปไม่ไหวแล้วว่ะ...น้ำเสียงนั่นดูจริงจังเสียจนต้องคนฟังก้มหน้าหลบสายตาเหมือนเด็กสำนึกผิด ในสมองยังมีแต่คำว่ารักที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดมันออกมาสะท้อนไปมาเสียจนแทบไม่รู้เรื่องไอ้ประโยคที่กล่าวถัดมาเสียแล้ว

    กูแค่อยากบอกว่า.....

     

    กูชอบมึงมานาน... แล้ววันนี้กูเก็บมันไม่ไหวแล้ว ถ้าเราห่างกันเพราะว่ากูบอกชอบมึงกูพอทนได้ แต่ถ้าจะต้องห่างกันเพราะมึงมีคนอื่นมาแทนที่กูไม่ว่าในฐานะอะไร กูทนไม่ได้... พอพูดจบ ก็เกิดความเงียบเข้าปกคลุมสักครู่หนึ่ง ก่อนมินซอกลุกพรวดขึ้นมายืนตรงหน้าลู่หาน   ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่น

     

     

    .

     

                    .

     

                    .

     

     

     

     

    แผ่นดินมึงสอนบอกชอบคนแบบนี้รึไง ?”

    ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาจ้องใบหน้าหวานนิ่ง ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นสีแดงจางๆบนใบหน้าของร่างเล็ก มือแกร่งยื่นไปขยี้หัวอีกคนอย่างหมั่นไส้ ก่อนพยักหน้ารับคำแต่ก็นึกเสียดายที่คำตอบไม่ได้เป็นการแสดงความชัดเจนความรู้สึกของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

     

     

    วันนี้... กูขอกลับบ้านไปพิจารณามึงก่อนล่ะกัน

    เสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบา ก่อนจะซ่อนใบหน้าเขินอายแล้วก็กลับไปยังที่นั่งของตนเอง รอใครสักคนแถวนี้ไปส่งที่บ้าน แถมยังบ่นอุบอิบไล่หลังอีกว่า

                    “ดีนะ... ที่มึงบอกกู ถ้าไปบอกชอบคนอื่นแบบนี้  มีหวังต่อยหน้ามึงแหกไปแล้ว”

                    ...นี่ถ้าไม่มีใจให้นะลู่หาน... นายคงต้องกลับบ้านไปเย็บสิบเข็มแล้วละ !...

     

     

     

     

     

     

    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: Listen ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

     
    ถ้าเกิดว่าได้รับการตอบรับดี.. ก็คงมีกำลังใจจะลงต่อ
    เค้ากลัวไม่มีคนสนใจฟิคเค้ามากเลยละ... ทำไงดีนะ TT"

     

     

     

     

     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×