ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #72 : บทสรุปเนื้อเรื่อง ทางออกเบื้องหลัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 228
      14
      16 ธ.ค. 62

    บทสรุป ทางออกเบื้องหลัง

    * เพื่อจะไม่สับสน [สมาคมมังกรทอง] คือ ชื่อเรียกของสหพันธ์กิลด์อันดับสองของเกม ซึ่งมีกิลด์หยางหลง เป็นผู้นำอีกที โดยกิลด์หยางหลงเนี่ย ไม่ใช่กิลด์สายต่อสู้โดยตรง แต่เป็นกิลด์ค้าขายอุปกรณ์สวมใส่ กับรูนครับ *
     
    - ที่ค่ายกิลด์หยางหลง อรุณ และสมาชิกกิลด์ไม่มีเวลาฉลองชัยชนะแม้ชิงเรดบอสมาได้ ทุกคนลองเสนอความเห็นแต่ล้วนคิดไม่ตกว่าจะใช้วิธีการไหนไปช่วย ซัน ครั้งจะให้ปราการลอยน้ำของสมาคมร่วมกับกองเรือรบ‘โคโค่มาร์เก็ต’ อัลบาทรอสคงจะให้ความร่วมมืออย่างดี แถมยังได้กิดล์ทหารรับจ้างพระการอย่าง ‘โอไรอ้อน’ เกื้อหนุน แต่ว่าหากขาดสามเจ้านี้ไป ลำพังถึงมีกิลด์ใหญ่อื่นอยู่ ว่ากำลังรบของผู้เล่นจะหายไปครึ่งหนึ่ง 

    - ภายใต้แรงกดดัน มันเป็นการแบ่งกำลังมากไป อีกประการ การจะผ่านทะเลเหนือสู่ทางทะเลลอยฟ้า เท่ากับตรงดิ่งสู่ใจกลางทัพข้าศึก ต้องเข้าปะทะ พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีขากลับ ถึงรอดมาได้ก็บอบช้ำมาก ยิ่งเสียทรัพยาการมหาศาลไปครั้งกำแพงซีเกทระเบิดด้วย คงช่วยยื้อศึกต่อไม่ไหว รวมถึงยังส่งผลกระทบถึงความแข็งแกร่งของทั้งสามกิลด์ฝ่ายเราอย่างรุนแรง ถึงขั้นต้องฟื้นตัวเป็นปีเกม 

    หลังจบงานนี้ EOS ประกาศสงครามกับสมาคมมังกรทองไว้ด้วย แล้วจะเอาอะไรป้องกันตัว ความเสี่ยงมันสูงเหลือเกิน

    เฟยหง หัวหน้ากิลด์หยางหลง

    - ขณะนั้นเองก็มีเสียงร้องโวยวายจากด้านนอก เมื่อมีเสียงประกาศเตือนการปรากฏตัวของเรดบอส หญิงสาวหูแมวรูปงามในชุดเมดโผล่พรวดเข้ามานั่งตักคลอเคลียอรุณ จนอันย่าจับแยกแทบไม่ทัน หลังจากหายไปเป็นวัน คิทตี้ก็กลับมาแล้ว

    [พบมอนสเตอร์ระดับ เรดบอส เลขานุการแห่งสตาร์เกท คิทตี้] 

    - นอกจากอรุณที่ได้เจอ AI ตัวนี้มาแล้วในเซิร์ฟเวอร์ทดสอบ ทุกคนแปลกใจมากที่รูปร่างของตัวละครของเธอนั้นนอกจากผิวและสีผมสีซีดเป็นสีเงิน ตอนนี้เธอเหมือนกับผู้เล่นทุกประการ 

    - เมื่อเคลียร์กันได้แล้ว อรุณก็แกล้งถามให้คิทตี้อธิบายว่าไปอาละวาดใต้น้ำมา เป็นผลให้กองทัพมอนสเตอร์ร่อยหลอไปกว่าครึ่ง และพัฒนาเป็นเรดบอส เมื่อได้ทราบว่าศึกรากเลือดที่ผ่านมาเป็นแค่มอนสเตอร์ครึ่งเดียว เฟยหงยิ่งตระหนักได้ถึงวิกฤติ หมายความว่าแผนที่คุยกันไว้ตอนแรกนั้นตกไปโดยสมบูรณ์ 

    ซีเกทต้องการผู้เล่นทุกคนเพื่อปกป้องปราการด่านนี้เอาไว้ จะเสี่ยงกับการสูญเสียไม่ได้!

    - ที่เครียดไม่แพ้กันคือ ไอริส สาวน้อยสิ้นหวังอย่างมากจนแทบจะร้องให้ออกมา เธอคงไม่มีทางไปช่วยซันได้จนกว่าศึกใหญ่นี้จะจบลง ถึงแม้อรุณจะได้คิทตี้ที่แข็งแกร่งระดับเรดบอสมาช่วยเหลือแล้วก็ตาม จะส่งคิทตี้ไปช่วยซันก็คงไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่กำลังรบสำคัญอย่างเธอซึ่งยื้อมอนสเตอร์ครึ่งกองทัพไว้ได้ด้วยตัวคนเดียว ไปช่วยผู้เล่นแค่หนึ่งคน ปล่อยให้คนเบื้องหลังถูกกลืนหายไปกับคลื่น ก็ออกจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อย 

    ไอริสอยากจะเห็นแก่ตัว แต่ก็ห้ามใจไม่ให้อ้อนวอนอรุณ หวาดหวั่นถึงความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับหากเธอเอาแต่ใจ ส่งผู้รุกรานชั้นเรดบอสผ่านน่านน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของทัพมอนสเตอร์ไป มันก็จะคลั่งพร้อมกันหมด แล้วบุกมาถล่มซีเกทรวดเดียว ไอริสเป็นเด็กดีเหลือเกิน ทุกคนก็รู้แต่ก็จนปัญญา พากันเงียบไปจนเกิดบรรยากาศชวนอึดอัด 

    - คาร์ลซึ่งเป็นคนปาหอกทำลายสนามประลองทนดูไม่ได้ ขอแยกตัวไปเดินด้านนอกสักพัก และยกแต้มอีเวนท์ ทั้ง 15000 เชลล์ ให้อรุณไปใช้ตามสบาย บอกว่าเขาไม่ต้องการมัน นี่เป็นสิ่งที่เขาพอจะชดใช้ไอริสได้ อรุณกับแลนเซลอทไกล่เกลี่ยยังไงก็ไม่ยอม เดินหายออกไปในเมือง แลนเซลอทส่ายหน้า แก้ต่างแทนเพื่อนตัวเองว่า แค่อ่อนไหวง่าย เลิกติสเมื่อไหรก็กลับมา ระหว่างิคดไม่ตกเอาแต้มอีเวนท์ไปแลกของรางวัลก่อนจะถูกตัดหน้าดีกว่า

    - เฟยหง กับอันย่าเห็นด้วย ด้วยแต้มรวม 30,000 เชลล์ อรุณเลยแลกของสี่ดาวมาสามชิ้น 

    1.แหวนสีขาวน้ำนม ให้ไอริส ชื่อ ‘เกลียวคลื่นเกษียรสมุทร’ มาพร้อมความสามารถต้านทานสถานะผิดปกติครบครัน ปรับเพิ่มทักษะการรักษา เสริมพลัง และปัดป้อง และเมื่อผู้สวมมีสีขาวแบบเธอใช้ จะได้สกิลโจมตีควบคุมสนามของสีฟ้า [สึนามิ] นี่คือของปลอบใจสำหรับเด็กสาว และเป็นการเสิรมแกร่งให้ตัวละครของเธอใช้ฟันฝ่าอุปสรรคข้างหน้า   

    2. ชุดเซ็ทให้อันย่า ชื่อ ‘ผู้บุกเบิกสมุทรเวหา’ ซึ่งมาพร้อมความสามารถกระโดดสูง ปรับทักษะการกระโดด ว่ายน้ำ ดำน้ำ และปีนป่าย สกิลบาเรียกันเวท สกิลเปิดแผนที่ของรูนสีฟ้า บวกค่าสถานะสีฟ้าและสีขาว และเมื่อสวมครบยังสามารถกระโดดเหยียบอากาศได้ถึงสองชั้น นี่แทนคำขอโทษจากการที่ปืนคาเมเลี่ยนไรเฟิลถูกเรซิอองค์ loot ไป 

    3.คืออาวุธที่พลังโจมตีสูงที่สุดในรายการรางวัล สำหรับตัวอรุณเอง เป็นขวานยักษ์เหมือนสมอเรือ ทว่าโครงสร้างวิจิตรพิสดารเหมือนประกอบขึ้นจากผลึกมณีใต้สมุทรกับน้ำแข็ง ชื่อ ‘สะบั้นเศียรจ้าวสมุทร’

    อนึ่ง ขอย้อนข้อมูลเก่าตั้งแต่ตอนแรกๆ ว่า พลังโจมตีของศาสตราที่อรุณเสกออกมาด้วย [เพล อาร์มาเมนท์] จะขึ้นอยู่กับพลังโจมตีของที่สวมใส่ไว้ในช่องอุปกรณ์ เมื่อคาเมเลี่ยนไรเฟิลถูกชิงไป อรุณจึงต้องหาอาวุธพลังโจมตีสูงชิ้นใหม่มาใช้ โดยไม่ใด้ใส่ใจความสามารถพิเศษของมัน ขอแค่มีมันอยู่ ต่อให้เขาเสกมีดปอดผลไม้ออกมา ก็จะมีอณุภาพทำลายล้างเกินจินตนาการ ใช้สร้างความสับสนแก้ศัตรูได้ดี

    อรุณได้ไอเดียซ่อนความแข็งแกร่งด้วยรูปร่าง มาจากตุ๊กตาหมีของเดย์ลี นั่นเอง

    - ไอริส กับ อันย่า ทีแรกไม่อยากจะรับด้วยความเกรงใจ ไอริสไม่อยากทำตัวเป็นเด็กที่ต้องให้ของขวัญปลอบ ส่วนอันย่าเองก็ไม่ถือสากับแค่ไอเท็มชิ้นเดียว เพราะเธอไม่ได้ใช้มันอยู่แล้วจึงให้อรุณยืมมานาน จนกึ่งๆ ว่ามอบให้แล้วด้วยซ้ำ อรุณจึงโน้วน้าวว่า ทั้งสองเข้าใจเขาแค่ครึ่งเดียว เพื่อจะช่วยน้องซันสมาชิกกิลด์ของเรา ก็จำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น ไอริส กับอันย่า จึงยอม เพราะของสี่ดาวที่อรุณเลือกให้นั้นเหมาะมาก ราวกับอรุณคอยสังเกตการเล่นของพวกเธอและหาช่องเสริมจุดเด่นลดจุดด้อยไว้ก่อนแล้ว

    - ต่อมา อรุณก็ ดูของดรอปจากเรดบอสบ้าง หลังจากแบ่งครึ่งหนึ่งให้คาร์ลซึ่งเป็นผู้เล่นอิสระ ไอเทมวัตถุดิบระดับเรดทั้งหลายอรุณยกเข้าคลังของสมาคมมังกรทองทั้งหมด เพราะถึงเก็บไว้เองก็ไม่มีปัญญาจะเอามาตีบวก หรือสร้างของโหดๆ ส่วนของที่เหลือที่มีจำนวนมากมายนั้น อรุณเอาช่องเก็บของตัวเองมาเปิดกางให้ดูเป็นตาราง เพื่อให้ทุกคนช่วยกันคัดเลือกไปใช้งาน หรือ แยกไว้ในกองกลางของกิลด์ bm3 ด้วยความที่มีทั้งอันย่า ซึ่งเดิมเป็นผู้เล่นสายค้าขาย, แลนเซลอทที่เคยเป็นหัวหน้ากิลด์เก่าซึ่งเคยบริหารกิลด์ และเด็กใหม่ อาซาเลีย สาวจอมเวทซึ่งค้าไอเทมเวทมนตร์ สมาชิกกิลด์เลยได้กิจกรรมร่วมเพื่อรอความคิดตกตะกอนอยู่เกือบชั่วยาม 

    - จัดรายการทั้งหมดเกือบจะเสร็จ เวเบอร์ ที่ไม่ค่อยจะมีอะไรทำเพราะตัวเองมีความรู้เฉพาะระเบิด และไม่ไว้ใจสมาชิกกิลด์ใหม่ที่โดนมัดมือชกให้เข้าร่วม ด้วยแผลใจแต่เก่าก่อน ก็สะดุ้งร้องออกมาเมื่อเห็นไอเทมชิ้นหนึ่งก้นช่องเก็บของอรุณ ทุกคนจึงเข้ามาดู และรั้งเวเบอร์ที่ทำท่าหนีไว้ช่วยอธิบายด้วย

    - "โห่ นึกว่าอะไรน่าตื่นเต้น ไอเทมขยะพวกเศษเหรียญโบราณเองนี่" ริน เรียกมันออกมาดูอย่างผิดหวังและทำท่าจะดีดทิ้ง ซึ่งทำให้เวเบอร์ร้องโวยวาย เป็นการใหญ่ "อย่าทิ้งนะ มูลค่ามันมากกว่าของทั้งตัวเรารวมกันอีก ไม่สิ..ทิ้งไปเลย ทิ้งๆ ไปนั่นแหละดี!”

    - พูดอย่างนี้ทุกคนยิ่งสงสัย เวเบอร์หันไปตัดพ้ออรุณอีกว่า เคยบอกว่ารู้จักผู้มีอิทธิพลที่จัดการปัญหาค่าหัวผมได้ หมายถึงอย่างนี้เองสินะ ที่แท้ก็พวกเดียวกัน อรุณไม่เข้าใจหรอก จึงขอเหรียญมาดูด้วยตัวเอง ทันใดนั้นเหรียญพลันเกิดสัญลักษณ์สามเหลี่ยมกลับหัวสีน้ำเงิน เรืองออกมาจางๆ ทำให้อรุณนึกได้ในที่สุดว่า มันคือเหรียญที่ แพนโดร่า เคยยัดใส่มือเขาระหว่างสู้กัน

    - “แสดงเหรียญนี้ แล้วโลกเบื้องหลังจะเปิดต้อนรับ” เสียงพูดของหัวหน้ากิลด์ เอ็นเลสเทลล์ ดังขึ้นในความทรงจำลางๆ ทว่าเบาะแสก็มีแค่นั้น อรุณไม่สามารถตรวจจสอบข้อมูลมันได้เลย   

    - อาซาเลีย ชะเง้อมาดู พอเห็นสัญลักษณ์เรืองแสงก็ตาลุก หยิบไอเทมแว่นขยายออกมาตรวจสอบ พร้อมกับอันย่า อาซาเลียบอกอย่างตื่นเต้นว่า เหรียญนี้ตรวจสอบไม่ได้ก็จริง แต่มันเป็นไอเทมเวทมนตร์ จำพวกรูนอย่างแน่นอน ด้านอันย่าส่องแล้วก็หูกระต่ายตั้ง บอกว่าเธอตรวจสอบได้เล็กน้อย มันเป็นสมบัติโบราณ (อาร์ติแฟค) ระดับสูงมาก ซึ่งผ่านการ คืนชีพ มาแล้ว 

    - ทั้งคู่หรี่ตามองเวเบอร์ซึ่งกลัวหัวหดไม่ยอมปริปากบอกทั้งสิ้น จนกระทั่งเฟยหงกับแลนเซลอทได้ดูจึงเกิดปฏิกิริยาตอบสนองที่ต่างกันสุดขั้ว เฟยหงทำท่าจะถือวิสาสะแย่งมันไปจากมืออรุณ เพื่อจะได้ทำลายทิ้งซะ แต่แลเซลอทก็มือไวไม่แพ้กัน ชายฝรั่งคว้ามันไปเพื่อรักษาเหรียญไว้ แล้วผิวปากอย่างพอใจ “แจ๊ตพอต!”

    - มีการปะทะคารมระหว่างเฟยหงและแลนเซลอท เนื้อหาแบบอ้อมๆ นั้นไม่มีใครเข้าใจนอกจากเวเบอร์อีกคน ด้วยสถานการณ์ตอนนี้บีบบังคับ เฟยหงในที่สุดก็เอ่ยยอมละเว้นกรณีนี้ให้เป็นการพิเศษ และหันมาอธิบายกับทุกคนที่สงสัยจะแย่

    - เฟยหงบอกว่ามันคือ รูนอย่างที่ อาซาเลีย คาด แถมยังช่วยอธิบายเรื่องรูน ซึ่งเป็นสินค้าและนวัตกรรมขึ้นชื่อของกิลด์หยางหลง* ว่า สินค้าจำพวกรูนที่มีราคาสูงที่สุดนั้น คือรูนหายากซึ่งไม่สามารถผลิตโดยผู้เล่นได้ และเป็น ‘อาร์ติแฟค’ อันลึกลับ ซึ่งหาได้จากทวีปเรดโดยฝีมือของผู้เล่นคลาส ‘นักคืนชีพสมบัติโบราณ’ ชั้นแนวหน้า ซึ่งมีไม่ถึงร้อยคนในเซิร์ฟเวอร์ไทยเท่านั้น 

    -  แลนเซลอทเบื่อเท้าความ เลยแทรกขึ้นว่า รูนนี้เป็นอาร์ติแฟคสี่ดาว สีฟ้า ชื่อ ‘พิคาบู’ ตั้งชื่อและคืนชีพโดยอดีตหัวหน้ากิลด์ โฟร์ซีซั่น ไว้ใช้งานใน ‘ภาคีดำ’ โดยเฉพาะ ความสามารถก็คือเปิดประตูมิติไปยังจุดที่บันทึกไว้ที่ไหนก็ได้ในเกม  
    ซึ่งมีที่เดียว คือ “โลกเบื้องหลัง”

    - แต่ที่ยากคือวิธีใช้ เพราะต้องพูดรหัสผ่านเฉพาะซึ่งเป็นความลับของโฟร์ซีซั่น “ก็ไม่รู้ว่า จะมีคนยอมวางทิฐิตัวเอง ปริปากออกมาหรือเปล่า” แลนเซลอทสรุปพร้อมยักคิ้วให้เฟยหง

    แลนเซลอท

    - อรุณกับอันย่ารบเร้าให้เฟยหงบอก ทั้งเขากับเธอก็ไม่เคยไปมาหรอก แต่อ่านข้อมลในเน็ตนิดหน่อยก็จะรู้ว่ามันคือฐานที่มั่นลับ ของเหล่าผู้เล่นรักอิสระ พ่อค้าของหายาก ช่างฝีมือ ไปจนถึงเหล่ามิจฉาชีพ ร้อยพ่อพันแม่แต่มีจุดร่วมกันเพียงอย่างเดียวคือต่อต้านการขยายเขตปกครองแบบเผด็จการทหารของ EOS ถ้าไปถึงโลกเบื้องหลังได้ จะต้องจ้างหาคนมาช่วยสถานการณ์ในตอนนี้ได้แน่

    - เฟยหงบ่ายเบี่ยงว่า เขาหลาบจำมาเยอะแล้ว ว่าไม่ควรจะเชื่อใจพวกภาคีดำ โดยเฉพาะผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ที่สุดอย่างแพนโดร่า การที่เธอเอา ‘พิคาบู’ มาให้ย่อมมีลับลมคมในอย่างไม่ต้องสงสัยเลย 

    “ไม่ปฏิเสธว่าไม่รู้ เห็นไหมเอรอน” แลนเซลอทยิ้มเยาะมุมปาก “ถึงแตกไปแล้ว แต่รอยร้าวของโฟร์ซีซั่นก็ยังอยู่” ซึ่งคำพูดครั้งนี้เกือบจะได้ผล แต่เฟยหงยังใจแข็งอยู่ จนได้ ไอริส เดินมาเอ่ยปากขอร้องด้วยตัวเอง แบบพยายามทำตัวเข็มแข็งทั้งที่สะอึกสะอื้นว่า รู้ที่ทัวหน้าสมเพช แต่ครั้งนี้ต้องขอร้องให้เฟยหงช่วยจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะช่วยซันอย่างไรแล้ว

    - “ซัน..นั่นสินะ” พอนึกถึงเป้าหมายที่แท้จริงได้ เฟยหงก็คล้ายได้สติเป็นคนเดิม “รอผมอยู่นี่” นึกจะพูดอะไรก็พูดแล้วก็เดินหายวับไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ ราวสิบนาทีก็กลับมาในชุดคลุมจอมเวทตัวใหม่ ที่เหมือนผู้เล่นเลเวลกลางๆ คนหนึ่ง แค่รวบผม เปลี่ยนการแต่งตัว ก็แทบจำหัวหน้ากิลด์หยางหลงไม่ได้ “ชุดแบบที่เจอหนูกับซันครั้งแรกนี่คะ” ไอริสสดใสขึ้นแวบหนึ่ง

    - เฟยหงยิ้มบางๆ “ไปในฐานะปกติจะยุ่งยากเปล่าๆ” ก่อนจะบอกพวกอรุณว่า เส้นทางข้างหน้าต้องเป็นกับดักอย่างแน่นอน อีกทั้งโลกเบื้องหลังยังเป็นสถานที่ไร้ขื่อแป เกินครึ่งเป็นที่อโคจร จึงให้ไปด้วยกันทุกคนไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่เลวลยังน้อย หรือสาวๆ เด็กๆ ดังนั้น อรุณจึงต้องทิ้งสามสาว ณดี ริน เฟอร์น่า เอาไว้อีกครั้ง นักบวชอย่างไอริส และสายนักเวทยืนร่ายอย่างอาซาเลีย ก็หลุดโผด้วย ไอริสออกอาการชักสีหน้าเล็กน้อย อรุณรู้ถึงความต้องการอย่างแรงกล้าของเธอ ไอริส กับ ซันมีความสัมพันธ์ละเอียดอ่อนอยู่ ดังนั้นจะเสี่ยงเสียเธอไปในโลกเบื้องหลังอีกคนไม่ได้ หวังว่าไอริสจะเข้าใจ

    ทางด้านกำลังรบหลัก อย่างคิทตี้ เธอเหมือนถูกล็อกตัวกลายๆ ว่าต้องเฝ้าด่านซีเกทซะแล้ว ผู้รุกรานชั้นเรดบอสนั้นเป็นกำลังรบที่สำคัญมากสำหรับฝ่ายผู้เล่น อรุณจึงออกคำสั่งฝากให้เธอช่วยเป็นผู้ปกป้องที่นี่ตอนเขาไมอยู่ 

    - ดังนั้น จึงเหลือแค่ผู้เล่นเก๋าเกม อย่างแลนเซลอท และเวเบอร์ ซึ่งล้วนต่างเคยหนีไปกบดาน ผ่านเข้าออกโลกเบื้องหลังมาแล้วอย่างโชกโชน รวมทีมไปด้วย ขณะนั้นอันย่าที่เดินมาข้างอรุณเหมือนเตรียมตัวไปด้วย ก็ถูกณดีขัดขึ้นมาอย่างเหนือความคาดหมายว่า

    “พี่อรุณคะ ถ้าเลเวลสูงอย่างน้องอาซาเลียไปไม่ได้ แล้วทำไมคุณอันย่าถึงเป็นข้อยกเว้นล่ะ” 

    อันย่าสะอึกนิ่งไป “…ถามอะไรน่ะคะ ฉันกับอรุณก็ต่อสู้ซัพพอร์ทกันมาตลอดอยู่แล้วนะ”

    ไอริสแทรกขึ้นมาอีกคน “ถ้าอย่างนั้น หนูที่สู้ร่วมกับพี่อรุณตั้งแต่แลเวลหนึ่งก็ต้องได้ด้วยสิ”

    “นั่นดิ พูดถูกๆ” รินทำตาลุกแล้วเกทับโดยไว “พี่อรุณเก่งจะตาย ไม่ต้องตามซัพพอร์ท แบบตัวแทบจะติดกันก็ได้”

    เฟอร์น่ายิ้มแหยเสริมขึ้นบ้าง “ตะ แต่อันย่าเขาเก่งอยู่นะคะ ฉันไปเปลี่ยนคลาสสองด้วยกันมา เลยพอเห็นฝีมือมาแล้ว” ก่อนจะถูกรินลากไปปรับความเข้าใจกันสองคนอย่างไว 

    - บรรยากาศแปลกๆ เหมือนจะแผ่ออกมาในหมู่สาวๆ ซึ่งพวกผู้ชายอย่างอรุณไม่เข้าใจ  เฟยหง เลยเสนอตัดปัญหา ให้อันย่าซึ่งเป็นรองหัวหน้ากิลด์ BM3 เป็นผู้นำสมาชิกคอยต่อสู้ และผสานงานกับสมาคมอยู่ที่นี่ เล่นเอาอันย่าซึมไปเล็กน้อย พยายามส่งสายตามาทางอรุณเป็นระยะ กลับกัน รินกับเฟอร์น่าที่ปรับทัศนคติมาเรียบร้อย พากันอมยิ้มพอใจ 

    “อันย่า ไม่ต้องไปหรอก ต้องรบกวนช่วยเป็นตัวแทนผมอยู่ที่หน่อย ผมจะเสียอันย่าไปอีกคนยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่”
    สาวกระต่ายฟังแล้วนิ่งนิ่งอึ้งไป เสียงค่อยลงกว่าเดิม “ถ้าทำอะไรเกินตัว ฉันคอยช่วยไม่ได้แล้วนะ ระวังด้วย...ตาบ้า”

    ‘เหมือนกันนั่นแหละ ยายกระต่ายโฉด ระวังด้วย’ อรุณนึกตอบแล้วเดินไปกระจุกรวมที่เฟยหง แม้จะรู้จักกันไม่ดีเท่าที่ควร แต่อรุณอุ่นใจในความรอบคอบของเธอมาก ถ้าเป็นอันย่าเขาก็สบายใจขึ้นโข สี่หนุ่มสี่มุมมองหน้ากัน เป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

    - “อรุณ น่าจะมีคุณคนเดียวที่ยังไม่รู้ รูนนี้พาเราไปโลกเบื้องหลังได้ แต่พากลับไม่ได้ ถึงจะมีผมอยู่ ก็ไม่แน่ว่าจะหาทางหนีทีไล่มาได้ง่ายๆ จากนี้ไปทุกย่างก้าว เตีรยมพร้อมกับรับมือเหตุการ์ณไม่คาดฝันตลอดเวลานะครับ”

    - นึกจะพูดอะไรก็พูด อรุณยังไม่ทันตอบเฟยหงก็ขอรูนมาถือไว้ และกล่าวรหัสผ่าน

    “อะแฮ่ม...จุ๊กกรู้ พิคาบู จุ๊กกรู้ พิคาบู จุ๊กกรู้ พิคาบู!” 

    - ทุกคนได้ฟังแล้วก็ทำหน้าเหวอ พยายามหันหน้าไปกลั้นขำทางอื่น เฟยหงอุทานบ้าบออะไรออกมาของเขาเนี่ย แถมยังมีการเล่นเสียงสูงเสียงต่ำ ยกเว้นแลนเซลอทที่ปล่อยขำก๊าก “ฮ่าๆๆๆ บ้าจี้ยอมลดตัว พูดรหัสผ่านปัญญาอ่อนนี่ด้วยว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

         “เดี๋ยว คุณแลนเซลอทพูดแบบนี้ หมายความว่ารู้รหัสผ่านอยู่แต่แรกลแล้วเหรอ”

         “โอ้เยส! ไอแอม!” นายฝรั่งกุมท้องที่ขำจนปวด “ผมกบดานอยู่โลกเบื้องหลังมาตั้งเท่าไหร่ มีเหรอจะไม่รู้ ทิธงทิฐิอะไร ใครจะไปยอมปล่อยไก่ ฮ่าๆๆๆ นี่แหละ มุขตลกร้ายของโฟร์ซีซั่น ”

         เฟยหงกระแอม สีหน้าน่ากลัวมาก แปลได้ว่าชาตินี้จะไม่ทำอีกแล้ว 
         “ประตูมิติเปิดแล้ว ไปกันเถอะ”

    - ทันทีที่ผ่านเข้าไปด้านใน สิ่งแรกที่อรุณและอีกสามหนุ่มเห็น ก็คือ หญิงสาวสวมผ้าปิดตาข้างหนึ่ง ยืนรอต้อนรับพวกเขาอยู่พร้อมกองกำลังอาวุธครบมือขนาดย่อม แพนโดร่า หัวหน้ากิลด์เอ็นเลสเทลล์ ผู้เล่นผู้มีค่าหัวสูงเป็นอันดับหนึ่ง ยิ้มและยกแก้วชาที่เธอนั่งจิบรออยู่ให้อรุณ 

    “พิคาบู! (Peekaboo - จ๊ะเอ๋) งานเลี้ยงน้ำชาเลิกพอดีเลยจ๊ะ รูปหล่อ มาได้สักทีนะ...มาคุยธุรกิจของเราเลยดีกว่า”  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×