คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ep1 - การกลับมา
“เอ้านี่ textbook ที่ฝากไว้ รวมแล้วร้อยยี่สิบห้าบาทครับ”
ชายหนุ่มวัยเบญจเพสผู้เป็นเจ้าของร้านถ่ายเอกสารส่งกระดาษแผ่นหนาให้ลูกค้าที่เป็นนักศึกษาสาวสวย นับว่าเขาเลือกทำเลในการเปิดกิจการได้ไม่เลวทีเดียว นอกจากจะได้เห็นผู้หญิงน่ารักเป็นอาหารตาตลอดเช้ายันเย็นแล้ว การตั้งร้านอยู่หน้าคณะใหญ่คณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแบบนี้ยังเป็นการรับประกันว่าจะมีรายได้เข้ามาแทบตลอดทั้งปีอีกด้วย
“นี่ค่ะ ร้อยยี่ห้า” นักศึกษาสาวยิ้มบางๆขณะส่งเงินแลกเปลี่ยน “หนูนึกว่าพี่อรุณจะปิดร้านไปแล้วนะเนี่ย ปกติมืดขนาดนี้พี่คงกลับไปพักบ้านแล้ว”
“อ๋อ วันนี้พี่นัดเพื่อนเก่าไปกินข้าวกันน่ะ..”
“นั่นแน่ะ! พี่ผู้หญิงคนนั้นอีกล่ะสิ เมื่อไหร่จะขอเขาเป็นแฟนสักทีล่ะคะ”
“ก็บอกไปหลายครั้งแล้วว่าเป็นเพื่อนกันเฉยๆ” ชายหนุ่มทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วทำท่าจะเดินไปปิดร้าน ช่วงที่ผ่านมาเธอคนนั้นมาหาเขาถึงร้านให้คนอื่นเห็นค่อนข้างบ่อย ด้วยความสนิทสนมเกินพอดีจึงทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้นเป็นธรรมดา
อยู่ๆก็มีเสียงของผู้หญิงแว่วขึ้นมาเบาๆเหมือนกระซิบ“รินเรากลับหอกันเถอะ”
ชายหนุ่มเจ้าของร้านถ่ายเอกสารชะเง้อกลับไปมองและพบกับเพื่อนของลูกค้าประจำของเขา เธอเป็นหญิงสาวที่เป็นตัวอย่างของคำว่าอ่อนแอและเปราะบางได้ดีทีเดียว ทั้งมือที่กุมเอาไว้ตรงต้นขา ทั้งสายตาที่หลุบต่ำอย่างคนขาดความมั่นใจ สตรีที่บอบบางคนนี้อาจไม่กล้าแม้แต่เสนอความเห็นของตัวเองด้วยซ้ำ
“จะรีบกลับไปเล่นccล่ะสิ ณดี” ลูกค้าสาวขาประจำของเขายิ้มให้เพื่อนอย่างรู้ทัน “งั้นหนูไปล่ะพี่อรุณ”
ชายหนุ่มเจ้าของร้านผู้มีชื่อจริงว่านายอรุณ ปล่อยให้คนทั้งสองจากไปโดยไม่พูดอะไร เขาใช้เวลาเก็บร้านเพียงไม่นานก็อาศัยไฟริมถนนเดินไปขึ้นรถประจำทางอย่างเงียบงัน ในหัวของเขามีภาพความทรงจำในวันเก่าๆผุดพรายขึ้นมาเต็มไปหมดหลังจากได้ยินลูกค้าสาวพูดถึง cc หรือ color clash (คัลเลอร์แคลช)
‘นั่นมันเรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อนนู่นแล้ว เลิกคิดถึงมันซะที’ อรุณบอกกับตัวเองแม้ในหัวจะมีจินตภาพของวันที่ตัวเองได้ไปแข่งในเวทีระดับโลกอยู่ก็ตาม ลืมไปซะ ลืมไปซะเขาท่องคำสามพยางค์นี้ไปเรื่อยๆพร้อมกับจังหวะการขยับขึ้นลงของรถเมล์ แม้เย็นวันศุกร์ในกรุงเทพมหานครจะมีรถติดแค่ไหนก็ตาม เจ้ารถขนส่งมวลชนที่ทั้งเก่าทั้งโทรมสายนี้ก็จะพยายามเร่งเครื่องปาดหน้ายานพาหนะทุกชนิดที่ขวางทางมันอยู่เสมอ
เกร็งแขนโหนรถอยู่นาน เขาก็หอบเอาสังขารมาถึงคอนโดหรูแห่งหนึ่งจนได้
“ขอทางหน่อยครับ ขอบคุณครับ” อรุณกล่าวขณะเบียดตัวผ่านมนุษย์เงินเดือนร่างอ้วนที่แทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เช่นกันในรถที่มีสภาพไม่ต่างจากปลากระป๋อง ชายหนุ่มนึกขอบคุณกลิ่นเหงื่อและกลิ่นเหม็นไหม้จากสายเบรกรถที่ทำให้เขาหวนนึกถึงเรื่องในอดีตไปได้ชั่วครู่
แต่แล้วป้ายโฆษณาของคัลเลอร์แคลชก็มาต้อนรับเขาที่ป้ายรถทันทีเหมือนจงใจจะกลั่นแกล้งชายหนุ่ม
‘โอ้ย! ไอ้เกมนี่ก็มันขยันโฆษณาซะจริง’ อรุณสบถในใจพร้อมกับคิดด้วยความโกรธว่าสักวันเขาจะเอาสีมาพ่นป้ายเหล่านี้ให้รู้แล้วรู้รอด อย่างไรก็ดี จุดที่นัดพบกับเพื่อนเก่าไว้ก็คือที่นี่ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องฆ่าเวลาโดยเปล่าประโยชน์ด้วยการยืนอ่านคำโฆษณาจากเกมเจ้าปัญหา อรุณจึงเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเข้าเล่นสื่อสังคมออนไลน์
แทบจะในทันทีที่เข้าสู่โลกโซเชียล อรุณก็ได้พบว่ามีเรื่องราวของ คัลเลอร์แคลช ปรากฏให้เห็นยั้วเยี้ยไปหมดยิ่งกว่าในโลกแห่งความเป็นจริงซะอีก หลายโพสข้อความสั้นๆทีไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่แต่ก็ได้รับความคิดเห็นตอบกลับมากมายเมื่อเกี่ยวข้องกับเกมยอดฮิตเกมนี้
‘บ้าจริง สังคมนี้มันบ้ากันไปหมดแล้ว บ้าชัดๆ’
อรุณปิดโทรศัพท์ยอมแพ้ ไม่มีทางไหนเลยที่เขาจะหลีกหนีจากสิ่งที่เรียกว่าคัลเลอร์แคลชได้เลยในปัจจุบัน อยากจะเปิดโทรทัศน์ดูข่าวก็ยังมีเรื่องของมัน ตอนทำงานก็ได้ยินแต่พวกนักศึกษาพูดเรื่องราวผจญภัยโลดโผนครั้งล่าสุดของตัวเองในการเล่มเกมเมื่อคืน
ในที่สุดชายหนุ่มก็พูดด้วยความอับจนออกมา “สงสัยต้องบวชเป็นพระธุดงค์หนีเข้าป่าจริงๆแล้วใช่ไหม”
“งั้นก่อนไป ก็ต้องเลี้ยงฉลองกันซะหน่อย”เสียงที่คุ้นเคยแทรกขึ้นมาอย่างไม่อายใคร ตอนนั้นเองที่อรุณเห็นเกดเดินหิ้วถุงที่อัดแน่นไปด้วยกระป๋องเบียร์ตรงมาทางเขาอย่างร่าเริง
อรุณได้โอกาสจึงลุกไปช่วยเพื่อนของเขาถือของ “ซื้อมาเยอะขนาดนี้ กะจะเมากันโต้รุ่งเลยเหรอไง”
“วันนี้วันศุกร์น่า อย่าทำหน้าซีเรียสสิ” หญิงสาวชื่อเกดตบไหล่เขาด้วยท่าทางเย้าแหย่ เธออาศัยจังหวะที่อรุณเผลอ ยัดเยียดถุงที่เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์มาให้ชายหนุ่มถือโดยไม่อาจต่อต้านได้
“เรื่องแบบนี้ไวจริงนะ” อรุณยิ้มด้วยค่อนไปทางแดกดัน “แล้วเราจะไปฉลองกันที่ไหนล่ะ ที่ห้องเธอเหรอ หรือว่าจะตรงป้ายนี่ดี”
“บ้าเหรอ! ก็ต้องเป็นห้องเกดอยู่แล้ว รู้สึกตื่นเต้นหรือหัวใจเต้นแรงขึ้นมาบ้างหรือเปล่าล่ะ ที่มีสาวสวยสุดฮอตชวนไปขึ้นห้องกับปากตัวเองแบบนี้” เกดยิ้มยั่วทีหนึ่งแล้วเดินนำอรุณตรงไปยังคอนโดมีเนียมหรูเบื้องหลังทันที
‘ชมตัวเองได้ไม่อายปากเลยนะยัยนี่’ อรุณนินทาเพื่อนตัวเองเล็กน้อยและก้าวเท้าตามเธอไป แม้จะมาเยือนสถานที่แห่งนี้หลายครั้งแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังตกตะลึงกับความอลังการของมันได้ทุกทีไป ห้องโถงใหญ่ที่มีเคาท์เตอร์บริการลูกค้านั้นทำจากวัสดุที่ดูละม้ายกับหินอ่อนสีขาว ทั้งเสาและผนังก็เป็นแบบเดียวกัน ทุกอย่างเหมือนเปล่งแสงสีทองอวดมูลค่าออกมาภายใต้โคมระย้าที่ทำจากแก้วและคริสตัลรูปทรงวิจิตร
และแน่นอน... แม้แต่ที่นี่ก็ยังมีป้ายโฆษณาของคัลเลอร์แคลชติดอยู่เด่นหรา
“ให้ช่วยยกของขึ้นไปให้ไหมครับ” พนักงานชายหน้าตาบ้านๆที่แต่งตัวเนี้ยบเหลือเชื่อตรงเข้ามาบริการเกดทันที
‘ที่นี่บริการดีเว้ย’ อรุณยิ้มกริ่ม ‘คิดจะแกล้งให้ฉันยกของคนเดียวเหรอเกด ไม่มีทางซะหรอก เธอเลือกพักผิดที่แล้ว!’ ชายหนุ่มไม่รอช้าทำท่าจะยื่นถุงพลาสติกใส่เครื่องดื่มกระป๋องให้พนักงานด้วยความเต็มใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันมีคนใช้คอยช่วยอยู่แล้ว”
‘ยัยตัวแสบ! ตั้งใจจะแกล้งฉันแต่แรกแล้วสินะ!!’
เกดมองหน้าอรุณที่อารมณ์เดือดปุดๆด้วยความสะใจก่อนจะเดินนำหน้าเขาไปยังลิฟท์หลักตรงมุมอาคารทันที ทั้งพนักงานต้อนรับและผู้มีอันจะกินคนอื่นซึ่งนั่งสนธนากันอยู่แถวนั้นอย่างประปรายล้วนชี้และมองทางพวกเขาเป็นสายตาเดียว
อรุณรู้ว่าคนทั้งหมดไม่ได้มองเขาแต่เป็นเกดต่างหาก ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกับนางแบบในป้ายโฆษณาของคัลเลอร์แคลช :ซึ่งติดอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองตอนนี้น่ะสิ
ตึ๊งงง เสียงนุ่มๆยามกดปุ่มเลือกชั้นเป็นเสียงเดียวที่ส่งออกมาจากลิฟท์แก้วที่พาคนทั้งสองพุ่งขึ้นไปยังชั้นบนสุดของคอนโด๚อย่างเงียบงัน ถึงวิวจากมุมสูงของอาคารสูงเสียดฟ้ามากมายในมหานครจะงดงามเพียงใด แต่อรุณก็ยอมรับว่าสิ่งเหล่านั้นสวยงามเทียบเท่าผู้หญิงข้างๆไม่ได้อยู่ดี
เกด หรือ เกศรา บ่อพลอย มีคุณสมบัติทุกอย่างที่ผู้หญิงทุกคนนึกอิจฉา รูปร่างโค้งเว้าเหมือนนาฬิกาทรายประกอบไปด้วยแขนขาเรียวสวยที่ไมผอมหรืออ้วนจนเกินไป ส่วนสูงที่ใกล้เคียงกับอรุณคือ หนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกเซ็นติเมตร ช่วยให้ชายหนุ่มมองเห็นใบหน้าของเธอได้ชัดเจนโดยไม่ต้องก้มหรือเงย เกดเป็นผู้หญิงทีมีคางเรียวแหลมและจมูกโด่งโดยธรรมชาติ เส้นผมที่โค้งหยักโศกของเธอก็ได้มาแต่กำเนิดเช่นกัน ว่ากันว่าเพราะผมที่ไม่ได้เรียบสลวยแบบคนทั่วไปนี่แหละจึงทำให้เธอโดดเด่นมากในวงการ
“จ้องหน้าแบบนี้แสดงว่าตกหลุมรักเกดเข้าแล้วล่ะสิ” หญิงสาวเพิ่งสังเกตว่าอรุณมองเธออยู่ “จุ๊ จุ๊ จุ๊ อย่าคิดว่าช่วยยกของให้แล้วจะยอมใจอ่อนให้นะคะ ระดับเกดน่ะมันต้องซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่สักช่อไม่ก็กระเป๋าหลุยส์ให้นู่น”
“งั้นก็เสียใจด้วยนะ เธอคงต้องรอให้ฉันเก็บเงินอีกสักสิบปีถึงจะเจียดตังค์ซื้อให้ได้” อรุณตอบกลับในเวลาเดียวกับที่ลิฟท์เปิดออก “ปกติเธอก็ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาเอาอยู่แล้วนี่ คงมีแต่ฉันนี่แหละทีไม่แน่อาจหน้ามืดตามัวหลงเธอเข้าสักวัน”
เกดชะงักไปโดยไม่อาจตอบโต้ได้ “ฮึ่ม!” หญิงสาวกัดฟันแล้วเดินกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่สมเป็นกุลสตรีเสียเลย ชั่วอึดใจนั้นเองเธอก็ควักคีย์การ์ดในกระเป๋าเสื้อขึ้นมารูดเปิดประตูห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่รีรอ
เบื้องหน้ากับเบื้องหลังน่ะมันต่างกัน อรุณนึกถึงคติประจำใจของตัวเองอีกครั้ง แม่เกศราคนนี้แม้เบื้องหน้าจะเป็นนางแบบและพรีเซ็นเตอร์ของเกมคัลเลอร์แคลชก็ตาม แต่เบื้องหลังที่น้อยคนจะรู้นั้นเธอคือหญิงสาวที่มีผู้ชายมาคอยรุมจีบและบอกเลิกมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ
ก็เพราะยายนี่เป็นผู้หญิงซกมกน่ะสิ!
“อื้อหือ กลิ่นนี่ไล่มาเลย” อรุณชิงยกมือขึ้นมาปิดจมูกโดยไม่สนน้ำหนักของกระป๋องเบียร์เมื่อเห็นสภาพที่อยู่อาศัยของอีกฝ่าย “ที่นี่เลี้ยงหนูไว้กี่ตัวเนี่ย”
“ไม่ได้เลี้ยงย่ะ!!” เกดขึ้นเสียงปฏิเสธเต็มที่ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยกระป๋องเบียร์ว่างเปล่าซึ่งวางอยู่เกลื่อนออกไปให้พ้นทาง สักพักก็ไม่ได้มีแค่กระป๋องเพียงอย่างเดียว ทั้งจานเก่าที่ยังไม่ได้ล้าง ทั้งขวดแก้วที่คุณเธอเรียงไว้นับสิบจนเหมือนเป็นคอลเลคชั่น(แน่นอนว่าเพราะไม่ได้เอาไปทิ้ง) และไปจนถึง...ชุดชั้นใน
“งั้นเหรอ ไม่ได้เลี้ยงไว้สินะ ก็เห็นรกเป็นรังหนูซะขนาดนี้” อรุณถากถางเพื่อนตัวเองต่อไปขณะหาที่ว่างให้ตัวเองนั่งได้ที่โซฟาใหญ่หน้าทีวี “ไว้เก็บทีหลังเหอะเกด ต่อให้ถึงพรุ่งนี้เช้าก็ไม่เสร็จหรอก อดฉลองกันพอดี”
กระป๋องเบียร์ถูกเปิดออกพร้อมๆกับหัวข้อสนทนา “ตกลงเธอโดนผู้ชายทิ้งอีกแล้วใช่ไหม”
“ก็เออดิ! เลยต้องชวนนายมาเป็นเพื่อนย้อมใจนี่ไง” เกดตอบพลางยกซดเบียร์ทั้งกระป๋องรวดเดียวหมด เอิ้ก! เธอเรอเสียงดังออกมาแล้วเขวี้ยงภาชนะอะลูมิเนียมไปยังมุมห้อง
“นี่เหรอนางแบบชื่อดัง” อรุณถอนหายใจแล้วจิบของมึนเมาไปพอกล้อมแกล้ม “เธอก็น่าจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้แล้วนะ หน้าตาก็สวย หุ่นก็ดี ถ้ามัวทำตัวซกมกแบบนี้ต่อไปเดี๋ยวก็ขึ้นคานกันพอดีหรอก”
“ก็รู้นี่ว่าสันดานน่ะมันเปลี่ยนยาก กำลังไปด้วยดีอยู่แล้วเชียว ทั้งๆที่เก็บห้องแล้วนะ แต่พอพาเขามาที่ห้องได้สามวันเขาก็บอกเลิกเกดเลยอ่ะ” เกดทำท่าเหมือนจะร้องให้ แล้วควานหารีโมตโทรทัศน์
“แต่ต่อให้ไม่มีผู้ชายมาคอยเลี้ยงก็ไม่เป็นไร เพราะฉันหาเลี้ยงตัวเองได้” สาวสวยแต่ซกมกว่าเสร็จก็เปิดทีวีดูรายการข่าวชื่อดัง อรุณกำกระป๋องแน่นเมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องของคัลเลอร์แคลชอีกแล้ว
เกดในโลกเกม สวมชุดโชว์สัดส่วนยืนถือไมค์อยู่เบื้องหน้าสภาพแวดล้อมเหนือจริง
“สวัสดีค่ะผู้ชมทุกท่าน นี่เกดเองค่ะ จากนี้จะเป็นรายการพิเศษในโอกาสที่เกมคัลเลอร์แคลชฉลองครบรอบหนึ่งปีที่เปิดให้บริการอีกครั้ง” นางแบบและพิธีกรสาวเอ่ยขึ้นในจอLCD ที่เพื่อนของอรุณบอกเขาไม่ได้เป็นการบอกเกินจริงแม้แต่น้อย เกดมีอาชีพที่มั่นคงแล้วในเกมนี้
“นี่อรุณ…” เกดตัวจริงทำท่าลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วถามออกไป “รู้หรือเปล่าว่าเงินในคัลเลอร์แคลชน่ะเอามาแลกเป็นเงินจริงได้นะ”
“รู้สิ” ชายหนุ่มตอบโดยไม่มองหน้า
“แล้ว รู้เหรอเปล่าว่าเงินรางวัลจากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งล่าสุดมันมากแค่ไหน”
“ฉันบอกหลายทีแล้วนะว่าจะไม่กลับไปเล่นเกมนี้แล้ว” อรุณขัดคอขึ้นอย่างรู้ทันและทำให้เกดซึมลงไปเล็กน้อย “เงินครั้งล่าสุดใช่ไหม สิบล้านไง สิบล้านบาท มากพอที่จะเอาไปเปิดกิจการร้านถ่ายเอกสารฉันเพิ่มอีกสักสิบแห่งเลย”
‘ลงทุนซื้อเครื่องราคาแค่สามหมื่นแล้วก็เอามาเล่นหาเงินเป็นรายได้เสริมได้เลย เพราะแบบนี้เลยมีคนเข้าไปเล่นทั่วบ้านทั่วเมืองไงล่ะ’
“ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วทำไมไม่ลองเล่นสักหน่อยล่ะ ฝีมืออรุณเองก็ไม่ใช่กระจอก” ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เกดขึ้นเสียงอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ถือสาอะไรเธอ เสียงใสๆของหญิงสาวจากการบันทึกเทปผ่านโลกแห่งเกมถูกส่งมาเรื่อยๆโดยไม่มีใครรับสาร
“เพราะว่า...”
“เพราะว่ากลัวจะต้องจากทุกคนอีกงั้นเหรอ”
เมื่อเกดชิงตอบให้ คนทั้งสองก็ตกลงไปในห้วงของความเงียบงัน อรุณหันไปมองกระป๋องเบียร์ว่างเปล่าจำนวนมากที่อยู่บนพื้นแล้วเตะพวกมันเบาๆ ใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าไม่อยากเล่นหรอก อยากสิ แต่ไม่อยากได้รับความรู้สึกแบบตอนนั้นอีกแล้ว เหมือนวันที่ได้เล่นเกมนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อตอนก่อนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหนึ่งวัน
“เอาล่ะค่ะพูดกันมามากแล้ว ไหนๆนี่เป็นรายการพิเศษดังนั้นเราก็จึงเตรียมสัมภาษณ์แขกคนพิเศษเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และนี่คือ แชมป์การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย มิสโกอิ้งค่ะ”
“มิสโกอิ้งเหรอ!?”
อรุณตื่นตัวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อของผู้เล่นที่ถูกประกาศออกมา ในพริบตานั้นเอง กล้องหมุนไปโฟกัสยังผู้หญิงผมสีทองคนหนึ่งซึ่งรายล้อมไปด้วยอัศวินในชุดเกราะสีแดง
ชายหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตา “ทำไมไม่บอกฉันว่า วาว ก็กลับมาเล่นเกมนี้ด้วย!” เขาวิ่งไปเขย่าตัวเกดที่กำลังงุนงงด้วยอารมณ์ผสมปนเป ไม่มีทางผิดแน่ คนที่ตั้งชื่อแบบนี้และเป็นผู้ชนะในการแข่งระดับประเทศได้มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น “ฉันติดต่อวาวไม่ได้มาเป็นปีแล้ว ทำไมไม่บอกล่ะว่าเธอก็เล่นเกมบ้าบอนี่ด้วยเหมือนกัน”
“ก็อรุณเอาแต่ปฏิเสธท่าเดียวนี่นา” เกดสะบัดตัวหลุดจากเขาก่อนจะสะดุดล้มเพราะกระป๋องบนพื้น “เป็นไงล่ะ ทีนี่รู้สึกอยากเล่นขึ้นมาบ้างหรือยัง”
เงยหน้ากลับมาได้ไม่ทันไร เพื่อนสาวก็ต้องอ้าปากค้างเมื่ออรุณทำท่าจะกลับเสียแล้วทั้งที่ยังเหลือเบียร์อีกตั้งมากมาย
“ไอ้เครื่องเล่นเกมนี่มันหาซื้อได้ที่ไหนบ้างวะเกด”ชายหนุ่มพูดขณะใส่รองเท้าอย่างเร่งรีบ แต่ดูเหมือนยิ่งรีบก็ยิ่งช้า เขาใช้เวลาอยู่ค่อนข้างนานจนสังเกตเห็นว่าเกดทำตาเป็นประกายออกมา
“ซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีได้ทุกร้านนั่นแหละ แต่ตอนนี้คงปิดหมด เวลากลางคืนน่ะเป็นช่วงที่มีคนเข้าเล่นมากที่สุดในรอบวันเลยนะ” เกดตอบด้วยน้ำเสียงรัวเร็วจากความตื่นเต้น
“พูดแบบนี้แสดงว่าสนใจอยากเล่นแล้วใช่ไหม?”
“ไม่อยากเล่นก็ต้องเล่นแล้วล่ะงานนี้ นี่เป็นทางเดียวแล้วที่จะทำให้ฉันติดต่อกับวาวได้”
“งั้นอรุณรอเกดเดี๋ยวเดียวนะ จริงๆ!” เกดรั้งเขาไว้แล้วรีบกุลีกุจอตรงเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองทันที เสียงโครมคราจากการที่เธอสะดุดล้มและทำกองขยะหล่นดังต่อเนื่องกันเป็นเวลานานพอสมควร ในจังหวะที่ความอดทนของอรุณหมดลงเพื่อสาวก็กลับออกมาพอดี
เธอยื่นถุงที่เครื่องเล่นเกมคัลเลอร์แคลชแบบมาตรฐานมาให้
“ให้ฉันเหรอ... ไอ้เครื่องนี่มันราคามันหลักหมื่นเลยนะ” อรุณพลิกดูของในถุงด้วยความประหลาดใจ “เกดเก็บไว้เองเหอะ ถึงรีบขนาดไหนแต่เดี๋ยวฉันซื้อเอาพรุ่งนี้ก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอก นี่เป็นของแบบราคาถูกสุดที่บริษัทให้ฉันมาใช้ทำงานน่ะ ตอนนี่เก็บเงินจนได้รุ่นใหม่ที่เป็นเตียงมาแล้วอันนี้ก็ไม่ต่างจากขยะรกบ้านหรอก อรุณบอกให้เกดเปลี่ยนสันดานตัวเองไม่ใช่เหรอ นี่ไง เอาขยะอกมาทิ้งแล้วเห็นไหม”
อรุณจนด้วยเหตุผลแล้วรับเครื่องเล่นราคาหลักหมื่นจากเกดหรือชื่อเก่าในเกมว่า น้องเกด มาไว้เป็นเจ้าของ เธอเป็นผู้เล่นสมัยบุกเบิกเหมือนกับอรุณ เป็นหนึ่งในคนสามคนที่ถูกกล่าวขานให้เป็นตำนานของเซิฟเวอร์ไทย นอกจากเพื่อนในเกมคนอื่นแล้ว จะมีก็แค่เกดนี่แหละที่ชายหนุ่มติดต่อคบหากันมาถึงปัจจุบัน
“ขอบคุณมากนะเกด ถือเป็นค่าแรงยกเบียร์แล้วกัน”
“รู้ไหมว่าเกดดีใจมากเลยนะ ในที่สุดตำนานของccไทยก็กลับมาแล้ว จ้าวพิภพ-อรุณ อดีตแชมป์ประเทศไทยสองสมัยซ้อนและรองแชมป์โลก”
‘ไอ้ฉายาบ้าบอนี่ไม่ได้มีคนเรียกมาเป็นชาติแล้วแฮะ’ อรุณคิดขณะโบกมือลาเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ และ แบกถุงอุปกรณ์เล่นเกมออกจากห้องไป “บายเกด แล้วเจอกัน”
“บาย” เกดยิ้มกว้างตอบกลับมา แล้วปิดประตูส่งเขา ตอนนั้นเองที่เสียงของเธอจากรายการโทรทัศน์ดังขึ้น
[ขอให้สนุกกับคัลเลอร์แคลชค่ะ~]
‘ถ้ามันสนุกได้เหมือนเดิมก็คงดีสิ’ อรุณตั้งความหวังเล็กๆในใจ เพราะคราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเล่นเพื่อความสนุกหรือหาเงิน ‘ในที่สุดฉันก็หาเธอเจอสักที วาว’
ความคิดเห็น