ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของกระบี่เย้ยภพ

    ลำดับตอนที่ #20 : sssssss

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 58


    อาวุธเวทมนต์เหรอคาเยนพิจารณาเข็มกลัดในมืออีกฝ่ายอยู่ห่างๆ และไม่นานเกินรอยูริกก็ชูมันขึ้นเหนือหัวปรากฏเป็นคันธนูสีขาวอันงดงาม คนดูผู้หญิงฝั่งเจ้าบ้านพากันเป่าปากชอบใจเป็นการใหญ่พร้อมหันไปคุยกันว่า มาแล้วๆ” “ พี่ยูริกโคตรเท่เลยอ่ะแก!” และอีกมากมายสารพัด

    เขาล่ะอยากตบหน้าหล่อๆของมันให้แม่ยกใจสลายดูสักตั้ง

                นี่มันมิคาเอล ของโรงเรียนนี้ชัดๆ”  เชนในคราบวานาบ่นลอยๆขณะยกมือปิดหูด้วยความรำคาญ

                เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าประธานนักเรียนอีสฟรอนเทียร์สูดหายใจแล้วนับถอยหลัง พวกแม่ยกก็ร่วมกันเปล่งเสียงด้วยเช่นกัน ห้า สี่ สาม สอง..

                ‘ แกล้งให้มันเสียหน้าหน่อยดีกว่าความคิดชั่ววูบแล่นเข้ามาในหัวคาเยน พร้อมกับที่เขาตะโกนเบรกออกไป

                เดี่ยวก่อน!!! แล้วกฎในรอบนี้ล่ะ?”

                โห่--- เสียงขัดใจดังอื้ออึงจากฝั่งอีสฟรอนเทียร์เมื่อถูกขัดอย่างไม่คาดคิด แต่คาเยนไม่สนใจ เขาแสยะยิ้มให้กับภาพของยูริกที่หุบธนูเข้าเข็มกลัดและประธานของอีสฟรอนเทียร์อึ้งไปช่วงสั้นๆ หัวหน้าฝ่ายเจ้าบ้านเอ่ยช้าๆด้วยน้ำเสียงเจือความโกรธ

                กฎอะไรนะครับ

                “ กฎในการแข่งรอบนี้ไงเล่าคาเยนผายมือไปทางอีกฝ่าย ไอ้คำว่า แบบนับแต้ม ที่ต่อท้ายข้อความ ต่อสู้ตัวต่อตัว นั่นหมายความว่ายังเหรอ

                ชั่วขณะนั้นพวกฟาเรนจิก้าก็พากันหันความสนใจไปที่กงล้อเสี่ยงโชคอีกครั้ง คนที่อยู่หน้าแล้วสายตาดีหน่อยล้วนพบเห็นอักษรเขียนว่าคำว่า แบบนับแต้ม ตัวเล็กจิ๋วต่อท้ายตำว่าต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวอยู่จริงๆ กลุ่มที่โวยเป็นพวกแรกๆคือชาวหอแห่งความกล้าตามที่คาเยนเดาไว้
    " ที่ฟาเรนจิก้าไม่ค่อยมีการจัดแข่งประเภทนี้สินะ งั้นเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังเอง" เป็นยูริกที่พูดขึ้นเองอย่างเหนือความคาดหมาย น้ำเสียงของเขาเป็นมิตรและดูจริงใจจนคาเยนต้องหันไปฟังอย่างตั้งใจ
    " แข่งต่อสู้แบบนับแต้มก็คือ แข่งกันว่าใครจะโจมตีคู่ต่อสู้โดยไม่ถูกสวนกัลบภายในหนึ่งวินาทีได้ก่อน โดยไม่สนว่าจะโจมตีโดนจุดไหน ถ้าทำได้หนึ่งครั้งก็นับเป็นหนึ่งแต้ม แต่ถ้าโจมตีสวนกันพอดีต่างฝ่ายก็จะต่างไม่ได้แต้ม"
    ชายใส่แว่นสะบัดหน้าไปถามประธานนักเรียนของเขาเบาๆ " ใครได้ห้าแต้มก่อน ก็จะชนะรอบนั้นไป ใช่ไหมครับประธาน"
    " ใช่.. ฝ่ายที่ชนะสองในสามรอบก่อนจะชนะการประลอง" ประธานนักเรียนแค่นเสียงตอบกลับเมื่อทุกสายตาจดจ้องมาที่ตน คาเยนสังเกตได้ว่ามือเขากำไมค์แน่นจนสั่น
    " เข้าใจแล้วสินะ" ยูริกเผยรอยยิ้มน้อยๆ แล้วเขาก็ก้มหัวลงให้คาเยน
    ' อะไรของมันวะ!' คาเยนอดตกใจกับการกระทำของชายสวมแว่นไม่ได้ ชั่วขณะนั้นอีกฝ่ายก็เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า " ขอโทษแทนพวกผมด้วยที่รอบที่แล้วไม่ได้อธืบายกฏการแข่งขันแให้ละเอียด ผลเลยออกไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รอบนี้เรามาแข่งกันอย่างยุติธรรมดีกว่านะครับ"
    " อะ อืม.. ได้สิ แต่อย่าคิดว่าฉันจะออกมือให้นะ" คาเยนเออออกลับไปพลางห้าวถอยจากตัวยูริกที่เรียกคันศรสีขาวออกมาอีกครั้ง เสียงชื่นชมในชายตัวชายใส่แว่นดังไปทั่วทั้งสนาม
    " ทางนู้นก็นิสัยดีเหมือนกันนี่นา แบบนี้ก็กลายเป็นว่าเราเป็นฝ่ายโกงเขาซะเองแล้วสิ" เชนในร่างปลอมเดินมาพูดกับเขาพร้อมแตะดาบที่เหน็บข้างเอวชายหนุ่ม
    " ได้ดาบมาแล้วฉันก็จะใช้ให้เต็มที่   
      

                   

    สู้กันแบบนับแต้ม ถ้าโจมตีอีกฝ่ายได้โดยไม่ถูกโจมตีสวนกลับภายในสามวินาทีจะได้หนึ่งได้ ครบห้าแต้มก่อนชนะ คาเยนประคองตัวเองด้วยดาบหิมะได้ไว้ด้วยการโจมตีสวนกลับตอนวินาทีสุดท้าย จนหมดเวลาผลจงออกมาเสมอกัน

     

    หลังจากที่ดอนยอมเชื่อเรื่องที่เขาบอกทั้งสองก็พูดคุยกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การเดินทางอย่างต่อเนื่องแม้จะทำให้อรุณได้เห็นภูมิทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่ไม่น้อย จวบจนถึงเย็นเขาข้ามภูเขาที่ปกคลุมมีต้นสนสไตล์ยุโรปไปแล้วถึงสามลูกแต่ก็ยังไม่พ้นโซนสีเขียวที่มีลักษณะเป็นผืนป่าขนาดใหญ่นี้สักที คราวก่อนเขาเดินตามไอริสกับซันข้ามป่าซิลิวานซึ่งเป็นโซนสองสีที่อยู่ห่างไกล ยังไม่ใช้เวลานานเท่านี้เลย

                 ด้วยความสงสัยอรุณจึงเปิดแผนที่ขึ้นมาดู ปรากฏว่าตอนนี้เขาเลยโซนป่าซิลิวานมาเรียบร้อยแล้ว

                เห้ย มาได้ไกลขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มเริ่มรู้สึกสับสน โซนสีเดียวมันไม่น่าจะใหญ่ขนาดนี้นี่

                ‘ตามปกติแล้วโซนในเกมนี้มันจะเรียงจากง่ายไปหายากเหมือนวงแหวน เริ่มจากเมืองหลวงตรงกลางที่มีสีทุกสีกระจายกันอยู่เป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ผู้เล่นใหม่ฝึกซ้อม วงถัดมาก็จะเป็นโซนสีเดียวทั้งห้าสี จากนั้นก็สองสีหลายๆชั้นแทรกด้วยโซนสีเดียวระดับสูง แล้วปิดท้ายด้วยโซนสามสีที่ชั้นนอกสุด

                ‘อยู่ชิดกับเมืองหลวงแบบนี้ไม่น่าจะใช่โซนสีเดียวระดับสูงนี่นา

                ด้วยความอยากรู้ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง อรุณจึงเตรียมจะเอ่ยถามดอนซึ่งมีประสบการณ์ในคัลเลอร์แคลชยุดใหม่มากกว่า ไม่น่าเชื่อว่าสิงฆ์นักบิดเหมือนมีญาณหยั่งรู้ ถึงกับหยุดรถอย่างช้าๆแล้วหันกลับมามองเขา

                ไกล้มืดแล้ว คืนนี้เราพักกันที่แหละคำพูดของดอนยืนยันว่ามันไม่ไช่

                      

                  โชคดีที่ถึงในเกมนี้จะค่อนข้างสมจริง แต่อรุณก็ไม่จำเป็นต้องขับถ่ายหรืออาบน้ำ สิ่งที่เขาและนอนต้องการมีเพียงแค่อาหารกับที่ซุกหัวนอนเท่านั้น แต่จะให้มากินอาหารเม็ดที่เหมือนยาไม่มีผิดแล้วก็นอนรับลมหนาวกลางป่าโล่งๆแบบนี้มันก็ไร้คุณภาพชีวิตไปหน่อย ดอนจึงเอ่ยปากชวนให้เขาตั้งแคมป์ไฟ

                  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×