คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ep4 - สีและรูน
“สีคือแกนหลักของคัลเลอร์แคลช!” คุณป้าที่แต่งตัวเหมือนนักบวชเอ่ยขึ้นพร้อมชูสองมือขั้นไปบนอากาศ “หากเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับความแตกต่างของสีอย่างถ่องแท้แล้ว การใช้ชีวิตในดินแดนแห่งนี้ก็จะราบรื่นขึ้นเป็นเท่าตัวทีเดียว”
หาว~
ณดีปิดปากหาวด้วยอาการง่วงรุมเร้า ตั้งแต่เข้ามารับการฝึกในวิหารเธอก็ฟังคำพูดเกริ่นนำทำนองนี้ไปมาอยู่สิบกว่านาทีได้แล้ว ในชีวิตจริงนั้น ณดีมักจะฟังการบรรยายจากอาจารย์และวิทยากรอย่างตั้งใจเสมอ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่หญิงของระบบพร่ำบ่นสิ่งที่ดูไม่มีสาระซ้ำไปซ้ำมา แม้แต่นักเรียนดีเด่นอย่างเธอก็ขอบาย
แน่นอนว่าผู้เล่นใหม่อีกครึ่งหนึ่ง ก็ไปเฝ้าพระอินทร์ก่อนหน้าเธอหมดแล้ว
ณดีเหลือบไปมองเพื่อนและพบว่าเธอกลับกำลังนั่งฟังอย่างตั้งใจ ‘ตอนเรียนเห็นแต่หลับเอาๆ ทำไมตอนนี้รินถึงทำหน้าจริงจังนักนะ’
“นี่ริน ทำไมดูจริงจังนักล่ะ นี่แค่เกมเอง แถม…” ณดีลดเสียงจนเบายิ่งกว่าตอนกระซิบ “ป้าเขาก็พูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่ไม่รู้ ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ชู่ว เหมือนจะไม่มีสาระแต่มันจำเป็นมากจริงๆนะ ก่อนหน้านี้ฉันเข้ามาฟังซ้ำตั้งสองรอบแล้ว”
“สองรอบ!” ณดีหลุดอุทานจนคนอื่นหันมามอง แต่คุณป้านักบวชก็ยังพร่ำบ่นของแกต่อไปเรื่อยๆ เมื่อตกเป็นเป้าสายตาความมั่นใจของหญิงสาวก็หดหายจนเธอไม่กล้าใช้เสียงอีก
“อืม ได้ยินถูกแล้ว คอนเซปต์เรื่องสีในเกมนี้มันค่อนข้างซับซ้อนน่ะณดีเพิ่งเข้ามาใหม่คงไม่รู้หรอกว่าโลกที่อยู่ภายนอกค่าย ทุกอย่างถูกแบ่งแยกด้วยสีฟังแค่รอบเดียวคงแยกแยะไม่ถูกแน่”
รินย้ำเสียงเรียบต่ออีกว่า “แกก็พูดตามบทเหมือนเดิมทุกรอบนั่นแหละ จากนี้จะเริ่มบรรยายเรื่องสีแล้ว ตั้งใจฟังดีๆด้วยนะ”
เพื่อนตัวเล็กของเธอไม่กล่าวอะไรไปมากกว่านั้นแล้วหันไปฟังคุณป้านักบวชพูดต่อไป น้อยครั้งนักที่ณดีจะเห็นรินจดจ่อกับอะไรได้นานๆเช่นนี้ แต่ทุกครั้งที่ทำ แสดงว่ารินกำลังจริงจังอยู่ เป็นเรื่องที่แม้แต่คนอย่างรินยังต้องตั้งใจฟังงั้นเหรอ? แค่นึกก็แปลกแล้ว
“ในฐานนี้ จะสอนเรื่องเกี่ยวกับสีและระดับของสี” อยู่ดีๆคุณป้าก็วกเข้าเรื่องกะทันหัน “ทุกคนเปิดระดับสีขึ้นมาดู!”
รินชิงเปิดขึ้นมาด้วยความชำนาญกว่าใครอื่น ผู้เล่นที่เหลือต้องทบทวนความจำอยู่นานจึงดึงมันหลอดสีรุ้งออกมาจากหน้าข้อมูลตัวละครได้
แต่หลอดของรินเต็มไปด้วยสีแดง
“ระดับสีจะเพิ่มจากการกระทำและการตัดสินใจเล็กๆน้อยของผู้เล่น ยกตัวอย่างให้ง่ายที่สุดคือจะทำยังไงเพื่อกำจัดศัตรูที่อยู่ตรงหน้า ผู้เล่นอย่างพวกคุณแต่ละคนล้วนมีแนวคิดและวิธีการต่างกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดียวกัน ผลของการกระทำที่แตกต่างกันนั้นแหละจะมาเพิ่มเป็นค่าประสบการณ์ของสี!”
ทันใดนั้นนักบวชหญิงก็ชูมือขึ้นอีกครั้ง บานกระจกหลากสีขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนผนังต่างพากันฉายแสงออกมาราวกับปาฏิหาริย์ เพียงแค่อึดใจเดียวสิ่งที่เป็นเหมือนละอองแสงจำนวนมากก็ลอยฟุ้งไปทั่วห้องโถง
‘ให้ดูแต่แรกเลยไม่ได้เหรอไงนะ’ ณดีคิดท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่าผู้เล่นใหม่ พริบตานั้นละอองแสงน้อยๆต่างพากันเรืองแสงสีแดงแล้วรวมกันเป็นมังกรบินพ่นไฟข้ามหัวทุกคนไป พวกเขาต่างกระโดดหลบกันไปคนละทิศละทาง
“สีแดงคือสีแห่งความรุนแรง ความต้องการ และการกระทำ” นักบวชหญิงตะเบ็งเสียงพร้อมกับท่วงทำนองดนตรีที่ดังขึ้นในหัวของณดี
“หากเปรียบพวกที่เลือกกำจัดศัตรูตรงหน้าด้วยการพุ่งเข้าใส่ตรงๆเป็นสีแดงคงไม่ผิดนัก บุกกระหน่ำจนอีกฝ่ายไม่อาจตั้งตัว ฉีกกระชากผืนฟ้าด้วยอัสนีบาต เผาผลาญเกรี้ยวกราดดุจไฟคลั่ง”
ชั่วขณะที่หัวใจณดีเริ่มเต้นรัวตามจังหวะอันรุนแรงของเพลง มังกรไฟก็บินวนกลับมาที่เดิมแล้วแตกตัวเป็นคลื่นสีฟ้าที่ลักษณะเหมือนโดมหล่นครอบลงมาท่วงทำนองในหัวของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปเป็นนุ่มลึกรับกับบรรยากาศ
“สีฟ้าคือสีแห่งความคิด ความสงบ และการควบคุม”ป้านักบวชเอยแล้วหลับตาลง ละอองแสงสีฟ้าในรูปของสัตว์น้ำมากมายโผล่ออกมาแหวกว่ายอยู่ภายในโดมแสงต้นกำเนิดของมัน “ผู้เลือกหนทางแห่งน้ำเงินครามจะค่อยๆหลอกล่อศัตรูเข้ามาในกับดัก ปิดกั้นความสามารถของอีกฝ่าย บิดเบือนทุกสิ่งเข้าสู่ดินแดนแห่งมายา….”
“แล้วก็กลืนกิน!!”
ว้าย! ณดีร้องด้วยความตกใจไม่ต่างจากผู้เล่นหญิงคนอื่นเมื่ออยู่ดีๆ สิ่งที่เหมือนปลาขนาดยักษ์ก็พุ่งขึ้นมาเขมือบละอองแสงรูปสัตว์น้ำทั้งหมดหายไปในพริบตา ชั่วขณะตอนมันทะยานขึ้นไปสู่หลังคาดนตรีที่ดำเนินอย่างเนิบนาบมาตลอดก็กลายเป็นทำนองผสานที่ฟังแล้วรื่นเริง
ละออกแสงแตกกระจายเป็นนักรบถือหอกจำนวนหนึ่งแล้วนักบวชหญิงก็เริ่มสาธยายเกี่ยวกับลักษณะการทำงานเป็นทีมของสีเหลือง ทั้งน้ำเสียงของคนเล่า ทั้งเสียงประกอบการเคลื่อนไหวของละอองแสง ณดีจึงเกิดอารมณ์ร่วมและรับฟังด้วยความเพลิดเพลิน ไม่ช้าสีเขียวและขาวก็ผ่านไป
“สีสุดท้ายคือสีดำ” ดนตรีทั้งหมดหยุดลงกะทันหัน กลับกันเสียงของป้านักบวชได้กังวานไปในหัวของทุกคนเหมือนว่าเธอพูดอยู่ข้างหูพวกเขา “สีแห่งพลังอำนาจ ความลี้ลับ ความเห็นแก่ตน ความโศกเศร้า สีของเงามืดภายในจิตใจของมนุษย์ทุกคน!”
ณดีสังเกตได้ว่าละอองแสงทั้งหมดต่างบินเข้าหากันและกันเพื่อกลืนกินอีกดวง ดวงใหญ่เขมือบดวงเล็กเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ดวงเล็กบางดวงก็รวมหัวกันทำลายดวงใหญ่ได้ ก่อนที่จะมาแก่งแย่งกันเองในตอนสุดท้าย
“ผู้เลือกหนทางอันดำมืดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ สังเวยเพื่อนพ้องเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น สละเลือดเนื้อของตัวเองเพื่อลากอีกฝ่ายไปสู่นรก!”
ในที่สุดละอองแสงที่ต่อสู้กันจนอ่อนล้าทุกดวงก็แตกสลายจนหมดทิ้งทุกคนเอาไว้ไว้เพียงความมืดสลัวของวิหาร ไม่กี่อึดใจแสงจากภายนอกจึงส่องเข้ามาในตัวอาคารอีกครั้งพร้อมกับที่นักบวชหญิงลดมือลงมากุมไว้อย่างสำรวม
ท่ามกลางความตื่นตะลึงเธอก็พูดขึ้น “แล้วสีของพวกคุณล่ะ เป็นสีอะไร”
‘ไม่ใช่สีดำแน่’ ณดีตอบกลับไปในใจขณะที่ผู้เล่นทุกคนพากันตบมือเกรียวกราวอย่างชอบใจโดยมีรินเป็นผู้ที่ส่งเสียงดังที่สุด
‘ทำร้ายคนอื่นเพื่อให้เก่งแบบนั้นฉันไม่เห็นจะชอบเลย’
“จากนี้ขอให้ผู้เล่นใหม่ทุกคน ไปเรียนรู้การใช้รูนและรายละเอียดของสีต่างๆในปีกวิหารทั้งหกด้าน เมื่อครบแล้วจงมารับรางวัลกับข้าแล้วเดินทางไปฝึกยังฐานต่อไป”
“นี่ณดี คอยดูนะ จะทำอะไรเจ๋งๆให้ดู” รินลากมือณดีเข้าไปยังอาคารของสีแดงทันทีเมื่อการบรรยายจบลง ใจจริงของหญิงสาวอยากจะไปดูตรงสีฟ้าไม่ก็ขาวแบบผู้เล่นหญิงส่วนใหญ่มากกว่า แต่ด้วยเรี่ยวแรงและพลังงานอันล้นเหลือของรินมีหรือที่เธอจะขัดขืนเพื่อนคนนี้ได้
“อ้าว ยังไม่ออกจากค่ายอีกเหรอครับ” เจ้าหน้าที่ของระบบที่เป็นชายผิวแทนทักทายรินทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็ก “คนนี้หรือเปล่า เพื่อนที่พูดถึงอยู่บ่อยๆน่ะ”
‘รินเอาเราไปล้ออีกแล้วเหรอ’ณดีหัวใจตกวูบ
“ใช่ค่ะ พี่ไปสอนคนอื่นเถอะ เอารูนมาแล้วเดี๋ยวทางนี้หนูจัดการเอง” รินพยักหน้าแข็งขันก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะเอาถุงใส่ก้อนกรวดบางอย่างมายื่นให้ดูเหมือนเขาและรินจะคุยกันมาพอสมควรจนเริ่มรู้จักมักคุ้น ไม่อย่างนั้นจะมีหรือที่เจ้าหน้าที่ของระบบจะยกให้ผู้เล่นเป็นฝ่ายสอนกันเองแบบนี้
“เอ้านี่คนสวย รูน” รินยัดก้อนกรวดนั้นเข้าไปในมือณดี “รูนคือหินอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอใช้พลังเท่ๆได้ สำหรับอันนี้เป็นสีแดง เหมือนสีของฉันเลย”
ณดีไม่ข้องใจในเรื่องดังเกล่าสักนิด เพื่อนสาวคนนี้ของเธอทั้งห้าวทั้งลุย เดินหน้าเข้าชนกับปัญหาอย่างกล้าหาญ ถ้าระบบอะไรสักอย่างของเกมจะบอกให้เธอเป็นสีแดงก็ถูกต้องแล้ว
“อ่า จ๊ะ สีแดงเหมาะกับรินจริงๆนั่นแหละ” ณดีลูบคลำส่งที่เรียกว่ารูนไปมา ลองดูดีๆมันมีสัญลักษณ์รูปสายฟ้าสีแดงสลักเอาไว้ด้วย เธอลองลูบมันไปมาอย่างไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำเรื่องเท่ๆแบบที่รินบอกได้จริงหรือเปล่า
“รินนี่เข้ากับคนง่ายดีจังนะ ขนาดแค่วันเดียวก็รู้จักกับเจ้าหน้าที่คนนั้นแล้ว...”
เปรี้ยง!
อยู่ก็มีเสียงเหมือนฟ้าผ่าแต่เบากว่าดังลั่นขึ้นไม่ไกลจากณดี หญิงสาวสะดุ้งจนเผลอทำก้อนรูนหล่นทีเดียว ที่แท้ไม่ใช่อไรที่ไหนนอกจากเจ้าหน้าที่ชายคนเมื่อกี้ยิงสายฟ้าออกมาใส่เป้าที่เป็นหุ่นไม้จนกระเด็นไปชนผนัง
“มะ..เมื่อกี้มันอะไรน่ะริน”
“พี่เขาใช้ยิงสายฟ้าออกมาจากรูนไง เท่ดีออกใช่ไหมล่ะ” รินยิ้มแล้วเก็บรูนที่ณดีทำหล่นเมื่อครู่ขึ้นมาใช้บ้าง คนขี้กังวลยังไม่ทันเห็นว่าเพื่อนของเธอทำอะไรก็มีสายฟ้าพุ่งออกมาใส่หุ่นไม้อีกตัว
ตอนนั้นเองที่ผู้เล่นหญิงคนอื่นกรีดร้องแล้วพากันเดินออกจากซุ้มของสีแดงจนหมด
“อะไรเนี่ย เสียงดังแค่นี้ก็ไปกันหมดแล้วเหรอ” รินนินทาผู้เล่นหญิงเหล่านั้น ก่อนจะหันมายิงสายฟ้าจากรูนใส่หุ่นไม้อย่างดุเดือด ไปๆมาๆเหมือนเหตุผลที่เธอลากตัวณดีมาตรงนี้อาจจะแค่อยากปล่อยสายฟ้าจากมือก็เป็นได้
‘รินห้าวเกินไปต่างหาก อันตรายแบบนี้ใครจะอยากเล่น’
เพื่อนสาวที่ห้าวเกินใครสังเกตเห็นว่าณดีเอาแต่ยืนอยู่เฉยๆจึงยื่นรูนที่เหลืออยู่แค่ก้อนเดียวมาให้เธอ ”เป็นอะไรไปน่ะ ไม่ลองดูสักทีเหรอ”
‘ไม่อยากทำเลย’ณดีปฏิเสธในใจแต่ก็ยื่นมือรับของอันตรายนั้นมาถือในมือ “คือ..เรารีบไปที่ฐานอื่นกันเถอะริน! ยังมีอีกตั้งหลายสี แถมหมดฐานนี้แล้วยังมีฐานอื่นอีกไม่ใช่เหรอ ฉันอยากจะผ่านทั้งหมดก่อนถึงเช้าน่ะ”
แน่นนอนว่านั่นเป็นข้ออ้างเพื่อจะได้ออกจากปีกอาคารส่วนนี้เร็วๆ เธอไม่ได้ต้องการไปฝึกวิธีการเล่นอย่างอื่นแม้แต่น้อย
“อ้าว รีบก็ไม่บอก” รินคล้อยตามอย่างง่ายดายแล้วคว้ารูนในมือณดีมายิงปิดฉาก คราวนี้มันพลาดเป้าและระเบิดผนังเป็นรอยไหม้ขนาดใหญ่ “ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าณดีคงไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอก อย่างแกคงต้องพวกสีฟ้าไม่ก็ขาวอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง น่าเสียดายจัง ไม่งั้นเธออาจเป็นถึงผู้เล่นหญิงคนที่สองต่อจากฉันที่เลือกสีแดงในรอบเดือนก็ได้นะ”
ณดียิ้มแหยกลบเกลื่อน ‘แสดงว่ารินเป็นผู้หญิงคนแรกที่เลือกสีแดงอะดิ’ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชายทั่วนั้นที่แวะเวียนเข้ามาในส่วนสีแดงไม่ขาดสาย
“ยิ้มอะไรของเธอ” รินเบ้ปากสงสัย
“เปล่าจ๊ะ เปล่าจ๊ะ ไปดูสีอื่นกันเถอะ”
สิ้นคำนั้นผู้เล่นชายทั้งหมดก็พากันหันมามองผู้เล่นหญิงสองคนสุดท้ายในซุ้มนี้เดินจากไป โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ซึ่งแสดอาการเสียดายออกมาอย่างไม่ปกปิดทีเดียว สีแดงคือสีของความรุนแรงและความต้องการ รูนสีแดงที่ช่วยให้ยิงสายฟ้าใส่หน้าคนที่ไม่ชอบได้ในทันทีจึงเป็นที่ถูกใจพวกผู้ชายยิ่งนัก จะมีก็แค่ผู้หญิงลุยๆแบบรินนี่แหละที่คงติดอกติดใจของแบบนี้หนักหนา
“อันที่จริงณดีก็ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นะ เพราะเวลาในเกมน่ะมันเร็วกว่าเวลาจริง” เพื่อนสาวเอ่ยขึ้นขณะเดินแหวกคนนำทางณดีเข้าไปยังซุ้มฝึกรูนของสีฟ้า “เธออยู่ในเกมได้เป็นวันๆเลยล่ะทั้งที่นอนหลับแค่คืนเดียว”
“เอ๋ หมายความว่ายังไงเหรอ เร็วกว่าเวลาจริง”
“แกตามฉันเข้ามาเล่นโดยไม่ได้อ่านข้อมูลอะไรมาก่อนหน้าเลยล่ะสิ” รินดูผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะเรียกกรอบข้อความซึ่งมีตัวเลขแสดงเวลาในระบบดิจิตอล เมื่อณดีเห็นว่ามันบอกเวลาในโลกจริงก็ต้องตกตะลึง
ในโลกจริงเพิ่งผ่านมาสิบนาทีกว่าๆเท่านั้น
“จะบอกอะไรให้ เวลาในเกมคัลเลอร์แคลชเร็วกว่าโลกจริงราวสามเท่ากว่าๆ สรุปก็คือเวลาในโลกจริงหนึ่งวันจะเท่ากับเวลาในคัลเลอร์แคลชประมาณสี่วันไงล่ะ”
“สะ สี่วัน...” ณดีย้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ถ้าเป็นเรื่องจริงแสดงว่าเธอต้องติดอยู่ในโลกคลื่นสมองที่ไม่รู้จักใบนี้อีกนานจนกว่าจะเช้า นี่เป็นฝันร้ายรูปแบบใหม่งั้นเหรอ?
“เอ้า เป็นอะไรล่ะแก หน้าซีดเชียว ถึงคิวของพวกเราแล้วนะ”
ณดีที่หมดอาลัยตายอยากเข้าฐานทุกสีจนครบโดยแทบจะไม่ได้แตะรูนสักก้อนด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ ระดับการใช้รูนของเธอจึงเพิ่มมาแค่หนึ่งระดับจากการลองใช้รูนสีฟ้ามองทะลุสิ่งกีดขวางและการใช้รูนสีขาวรักษาอาการตาบอดแบบชั่วคราวของตัวเอง เมื่อกลับมายังโถงกลางคุณป้านักบวชจึงให้รางวัลกับเธอเป็นการเพิ่มระดับนักผจญภัยสามระดับ
พ่วงด้วยรูนทุกสีอีกอย่างละสิบก้อน!
‘ฮือ สุดท้ายก็ต้องเก็บหินอันตรายพวกนี้ไว้กับตัวเหรอ'
ณดีครวญครางในใจก่อนจะหันไปมองซุ้มสีดำที่เธอเลือกเข้าไปเป็นฐานสุดท้ายอย่างขยาด รูนสีดำอันตรายยิ่งกว่าสีแดงเสียอีก ในข้อมูลของมันระบุว่าสามารถสละพลังชีวิตครึ่งหนึ่งเพื่อย้ายตำแหน่งของผู้ใช้ในพริบตา
“ขอเชิญผู้เล่นใหม่ทุกคนไปยังฐานต่อไปค่ะ เดินอ้อมไปยังสนามด้านหลังวิหารได้เลย”
บรรดาผู้เล่นคนอื่นต่างพร้อมใจกันเดินออกจากตัววิหารไปด้วยท่าทางกระปี้กระเป่า ไม่ต่างจากคนที่เพิ่งดูหนังหรือเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกจบ แต่ถ้าจะหาบุคคลขึ้นมาสักคนที่มีอาการแปลกกว่าเพื่อนคงต้องเป็นณดีอย่างแน่นอน
‘บางทีฉันคงไม่เหมาะกับเกมนี้’ หญิงสาวรู้สึกห่อเหี่ยว ‘นี่ขนาดฝึกฉันยังไปไม่ค่อยรอดเลย แล้วไปเจอของจริงจะเอาตัวรอดได้สักกี้น้ำกันเชียวเฮ้อ’
ปึก!
เหมือนกับตอนเดินเข้าไม่มีผิด ด้วยอาการเหม่อลอยของเธอจึงทำให้หญิงสาวเดินไปชนกับคนที่สวนมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เมื่อณดีทำท่าจะเอ่ยคำขอโทษอีกฝ่ายซึ่งเป็นผู้ชายไว้ผมยาวแทนที่จะโกรธหรือหัวเสีย เขากลับมีอาการตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาเบิกโพลงกวาดไปบนพื้นดินเหมือนหาอะไรสักอย่าง
“ขอโทษทีนะ เพื่อนฉันก็ซุ่มซ่ามแบบนี้แหละ” รินเอ่ยขึ้นแล้วเดินหนุนหลังขึ้นมาช่วยแก้ต่างให้ณดี “ไอเทมอะไรของนายหล่นหายไปเหรอ”
“ไม่มีอะไร!” ชายไว้ผมยาวตัดบทก่อนจะรีบเดินหนีสองสาวไปในทันที ในพริบตาตัวเขาก็ถูกกลืนหายไปในฝูงชนท่าทางแปลกๆของเขาทำให้ณดีเกิดอาการสงสัยขึ้นมา
‘ต้องมีอะไรแน่เลย เพราะความซุ่มซ่ามของฉันแท้ๆ’ ณดีทอดถอนใจแล้วเดินตามหลังรินต้อยๆไปยังฐานฝึกที่สาม แต่เคลื่อนที่ไปได้ไม่กี่ก้าวหญิงสาวก็ไปสะดุดกับก้อนรวดก้อนหนึ่งเข้าตรงจุดที่ห่างจากตำแหน่งของชายผมยาวเมื่อครู่นิดเดียวเท่านั้น
“นี่มัน…!”
รินหันกลับมามองเพื่อนด้วยสายตาเหมือนจะสื่อว่า ‘อะไรของเธออีกล่ะ’แต่เมื่อเพื่อนสาวผู้ใจกล้าเห็นก้อนกรวดก้อนเดียวกับที่ณดีหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นแววตาของเธอก็ลุกวาว
“สุดยอด! ตาดีไม่เบาเลยนี่แก ของสามดาวแบบนี้ราคาเริ่มต้นปาเข้าไปก็หลักพันแล้ว อันนี้ขอฉันเถอะนะ นะ”
“อยากได้ก็เอาไปเลย”
ณดีส่งต่อก้อนกรวดนั้นไปให้เพื่อนด้วยความยินดี แม้ภายนอกมันจะเหมือนเศษหินที่หล่นอยู่ตามทางธรรมดา แต่รอยอักขระสีดำที่สลักอย่างวิจิตรอยู่บนนั้นบอกว่ามันคือวัตถุอันตรายที่เรียกว่า รูน ซึ่งเธอเข็ดขยาดหนักหนา
นอกจากนั้นมันยังเป็นรูนจากสีที่เธอไม่ชอบมากที่สุดด้วย
ชื่อ: Mist walker’s Rune *** สี: ดำ ข้อจำกัด: ผู้เล่นสีดำ |
รูนของผู้ย่ำก้าวในสายหมอก
สามารถสละพลังชีวิตของผู้ใช้ครึ่งหนึ่งเพื่อสร้างหมอกดำออกมาปกคลุมพื้นที่เป้าหมาย
เมื่ออยู่ในหมอกนี้ผู้ใช้จะสร้างความเสียหายจากการโจมตีใส่จุดตายได้แรงขึ้นสามเท่า
และ ถูกลดพลังป้องกันเวทมนต์เหลือศูนย์ |
“ดูยังไงนี่มันก็ไอเทมสำหรับการลอบสังหารชัดๆ “ รินกล่าวสรุปหลังเรียกข้อมูลของมันออกมาดู “ฉันเดาว่าตาคนเมื่อกี้คงทำหล่นเอาไว้ชัวร์ ไม่งั้นมีเหรอจะตกใจเป็นไก่ตาแตก แกล่ะคิดว่าไง?”
“ก็คงอย่างนั้นแหละจ๊ะ” ณดีพยักหน้ารับเพื่อน เธอยกมือขึ้นมาทาบอกอย่างกังวลใจ “ทางที่ดีเราเอาไปคืนเขาดีกว่าไหม ราคาแพงน่าดูไม่ใช่เหรอ”
“บู่~ จะทำตัวเป็นแม่พระไปไหนเนี่ยณดี” รินแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยแล้วทำให้รูนในมือหายไปในอากาศธาตุด้วยวิธีการใดสักอย่าง ในตอนที่ณดีคิดว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติเพื่อนสาวของเธอก็ผุดยิ้มเล็กๆขึ้นมา
‘ตายละ รินวางแผนจะทำอะไรอีกน่ะ’
“คิดไปคิดมา ไอเทมสำหรับลอบสังหารแบบนี้ นอกจากคนเล่นอาชีพนักฆ่าก็คงไม่ลงทุนซื้อมาให้กระเป๋าฉีกหรอก ถ้าผู้ชายเมื่อกี้ทำหล่นไว้จริงแสดงว่าเดี๋ยวต้องมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นแน่”
เรื่องสนุกๆของรินมักตรงข้ามกับความชอบของณดีเสมอ ด้วยสังกรณ์ใจไม่ดีหญิงสาวจึงถามเพื่อนสาวกลับไปว่า “เรื่องสนุกอะไรจะเกิดขึ้นเหรอถ้าเขาคนนั้นเป็นนักฆ่า”
รินยืดอกตอบอย่างมั่นใจ“การลอบสังหารน่ะสิ!”
เมื่อความเห็นของสาวสาวตรงกัน ทั้งคู่จึงเร่งฝีเท้าตรงไปยังทิศทางเดียวกับที่ชายผมยาวเมื่อครู่มุ่งหน้าไป รินนั้นมาเพราะต้องการดูเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ณดีนั้นมาเพราะความรู้สึกผิด เธอโทษตัวเองว่าบางทีถ้าตัวเองสังเกตท่าทางพิรุธของชายผมยาวได้เร็วกว่านี้อาจจะหยุดเหตุร้ายซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นไว้ได้ก่อนที่อะไรๆจะแย่ลง
ไม่ช้าหญิงสาวทั้งสองก็มาถึงฐานฝึกที่สามซึ่งเป็นลานกว้างที่มีทั้งเป้ายิง หุ่นซ้อม และสิ่งกีดขวางมากมาย ทุกที่ล้วนมีผู้เล่นใหม่และเจ้าหน้าที่ของระบบจับจองอยู่หนาแน่น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาชายผมยาวเมื่อครู่เจอ
“แบบนี้ก็หาไม่เจอน่ะสิ” เสียงของณดีสั่นเครือเล็กๆ “กว่าเราจะรู้ตัวคงมีใครสักคนกลายเป็นศพไปแล้ว”
“ใจเย็นๆ นักฆ่าคงไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เล่นใหม่หรอก น่าจะเป็นพวกบุคคลสำคัญหรือคนดังที่มีค่าหัวเยอะพอสมควร แกช่วยคิดหน่อยสิว่าจะพอเป็นใครได้บ้าง”
“ฉะ ฉันเพิ่งเคยเข้าเกมมา แล้วจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ”
ณดีหยุดใคร่ครวญ ‘ใครกันนะที่เป็นคนดัง แต่มาเดินอยู่ในสนามฝึกผู้เล่นใหม่แบบนี้’ ไม่นานหญิงสาวก็คิดออกเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดกร้าดดังมาจากกลางลานฝึกนั้น ก่อนหน้านี้ที่เธอชนเข้ากับผู้เล่นหญิงที่ชื่อ เฟอร์น่า อีกฝ่ายก็บอกว่าแชมป์ประเทศไทยมาที่ค่ายฝึกผู้เล่นใหม่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง
“มิส..โกอิ้ง เหรอ”
“อะไรนะ มิสโกอิ้ง!” รินคิ้วกระตุก “ถึงว่า ตอนรอแกในวิหารทำไมคนอื่นๆถึงรีบวิ่งออกไปนัก ที่แท้ก็แชมป์ประเทศไทยคนดังนี่เอง รีบตามฉันมาเร็วเข้าณดี งานนี้รับรองได้เห็นอะไรมันส์ๆแน่”
สาวผมทองจับมือแล้วลากตัวณดีขึ้นมาบนหอสังเกตการณ์แห่งหนึ่งซึ่งเมื่อมองลงไปจะทำเห็นพื้นที่สนามฝึกด้านล่างได้อย่างชัดเจน พออยู่ข้างบนแล้วการหาคนที่พวกเฮตามหาก็ง่ายดายกว่าที่คิด ท่ามกลางฝูงชนมีผู้หญิงคนหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใครเพื่อน
มิสโกอิ้ง ในชุดกระโปรงสีแดงและผ้าคลุมเดินกวาดสายตามองผู้เล่นใหม่ทุกคนที่รายล้อมตัวเธอ แม้เธอจะเป็นคนตัวเล็กกว่าที่ณดีคิด แต่ใบหน้าเรียบตึงและดาบสีแดงที่กระชับไว้ข้างกายทำให้แชมป์แประเทศไทยไม่ได้ลดความน่าเกรงขามลงเลย
แน่นอนว่าที่อยู่ถัดไปเบื้องหลังเธอไม่กี่ก้าวคือชาวผมยาวซึ่งค่อยๆแหวกฝูงชนเข้ามา เขาสวมชุดดำเหมือนตอนที่ชนกับณดี ใช่แล้ว สีของความมืดที่เธอเกลียดชัง
ถ้าเธอตั้งใจฟังเรื่องสีมากกว่านี้ก็คงดีสิ
กรี๊ด!!
ทันใดนั้นเมื่อมิสโกอิ้งเดินมาถึงบริเวณซึ่งเป็นที่โล่ง ชายนักฆ่าก็ชิงลงมือ เขายิงพลังงานสีดำบางอย่างซึ่งทำให้เกิดหมอกควันขึ้นมาปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดไว้ ไม่ผิดแน่ นั่นคือรูนสีดำชนิดเดียวกับที่ณดีเก็บได้
Mist walker’s Rune มีความสามารถทำให้ผู้ใช้โจมตีใส่จุดตายแรงขึ้นสามเท่า ณดีก็ไม่รู้หรอกว่ามันแรงแค่ไหน แต่โจมตีจุดตายแรงขึ้นคงน่ากลัวมากแน่ๆ
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเหล่าผู้เล่นใหม่แสงสว่างสีทองก็ทะลวงออกมาจากหมอกดำทุกทิศทาง เกิดเสียงดังแทรกขึ้นเหมือนระเบิดแล้วทันใดนั้นเองก็มีผู้เล่นคนหนึ่งกระเด็นออกมาโดยมีไฟลุกท่วมร่าง
เขาคือชายนักฆ่าผมยาว!
พริบตานั้นเองที่มิสโกอิ้งเดินแหวกม่านควันอกมาด้วยสีหน้าปึ่งชา แชมป์เปี้ยนหญิงไม่รอช้าก็เปล่งเสียงออกมาพร้อมหวดดาบสีแดงไปในอากาศในทิศที่นักฆ่าปลิวออกไป
“อิมพัลซ์ สวิง!”
125,000!
ไม่รู้ว่าตัวเลขหลักแสนที่ลอยขึ้นมาเหนือร่างของนักฆ่ามีความหมายว่ายังไงกันแน่ แต่คลื่นพลังสีทองที่ส่งออกมาจากดาบนั้นทำให้เป้าหมายของมันสลายไปในพริบตา รินที่ยืนอยู่ข้างเธออ้าปากค้างไม่ต่างจากผู้เล่นที่อยู่เบื้องล่าง
“สมแล้วที่เป็นโกอิ้ง โชคดีนะเนี่ยที่ได้เห็นด้วยตาตัวเองแบบนี้” เพื่อนสาวพูดกับณดีน้ำเสียงแสดงความชื่นชม “เพราะแบบนี้แหละ กิลด์EOS(อีออส) ถึงได้เป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิฟเวอร์ไทย"
‘EOS ที่ในภาษากรีกหมายถึง dawn หรือ รุ่งอรุณงั้นเหรอ’
ณดีครุ่นคิดจากความรู้ที่มีพลางมองตามมิสโกอิ้งเบื้องล่างไปเหมือนต้องมนต์สะกด แชมป์ประเทศไทยเก็บดาบเข้าฝักแล้วเดินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งนั่นยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดได้มากกว่าเดิมเสียอีก
ความคิดเห็น