คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ข้อมูลพื้นฐาน2
ระบบเกรด
สิ่งของในเกม และ ทักษะ จะถูกแยกระดับชั้นด้วยเกรด ผู้เล่นสามารถทราบเกรดของสามสิ่งข้างต้นได้จากหน้าจอรายละเอียด หรือเสียงประกาศของระบบ เกรดนั้นมี5ระดับซึ่งใช้ดาวเป็นสัญลักษณ์ จากน้อยไปหามาก ความแตกต่างระกว่างเกรดต่างๆมีคร่าวๆดังนี้
เกรด1 (common)
ระดับหนึ่งดาว หรือไอเทมธรรมดา มีโอกาสได้เป็นรางวัลจากการการต่อสู้หรือภารกิจประมาณ 60% นอกจากนี้ยังหาได้ทั่วไปจากการเก็บวัตถุดิบและร้านค้าของระบบ ผู้เล่นมักเรียกของเกรดหนึ่งว่าเป็นขยะ เนื่องจากมีจำนวนล้นตลาดจนไม่รู้จะเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน นอกจากโยนหรือขายทิ้งในราคาไม่กี่สตางค์สำหรับคนขยันจะสามารถหาเงินตั้งตัวได้เช่นกันถ้าเก็บของเกรด1มาขายอย่างต่อเนื่อง
อุปกรณ์ – อุปกรณ์เกรดหนึ่งมีคุณภาพต่ำและความคงทนที่น้อย ถ้าเป็นดาบก็เทอะทะมีน้ำหนักมาก ถ้าเป็นชุดเกราะก็มีพลังป้องกันน้อยจนเลือกวิธีไม่ใส่แล้ววิ่งหลบเอายังจะดีกว่า ผู้เล่นทุกคนจะได้อุปกรณ์เกรดหนึ่งมาใช้เมื่อเข้าเกมครั้งแรก
ทักษะ – ทักษะพื้นฐานของคลาสหรือสีนั้นๆ ถ้าฝึกใช้จนคล่องจะสามารถต่อยอดในระดับสูงขึ้นไปได้เร็ว
เกรด2 (Unique)
ระดับสองดาว หรือไอเทมพิเศษ มีโอกาสได้รับจากการต่อสู้หรือภารกิจราวๆ 30% ถ้าเป็นวัตถุดิบจะสามารถหาได้จากแหล่งพิเศษ , การเก็บเกี่ยวอย่างประณีต หรือ การนำของเกรดหนึ่งไปผ่านกระบวนการแปรรูป นอกจากนั้นยังสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าของระบบในราคาสูง และขายในราคาที่สูงยิ่งกว่าเมื่ออยู่นอกโซนต้นกำเนิด คนส่วนใหญ่มักจะใช้ของเกรดสองกันทั้งนั้น
อุปกรณ์ – เกรดสองเหมาะที่จะนำมาใช้ในการต่อสู้หรือเก็บระดับ ขนาดและรูปร่างเหมาะแก่การใช้งาน มีคุณภาพสูงกว่าเกรดหนึ่งเกือบสองเท่าตัว
ทักษะ – ทักษะเกรดสองจะเพิ่มความสามารถพิเศษใหม่ให้ผู้เล่นนำไปประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ เช่นทักษะโจมตีด้วยดาบเกรดหนึ่งจะเพิ่มโบนัสความเสียหายธรรมดา แต่เกรดสองจะสร้างคลื่นดาบโจมตีระยะไกล พร้อมโบนัสความเสียหาย เป็นต้น
เกรด3 (Rare)
เรียกว่าของแรร์ หรือ ไอเทมหายาก มีโอกาสได้รับจากการต่อสู้หรือภารกิจเพียง 5-10% ยกเว้นจากศัตรูระดับบอสขึ้นไปที่มีโอกาส 50% ผู้เล่นทุกคนล้วนต้องการได้ของแรร์มาครอบครอง เนื่องจากการหา ต้องใช้ทั้งทุนและเวลารวมถึงวิธีการพิเศษบางอย่าง จะซื้อจากร้านค้าของระบบก็นานๆจะหลุดมาสักชิ้น วิธีที่ง่ายที่สุดเห็นจะเป็นซื้อโดยตรงหรือแลกเปลี่ยนจากผู้เล่นด้วยกันเองในราคาสูงลิบลิ่ว
อุปกรณ์ – อุปกรณ์เกรดสามมีความสวยงามกว่าเกรดสองอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้คุณภาพจะใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นมักจะมีความสามารถแฝงติดมาด้วยตามแต่ชนิด บางพวกเพิ่มความสามารถเมื่อใส่กับสีที่กำหนด บางพวกก็มีลูกเล่นแปลกๆ ที่ไว้โชว์ให้เพื่อนอิจฉาเล่น
ทักษะ – ทักษะเกรดสามมักถูกเรียกอย่างแพร่หลายว่า “ท่าไม้ตาย” มีประสิทธิภาพและความสามารถพิเศษเหนือกว่าเกรดสองอย่างเห็นได้ชัด สามารถใช้ได้จากการปลดสีที่สอง , เก็บระดับได้ครบตามที่คลาสกำหนด และ ใช้จากอุปกรณ์เกรดสามที่มีคุณสมบัติแฝงเป็นท่าไม้ตายโดยตรง
เกรด4 (Mythic)
ของระดับสี่ดาวที่ผู้เล่นมีโอกาสได้น้อยนิดราวกับปาฏิหาริย์คือต่ำกว่า 1% จากศัตรูและภารกิจทั่วไป 5% จากศัตรูระดับบอส และ 10% จากRaidนอกจากวิธีการหาข้างต้นและได้เป็นรางวัลในกิจกรรมใหญ่ๆของระบบแล้ว ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นจะมีไว้ในครอบครอง นอกจากดวงดีระดับถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง หรือ หาซื้อจากผู้เล่นด้วยกันในงานประมูลด้วยเงินสูงล้นฟ้า
อุปกรณ์ –อุปกรณ์เกรดสี่มีคุณภาพสูงกว่าเกรดสามอย่างต่ำสองเท่า นอกจากรูปร่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว ยังมีความสามารถแฝงพิเศษติดมาด้วยอย่างน้อยสองอย่างทุกชิ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์พวกอาวุธซึ่งจะมีทักษะไม้ตายติดมาด้วยเสมอ
ทักษะ – ทักษะเกรดสี่ต้องอาศัยเงื่อนไขยุ่งยากในการใช้และได้มา และเสียทรัพยากรสูงมาก ยกเว้นทักษะที่ติดมากับอาวุธเกรดสี่อยู่แล้ว ทักษะของผู้เล่นสามสีส่วนใหญ่จะอยู่ในเกรดสี่ทั้งสิ้น
เกรด5 (Legend)
ของระดับตำนาน นอกจาก GM มีผู้เล่นครอบครองน้อยมากจนแทบนับหัวได้ ด้วยโอกาสดรอปจากบอส 0.01% และจากRaid 1% จึงเป็นที่เลื่องลือว่าของเกรด 5 จะเป็นฝ่ายเลือกผู้เล่นที่เหมาะสมเอง ถ้าโชคชะตาไม่ตรงกันต่อให้หาแทบตายก็ไม่ได้มา
อุปกรณ์ – อุปกรณ์เกรด5ไม่ได้ไร้เทียมทานเหมือนที่คิด มันมีคุณภาพใกล้เคียงกับของเกรดสี่หรืออาจจะต่ำกว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าความสามารถแฝงสุดขี้โกงที่ติดมาด้วยอย่างน้อยสามอย่างและความทนทานเป็นอนันต์ (ไม่มีวันพัง) จึงทำให้มันเป็นตำนานอย่างแท้จริง อุปกรณ์เกรดห้าไม่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้และมีเพียงชิ้นเดียวต่อเซิฟเวอร์เท่านั้น
ทักษะ –อุปกรณ์เกรดห้าจะมีทักษะระดับห้าเป็นความสามารถแฝงมาด้วยหนึ่งทักษะ นอกจากนั้นสามารถหามาใช้ได้โดยการเป็นผู้เล่นสามสีที่ผ่านภารกิจRaidที่ยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ ในทุกกลุ่มสามสีจะมีทักษะเกรดห้าเพียงทักษะเดียวเท่านั้น ซึ่งใช้คำว่า [ULTIMATUM] ตามท้าย
ระบบทักษะ
ทักษะจะแบ่งออกตามระเภทของการใช้
1.ทักษะติดตัว (Passive skill) : แสดงผลอยู่ตลอดเวลา หรือจะแสดงผลเมื่อเกิดเงื่อนไขตามที่กำหนด ทักษะติดตัวบางประเภทเมื่อแสดงผลแล้วต้องรอชั่วขณะหนึ่งถึงจะแสดงผลอีกครั้ง
2.ทักษะเรียกใช้ (Active skill) : จะแสดงผลเมื่อผู้เล่นออกคำสั่งเท่านั้น มีระยะเวลาร่ายและระยะเวลาหน่วงต่างกัน
3.ทักษะไม้ตาย(Ultimate skill) : ทักษะที่ต้องทำเงื่อนไขพิเศษก่อนถึงจะปรากฏขึ้นมาให้เรียกใช้ได้
4.ทักษะสุดท้าย [ULTIMATUM] : ทักษะขั้นสูงสุดที่จำเป็นต้องเป็นผู้เล่นสามสีถึงจะใช้ได้
ระบบคลาส
เริ่มต้นผู้เล่นทุกคนจะไม่มีคลาส จนกว่าพวกเขาและเธอจะเก็บระดับนักผจญภัยไปจนถึง10 35 และ 70 ตามลำดับ จากนั้นจึงไปรับภารกิจที่สมาคมของและคลาสนั้นๆ ความยากง่ายของภารกิจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่คลาสอีกด้วย เนื่องจากเหตุนี้ทำให้บางคลาสมีคนเล่นน้อยเนื่องจากทำได้ยากเย็นเหลือเกินนั่นเอง อย่างไรก็ดี ยิ่งระดับของคลาสสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งเปลี่ยนยากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะคลาสสามที่ระดับ70 โดยเฉลี่ยแล้วคนทั่วไปจะใช้เวลาร่วมหนึ่งอาทิตย์ในโลกจริง(เกือบหนึ่งเดือนในcc)ถึงจะสำเร็จ
คลาสแต่ละคลาสจะสามารถใช้อาวุธหรืออุปกรณ์แบบไหนก็ได้ โดยเมื่อเลือกสายคลาสไปแล้วจะต้องเปลี่ยนอาชีพที่อยู่ในสายของตัวเองเท่านั้นไม่อาจข้ามไปสายอื่น สายคลาสจะแบ่งโดยใช้รูปแบบหลักในการเล่นดังนี้
1. Tank Class : ผู้รับความเสียหายและดึงความสนใจจากศัตรู
2. Damage Dealer Class : ผู้สร้างความเสียหายจากระยะใกล้และไกล
3. Color Bender Class : ผู้ใช้ทักษะของสีและเวทมนต์
4. Tactician Class : ผู้คอยควบคุมกระแสการต่อสู้
ตารางแสดงลำดับการเลื่อนคลาสเป็นดังนี้ สำหรับรายละเอียดคลาส ผมเรียบเรียงเพิ่มเติมต่อท้ายไว้ด้านล่าง อย่าลืมว่าแต่ละคลาสนั้นไม่มีข้อจำกัดในการใช้อาวุธหรือเครื่องสวมใส่ใดๆ ยกเว้นไอเทมที่จำกัดการใช้เฉพาะสีเท่านั้น อัศวินอาจถือปืน นักเวทอาจจะใช้ดาบโล่ลุยอยู่แนวหน้า จึงสามารถนำมาดัดแปลงการเล่นได้อย่างอิสระ
* เครื่องหมายลูกศร (>) แสดงถึงการเลื่อนคลาส
Tank Class
1. Knight 2. Warrior
> Vanguard > Paragon > Berserker > Avenger
> Guardian > Templar > Ravager > Destroyer
3. Wanderer > Liberator > Arbiter
Damage Dealer Class
1. Rouge 2. Ranger
> Assassin > Eraser > Scout > Warden
> Hunter > Stalker > Marksman > Sentinel
3. Artificer > Ruin Finder > Reviver
Color Bender Class
1. Mage 2. Acolyte
> Wizard > Arcanist > Shaman > Worldwaker
> Summoner > Warlock > Esper > Mastermind
3. Bard > Oracle > Magus
Tactician Class
1. Bandit 2. Commander
> Rioter/Saboteur > Terrorist > Warlord > Conqueror
> Politician > Tyrant
3. Enchanter
> Star/Void
Chanter > Planeswalker
Tank Class
[ความสามารถเฉพาะ]
-
Taunt : มีทักษะเพิ่มความยั่วยุ เรียกความสนใจให้ศัตรูเข้ามาโจมตี
-
Durable : มีทักษะที่ช่วยลดทอนหรือป้องกันความเสียหาย
-
Battle Favor : เพิ่มระดับความชำนาญเร็วขึ้น
10% ระหว่างต่อสู้
คลาส 1
1. Knight: สายอัศวิน เป็นเหมือนโล่ของเพื่อนพ้อง
ตัวแทงค์ประเภทรับความเสียหายโดยตรง มีจุดเด่นในการสร้างความยั่วยุแบบหมู่ใส่ศัตรูรอบตัวในระยะใกล้
แลกกับความสามารถในการเคลื่อนไหวที่จำกัด จึงขาดความคล่องตัว พัฒนาแนวการเล่นได้สองรูปแบบคือ
อัศวินบุกทะลวง > Vanguard
อัศวินผู้ปกป้อง > Guardian
2. Warrior: สายนักรบ
ตัวแทงค์ประเภทแลกความเสียหายกับศัตรู สามารถ “ท้าสู้” หรือ “ประลอง” เพื่อสร้างความยั่วยุกับศัตรูหนึ่งตัวในระยะไกล
รวมถึงทำให้ศัตรูหวาดกลัวเพื่อลบล้างความยั่วยุทั้งหมด ข้อเสียคือ
ศัตรูที่ถูกท้าสู้หรือประลองจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าปกติ
เมื่อเกิดความผิดพลาดจะแก้สถานการณ์ได้ยากกว่าอัศวิน พัฒนาแนวการเล่นได้สองรูปแบบคือ
นักรบคลั่ง > Berserker
นักรบทำลายล้าง > Ravager
3. Wanderer: สายนักพเนจร คลาสพิเศษที่เปลี่ยนอาชีพยากกว่าปกติ มีจุดเด่นคือเป็นแทงค์ซึ่งสร้างความยั่วยุจากการหลบหลีก มีทักษะเพิ่มความคล่องตัวจำนวนมาก จึงเน้นการล่อศัตรูมากกว่ายืนหยัดต่อสู้ รูปแบบการเล่นค่อนข้างยืดหยุ่น แต่ต้องใช้ความสามารถส่วนบุคคลสูงในการเล่น แลกกับการที่ไม่มีข้อเสียเลย
พัฒนาเป็น
ผู้ปลดปล่อย > Liberator
คลาส 2
1.1 Vanguard: อัศวินบุกทะลวง ได้รับความสามารถเร่งความเร็ว
และเพิ่มความแกร่งเมื่อบุกไปด้านหน้า สร้างความยั่วยุไปตลอดเส้นทางนั้น
มีจุดเด่นคือ การคอมโบทักษะต่างๆขณะที่สิ้นสุดการบุกทะลวง เช่น ผลักศัตรูให้ล้ม
หรือ เหวี่ยงศัตรูไปด้านหลัง มีข้อเสียคือจำเป็นต้องเสี่ยงทิ้งแนวหลังเอาไว้ โดยปราศจากการป้องกัน
พัฒนาสูงสุดจาก Vanguard > Paragon
1.2 Guardian: อัศวินผู้ปกป้อง
คงเอกลักษณ์ขาดความคล่องตัวเอาไว้ ขณะเสริมพลังการยั่วยุแบบหมู่ให้ดียิ่งขึ้น
มีจุดเด่นในการลดทอนความเสียหายตามจำนวนศัตรูที่ต่อสู้ด้วย
รวมถึงทักษะโจมตีที่สร้างความยั่วยุอย่างมากโดยไม่สามารถป้องกันได้
พัฒนาสูงสุดจาก Guardian > Templar
2.1 Berserker: นักรบคลั่ง มีจุดเด่นคือยิ่งได้รับความเสียหาย หรือ
พลังชีวิตเหลือน้อยเท่าไหร่ จะยิ่ง “บ้าคลั่ง” พลังและความยั่วยุที่สร้างได้จะแปรผันตามระดับความบ้าคลั่งนี้ ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงคือจะดึงประสิทธิภาพออกมาเมื่อได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
เป็นอาชีพที่ต้องเจ็บตัวมากที่สุดในเกมก็ว่าได้
พัฒนาสูงสุดจาก Berserker > Avenger
2.2 Ravager: นักรบทำลายล้าง
มีจุดเด่นคือทักษะส่วนใหญ่สามารถโจมตีเป็นวงกว้าง ทำให้ไม่ต้องกังวลเมื่อถูกรุม สร้างความยั่วยุพอประมาณได้อย่างทั่วถึง
มีความสามารถใหม่คือ การทำลายภูมิประเทศและสิ่งก่อสร้างเพื่อสร้างความลำบากให้ศัตรู
จึงเหมาะจะอยู่ศึกที่มีสเกลใหญ่เช่นสงครามมากกว่าการต่อสู้ขนาดเล็ก
พัฒนาสูงสุดจาก Ravager > Destroyer
3. Liberator: ผู้ปลดปล่อย ได้รับความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมาหลักๆสามอย่างคือ
มีโอกาสหลบการโจมตีโดยอัตโนมัติ เบี่ยงเบนและสะท้อนการโจมตีออกจากตัวเอง
และ สะสมความเสียหายที่หลบหลีกได้มาเปลี่ยนเป็นพลังกับความยั่วยุ
เมื่อรวมกัน จึงถือว่ามีจุดเด่นด้านการเอาตัวรอดอย่างมากหากเทียบกับแทงค์สายอื่นๆ
เหมาะกับทีมที่ต้องการความคล่องตัว
พัฒนาสูงสุดจาก Liberator > Arbiter
คลาส 3
1.1 Paragon: หัวหน้าอัศวิน
เพิ่มความสามารถพิเศษในต่อการต่อสู้อย่างมากระหว่างทำการบุกทะลวง
และเพิ่มทักษะประเภทออร่า ออร่านี้จะส่งผลไปตลอดเส้นทางที่หัวหน้าอัศวินบุกทะลวงเข้าไป
ทำให้พันธมิตรซึ่งติดตามมาต่อสู้สะดวกขึ้น ช่วยลดจุดอ่อนที่ต้องทิ้งแนวหลังเอาไว้ เรียกว่าไร้ข้อเสีย
ยกเว้นในกรณีที่เลือกใช้ทักษะและออร่าผิดสถานการณ์
อาจทำให้พวกพ้องที่ตามมาลำบากขึ้นแทน ถึงขั้นรูปขบวนเสีย
1.2 Templar: อัศวินศักดิ์สิทธิ์
การยั่วยุแบบหมู่ของอาชีพนี้พัฒนาถึงขั้นสูงสุด
คือสามารถเรียกศัตรูนับร้อยให้มาโจมตีตัวเองได้พร้อมๆกัน บวกกับทักษะเสริมความอึด
อัศวินศักดิ์สิทธิ์จึงใก้ลเคียงกับคำว่าอมตะ จัดว่าเป็นอาชีพที่ตายยากที่สุดของเกม
มีจุดด้อยคือทักษะนั้นมีระยะเวลาการใช้ที่ยาวนาน
ในการต่อสู้แต่ละครั้งจึงใช้ได้อย่างมากเพียงหนเดียว
2.1 Avenger: ผู้ชำระแค้น ได้รับความสามาถติดตัวซึ่งนำไปใช้เป็นทรัพยากรให้ทักษะคือ
“ความโกรธ/Fury” กับ “อาฆาต/Vengeance” ความโกรธจะเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีศัตรู
เมื่อความโกรธถึงระดับหนึ่ง จะรับความสามารถพิเศษเพิ่มเติม
และศัตรูที่โจมตีใส่ผู้ชำระแค้นจะได้รับความอาฆาต ยิ่งความอาฆาตมากเท่าไหร่
ผู้ชำระแค้นยิ่งโจมตีใส่มันได้แรงขึ้นแบบทวีคูณ จึงมีข้อเสียคือแพ้ทางศัตรูที่ไม่สามารถเข้าถึงตัว
2.2 Destroyer: นักทำลายล้างและสังหารหมู่
มีจุดเด่นคือการโจมตีที่แสดงผลกว้างพอๆกับนักเวทโดยมีเงื่อนไขการใช้ไม่ซับซ้อน
พลังทำลายจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนศัตรูที่โจมตีโดนในขณะนั้น
เรียกว่ายิ่งโดนศัตรูเยอะยิ่งเก่ง และยังมีท่าที่ทำให้ศัตรูเกิดความหวาดกลัวอีกด้วย
ในภาพรวมถือว่าไม่มีข้อเสีย เป็นแทงค์ที่เล่นง่ายไม่ซับซ้อน
3. Arbiter: ตุลาการ มีรูปแบบการเล่นโดดเด่นมากที่สุดในสายแทงค์ทั้งหมด และเป็นเล่นยากที่สุดในสายเช่นกัน
ความสามารถหลักคือสร้างอาณาเขต “ศาล” ขึ้นซึ่งศัตรูและพันธมิตรต้องทำตามกฎที่ตุลาการกำหนดเท่านั้น
อย่างเช่น ห้ามวิ่ง หรือ ห้ามใช้เสียง หากไม่ทำตาม
จะสามารถสร้างความเสียหายใส่ตุลาการได้เท่านั้น
เป็นการสร้างข้อบังคับเพื่อล่อและถ่วงเวลาศัตรูอย่างแท้จริง
หากเลือกใช้ตามความเหมาะสมโดยไม่ทำให้พันธมิตรเสียเปรียบ
Damage Dealer Class
[ความสามารถเฉพาะ]
-
Mobility : มีทักษะที่ช่วยในการเคลื่อนไหว
และย้ายตำแหน่ง
-
Damage Multiplier : เพิ่มโบนัสความเสียหายแบบทวีคูณ
-
Explorer : ได้รับเงิน ไอเทม
และค่าประสบการณ์ เมื่อค้นพบพื้นที่หรือศัตรูใหม่
คลาส 1
1. Rouge: สายโจร
เป็นตัวดาเมจประเภทลอบโจมตี
มีจุดเด่นคือการคอมโบทักษะต่อเนื่องกันทำให้จู่โจมได้หลากหลายยากแก่การจับทาง
สกิลหลายสกิลช่วยให้โจรล่องหนหรือซ่อนตัวจากศัตรูได้
รวมทั้งอำนวยความสะดวกเพื่อจัดการศัตรูที่อ่อนแอหรือได้รับบาดเจ็บ มีข้อเสียคือไม่สามารถต่อสู้โดยตรงกับศัตรูจำนวนมากกว่าได้
พัฒนาการเล่นได้สองแนวทางคือ
นักลอบสังหาร > Assassin
นักล่า > Hunter
2. Ranger: สายโจมตีไกล เป็นตัวดาเมจประเภทโจมตีสนับสนุนอยู่แนวหลัง
หรือดักซุ่มโจมตีศัตรู มีจุดเด่นในการสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง
สามารถทำให้ศัตรูล่าถอย และควบคุมพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว จุดอ่อนที่สำคัญคือห้ามให้ศัตรูเข้ามาประชิดตัวอย่างเด็ดขาด
พัฒนาการเล่นได้สองแนวทางคือ
หน่วยลาดตระเวน > Scout
พลแม่นปืน > Marksman
3. Artificer: สายผู้ใช้วัตถุ คลาสพิเศษที่เปลี่ยนอาชีพยากกว่าปกติ
ต้องพึ่งพาไอเทมในการสร้างดาเมจเป็นหลัก ยิ่งอาวุธดีมากยิ่งแข็งแกร่ง
ดังนั้นในช่วงแรกจึงเก็บเลเวลค่อนข้างลำบาก มีจุดเด่นในการเข้าถึงการใช้ “อาร์ติแฟค” ซึ่งเป็นสมบัติโบราณที่จะแสดงความสามารถเมื่ออยู่ในมือผู้ใช้วัตถุเท่านั้น
แต่การจะหาหรือสร้างอาร์ติแฟคมาใช้เองเป็นเรื่องยาก รวมถึงอาร์ติแฟคหลายชนิดเป็นไอเทมจำกัดจำนวนครั้งการใช้
จึงมีข้อเสียคือเวลาส่วนใหญ่จะต้องใช้ไปกับการล่าสมบัติ ตามดันเจียนหรือโบราณสถาน มากกว่าทำกิจกรรมอื่น
พัฒนาเป็น นักสำรวจซากโบราณ > Ruin finder
คลาส 2
1.1 Assassin: นักลอบสังหาร
มีจุดเด่นคือการล่องหน แล้วปลิดชีพศัตรูด้วยการโจมตีใส่จุดตายในครั้งเดียว
เป็นสายอาชีพประเภท High Risk High Reward คือมีความเสี่ยงในการพลาดสูง
แต่ผลลัพธ์เฉียบขาด ดาเมจที่ทำได้จะทวีคุณขึ้นเมื่อศัตรูไม่รู้ตัว ข้อเสียใหญ่ที่สุดคือแพ้ทางการยั่วยุของแทงค์และการสร้างสถานะผิดปกติ
พัฒนาสูงสุดเป็น > Eraser
1.2 Hunter: นักล่า
แตกต่างจาก Assassin คือมีความยืดหยุ่นในการเล่นมากกว่าการลอบเข้าไปฆ่าศัตรู
สามารถที่จะแกะรอยอยู่ห่างๆ ก่อนค่อยฉวยโอกาสโจมตี
หรือไล่ล่าทำร้ายศัตรูให้อ่อนแอลงเรื่อยๆ
มีจุดเด่นคือทักษะที่ช่วยในการติดตามเหยื่อแม้จะมองไม่เห็น และสกิลร่นระยะทางซึ่งทำให้เข้าออกการต่อสู้อย่างรวดเร็ว
เป็นอาชีพที่ไม่มีข้อเสียเลยก็ว่าได้
พัฒนาสูงสุดเป็น > Stalker
2.1 Scout: หน่วยลาดตระเวน
เป็นอาชีพที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดจุดอ่อนของสายโจมตีไกลที่ห้ามศัตรูเข้าประชิดตัวเด็ดขาด
ด้วยการเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดเข้ามา
ทำให้ยืดหยุ่นในการต่อสู้และไม่ต้องเป็นภาระในการดูแลของตัวแทงค์มากนัก
จัดว่าเป็นอาชีพที่สมดุล ไม่มีข้อเสีย แต่ก็ไม่มีความสามารถที่โดดเด่น
พัฒนาสูงสุดเป็น > Warden
2.2 Marksman: พลแม่นปืน เป็นอาชีพที่มีจุดเด่นในการเพิ่มโบนัสความเสียหายเมื่อไม่มีศัตรูอยู่ประชิดตัว
ทักษะจะเน้นไปที่การโจมตีไกลเป็นหมู่
และทวีคูณดาเมจเมื่อยิงเป้าหมายเดิมมากกว่าการเอาตัวรอดแบบหน่วยลาดตระเวน
ข้อเสียเมื่อถูกประชิดตัวจึงยิ่งมีมากกว่าเดิม แต่ก็นับเป็นสายที่ทำ DPS (ความเสียหายต่อวินาที) ได้สูงสุดในเกม
พัฒนาสูงสุดเป็น > Sentinel
3. Ruin Finder: นักสำรวจซากโบราณ เป็นคลาสสองที่มีข้อเสียหลักคือมีทักษะโจมตีน้อยมาเมื่อเทียบกับสายโจมตีสายอื่นๆ
ทักษะจะเน้นไปที่การเอาตัวรอดและตามหาสมบัติโบราณแบบเต็มรูปแบบ
อาจเรียกว่านักล่าขุมทรัพย์ก็ว่าได้
นักสำรวจซากโบราณสามารถตรวจหาไอเทมหรือดันเจียนลับที่ซ่อนอยู่ในโซนต่างๆ ได้ดีกว่า
นอกจากนั้นยังสามารถปลดล็อกทางเดินลับและกับดักในดันเจียน ความเก่งกาจของอาชีพจึงขึ้นอยู่กับไอเทมที่หามาได้เพียงอย่างเดียว
พัฒนาสูงสุดเป็น > Reviver
คลาส 3
1.1 Eraser: ผู้ลบล้าง
อาชีพต่อยอดของแอสซาซิน ช่วยเสริมสไตล์การเล่นแบบลอบสังหารให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ด้วยการทวีคูณพลังโจมตีถ้าศัตรูมีพลังชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่ง
และการสร้างดาเมจโดยคิดตามเปอร์เซ็นต์พลังชีวิตสูงสุด ต่อให้เหยื่อมีพลังป้องกันหรือพลังชีวิตสูงแค่ไหนก็ไร้ผล
การสังหารของผู้ลบล้างมีความเด็ดขาดมาก ถึงขึ้นไม่เหลือศพทิ้งไว้ให้ชุบชีวิต
เพราะโอเวอร์คิลศัตรูกลับจุดเซพในพริบตาได้เสมอ ตามความหมายของชื่อคลาสว่า “เครื่องลบ”ศัตรูออกจากเกม
1.2 Stalker: สโต๊กเกอร์ เสริมข้อดีของนักล่าในการติดตามศัตรูที่หลบหนี
ได้ทักษะที่โดดเด่นคือการตรวจจับตำแหน่งของศัตรูแม้จะล่องหนหรือซ่อนตัวก็ตาม
และยิ่งเคลื่อนที่เข้ามาเหยื่อที่ติดตามจะยิ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้น ทวีคูณพลังโจมตีเข้าไปตามระยะเวลาในการติดตาม
หากเหยื่อยังรอดไปได้ ทักษะโจมตีจะทำให้มันอ่อนแอลงจากสถานะผิดปกติด้านการเคลื่อนที่ชนิดต่างๆ
ส่งผลให้หลบหนีการล่าของ Stalker ยากขึ้นเรื่อยๆ
2.1 Warden: ผู้พิทักษ์
มีจุดเด่นในการทวีคูณความเสียหายเมื่อสับเปลี่ยนการโจมตีจากระยะใกล้เป็นระยะไกลในรูปของการเก็บคอมโบ
ทำให้สามารถรับมือกับศัตรูได้ทุกรูปแบบ ทุกสถานการณ์
นอกจากนั้นยังมีสกิลเคลื่อนที่ระยะสั้นในพริบตา จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่มีข้อเสีย
2.2 Sentinel: ผู้เฝ้ามอง
เสริมจุดเด่นจากคลาสสองด้วยการทวีคูณความเสียหายตามระยะห่างของผู้เล่นกับศัตรู
ยิ่งโจมตีไกลเท่าไหร่ยิ่งแรงเท่านั้น
เพิ่มรูปแบบการเล่นใหม่คือการชาร์จพลังก่อนยิงเพื่อทวีคุณความเสียหายไปเรื่อยๆแต่ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง
และการเฝ้ามอง (Sentry) เพื่อตรวจจับและมองเห็นเป้าหมายที่อยู่ในระยะไกลสุดขั้วได้ทันที
ดังนั้นถึงแม้จะอ่อนแอเมื่อถูกประชิด แต่การจะรอดพ้นสายตาผู้เฝ้ามองโดยไม่ถูกยิงเก็บซะก่อนนั้นก็เป็นไปไม่ได้
3. Reviver: นักคืนชีพสมบัติโบราณ มีความสามารถในการปลุกพลังของอาร์ติแฟคให้กลายเป็นสุดยอดอาวุธได้ อย่างเช่นเปลี่ยนด้ามดาบคร่ำครึอันหนึ่งให้กลายเป็นดาบมังกรในตำนาน จากการรวบรวมชิ้นส่วนซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามโซนต่างๆมารวมกันเป็นต้น แน่นอนว่าความเก่งกาจย่อมขึ้นอยู่กับสมบัติโบราณที่หามาได้ แต่ถึงจะเป็นของที่ดูธรรมดา เมื่อได้รับการคืนชีพจาก Reviver พลังก็ร้ายกาจเกินคาด นักคืนชีพยังเข้าถึงอักระโบราณซึ่งเสริมความสามารถพิเศษและพลังโจมตีให้ไอเทมแบบทวีคูณ ข้อเสียใหญ่คือจำเป็นต้องมีของสักชิ้นก่อน ซึ่งใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ และของที่เจอใช่ว่าจะใช้เป็นเสมอไป กว่าจะคืนชีพได้สมบัติที่คนใช้ถูกใจ ส่วนใหญ่ของเก่าจึงถูกขายเป็นเงินทุนเพื่อหาชิ้นใหม่ต่อ สายอาชีพอื่นที่ต้องการจะได้อุปกรณ์ดีๆใช้โดยไม่ต้องเหนื่อยหาเอง มักจะมาซื้อกับนักคืนชีพนี่แหละ
Color Bender Class
[ความสามารถเฉพาะ]
-
Color Focus : ทักษะแปรผันตามสีของผู้เล่น
-
Chant : ต้องการเสียงในการใช้ทักษะ
ระหว่างใช้ทักษะเสียงของผู้เล่นจะดังกังวาน
-
Magic Maker : สามารถสร้างไอเทมเวทมนต์ได้
เช่น รูน ยันต์ อักขระ และยาวิเศษ
คลาส 1
1. Mage: สายนักเวท
เป็นผู้ใช้สีผ่านการร่ายคาถา ซึ่งอาจต้องใช้วัตถุดิบบางอย่างเป็นสื่อในการร่ายเวทนั้นๆเสียก่อน
อย่าเช่นแร่ ยาวิเศษ หรือวงแหวนเวท มีจุดเด่นคือทักษะติดตัวซึ่งทำให้จ่ายพลังเวทเพื่อปล่อยพลังออกมาโจมตีระยะไกลแทนการโจมตีปกติได้
สกิลจะแตกต่างไปตามสีของนักเวทคนนั้นๆ แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การโจมตี และมีเวทที่เป็นกลางซึ่งใช้ได้ทุกสีอยู่ด้วย
จุดอ่อนที่สำคัญคือการร่ายคาถาแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน
หากทำผิดขั้นตอนหรือถูกขัดขวางจะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด
พัฒนาเป็นสองแนวทางการเล่นคือ
จอมเวท > Wizard
นักอัญเชิญ > Summoner
2. Acolyte: สายนักบวช
เป็นผู้ใช้สีผ่านการสวดอ้อนวอนกับเทพแห่งสีสันตามโบสถ์ของเทพองค์นั้นๆซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วโลกของเกมคัลเลอร์แคลช
ยกเว้นโบสถ์ที่เมืองหลวงของเกมซึ่งเป็นเมืองเริ่มต้น
นักบวชต่างจากนักเวทที่ต้องร่ายคาถาทุกครั้ง
อาชีพนี้จะใช้การสวดเพียงครั้งเดียวในโบสถ์ต่างๆซึ่งอาจยาวนานเป็นชั่วโมงเพื่อให้ได้สกิลต่างๆมาใช้อย่างถาวร
(สกิลต่างกันตามสีของเทพที่ไปสวดขอไว้ด้วย) ซึ่งความสามารถนั้นจะเน้นการสนับสนุนเป็นหลัก ทำให้มีจุดอ่อนด้านการต่อสู้ด้วยตัวเอง
พัฒนาได้สองแนวทางคือ
ชาแมน > Shaman
นักบวชพลังจิต > Esper
3. Bard: สายนักกวี เป็นผู้ใช้สีผ่านการร้องเพลง และเล่นดนตรี สายคลาสพิเศษที่เปลี่ยนอาชีพยากกว่าปกติ การใช้สกิลจะออกมาในรูปของบทเพลง ซึ่งสร้างผลลัพธ์แตกต่างกัน นอกจากนั้น ยังมีเพลงประจำสีต่างๆ ซึ่งเกื้อหนุนสีเดียวกันและลดความสามารถของสีอื่น นักกวีสามารถเลือกเพลงได้ทีละเพลงเท่านั้น โดยมีเครื่องดนตรีเป็นตัวขยาย เป็นอาชีพเวทที่มีความยืดหยุ่นสูงทั้งรุกละรับ ข้อเสียคือความสามารถในการเก็บเลเวลน้อยที่สุดในคลาสทั้งหมดก็ว่าได้
พัฒนาการเล่นเป็น นักพยากรณ์ > Oracle
คลาส 2
1.1 Wizard:
จอมเวท เป็นสายตรงต่อจากนักเวทที่มีรูปแบบการเล่นคล้ายกันทุกอย่าง แต่ขั้นตอนการร่ายเวทแค่ละอย่างนั้นจะยุ่งยากและซับซ้อนกว่า
เวทมนต์แต่ละอย่างได้รับการพัฒนาขึ้นให้ส่งผลรุนแรงถึงขั้นตัดสินผลแพ้ชนะของสงครามได้ในเวทเดียว
มีจุดเด่นอีกอย่างคือสามารถเข้าถึงการผลิตยาวิเศษและอุปกรณ์เวทมนต์ระดับสูงได้ ด้วยการเล่นแร่แปรธาตุ
พัฒนาสูงสุดเป็น > Arcanist
1.2 Summoner: นักอัญเชิญ
มีจุดเด่นในการเรียกมอนสเตอร์ชนิดต่างๆ ออกมาใช้งาน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นด้านการต่อสู้ แบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ เทพหรืออสูรตามสี
มอนสเตอร์พันธะสัญญา
จะต้องหาไอเทมที่เกี่ยวกับเวทมนต์มาเซ่นสังเวยให้พวกมันอยู่เรื่อยๆ เพื่อเลี้ยงเอาไว้
ข้อเสียหลักของสายนี้เมื่อไม่มีมอนสเตอร์อัญเชิญจะอ่อนแอมาก
พัฒนาสูงสุดเป็น > Warlock
2.1 Shaman: ชาแมน
เป็นนักบวชผู้สื่อสารกับโลกของวิญญาณ
เมื่ออยู่ในโซนของเทพแห่งสีองค์ใดที่ตัวเองบูชาจะได้รับการคุ้มครองให้รอดพ้นปัจจัยอันตรายของโซนนั้นๆ ไม่ให้ส่งผลทางลบกับชาแมน
และเปลี่ยนเป็นผลดี มีจุดเด่นคือสามารถเรียกวิญญาณออกมาช่วยเหลือได้ตามเทพแห่งสีที่บูชา
เช่นสีขาวเรียกวิญญาณอัศวิน สีเขียวเรียกนางไม้เป็นต้น
พัฒนาสูงสุดเป็น > Worldwaker
2.2 Esper: นักบวชพลังจิต มีแนวการเล่นที่เรียกง่ายๆว่าพระสายบู๊
นักบวชพลังจิตสามารถต่อสู้ได้ด้วยการโจมตีด้วยพลังจิตหรือการถอดจิต
ซึ่งโดดเด่นในด้านการสร้างความยั่วยุที่น้อยกว่าปกติ
นอกจากนั้นยังสามารถเรียกพลังของเทพแห่งสีที่ตัวเองบูชามาสถิตในร่างของตัวเองหรือเพื่อนได้เพื่อเพิ่มความสามารถด้านต่างๆ
เป็นคลาสที่ไม่มีข้อเสียเลย แต่การต่อสู้จะค่อนข้างลำบากเมื่อเทียบกับสายตรงอื่นๆ
พัฒนาสูงสุดเป็น > Mastermind
3. Oracle: นักพยากรณ์ กวีผู้สร้างปาฏิหาริย์ด้วยเสียงเพลง ได้รับความสามารถเพิ่มเติมในรูปแบบของออร่า
ออร่าเหล่านี้สามารถเลือกใช้ได้ทีละอย่าง ควบคู่ไปกับเพลงที่เล่น ในรูปของบีทหรือซาวน์เอ็ฟเฟค เพื่อเพิ่มระยะแสดงผลให้ โดยมีเพียงตัวของผู้วิเศษเท่านั้นที่จะรู้ถึงความผิดปกติของท่วงทำนอง ซึ่งนำไปสู่ความยากของคลาส
ที่ต้องทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากผลของออร่าต่อบทเพลงที่ร้องเล่นออกไปนั้น
พัฒนาสูงสุดเป็น > Magus
คลาส 3
1.1 Arcanist: จอมขมังเวทย์
จอมเวทที่ได้รับการพัฒนาขั้นสูงสุด
มีจุดเด่นจากความสามารถใหม่ที่เรียกว่าเวทพิธีกรรม (Rite) ซึ่งเป็นเวทมนต์ขนาดใหญ่ซึ่งส่งผลกว้างมากโดยตัวของจอมขมังเวทย์ไม่จำเป็นต้องร่ายตลอดเวลา
ภายในพิธีกรรมสามารถใช้เวทที่มีระดับต่ำกว่าหรือเวทพื้นฐานประเภทเดียวกันได้โดยไม่จำเป็นต้องร่ายและใช้วัตถุดิบอีกด้วย
ข้อดีอีกอย่างคือสามารถใช้อักขระเวทระดับสูงสุด ถึงขั้นเขียนยันต์เวทระดับต่ำให้อาชีพอื่นนำไปใช้ได้
มีข้อเสียคือทักษะนั้นมีคูลดาวน์ที่นานมาก ระดับเป็นวันๆในเกมเลยทีเดียว
1.2 Warlock: นักไสยเวทย์ พัฒนาความสามารถจากคลาสสอง ให้อัญเชิญมอนสเตอร์พร้อมกันได้หลายตัวในคราวเดียว
มีจุดเด่นคือการอัญเชิญอสูรรับใช้ส่วนตัวตามสีของคนเรียก (โฮมุนครูส)
ซึ่งพวกมันจะช่วยสร้างวัตถุดิบเวทมนต์ระดับพื้นฐานให้อีกด้วย
ในด้านการทำพันธะสัญญากับมอนสเตอร์นั้น นักไสยเวทย์ที่ครอบครองเครื่องเซ่นที่หายากจริงๆ
(เกรดสี่ขึ้นไป) เท่านั้นจะสามารถเรียกบอสามสีที่แข็งแกร่งออกมาได้เป็นครั้งคราว
2.1 Worldwaker: ผู้ปลุกโลกา ชาแมนที่พัฒนาถึงขั้นสูงสุด
ในระดับที่นอกจากจะสื่อสารกับโลกวิญญาณได้แล้ว ยังสามารถเรียกวิญญาณของโลกธรรมชาติออกมาช่วยเหลือตามสีที่ใช้
ผู้ปลุกโลกสามารถสวดอ้อนวอนให้ป่ารกทึบแหวกออกเป็นทางเดิน เรียกขุนเขาให้ลุกขึ้นมาบดขยี้กองทัพข้าศึกไปจนถึงควบคุมลมฝนเพื่อการเพาะปลูก
ความสามารถเหล่านี้แม้จะไม่สนับสนุนพันธมิตรโดยตรง
แต่เมื่อถูกนำมาใช้เพื่อการรบและยุทธวิธี จัดว่าผู้ปลุกโลกาเป็นตัวอันตรายอันดับหนึ่ง
ข้อเสียหลักของอาชีพนี้คือสามารถควบคุมธรรมชาติได้ตามสีของตัวเองเท่านั้น
หากไม่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมก็ไร้ค่า เช่นผู้ปลุกโลกสีฟ้า
เดินอยู่กลางทะเลทรายก็ไม่มีน้ำให้ปลุกเป็นต้น
2.2 Mastermind: ผู้นำจิตวิญญาณ
หรืออาชีพสายซัพพอร์ทที่ดีที่สุดของเกมนั้น
คือนักบวชพลังจิตที่พัฒนาสูงสุดจนได้รับความสามารถ “ถอดจิต”
และ “เชื่อมจิต” มาครอบครอง
การถอดจิตจะแบ่งร่างแยกของผู้ใช้ออกไปในรูปของวิญญาณ
ซึ่งการใช้ทักษะใดๆของร่างจริงจะแสดงผลที่ร่างแยกด้วย ยกตัวอย่างเช่นสกิลบาเรีย ก็จะเกิดบาเรียขึ้นสองแห่งคือที่ร่างจริงและร่างแยกพร้อมๆกัน
โดยอานุภาพจะถูกหารแบ่งไปตามจำนวนร่างแยกนั้น ถ้าสร้างบาเรียพลัง 100 หน่วย หากถอดจิตไว้ห้าร่าง บาเรียก็จะเกิดห้าแห่งแต่พลังถูกหารเหลือ 25
เป็นต้น ส่วนการเชื่อมจิตนั้นจะเป็นท่าไม้ตายที่จะแชร์บัพ ดีบัพ และความเสียหายให้พันธมิตรทุกคนหารเท่ากันๆ ซึ่งร่างแยกจากการถอดจิตนั้นจะขยายระยะการเชื่อมออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นข้อเสียใหญ่คือความยากในการตัดสินใจนั่นเอง
3. Magus: ผู้วิเศษ
พัฒนาการขั้นสูงสุดของนักพยากรณ์ สามารถเข้าถึงเพลงและบทกวีทรงพลังใหม่ๆได้นับสิบเพลง ได้รับความสามารถที่เรียกว่า ปาฏิหาริย์ เป็นการสร้างภาพหรือปรากฏการณ์ต่างๆในรูปภาพแสงเสียง เพื่อใช้ร่วมกับเพลงและออร่า เป็นอาชีพที่คนต้องการตัวในเรดหรือสงครามกิลด์ เพราะรัศมีของสกิลขยายไกลมาก รับประกันว่าทุกคนในกองทัพจะมีบัพใช้อย่างต่อเนื่อง
หากเป็นบทเพลงหรือออร่าฮีลเลือด การฮีลจะส่งผลทั้งสนามรบตลอดเวลา ลดภาระหน่วยสนับสนุนคนอื่นๆอย่างมหาศาล
อย่างไรก็มีข้อเสียคือความสามารถในการต่อสู้ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นเลยสักนิดเดียว
Tactician Class
[ความสามารถเฉพาะ]
-
Player’s System Interact : ปฏิสัมพันธ์กับระบบสังคม-การค้าในเกมของผู้เล่นสูง
-
Hard to Play : ทุกคลาสเป็นคลาสพิเศษ
ที่เล่นยาก และเปลี่ยนอาชีพยากกว่าปกติ
-
Guild War Specialist : มีความสามารถที่ส่งผลแพ้ชนะต่อสงครามกิลด์
1. Bandit: สายมิจฉาชีพ เป็นอาชีพพิเศษที่สามารถได้เงิน
ไอเทม และค่าประสบการณ์จากการฆ่า NPC และทำลายสิ่งก่อสร้างของผู้เล่นอื่นในจำนวนที่สูงกว่าสังหารมอนสเตอร์
ทักษะของพวกเขาจึงเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะ เช่นเข้าถึงการประกอบวัตถุระเบิดและกับดัก
การพรางตัว และการหลบหนี ข้อเสียหลักคือขาดความสามารถในการต่อสู้โดยตรง และถูกรังเกียจจากสังคมเอาง่ายๆ
พัฒนาการเล่นได้สองแนวทางคือ
นักปลุกระดม > Rioter
มือวางระเบิด > Saboteur
2. Commander: สายผู้บัญชาการ อาชีพที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าเท่านั้น ทักษะติดตัวของพวกเขาจะเสริมพลังให้กับทีมก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นคลาสนี้เป็นหัวหน้า ยิ่งทีมใหญ่มากโบนัสยิ่งสูงมาก ขณะที่ทักษะอื่นส่วนใหญ่ล้วนเป็นการเสริมพลังให้ทีมเช่นกัน และหากคุณไม่มีทีมของตัวเอง หากทำภารกิจกับจ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อย ก็สามารถจ่าง NPC มาขายกองทัพของตัวเองได้เรื่อยๆพัฒนาการเล่นได้สองแนวทางคือ
นักการเมือง >Politician
แม่ทัพ > Warlord
3. Enchanter: สายผู้ปลุกเสก อาชีพที่เน้นการเพิ่มพลังอย่างอย่างหนึ่งให้เป้าหมาย ประกอบด้วยทักษะที่มีความหลากหลายมาก แต่ส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์ไร้ประโยชน์ในสถานการณ์จริง อย่างเช่นเสกให้ลอยเหนือพื้นผิวได้เล็กน้อย เสกให้ผิวสัมผัสแข็งหรือด้าน เสกให้หย่อนหรือตึง รึว่าพลังงี่เง่าอย่างเสกให้ล่องหนได้เมื่อไม่มีใครมองเห็น กับ เสกให้อาวุธสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นก่อนจะฮีลศัตรูกลับทันที (หักล้างกันเองหมด) การหาทางประยุกต์สิ่งไร้ประโยชน์ให้มีประโยชน์คือหน้าที่ของผู้ปลุกเสก ส่วนจุดอ่อนคงไม่ต้องพูดถึง พัฒนาได้สองแนวทางคือ
ผู้ปลุกเสกดวงดาว > Star Chanter
ผู้ปลุกเสกกาลอวกาศ > Void Chanter
คลาส 2
1.1 Rioter: นักปลุกระดม
ได้รับความสามารถใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ NPC เป็นหลัก โดยเฉพาะ
NPC ในเขตเมืองของคู่อริที่อุตส่าห์เสียเงินจ้างมา
คนกลุ่มนี้จะชอบเป็นพิเศษ ทักษะของพวกเขาคือการก่อจลาจลล้วนๆ
แถมได้รางวัลตอบแทนซะด้วย โดยการทำให้ NPC ของเมืองนั้นๆลุกขึ้นมาต่อต้านผู้เล่นที่เป็นเจ้าของเมืองด้วยเงื่อนไขต่างๆ
เช่นการพูด หรือการจ้าง หรืออย่างง่ายที่สุดคือการทำให้ NPC ขายของประท้วงหยุดงานทั้งเมืองเท่านี้เศรษฐกิจของเมืองคู่แข่งก็จบ
แม้จะไม่สร้างความเสียหายอะไรมากมาย แต่ความปั่นป่วนนั้นถือเป็นอันดับหนึ่ง
พัฒนาสูงสุดเป็น > Terrorist
1.2 Saboteur: นักวางระเบิด
และนักวางเพลิง
ผู้ได้รับความสามารถในการประกอบวัตถุระเบิดขั้นสูงและผลิตสารอันตรายต่างๆ
ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายสิ่งก่อสร้างและสาธารณูปโภคโดยเฉพาะ
มีจุดเด่นในการใช้ระเบิดที่ผลิตเองมาประกอบการต่อสู้และตัดกำลังของศัตรู ข้อเสียหลักสกิลที่ทำลายสิ่งก่อสร้างนั้นไม่ปลอดภัยแม้แต่กับนักวางระเบิดเอง
และผลลัฑธ์ที่ได้ยังไม่สามารถคาดเดาหรือควบคุมได้ จึงต้องมีชีวิตอยู่ในเกมด้วยความเสี่ยงล้วนๆ
พัฒนาสูงสุดเป็น > Terrorist เช่นกัน
2.1 Politician: นักการเมือง เป็นอาชีพที่เกี่ยวพันกับเงินเป็นหลัก
นักการเมืองสามารถจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อตัว NPC มาทำประโยชน์ให้ตัวเองได้
ยกตัวอย่างเช่น ซื้อตัวทหารยามมาเป็นบอดีการ์ด ซื้อตัวพ่อค้าเพื่อให้ลดราคาของแบบสุดขั้วแกเพื่อนของตน
ไปจนถึงซื้อตัวเจ้าเมืองที่เป็นผู้เล่นด้วยกันเองให้ยกเมืองให้อีกด้วย
ซึ่งในเขตนี้นักการเมืองจะมีอำนาจบาตรใหญ่ราวกับเป็นกษัตริย์เลยทีเดียว แม้แต่ค่าหัวก็ไม่สามารถนำไปขึ้นได้
หากผู้เล่นอื่นมาใช้จ่ายก็ต้องเสียภาษีพิเศษเข้ากระเป๋านักการเมืองเพิ่มด้วย
พัฒนาสูงสุดเป็น > Tyrant
2.2 Warlord: แม่ทัพ อาชีพที่เกี่ยวกับการทำสงครามเพื่อขยายดินแดนของผู้เล่น
มีทักษะซึ่งจะเสริมพลังให้กับพันธมิตรในรูปของกระบวนทัพ โดยมีแม่ทัพเป็นศูนย์กลางของการตั้งขบวน
เช่น แถวหน้ากระดานหลังแม่ทัพยิงไกลขึ้น 100 เมตร
หรือวงกลมรอบแม่ทัพเพิ่มพลังป้องกัน 90% หากใครทำตามก็จะได้บัพสุดยอดนั้นไป
(มีระยะจำกัด) ถ้าได้ผู้เล่นอาชีพแม่ทัพที่เก่งๆมาสักคน
ก็สามารถกุมัยนะในสงครามได้ไม่ยาก โดยเฉพาะสงครามกิลด์ หรือ สงครามตีเมือง
พัฒนาสูงสุดเป็น > Conqueror
3. Star/Void Chanter: ผู้ปลุกเสกดวงดาว
หรือ ผู้ปลุกเสกกาลอวกาศ อาชีพขั้นพัฒนาของผู้ปลุกเสกนี้มีขั้นตอนการเปลี่ยนอาชีพเหมือนกัน
และจะเลือกสายได้ในตอนจบ ซึ่งทักษะใหม่ที่ได้รับมานั้นทรงพลังมาก เมื่อนำมาเสริมร่วมกับพลังไร้ประโยชน์ของคลาสแรกอย่างสร้างสรรค์
ก็เกิดคอมโบขี้โกงสุดพิสดารได้ สายผู้ปลุกดวงดาวได้ทักษะเสริมพลังตามรอบการหมุนของดวงดาวบนขอบฟ้าของฤดูต่างๆในเกม
(หนึ่งฤดูยาวสี่เดือนเกม = ประมาณหนึ่งเดือนจริง)
และทักษะในการเรียกพลังของหมู่ดาวสถิตกับร่าง ในขณะที่ผู้ปลุกเสกกาลอวกาศ
ได้รับพลังเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ ทำให้ย้อนเวลาหรือเร่งเวลาของสิ่งที่ปลุกเสกได้อย่างใจนึก
พัฒนาสูงสุดเป็น > Planeswalker
คลาส 3
1.Terrorist: ผู้ก่อการร้าย อาชีพผู้เป็นที่สรรเสริญของพันธมิตร
และการสาปแช่งจากศัตรู ทักษะการใช้ระเบิดและการก่อจลาจลนั้นจะส่งผลมากกว่าเดิมสองถึงสามเท่า
นอกจากนั้นเข้าถึงทักษะการปลดไอเทม ขโมยเครื่องสวมใส่
และสุ่มการโจมตีแบบยกกำลัง ปัจจุบันยังไม่มีใครระบุพลังที่ชัดเจนได้
เนื่องจากส่วนใหญ่จะมัวแต่หัวปั่นเพราะความป่วนของผู้ก่อการร้าย
เกินกว่าจะมาตรวจสอบหรือให้ความสนใจ
2.1: Tyrant: ทรราช พลังของทรราชไม่ใช่การสนับสนุนหรือการต่อสู้ แต่เป็นการกดขี่ผู้เล่นอื่นด้วยกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ใดๆทรราชยึดครอง
ยกตัวอย่างเช่นจำต้องแบ่งไอเทมจำนวนหนึ่งมาส่งเป็นส่วยทุกครั้งที่เข้าเมือง ไม่เช่นนั้นจะโดน
NPC ในพื้นที่คว่ำบาตรใส่และส่งกองทัพมาล่า
ไปจนถึงการมีสิทธิเก็บเงินในการเข้าถึงพื้นที่และบริการต่างๆอย่างเหมือง
ร้านซ่อมอาวุธ และที่เก็บเลเวล เรียกได้ว่าโกงกินกันจนพรรคพวกอิ่มหมีพลีมันทีเดียว
ส่วนใครไม่ใช่พรรคพวกก็ถูกกดจมดินไปซะ
2.2: Conqueror: ผู้พิชิต ความแข็งแกร่งของผู้พิชิตขึ้นอยู่กับพื้นที่ใต้การปกครอง ผู้พิชิตสามารถเสริมความสามารถทางการทหารให้
NPC และป้อมปราการต่างๆได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงจัดทัพผู้เล่นขนาดย่อมขึ้นมาเรียกว่าองค์รักษ์
โดยจะเกื้อหนุนผู้พิชิตของพวกเขาเป็นหลัก ผู้พิชิตได้รับสกิลต่อสู้จำนวนหนึ่งซึ่งสร้างความเสียหายไม่รุนแรงแต่สร้างข้อได้เปรียบในสงคราม
พลังของทักษะเหล่านี้จะสูงขึ้นเมื่ออยู่ในพื้นที่การปกครองอีกด้วย
3. Planeswalker: ผู้ท่องมิติ อาชีพเดียวที่เข้าถึงการใช้ประตูมิติรูปแบบต่างๆ
ทำให้สามารถท่องเที่ยวและเปลี่ยนทิศทางของสิ่งต่างๆได้ผ่านการคำนวณระยะที่แม่นยำ โดยพื้นฐานจะอยู่ที่การกำหนดทางเข้าและทางออกของประตู
จัดเป็นอาชีพที่ถือว่ามีคนเล่นน้อยที่สุดในเกมคัลเลอร์แคลช และมีคนที่ฝ่าฟันพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้น้อยมากๆ
ระบบสถานะ
ผู้เล่นทุกคนจะมีค่าสถานะเท่ากันตอนเริ่มต้น และได้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นต่อระดับนักผจญภัยเท่าๆกัน จนกระทั่งเลือกสีเป็นกับคลาสเป็นของตนเองได้แล้ว ค่าสถานะต่างๆจึงจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแตกต่างกันไป
ค่าสถานะของผู้เล่น
1.พลังชีวิต – จำนวนความเสียหายทั้งหมดที่สามารถรับได้
2.อัตราฟื้นฟูพลังชีวิต – ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตต่อห้าวินาที
3.พลังเวท – จำนวนทรัพยาการทั้งหมดในการใช้ทักษะสี
4.อัตราฟื้นฟูพลังเวท – ความเร็วในการฟื้นฟูพลังเวทต่อห้าวินาที
5.พลังโจมตี – ความเสียหายที่สามารถสร้างได้ต่อครั้ง
6.พลังป้องกันกายภาพ – ความทนทานต่อการโจมตี
7.พลังสี – ความเสียหายเวทมนต์ที่สามารถสร้างได้ต่อครั้ง
8.พลังป้องกันเวทมนต์ – ความทนทานต่อการโจมตีด้วยเวทมนต์
9.ความเร็ว – ความเร็ว , ความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว และใช้ทักษะ
10.โชค – โอกาสในการสุ่มได้ของเกรดสูงจากระบบ และโอกาศติดคริติคอล
ค่าสถานะผิดปกติ
1.ตาย – พลังชีวิตลดลงเหลือศูนย์ ร่างกายจะไม่สามารถขยับได้และล้มลง เปลี่ยนฐานะเป็น ศพ ถ้าปล่อยศพไว้นานเกินห้านาทีโดยไม่มีใครมาช่วยด้วยวิธีพิเศษจะเสียชีวิตและกลับจุดเซพ
2.โอเวอร์คิล – ตายโดยได้รับความเสียหายมากกว่า50%ของพลังชีวิตสูงสุด จะเสียชีวิตทันทีและกลับจุดเซพ
3.มึนงง – เกิดอาการวิงเวียน ไม่สามาถขยับร่างกายหรือใช้ทักษะได้ชั่วคราว
4.พันธนาการ – ถูกจับอยู่กับที่ ไม่สามารถเคลื่อนที่แต่สามารถใช้ทักษะบางประเภทได้
5.เป็นใบ้ – ไม่สามารถใช้ทักษะได้ชั่วคราว นอกจากนั้นยังไม่สามารถพูดได้
6.ตาบอด – สูญเสียการมองเห็นทั้งหมดชั่วคราว
7.เบิร์น – ถูกเผาผลาญด้วยพลังรูปแบบต่างๆ ลดพลังอย่างหนึ่งลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นพลังชีวิต สามารถลามไปติดสิ่งข้างเคียงได้
8.สโลว์ – ร่างกายเกิดอาการหน่วง เคลื่อนไหวช้ากว่าปกติ โจมตีช้าลง และเดินช้าลง
9.อับโชค – โชคลดต่ำลงชั่วคราว ลดอัตราการติดคริติคอล และโอกาสในการดรอปไอเทม
10.สาปสูญ – หายหรือถูกย้ายออกไปจากระบบชั่วคราว
11.สถานะพิเศษ – สถานะผิดปกติที่เกิดจากผลบางอย่างเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขได้จนหมดระยะเวลา
ระบบสังคม
ใน cc มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเพื่อให้ผู้เล่นติดต่อสื่อสารหรือร่วมมือกัน การทำกิจกรรมหลายอย่างในเกมจำเป็นต้องมีกลุ่มสังคมเท่านั้น
1.เพื่อน – ผู้เล่นจะบันทึกเพื่อนได้มากที่สุดไม่เกิน100คน ระบบนี้จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ที่เป็นเพื่อนได้ในรูปแบบโทรจิต หรือ ห้องสนทนาแบบเห็นหน้า นอกจากนี้ยังสามารถตั้งระบบให้ทำการเตือนเมื่อมีเพื่อนเข้าสู่ cc ได้
2.ทีม/ปาร์ตี้ – กลุ่มของผู้เล่นที่แบ่งปันค่าประสบการณ์จากการต่อสู้ร่วมกัน เมื่ออยู่ในทีมเดียวกันจะไม่ได้รับความเสียหายจากสมาชิกในทีม มีสมาชิกสูงสุดไม่เกิน12คน สามารถร่วมมือกับทีมอื่นได้สูงสุดสิบทีม เรียกว่า กองพยุหะ (Legion)
3.กิลด์ – กลุ่มของผู้เล่นตั้งแต่ห้าคนมารวมกันโดยการจดทะเบียนจะเป็นกิลด์ ผู้เล่นในกิลด์จะสามารถบริจาคทรัพย์สินและไอเทมเข้าสู่กองกลางของกิลด์ได้เพื่อนำไปใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ค้าขาย จัดหาอุปกรณ์ สร้างฐานที่มั่นหรือเข้าร่วมสงคราม ระดับของกิลด์มีห้าระดับ ยิ่งระดับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรับสมาชิกได้มากขึ้นตาม และที่รับ 1 3 5 จะสามารถเลือกสีตัวแทนของกิลด์ได้หนึ่งสีเพื่อเพิ่มอรรถประโยชน์เฉพาะทาง
ระบบการแข่งขัน
ยามเมื่อสีต่างๆมาปะทะกัน(color clash) ก็จะเกิดกิจกรรมพิเศษโดยเฉพาะการแข่งขัน สำหรับผู้ชนะหรือผู้ที่ทำอันดับต้นๆของการแข่งขันได้จะได้รับเงินตอบแทนมหาศาลและไอเทมเกรดสูง ซึ่งสามารถนำมาแลกเป็นเงินจริงได้ จุดนี้จึงทำให้เกิด ผู้เล่นอาชีพ ที่เน้นทำการแข่งขันโดยเฉพาะขึ้นมาทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวเพื่อล่ารางวัล
ปัจจุบันการแข่งขันที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดคือ สงครามกิลด์ และ การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศ
ความคิดเห็น