คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EPS I ll BURNING HEART
EPS I ll BURNING HEART
MIN-JUN TALK
ผมเดินไปเดินมารอบๆสนามบินแล้วเดินไปชนกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า เธอขอโทษผมทีหนึ่ง แต่ผมไม่สนใจเธอแล้วเดินต่อไปหามุมสงบๆเพื่อกดเบอร์โทรออกหาคนๆหนึ่ง
“ผมเจอเธอแล้วครับ อา”
เธอตั้งตารอคอยฉันไว้ให้ดีเถอะ ฉันจะตามติดเธอไปดั่งเงา ฉันจะตามเธอไปทุกที่ที่เธอไป แล้วเราจะได้พบกัน
ฉันก้าวขาออกมาจากสนามบิน เฮ้อ! เจอกันอีกแล้วนะโซล ทันทีที่กลับมานักสืบที่ฉันจ้างไว้เมื่อหลายปีก่อนก็ได้โทรมานัดให้ฉันไปพบเพราะมีเรื่องสำคัญที่อยากจะพูดด้วย จะเป็นเรื่องของพี่ฮยอนจุงรึเปล่านะ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะดีนะสิเพราะหลายสิบปีมาแล้วที่ฉันไม่ได้ข่าวคราวของพี่เลย ฉันเลยให้นักสืบที่ไว้ใจได้สืบข่าวคราวของครอบครัวเขาอย่างเงียบๆ
"โซยอนๆๆ! ทางนี้ๆ"ฉันหันไปมองหาเสียงที่เรียกชื่อฉันเป็น มินจี นั้นเอง เธอเอามินิสีขาวมารอรับฉันเธอโบกไม้โบกมือไปมาเหมือนกับว่าฉันเป็นดารางดังที่เธอชอบ ฉันส่ายหน้ากับการกระทำของเธออย่างระอา แล้วยิ้มโบกมือตอบให้เธอ
"โอ๊ะ! ขอโทษคะ"ฉันกล่าวคำขอโทษให้กับผู้ชายที่ฉันเดินชน เขาไม่สนใจอะไรแล้วเดินต่อไป เฮอะ! เดี๋ยวนี้คนเกาหลีเขานิยมปิดหน้าปิดตาเดินตามท้องถนนแล้วหรอเนี้ย ฉันคิดในใจแล้วรีบเดินไปหามินจี ยัยนั้นคว้าตัวฉันไปกอดใหญ่จนฉันเกือบจะหายใจไม่ออก มินจีขับรถไปส่งฉันที่บ้านใหญ่ ก่อนจะนัดให้ออกมาอีกทีตอนกลางคืน ฉันกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับสปอร์ตสีแดงตรงไปที่ร้านกาแฟเพื่อไปพบนักสืบชเว
"รอนานมั้ยคะ?"พอฉันไปถึงก็พบว่าเขารออยู่ก่อนแล้ว
"ไม่นานครับ เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ"
"เรื่องที่คุณให้ผมสืบไว้นั้นกว่าจะพบก็ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว และเรื่องที่ผมพูดต่อไปนี้ผมอยากให้คุณเตรียมใจเอาไว้ให้ดีนะครับ"ฉันพยักหน้าให้เขาประมาณว่า พูดมาเถอะฉันรับได้ทุกอย่าง
"ครอบครัวของรองประธานคิม ได้เสียชีวิตหมดแล้วครับในอุบัติเหตุรถคว่ำ ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่เขาโดนไล่ออกมาจากบ้านท่านประธานนะครับ"เรื่องที่นักสืบชเวบอกกับฉัน ฉันถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก ฉัน.....ฉันอยากจะให้เขาบอกฉันต่ออีกนิดว่าเรื่องที่เขาบอกฉันมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องล้อเล่นและแน่นอนฉันจะไม่โกรธเขาเลยถ้าเขาพูดมันออกมา แต่เขากลับไม่พูดอะไรแล้วเดินออกจากร้านไปทิ้งให้ฉันนั่งอยู่คนเดียว น้ำตาฉันไหลออกมาตอนไหนไม่รู้ ถ้าคุณอาทั้งสองเสียชีวิตแล้ว นั้นก็เเสดงว่าพี่ฮยอนจุงก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้วใช่มั้ย โถ่!พระเจ้าช่วยบอกฉันทีเถอะว่ามันไม่จริง
ฉันบึ่งรถตรงไปที่คลับที่นัดกับมินจีไว้ในตอนแรก เธอรอฉันอยู่ที่นั้นแล้ว วันนี้ฉันอยากจะเมา เมา เมาแล้วให้ลืมเรื่องทั้งหมดไป เราเข้าไปข้างในคลับฉันสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุดมาแล้วขอนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง โดยให้มินจีกับกลุ่มเพื่อนที่เหลือไปมันกันบนฟลอร์เพราะตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้น
"พี่ฮยอนจุง...ทำไมพี่ถึงทิ้งฉันไป"ฉันพึมพำคนเดียวพลางลูบสร้อยที่ฉันใส่มันไว้กับตัวตลอดไปมา ฉันกระดกเหล้าเข้าปาก อื้ม...แอลกอฮอล์นี่มันดีจริงๆ แล้วแก้วแล้วแก้วเล่าถูกรินเข้าไปในปาก มันร้อนราวเปลวไฟเหมือนกับจะแผดเผาไปทั่วทั้งลำคอของฉัน
เช้าวันต่อมาฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากลับมาถึงคอนโดของตัวเองได้ยังไง บ้าเอ้ย! ปวดหัวชะมัด ในขณะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในครัวเพื่อที่จะหาน้ำดื่ม แต่โทรศัพท์ดันดังขึ้นมาก่อน
"คะพ่อ จะไปเดี๋ยวนี้แหละคะ"ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถตรงไปยังบริษัท คุณพ่อจะรู้เรื่องที่ฉันรู้มาเมื่อวานนี้มั้ยนะ ฉันรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่ออย่างรวดเร็ว
"มีอะไรคะ"ฉันทักทายเหมือนคนห่างเหิน เราสองคนไม่เจอกันมานานมากแล้ว ตั้งแต่ฉันเริ่มเข้ามัธยมปลายก็ถูกส่งไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำ แถมพอเข้ามหาลัยพ่อก็ส่งฉันไปเรียนที่อเมริกา เรียกได้ว่าชีวิตฉันทุกอย่างนั้นถูกพ่อกำหนดไว้หมดแล้ว
"ที่พ่อเรียกมาในวันนี้ เพราะหวังว่าลูกจะเริ่มทำงานบริษัทให้พ่อสักที เร็วๆนี้ทางJE GROUP ของเราจะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างเป็นทางการบริษัทเราจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พ่ออยากให้ลูกมีส่วนร่วมกับการทำงานในครั้งนี้ด้วย เพราะอย่างน้อยในนั้นก็ยังมีคนที่พ่อไว้ใจอยู่อีกหนึ่งคน ไม่เหมือน..."
"ไม่เหมือนเรื่องในอดีตใช่มั้ยคะพ่อ ครอบครัวของคุณอาเสียชีวิตไปหมดแล้วนะคะ เรื่องนี้พ่อรู้รึเปล่า"ฉันตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับพ่อออกไป
"อะไรนะ!!"พ่อตะหวาดเสียงดังจนทำให้ฉันรู้สึกกลัว
"ลูกไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนกัน"
"หนูอยากรู้ว่าพี่ฮยอนจุงอยู่ไหนเลยจ้างนักสืบช่วยตามหา เขาบอกเรื่องนี้กับหนูเมื่อวานว่าตั้งแต่วันนั้นที่ครอบครัวของคุณอาออกจากบ้านของเราไปเขาก็เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำข้างทาง พ่อ...ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ"
"ออกไปก่อน พ่ออยากอยู่คนเดียว"น้ำเสียงพ่อเริ่มอ่อนลง ฉันจึงเดินออกมาจากห้องทำงาน พ่อคงจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ดูจากท่าทางของคุณพ่อแล้วฉันคิดว่าคุณพ่อคงจะเสียในไม่น้อย ขอโทษด้วยนะคะพ่อที่หนูแอบคิดว่าพ่อส่วนกับการตายของครอบครัวคุณอาในครั้งนี้ด้วย ฉันเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเองที่คุณพ่อสั่งลูกน้องเตรียมไว้ให้ฉันก่อนหน้านั้นแล้ว
"เรียกผู้จัดการคิมมาพบฉันที"ฉันสั่งพนักงานข้างหน้าห้อง ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ไม่นานผู้จัดการคิมที่ฉันต้องการพบตัวก็เข้ามา
"มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับคุณหนู"
"เรื่องงานบริษัทนะคะ คุณพ่อบอกให้ฉันมาถามจากคุณ ฉันต้องทำอะไรบ้างช่วยอธิบายให้ฉันฟังด้วยละกันนะคะ"ฉันอยากจะเริ่มลงมือทำงานแล้ว ด้วยความที่สงสารคุณพ่อที่ต้องทำงานคนเดียวมาตลอดฉันจึงอยากจะแบ่งเบาภาระของคุณพ่อบ้าง ผู้จัดการคิมเริ่มจากการพาฉันเดินไปสำรวจบริษัทก่อนว่ามีแผนกไหนอะไรยังไงบ้าง และเอาเอกสารโครงการที่จะเกิดขึ้นใหม่ที่คุณพ่อมอบหมายมาให้ฉันศึกษาก่อนเพื่อฉันจะได้พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ดูผู้จัดการคิมจะเป็นคนของบริษัทมานานแล้วดูจากอายุ และความคล่องแคล่วในการทำงาน
"ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้นะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"คะ ขอบคุณมากนะคะ"ฉันกล่าวขอบคุณ แล้วเขาก็เดินออกจากห้องทำงานฉันไป ฉันบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะเริ่มลงมือตะลุยเอกสารกองโตทั้งหมดบนโต๊ะนี้ เวลาผ่านไปเป็นเวลานานเอกสารส่วนมากล้วนผ่านตาฉันไปบ้างแล้วเหลืออีกนิดหน่อยเท่านั้นที่ยังไม่ได้อ่าน ฉันเหลือบตามองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเปิดประตูออกไปข้างนอก พบว่าพนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วเหลือแต่ห้องของฉันห้องเดียวที่ยังเปิดไฟอยู่
"ตุ๊บ!"เสียงกองหนังสือหล่น
"ใครนะ!"ฉันหันไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นมาก่อน
"มินจี ว่าไง"ฉันรับโทรศัพท์มินจีที่โทรเข้ามาแล้วรีบเดินไปกดลิฟต์โดยเร็วโชคดีที่มีพนักงานทำความสะอาดเดินมาลงลิฟต์เป็นเพื่อนฉัน บางทีเสียงเมื่อกี้เธออาจจะเป็นคนก็ได้
"คืนนี้หรอ ฉันเหนื่อยแล้วอะมินจี อือๆ ........ไว้ครั้งหน้าก็แล้วกันนะ"มินจีโทรมาชวนฉันไปคลับอีกครั้งแต่วันนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน เธอทำเสียงงอนนิดหน่อยก่อนบอกว่าโกรธฉันจริงๆที่ไม่ได้ไปกับเธอคืนนี้แล้ววางสายไป วันนี้ฉันกะจะไม่นอนที่คอนโดเลยขับรถกลับไปที่บ้านใหญ่
"คุณหนูกลับมานอนบ้านหรอคะวันนี้"
"คะป้า"ฉันเดินขึ้นไปบนห้อง ห้องที่ฉันไม่ได้กลับเข้ามานานมากแล้ว บ้านหลังนี้มักจะมีความหลังแย่ๆเสมอ ฉันมองไปที่รูปคุณแม่ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง
"หนูกลับมาแล้วนะคะแม่"
เช้าวันต่อมาฉันให้ป้าแม่บ้านเตรียมลิลลี่สีขาวช่อใหญ่เพราะฉันจะนำไปไหว้คุณแม่ที่สุสาน วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของคุณแม่พอดีไม่รู้ว่าคุณพ่อจะจำได้รึเปล่าก็คุณพ่อทำแต่งานๆนี่นะคุณแม่ถึงได้จากไป เมื่อฉันจัดแจงทำธุระส่วนตัวในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วพอตอนสายๆฉันก็มาถึงที่สุสาน ฉันเดินมาที่หน้าหลุมศพของคุณแม่แล้ววางช่อดอกไม้ลงที่ข้างหน้า ฉันลูบป้ายไปมาเพื่อเป็นการทักทาย จากนั้นฉันก็นั่งลงอยู่เป็นเพื่อนแม่พักใหญ่ ที่นี้ดูร่มรื่นและเงียบสงบดี หวังว่าคุณแม่อยู่ที่นี้คงจะสบายดีใช่มั้ยคะ?
"ไปก่อนนะคะคุณแม่ ไว้วันหลังหนูจะมาเยี่ยมใหม่"ฉันเดินออกมาจากสุสานเป็นเวลาเดียวกันกับที่บีเอ็มสีดำมาจอดพอดี มีคนเปิดประตูรถลงมาในมือถือลิลลี่ช่อใหญ่เขาใส่สูทสีดำ สวมวันกันแดด เขาเดินสวนฉันไป เเวบเดียวกันนั้นฉันแอบหลงคิดไปว่าเขาคือ พี่ฮยอนจุง.....ฉันปัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวก่อนจะขับรถไปหาคุณพ่อที่โทรมานัดให้ฉันไปพบที่ร้านอาหารประจำตั้งแต่เมื่อเช้า
"จองไว้รึเปล่าคะ เชิญทางนี้เลยคะ"พนักงานที่ร้านพาฉันไปนั่งที่โต๊ะ ฉันนั่งรอคุณพ่ออยู่สักพักก่อนที่จะมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามานั่ง
"ผิดโต๊ะแล้วมั้งคะ"
"ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าคุณคือคุณโซยอน"เขาถอดแว่นกันแดดออกแล้วนั่งลงพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย
"คุณเป็นใครกัน"ฉันถามเขาออกไปผู้ชายคนนี้ที่เมื่อกี้เจอที่สุสานนี่นาฉันจำได้แม่น แล้วเขามาที่นี้ทำไมกัน
"ผมจงฮวาครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณพ่อคุณเป็นคนนัดผมให้มาที่นี้"คุณพ่อหรอ! นี่มันอะไรกัน คุณพ่อนัดให้ฉันมาดูตัวอย่างนั้นหรอ คุณพ่อนะคุณพ่อจะบ่งการชีวิตฉันทุกอย่างเลยใช่มั้ย
"ฉันกลับละ!"ฉันลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋า
"ไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรอครับคุณโซยอน ถ้าไม่รังเกียจทานข้าวกับผมสักมื้อสิครับ"เขายิ้มแบบนั้นอีกแล้ว แล้วทำไมฉันต้องนั่งลงด้วยเนี้ย! เขาสั่งอาหารมาให้ฉันเป็นชุดเดียวกันกับของเขา เราต่างคนต่างทานโดยไม่พูดอะไรสักคำ หลังนั้นไม่นานพอทานกันเสร็จแล้วฉันก็ขอตัวกลับทันที
"ไว้พบกันใหม่นะครับ คุณโซยอน"เขายิ้มแบบนั้นให้ฉันอีกเป็นครั้งที่สาม แต่ฉันไม่สนใจหรอกตอนนี้ฉันสนใจแค่คุณพ่อเท่านั้น ฉันรีบขับรถกลับไปที่บริษัททันที
"คุณพ่อคะนี่มันอะไรกัน!"
"อะไรของลูกนี่มันคืออะไรละ"
"คุณพ่ออย่าทำมาเป็นไม่รู้เรื่องที่หนูถามสิคะ เรื่องที่ร้านอาหารวันนี้มันคืออะไร"
"ก็แค่ไปกินข้าวกันแค่นั้นเอง เขาเป็นลูกเพื่อนพ่อท่าทางอัธยาศัยดีพ่อก็เลยนัดให้ลูกมาทานข้าวเป็นเพื่อนเขาก็แค่นั้นเอง ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
"คุณพ่อ! มันจะไม่มีอะไรได้ยังไง คุณพ่อจะมาบังคับหนูแบบนี้ไม่ได้นะคะ"
"พ่อไปบังคับอะไรลูกกันละ"
"พ่อทำอะไรพ่อก็รู้อยู่ ทั้งชีวิตหนูเดินตามทางที่พ่อเลือกทุกอย่าง แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่พ่อไม่ควรเข้ามายุ่ง อย่าให้หนูต้องเป็นเหมือนคุณแม่เลยนะคะ"เหมือนฉันจะทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ที่ประโยคสุดท้าย แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก ฉันเดินออกไปจากบริษัทโดยที่ไม่คิดจะกลับเข้ามาอีกเลย
"มินจี คืนนี้นะที่เดิม"ฉันโทรศัพท์ไปนัดกับมินจีให้มาพบกันที่คลับคืนนี้ก่อนจะกลับคอนโดเข้าไปอาบน้ำเเต่งตัว
คืนนี้ฉันใส่อะไรง่ายๆ โดยเลือกเกาะอกรัดรูปสีดำ สกินนี่สีดำ รองเท้าส้นสูงสีดำ เอาเข้าไปสิ!ชีวิตฉันมันมืดมนดีนักนี่
"เฮ้! โซยอนทางนี้"มินจีโบกมือให้ฉันข้างตัวเธอมีผู้ชายยืนอยู่ด้วยสองสามคน แฟนใหม่เธอเหรอ? ฉันถามตัวเองด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปหามินจี
"โซยอน! นี่แฟนใหม่ฉันแหละพึ่งเจอกันคืนก่อน เป็นไงหล่อใช่มั้ย"มินจีหันมากระซิบที่ข้างหูฉันก่อนจะชี้ไปให้ดูผู้ชายของเธอเขายืนยิ้มอยู่ตรงนั้นแล้ว จงฮวา!
"นายมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง!"ฉันถามเขาด้วยความตกใจ
"อะไรกันรู้จักกันหรอกหรอ"
"เอ่อ....นิดหน่อยนะเข้าไปข้างในเถอะ"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินเข้าไปในผับแทน อะไรกันวันนี้นายมานัดดูตัวกับฉัน วันนี้มินจียังมาบอกอีกว่านายเป็นแฟนใหม่เธอ จงฮวานายเป็นใครกันแน่!
คืนนี้ฉันแทบจะไม่สนุกเลย ฉันได้แต่นั่งมองมินจีที่เต้นอย่างสนุกอยู่บนฟลอร์กับจงฮวา และกลุ่มเพื่อนของพวกเขา
"ชื่ออะไรหรอ ครับ?"เพื่อนคนนึงของจงฮวาเดินเข้ามาหาฉัน
"อะไรนะคะ"เพราะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มฉันจึงได้ยินเข้าไม่ถนัดนัก เขาจึงหันมากระซิบที่ข้างหูฉันว่าฉันชื่ออะไร ฉันหัวเราะนิดนึงก่อนตอบเขาไป ส่วนเขาก็แนะนำตัวเองว่าชื่อ 'ซองโฮ' เขาชวนฉันคุยอย่างถูกคอไม่นานมินจีก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
"ไปถึงไหนกันแล้วละ!"เธอเดินมานั่งกลับฉันก่อนจะถามคำถามเบาๆ
"ถึงไหนอะไรกันเธอ เขาแค่มาชวนฉันคุยเฉยๆ"ฉันตอบไปก็เขาเข้ามาชวนคุยเฉยๆนี่นา ยัยมินจีอะชอบเว่อร์ไปตลอดเลย มินจีหัวเราะเสียงดังก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบอีก
"แต่เขาบอกกับฉันว่า เขาชอบเธอ นะโซยอน"
"บ้าไม่จริงหรอก"ฉันบอกมินจี พลางมองไปที่ซองโฮก็เห็นว่าเขามองฉันอยู่ฉันยิ้มให้นิดนึง โถ่! อะไรกันเนี้ย ฉันหลบสายตาที่ซองโฮมองมาก่อนจะเสมองไปทางอื่นแล้วก็ต้องเจอกับสายตาของจงฮวา ทำไมเขาต้องมองมาทางฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ ฉันขอตัวกลับแล้วดีกว่าพรุ่งนี้คงต้องไปจัดการกับกองเอกสารที่เหลืออีก
"มินจี! ฉันกลับก่อนนะ"
"อ้าว! จะไปแล้วหรอ"
"อื้ม...พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานต่อนะ เธอเข้าใจนะ"มินจีพยักหน้านิดๆ ฉันไปบอกลาเพื่อนๆของมินจีรวมทั้ง ซองโฮด้วย แล้วเดินออกไปจากผับ ฉันไปเอารถแล้วขับออกไปทันทีถนนเส้นนี้ทำไมน่ากลัวแบบนี้นะ
"ตึ๊ก"รถดับ ฉันรีบสตารท์รถ แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่ติดสักที ฉันค้นหาโทรศัพท์มือถือจะโทรหามินจีแต่โทรศัพท์ดันแบตหมดอีก ทำยังไงดีไม่กล้าลงจากรถด้วยสิ แล้วที่นี้มันตรงไหนเนี้ย ในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าเปิดประตูรถลงไป
"รถเป็นอะไรหรอจ้ะน้องสาว"นักเลงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน ฉันรีบเดินหนีเพระาเห็นท่าไม่ดีแน่ๆ พวกมันเดินเข้ามาขว้างทางฉันแล้วล้อมทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
"ขาวชะมัดเลยวะ"พวกมันคนนึงตะโกนขึ้น ไอ้บ้า!
"xxxxxxx ชะมัดเลยวะ"และคำอีกหลายคำที่มันวิจารณ์รูปร่างฉัน ล้วนหยาบคายทั้งนั้น
"เฮ้ย! จับไว้"
"กรีีด! พวกแกจะทำอะไรปล่อยฉันนะ"ฉันร้องพร้อมสะบัดตัวไปมาเพื่อไม่ให้พวกมันแตะตัว แต่สุดท้ายแรงพวกมันก็มีมากกว่าอยู่ดี มันจับฉันไว้พร้อมลูบไล้เเขนฉันไปมา
"กรี๊ด! อย่านะ อย่าแตะต้องตัวฉัน.....พลั่ก"จงฮวา! เขาเข้ามาต่อยที่หน้าของไอ้บ้าคนนึงที่จับแขนฉัน
"แกเป็นใคร"
"ฮึ!"เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเข้าไปจัดการกับพวกมัน พวกเขาเเลกมัดกันไปมา สายตาของจงฮวาตอนนี้ดูดุร้ายเหลือเกิน พวกมันคนนึงหยิบมีดขึ้นมาแล้วฟันไปที่หลังของเขา เสื้อฉีกออกเผยให้เห็นรอยสักอันหน้ากลัวกลางหลังของเขา
"ย้ากกกกก!"เขาร้องตะโกนขึ้นมาก่อนจะจัดการพวกมันจนครบ ส่วนเขาเองนั้นก็แทบไม่ไหวเหมือนกันเขาเดินมาใกล้ฉัน เสื้อเขาตอนนี้กระดุมหลุดออกเผยให้เห็นหุ่นอันเซ็กซี่ของเขาที่ถ้าใครได้มองคงต้องละลายแน่นอน
"นายไม่เป็นไรใช่มั้ย!"ฉันรีบเข้าไปช่วยพยุงตัว เขาไม่พูดอะไรฉันช่วยพาเขามาที่รถฉัน แล้วฉันก็เห็นว่าบีเอ็มสีดำของเขาจอดอยู่หลังรถฉันนั่นเอง
"ขอบใจนายมากนะ"ฉันกล่าวขอบคุณเขาอย่างซึ้งใจ ทันใดเองสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นสร้อยที่ตกอยู่บนพื้น มันคงจะเป็นของเขาที่หล่นตอนมีเรื่องแน่ๆ ฉันหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
"นายมีมันได้ยังไง!!"ฉันเดินเข้าไปหาเขา เขามีสร้อยของพี่ฮยอนจุงได้ยังไงกัน เขามีสร้อยของคนที่ตายไปแล้วได้ยังไงกัน แถมสร้่อยเส้นนี้ยังมีแค่สองเส้นในโลกที่มีแค่ฉัน กับพี่ฮยอนจุงเท่านั้นที่มี
"ฮึ! ถุ้ย!"เขาถุ้ยเลือดที่ปากทิ้งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉัน
"เดี๋ยวเธอก็ได้รู้........พลั่ก"เขาต่อยเขามาที่ท้องฉัน ก่อนที่ไฟสลัวๆที่ฉันเห็นตามท้องถนนจะมืดมิดกลายเป็นสีดำ
เปลี่ยนไปมาหลายที คงจะเอาตอนที่หนึ่งเป็นแบบนี้จริงละ
เฮ้อ! หนึ่งทีแล้วปาดเหงื่อ
หวังทุกคนจะสนุกกับการอ่านนะคะ! >O<
ความคิดเห็น