ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BURNING HEART

    ลำดับตอนที่ #2 : EPS I ll BURNING HEART

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 53





    EPS I ll BURNING HEART

                     


    MIN-JUN TALK

                    ผมเดินไปเดินมารอบๆสนามบินแล้วเดินไปชนกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้า เธอขอโทษผมทีหนึ่ง แต่ผมไม่สนใจเธอแล้วเดินต่อไปหามุมสงบๆเพื่อกดเบอร์โทรออกหาคนๆหนึ่ง

                    “ผมเจอเธอแล้วครับ อา
                    เธอตั้งตารอคอยฉันไว้ให้ดีเถอะ ฉันจะตามติดเธอไปดั่งเงา ฉันจะตามเธอไปทุกที่ที่เธอไป แล้วเราจะได้พบกัน 

     

     

            ฉันก้าวขาออกมาจากสนามบิน เฮ้อ! เจอกันอีกแล้วนะโซล ทันทีที่กลับมานักสืบที่ฉันจ้างไว้เมื่อหลายปีก่อนก็ได้โทรมานัดให้ฉันไปพบเพราะมีเรื่องสำคัญที่อยากจะพูดด้วย จะเป็นเรื่องของพี่ฮยอนจุงรึเปล่านะ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะดีนะสิเพราะหลายสิบปีมาแล้วที่ฉันไม่ได้ข่าวคราวของพี่เลย ฉันเลยให้นักสืบที่ไว้ใจได้สืบข่าวคราวของครอบครัวเขาอย่างเงียบๆ
                    "โซยอนๆๆ! ทางนี้ๆ"ฉันหันไปมองหาเสียงที่เรียกชื่อฉันเป็น มินจี นั้นเอง เธอเอามินิสีขาวมารอรับฉันเธอโบกไม้โบกมือไปมาเหมือนกับว่าฉันเป็นดารางดังที่เธอชอบ ฉันส่ายหน้ากับการกระทำของเธออย่างระอา แล้วยิ้มโบกมือตอบให้เธอ
                   "โอ๊ะ!  ขอโทษคะ"ฉันกล่าวคำขอโทษให้กับผู้ชายที่ฉันเดินชน เขาไม่สนใจอะไรแล้วเดินต่อไป เฮอะ! เดี๋ยวนี้คนเกาหลีเขานิยมปิดหน้าปิดตาเดินตามท้องถนนแล้วหรอเนี้ย  ฉันคิดในใจแล้วรีบเดินไปหามินจี ยัยนั้นคว้าตัวฉันไปกอดใหญ่จนฉันเกือบจะหายใจไม่ออก มินจีขับรถไปส่งฉันที่บ้านใหญ่ ก่อนจะนัดให้ออกมาอีกทีตอนกลางคืน ฉันกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับสปอร์ตสีแดงตรงไปที่ร้านกาแฟเพื่อไปพบนักสืบชเว  
                    "รอนานมั้ยคะ?"พอฉันไปถึงก็พบว่าเขารออยู่ก่อนแล้ว
                    "ไม่นานครับ เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ"
                    "เรื่องที่คุณให้ผมสืบไว้นั้นกว่าจะพบก็ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว และเรื่องที่ผมพูดต่อไปนี้ผมอยากให้คุณเตรียมใจเอาไว้ให้ดีนะครับ"ฉันพยักหน้าให้เขาประมาณว่า พูดมาเถอะฉันรับได้ทุกอย่าง
                    "ครอบครัวของรองประธานคิม ได้เสียชีวิตหมดแล้วครับในอุบัติเหตุรถคว่ำ ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่เขาโดนไล่ออกมาจากบ้านท่านประธานนะครับ"เรื่องที่นักสืบชเวบอกกับฉัน ฉันถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก ฉัน.....ฉันอยากจะให้เขาบอกฉันต่ออีกนิดว่าเรื่องที่เขาบอกฉันมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องล้อเล่นและแน่นอนฉันจะไม่โกรธเขาเลยถ้าเขาพูดมันออกมา แต่เขากลับไม่พูดอะไรแล้วเดินออกจากร้านไปทิ้งให้ฉันนั่งอยู่คนเดียว  น้ำตาฉันไหลออกมาตอนไหนไม่รู้ ถ้าคุณอาทั้งสองเสียชีวิตแล้ว นั้นก็เเสดงว่าพี่ฮยอนจุงก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้วใช่มั้ย โถ่!พระเจ้าช่วยบอกฉันทีเถอะว่ามันไม่จริง
                    ฉันบึ่งรถตรงไปที่คลับที่นัดกับมินจีไว้ในตอนแรก เธอรอฉันอยู่ที่นั้นแล้ว วันนี้ฉันอยากจะเมา เมา เมาแล้วให้ลืมเรื่องทั้งหมดไป  เราเข้าไปข้างในคลับฉันสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุดมาแล้วขอนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง โดยให้มินจีกับกลุ่มเพื่อนที่เหลือไปมันกันบนฟลอร์เพราะตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้น
                    "พี่ฮยอนจุง...ทำไมพี่ถึงทิ้งฉันไป"ฉันพึมพำคนเดียวพลางลูบสร้อยที่ฉันใส่มันไว้กับตัวตลอดไปมา ฉันกระดกเหล้าเข้าปาก  อื้ม...แอลกอฮอล์นี่มันดีจริงๆ แล้วแก้วแล้วแก้วเล่าถูกรินเข้าไปในปาก  มันร้อนราวเปลวไฟเหมือนกับจะแผดเผาไปทั่วทั้งลำคอของฉัน


        
                     เช้าวันต่อมาฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากลับมาถึงคอนโดของตัวเองได้ยังไง บ้าเอ้ย
    ปวดหัวชะมัด ในขณะที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในครัวเพื่อที่จะหาน้ำดื่ม แต่โทรศัพท์ดันดังขึ้นมาก่อน

                     "คะพ่อ จะไปเดี๋ยวนี้แหละคะ"ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถตรงไปยังบริษัท คุณพ่อจะรู้เรื่องที่ฉันรู้มาเมื่อวานนี้มั้ยนะ ฉันรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่ออย่างรวดเร็ว
                    "มีอะไรคะ"ฉันทักทายเหมือนคนห่างเหิน เราสองคนไม่เจอกันมานานมากแล้ว ตั้งแต่ฉันเริ่มเข้ามัธยมปลายก็ถูกส่งไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำ แถมพอเข้ามหาลัยพ่อก็ส่งฉันไปเรียนที่อเมริกา เรียกได้ว่าชีวิตฉันทุกอย่างนั้นถูกพ่อกำหนดไว้หมดแล้ว
                    "ที่พ่อเรียกมาในวันนี้ เพราะหวังว่าลูกจะเริ่มทำงานบริษัทให้พ่อสักที เร็วๆนี้ทางJE GROUP ของเราจะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างเป็นทางการบริษัทเราจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง  พ่ออยากให้ลูกมีส่วนร่วมกับการทำงานในครั้งนี้ด้วย เพราะอย่างน้อยในนั้นก็ยังมีคนที่พ่อไว้ใจอยู่อีกหนึ่งคน ไม่เหมือน..."
                    "ไม่เหมือนเรื่องในอดีตใช่มั้ยคะพ่อ ครอบครัวของคุณอาเสียชีวิตไปหมดแล้วนะคะ เรื่องนี้พ่อรู้รึเปล่า"ฉันตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับพ่อออกไป
                    "อะไรนะ!!"พ่อตะหวาดเสียงดังจนทำให้ฉันรู้สึกกลัว
                    "ลูกไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนกัน"
                    "หนูอยากรู้ว่าพี่ฮยอนจุงอยู่ไหนเลยจ้างนักสืบช่วยตามหา เขาบอกเรื่องนี้กับหนูเมื่อวานว่าตั้งแต่วันนั้นที่ครอบครัวของคุณอาออกจากบ้านของเราไปเขาก็เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำข้างทาง   พ่อ...ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ"
                    "ออกไปก่อน พ่ออยากอยู่คนเดียว"น้ำเสียงพ่อเริ่มอ่อนลง ฉันจึงเดินออกมาจากห้องทำงาน พ่อคงจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ดูจากท่าทางของคุณพ่อแล้วฉันคิดว่าคุณพ่อคงจะเสียในไม่น้อย    ขอโทษด้วยนะคะพ่อที่หนูแอบคิดว่าพ่อส่วนกับการตายของครอบครัวคุณอาในครั้งนี้ด้วย  ฉันเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเองที่คุณพ่อสั่งลูกน้องเตรียมไว้ให้ฉันก่อนหน้านั้นแล้ว
                    "เรียกผู้จัดการคิมมาพบฉันที"ฉันสั่งพนักงานข้างหน้าห้อง ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ไม่นานผู้จัดการคิมที่ฉันต้องการพบตัวก็เข้ามา
                    "มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับคุณหนู"
                    "เรื่องงานบริษัทนะคะ คุณพ่อบอกให้ฉันมาถามจากคุณ    ฉันต้องทำอะไรบ้างช่วยอธิบายให้ฉันฟังด้วยละกันนะคะ"ฉันอยากจะเริ่มลงมือทำงานแล้ว ด้วยความที่สงสารคุณพ่อที่ต้องทำงานคนเดียวมาตลอดฉันจึงอยากจะแบ่งเบาภาระของคุณพ่อบ้าง    ผู้จัดการคิมเริ่มจากการพาฉันเดินไปสำรวจบริษัทก่อนว่ามีแผนกไหนอะไรยังไงบ้าง และเอาเอกสารโครงการที่จะเกิดขึ้นใหม่ที่คุณพ่อมอบหมายมาให้ฉันศึกษาก่อนเพื่อฉันจะได้พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมในไม่กี่วันข้างหน้านี้   ดูผู้จัดการคิมจะเป็นคนของบริษัทมานานแล้วดูจากอายุ และความคล่องแคล่วในการทำงาน
                    "ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้นะครับ  ผมขอตัวก่อนนะครับ"
                    "คะ  ขอบคุณมากนะคะ"ฉันกล่าวขอบคุณ  แล้วเขาก็เดินออกจากห้องทำงานฉันไป ฉันบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะเริ่มลงมือตะลุยเอกสารกองโตทั้งหมดบนโต๊ะนี้   เวลาผ่านไปเป็นเวลานานเอกสารส่วนมากล้วนผ่านตาฉันไปบ้างแล้วเหลืออีกนิดหน่อยเท่านั้นที่ยังไม่ได้อ่าน ฉันเหลือบตามองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ฉันเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเปิดประตูออกไปข้างนอก พบว่าพนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วเหลือแต่ห้องของฉันห้องเดียวที่ยังเปิดไฟอยู่
                    "ตุ๊บ!"เสียงกองหนังสือหล่น
                    "ใครนะ!"ฉันหันไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นมาก่อน
                    "มินจี ว่าไง"ฉันรับโทรศัพท์มินจีที่โทรเข้ามาแล้วรีบเดินไปกดลิฟต์โดยเร็วโชคดีที่มีพนักงานทำความสะอาดเดินมาลงลิฟต์เป็นเพื่อนฉัน  บางทีเสียงเมื่อกี้เธออาจจะเป็นคนก็ได้
                    "คืนนี้หรอ ฉันเหนื่อยแล้วอะมินจี  อือๆ  ........ไว้ครั้งหน้าก็แล้วกันนะ"มินจีโทรมาชวนฉันไปคลับอีกครั้งแต่วันนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน เธอทำเสียงงอนนิดหน่อยก่อนบอกว่าโกรธฉันจริงๆที่ไม่ได้ไปกับเธอคืนนี้แล้ววางสายไป  วันนี้ฉันกะจะไม่นอนที่คอนโดเลยขับรถกลับไปที่บ้านใหญ่
                    "คุณหนูกลับมานอนบ้านหรอคะวันนี้"
                    "คะป้า"ฉันเดินขึ้นไปบนห้อง ห้องที่ฉันไม่ได้กลับเข้ามานานมากแล้ว บ้านหลังนี้มักจะมีความหลังแย่ๆเสมอ ฉันมองไปที่รูปคุณแม่ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง
                    "หนูกลับมาแล้วนะคะแม่"



                    เช้าวันต่อมาฉันให้ป้าแม่บ้านเตรียมลิลลี่สีขาวช่อใหญ่เพราะฉันจะนำไปไหว้คุณแม่ที่สุสาน วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของคุณแม่พอดีไม่รู้ว่าคุณพ่อจะจำได้รึเปล่าก็คุณพ่อทำแต่งานๆนี่นะคุณแม่ถึงได้จากไป  เมื่อฉันจัดแจงทำธุระส่วนตัวในตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วพอตอนสายๆฉันก็มาถึงที่สุสาน  ฉันเดินมาที่หน้าหลุมศพของคุณแม่แล้ววางช่อดอกไม้ลงที่ข้างหน้า ฉันลูบป้ายไปมาเพื่อเป็นการทักทาย จากนั้นฉันก็นั่งลงอยู่เป็นเพื่อนแม่พักใหญ่  ที่นี้ดูร่มรื่นและเงียบสงบดี หวังว่าคุณแม่อยู่ที่นี้คงจะสบายดีใช่มั้ยคะ?
                    "ไปก่อนนะคะคุณแม่ ไว้วันหลังหนูจะมาเยี่ยมใหม่"ฉันเดินออกมาจากสุสานเป็นเวลาเดียวกันกับที่บีเอ็มสีดำมาจอดพอดี มีคนเปิดประตูรถลงมาในมือถือลิลลี่ช่อใหญ่เขาใส่สูทสีดำ สวมวันกันแดด เขาเดินสวนฉันไป เเวบเดียวกันนั้นฉันแอบหลงคิดไปว่าเขาคือ พี่ฮยอนจุง.....ฉันปัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวก่อนจะขับรถไปหาคุณพ่อที่โทรมานัดให้ฉันไปพบที่ร้านอาหารประจำตั้งแต่เมื่อเช้า
                    "จองไว้รึเปล่าคะ      เชิญทางนี้เลยคะ"พนักงานที่ร้านพาฉันไปนั่งที่โต๊ะ ฉันนั่งรอคุณพ่ออยู่สักพักก่อนที่จะมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามานั่ง
                    "ผิดโต๊ะแล้วมั้งคะ"
                    "ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าคุณคือคุณโซยอน"เขาถอดแว่นกันแดดออกแล้วนั่งลงพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย
                    "คุณเป็นใครกัน"ฉันถามเขาออกไปผู้ชายคนนี้ที่เมื่อกี้เจอที่สุสานนี่นาฉันจำได้แม่น แล้วเขามาที่นี้ทำไมกัน
                    "ผมจงฮวาครับ  ยินดีที่ได้รู้จัก คุณพ่อคุณเป็นคนนัดผมให้มาที่นี้"คุณพ่อหรอ!  นี่มันอะไรกัน คุณพ่อนัดให้ฉันมาดูตัวอย่างนั้นหรอ  คุณพ่อนะคุณพ่อจะบ่งการชีวิตฉันทุกอย่างเลยใช่มั้ย
                    "ฉันกลับละ!"ฉันลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋า
                    "ไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรอครับคุณโซยอน  ถ้าไม่รังเกียจทานข้าวกับผมสักมื้อสิครับ"เขายิ้มแบบนั้นอีกแล้ว  แล้วทำไมฉันต้องนั่งลงด้วยเนี้ย!  เขาสั่งอาหารมาให้ฉันเป็นชุดเดียวกันกับของเขา เราต่างคนต่างทานโดยไม่พูดอะไรสักคำ  หลังนั้นไม่นานพอทานกันเสร็จแล้วฉันก็ขอตัวกลับทันที
                    "ไว้พบกันใหม่นะครับ คุณโซยอน"เขายิ้มแบบนั้นให้ฉันอีกเป็นครั้งที่สาม แต่ฉันไม่สนใจหรอกตอนนี้ฉันสนใจแค่คุณพ่อเท่านั้น ฉันรีบขับรถกลับไปที่บริษัททันที
                    "คุณพ่อคะนี่มันอะไรกัน!"
                    "อะไรของลูกนี่มันคืออะไรละ"
                     "คุณพ่ออย่าทำมาเป็นไม่รู้เรื่องที่หนูถามสิคะ   เรื่องที่ร้านอาหารวันนี้มันคืออะไร"
                    "ก็แค่ไปกินข้าวกันแค่นั้นเอง  เขาเป็นลูกเพื่อนพ่อท่าทางอัธยาศัยดีพ่อก็เลยนัดให้ลูกมาทานข้าวเป็นเพื่อนเขาก็แค่นั้นเอง ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
                    "คุณพ่อ!  มันจะไม่มีอะไรได้ยังไง  คุณพ่อจะมาบังคับหนูแบบนี้ไม่ได้นะคะ"
                    "พ่อไปบังคับอะไรลูกกันละ"
                    "พ่อทำอะไรพ่อก็รู้อยู่ ทั้งชีวิตหนูเดินตามทางที่พ่อเลือกทุกอย่าง แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นที่พ่อไม่ควรเข้ามายุ่ง อย่าให้หนูต้องเป็นเหมือนคุณแม่เลยนะคะ"เหมือนฉันจะทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ที่ประโยคสุดท้าย  แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก ฉันเดินออกไปจากบริษัทโดยที่ไม่คิดจะกลับเข้ามาอีกเลย
                    "มินจี คืนนี้นะที่เดิม"ฉันโทรศัพท์ไปนัดกับมินจีให้มาพบกันที่คลับคืนนี้ก่อนจะกลับคอนโดเข้าไปอาบน้ำเเต่งตัว


                    คืนนี้ฉันใส่อะไรง่ายๆ โดยเลือกเกาะอกรัดรูปสีดำ  สกินนี่สีดำ รองเท้าส้นสูงสีดำ เอาเข้าไปสิ!ชีวิตฉันมันมืดมนดีนักนี่
                    "เฮ้!   โซยอนทางนี้"มินจีโบกมือให้ฉันข้างตัวเธอมีผู้ชายยืนอยู่ด้วยสองสามคน  แฟนใหม่เธอเหรอ?  ฉันถามตัวเองด้วยความสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปหามินจี
                    "โซยอน!   นี่แฟนใหม่ฉันแหละพึ่งเจอกันคืนก่อน เป็นไงหล่อใช่มั้ย"มินจีหันมากระซิบที่ข้างหูฉันก่อนจะชี้ไปให้ดูผู้ชายของเธอเขายืนยิ้มอยู่ตรงนั้นแล้ว     จงฮวา!
                    "นายมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง!"ฉันถามเขาด้วยความตกใจ
                    "อะไรกันรู้จักกันหรอกหรอ"
                    "เอ่อ....นิดหน่อยนะเข้าไปข้างในเถอะ"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินเข้าไปในผับแทน  อะไรกันวันนี้นายมานัดดูตัวกับฉัน  วันนี้มินจียังมาบอกอีกว่านายเป็นแฟนใหม่เธอ  จงฮวานายเป็นใครกันแน่!
                    คืนนี้ฉันแทบจะไม่สนุกเลย  ฉันได้แต่นั่งมองมินจีที่เต้นอย่างสนุกอยู่บนฟลอร์กับจงฮวา และกลุ่มเพื่อนของพวกเขา
                    "ชื่ออะไรหรอ ครับ?"เพื่อนคนนึงของจงฮวาเดินเข้ามาหาฉัน
                    "อะไรนะคะ"เพราะเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มฉันจึงได้ยินเข้าไม่ถนัดนัก เขาจึงหันมากระซิบที่ข้างหูฉันว่าฉันชื่ออะไร  ฉันหัวเราะนิดนึงก่อนตอบเขาไป ส่วนเขาก็แนะนำตัวเองว่าชื่อ  'ซองโฮ'  เขาชวนฉันคุยอย่างถูกคอไม่นานมินจีก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
                    "ไปถึงไหนกันแล้วละ!"เธอเดินมานั่งกลับฉันก่อนจะถามคำถามเบาๆ
                    "ถึงไหนอะไรกันเธอ  เขาแค่มาชวนฉันคุยเฉยๆ"ฉันตอบไปก็เขาเข้ามาชวนคุยเฉยๆนี่นา ยัยมินจีอะชอบเว่อร์ไปตลอดเลย  มินจีหัวเราะเสียงดังก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบอีก
                    "แต่เขาบอกกับฉันว่า  เขาชอบเธอ นะโซยอน"
                    "บ้าไม่จริงหรอก"ฉันบอกมินจี พลางมองไปที่ซองโฮก็เห็นว่าเขามองฉันอยู่ฉันยิ้มให้นิดนึง โถ่! อะไรกันเนี้ย ฉันหลบสายตาที่ซองโฮมองมาก่อนจะเสมองไปทางอื่นแล้วก็ต้องเจอกับสายตาของจงฮวา ทำไมเขาต้องมองมาทางฉันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะ  ฉันขอตัวกลับแล้วดีกว่าพรุ่งนี้คงต้องไปจัดการกับกองเอกสารที่เหลืออีก
                    "มินจี! ฉันกลับก่อนนะ"
                    "อ้าว!  จะไปแล้วหรอ"
                    "อื้ม...พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานต่อนะ  เธอเข้าใจนะ"มินจีพยักหน้านิดๆ ฉันไปบอกลาเพื่อนๆของมินจีรวมทั้ง ซองโฮด้วย แล้วเดินออกไปจากผับ  ฉันไปเอารถแล้วขับออกไปทันทีถนนเส้นนี้ทำไมน่ากลัวแบบนี้นะ
                    "ตึ๊ก"รถดับ ฉันรีบสตารท์รถ แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่ติดสักที ฉันค้นหาโทรศัพท์มือถือจะโทรหามินจีแต่โทรศัพท์ดันแบตหมดอีก ทำยังไงดีไม่กล้าลงจากรถด้วยสิ แล้วที่นี้มันตรงไหนเนี้ย  ในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าเปิดประตูรถลงไป
                    "รถเป็นอะไรหรอจ้ะน้องสาว"นักเลงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน  ฉันรีบเดินหนีเพระาเห็นท่าไม่ดีแน่ๆ พวกมันเดินเข้ามาขว้างทางฉันแล้วล้อมทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
                    "ขาวชะมัดเลยวะ"พวกมันคนนึงตะโกนขึ้น   ไอ้บ้า!
                    "xxxxxxx  ชะมัดเลยวะ"และคำอีกหลายคำที่มันวิจารณ์รูปร่างฉัน ล้วนหยาบคายทั้งนั้น
                    "เฮ้ย!  จับไว้"
                    "กรีีด! พวกแกจะทำอะไรปล่อยฉันนะ"ฉันร้องพร้อมสะบัดตัวไปมาเพื่อไม่ให้พวกมันแตะตัว แต่สุดท้ายแรงพวกมันก็มีมากกว่าอยู่ดี  มันจับฉันไว้พร้อมลูบไล้เเขนฉันไปมา
                    "กรี๊ด! อย่านะ อย่าแตะต้องตัวฉัน.....พลั่ก"จงฮวา!   เขาเข้ามาต่อยที่หน้าของไอ้บ้าคนนึงที่จับแขนฉัน
                    "แกเป็นใคร"
                    "ฮึ!"เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเข้าไปจัดการกับพวกมัน พวกเขาเเลกมัดกันไปมา  สายตาของจงฮวาตอนนี้ดูดุร้ายเหลือเกิน  พวกมันคนนึงหยิบมีดขึ้นมาแล้วฟันไปที่หลังของเขา เสื้อฉีกออกเผยให้เห็นรอยสักอันหน้ากลัวกลางหลังของเขา  
                    "ย้ากกกกก!"เขาร้องตะโกนขึ้นมาก่อนจะจัดการพวกมันจนครบ  ส่วนเขาเองนั้นก็แทบไม่ไหวเหมือนกันเขาเดินมาใกล้ฉัน เสื้อเขาตอนนี้กระดุมหลุดออกเผยให้เห็นหุ่นอันเซ็กซี่ของเขาที่ถ้าใครได้มองคงต้องละลายแน่นอน
                    "นายไม่เป็นไรใช่มั้ย!"ฉันรีบเข้าไปช่วยพยุงตัว เขาไม่พูดอะไรฉันช่วยพาเขามาที่รถฉัน แล้วฉันก็เห็นว่าบีเอ็มสีดำของเขาจอดอยู่หลังรถฉันนั่นเอง   
                    "ขอบใจนายมากนะ"ฉันกล่าวขอบคุณเขาอย่างซึ้งใจ ทันใดเองสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นสร้อยที่ตกอยู่บนพื้น มันคงจะเป็นของเขาที่หล่นตอนมีเรื่องแน่ๆ  ฉันหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจ
                    "นายมีมันได้ยังไง!!"ฉันเดินเข้าไปหาเขา เขามีสร้อยของพี่ฮยอนจุงได้ยังไงกัน  เขามีสร้อยของคนที่ตายไปแล้วได้ยังไงกัน แถมสร้่อยเส้นนี้ยังมีแค่สองเส้นในโลกที่มีแค่ฉัน กับพี่ฮยอนจุงเท่านั้นที่มี
                    "ฮึ!  ถุ้ย!"เขาถุ้ยเลือดที่ปากทิ้งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉัน 
                    "เดี๋ยวเธอก็ได้รู้........พลั่ก"เขาต่อยเขามาที่ท้องฉัน ก่อนที่ไฟสลัวๆที่ฉันเห็นตามท้องถนนจะมืดมิดกลายเป็นสีดำ 











    เปลี่ยนไปมาหลายที คงจะเอาตอนที่หนึ่งเป็นแบบนี้จริงละ
    เฮ้อ! หนึ่งทีแล้วปาดเหงื่อ
    หวังทุกคนจะสนุกกับการอ่านนะคะ! >O<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×