ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    taokacha fiction' Just love

    ลำดับตอนที่ #1 : Just love - Intro

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 55


     

    Just love

     

    Intro

     

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก ~

     

     

     

     

    “คุณหนูค่ะ คุณท่านให้มาตามคะ”

     

     

    “ครับป้า เดี๋ยวผมลงไป”

     

     

     

     

    สายลมอุ่นๆของปลายฤดูร้อนพัดผ่านร่างเล็กที่ยืนเฝ้ามองท้องฟ้าในยามเย็นของเมืองหลวง ใบหน้าขาวสวยได้รูปหลับพริ้มตอบรับแรงลมที่พัดกระทบกับผิวกายขาว ก่อนที่ปากอิ่มสวยจะพูดกับตัวเองเบาๆ

     

     

     

     

     

    “คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆสินะ ... คราวนี้ขออะไรสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร”

     

     

     

     

    พูดจบก็พาร่างกายตัวเองออกจากห้องนอนลงไปยังห้องรับแขกทันที

     

     

     

     

    “มีอะไรครับ” ก้นยังไม่ทันจะถึงเบาะโซฟาปากอิ่มสวยก็ถามออกมา

     

     

    “คชารู้เรื่องที่เราเปิดสาขาใหม่ที่อังกฤษใช่ไหมลูก” วัชระละสายตาจากจอโทรทัศน์จ้องหน้าถามลูกชาย

     

     

    “ก็พอรู้บ้างครับ”

     

     

    “เอ่อ .. คชาฟังแม่นะลูก สัปดาห์หน้าพ่อกับแม่จะไปอังกฤษสักระยะ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะนานแค่ไหนเราก็เลย ..”

     

     

    “ผมไม่ไปครับ” ยังไม่ทันที่ศศิธรจะพูดจบคชาก็พูดดักทางไว้ทันที

     

     

    “แล้วเราจะเอายังไง พ่อกับแม่ไปนานนะคราวนี้ โรงแรมเพิ่งเปิดสาขาใหม่ไม่นานมันต้องดูแลจัดการให้เข้าที่เข้าทางซะก่อนซึ่งพ่อกับแม่ต้องไป” วัชระพูดเสียงนิ่ง

     

     

    “ผมก็ .... ไม่รู้สิครับ แต่ถ้าจะให้ไปเริ่มต้นอะไรใหม่ๆที่นั่น ผมก็คงต้องปฏิเสธ”

     

     

    “แต่รอบนี้เราไปนานนะลูก”

     

     

    “จะนานสักเท่าไหร่กันครับแม่ ทั้งพ่อกับแม่ไปขนาดนี้ผมคิดว่าไม่เกิน 1 เดือนหรอกครับ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็คงลงตัว” ใบหน้าหวานยังคงนิ่งเฉยและยังคงต่อปากต่อคำไม่หยุด

     

     

    “ก็แล้วแต่เราก็แล้วกัน พ่อไม่อยากจะบังคับ ฝืนใจหรอก ไม่ไปก็ไม่ต้องไป”

     

     

     

     

    วัชระพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลูกชายคนเล็กของตระกูลมีนิสัยยังไง ทำไมคนเป็นพ่ออย่างเขาจะไม่รู้ ดื้อเงียบและใจแข็งราวกับหินผา ต่อให้เอาอะไรมาล่อหลอกก็ไม่เอนตามเด็ดขาด หากว่าลูกชายคนนี้ตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วมันจึงยากที่จะเปลี่ยน ยังไงซะก็คงต้องปล่อย

     

     

     

     

    “ขอบคุณที่เข้าใจครับ ... เอ่อ ผมลืมบอกเรื่องสำคัญอีกอย่าง”

     

     

    “มีอะไรหรอลูก” ศศิธรหันไปทางลูกชายเชิงขอร้องอ้อนวอนให้เปลี่ยนใจ

     

     

    “ในเมื่อพ่อกับแม่จะไปอังกฤษโดยไม่มีกำหนดกลับที่แน่นอน เพราะฉะนั้นผมก็เลยอยากจะขอ..”

     

     

    “ขออะไร” วัชระกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากก่อนจะเอ่ยปากถาม

     

     

    “ขึ้นม.5นี้ ผมขอไปเรียนต่อที่ต่างจังหวัด ขอใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ขอลองอยู่ตามลำพังบ้าง แค่นี้พอจะได้หรือเปล่าครับ”

     

     

    “ไม่ได้เด็ดขาด!!” ศศิธรพูดออกไปโดยไม่ต้องคิดเขาจะให้ลูกคนนี้ออกไปลำบากทำไมในเมื่อทุกสิ่งอย่างก็เพียบพร้อมซะขนาดนี้

     

     

    “ทำไมถึงห้ามล่ะครับแม่ ก็ในเมื่อทุกวันนี้มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสิ่งที่ผมขอ วันๆก็พบเจอกับเรื่องเดิมๆ ตั้งแต่ผมเริ่มจำความได้เวลาเลิกเรียนผมกับพี่ต้องนั่งคอยรถมารับกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็รอหวังว่าจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา 4 คน พ่อแม่ลูก แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลยผมนั่งกินข้าวคนเดียวมานานเท่าไหร่แล้ว ไหนจะวันพิเศษต่างๆที่โรงเรียนเรียกผู้ปกครองไปโรงเรียน ผมทำได้แค่มองเพื่อนคนอื่นกับพ่อแม่ของเขาทำกิจกรรมกันอย่างมีความสุข แล้วตอนนี้จะมาหวงผมไว้ทำไม ผมต้องการไปใช้ชีวิตในแบบของผมบ้าง!!!

     

     

     

     

     

    นนทนันท์พูดทั้งน้ำตาแต่กลับไร้เสียงสะอื้น เรื่องที่ขอในครั้งนี้มันใหญ่ มันหนักหนาเกินไปหรือ ภายในใจของนนทนันท์ยังคงเฝ้าคิดน้อยใจในโชคชะตากับชีวิต ชีวิตที่หลายคนต่างอิจฉาใฝ่ฝันอยากจะมี หากแต่นนทนันท์คนนี้ถ้าเลือกได้ขอเลือกเกิดในครอบครัวในฐานะใดก็ได้ขอแค่เพียงความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัวที่เติมเต็มอย่างไม่ขาดแค่นี้คนอย่างนนทนันท์ก็มีความสุขแล้ว

     

     

     

     

    “ทุกสิ่งทุกอย่างที่พอกับแม่ทำลงไปก็เพื่อตัวเรานะคชา” ศศิธรพูดน้ำเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นลูกชายของตนนั่งหลั่งน้ำตาอยู่

     

     

    “คุณหยุดก่อน ฟังลูกซะบ้าง มันก็จริงอย่างที่ตาหนูพูดนั่นแหละ เฮ้อ แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน” วัชระปรามศศิธรก่อนจะหันหน้าไปคุยกับลูกชาย

     

     

     

     

    หากแต่ไม่มีเสียงใดหลุดออกจากริมฝีปากอิ่มสวย มีเพียงแค่หัวกลมส่ายไปมาจนผมสะบัดตามแรง

     

     

     

     

    “เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ ตาชินก็ไปเรียนต่อนอก หนูชาก็อยากเรียนต่อต่างจังหวัด งั้นเอาแบบนี้” วัชระถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

     

    “อะไรคะคุณ”

     

     

    “เรามีบ้านอยู่ที่ขอนแก่น ลูกไปอยู่ที่นั่นก็แล้วกันแต่พ่อจะให้ป้าน้อมไปด้วย ถ้าตกลงพ่อก็อนุญาต แต่ถ้าไม่จะให้พ่อใช้กำลังบังคับเราให้ไปอังกฤษด้วย พ่อก็จะทำ”

     

     

    “แล้ว ... แล้วผมมีสิทธิ์ที่จะเลือกหรอ?” คำถามที่แผ่วเบา

     

     

    “เราเองก็รู้ว่าพ่อคำไหนคำนั้น”

     

     

    “ตกลงครับ ผมจะไปขอนแก่นภายใน 3 วัน ส่วนเรื่องเรียน ผมขอฝากคุณพ่อช่วยจัดการให้ทีก็แล้วกันครับ ผมขอตัวก่อน”

     

     

     

     

    ร่างบางกลับขึ้นห้องนอนอีกครั้ง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นโยนมันลงไปในตะกร้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วจึงพาร่างกายเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำไป

     

     

     

     

    ใบหน้าขาวเจือไปด้วยสีชมพูอ่อนๆจากแรงสะอื้นไห้ ดวงตาแดงก่ำจากการหลั่งน้ำตาที่กักเก็บมานานแสนนานจ้องใบหน้าตัวเองในกระจกเหนืออ่างล้างหน้า ฝ่ามือเล็กๆยกขึ้นลูบละอองน้ำที่กระเซ็นไปโดนผิวกระจกออกเพื่อจะมองใบหน้าและร่างกายของตน

     

     

     

     

     

    ผ่านไปครู่ใหญ่ร่างเล็กเปลือยเปล่าพาตัวเองออกมาจากห้องน้ำก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างก่อนจะกวาดมือหยิบกรอบรูปใบเล็กบนหัวเตียงลงมาดู

     

     

     

     

    “เรื่องของเรามันเป็นได้แค่อดีต ชาจะเก็บแต่ความทรงจำดีๆที่เคยมีให้กัน ส่วนเรื่องที่ร้ายๆชาก็จะลืมมันไปเหมือนกัน ขอบคุณที่เคยอยู่เคียงข้างกันนะ”

     

     

     

     

    น้ำตาใสๆไหลออกมาอีกครั้ง สองมือน้อยกอบกุมกรอบรูปใบนั้นไว้แน่น รูปภาพคู่ รูปเดียวและรูปสุดท้ายที่คชาเลือกจะเก็บไว้ ก่อนจะทิ้งความรู้สึกทุกอย่างไว้ที่นี่และเลือกที่จะเก็บไว้เพียงความทรงจำเท่านั้น

     

     

     

     

    รักมากเท่าไหร่ ก็เจ็บมากเท่านั้น

    รักมากเท่าไหร่ ก็เกลียดมากเท่านั้น

    รักมากเท่าไหร่ ก็เข็ดหลาบมากเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

    Note : อ่านจบแล้วช่วยสละเวลาคอมเม้นท์สักนิด ขอกำลังใจในการเขียนตอนต่อไปด้วยจ้า

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×