ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC EXO) สะใภ้ขัดดอก [Chankai]

    ลำดับตอนที่ #3 : ขัดดอกที่3

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 58



    ขัดดอกที่3








     

           ... ฟังแม่นะจงอิน เมื่อลูกเข้าไปที่บ้านนั้น อย่าให้เสียเปล่า ถ้าอยากจะออกมาเร็วๆก็จงตามหาสิ่งที่มีค่าที่สุด คว้ามันออกมาไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม มันจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไป มันจะทำให้เราสบายไปทั้งชีวิต

     

     
     

     

    “ผมไม่ชอบไอ้ดำนั่นเลย”

    “นี่  พี่บอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าอย่าว่าผู้อื่นเช่นนั้น เขาไม่ได้ดำแค่คล้ำแบบพรีเมี่ยม เข้าใจรึไม่”

     
     

    ชาลยอลจิ๊ปากตอบรับคำพูดของคนเป็นพี่พร้อมกรอกสายตาไปมาอย่างเสียอารมณ์ เช้านี้เขายังไม่ได้เห็นหน้าจงอินก็จริงแต่พอนึกถึงแล้วมันโคตรจะหงุดหงิด เมื่อคืนกว่าจะเข้านอนได้ก็ยืนส่องกระจกพิจารณาใบหูตัวเองอยู่นานสองนาน ด้วยความที่ไม่ค่อยจะมีใครกล้ามาว่ากับเขาแบบนั้นทำให้คำด่าของจงอินเข้าไปสิงในสมองได้โดยปริยาย

     
     

    จริงๆหูเราก็ออกจะมีสง่าราศีจะตาย..

     

     

    ชานยอลยกมือขึ้นลูบใบหูเบาๆพรางก้มลงอ่านแฟ้มงานในมือ  ตอนนี้สองพี่น้องกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานภายในคฤหาสน์เพื่อตรวจเช็คการส่งออกสินค้าออกนอกประเทศ หรือที่รู้จักกันดีคือบริษัท เพชรมายาบริษัทจิวเวอร์รี่ที่ใหญ่โตติดอันดับต้นๆพร้อมทั้งยังส่งเพชรออกนอกประเภทมากมาย

     
     

     “จงอินก็ออกจะดูใสซื่อไม่รู้ประสีประสา หน้าตาก็น่ารักจิ้มลิ้มทำไมเจ้าจึงมิชอบ”    

     

    “พี่ชายใหญ่ใช้ข้อศอกดูใช่ไหมถึงเห็นแบบนั้น คนอะไรแค่นึกถึงเสลดก็ขึ้นคอแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่ใช่พวกชอบกินข้าวหลามถั่วดำ ไม่มีวันแน่ๆ “

     

     

    คริสเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะแล้วกลั้นขำมองอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม  ตัวเขาเองก็ชอบจงอินอยู่ไม่ใช่น้อย ถึงขั้นถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอ อาจจะดีเหมือนกันถ้าชายน้อยไม่ชอบเขาจะได้เก็บไว้ฟาดเรียบคนเดียว แต่จะแสดงออกมากก็ไม่ได้มันต้องเก็บอาการซะหน่อยเพื่อความแนบเนียน

     
     

    “ช่วยไม่ได้เจ้าไปว่าเขาก่อน หากพูดดีๆจะทะเลาะเช่นนี้ไม่”

     

    “หึ.. ไม่มีทาง หนามยอก มันต้องเอาหนามออก”

     

    “ต้องเอาหนามบ่ง..”


    “เออๆนั่นแหละ มันเหมือนกัน”  ชานยอลยักไหล่ ก็ตอนเด็กๆไม่ได้ตั้งใจมากนี่หว่า ผิดนิดผิดหน่อยเป็นเรื่องธรรมดา “พูดแล้วก็หายไปไหน เริ่มงานวันแรกก็อู้งานเลยรึไง”

     
     

    “เห็นแตฮีบอกว่าใช้ไปทำสวนแต่เช้า ป่านนี้คงขุดดินอยู่ เจ้าอย่าไปกวนล่ะเดี๋ยวได้เสียงานเสียการเป็นแน่”

     

     

    ได้ยินแบบนั้นจะไม่ไปแวะเวียนมันก็ยังไงๆอยู่ สงสัยคงจะต้องไปทำความรู้จักให้มากกว่านี้สักหน่อย ตาคมหรี่ตามองออกนอกหน้าต่างพร้อมคลี่ยิ้มมีเลศนัย ริมฝีปากขยับบ่นพึมพรำคนเดียวก่อนจะแค่นหัวเราะในลำคอ


    “ได้เวลาสนุกแล้วสิ หึ ”

     

     

     

     





     

     

    ปึก ..  ปึก .. ปึก ..

     

     

    เสียงจอบปะทะกับดินเกิดขึ้นเป็นจังหวะภายในสวนดอกไม้ของคฤหาสน์ จงอินที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าก็เปิดงานกับการขุดสวนเป็นวันแรก อะไรมันจะทรหดอดทนขนาดนี้ บอกเลยว่าการขุดสวนเพื่อลงต้นไม้ในสวนใหญ่ๆไม่ใช่เรื่องขี้หมู แต่ก็ถือว่าวันนี้เป็นวันที่ดีแน่ๆเพราะไม่ได้เจอใครที่มาทำให้เสียอารมณ์ตั้งแต่เช้า ทำงานก็เหนื่อยจะตายชักแล้วยังจะต้องมาคอยหลบหน้าคุณชายน้อยอีก  หนีเจ้ามือหวยยังไม่กลัวเท่านี้

     

     

    “ฮู่ว.. เหนื่อยจังเว้ย”  จงอินเท้าแขนกับด้ามจอบพร้อมก้มลงเช็ดเหงื่อที่แขนเสื้อ  พอมองดูรอบๆสวนว่าต้องขุดอีกเยอะก็เริ่มละเหี่ยใจ  อยากจะขุดดินแล้วมุดหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด

     

     

    จงอินไล่สายตาไปเรื่อยๆก่อนจะหยุดมองที่ชายร่างใหญ่ที่กำลังนั่งดูดบุหรี่อยู่บนม้านั่ง ถ้าจำไม่ผิดนั่นน่าจะเป็นพี่เตียงทรุด ถ้าเข้าไปนั่งด้วยก็คงจะไม่เสียหาย จากนั้นจงอินจึงสูดลมเข้าปอดตัดสินใจเดินเข้าไปหารชายร่างใหญ่พร้อมมือที่กำจอบแน่นเผื่อไว้ถ้าพี่แกเกิดโมโหขึ้นมาดื้อๆก็คงเอาจอบนี่สับป้องกันตัวไปก่อน

     


     

    “พี่.. นั่งด้วยดิ”  จงอินยกยิ้มแหะ ชายร่างใหญ่ไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้เหลือบมองเขารึเปล่าเพราะสายตานั้นอยู่ภายใต้แว่นดำราวกับเป็นเมนอินแบล็ค  จงอินที่นั่งลงข้างๆถอดหมวกบนหัวลงมาพัดตัวเองแล้วเหลือบมองคนข้างๆ  เพราะไม่มีใครเปิดสนทนาก่อนจึงทำให้บรรยากาศเริ่มดูอึดอัด จะชวนคุยว่าอะไรดี..  จะถามว่าลูกเมียที่บ้านเป็นยังไงบ้างก็ดูจะสนิทไป จะถามว่าพ่อพี่สบายดีรึเปล่าก็กลัวจะได้ตีนก่อนได้คำตอบ       

     
     

    “พี่ชอบดูดบุหรี่หรอ”   น่าจะเป็นคำถามที่ดีที่สุดในสมองตอนนี้แล้วแหละ..


    “เวลาเครียดๆ”  เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียบพร้อมสีหน้าเรียบๆ อารมณ์ก็เรียบ เรียบยันเสื้อ ชีวิตพี่เขามีสีสันบ้างรึเปล่านั่นยังเป็นปริศนาที่จงอินสงสัย  


    “ยี่ห่อไรอะพี่”


    “กรองทิพย์ เอาไหม”  มือหนาควักซองบุหรี่ออกมายื่นให้ตรงหน้า


    “ไม่เอา พ่อผมดูดกรองทิพย์ ผมไม่ดูดยี่ห่อเดียวกับพ่อ”


    “หืม ทำไม?



    “ก็ตอนเด็กๆอะดิ พ่อผมชอบสอนว่า อย่าดูดบุหรี่เหมือนพ่อนะลูก”

     

    .....

     

    ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากบุคคลที่ท่านยิงมุขใส่

     

    จากที่ตั้งใจว่าจะเล่นอะไรฮาๆให้ขำแต่ยิ่งทำให้บรรยาที่อึดอัดยิ่งอึดอัดหนักกว่าเดิมคูณสอง เงียบจนได้ยินเสียงหมานอนกรนที่เซเว่นหน้าปากซอย  เจ้าตัวที่เป็นคนยิงมุขเริ่มรู้สึกตัวเล็กหดกลายเป็นฝุ่นละอองและอยากจะปลิวเข้าไปซ่อนตัวในซอกหลืบที่ไหนสักแห่งบนโลก นี่ถ้ามีอะไรครอบหัวแถวนี้คงใช้ครอบหัวตัวเองไว้แล้ว

     

     

    “กวนตีนดี  ฮึ..”  เสียงแค่นหัวเราะในลำคอพร้อมยิ้มอันดาษดื่นที่สุดที่จงอินเคยเจอมา คือถ้ามันยากลำบากมากก็อยากจะบอกว่าไม่ต้องหัวเราะเพื่อรักษาน้ำใจเขาก็ได้..

     
     

    “เห็นพี่ยิ้มผมก็สุขใจ๊”   แสร้งทำหน้าตาร่าเริงกลบความอึดอัด  “เอ้อ.. แล้วที่พี่บอกว่าเครียด เครียดเรื่องอะไร ระบายกับผมได้นะ”

     

    “ระบายได้?


    “ได้เลย พี่อยากระบายอะไรก็ได้ ผมรับฟังหมด”


    “จะระบายได้ไง ไม่มีสี”

     
     

    ..  ยิ่งกว่ามุขที่แล้ว คราวนี้คงเป็นเสียงหมานอนกรนที่เซเว่นสาขาเชียงใหม่ ณ  จุดๆนี้จงอินไม่รู้เลยว่าจะขำก่อนหรือแกล้งสลบก่อนดี บอกทีว่าเขาควรทำหน้ายังไง

     

     

    “ว้าววว ขำจังเล้ย คิดได้ไงพี่ มุขใหม่ป่ะเนี่ยไม่เคยได้ยิน ฮ่าๆๆ”  

    จงอินรวบรวมแอคติ้งทั้งหมดที่เคยดูในละครมาทำเป็นขำแบบเอาเป็นเอาตาย พยายามบีบน้ำตาออกมาให้เหมือนว่าขำจนน้ำตาเล็ด ขำจนเยี่ยวจะราด แต่เตียงทรุดไม่ได้ทำหน้าขำตามไปด้วยเลยยังคงเรียบเสมอต้นเสมอปลาย เห็นแบบนั้นจงอินจึงค่อยๆหยุดหัวเราะไปทีละน้อย

     

    “พ่อฉันไม่อยู่แล้ว แม่ต้องอยู่คนเดียว ตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครดูแล”  เตียงทรุดทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบให้มอดไป

    “พ่อตาย !?

    “พ่อกูไปทำงานต่างจังหวัด ไอ้นี่เดี๋ยวโดนตีน”  มือหยาบยกขึ้นผลักหัวจงอินเรงๆจนเกือบทิ่มลงพื้น 

    “เอ้า ก็พี่ดูเศร้า ขอโทษๆ” จงอินเองก็หัวเราะออกมาแถมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้บรรยากาศมันค่อยๆดีขึ้นไม่ได้อึดอัดเหมือนตอนแรก อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย นึกว่าพี่แกจะมีอยู่อารมณ์เดียว

    “ฉันอยากออกไปดูแลแม่ แต่ไปไม่ได้ ถ้าฉันไปจะไม่มีใครคอยรับใช้คุณชายน้อย”

    “แล้วข่อยแนล่ะครับ?

    “ถ้าฉันไปข่อยแนก็ต้องไป เห็นอย่างนั้นมันเป็นโรคหัวใจ ทำไรคนเดียวไม่ค่อยได้”

    “เรื่องโคตรเศร้าเลย ไปรายการปลดหนี้ไหมพี่”

    “....”

    “แหม ฮาๆน่ะพี่ ล้อเล่นน่า อ่ะๆเล่าต่อ”  


    “นั่นแหละ จะลาออกก็คงไม่มีใครทำงานแทน”   จงอินพยักหน้ารับเห็นด้วยกับคำบอกเล่า ชีวิตมันก็อย่างนี้ มีภาระเป็นของใครของมัน แต่คุณชายเองมันก็โตขนาดนี้ทำไมต้องคอยมีบอดี้การ์ดประจำตัวด้วยก็ไม่รู้ อย่างกับพวกค้ายารายใหญ่ ไม่รู้เลยรึไงว่าชาวบ้านเค้าเดือดร้อน


    “ถ้าผมทำแทนพี่ได้ผมทำแทนไปแล้ว ไม่เป็นไรนะพี่ ชีวิตต้องสู้ต่อ” ถือวิสาสะตบบ่าแกร่งเบาๆ

    “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ.. “  ชายร่างใหญ่หันไปมองหน้าจงอินอย่างกะทันหัน ”ถ้าทำแทนได้?

     
     

    เอาแล้วไง ชิบหายหนักแล้วไหมล่ะ เผลอพูดออกไปทั้งๆที่ไม่คิดอะไร..

     
     

    “เห้ย ไม่ใช่พี่ ไม่ใช่แบบนั้น ผมหมายถึง ถ้าผมทำแท—“

     

     

    “ทำอะไร”      น้ำเสียงโทนเย็นชาดังขึ้นทำให้ทั้งสองที่นั่งสนทนากันอยู่ต้องชะงักหันมอง คุณชายน้อยในชุดเสื้อยืดพร้อมกับผมที่ไม่ได้เซ็ททำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อวาน โผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้   ชานยอลพยักหน้าให้เตียงทรุดก่อนที่อีกคนจะตอบรับและลุกขึ้นเดินออกไป

     

    “เอ้า พี่ไปไหน เดี๋ยวก่อน รอด้วย”   จงอินรีบลุกขึ้นจะก้าวขาตามไปแต่มือหนาของชานยอล กลับคว้าข้อมือเขาเอาไว้ก่อน

     
     

    “ไปทำงานไง  เขาไม่มัวไม่ได้มานั่งอู้เหมือนนายหรอก”


    “ขอโทษนะ ถ้านายยังมองเห็นและไม่ได้ตาบอด จะเห็นว่าเหงื่อฉันชุ่มไปทั้งตัว ไหนจะเศษดินอีก คงไม่ได้อยากอู้จนลงทุนนอนกลิ้งกับดินหรอกมั้ง”  จงอินสะบัดมืออีกคนออกจากข้อมือ แล้วชี้ที่ใบหน้าตัวเอง

     

    “งั้นก็ไปทำความสะอาดห้องฉันซะ”

    “ไม่”

    “จะบอกอีกที  ไปทำความสะอาด ห้อง ฉัน”

    “พวกแม่บ้านมีเยอะแยะตาแป๊ะบาน  ฉันเป็นคนงาน ซอรี่”  พูดพร้อมยักไหล่ไม่แคร์

    “จะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้าน ลุงบ้าน ป้าบ้าน ตาบ้าน ยายบ้านฉันก็ไม่สน”   ชานยอลมองซ้ายขวา สอดมือล้วงเข้ากระเป๋ากางเกง ก้มตัวลงเล็กน้อยให้อยู่ในระดับใบหูของจงอิน

    “จะบอกอะไรให้นะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องขอนาย.. ทำซะถ้าไม่อยากให้แม่เดือดร้อน

    เอ้อ.. วางจอบนั่นด้วย ให้แล้วนึกถึงพี่ชายใหญ่”

     
     

    ไอ้นี่มันร้ายนัก..

     
     

    ร่างสูงโปร่งก้าวขาเดินนำหน้าอีกคนอย่างอารมณ์ดี เสียงการฮัมเพลงในลำคอของเขามันน่ารำคาญจนทำให้จงอินที่จำใจยอมเดินตามเริ่มโมโห รู้งี้จะใช้จอบที่ถือเมื่อกี้ฟาดเข้าหน้าตั้งแต่ตอนเจอหน้าเมื่อกี้ คนอะไรบ้าอำนาจแถมยังชอบทำท่าทางกวนตีนอีก

     
     

    จงอินเดินตามชานยอลเข้ามาในคฤหาสน์เรื่อยๆจนถึงห้องจุดมุ่งหมาย ชานยอลจับลูกบิดประตูเปิดเข้ามาในห้องนอนที่ภายในออกแนวโทนสีขาวดำ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ด้วย กลางห้องมีเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์พร้อมรูปเจ้าของห้องอันเบ้อเร่อติดอยู่บนหัวเตียงและยังมีรูปเล็กๆน้อยๆตั้งตามโต๊ะอีก  แต่เมื่อจงอินเดินตามเข้ามาในห้องก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปมเนื่องจากในนี้มันสะอาดหมดจดไม่มีแม้แต่เศษขยะหรือเตียงที่ยับยู้ยี้ เศษฝุ่นตามพื้นก็ไม่มีด้วยซ้ำ

     
     

    “จะให้ทำความสะอาดอะไร   ในห้องนี้สะอาดหมด .. ยกเว้นปากเจ้าของห้องอะนะ”

    ชานยอลขมวดคิ้วหงิกเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าหู แต่อีกเสี้ยววินาทีก็แค่นยิ้มออกมาตาม

     “ใช่ ตอนนี้มันสะอาด”  พูดจบก็เดินไปทั่วห้องแล้วใช้แขนแกร่งกวาดข้าวของบนโต๊ะลงมากองกระจัดกระจายบนพื้น

     
     

    เกร้งงง  ปักกก!

     

     

    “เห้ย! ทำไรเนี่ย”   ชานยอลไม่ได้ตอบกลับ เพียงแค่หันมายักคิ้วให้แล้วดึงปลอกหมอนบนเตียงรวมทั้งผ้าห่ม ผ้าปูเตียงออกมา ก้มลงหยิบถังขยะที่วางข้างๆเดินเทขยะไปทั่วห้องนอน เสร็จแล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าออกมารื้อเสื้อผ้าทั้งหมดในตู้ออกกองกับพื้นนับหลายสิบตัว

    จงอินยืนอ้าปากงงกับการกระทำแปลกพิสดารของคุณชายน้อยด้วยความไม่เข้าใจ บอกทีว่านี่บ้าไปแล้วใช่ไหม เฮ้ เช้านี้ป้าแตฮีให้คุณชายน้อยนี่กินยาไปรึยังหรือว่าไม่ได้เขย่าก่อนกิน?

     

    “เอาล่ะ ห้องฉันรกแล้ว”


    “ทำรกเองก็เก็บเองดิวะ “  จงอินหันหลังกลับเดินออกจากห้อง นี่ไม่ใช่ธุระอะไรของเขา และนี่มันเป็นการกระทำของเด็กที่ยังไม่โตชัดๆ ไม่ใช่อะไรที่ต้องมาสนใจสักนิด

     

    “แม่นายคงเสียใจแน่..”

     

    นี่มันอะไรวะเนี่ยยย   มือหยาบยกขึ้นขยี้ผมตัวเองแรงๆแล้วหันกลับมาเดินเข้าห้องนอนอีกครั้ง จะเรื่องอะไรจงอินไม่เคยยอมแต่ถ้าเป็นเรื่องแม่ จะให้ทำอะไรเขาทำได้หมด ถือว่าชานยอลนี่ร้ายนักเขารู้ว่าควรจี้จุดตรงไหนยังไง ซึ่งมันก็สมกับที่เขาไปนั่งสืบประวัติของจงอินอยู่นานสองนาน

     

    “ขยะเก็บให้หมด ของบนโต๊ะฉันด้วย ปูเตียงให้ตึง เสื้อผ้านี่ก็เอาไปซักแล้วรีดเก็บเข้าที่เดิมด้วย เอาให้ห้องสะอาดจนเลียได้เลย เข้าใจ้?

     
     

    สันหาคำด่าไม่ออกแล้วครับ..  ไอ้ผีทะเลดีไหม

     

     

    “ฉันถามว่าเข้าใจไหม”

    “เออ! จะทำให้เลี่ยมเลย”

    “แล้วฉันจะกลับมาดู”   ยิ่งแกล้งก็ยิ่งสนุก เขาแกล้งแบบนี้แทบทุกรายที่โดนส่งตัวมาขัดดอกแต่นี่มันแค่ขั้นแรกเท่านั้น ของจริงยังรออีกเพียบ 

    ชานยอลหัวเราะชอบใจก่อนเดินออกไปจากห้อง ระหว่างนี้ก็หาอะไรทำแก้เบื่อไปก่อนไว้จงอินทำห้องเสร็จค่อยแกล้งขั้นต่อไป  ณ ตอนนี้เหลือแต่จงอินที่ยืนไว้อาลัยให้กับข้าวของในห้อง   มันรกจนม่รู้จะเก็บตรงไหนก่อน  ทำได้แค่เดินไปเตะเสื้อผ้าของคุณชายน้อยบนพื้นแก้โมโห อย่าให้ได้ทำคืนเมื่อไหร่นะ.. พ่อจะเอาให้หนักกว่าหลายเท่า

     

     

     

     





     

    เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น
    ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนบาป ~

     

     

    “ใครมาเปิดเพลงแถวนี้วะ ”   เสียงเพลงจากวิทยุของป้าแม่บ้านดังแว่วเข้ามาจากข้างนอก อะไรจะเปิดเพลงได้ตรงกับชีวิตของจงอินขนาดนี้ ทำเอาเขากลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่

     

    ไม่ได้เศร้านะ

     เพราะ หาวต่างหาก..

     

     

    นับเป็นเวลาสิบนาทีแล้วที่จงอินเก็บข้าวของทุกอย่างเสร็จ ใช่.. แค่สิบนาที แต่ไม่ต้องตกใจว่าทำไมถึงเสร็จเร็วขนาดนั้น ก็คุณชายน้อยสั่งเองว่าเอาให้สะอาดเอาให้เลี่ยม จงอินเลยเอาของทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าเอย ผ้าปูเตียงเอย เครื่องใช้เอยใส่ถุงขยะใบใหญ่สีดำรวมกันแล้วเอาไปทิ้งให้หมด ทีนี้ก็จบปัญหาที่ไม่รู้จะเก็บตรงไหนก่อนแถมยังเลี่ยมออกแนวโล่งด้วยซ้ำ  ตอนนี้ห้องนอนใหญ่ๆก็สะอาดขึ้นมาทันตา ไม่มีแม้แต่ข้าวของเหลือก็แต่เฟอร์นิเจอร์โง่ๆไม่กี่ชิ้นเท่านั้น  แต่เพื่อความเลี่ยมที่สุดจงอินเลยเดินสำรวจทั่วห้องอีกครั้งเผื่อว่ายังมีของที่ยังตกอยู่

     
     

    “นั่นอะไรน่ะ”

     
     

    ตาคมมองไปที่เตียงใหญ่ก่อนจะเห็นอะไรสักอย่างอยู่แถวใต้เตียง ก่อนที่จงอินจะหมอบตัวลงแล้วใช้แขนยาวๆค่อยๆคลำมันออกมา

     
     

    อะไรเนี่ย..

     

     

    จงอินขมวดคิ้วแน่นหลังจากที่ได้สัมผัสกับมัน เมื่อใช้มือแตะๆไปทั่วสิ่งนั้นแล้วก็พอจะรับรู้ว่ามันเป็นท่อนยาวๆ  จนในที่สุดหลังจากที่ใช้ความพยายามอยู่สองสามนาทีก็สามารถคว้ามันออกมาจนได้

     
     

    เหี้ย ตัวรั๊ย..

     

     

    สีหน้าที่งุนงงของจงอินเปลี่ยนมาเป็นงงหนักกว่าเดิม สายตาจ้องมองไปที่ท่อนยาวประมาณ 30 เซนติเมตรบนมืออย่างจริงจัง พลิกหน้าพลิกหลังไปมาจนนิ้วยาวเผลอไปสัมผัสกับปุ่มๆนึงบนท่อนนั้น

     

     

    ครืดดดดดดดดดด

     

     

    “เห้ยยยย!”  ทันใดนั้นลำท่อนยาวก็สั่นขึ้นมาทำให้จงอินตกใจจนโยนมันไปกับเตียง  เจ้าตัวเริ่มตื่นตระหนกกับเครื่องตรงหน้าก็เกิดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยเห็นอะไรที่หน้าตาแบบนี้มาก่อนนี่หว่า

     
     

    ระเบิดรึเปล่า?

     
     

    ผ่านไปนาทีกว่าๆ จงอินยังยืนดูมันสั่นอยู่อย่างนั้นเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ระเบิดแล้วจึงค่อยเข้าไปเขี่ยๆกับลำท่อนยาว สัมผัสเปลือกนอกมันนิ่มเล็กน้อยแต่ข้างในแข็งคล้ายกับเป็นเครื่องอะไรสักอย่าง

     
     

    หรือว่าจะเป็น...  

     

     จงอินหัวเราะออกมาให้กับความโง่ของตัวเองจากนั้นก็หยิบมันขึ้นมาดู

     

     

    “นี่กูจะกลัวไปทำไม บ้านนอกจริงๆถึงไม่รู้ว่ามันคืออะไร”  จากนั้นก็ไม่รอช้ารีบเอาเครื่องสั่นนั้นมาหนีบที่รักแร้

     
     

    “มันคือเครื่องนวดนี่เอง    อา.. อ... อา ส.. บ .. ายยย “    ร่างสูงหลับตาลงผ่อนคลายไปกับเครื่องสั่นที่หนีบอยู่ตรงรักแร้ มาเจอได้จังหวะพอดี กำลังเมื่อยแขนเลย ไอ้เครื่องนี้มันหาซื้อได้ที่ไหนเนี่ยเผื่อจะเอามาใช้เองบ้าง

    ในขณะที่จงอินกำลังผ่อนคลายกับเครื่องนวดในความคิดของตัวเองก็เหลือบไปเห็นใบโพสอิทสีเหลืองที่ตกอยู่บนพื้น 

     

     
     

    หวังว่ามึงจะมีความสุขที่ใช้มันนะ

                                          ด้วยรัก     -  เฉิน




     

    เฉิน.. สงสัยจะเป็นเพื่อนชานยอลแน่ๆ  แปลกดี นิสัยแย่แบบนั้นทำไมเพื่อนถึงซื้อของดีๆแบบนี้มาให้ ไม่เห็นสมควรจะได้สักนิด

     

     

    “ว่าไง สลบไปก่อนรึยังหืม”    ทันทีที่ได้ยินเสียงชานยอลเข้ามาในห้อง จงอินรีบปิดเครื่องนั้นก่อนเหน็บไว้ในกางเกงตัวเองแล้วเอาชายเสื้อคลุมไว้  พยายามทำตัวเป็นปกติเพราะถ้าเกิดชานยอลรู้ว่าแอบใช้ข้าวของของเขาต้องโดนโมโหแน่ๆ

     

    “ยัง เก็บเกลี้ยงแล้วด้วย”


    “ห้ะ?”   ร่างโปร่งที่ยืนอยู่ขอบประตูรีบก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะอึ้งไปกับสิ่งที่เห็น หน้าเริ่มชาวาบเมื่อพบว่าไม่มีของอะไรอยู่ในห้องนี้เลย ไม่มี?!

     

    “เป็นไงครับ สะอาดจนอึ้งเลยหรอ”  จงอินกอดอกยักคิ้วยืนมองคุณชายน้อยที่กำลังขบกรามแน่น

    “ของฉันหายไปไหน! เอามันไปไว้ไหน! “  ทันใดนั้นเลือดลมในตัวร่างสูงเริ่มแปรปรวนแล้วเดินเข้าไปคว้าคอเสื้ออีกคนด้วยความโมโหขึ้นสมอง


    “เห้ๆ ใจเย็นดิ ไหนบอกเอาให้เลี่ยม นี่ยังไม่เลี่ยมหรอ จะให้เอาเตียงไปทิ้งก็ได้นะ”

    “ไม่ใช่เลี่ยมแบบนี้ ตั้งใจจะประชดฉันใช่ไหม อยากเจอดีใช่ไหม!

    “เอาดิ ถ้าทำอะไร รับรองว่าไอ้เครื่องนี่จากเพื่อนแสนรักของนายโดนฉันยึดแน่”  ว่าแล้วจงอินก็หยิบเครื่องท่อนยาวที่แอบไว้ขึ้นมาชี้หน้าคุณชายน้อยพร้อมทำหน้าตาเยาะเย้ยราวกับเป็นผู้ชนะในครั้งนี้

     
     

    ชิบหาย แม่งเจอได้ไงวะ  !    ชานยอลหยุดชะงักไปชั่วขณะ  อ้าปากพะงาบๆมองดูสิ่งของที่ไอ้เพื่อนตัวดีแกล้งเอามาให้ในวันเกิด วินาทีแรกที่เปิดเจอมันในกล่องของขวัญหัวใจก็แทบจะวายอยู่แล้ว ยังจะมีคนอื่นมาเห็นไอ้นี่ในห้องนอนเขาอีก หัวใจเจ้ากรรมเหมือนเสียววาบหล่นไปปลายตีนแล้วเรียบร้อย แต่ที่แน่ๆบอกไว้เลยว่าเขาไม่เคยใช้เคยนี้และจะไม่มีวันใช้มันด้วย นี่อุตส่าห์เอาไปซ่อนจนเกือบลืมว่ามีไอ้นี่อยู่ในห้องแล้วนะ แต่เด็กขัดดอกนี่มันไปเจอมาจากไหนวะ

     

     

    ตายๆ ถ้าพี่ชายใหญ่กับคนในบ้านรู้จะต้องตายแน่ๆ

     

     

    “เดี๋ยวๆ เราคุยกันดีๆได้นี่ เนอะ”   ชานยอลยกยิ้มอ่อน ปล่อยมือที่กำคอเสื้ออยู่แล้วปัดหน้าอกให้เบาๆ  จงอินยิ้มพยักหน้ารับแล้วเอียงคอไปมา

    “แบบนี้สิ ค่อยยังชั่วหน่อย ” 


    “คืนมันมาให้ฉันเถอะ แล้วอย่าไปบอกใครเรื่องนี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องนายที่ทำห้องฉันเลี่ยมแต่คืนมันมา โอเคนะ”

     

    “ดูนายจะรักมันมากเลยนะ คงเมื่อยบ่อยล่ะสิ”

    “ห๊ะ.. เมื่อย?


    “ก็ใช้เวลาเมื่อยไง ไม่ต้องอายหรอกหน่า มันใช้แบบนี้ใช่ไหมล่ะ”  นิ้วยาวกดเปิดปุ่มให้สั่นอีกครั้งแล้วหนีบมันไว้ที่รักแร้สาธิตให้อีกคนดู

     

    ไอ้นี่ไม่รู้จักว่ามันคืออะไร  เห้ย เป็นไปได้ไง บ้านนอกขนาดนี้เลย ?   ชานยอลมองดูการกระทำแปลกๆก่อนจะหัวเราะแห้งๆตามน้ำไป  ปล่อยให้คิดว่าเป็นเครื่องนวดนั่นแหละ เขาจะได้ไม่ต้องอับอายกับจงอินแถมคนอื่นจะไม่มีทางรู้ตัวว่าเขามีไอ้นี่อยู่ในห้อง

     

    “เออๆ ช่วงนี้เมื่อยบ่อย ขาดไม่ได้เลย เอามันมาให้ฉันนะ นะ “   มือหนาแบออกพร้อมทำเสียงอ้อนวอน

     

    “จะถือว่าคราวนี้ยอมให้ละกัน “ จงอินยกยิ้มมุมปาก วางเครื่องนั้นลงบนมือชานยอลก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างสบายใจ

     
     

    จะกำราบไอ้คุณชายนี่ก็ไม่เห็นอยากนี่หว่าแค่เด็กหวงของเท่านั้นเอง

     

     

    “เกือบแล้วเว้ยปาร์คชานยอล”  สถบออกมาเบาๆพรางถอนหายใจ  เมื่อเห็นว่าจงอินไปจนสุดสายตาแล้วก็รีบปิดประตูห้องเพื่อไม่ให้ใครเผลอมาเห็นเข้า สงสัยจะต้องหาที่ซ่อนใหม่ที่มันดีกว่านี้แล้วแหละ

     

     

     

    จงอิน .. เด็กนี่เป็นคนประเภทไหนกันนะ

     

     














    -----------------------------------------------------------





    มาต่อขัดดอกสามแล้วทุกคนนนน ยังเขียนยากเหมือนเดิมเพราะช่วงนี้ติดเดอะวอร์คกิ้งเดดมาก อารมณ์หม่นปนสีเทา จะร้องหั้ยย 55555 ก็นะคะขัดดอกที่สามก็ไม่มีอะไรมากมีแค่อารมณ์กากๆของไรท์เอง 55555 แล้วเครื่องอันนั้นมันคืออะไรก็ไม่รู้สินะ เป็นการบ้านไปมโนกันเองนะค้า เด็กๆที่เข้ามาอ่านถ้าไม่รู้ก็งงกันต่อไปนะลูก 555555555

    ขอคอมเม้นมาเป็นกำลังใจหน่อยเร็วทุกคนนน





    ไปสกีมกันต่อใน #สะใภ้ขัดดอก



     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×