คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ขัดดอกที่ 2
ขัดดอกที่2
ไม่เอาวุ้นเส้น ไม่เอาเส้นเล็ก ไม่เอาเส้นใหญ่ ไม่เอาเส้นหมี่ ..
ไม่เอาวุ้นเส้น ไม่เอาเส้นเล็ก ไม่เอาเส้นใหญ่ ไม่เอาเส้นหมี่ …
ไม่เอาวุ้นเส้น ไม่เอาเส้นเล็ก ไม่เอาเส้นใหญ่ ไม่เอาเส้นหมี่ ....
ก็คือไม่เอาไงโว้ยย !!!!!!!
เฮือกก !
ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกระทันหันจากฝันที่แสนโหดร้าย เหงื่อผุดขึ้นเต็มตัวจนอับชื้นพร้อมกับเจ้าตัวที่ลุกขึ้นหอบหายใจเหมือนคนวิ่งหนีอะไรมาสักอย่าง เรื่องราวของชายชุดดำกับเจ้าของเสียงโทรศัพท์ปริศนาผ่านมาได้เกือบเดือนแล้วแต่ตลอดทุกคืนจงอินยังคงฝันถึงเสียงที่โหดเหี้ยมแบบนั้นทุกคืน มันวนเวียนอยู่ในหัวสมองตลอดเวลาไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ยอมหายไป นี่ขนาดนั่งฟังเดอะช็อคว่าเสียงพี่ป๋องหลอนแล้วเสียงไอ้นี่แม่งยังหลอนกว่าอีก
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย ฝันอีกแล้ว หืม... เหม็นว่ะ” จงอินก้มหัวลงดมใต้วงแขนตัวเองที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วหยีหน้า
ถ้ายังฝันถึงเสียงหลอนๆแบบนั้นอีก เขาคงคิดว่าตัวเองมีอาการจิตที่ผิดปกติแน่ๆ อย่าให้เจอตัวเมื่อไหร่นะเดี๋ยวได้เห็นดี ข้อหามาทำให้จิตเขาวิปริตแบบนี้ ไอ้.. ชื่อไรนะ.. ปาร์คๆหย่อนๆ สักอย่าง แต่ช่างมันเพราะจงอินไม่ได้สนใจจะจำชื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จำไปก็เปลืองพื้นที่สมองอันเลอค่าของเขาเปล่าๆ
ร่างหนาสะบัดหัวไล่ความง่วงออกจากตัวก่อนเหลือบมองนาฬิกาสีชมพูรูปหมีที่ทำหน้าตายิ้มทะเลอทะล่าบนหัวเตียง ตอนเด็กๆแม่ของจงอินซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดแต่เขาไม่อยากได้จนขนาดลงไปนอนดิ้นร้องไห้กับพื้น ก็แหงล่ะ.. เป็นของมือสองแล้วมันยังเป็นนาฬิกาของตุ๊ดเด็กชัดๆ นอกจากมันจะทนจนใช้ได้เป็นสิบๆปีเขาก็ไม่เห็นข้อดีอะไรของมันอีกเลย
“หลับไปแปปเดียว ห้าโมงเย็นแล้วหรอเนี่ย” มือหยาบยกขึ้นบีบที่ต้นคอตัวเองอย่างเมื่อยล้า เมื่อเช้านี้เขาเพิ่งไปรับจ้างแบกกระสอบทรายมาจนหมดแรง พอถึงหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับไปตายแบบไม่สนใจโลกภายนอก ค่าจ้างที่ได้มาก็น้อยนิดไม่พอซื้อยามานวดด้วยซ้ำ
โคร้มม ! เป๊งงง ! ปึงงง!
“กรี๊ดดดดดดด” เสียงข้าวของถูกคว้างกระจายดังขึ้นมาจากชั้นล่างของบ้านพร้อมกับเสียงร้องของหญิงสาวที่จงอินคุ้นเคย ทันทีที่ได้ยินเสียงร่างสูงก็รีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่างก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าแม่ของเขากำลังนั่งร้องโอดครวญกองอยู่กับพื้นพร้อมข้าวของที่ถูกทำลายโดยชายร่างใหญ่สามคน
“แม่! เกิดอะไรขึ้น พวกนี้มาทำลายข้าวของเราทำไม” รีบวิ่งเข้าไปโอบกอดหญิงสาวแน่น คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเกือบมัดเป็นปม ยิ่งเห็นแม่ของเขาร้องไห้จงอินยิ่งเจ็บปวดเหมือนถูกแทงท้อง สาวไส้ออกมาสับๆเป็นชิ้นแล้วโรยเกลือซ้ำอีกที
“แม่แกมันติดหนี้พวกฉันเกือบล้านผ่านมาเกือบปีแล้วยังไม่คืน นี่ยังไม่คิดดอกที่ต้องเสียนะ สงสัยจะหลายล้านเลยว่ะ ” หนึ่งในชายร่างใหญ่พูดขึ้นมาพร้อมหัวเราะเสียงดัง
“เกือบล้าน!? ทำไมแม่ไม่เคยบอกหนู ทำไมหนูไม่รู้เรื่อง! “
“แม่ขอโทษ ตอนแรกแม่ก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะแบบนี้ แต่เราไม่มีเงิน ถ้าถูกยึดบ้านไปก็ยังไม่ถึงครึ่งของหนี้ที่ติดอยู่ดี แม่ขอโทษ ฮือ..” คนเป็นแม่ก้มหน้าร้องไห้ลงกับมือของตัวเอง นี่เป็นครั้งที่สองที่จงอินเห็นแม่ร้องไห้หนักขนาดนี้ ครั้งแรกก็ตอนที่พ่อทิ้งแม่ไป นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้แม่ร้องไห้อีกแต่วันนี้เขากลับได้เห็นมันอีกครั้ง
“แล้วเรามีทางเลือกอะไรบ้าง พอมีทางไหม”
“มี.. หนึ่งในพวกเอ็งต้องเอาตัวไปขัดดอกที่บ้านเจ้านายพวกข้า ไปคอยเป็นคนรับใช้ที่นั่น ว่าไง ข้อเสนอแบบนี้ดีไหม?” ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยปาก ชายคนนึงก็พูดขึ้นแทรกขึ้นมา ทำให้จงอินตัวแข็งราวกับโดนแช่เข็ง นั่นหมายถึงเขากับแม่จะต้องแยกกันและมันคือฝันร้ายที่จงอินภาวนาไม่ให้มันเกิดขึ้นตลอดทั้งชีวิต
“จงอิน.. อยู่บ้านหนูต้องดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่จะไปขัดดอกเอง”
“ไม่! ถ้าให้แม่ไปอยู่กับคนพวกนี้ จะหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ให้ไป หนูเอง หนูจะไปเอง!”
“ไม่.. ไม่นะจงอิน โถ่ ลูกแม่” น้ำตาแห่งความปลื้มใจไหลพรั่งพรูออกมาทั้งสองแม่ลูก สันจมูกโด่งหอมขมับของหญิงสาวที่รักเพื่อปลอบประโลม สองแขนกอดกันกลมจนชายทั้งสามคนอดซึ้งใจไม่ได้จนต้องยกมือขึ้นซับน้ำตาที่ซึมออกมานิดๆ
“ถ้างั้นพรุ่งนี้เอ็งต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหญ่ที่ในเมือง นี่เป็นที่อยู่ของเจ้านายข้าเดี๋ยวข้าจะบอกท่านชายไว้ให้ แล้วอย่าเบี้ยวนะเว้ย ถ้าเบี้ยวเดี๋ยวได้เห็นดีกัน” ชายร่างใหญ่ยื่นกระดาษใบเล็กที่เขียนที่อยู่บ้านให้กับจงอินก่อนจะเดินออกไปจากบ้านด้วยท่าเดินกร่างๆเหมือนพวกกุ๊ยคุมซอย จงอินก้มมองดูกระดาษแผ่นนั้นด้วยน้ำตาแล้วกอดแม่แน่น
“ไม่เป็นไรนะ แม่จะทำงานเก็บเงินไปไถ่ตัวหนูออกมา อย่างมากก็แค่ปีสองปีนะลูกนะ แม่สัญญา” มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มของลูกชายที่รัก อีกคนไม่ได้ตอบกลับเพียงแต่ยิ้มบางๆให้แล้วซบหน้าลงบนไหล่พร้อมร้องไห้ออกมา
เชื่อแล้วว่าความรักของแม่กับลูกช่างยิ่งใหญ่จริงๆ..
จริงหรอ...
หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ
“เล่นให้สมจริงนะเว้ย ถ้าไม่สมจริงฉันจะให้แค่ครึ่งเดียว”
“โห้ยเจ๊ พวกผมอะรางวัลออสการ์ยังน้อยไป”
“แหม ทำเป็นพูดดี” หญิงสาวมองหมั่นไส้ก่อนจะควักเงินออกมาจำนวนนึงให้กับชายทั้งสามคนที่จงอินไม่ทันสังเกตว่าเป็นพวกเด็กขนผักที่ตลาดใกล้ๆนี่เอง
“เอ้อ ว่าแต่จะให้พวกผมทำลายของเจ๊จริงๆอะนะ ไม่เสียดายหรอ”
“ไอ้เสียดายมันก็เสียดายเว้ยแต่จะทำการใหญ่ใจต้องกล้า”
“แล้วทำไมเจ๊ต้องทำขนาดนี้ด้วยล่ะ” เจ้าตัวขมวดคิ้วเสียอารมณ์เมื่อถูกถามแบบนั้นแล้วค่อยๆก้มลงกระซิบให้กับชายทั้งสามคนได้ฟัง
“จงอินลูกฉันน่ะมันเป็นคนหัวแข็ง ถ้าฉันขอร้องให้มันไป ให้ฟ้าผ่าตายมันก็ไม่ย๊อมไม่ยอม ต้องใช้ลูกเล่นแบบนี้แหละ นอกจากฉันจะเอาตัวมันขัดดอกแล้วฉันอาจจะกลายเป็นเศรษฐีอีกด้วยนะพวกเอ็ง ฮ่าๆๆ”
“กลายเป็นเศรษฐี?”
“เอ้า พวกเอ็งไม่รู้จักเพชรที่มีราคาเกือบพันล้านของบ้านปาร์คหรอ”
“อ่อออออออ ” ชายสามคนส่งเสียงร้องพร้อมมองหน้ากันยิ้มๆ ถึงไม่พูดต่อแต่ก็เข้าใจดีว่าหญิงสาวคนนี้ต้องการอะไร
“เจ๊นี่มันร้ายจริงๆ ไม่สิ..เข้าขั้นเลวต่างหาก ถ้าผมเป็นลูกเจ๊คงบีบคอตัวเองตายตั้งแต่ตอนคลอดออกมาจากจิ๋มเจ๊แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ” ถึงจะโดนพูดจิกนิดๆแต่เจ๊ใหญ่ในที่นี้ไม่ได้สะทกสะท้าน มือเรียวยกขึ้นป้องปากตัวเองแล้วหัวเราะออกมาเยี่ยงนางมารร้าย
แล้วสักวันลูกจะขอบคุณที่แม่ทำแบบนี้
“เดินมาห้ากิโลแล้วยังไม่ถึงอีก เมื่อไหร่จะถึงวะ ร้อนเว้ยร้อนน มึงนี่ก็ร้อนได้ทุกวันเนอะถามจริงเบื่อบ้างไหม เหนื่อยบ้างรึเปล่า มึงไม่เหนื่อยแต่กูเนี่ยเหนื่อยย”
ร่างสูงที่กำลังเดินหอบหิ้วกระเป๋าใบใหญ่สบถออกมาแรงๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนตากแดดเท่าไหร่แต่เขาก็ยังไม่คุ้นชินกับความร้อนสักที แบกกระเป๋าว่าหนักแล้วแม่ยังห่อเหนียวไก่มาให้กินเป็นสิบๆห่อ จะดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอกแต่การแบกเหนียวไก่เป็นถุงๆพร้อมแดดที่พร้อมจะทำให้ไก่ไหม้ไม่ใช่เรื่องตลก มันไม่ตลก จงอินไม่โอ
“เห้ย นี่ไง! บ้านเลขที่ 55/555 “ ยังตะงิดใจตั้งแต่เมื่อวานว่าทำไมเลขที่บ้านมันอารมณ์ดีขนาดนี้
อือหือ.. บอกทีว่านี่บ้านคนหรือพระราชวังบัคกิ้งแฮม ใหญ่ขนาดนี้แม่งสร้างให้คนทั้งจังหวัดอยู่เลยหรอวะเนี่ย...
ร่างสูงโปร่งยืนแนบหน้ากับกรงรั้วเลี่ยมทอง สอดส่องสายตามองดูคฤหาสน์อันใหญ่โตมโหฬารอลังการงานสร้างแบบชนิดที่ว่าไม่คิดว่าจะมีอยู่ในโลกนี้ ไม่ใช่แค่บ้านเท่านั้นที่ใหญ่แต่ยังมีพื้นที่กว้าเป็นสิบๆไร่ ทางซ้ายมือสามารถมองเห็นลานจอดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว โรงจอดรถขนาดใหญ่อีกทั้งสนามกอล์ฟขนาดย่อมและแน่นอนกลางบ้านต้องมีน้ำพุงใหญ่ๆโง่ๆตั้งอยู่ตามตำหรับบ้านคนรวย ถ้าจะให้เดินเข้าไปถึงคฤหาสน์คงต้องใช้เวลาสักชั่วโมงสองชั่วโมงแน่ๆ
“ขอนิดนึงขนหน้าแข็งไม่ร่วงหรอกม้างง..
แต่ตอนนี้จงอินไม่ได้แยแสกับเรื่องนั้นสักนิด เขาหันกลับมาสนใจไอ้รั้วเรี่ยมทองนี่มากกว่า ริมฝีปากหนาเม้มเข้าหากันอย่างช่างใจ มองซ้ายมองขวาแล้วงัดมีดเล็กออกมาขูดรั้วเลี่ยมทองอย่างเมามันประดุจขูดขอหวย
“จะทำอะไรน่ะ!” ร่างสูงกระตุกวูบรีบเก็บมีดพร้อมสะเก็ดทองในกำมือเข้ากระเป๋าเมื่อหญิงสาวอายุราว50 ทรงผมตีกระบังลมกดลดกระจกรถBMWคันหรูสีดำลง พร้อมส่งสายตาดุเดือดจ้องมองมาที่ตัวเขา ชิบหายแล้ว.. นี่ต้องเป็นคุณหญิงของบ้านนี้แน่ๆ
“ค.. คุณหญิงสวัสดีครับ ผมคิมจงอิน ถูกส่งตัวมาขัดดอกที่บ้านนี้ คือผม..”
“ฉันไม่ใช่คุณหญิง ฉันเป็นคนใช้ที่นี่”
เชร้ดด... คนใช้ขับBMW แม่งเจ๋งสัสๆเลยอะ
“เมื่อวานฉันรู้แล้วว่าจะมีคนมาขัดดอก ขึ้นมาสิ จะบ้านเข้าไปในบ้าน”
“ค... ครับ” จงอินไม่รอช้ารีบหอบกระเป๋ากับถุงเหนียวไก่ทั้งหมดเปิดประตูหลังขึ้นไปบนรถคันหรู เกิดมาเคยนั่งแต่รถตุ๊กๆกับซาเล็งแก่ๆของลุงแถวบ้าน ไม่นึกว่าจะมีบุญได้มานั่งรถแบบนี้ ทันทีที่ก้นหยาบได้ปะทะกับเบาะแสนนุ่ม เจ้าตัวก็ก้มหน้าลงซับน้ำตาที่ค่อยๆซึมออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ สาวใช้แก่หยิบรีโมทคอนโทลขึ้นมากดเปิดรั้วเลี่ยมทองนั่นก่อนที่ชายหนุ่มร่างใหญ่ข้างๆจะขับรถเข้าไปภายในบ้าน บร๊ะเจ้า.. เหมือนฝัน..
“ร้องไห้ทำไมน่ะ คิดถึงบ้านหรอ” หญิงแก่ที่นั่งอยู่เบาะหน้าเอี้ยวตัวหันมามองด้วยสายตางุนงง
“อ่อ.. นิดหน่อยครับ” เปล่า กูซึ้งที่ได้นั่งรถของป้านี่แหละ
“คิมจงอินใช่ไหม ฉันชื่อมี แตฮีนะ เป็นคนใช้ที่ใหญ่สุดในบ้านนี้ แล้วส่วนที่ขับรถอยู่นี่ชื่อ ซอย เตียงทรุด มีน้องอีกคนชื่อ ซอย ข่อยแน ”
สาบานสิ ว่านั่นชื่อคน... ยิ้มเหี้ยมๆของคนขับรถส่งมาให้จงอินผ่านกระจกมองหลัง ทำเอาขนทั่วตัวพร้อมใจกันลุกพรึ่บพรั่บ จงอินยกยิ้มเกร็งๆที่มุมปากส่งคืนให้ก่อนจะแสร้งเสตามองบรรยากาศภายในคฤหาสน์เพื่อหลบยิ้มสยองแบบนั้น
เอ๊ะ... ทำไมหน้าไอ้พี่เหี้ยมนี่คุ้นๆวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน.. แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกเหมือนมันติดอยู่ที่ปลายสมอง
“เมื่อเดือนที่แล้วก็มีเด็กมาขัดดอกนะแต่ทนไม่ไหว ร้องไห้หนีกลับไปบ้านแล้ว”
“บ้านนี้อยู่ยากหรอครับ..”
“สำหรับคนอื่นป้าไม่รู้ แต่ป้าผ่านมาเย้อะ เจ็บมาเย้อะ เธออย่าหนีกลับบ้านไปก่อนละกัน อะไรที่ทนได้ก็ทนๆไป”
“เรื่องนั้นวางใจได้เลยป้า ผมทนมือทนตีน ขุดสวนทำไร่ทำนาผมทำมาหมดแล้ว ป้าอยากใช้อะไรผมใช้ได้เลย สบ้าย”
“โชคดีของเอ็งนะจงอินที่ตอนนี้คุณชายน้อยไม่อยู่ “ จงอินเลิกคิ้วขึ้นมองป้าอย่างไม่เข้าใจ แต่เพื่อมารยาทเขาไม่ควรจะถามอะไรมากตอนนี้ ทำได้แต่กลืนก้อนสงสัยลงคอไปแล้วนั่งเงียบๆจนรถมาจอดหน้าประตูคฤหาสน์
“เตียงทรุด เอาของของจงอินไปเก็บที่ห้องพักคนใช้นะ เอ้อ จงอินก็ตามฉันมาเดี๋ยวจะพาไปหาคุณชายใหญ่ก่อน ตอนนี้กำลังได้เวลานั่งจิบชาพอดี” ป้าแตฮีหันไปสั่งกับเตียงทรุดแล้วเปิดประตูลงจากรถ จงอินพยักหน้ารับแล้วรีบตามหญิงแก่เข้าไปในคฤหาสน์
ทันทีที่ป้าเปิดประตูคฤหาสน์ออก ปากหนาก็อ้าออกกว้างเมื่อได้ยลโฉมความสวยที่ตกแต่งสไตล์บาโรก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างล้วนราคาเหยียบล้าน ภายในกว้างกว่าหมูบ้านทั้งหมูบ้านรวมกันพร้อมทั้งอากาศเย็นๆที่เกิดจากเครื่องปรับอากาศกว่ายี่สิบตัวทั่วคฤหาสน์ นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ ยังกับมาเดินเล่นในกรุงโรมประเทศอิตาลี ในที่สุดจงอินก็เจอแล้วที่ที่ไม่ต้องเข็นก๋วยเตี๋ยวท่ามกลางแดดร้อนๆ โอ้ว พระเจ้า โอ้ว..
“มัวมองอะไรอยู่ รีบตามมาสิเร็ว”
“ครับๆๆ”
จงอินรีบเดินตามสาวแก่เข้ามาห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งภายในมีขนาดกว้างขวาง ตามฝาผนังเป็นลายลูกไม้สีอ่อนแนววินเทจหน่อยๆ กลางห้องมีทีวีเครื่องยักษ์พร้อมโซฟาตัวใหญ่สามสี่ตัววางอยู่ แต่ที่ทำให้จงอินต้องสะดุดตาคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกำลังจิบชายืนมองท้องฟ้าที่หน้าริมหน้าต่างบานใหญ่ ใบหน้าของเขาเข้าขั้นหล่อดูดี สันจมูกโด่งประกอบกับตานัยต์ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวราวกับพวกฝรั่ง ผมสีทองนั่นกำลังปลิวเบาๆตามสายลมที่พัดมาพร้อมหลับตาพริ้มยิ้มตาเยิ้ม
“สายลมในครานี้มันช่างเย็นดีเหลือเกิน หวนนึกถึงทุ่งหญ้าในคราวที่ฉันเป็นเด็กแล้วก็อดคิดถึงท่านพ่อท่านแม่มิได้”
ทุ่งหญ้ากับพ่อแม่.. มันเมคเซ้นส์กันหรอวะ..
“ป้า.. ทำไมเขาถึงพูดภาษาแปลกๆ..” ขมวดคิ้วมองพร้อมกระซิบถามเบาๆ
“นั่นคุณชายใหญ่ ตอนเด็กๆไม่เคยดูละคร พอดูเรื่องนางทาสเรื่องแรกก็อินไง นี่เคยส่งไปรักษาอาการที่ลอนดอนแล้วนะ หมอบอกเอาไม่อยู่ แต่เขาก็เป็นแบบนี้แหละเอ็งอย่าแปลกใจ”
“นั่นผู้ใดน่ะแตฮี” เจ้าของผมสีทองละสายตาจากท้องฟ้า หันหน้ามามองที่จงอิน ทำให้เขายิ่งเห็นความหล่อมากขึ้นกว่าเดิม โห มองดีๆนี่นึกว่าเอ็ดเวิร์ดทไวไลท์...
“เด็กขัดดอกค่ะคุณชายใหญ่ ชื่อคิม จงอิน”
“สวัสดีจงอิน ข้าชื่อ คริสนะ” ร่างสูงโปร่งเดินมานั่งที่โซฟากลางห้อง สอดส่องสายตามองทั่วตัวจงอินแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม “น่าลูบไข่ดีนะ”
“ห้ะ!” มือหนารีบกุมที่เป้าตัวเอง อะไรว่ะมาถึงก็จะลูบไข่กันเลย โรคจิตป่ะวะ!
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่สิ หมายถึงใบหน้าเจ้าน่ะรูปไข่ดี มีสง่าราศี รูปไข่แบบ .. ตัวรอเรือน่ะ รรรรร ” ว่าพรางกระดกลิ้นรัวล้อคนตรงหน้า จะว่าไปมันสนุกมากสำหรับคริสที่ได้พูดแหย่เด็กขัดดอกมาใหม่ แต่ตอนนี้บอกเลยว่าจงอินกำลังเสียเซลฟ์สุดๆทั้งอายทั้งอยากจะดึงลิ้นคุณชายใหญ่นี่ออกมาตัดให้เป็ดกิน คนบ้านนี้มีใครที่สติดีๆบ้างไหม?
“เป็นเด็กขัดดอกใช่หรือไม่ หวังว่าเจ้าจะมีความสุขที่ได้มาอยู่เรือนนี้นะ “ สายตาคมจ้องมองมาที่จงอินแบบมีซัมติงซัมดึ๊ย ตอนแรกก็คิดว่าจะมีความสุขดีอยู่หรอกแต่ตอนนี้บอกเลยว่าไม่มั่นใจ...
“กระผมฝากตัวด้วยขอรับ” บ้าจี้เล่นตามไปเรื่อย เอาเห้อะ ไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียละ
“ฮ่าๆ ข้าชอบเจ้าจริงๆ” คริสปรบมือหัวเราะชอบใจราวห้าวินาทีก่อนจะตั้งสติได้ว่าควรคีพลุคคุณชายใหญ่เอาไว้จึงกลับมาทำหน้าเข้มขรึมแบบเดิม โห.. นี่คนหรือกิ้งก่า
“เอ้อ แล้วชายน้อยไปไหนล่ะแตฮี”
“ก็เมื่อวานป้าไปบ่นๆกับเขาว่าช่วงนี้มะนาวมันแพง คุณชายน้อยเลยนั่งเครื่องบินไปกินปลากระพงนึ่งมะนาวที่สิงคโปร์ตั้งแต่เช้าเผื่อว่าจะลดค่าใช้จ่ายของบ้านบ้างน่ะค่ะ “
“อืม.. โตแล้วก็ใช้เงินเป็นแล้วสินะน้องเรา “ จงอินที่นั่งฟังข้างหน้าเหวอไปพักนึงกับบทสนทนาของคนบ้านนี้ นี่คือประหยัดค่าใช้จ่ายของบ้าน? ไปกินปลากระพงนึ่งมะนาวที่สิงคโปร์เพราะมะนาวแพง? What da farkkkkk !? เขาหายใจออกมาเป็นแบงค์พันกันหรอตอบ
“ว่าแล้วก็คิดถึงตอนข้ากับชายน้อยเมื่อห้าหกขวบ แข่งขันกันเล่นหุ้นจนมิเป็นอันทำอะไร สุดท้ายชายน้อยก็เอาเงินในหุ้นไปซื้อเครื่องดัดผมเพราะอยากมีผมหยอยๆเหมือนดาเกาหลี น่าขำอะไรเช่นนี้” คริสหัวเราะในลำคอแล้วยกชาขึ้นจิบดับกระหาย
“คุณชายน้อยนี่เขาเอาแต่ใจขนาดนั้นเลยหรอครับ” จงอินที่ยืนมองอยู่ข้างเริ่มเปิดประเด็นถาม ตั้งแต่เข้ามาในบ้านนี้ก็เห็นแต่ใครพูดถึงคุณชายน้อย อยากจะเห็นหน้าแล้วจริงๆ
“ผู้ใดก็เอาแต่ใจกันทั้งกัน เพียงแต่น้องชายข้ามันแสดงออกมากไปหน่อย เจ้าก็อยู่รอเจอชายน้อยก่อนนะจงอิน ข้าว่าคงเข้ากันดีแน่นอนเชียว”
“แสดงออกมากกับผีสิ ตั้งแต่เกิดมา มีคุณชายน้อยนี่แหละที่ป้ายอมใจ” หญิงสาวแก่เข้ามากระซิบข้างหูจงอินเบาๆ
อยากจะรู้เหมือนกับว่าไอ้คุณชายน้อยนี่มันจะสักแค่ไหนกันเชียว คิดภาพไว้เลยว่าต้องเป็นพวกโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแต่ยังงอแงเอาแต่ใจแบบเด็กๆ ต้องแต่ตัวแบบใส่เอี๊ยม เป้ารัดๆ ใส่แว่นเนิร์ดๆ แล้วพูดแบบมีน้ำลายไหลออกมานิดๆประมาณว่า ‘พี่ชายใหญ่ฮ้าบบบ.. พี่ชายใหญ่ ช.. ชายน้อยอยากไปกินปลากะพงนึ่งมะนาวที่สิงคโปร์อะฮ้าบบ งืมมม.. ’ แน่ๆ
ครืดดดดดด...
“เสียงเครื่องบินเจ็ทคุณชายน้อยนี่นา มาได้จังหวะพอดีเชียว นี่! พวกคนใช้ พวกหล่อน! หายไปไหนกันหมดรีบไปปูพรมแดงให้คุณชายน้อยเดินเร็วๆ!” ป้าแตฮีตะโกนเรียกสาวใช้ทั่วบ้านแล้วพากันหอบพรมสีแดงหนักๆวิ่งกระเตงๆออกไปนอกบ้านปูพรมยาวมาถึงในบ้าน จงอินผงะมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับและวุ่นวายของสาวใช้ในบ้าน มั่นใจนะว่าคุณชายน้อยไม่ใช่ต้อนรับบารัคโอบาม่า
“มิต้องตกใจ เป็นเรื่องปกติ”
“ค..ครับ” จงอินยืดอกยืนตรงกุมมือประสานกันไว้ข้างหน้าด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
“คุณชายน้อยมาแล้ววววว “
ทันใดนั้นภาพทั้งหมดก็กลายเป็นภาพแบบสโลว์โมชั่นไปโดยอัตโนมัติ… ขาเรียวยาวในกางเกงแบนด์ดังก้าวเข้ามาในบ้านเผยให้เห็นรูปร่างที่สูงโปร่งพอๆกับคุณชายใหญ่ ใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบอันลงตัว ไม่ว่าจะเป็นตากลมโต คิ้วหนาเข้ม จมูกโด่งราวสันเขื่อน หรือปากที่กำลังขับกัดริมฝีปากล่างเบาๆ มือหนาค่อยๆยกขึ้นเสยผมสีดำเข้มของตัวเองอย่างมีเสน่ห์ สายตาเฉียบคมมองไปทั่วบ้านและเดินตรงเข้ามาเหลือบมองจงอินที่ยืนมองอึ้งอยู่ด้วยหางตาก่อนจะไม่สนใจแล้วเดินไปสวมกอดคริสที่ลุกขึ้นอ้าแขนรออยู่
โอโห้... นี่หรอคุณชายน้อย ... ไม่ได้เฉียดภาพที่คิดไว้สักนิด ... หล่อจนอิจฉา…
“ยินดีต้อนรับกลับเรือนนะน้องรัก มิได้เจอชายน้อยตั้งห้าชั่วโมง พี่คิดถึงจวนจะขาดลมหายใจ”
“ผมก็คิดถึงพี่แต่ขอร้องล่ะ หยุดเรียกผมว่าชายน้อยสักที มันเหมือนอยู่ในบ้านทรายทอง..”
ผู้มาเยือนทำหน้าไม่สบอารมณ์ให้กับคนเป็นพี่แล้วหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟากว้างข้างๆคริส จงอินที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าลง
“เอ้า แล้วที่ยืนหน้ามืดๆอยู่นั่นใครน่ะ”
ปัง!!!!!!
คำพูดของคุณชายน้อยแล่นเข้าไปที่เส้นประสาทส่วนรับรูการได้ยินส่งต่อไปที่สมอง แต่ความเจ็บแสบกลับแล่นไปทั่วร่างกายจงอินเหมือนโดนช็อต เกิดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขามาก่อน แล้วไอ้นี่เป็นใคร มันดีมาจากไหนถึงกล้ามาพูดแบบนี้!
“มึงว่าไงนะ! หน้ามืดหรอ กูหน้ามืดหรอ ห้ะ!” คว้าคอเสื้อไอ้ชายน้อยขึ้นมาแล้วซัดหมัดลงไปที่เบ้าตาแรงๆ ถีบลงให้นอนไปกับพื้นแล้วกระทืบตีนใส่รัวๆ
แต่นั่นมันแค่การกระทำในความคิด... ความเป็นจริงเขาทำได้แค่ยืนก้มหน้ากำหมัดตัวเองแน่นเพื่อข่มอารมณ์เอาไว้ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันคือเจ้านายอย่าหวังว่าจะมีปากสภาพดีๆไว้กินข้าว
“อย่าหยาบคายใส่คนอื่นสิชายน้อย.. นี่คิม จงอิน เด็กขัดดอกมาใหม่ แทนคนที่แล้วที่เจ้าทำเขาร้องไห้กลับไปไง” คริสผายมือยิ้มไปทางจงอิน
“จงอิน ส่วนนี่คือ ปาร์ค ชานยอล ชายน้อยในบ้านนี้”
ปาร์ค หย่อน ...
ปาร์ค ชานหย่อน ......
ปาร์ค ชานยอล................
ปาร์ค ชานยอล!!!!!!!
เปี๊ยงงงงงงง !!!!!!!!!!!
ภาพสีขาวดำเมื่อเดือนที่แล้วฉายย้อนขึ้นในหัวของจงอินอีกครั้ง
/ได้ งั้นฉันเอาก๋วยเตี๋ยวก็ได้ แต่ไม่เอาน้ำ/
/ไม่เอาผัก/
/ไม่เอาเนื้อหมู ไม่เอาลูกชิ้น/
/ไม่เอาวุ้นเส้น ไม่เอาเส้นเล็ก ไม่เอาเส้นใหญ่ ไม่เอาเส้นหมี่ /
/ก็คือไม่เอาไงโว้ย !/
ฝันร้ายของจงอินตลอดเดือนกว่าที่ผ่านมา คือไอ้คนนี้ ไอ้ที่นั่งหน้าตากวนตีนอยู่ตรงนี้หรอ คนที่เขาอยากเจอตัวแล้วไฝว้ด้วยคือไอ้นี่หรอ ไอ้คุณชายน้อยนี้น่ะหรอ จากที่มันเป็นฝันร้ายทุกคืนที่หลับตา ตอนนี้มันเป็นฝันร้ายที่กลายมาเป็นเรื่องจริงตรงหน้าเขาแล้ว Shift หาย!!!
จงอินไม่ได้แสดงอาการตกใจให้คนบ้านนี้เห็นนักเพียงแต่ก้มหน้าลงจนคางเกือบชิดอกเพื่อไม่ให้อารมณ์ภายในระเบิดออกมา นึกปลอบตัวเองภายในใจว่าไม่เป็นไร เขาไม่รู้จักเรา ปล่อยวางแล้วลืมเรื่องง่าวๆนั้นไปซะ
ขอเปลี่ยนคำพูดนะ .. นี่มันนรกบนดินชัดๆ
“เด็กขัดดอกหรอ หึ บ้านจนล่ะสิ น่าสงสารจริงๆเลย” ชานยอลยักคิ้วขึ้นหนึ่งข้างพร้อมคลี่ยิ้มมุมปาก
บ้านกูรวยมั้ง กูถึงมาเป็นเด็กขัดดอกเนี่ย “ครับ บ้านจน..”
“งั้นก็ขัดดีๆล่ะ ถ้าขัดเบาไปมันก็ไม่คุ้ม ถ้าขัดแรงๆก็ระวังจะหลุด..” เว้นคำพูดแล้วเดาะลิ้น “เพราะพอหลุดแล้วมันก็จะหลุดไกล.... ไกลไปนู่น ไปจากบ้านนี้”
ก่อนขัดดอกขอขัดปากคุณชายน้อยก่อนได้ไหมครับ
บอกสิว่าไอ้นี่ชื่อปาร์คชานยอล ไม่ใช่ ปาร์คหมาจัง (ปากหมาจัง)
“ชอบล้อคนอื่นไปเรื่อยเสียจริง อย่าถือสาชายน้อยเลย ฮ่า”
“ไม่ถือสาหรอกครับ ฮ่าๆ แต่..ขอโทษนะครับคุณชายน้อย”
“อะไร”
“เวลาคุณชายน้อยเดินนี่ลำบากไหมครับ”
“ก็ไม่นะ นายถามทำไม”
หึ .. จงอินคลี่ยิ้มที่มุมปาก
“อ่อ.. เปล่าหรอกครับ พอดีเห็นหูคุณชายน้อยมันกางๆเหมือนกระบังต้านลม ผมเลยกลัวว่าเวลาคุณชายน้อยเดินลมมันจะตีจนเดินลำบากน่ะครับ”
“ขุ่นพระ! / ว้ายย “ เสียงอุทานเบาๆของคริสและสาวใช้ที่นั่งฟังอยู่อุทานออกมาพร้อมๆกันโดยมิได้นัดหมาย ภายในห้วงเวลาอันเงียบและทุกคนพร้อมใจกันอึ้งกับคำพูดของเด็กขัดดอกหน้าใหม่ คุณชายน้อยที่ตอนแรกหน้ายิ้มระรื่นตอนนี้เริ่มแดงไปทั้งหน้าลามไปใบหู ผิดกับจงอินที่ตอนนี้ยักคิ้วปิ้วๆส่งไปให้คนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“ฮะๆ.. เจ้าสองคนเข้ากันได้ดีเสียจริงๆด้วย” คริสพูดขึ้นมาเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดแต่ทั้งสองคนกลับไม่ผ่อนคลายด้วยแม้แต่น้อย สายตาดุดันประสานหากันราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งชนอย่างจัง
“เตียงทรุด ข่อยแน! อุ้มฉันไปที่ห้อง! เดี๋ยวนี้! ฉันเหนื่อย ยังไม่อยากเดินตอนนี้ ฉันเสียพลังงานไปกับการสนทนากับเด็ก-ขัด-ดอก พอแล้ว” เมื่อจบคำสั่ง ชายร่างใหญ่สองคนก็อุ้มร่างสูงไปในแนวนอน พากันเดินกระเตงๆอุ้มคุณชายเข้าห้องไปแต่สายตาเครียดแค้นก็ยังประสานหากันไม่หยุดหย่อน
“ว้าว.. เห็นทีบ้านนี้คงจะเพลิดเพลินอารมณ์กว่าเก่าเยอะทีเดียวเชียว..” คุณชายใหญ่ยิ้มแหยแล้วเสตามองทางอื่นพร้อมยกชาขึ้นจิบ
เห็นทีงานนี้ไม่ง่ายแล้วว่ะจงอิน…
-------------------------------------------------------
ก่อนอื่นเลยจะขอมาพล่ามนิดหน่อย ใครอยากอ่านฆ่าเวลาตอนปวดท้องอึงี้ก็ได้ค่ะ55555
เย้สสสสส จบตอนสองแล้วค่ะดีใจมาก ฮื้ออ5555555 กระแสตอบรับจากตอนแรกดีกว่าที่คิดไว้มากกกกกกกก ตอนแรกเขียนฟิคเรื่องนี้มาคลายเครียดเฉยๆเพราะฟิคที่เปิดก่อนหน้านี้เป็นแนวสืบสวนสอบสวนแล้วกระแสตอบรับไม่ค่อยดี เลยเปิดฟิคเรื่องนี้มาเล่นๆ แต่เห็นทุกคนชอบกันฮากันใหญ่ เราก็ เอ้อ เป็นไปดั้ย55555 ต้องขอบคุณทุกคนทุกคอมเม้นนะคะ ไรท์ดีใจมาก อ่านคอมเม้นละไม่ต่ำกว่าสามรอบ มันเป็นกำลังใจจริงๆนะ เข้าไปส่องรีดเดอร์ทุกคนบอกเลย
ถามว่ากดดันไหม ตอนแรกที่รู้ว่าทุกคนชอบอยากอ่านตอนต่อไปนี่แอบกดดันนิดๆ กลัวเขียนออกมาไม่โดนใจคนอ่านเหมือนตอนแรกแต่พยายามไม่เครียดมาก พยายามใส่ความเป็นตัวเองแล้วก็ความฮาทั้งหมดขุดขึ้นมาจริงๆ สาบานได้ว่าไม่เคยเล่นตลกคาเฟ่..... แต่ก็ต้องขอโทษคนที่เมนชานแล้วก็ไคด้วยนะคะ ไรท์รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องแซะเมนทั้งสองคนแรงขนาดนี้บอกเลยว่ารักม้ากกกกกกก 5555555555 ตอนแรกไม่มีพล็อตเรื่องด้วยซ้ำ อยากเขียนก็เขียนขึ้นมาดื้อๆแต่ตอนนี้ทุกคนวางใจได้ค่ะ เราได้วางพล็อตไว้เรียบร้อยแล้ว ว่ะฮ่าๆ ช่วงนี้ไรท์เริ่มเปิดเทอมแล้วอาจจะอัพฟิคช้าบ้าง อย่างน้อยก็จะให้อาทิตย์ละครั้งก็ยังดี (ถ้าไรท์ไม่ถูกการบ้านรุมก่อนนะ) แต่ทุกคนไม่ต้องห่วงค่ะ ไรท์จะพยายามเต็มที่ พยามให้คนที่มาอ่านฟิคนี้ได้รอยยิ้มกลับไปแน่นอน ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ เอ้อ.. ลืมบอก ไรท์ชื่อเฟิร์สนะคะ ใครจะสกรีมอะไรมา เชิญเลยค่ะ ไรท์ชอบ จะว่าจะชมจะติอะไรก็ได้ พร้อมรับเสมอ ขอบคุณนะคะ รักทุกคนเลยนะ รัก รัก รัก ♥♥
ปล.ความรักที่รีดเดอร์ส่งมาให้ ไรท์รับรู้ได้ค่ะ ไรท์สัมผัสไ.ด้ เค้ายืนอยู่ตรงนั้น ว้ายยยยย
ปลล. ลาไปด้วยคุณชายใหญ่ค่ะ รักนางจริมๆ
ไปสกีมกันต่อได้ที่แท็ก #สะใภ้ขัดดอก
ความคิดเห็น