คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [SF]^^ Look At My EYE !!~[1/2]
Rating: PG
Author: หมูแพนด้า
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ ^^ อย่าเพิ่งตกใจว่ายัยไรท์เตอร์ที่ชอบดองฟิคนี่มาเวิ่นเว้ออะไรแถวนี้
คือว่าทุกท่านคงทราบกันดีว่าเมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของจุนซูโอป้าที่น่ารักของพวกเรา
ไรท์เตอร์น้าน ก็อยากมีส่วนร่วมในการอวยพรวันเกิดให้กับจุนซูสุดที่รักของไรท์เตอร์ด้วยคน >//<
แต่เนื่องจากภาระหน้าที่กับการเตรียมตัวเอนท์มันช่างหนักหนาซะเหลือเกิน
ถึงทำให้มาลงช้ากว่าที่ควรจะเป็น..รู้สึกผิดแฮะToT หวังว่ารีดเดอร์จะเข้าใจ
ยังไงก็ฝากSF เรื่องนี้ด้วยแล้วกันนะค่ะ
ส่วนฟิคนั้น ตอนนี้ก็กำลังเร่งซะหัวหมุนอยู่ค่ะ อีกไม่นานคงจะได้รู้กัน ^^
ของขวัญวันเกิดที่พี่เขาอยากได้มันในตอนนี้ก็คือ..แคสสิโอเปียเชื่อมั่นในตัวพวกพี่ทั้งห้าคนอย่าทำให้พวกเขาผิดหวังนะค่ะ
ENJOY READING KA!!!!
Look at my EYE !!~
บนโลกใบนี้ นอกจากจะมีมนุษย์และบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ที่ใช้พื้นโลกแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีอีกสองโลกที่อยู่ร่วมกับโลกของมนุษย์ ต่างกันตรงที่โลกมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นมัน หรือไปที่ที่เหล่านั้นได้ก็ต่อเมื่อ...ลมหายใจสุดท้ายของมนุษย์พวกนี้จะมาถึง สถานที่ที่ว่านั่นคือ...สวรรค์สถานที่สำหรับคนปฏิบัติดี มีศีลธรรม และนรก สถานที่ของคนที่ก่อกรรมทำชั่วเอาไว้ตอนที่ยังมีชีวิต
คิม จุนซู บุตรของซาตาน ผู้ซึ่งมีนิสัยไม่ต่างกับเดวิลตัวน้อยๆที่คอยสร้างความวุ่นวายให้กับ
ผู้เป็นพ่อไม่จบสิ้น ถึงแม้จะเป็นชายหนุ่มรูปงาม หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าน่ารักนั้นจะซ่อนนิสัยที่เอาแต่ใจ ไม่ยอมใคร ถึงแม้เนื้อแท้จะไม่ใช่คน(?) เลวร้ายอะไร แถมยังเป็นคนมีเมตตา
ขี้สงสาร และที่สำคัญขี้อ้อนสุดๆไปเลย
แต่ว่าไอ้นิสัยเสียๆพวกนี้กลับมีอิทธิพลมากกว่าข้อดีที่ได้กล่าวมาซะนี้!!~
“คุณป๋าฮะ..” จุนซูนั่งลง ใบหน้าน่ารักซุกลงกับตักของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ
“ว่าไงล่ะ จะอ้อนเอาอะไรจากป๋าอีก ” ซานตานผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นพิภพนี้กล่าวด้วยน้ำเสียงขันๆ
กับท่าทีออดอ้อนของเจ้าลูกชายตัวแสบ ว่าคราวนี้จะมาอ้อนเอาอะไรจากเขาอีก
“คือว่า...พรุ่งนี้..วัน...” เดวิลตัวน้อยเว้นวรรคให้ผู้เป็นพ่อตอบ
“วัน...วัน...วันที่พ่อต้องไปตรวจขุมที่ 24 ใช่เลยลูก ขอบคุณนะที่เตือน พ่อเกือบลืม”
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น ริมฝีปากอิ่มก็ถูกเชิดขึ้น ใบหน้าหวานยับยู่ด้วยอาการขัดใจ
“โถ่~ ป๋าอ่ะ ลืมวันเกิดลูกชายคนนี้จริงเหรอเนี้ย น่าน้อยจายยย ” แขนเรียวถูกยกขึ้นกอดอกไว้แน่น แสดงออกว่าเจ้าตัวเริ่มไม่พอใจมากๆซะแล้ว
“โอ๋ ๆ ป๋าล้อเล่นน่ะ ใครจะกล้าลืมวันเกิดลูกรักของป๋าได้ แต่ว่ามาอ้อนอย่างงี้จะขออะไรล่ะปีนี้ ”
เมื่อนึกถึงของขวัญวันเกิดปีที่แล้วแล้วเขาก็ยังเสียวสันหลังกับความแก่นแก้วของบุตรชายไม่หาย
ด้วยเจ้าตัวยุ่งขอเขาให้อนุญาตให้ไปท่องทั่วเมืองสวรรค์ เขานั้นจะปฎิเสธอย่างไรได้ เพราะเจ้าลูกตัวดี
สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครเป็นอันขาด
แต่สุดท้าย...ก็จนได้ เกิดเรื่องจนได้ เมื่อลูกชายของเขาดันไปสาปให้ ท่านเทวดา ชอย ชีวอน
เทพบุตรรูปงาม ให้กลายเป็นหมาซะนี้
ด้วยเหตุผลที่ว่าไอ้เทวดาหน้าหล่อเนี่ย ดันมาเจ้าชู้ ปากว่ามือถึงกับพ่อลูกชายเขา เดือดร้อนถึงเขาต้องไปไกล่เกลี่ยอยู่นานกว่าฝ่ายนั้นจะยอมความ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามลูกชายเขามาที่นี่เป็นเวลา 100 ปี
“คือ..ข้าอยากไปเที่ยว..” เที่ยว..อีกแล้วเหรอ
“เที่ยวไหนล่ะลูก...สวรรค์เขาก็ไม่ให้เจ้าไป แล้วยังเหลือที่ไหนที่ลูกอยากไปล่ะ”
ท่านซาตานกลั้นใจถึงสถานที่ที่ร่างเล็กอยากไป
“ลูกอยากไป...โลกมนุษย์ฮะ นะฮะ น้าฮะ ให้ข้าไปนะฮะ ข้าสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน”
จุนซูออกแรงเขย่าแขนของผู้เป็นพ่ออย่างเด็กเอาแต่ใจ พร้อมทั้งส่งสายตาออดอ้อนเรียกคะแนนเห็นใจ
“ก็ได้ๆ วันเดียวเท่านั้นนะ ”
เมื่อทนลูกอ้อนของลูกชายไม่ไหว เขาก็จำต้องอนุญาต ถึงแม้จะรู้ว่าการยอมแบบนี้จะทำให้ลูกรักเสียนิสัย แต่เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อทดแทนที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบนั้นมีมากมายนัก
“เย้ ^_^ คุณป๋าน่ารักที่สุดในโลกเล๊ยยย ” จุนซูกระโดดโลดเต้นไปรอบๆด้วยความดีใจ
“อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะเจ้าต้องลงไปอยู่ในแบบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ”
“หมายความว่า...ข้าจะถูกริบอิทธิฤทธิ์อย่างนั้นหรือ ” จุนซูทำหน้าไม่พอใจ
“ใช่แล้ว...แต่เจ้าจะสามารถอ่านใจคนได้ด้วยการมองตาคนๆนั้น ” ถึงข้อเสนอของท่านซาตานจะน่าสนใจ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถูกใจร่างเล็กเท่าไหร่นัก
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่...ถ้าเจ้าไม่ตกลง..พ่อคงไม่อนุญาตให้เจ้าไป”
เมื่อถูกยื่นคำขาดเช่นนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้
..................................................
“ยูชอน...เรา...เลิกกันเถอะ ” หญิงสาวหน้าตาสะสวยกล่าวตัดสัมพันธ์กับชายหนุ่มร่างโปร่งตรงหน้า
“ทำไมล่ะกาฮี...ฉันไม่ดีตรงไหน...บอกฉันมาสิ...ฉันจะได้ปรับปรุงตัว ”
มือกร้านจับที่บ่าของหญิงสาว ออกแรงเขย่าซะจนร่างเล็กสั่นคลอน แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นความเงียบ
หญิงสาว ค่อยๆแกะมือที่บ่าของเธอออกอย่างไม่ใยดี
“ได้โปรด..บอกเหตุผลกับฉันซักหน่อย..จะได้ไหม ” เมื่อเห็นว่าร่างตรงหน้ากำลังจะเดินจากไป..เขาคงไม่สามารถฉุดรั้งเธอเอาไว้ได้..แต่อย่างน้อย เขาก็ต้องการรู้เหตุผลที่ตัวเองต้องถูกทิ้งอย่างนี้
“ก็ดูสภาพนายสิ..ตกงาน..แถมที่ซุกหัวนอนยังจะไม่มี...ฉันไม่อยากฝากชีวิตกับคนที่ไม่มีอนาคตอย่างนายหรอกนะ ลาก่อนนะ ” ว่าแล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งไว้แต่ความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืม ในใจของร่างสูง
ถึงแม้ว่าเธอจะจากไปนานแล้ว แต่ยูชอนก็ยังคงยืนนิ่งอึ้งเหมือนถูกสาปอยู่ตรงนั้น
ที่แท้ก็เพราะฉันมันจน ไม่มีเงิน มาปรนเปรอเธอใช่ไหม ไม่น่าเชื่อว่าคนที่พูดว่า รักฉันที่ตัวฉันมาโดยตลอดอย่างเธอ ก็ไม่ต่างกับผู้หญิงพวกนั้นที่เห็นแก่เงิน
โลกนี้จะเหลือคนที่รักเขาที่ตัวเขาอีกไหมหนอ...
ร่างโปร่งหอบหิ้วร่างกายและจิตใจอันบอบช้ำ เดินทอดอารมณ์ไปตามริมแม่น้ำฮัน ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนในยามเย็นเช่นนี้ บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเป็นครอบครัว บ้างก็เป็นกลุ่มเพื่อน...คงมีแต่เขา...ที่เดินอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนขวักไขว่...บนโลกใบนี้เขาคงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กที่ไม่มีใครสนใจ..หรือเหลียวแล
แม่ครับ...ผมเหนื่อยเหลือเกินครับ...ตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว...ใครๆก็ไม่ต้องการผม...
แม่ครับ...รอผมก่อนะครับ...ผมกำลังจะไปหาแม่เดี๋ยวนี้แหละครับ...
ขายาวก้าวขึ้นเหยียบราวกั้นทางเดินเลียบแม่น้ำ แขนแกร่งกางออกราวกับนกที่กำลังจะโผบิน
ลาก่อน...โลกที่แสนอ้างว้าง...เดียวดาย
ตู้มมม เสียงน้ำสาดกระเซ็นเป็นวงกว้างตามแรงของวัตถุที่ตกลงไป
ยูชอนปล่อยให้ร่างของเขาค่อยๆจมดิ่งลงสู่ก้นของแม่น้ำ อากาศในปอดกำลังจะหมดลง พร้อมกับ
ลมหายใจสุดท้ายของเขา
แม่ฮะ...ผมกำลังจะได้เจอแม่แล้ว...ต่อไปนี้ผมจะไม่เหงาอีกแล้วฮะ...ผมคิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆของแม่จัง
ขณะที่ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหมดลง ร่างของเขากลับถูกมือเรียวเล็กคว้าเอาไว้ด้วยแรงที่มหาศาลเกินกว่าที่มือเล็กๆจะทำมันได้ แต่สัมผัสนั้นมันกลับอบอุ่นเข้าไปถึงหัวใจที่หนาวเย็นของเขา เขาถูกล็อคจากทางด้านหลังก่อนที่จะถูกผลักขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำ
ร่างบางของคนตรงหน้ากำลังพยุงเขาขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล และตามมาด้วยเสียงปรบมือเกรียวของผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆนั้น
“นินาย..นายอย่าตายนะ นี่ลืมตาสิ นายๆ ” ฝ่ามือนุ่มตบเบาที่ใบหน้าขาวซีด เพื่อเรียกสติ
“นี่ตื่นขึ้นมาสิ ถ้านายตายตอนนี้ฉันก็งานงอกกันพอดี นี่ๆตื่นเดี๋ยวนี้นะ ฉันยังไม่อยากกลับนะ ฉันเพิ่งจะมาถึงที่นี่เองนะ ”
คราวนี้ร่างบางเริ่มส่งเสียงโวยวายออกแรงตบให้มากขึ้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไอ้คนคิดสั้นจะฟื้นขึ้นมา
ตายละหว่า!~ ทำไงดีฟ่ะ ไม่เคยเรียนวิธีช่วยคนจมน้ำซะด้วย ในหลักสูตรการเป็นซาตานก็ไม่มีสอนซะด้วยสิ กล้วยทอดแล้ววว
เกาหลีมุงทั้งหลายเห็นว่าคนน่ารักนิ่งอึ้งไปหลายนาที ก็พากันตะโกนให้เซงแซ่ว่าให้ผายปอดๆ
จุนซูทำหน้างง ผายปอด ? ไอ้ที่ปากประกบปาก อย่างที่เขาดูทางยมทูตออนไลน์รึป่าวนะ ทำยังไงวะ เกิดมาก็ไม่เคยทำ แค่ช่วยไอ้มนุษย์หน้าสมเพชนี่ก็เกินพอแล้ว จะให้ผายปง ผายปอด เรื่องมากว่ะ ถ้าฟื้นเมื่อไหร่ แม่จะด่าซะให้เข็ด และถ้าตายจริงๆเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะให้คุณป๋าลงโทษให้หนักๆเลย ฮื้ยยย~
ถ้าไม่ติดว่าถ้าเจ้าตาย ข้าต้องพาเจ้ากลับยมโลกทั้งๆที่ข้าเพิ่งจะได้รับอนุญาตมาเที่ยวนะ เจ้าไม่มีโอกาสได้บุตรแห่งซาตานอย่างข้า มาผายปอดบ้าๆนี่หรอก เจ็บใจโว้ยยย
หลังจากที่จุนซูฮึดฮัดขัดใจตามสไตล์อยู่นาน ก็ยอมทำตามเสียงเชียร์..
ริมฝีปากบางจรดลงกับริมฝีปากอิ่มที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้นซีเมนต์เย็นชืด เพื่อต่อเติมลมหายใจให้กับคนตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ได้ต่อไป
ร่างที่เปียกน้ำทำให้คนตัวสูงดูเซ็กซี่อย่างไม่ตั้งใจและมันทำให้เดวิลตัวน้อยของเราใจเต้นไม่เป็นจังหวะซะนี่...เขินโว้ยย ก็มันไม่เคยนี่หว่า โตมาอายุตั้ง230 ปีแล้ว จะไม่เคยเสียคิสให้ยมทูต เทวดา หน้าไหน แต่กลับต้องมาเสียให้กับไอ้มนุษย์สิ้นคิดคนหนึ่ง...ถึงจะหน้าหล่อก็เถอะ
ร่างสูงออกอาการสำลักเอาน้ำที่กินเข้าไปออกมา ก่อนจะค่อยๆได้สติคืนมา
“เฮ้ออ ฟื้นสักที นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว” ร่างบางถอนหายใจด้วยความโล่งอก นึกว่าต้องกลับก่อนเวลาซะแล้วเรา
เสียงปรบมือจากเหล่าเกาหลีมุงดังขึ้นอีกระลอก
ร่างโปร่งค่อยๆยันกายลุกขึ้น แต่ร่างกายนั้นมันกลับไม่เป็นอย่างที่ใจคิด ร่างโปร่งเซแทบล้ม ดีที่ว่าร่างเล็กเข้ามาประคองไว้ได้ทัน
“ปล่อยฉัน..อย่ามายุ่งกับชีวิตฉัน ” ร่างสูงพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยไร้ความรู้สึก ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณใดๆหลุดออกมาจากปาก มือเล็กปล่อยจากการเกาะกุม หันมาเผชิญหน้ากับคนไม่รู้สำนึก
“หนอยย~ ฉันอุตส่าห์ช่วยชีวิตนายแท้ๆ ขอบคุณซักคำก็ไม่มี” ว่าจะไม่อารมณ์เสียสักวัน ฉลองวันเกิดซักหน่อย อย่างนี้ คิมจุนซู ยอมไม่ด้ายยยย
ร่างสูงทำเป็นหูทวนลม เดินฝ่าวงล้อมของเกาหลีมุงทั้งหลายออกไปจากที่ตรงนั้น..มีหรือที่คิม จุนซูจะยอมง่ายๆเขาเดินกึ่งวิ่งตามหลังร่างสูงไป และคว้าข้อมือหนาให้หยุดเดินหนี
“ไม่เคยมีใครสอนนายรึ ว่าต้องกล่าวคำขอบคุณคนที่ให้ความช่วยเหลือน่ะ ” ร่างบางเปิดฉากวีนใส่
“ขอบใจ...แต่ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากนาย ” ร่างสูงหันมาทำหน้ายียวนกวนอวัยวะเบื้องล่างยิ่งนัก
“อ๋ออ นายว่าฉันเจ๋อไม่เข้าเรื่องใช่ไหม ”
“เข้าใจอะไรง่ายๆอย่างนี้ค่อยยังชั่ว ” ร่างสูงยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่ใส่ใจ
“มนุษย์นี่ช่างโง่เขลาเสียจริง กว่าจะมีชีวิตมาจนถึงวันนี้ต้องผ่านอะไรมาตั้งมากมาย แต่พอเจอปัญหาเข้าหน่อย ก็หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย แทนที่จะใช้สมองที่มีอยู่แก้ไขปัญหา เฮ้ออ ไม่อายหมาบ้างรึไง”
ร่างสูงชะงักฝีเท้ากับคำพูดที่แสนจิกกัดของคนตัวเล็ก ก่อนจะหันขวับกลับมาถาม
“แล้วนายรู้ได้ไงว่าปัญหาของฉันมันเล็กน้อย ”
“ปัญหาของมนุษย์น่ะ มันเล็กน้อยจะตายไป ที่ยมโลกนะมีเรื่องปวดหัวยิ่งกว่านี้อีก ไม่เห็นมียมทูตตนไหนฆ่าตัวตายเลย มีแต่มนุษย์นี่แหละที่ฆ่าตัวตาย พอตายก็ตกนรก มาสร้างความปวดหัวให้คุณป๋าของฉันไม่หยุดไม่หย่อน ”
“ฮึ นายนี่ท่าจะบ้า ยมโลกอย่างงั้นเหรอ ” ร่างสูงหัวเราะออกมาอย่างดูถูกกับคำพูดของจุนซู
“นี่ นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถ้านายรู้ว่าฉันเป็นบุตรของซาตาน ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยมโลก แล้วนายจะต้องไม่หัวเราะอย่างงั้นแน่ๆ ”
ร่างเล็กเริ่มอวดอ้างสรรพคุณของตนอย่างหยิ่งทะนงตามสไตล์ให้ร่างโปร่งได้รับรู้ แต่สำหรับร่างโปร่งแล้วเรื่องพวกนี้มันออกจะบ้าไปซักหน่อยที่จะเชื่อ เขาทำหน้าไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้นอยู่ดี
ยูชอนจ้องตาจุนซูเพื่อค้นหาคำตอบที่จุนซูต้องการจะสื่อ
“ตัวกะเปี๊ยกอย่างนายเนี้ยนะ จะเป็นบุตรแห่งซาตาน ตลกสิ้นดี ถ้านายเป็นบุตรแห่งซาตาน ฉันก็คงเป็นเทพบุตรสุดหล่อแน่ๆ” ร่างโปร่งทำท่าจะเดินหนีไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อร่างเล็กกล่าวขึ้นมา
“ตอนนี้นายเศร้า อ้างว้างและก็เดียวดายมาก นายรู้สึกว่าไม่มีใครต้องการนาย ถูกทิ้ง ตกงาน บ้านกำลังจะถูกยึด ถูกต้องใช่ไหม ที่ฉันพูดไปมันถูกต้องใช่ไหมล่ะ ทีนี้เชื่อรึยัง” จุนซูยักคิ้วอย่างผู้มีชัย
“ไม่จริง” หมอนี่ก็แค่เดามัน แล้วดันถูกก็เท่านั้น ไม่จริง..เด็ดขาด
“เชื่อฉันเถอะ โลกนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่มนุษย์อย่างนายไม่รู้...แต่มันมีอยู่จริง ”
“ถ้างั้น นายช่วยดูผู้ชายที่เดินผ่านเสาต้นนั้นซิว่าเขาเป็นคนยังไง ”
แบบนี้ต้องขอลองวิชาสักหน่อยว่าแม่นจริงรึป่าว ไอ้คนที่เขาให้ดูก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้านายที่เพิ่งไล่เขาออกสดๆร้อนๆ อย่างไอ้หัวหน้า ชอง ยุนโฮ
“ไม่ได้หรอก ฉันจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้สบตากับคนๆนั้นซะก่อน แต่ถ้านายอยากรู้ ฉันก็สามารถ.. ”
ร่างเล็กวิ่งดิ่งไปที่เป้าหมาย ก่อนจะทำเป็นล้มลงตรงหน้าขวางทางชายร่างสูงเอาไว้
“โอ๊ะ...” ร่างบางลงไปนั่งกะจุ้มปุ๊กอยู่อย่างนั้น ทำท่าทางว่าเจ็บเสียเต็มประดา
“เกะกะจริงวุ้ย คนยิ่งรีบๆอยู่ “ น้ำเสียงทุ้มน่าฟัง ถ้าไม่พ่นคำเห็นแก่ตัวพวกนั้นออกมาคงจะดีกว่านี้ ร่างบางคิดในใจ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้น สบตากับคนไร้น้ำใจที่ยืนค้ำหัวเขาอยู่
“ ขอโทษนะฮะ พอดีผมเดินไม่ระวัง ขอโทษที่เกะกะฮะ”
ร่างบางทำท่าจะยืนขึ้น เมื่อร่างสูงเห็นใบหน้าน่ารักเต็มๆตา จากเดิมที่เคยตวาดแว้ด ก็เปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มในซะหวานหยด น้ำเสียงถูกดัดให้ดูทุ้มมากยิ่งขึ้น ตามแบบคนวางมาด
“เออ..ให้ผมช่วยนะครับ” ร่างสูงยื่นมือไปให้ร่าเล็กยึดเกาะ
“ขอบคุณครับ” จุนซูยิ้มตาหยีใส่ และโค้งให้ตามมารยาท ก่อนที่จะเดินจากมา
“ผม ชื่อ ชอง ยุนโฮ นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณคนน่ารัก” ร่างสูงตะโกนไล่หลัง
“ นี่..นายออกมาได้แล้ว เขาเดินไปแล้วล่ะ” จุนซูเรียกยูชอนที่ยืนหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ให้ออกมา
“ว่าไงล่ะครับ คุณหมอดู หมอนั่นมันเป็นคนยังไงมิทราบครับ”
“หมอดูอย่างงั้นหรอ ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันเป็นบุตรแห่งซาตาน บุตรแห่งซาตาน ไม่ใช่หมอดูคู่หมอเดาพวกนั้นหรอก”
ร่างเล็กทำหน้ายู่อย่างขัดใจ ทำไมไม่เชื่อกันบ้างนะ มันน่าโมโห !!~
ร่างโปร่งยกมือยอมแพ้ “โอเคๆ แล้วหมอนั่นเป็นคนยังไง ไหนบอกมาซิ”
ร่างบางว่าพลางเขานิ้วชี้จิ้มแก้มป่องๆของตนอย่างใช้ความคิด ที่แปลข้อมูลผ่านการมองตาของชายคนเมื่อครู่
“อืม..อารมณ์ร้าย ขี้โมโห เห็นแก่ตัว ทะเยอทะยาน เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า และที่สำคัญรู้สึกว่าเขาจะ..เกลียดขี้หน้านายมากๆด้วย”
แม่นแฮะ!~ ร่างโปร่งออกมาอาการทึ่งๆกับความสามารถของร่าเล็กที่กล่าวอ้างตัวว่าเป็นบุตรแห่งซาตาน
“ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ สายตานายมันบอกอย่างงั้น” ร่างเล็กยักคิ้วเข้มสองสามที
“ มันยากที่จะเชื่อ แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงนายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้ว ไม่ว่านายจะเป็นใคร”
ร่างโปร่งเริ่มจะทำใจยอมรับความจริงที่ออกจะพิสดารที่เกิดขึ้นกับเขา ในวันที่เรียกได้ว่าซวยที่สุดในรอบหลายปีมานี้
วันที่ล้มเหลวที่สุดในชีวิต...ล้มเหลวแม้กระทั่งการฆ่าตัวตาย..
“ขอบใจแล้วกันที่ช่วยชีวิตฉันไว้ และก็ช่วยเตือนสติฉัน ขอบใจนายมากนะ” ร่างโปร่งกล่าวขอบคุณก่อนที่จะเดินจากไป
แต่....มีหรือที่คิม จุนซู ปล่อยไปง่ายๆ อุตส่าห์เสียแรงลงไปช่วยซะขนาดนี้ จะพูดกันง่ายๆแล้วเดินจากไปได้ไงกัน มันต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนกันเสียหน่อยแล้ว
“เดี๋ยวสิ ยูชอน อย่างเพิ่งไป” ร่างเล็กรีบวิ่งดักหน้าร่างโปร่งเอาไว้
“นะ..นายรู้ชื่อฉัน” ยูชอนทำหน้างง เขาหลุดปากบอกชื่อคนตัวเล็กไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
“อ้าว เรื่องกล้วยๆอย่างนี้ สบายๆชิลๆ” จุนซูยกไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“ใช่สิ นายมันไมใช่คนนิ ช่างเถอะว่าแต่ นายมีเรื่องอะไรอีกมิทราบ ขอบคุณก็ขอบคุณไปแล้ว เชื่อก็เชื่อไปแล้ว นายจะเอาอะไรกับฉันอีกล่ะ เดวิลจอมยุ่ง”
คนถูกเรียกชื่อทำคิ้วผูกโบด้วยความไม่เข้าใจว่า..จะมาไม้ไหนอีกล่ะงานนี้
“คือว่าฉัน..อยากได้ไกด์พาเที่ยวซักหน่อย..และมนุษย์ผู้โชคดีผู้นั้นก็คือนาย ^^”
ร่างเล็กยิ้มร้ายกับความคิดอันแสนชาญฉลาดของตน เรานี่มันฉลาดจริงๆเล๊ยย
“ไม่” สั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความ “ใครจะไปอยากอยู่กับเดวิลจอมป่วนอย่างนาย”
“หนอยย บังอาจขัดใจคนอย่างจุนซูอย่างงั้นเหรอ ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าขัดใจฉันมาก่อน
แม้แต่คุณป๋า ก็ยังไม่กล้าขัดใจฉันเลย นายมันก็แค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง อย่าเรื่องมากนักจะได้ไหมห๊า”
จุนซูตะโกนไล่หลังยูชอนแว้ดๆอย่างคุณหนูผู้ไม่ค่อยพบกับคำว่า “ ไม่ ” ชีวิตที่ผ่านมาของเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้หยุดไง ไม่ได้ยินรึไง”
ยูชอนยังคงเดินต่อไปไม่หันกลับมาสนใจร่างบางที่ส่งเสียงโวยวาย จนคนแถวๆนั้นเริ่มหันมาสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อชายหนุ่มหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่เนื้อตัวเปียกปอน ตะโกนเรียกชายหนุ่มอีกคนที่มีสภาพไม่ต่างกัน
เมื่อเห็นว่าแผนโวยวายจะไม่ได้ผล เดวิลตัวน้อยของเราจึงเปลี่ยนแผนมาเป็นแผนที่เด็ดกว่า...
“ยูชอน อย่าทิ้งฉันไปนะ ฮือๆ ฉันเสียจูบแรกให้นายไปแล้วนะ ฮือๆ” จุนซูแสร้งทำเป็นร้องไห้บีบน้ำตา ตะโกนโวยวายยิ่งกว่าเดิม ได้ผลคราวนี้ร่างสูงรีบวิ่งกลับมาเอามือปิดปากเจ้าตัวแสบเอาไว้
“อ่อย เอ๋า อ๊า ปล่อยๆๆ ” ได้ผลแฮะ ดีนะว่าก่อนจะมาดูละครจากยมทูตออนไลน์มาก่อน..เสร็จฉันล่ะ
“ปล่อยก็ได้แต่..นายต้องหยุดโวยวาย ” ร่างสูงถลึงตาใส่ร่างเล็ก ใบหน้าคมเข้มซับสีเลือด ไม่รู้ว่าเพราะว่าความร้อนของอากาศ หรือเพราะประโยคที่ร่างเล็กกล่าวออกมา
“ไม่นายต้องสัญญาก่อนว่าจะพาฉันไปเที่ยว ” จุนซูยกนิ้วก้อยชูขึ้นเกว่ไปมา
เมื่อเห็นว่าร่างโปร่งไม่ยอมตกปากรับคำ จุนซูก็เริ่มโวยวายอีกครั้ง
“ฮือ..ฮือ ยูชอน คนใจร้าย ” มือเล็กทุบที่หน้าอกแกร่งในเชิงตัดพ้อ
“โอเคๆ ฉันยอมแล้ว อยากไปไหนล่ะ บอกมา..” ร่างโปร่งกล่าวตัดรำคาญ ร้ายสมกับเป็นเดวิลจริงๆ
“เย้ๆๆ ”
“แต่นายต้องตอบคำถามฉันมาก่อน”
“ว่ามาเลย”
“นายมาที่นี่ทำไม..เพื่ออะไรกัน..หรือว่าที่ยมโลกเขาทนความแสบของนายไม่ไหว” แม้จะถามคำถามแต่ก็ไม่วายจิกกัดร่างเล็กไปด้วย
“ให้มันน้อยๆหน่อย ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะว่า..ฉันอยากรู้จัก...ความรัก แต่จุ๊ๆนะอย่าเสียงดังเดี๋ยวคุณป๋าจะได้ยินเอา” เสียงตอนท้ายค่อยแผ่วลงราวกับว่ากลัวใครจะได้ยิน
“นายมาที่โลกบ่อยไหม ” ร่างเล็กส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธไปในตัว
“ไม่อ่ะครั้งนี้ครั้งแรก..คุณป๋าอนุญาตเพราะฉันขอเป็นของขวัญวันเกิด” ร่างเล็กฉีกยิ้มกว้าง จนตาหยี
.........................................
TBC END PART^^
ความคิดเห็น