ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โต๊ะเบอร์ 2 กับบะหมี่น้ำหนึ่งชาม ตอนที่ 2
และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี วันที่ 31 ธันวาคมก็เวียนมาครบรอบอีกครั้ง
ในวันส่งท้ายปีเก่า ร้านบะหมี่
“ฮอกไก” ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีที่ผ่านมา สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง 22.00 น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และเชย เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง
“ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยค่ะ” “ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะค๊ะ” เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว โต๊ะเบอร์สอง ตะโกนไปพลางว่า “บะหมี่น้ำหนึ่งชาม” เถ้าแก่รับคำพลาง จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง “ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม” เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า “นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ” “ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย” สามีตอบพลาง แล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม ภรรยาก็พูดขึ้นว่า“เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ”
ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให้สามแม่ลูก สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย “หอมจังเลย ยอดไปเลย อร่อยจริง ๆ “ “ปีนี้สามารถกินบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว”
“ถ้าปีหน้าสามารถมากินได้อีกก็ดีนะสิ” กินเสร็จก็จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป
“ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)” มองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลูกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปได้ระยะหนึ่ง
ในวันส่งท้ายปีเก่า ร้านบะหมี่
“ฮอกไก” ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีที่ผ่านมา สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง 22.00 น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และเชย เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง
“ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยค่ะ” “ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะค๊ะ” เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว โต๊ะเบอร์สอง ตะโกนไปพลางว่า “บะหมี่น้ำหนึ่งชาม” เถ้าแก่รับคำพลาง จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง “ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม” เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า “นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ” “ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย” สามีตอบพลาง แล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม ภรรยาก็พูดขึ้นว่า“เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ”
ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให้สามแม่ลูก สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย “หอมจังเลย ยอดไปเลย อร่อยจริง ๆ “ “ปีนี้สามารถกินบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว”
“ถ้าปีหน้าสามารถมากินได้อีกก็ดีนะสิ” กินเสร็จก็จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป
“ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)” มองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลูกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปได้ระยะหนึ่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น