ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Recommended Dishes ปรุงรักมื้อนี้ แด่คุณสามีที่รัก

    ลำดับตอนที่ #5 : 03 ; First Appointment!

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 55


    Chapter 3

                "!!!"

                "ได้มั้ยคะ" ฉันกลับมายืนท่าเดิม เงยหน้ามองเขา (สูงมาก)

                "ทำอาหารเนี่ยนะ คุณรู้มั้ยว่ามันเสี่ยงที่ความลับจะถูกเปิดเผยน่ะ" เขากลับหลังหันแล้วเดินเข้ามาที่ซอกมืดข้างๆ ฉันเหมือนเดิม

                "ฉันรู้ค่ะ แต่ถ้าเราระวังมันก็น่าจะไม่เป็นอะไรไม่ใช่หรอคะ"

                "ผมลำบากใจ"

                "ฉันสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้ให้ลับที่สุด สัญญา" ฉันชูสามนิ้วสัญญาเขา

                "เห้อ ก็ได้ๆ เอ้านี่เบอร์ผม เอาไว้เดี๋ยวติดต่อกันอีกที แล้วค่อยนัดแนะแล้วกัน” เขายื่นกระดาษสีขาวเล็กๆ บนกระดาษมีเบอร์โทรศัพท์เลขสวย นี่เขาแอบเขียนตั้งแต่ตอนไหน ทำไมฉันไม่เห็น -__-?

                “ค่ะ เดี๋ยวฉันโทรไปนะคะ คุณว่างวันไหน” อ๊าย โทรหาผู้ชายก่อนด้วย นี่ถ้าอาม้ารู้นะ หูชาแน่ค่ะ

                “พรุ่งนี้เลยก็ได้ วันอาทิตย์ผมว่าง”

                “ค่ะ”

                เขาเดินออกจากซอกมืดไปแล้วเดินตรงกลับไปที่โต๊ะวีไอพีที่มีน้อง.. อะไรก็ไม่รู้แหละ -*- นั่งรออยู่ กลับไปทำตัวเฮฮาขี้เล่นแก้ตัวที่ออกมากับฉัน แต่จะว่าไป ทำไมเขาไม่น่ารักกับฉันเลยน้อเมื่อกี้ T^T

                ปลงตกสักพักก็เดินออกมา ป่านนี้ยัยยูมิคงรอเหงือกแห้งแล้ว ฉันคงต้องขอบคุณยัยนั่นจริงๆ ที่ทำให้ฉันได้มาเจอกับครูกุ๊ก ถ้าไม่ใช่เพราะยัยนั่นชวนมาเที่ยวคลับอย่างถูกเวลาอย่างนี้ ฉันคงไม่ได้เจอเขาแน่ๆ

                "ยัยยูมิ ฉันกลับก่อนนะ"

                "อ้าวทำไมกลับเร็ว นี่มันเพิ่งจะเที่ยงคืนเอง นี่ฉันยังไม่คิดบัญชีเรื่องที่แกหายไปเลยนะ" ยูมิดื่มกามิกาเซ่จากแก้วในมืออึกสุดท้ายแล้วหันมามองหน้าฉันด้วยสายตากึ่งหาเรื่อง

    ถ้ารู้ว่าเดินกลับมาบอกจะโดนเละขนาดนี้ ไม่มาหรอกจ้า -___-"

                "ฉันไปทำธุระมา แล้วฉันก็ง่วงแล้วด้วย" ฉันแสร้งยกมือขึ้นปิดปากหาวหวอดๆ แล้วดึงกระเป๋าออกมาจากยัยสาวแสบตรงหน้า

                "อะไร อย่ามาทำเป็นเด็อนามัยไปหน่อยเลยยัยเหมย" ยูมิยื้อกระเป๋าเอาไว้ "ไม่เอาน่ายูมิ ปล่อย"

                "แล้วฉันจะอยู่กะใคร '___')"

                "หนุ่มๆ แถวนี้เยอะแยะน่า แกไม่เหงาหรอก"

                "ทำไมแกรีบกลับอ่ะ"

                ฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ ถ้ามาเที่ยวโดยไม่มีจุดประสงค์อื่น ใครลากกลับฉันยังไม่อยากกลับเลย ผิดกับวันนี้ที่มันไม่ใช่แค่มาเที่ยวเมื่อฉันเจอดินเซ็ล

                "เออ กลับก่อนนะ" ฉันกระชากกระเป๋าเข้าไว้ในมือแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น เดินมาจนถึงหน้าประตูก็อดที่จะหวั่นพี่เบิ้มไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะยิ้มหวานฉ่ำ กรี๊ด = = นั่นแกยิ้มหวานฉ่ำให้ฉันทำไม คลับนี้นี่ทำให้ฉันอึ้งได้ตลอดเวลาจริงๆ

     

                @Dinery Restaurant วันอาทิตย์

                “อุบ ขอโทษค่ะ”

                ฮ่าๆๆ ขำในใจละกันไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังกลั้นหัวเราะหน้าดำหน้าแดงเลยล่ะ ตั้งแต่ดินเซ็ลเดินเข้ามาในร้านฉันไม่ได้หยุดกลั้นขำเลย ก็ไอ้สภาพของเขาตอนนี้มันน่าขำมากมาย หมวกไหมพรมสีน้ำตาลเข้ม แว่นกันแดดสีชามีสไตล์ ผ้าพันคอไหมพรมสีเข้มกว่าหมวกเล็กน้อย ของเหล่านี้ล้วนประดับอยู่บนตัวเขาทั้งสิ้น ถ้าจะกลัวใครเห็นอะไรขนาดนี้น่ะนะ ^O^

                “ขำอะไรครับ ///” เขาหน้าแดงที่เห็นฉันกลั้นหัวเราะใส่หน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

                “ก็ขำคุณน่ะสิคะ หน้าร้านคุณก็ปิดแล้ว ข้างในนี้ก็มีแค่คุณกับฉัน แต่คุณกลับพร็อพเยอะยิ่งกว่าดาราอีกแน่ะ :D

                “ผมควรถอดใช่มั้ยครับเนี่ย -.-

                “ถ้าคุณอยากจะใส่มันไว้อย่างนี้ก็แล้วแต่คุณค่ะ”

                “ผมถอดดีกว่า เดี๋ยวคุณจะขำจนเป็นลมไปซะก่อน” มือหนาดึงหมวกไหมพรมสีน้ำตาลเข้ม แล้วดึงผ้าพันคอสีอ่อนกว่าหมวกเล็กน้อยออก เผยให้เห็นลำคอขาว มือฉันชื้นขึ้นเล็กน้อย ทางออกเดียวคือยื่นมือสองข้างไปจับรอบแก้วโกโก้เย็น ช้อนสายตามองคนหน้าตาดีข้างหน้าที่กำลังถอดแว่นกันแดดสีชาออก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูสดใสราวกับพระอาทิตย์หน้าร้อน ให้ตายสิ! ถ้าจ้องนานกว่านี้ฉันต้องละลายแน่

                โครกกก

                เอ่อ -___- ท้องจ๋า ร้องทำไมคะ เพิ่งจะบรรยายความหล่อของผู้ชายนิดเดียวเอง ขัดบรรยากาศได้ดีมากค่า

                “ฮ่าๆๆ” คนตัวโตเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง โอ๊ย ขำอะไรเล่า คนยิ่งอายๆ อยู่ TOT

                “คุณ เงียบนะ” ฉันก้มหน้างุด กำรอบแก้วแน่นกว่าเดิม ฉันเป็นคนนึงนะ ที่อายมากๆ เวลาท้องร้องแล้วมีใครได้ยิน โดยเฉพาะคนตรงหน้า ยิ่งหน้าเทพบุตรอย่างนี้มหาอายเลยล่ะค่ะ =__=

                “หิวหรอ” ดินเซ็ลยื่นหน้าเข้ามาน้อยๆ ตาใสแจ๋วของเขามันทำให้ใจฉัน.. เอ้ย ท้องฉันสั่น เอ้ยยย (?)

                “คือฉันยังไม่ได้กินข้าวมาเลยน่ะค่ะ (._.)

                “เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินละกัน” เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปในครัวส่วนหลังของร้าน สักพักเสียงกุกกักก็ดังขึ้น เวลาที่เขาทำอาหาร เขาดูดีมากแค่ไหนกันนะ

                ด้วยความสงสัยเลยทำให้ฉันเดินตรงมายังห้องครัว ฉันพิงหน้าตัวเองเข้ากับขอบประตูไม้โอ๊ค สายตามองตรงไปยังผู้ชายเบื้องหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร ร่างสูงเคลื่อนตัวพลิ้วไหวคล่องแคล่ว แต่แล้วก็ชะงักมือเหมือนกับลืมอะไรบางอย่าง

                “ช่วยหยิบแครอทในช่องผักของตู้เย็นให้ผมหน่อยครับ” เขาหันมาไหว้วานฉันด้วยตาขำขัน อะไร = = สายตาแบบนั้นมันอะไรน่ะ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ ตายแล้ว! หวังว่าเขาจะไม่เห็นสายตาหวานฉ่ำงี่เง่าเวลามองผู้ชายของฉันหรอกนะ T^T อยากจะทึ้งหัวตัวเองนัก

                ฉันเดินไปเปิดตู้เย็นที่มีพร้อมสรรพแทบทุกสิ่งของสด คุ้ยหาผักสีส้มๆ แหม เห็นอย่างนี้ฉันก็รู้จักนาแครอทน่ะ

                “ได้แล้วค่ะ" ฉันเดินไปข้างตัวเขาแล้วยื่นแครอทให้ แต่เขาสั่งให้มาล้างก่อน เสียงแรงดันน้ำกระแทกกับซิงค์เสียงดัง คั่นกลางด้วยแครอทสีสด ฉันรูดล้างมันอย่างอ้อยอิ่ง...

                "โอ๊ย!" ผู้ชายข้างส่งเสียงร้องอุทานอย่างเจ็บปวด ฉันรีบหันไปหาก็เห็นว่าที่นิ้วชี้ของเขามีเลือดไหลออกเป็นทางยาว ตายละ! ฉันไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าครูกุ๊กฝีมือฉมังอย่างนี้ยังโดนมีดบาดได้ด้วยน่ะ ดินเซ็ลเริ่มเดินไปหยิบผ้าเพื่อมาซับเลือดโดยไม่ทันดูว่ามันสกปรกแค่ไหน

                "เดี๋ยวค่ะ คุณอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวฉันทำให้ค่ะ" เดินรี่ไปทางเขา จับผ้าสกปรกในมือเขาวางไว้ที่เดิม

                "ไม่เป็นไร ผมทำได้ มีดบาดนะไม่ใช่มีดสับ ^^" ดู อารมณ์นี่มันใช่อารมณ์ยิ้มหรอ

                "คุณไม่เห็นหรอว่าผ้ามันสกปรกน่ะ -__-" ฉันหยิบผ้านั่นอีกครั้ง ชูแล้วแกว่งไปมาหน้าคนดื้อที่พยายามจะเถียง

                "เอ่อ..."

                ไงล่ะ จ๋อย = =

                "กล่องยาอยู่ไหนคะ อย่าบอกนะว่าไม่มี ที่นี่ห้องครัว มันต้องมีแน่ๆ" ฉันรีบใช้นิ้วชี้ชี้ดัก

                "อยู่ตรงนู้น" ฉันเดินตามไปทางที่เขาบอกก็พบกล่องยาขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์ทำแผลอยู่ครบ เดินถือกล่องตรงไปยังดินเซ็ล ฉันเห็นหน้าคนปากดีมีเหงื่อผุดตามไรผมเล็กน้อย ถ้าให้เดานะ ฉันว่าเขาต้องกลัวการทำแผลนั่นแหละ เลยพยายามห้ามฉัน

                "ไงคะ กลัวหรอ" ฉันกระเซ้าขณะเปิดกล่องยา หยิบอุปกรณ์ทำแผลมาวางบนโต๊ะจนครบ

                “ขอมือค่ะ” ฉันแบมือตรงหน้าเขา ดินเซ็ลทำหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนส่งมือมาให้อย่างเล่นตัว อ๊าย ได้จับมือถือแขนผู้ชายด้วยค่า ^O^

                “ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อว่ามือฉมังอย่างคุณจะถูกมีดบาดกะเขาด้วย”

                “เอ่อ...” ฉันเทแอลกอฮอล์ล้างแผลใส่สำลีแล้วแตะเบาๆ ลงบนแผล

                “เพราะอะไรหรอคะ คุณไม่น่าจะเหม่อนี่” ช้อนตาขึ้นมองเขาเล็กน้อย แล้วแปะพลาสเตอร์ลายโพก้าดอทแสนรักของฉัน ในกล่องยามันไม่มีไง มันจะหวานแหววไปมั้ยนะ -__- ฉันพกแต่สีนี้

                “...”

                “...”

                เอาล่ะ ถ้าเขาไม่อยากตอบก็คงจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาน่ะนะ ฉันลุกขึ้นหยัดเต็มความสูง โห ขนาดเต็มความสูงแล้วนะ หัวฉันแค่เกือบเท่าหัวเขาตอนที่เขานั่งเองอ่ะ เกิดมาเตี้ยใช่มั้ย ฉันว่าฉันสูงและฉันก็ภูมิใจกับความสูงนี้มากเลยนะ ฉันต้องเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ใช่หรือไม่ =___=

                “แล้วคุณจะทำกับข้าวไหวมั้ยคะนี่ คือฉันหิวไม่ใช่อะไร เอ้อ ฉันไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวนา” รีบแก้ต่างทันที ฉันไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ แต่มันหิวแล้ว - -

                “ไหวสิ แผลกระติ๊ดเดียวไม่สามารถทำให้ปณิธานอันยิ่งใหญ่ของผมมอดดับได้”

                โอ้โห -O-

                “ค่ะ งั้นฉันไปรอข้างนอกนะ”

                “เพราะคุณล้างผักอย่างงั้นไงเล่า!” ดินเซ็ลพึมพำเบาๆ เมื่อร่างบางเดินพ้นจากบริเวณห้องครัวแล้ว และแน่นอนว่าเธอจะไม่ได้ล่วงรู้ประโยคเด็ดนั้นแน่นอน

     

                ซู้ดดด

                ฉันดูดโกโก้เย็นจนจะหายหิวแล้วนะ แต่เทพบุตรกุ๊กกี้ก็ยังไม่นำอาหารมาเสิร์ฟสักที -__-^^

                “มาแล้วๆ” เสียงใสๆ ของดินเซ็ลดังขึ้นพร้อมกลิ่นข้าวผัดหอมกรุ่นที่ลอยมาแตะจมูกฉันเข้าอย่างจัง

                คิดปุ๊บมาปั๊บ นี่ฉันควรคิดตั้งนานแล้วใช่มั้ย -.-

                “ข้าวผัด ?”

                “ใช่แล้ว ข้าวผัดสูตรอร่อยก้องจักรวาลไง ^^

                โอ้โห ดูสูตรสิ ไม่ค่อยจะเว่อร์เลยแหะ

                “แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินผักเลยอ่ะ” ฉันก้มลงมองดูจานข้าวผัดกลิ่นหอมฉุย สีสันสวยงาม แต่ถึงจะสีสวยยังไง ทำไมต้องมีผักด้วย เออ แล้วตอนฉันหยิบแครอทให้เขา ทำไมฉันไม่ท้วงนะ = =;

                “ทานเถอะครับ มันดีต่อสุขภาพนา หิวๆ ก็ยัดๆ เข้าไปเดี๋ยวก็อิ่มแหละ” ดินเซ็ลชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปมาระหว่างจานข้าวกับฉัน นี่เขาใช้คำว่ายัดกับสุภาพสตรีอย่างฉันหรอนี่ โอมายก็อด Y_Y

                “โอเคค่ะ แล้วคุณไม่ทานหรอคะ”

                “ไม่ล่ะครับ ผมทานมาแล้ว”

                ระหว่างที่ฉันทานข้าวไป เขาก็ชวนคุยสารทุกข์สุขดิบมากมาย แล้วคำถามนี้ก็เข้ามา ว่าฉันอยากเรียนทำอาหารเพราะอะไร ตายละ ถ้าฉันตอบตามตรงไป เขาจะคิดว่ายังไงนะ - - แต่ก็ช่างเหอะ อาป๊าสอนให้ไม่โกหก ฉันต้องบอกความจริง จะยากอะไร

                “หาสามีน่ะค่ะ ^O^” ตัดสินใจได้แล้ว ฉันก็โพล่งออกไปด้วยสีหน้าระรื่นโดยไม่ทันคิดก่อนอะไรก่อนเลย นี่ฉันตรงไปมั้ย O_O แล้วไอ้หน้าแฮปปี้ว่าเรียนไปเพื่อหาสามีนั่นมันคืออะไร มาจากไหนกัน หมดแล้วซึ่งภาพลักษณ์ค่า U_U

                “เอ่อ อะไรนะครับ =__=

                ดูหน้าเขาฉันก็รู้แล้วว่าประโยคที่พูดไปมันช่าง... นะ - -*

                “คืออาม้าฉันบอกให้แต่งงานได้แล้วน่ะค่ะ เพราะฉันถึงวัยเจริญพันธุ์แล้ว... เอ้อ เจริญวัยค่ะ T T^ ถึงวัยที่ต้องออกเรือนได้แล้ว แต่เพียงแค่ว่าฝ่ายชายเขาชอบคนทำอาหารเก่งน่ะค่ะ ด้านอื่นฉันก็มีครบหมดแล้ว แฮะๆ”

                เจริญพันธุ์! เจริญพานนน!! ขอวิบัติเพื่อตอกย้ำการใช้ศัพท์ที่น่ารักมากๆ -__- คือฉันกะว่าจะไม่สะทกสะท้านเมื่อเขาถามคำถามแบบนี้แล้วเชียว แต่ลิ้นมันดันไม่สามัคคีกับสมองเลย

                “หรอครับ ^^; ผมยังไม่เคยเห็นใครเรียนทำอาหารด้วยเหตุผลนี้เลย แต่ผมก็ไม่เคยได้สอนใครทำอาหารหรอกนะครับ”

                “นั่นสิคะ ทำไมคุณถึงไม่สอนล่ะ ทำไมคุณถึงอยากให้มันเป็นความลับหรอคะ ?”

                “ผมกลัวว่าเพื่อนจะล้อน่ะ เหตุผลปัญญาอ่อนน่ะครับ” เขาเกาหัวแกรกๆ กับความคิดของตน

                “โอ๊ย ไม่เห็นหน้าอายเลยนี่คะ” ฉันตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก รวบช้อนวางไว้กลางจาน แปลกแหะ ฉันกินเกลี้ยงเลย ไม่เว้นแม้แต่ผักที่ฉันเกลียดนักเกลียดหนา สงสัยเพราะอาหารอร่อยมาก แล้วก็เพราะเขาชวนคุย แต่จริงๆ แล้วฉันก็แทบจะกินไม่ลงเหมือนกันในตอนแรกๆ เพราะดินเซ็ลเอาแต่จ้องฉันเอาจ้องฉันเอา ยังกะถ้าฉันไม่กินผักแล้วเขาจะตีฉันให้ร้องไห้ =___=;;

                “เออจริงสิ คุณพึ่งจบหรอครับ”

                “ใช่ค่ะ ยังว่างงานอยู่ด้วย” ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

                “ผมขอแทนตัวเองว่าพี่ แล้วเรียกคุณว่า...”  (เพิ่งจะถามเอาตอนนี้เนี่ยนะพระเอกเรา -__-)

                “เหมยค่ะ ^^” ตอบตามมารยาท แอร๊ย ได้เรียกเขาว่าพี่มันก็ดูเขินเหมือนกันนะ แต่ฝึกไว้แหละ จะไดเรียกพี่ไบรซ์ถนัดๆ >< รู้มั้ยว่าชีวิตนี้ฉันยังไม่เคยเรียกผู้ชายคนไหนว่าพี่เลยนะ เพราะนอกจากพ่อฉันแล้ว ฉันก็ไม่ค่อยได้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนเลย โรงเรียนก็เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ไม่แปลกเลยที่ฉันจะคลั่งผู้ชายมากมายเพียงแค่เขาสบตา - -*

                "เหมยอยากลองทำงานเสิร์ฟที่คลับพี่มั้ยอ่ะ พอดีมีคนว่างอยู่ ทำไปก่อนจนกว่าจะหางานได้ก็ได้ อีกอย่างเวลาเราจะไปเรียนทำอาหารเราจะได้ไปพร้อมกันเลย สะดวกดี ไม่เปลืองด้วย :)"

                ฉันว่าข้อเสนอนี้มันก็ดีนะ ได้เงินเยอะไม่เยอะไม่เป็นไร ขอแค่มีเงินหมุนตอนนี้ก็พอ และอย่างว่าเวลาจะเรียนก็จะได้ออกมาพร้อม แต๊... คลับมันต้องทำงานตอนกลางคืนไม่ใช่หรอ -__-?

                "คุณ... เอ้อ พี่ดิน คลับนี่มันต้องทำงานตอนกลางคืนไม่ใช่หรอคะ"

                "เออใช่" เขาทำหน้าระลึกได้ "พี่ลืมไป งั้นก็แล้วแต่เหมยเลยดีกว่า"

                ทำดีมั้ยน้า แต่ถ้าจะให้ไปวิ่งหางานตอนนี้ก็คงเงินหมดก่อนพอดี ถ้าทำก็ต้องแบ่งเวลากลางวันกลางคืนให้ถูก แต่มันก็น่าจะมีเป็นกะละวันสองวันแหละมั้ง

                "เหมยทำค่ะ เรื่องเรียนก็ย้ายมาเป็นตอนบ่ายๆ ก็ได้"

                "งั้นดีเลย" ดินเซ็ลมองจานข้าวฉันเล็กน้อย อมยิ้มเมื่อเห็นมันหมดเกลี้ยง ฉันเขินนะที่เขามองจานข้าวฉันแบบนั้น (หล่อนเขินทำไมเขามองจานข้าว -0-) ก็เมื่อกี้ฉันยังบอกอยู่เลยว่าไม่ชอบทานผัก -___-;;

                "อร่อยมั้ย เป็นไง ฝีมือพอจะสอนเหมยได้หรือเปล่า" ดินเซ็ลกอดอก มองต่ำลงมาประสานสายตากับฉันยิ้มๆ

                "อร่อยระดับนี้แล้วจะไม่ให้สอนได้ไงล่ะคะ"

                "โห มีคนชมขนาดนี้แล้วนะ มีหวังควักตำรามาสอนจนหมดสูตรลับแน่ๆ"

                "ฮ่าๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ งั้นเหมยขอตัวกลับก่อนนะคะ"

                โอ๊ย! ฉันต้องได้สามีแน่ๆ >O<


    มาอัพแล้ววว! นานไปช้ะ ? 55555555 มาบทนี้นางเอกก็ได้ทำการขอความช่วยเหลือจากครูกุ๊กกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนอะ
    ครูกุ๊กก็ได้มีการโชว์การทำข้าวผัดสูตรเด็ดให้นางเอกเราชิมด้วย
    ติดตามตอนหน้า นางเอกเข้าไปทำงานวันแรกที่คลับของครูกุ๊กแล้วเจอบุคคลสำคัญ! ใครน้า...? ติดตามอ่านกันต่อละกันเนอะ :)
    ฝีมืออาจจะยังไม่ดีพอ ให้อภัยกันหน่อยนะจ๊ะ 
     
    THE★ FARRY

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×