ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รับเด็ก
บ่ายวันหนึ่งระหว่างที่อรวีย์นั่งพิมพ์เอกสารอยู่ที่สำนักงาน ก็มีเจ๊หลิวเข้ามาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการรับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมของสามีตน
เจ๊หลิว : อาอร ลื้อช่วยอั๊วดิสิ.....อาเฮงมานจารับเด็กมาเลี้ยงอ่ะ
อรวีย์ : ทำไมล่้ะคะ เจ๊ เฮียเค้ามีเมตตาอุปการะเด็กที่ยากจนมาเลี้ยงก็ดีแล้วนี่คะ เจ๊ก็ไม่มีลูก
เจ๊หลิว : ไม่เอาๆๆ มานเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ อร
อรวีย์ : ถ้าไม่อยากเป็นภาระก็ต้องทำตามตามกฏหมายสิคะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดหลักเกณฑ์การรับบุตรบุญธรรมไว้คือ
1.บุคคลที่จะรับบุตรบุญธรรมได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๕ ปีบริบูรณ์ และต้องแก่กว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย ๑๕ ปี
2. ถ้าหากผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเด็กเสียก่อนแต่ถ้าเด็กมีอายุเกินกว่า ๑๕ ปี ต้องเด็กยินยอม สมัครใจด้วย
3.ถ้าไม่มีผู้ให้ความยินยอมเราร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาต ให้มีการรับบุตรบุญธรรมก็ได้
4.ถ้าผู้จะรับบุตรบุญธรรม หรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมมีคู่สมรสโดย ชอบด้วยกฎหมายด้วยการรับบุตรบุญธรรม ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
5.บุตรบุญธรรมจะเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นในขณะเดียวกัน ไม่ได้ และการรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตามกฎหมาย แล้ว
บุตตรบุญธรรมมีสิทธิเท่าเทียบกับบุตรตนเอง
การเลิกรับบุตรบุญธรรมนั้นถ้าเด็กเปนผู้เยาว์ต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองของเด็กเสียก่อนแต่ถ้าบรรลุนิติภาวะเเล้วก็สามารถตกลงกับเด็กเองได้และไปจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม
อรวีย์ : เข้าไหมคะเจ๊
เจ๊หลิว : อั๊วเข้าใจกฏหมายแต่ลื้อไม่เข้าใจปัญหาอั๊ว
อรวีย์ : เอ๊ะ ! อย่างไรคะ
เจ๊หลิว : ก็เด็กที่ไอ้แก่มานจะรับนะ....อีคือเด็กที่ทำงานใน อาบ อบ นวด และมานมะได้จารับมาเลี้ยงแต่จารับมาเป็นเมียน้อย!!!!!!! และอั๊วจาทำอย่างไรดี ฮื่อๆๆๆ
อรวีย์ : เมียน้อย!!!!!!!!!!
เจ๊หลิว : อาอร ลื้อช่วยอั๊วดิสิ.....อาเฮงมานจารับเด็กมาเลี้ยงอ่ะ
อรวีย์ : ทำไมล่้ะคะ เจ๊ เฮียเค้ามีเมตตาอุปการะเด็กที่ยากจนมาเลี้ยงก็ดีแล้วนี่คะ เจ๊ก็ไม่มีลูก
เจ๊หลิว : ไม่เอาๆๆ มานเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ อร
อรวีย์ : ถ้าไม่อยากเป็นภาระก็ต้องทำตามตามกฏหมายสิคะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดหลักเกณฑ์การรับบุตรบุญธรรมไว้คือ
1.บุคคลที่จะรับบุตรบุญธรรมได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๕ ปีบริบูรณ์ และต้องแก่กว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย ๑๕ ปี
2. ถ้าหากผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรมเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเด็กเสียก่อนแต่ถ้าเด็กมีอายุเกินกว่า ๑๕ ปี ต้องเด็กยินยอม สมัครใจด้วย
3.ถ้าไม่มีผู้ให้ความยินยอมเราร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาต ให้มีการรับบุตรบุญธรรมก็ได้
4.ถ้าผู้จะรับบุตรบุญธรรม หรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมมีคู่สมรสโดย ชอบด้วยกฎหมายด้วยการรับบุตรบุญธรรม ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
5.บุตรบุญธรรมจะเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นในขณะเดียวกัน ไม่ได้ และการรับบุตรบุญธรรมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้จดทะเบียนตามกฎหมาย แล้ว
บุตตรบุญธรรมมีสิทธิเท่าเทียบกับบุตรตนเอง
การเลิกรับบุตรบุญธรรมนั้นถ้าเด็กเปนผู้เยาว์ต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองของเด็กเสียก่อนแต่ถ้าบรรลุนิติภาวะเเล้วก็สามารถตกลงกับเด็กเองได้และไปจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม
อรวีย์ : เข้าไหมคะเจ๊
เจ๊หลิว : อั๊วเข้าใจกฏหมายแต่ลื้อไม่เข้าใจปัญหาอั๊ว
อรวีย์ : เอ๊ะ ! อย่างไรคะ
เจ๊หลิว : ก็เด็กที่ไอ้แก่มานจะรับนะ....อีคือเด็กที่ทำงานใน อาบ อบ นวด และมานมะได้จารับมาเลี้ยงแต่จารับมาเป็นเมียน้อย!!!!!!! และอั๊วจาทำอย่างไรดี ฮื่อๆๆๆ
อรวีย์ : เมียน้อย!!!!!!!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น