ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ถอดจิตพิชิตรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 เธอคนที่ผมฝันเห็น

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


     คุณเชื่อในสิ่งเล่นลับไหม ผี วิญญาณ เทพยดา หรือพระเจ้า ผมเป็นหนึ่งคนที่เชื่อและอยากพิสูจน์ ทั้งอ่านหนังสือ อ่านเรื่องลี้ลับต่างๆ ลองด้วยตัวเอง นั่งสมาธิ ผมงมงายไปรึเปล่า ไม่นะ ผมแค่อยากพิสูจน์ การที่ได้ยินคนอื่นพูดมันไม่ได้ทำให้ความสงสัยภายในใจของผมหายได้เลย ใช่ ผมอยากมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่ดูเหมือนจะโชคดีกว่าคนอื่นที่ไม่เคยเจอเรื่องแปลกเลย แต่สำหรับผมกลับรู้สึกว่า ทำไมเราโชคร้ายแบบนี้นะ อยากเจอบ้าง แต่ก็ไม่เจอ แต่ผมก็ยังไม่ได้ละความพยายาม และวันนี้ผมก็โชคดีเจอนิตยสารเล่มหนึ่ง พูดถึงเรื่อง ถอดจิต บังคับฝัน ทางวิทยาศาสตร์ แบบนี้มันต้องลอง ไม่ลองไม่รู้จริงไหมครับ

    “อ๊า... ขอโทษครับ ลืมแนะนำตัวเองไป ผมชื่อ เบิร์ด คนไทย 100% พ่อไทยแม่ไทย อายุ20 นิดๆ สถานะภาพโสด ทำไมเหรอครับ คงไม่มีสาวๆที่ไหนมาชอบหนอนหนังสือแบบผมหรอก ถึงจะถอดแว่นก็เหอะ”

    และตอนนี้ผมก็อยู่ในห้องของผมที่ไม่เคยมีสาวคนใดย่างกายเข้ามาเลย ผมขยับเก้าอี้และนั่งลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ เก็บหนังสือที่กองอยู่ไปรวมกับหนังสือที่ผมกองไว้ข้างๆโต๊ะ ผมเริ่มพลิกนิตยสารที่ได้มาอ่านทันที่ ข้ามเรื่องไร้สาระที่ไม่อยากอ่านไปก่อน เริ่มจากเรื่องที่สนใจเลยดีกว่า บังคับฝัน มีนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองด้วยวิธีการให้อาสาสมัคร พยายามจดจำความฝันของเขา จากนั้นให้พยายามควบคุมร่างกายที่อยู่ภายในฝัน

     เรื่องต่อไป ถอดจิต มีนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า คนเรามีกายทิพย์อยู่ การทดลองคือ ขณะที่กำลังนอนให้อาสาสมัครนอนหงาย จินตนาการถึงกายทิพย์ของตน อยู่เหนือตัวเองประมาณ 1 ฟุต ทุกครั้งก่อนนอน และค่อยๆพยายามบังคับกายทิพย์นั้น

    “น่าลอง ไม่ยากด้วย แต่คงใช้เวลา คืนนี้เริ่มเลยดีกว่า”ผมคิดในใจ

    ตกค่ำผมก็เริ่มจากวิธีถอดจิตก่อน ผมถอดแว่นไว้หัวเตียง นอนหงายทั้งที่ปกติผมชอบนอนเอียงข้างมากกว่า และเริ่มจินตนาการถึงกายทิพย์ ที่เป็นผมอีกคนนอนหงายอยู่กลางอากาศเหนือผมไป ผมเห็นแต่ข้างหลังของกายทิพย์ของผม การที่นอนหงายทำให้รู้สึกไม่สบายตัวเท่าไร ผมไม่รู้เหมือนกันว่าใช้เวลานานเท่าไร กว่าผมจะหลับไป เช้าอีกวันผมก็เริ่มจดความฝันผมของ ใช่ครับ ผมทดลองทั้ง 2 อย่างเลยจะได้ไม่เสียเวลา

    และผมก็ทำแบบนี้ทุกคืนโดยไม่เคยเล่าให้ใครฟังจนผ่านไป 2 เดือน ผมคิดว่าถ้าโชคดีอย่างน้อยบังคับฝันได้ หรือถอดจิตได้ สักอย่างคงดี ตอนนั้นผมคุยโวได้เต็มปาก คืนนี้ผมก็ยังคงทำเหมือนเดิม จินตนาการถึงกายทิพย์ จนกระทั้งผ่อยหลับไป แต่ในความฝันผมเห็น หญิงสาวจากด้านบนของห้องๆหนึ่ง เธอนั่งคุกเข่าในห้องแคบๆ มีแสงส่องจากหน้าต่างเล็กๆ กุมมือ พึมพำอะไรสักอย่าง ผมพยายามจะลงไปเผื่อจะเห็นหน้าเธอคนนั้น แต่

    “คลิก”เสียงเปิดประตู มันทำให้ผมสะดุ้งตื่น ผมคว้านาฬิกาปลุกที่บนหัวเตียงมาดูตี5ครึ่ง แล้วก็พยายามนึกความที่เห็นแล้วลุกขึ้นไปจดลงในสมุด จากนั้นก็หันกลับมานอนอีกครั้ง หลังจากนั้นผมก็ฝันเห็นเธอคนนั้นในห้องเดิมๆ ทุกคืน แต่ว่าทุกครั้งที่ฝันที่นี้เป็นเวลากลางวันเสมอ จนผมจำทุกอย่างในห้องนั้นได้ ห้องที่มีฝนังสีขาว มีเพียงช่องหน้าต่างเล็กๆ 1ช่อง มีทั้งห้องน้ำกับอ่างล้างหน้าภายในห้องนั้น และผมก็เริ่มเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ  

    แล้วคืนนึงผมก็สามารถลงมายืนบนฟื้นได้ ผมมองไปที่เตียงในห้องนั้น ผมได้ยินเสียงเธอร้องไห้ ผมเดินเข้าไปใกล้เพราะอยากเห็นเธอชัดๆ ขณะที่เดินใกล้เธอได้สัก1 เมตร ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวต่อ เธอก็หยุดร้องไห้ ผมตกใจหยุดอยู่ตรงนั้น ผมเห็นเธอเช็ดน้ำตาจากทางด้านหลัง แล้วค่อยๆหันกลับมา และผมก็ได้เห็นใบหน้าของเธอ ผู้หญิงใบหน้ารูปไข่ ตาสองชั้นยังคงมีริ้วรอยน้ำตา จมูกเล็กเหมือนลูกชมพู่ คิ้วโค้งสวยงาม ผมยาวสลวย และยังไม่ทันพิจารณาอะไรต่อไป เธอพุ่งเข้ามาพร้อมกับสองมือของเธอผมผงะถอยหลังแต่ไม่ทันแล้ว

    “โดนจับแน่”ผมอุทานในใจ ผมยกแขนทั้งสองกั้น แต่ว่ามือของเธอทะลุผ่านแขนของผม แล้วทั้งร่างของเธอก็ทะลุผ่านตัวผมไป

    “อ้าว เอ๊ะ”ผมแปลกใจกลับตัวเอง พร้อมกับหันไปหาหญิงสาวคนนั้น เธอยืนคาอยู่กับที่สองมือยังกางออก

    “ขอโทษครับ”ผมพยายามพูดกับเธอ แต่ว่าร่างนั้นแข็งไร้การตอบสนองจากเสียงของผม

    “กริ๊งๆๆๆ”เสียงนาฬิกาปลุก ผมเอามืออุดหู ทันใดนั้นผมก็ลอยออกมาจากห้องนั้น พร้อมกับสะดุดลุกพรวดจากเตียง “กริ๊งๆๆๆ”เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง มันทำให้ผมอารมณ์เสีย ผมคว้ามันแล้วกดปิดด้วยความรำคาญ แล้วก็ลุกไปทำธุระส่วนตัว ตลอดวันนั้นผมได้แต่คิดถึงใบหน้าของเธอ และถ้าคืนนี้ผมไปที่ห้องนั้นอีกจะทำยังไงดี แล้วที่ฝันเนี่ยมันเป็นความฝันรึเปล่า วันนั้นผมไม่มีจิตใจกับการเรียนหนังสือเลย เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องนี้ไปๆมาๆ แต่ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้

     ตกกลางคืนผมนอนและนึกถึงกายทิพย์ของผม แล้วคิดที่ห้องๆนั้น แล้วในฝันผมก็กลับมาที่ห้องห้องนั้นแต่ เธอคนนั้นไม่ได้นั่งร้องไห้ หรือกุมมือพึมพำเหมือนเคย เธอนั่งกอดเขาหลับอยู่บนเตียงเล็กในห้อง

    “สวัสดีครับ”ผมคิดว่าผมควรจะปลุกเธอ แต่คงเบาไปมั้งเธอไม่รู้สึกตัว

    ผมตัดสินใจเดินไปใกล้ๆ

    “สวัสดีครับ”ยังคงเงียบนิ่ง หลับสนิท ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงหลับด้วยสิ ขอแอบดูหน่อยดีกว่า ผมเลยก้มหน้าลงไปมองหน้าของเธอผ่านแขนที่กอดเขาคุดคู้อยู่

    “ไม่เห็นแหะ”ผมหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วก็ขยับเข้าไปอีกนิด ต่อให้เธอตื่นมาก็ตบผมไม่ได้หรอก ผมเรียนรู้จากเหตุการณ์เมื่อคืนแล้ว แต่ถ้าเธอไม่ชอบขึ้นมาละ ผมหยุด ขณะที่กำลังจะถอยออกมา เธอก็เงยหน้าพรวดขึ้นมาแล้วร้องกริ๊ดขึ้นมา

    “เฮ้ย ซวยแล้ว”ผมตะโกนด้วยความตกใจ ผมได้ยินเสียงเธอโวยวาย แต่ผมฟังไม่รู้เรื่องมันป็นภาษาอังกฤษแต่เธอพูดไวมาก

    “แคร๊งๆ”มีเสียงที่ประตู  ผมหันไปน่าจะเป็นยามฝรั่งใส่ ผมยังคงแปลไม่ออกเหมือนเดิม แต่เดาจากน้ำเสียงได้ว่าคงด่า หญิงสาวที่โวยวาย

    Ghost”ผมได้ยินเธอร้องโวยวาย บอกยามคนนั้น แต่ยามกลับตะโคกกลับมาจนเธอเงียบ ยามคนนั้นถึงเดินจากไป เธอคิดคงว่าผมเป็นผีละมั้ง แต่ว่าผมจะอธิบายยังไงดีละ รู้แบบนี้ไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มก็ดี

    ผมหันไปมองที่หญิงสาวอีกครั้ง หญิงสาวกอดเขาชิดกำแพง “ไม่ใช่ผี” ผมพูดพร้อมกับโบกมือ หญิงสาวมองมาที่ผม ดูเธอจะกลัวผมจริงๆซะด้วย ผมเกาหัวไม่รู้พูดยังไงดี

    you’ re ghost?”เธอถามผม อันนี้แปลได้

    “โน โน”ผมตอบได้แค่นี้พร้อมกับส่ายหัว หญิงสาวยังคงกอดเขาชิดกำแพง

    who are you?”เธอถามต่อ ผมเกาหัว

    “ไอ แอม เบิร์ด”ผมบอกชื่อให้เธอ หญิงสาวทำหน้ายุ่ง

     “who are you?”เธอถามซ้ำอีกครั้ง ผมคิดว่าสำเนียงผมคงห่วยแตกมากๆ

    “ไอ แอม เบิร์ด”ผมยังคงบอกแบบเดิมแต่ ทำมือเป็นนกให้เธอดูเผื่อจะเข้าใจ

    I don’t hear you ,are you angle”เธอปล่อยมือที่กอดเขา แล้วชะโงกหน้ามองมาที่ผม แองเจิ้ลที่แปลว่า เทวดา เหรอ

    ผมผงกหัวรับไปก่อน ยังดีกว่าให้เธอคิดว่าผมเป็นผีก็แล้วกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×