คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 07 - การทดสอบล่ะค่ะ [ I ]
ก่อนเข้าเรียนสิ่งใดที่เราต้องเผชิญเป็นสิ่งแรก การสังคมที่ยุ่งยากหรือ? หรือการที่ต้องมาพักในสถาบัน?
คำตอบคือการทดสอบการของนักเรียนปีหนึ่งไงล่ะ
หากไม่เคยพบเห็นทายาทตระกุลขุนนางยืนกลางแดดในชุดลำลองของสถาบัน เราสามารถเห็นได้ที่นี่ ว่าแต่ทำไมยุคของฉันถึงมีเจ้าชุดที่คล้ายชุดพละล่ะ ผู้พัฒนานึกอยากเห็นตัวละครหลักสวมก็ไม่เห็นต้องลำบากมาถึงตัวประกอบเลย ไม่สิ ถ้าอยากให้ตัวเอกโชว์เทพอย่าลามมาให้ตัวประกอบเหนื่อยไปด้วยสิ ทำไมฉันต้องมารับการทดสอบที่รู้ๆ ผลลัพธ์ด้วย บ่นไปก็เท่านั้นแหละ อ๊ะ แล้วก็ฉันรู้นะว่าผู้พัฒนาหมายถึงอะไร ได้ยินจากความทรงจำแม่มดบ่อยจะตายไป ไม่รู้สิแปลก---
แม้นเหล่าชายหนุ่มในชุดลำลองเรียบๆ ยังดูสง่า
ดั่งบุปผาอันงดงาม ไม่ว่ารูปลักษณ์ใดพวกเขายังคงดึงดูดให้สตรีใจเต้น
รู้สึกเหมือนมีบทบรรยายแสนน่าหมั่นไส้ในหัวเลยแฮะ
แต่ฉันก็ไม่ปฏิเสธว่าตอนนี้เหล่าคุณหนูเกิน 80% ต่างพยายามเข้าหาองค์ชายเอนเดทริกซ์ที่ยืนเก็กหล่อท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ สกรีนโทนได้โปรดรีบๆ หายไปสักทีเถอะ เจอกี่ครั้งก็หลอนมากกว่าคิดว่ามันสวย...ส่วนทางนั้นเรเกรซถูกประจบประแจงจากเหล่าคุณหนู - คุณชายจำนวนไม่น้อย เรียกได้ว่าภาพตรงหน้าตอนนี้ หากตัวประกอบเด่นขึ้นมาหิมะคงตกกะทันหัน
ตอนนี้ฉัน, น้องชาย, คู่หมั้น, และ เพื่อนสมัยเด็กอีกหนึ่งชีวิตกำลังนั่งหลบแดดมองบรรยากาศ
“คุณหนู - คุณชายทั้งหลายได้เวลารวมตัวแล้ว!”
เสียงฝีเท้าศาสตราจารย์คุมการทดสอบดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายท่าทางดุดันเดิน เขาตะโกนเสียงดังราวกับกำลังออกคำสั่งกับกองทหาร แต่นี่นักเรียนนะ เพลาลงหน่อยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้น เบนลาทอร์ ถ้าจำไม่ผิดเคยเป็นผู้บัญชาการในกองทหารมาก่อน ฉันเองก็ไม่รู้ และ ไม่สนใจว่าทำไมจู่ๆ เขาเลือกเข้ามาสอนภาคสนามในสถาบันแห่งนี้
แต่เอาเป็นว่าเลือดร้อนจนบางคนยิ้มแห้งๆ กับบุคลิกที่ไม่ค่อยสมวัยของเขา
“ทุกท่านช่วยมารวมกันตรงนี้ด้วยค่ะ” และ เด็กสาวเดินออกมาพร้อมกันคือรุ่นพี่ที่คาดว่าเป็นสภาชิกสภานักเรียน
จะว่าไปฉันยังไม่เห็นนางเอกเกมโผล่หน้ามาเลย
ตามเนื้อเรื่อง เธอมาช้าเพราะอะไรสักอย่าง ถ้าจำไม่ผิด ข้อเท้าแพลงจากการวิ่งชนคุณหนูกลุ่มหนึ่งเข้า ตามเนื้อเรื่องเหมือนถูกต่อว่าอย่างหนักทำเอาในเกมสีหน้าแรกของนางเอกเกมดูซีดๆ และ เพราะเธอฝืนมารับการทดสอบทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทดสอบสุดท้าย แน่นอนนี่ตามเนื้อเรื่องเกมเป๊ะๆ ---พลันเสียงเปิดประตูทางเข้าสนามดังลั่นทำเอาทุกคนพร้อมใจหันมอง คุณหนูผมสีควันสาวเท้าตรงไปหาศาสตราจารย์ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงวิตกนิดๆ เธอคงกลัวโดนดุที่มาสายกระมัง
“ศาตราจารย์คะ คือว่า...คุณหนูมิล่าเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าห้องพยาบาลนิดหน่อยน่ะค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น?” ศาสตราจารย์เบนลาทอร์ถามกลับพอเป็นพิธี แค่ดูก็รู้ว่าเขาไม่สนใจสุขภาพนักเรียนเลย
“อุบัติเหตุ? อย่าทำท่าเวอร์วังน่า เธอแค่ขาแพลงเพราะชนฉัน”
โมนิก้า
อุตส่าห์หาข้อแก้ต่างแล้วแท้ๆ ว่าแค่ชื่อเหมือน สุดท้ายก็ตัวจริงหรอกเหรอ ผู้ญิงคนนี้ไปทำอะไรมาถึงได้มีสภาพแบบนี้
“เด็กคนนั้น? นักเรียนทุนปีนี้?”
“ได้ยินว่าเคยเป็นสามัญชนมาก่อน จะไหวไหมเนี่ย”
“เด็กผู้หญิงแถมยังไม่มีสายเลือดขุนนางอีก”
“แต่เธอได้รับการคุ้มครองจากแม่มดรุ่งอรุณเชียวนะ”
“หว่า ท่าทางอ่อนแอจัง”
มองครั้งแรกก็คงประมาณนี้น่ะนะ
เสียงซุบซิบฟังไม่เป็นศัพท์ราวกับบรรยากาศงานเลี้ยง นักเรียนทุน หากไม่เป็นที่ยอมรับจริงๆ ชีวิตในสถาบันหลังจากนี้จะลำบากมิใช่น้อย อ้างอิงจากนางเอกเกมที่ปีแรก เธอทำพลาดช่วงทดสอบส่งผลให้ช่วงปีหนึ่งก่อนเจอเพื่อนสนิท และ เหล่าพระเอกเกมเรียกได้ว่าทุลักทุเล ทั้งต้องพยายามมากขึ้น ทั้งถูกเมิน ส่วนคนที่สนใจก็เอาแต่เหยียดหยาม แต่ตามธรรมชาตินางเอกมีลักษณะจำเพาะคล้ายๆ กันนั่นคือความอดทน, ความพยายามสูงกว่าคนทั่วไปมาก
ถ้าเป็นฉันคงได้โอกาสหนีกลับไปหมกตัวที่บ้าน
“โมนิก้า เบลูมใช่ไหม? หมายความว่าไง? ชน?”
“ก็ตรงตัว ชนไง”
โมนิก้าตีหน้ามึนพลางตอบกลับ บางทีก็สงสัย คำตอบจริงๆ หรือจงใจกวนประสาท แค่เดินชนจะขาแพลงได้จริงๆ เหรอ หลายคนคงสงสัย เซ็ตติ้งในเกมโมนิก้าช่วงแรกจัดเป็นเด็กสาวอ่อนแอคนหนึ่ง ไม่แปลกเลยที่จู่ๆ ใครสักคนจงใจเดินชนจะทำให้เธอเสียหลักจนขาแพลงได้ ทว่ากลับมาความจริงตรงหน้ามิใช่ข้อมูลเกมจากความทรงจำแม่มดกันต่อดีกว่า ขออนุญาตกล่าวในฐานะเป็นคนหนึ่งที่เคยมีประสบการณ์เจอโมนิก้าก่อนเข้าเรียน และ คนหนึ่งที่รู้สรรพคุณการต่อสู้ของหล่อน กำแพงเหล็ก นิยามนี่เหมาะสุดๆ เห็นตัวเล็กๆ บางๆ แบบนั้น อย่าประเมินต่ำไปเชียว โดนมอนสเตอร์พุ่งใส่กะทันหันยังไม่สะทกสะท้าน ยังกับกำแพงเหล็ก คุณหนูมิล่าอะไรนั่นคงสัมผัสได้ถึงความเป็นกำแพงครั้นชนร่างเด็กสาวตัวเล็กๆ คนนี้ล่ะมั้ง
แน่นอนคุณหนูทั่วไปกับเด็กสาวที่มีร่างกายเหมือนกำแพง เดาไม่ยากว่าใครจะเจ็บตัว
ยินดีด้วยพระเอกเกมทั้งหลายตอนนี้คุณได้เด็กสาวแสนแข็งแกร่งถึงขั้นเคยเป็นนักผจญภัยระดับ S มารับบทนางเอกเกมเป็นที่เรียบร้อย อันที่จริงน่าสงสัยว่าโมนิก้ายังอยากได้ความช่วยเหลือ และ การปกป้องจากเหล่าพระเอกเกมหรือเปล่า คงไม่กลายเป็นว่าหล่อนเป็นฝ่ายปกป้องนะ หรือ เลวร้ายกว่านั้นหล่อนอาจถีบหัวส่งเพราะคุณไปเกะกะก็เป็นได้ นอกจากนี้คุณจะอาจไม่ได้ภาพนางเอกเขินอายอีกต่อไป ต่อให้คุณเปลือยทั้งตัว หรือ คุณไปเห็นเธอในชุดชั้นในก็ตาม เพราะเธอนั่นโคตรยางอาย
แค่เห็นว่าโมนิก้าที่เจอในดันเจี้ยนคือนางเอก ฉันก็สัมผัสได้ถึงความวายวอดของเนื้อเรื่องหลัก---
“ช่างเถอะ ทางสถาบันจะทดสอบคุณหนูหลังจากนั้นแล้วกัน เอาละ เราจะทดสอบทีละ 5 คน แยกชาย - หญิงซะ”
ฝ่ายศาสตราจารย์แลดูไม่แยแสพอๆ กัน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเบิกเฉยพลางสั่งให้นักเรียนแยกกลุ่ม กลุ่มฉันเกือบทั้งหมดเป็นตัวประกอบ แม้มีคนหนึ่งที่จำได้ว่าแม่นว่าเธอคือตัวหลัก ทว่าบทบาทเด็กสาวเด่นช่วงท้ายเกมทำให้ไม่ได้โดดเด่นช่วงแรกของเกม ฉะนั้นการทดสอบนี้เราอาจไม่เป็นจุดเด่นเท่ากลุ่มโมนิก้าที่ดันมีนางร้ายเกมอย่างเรเกรซอยู่ด้วย ทว่าเด่นสุดไม่พ้นกลุ่มพระเอก เล่นมีพระเอกถึงสามในหกคนอยู่กลุ่มเดียวกัน แหม ทำเอากลุ่มนักเรียนชายกลุ่มอื่นกลายเป็นธาตุอากาศไปแล้ว ส่วนธีโอ, เซเนทซ์, และ เดมาริมอยู่กลุ่มเดียวกันอย่างที่คิด
การทดสอบแบ่งเป็น 3 ประเภท ทดสอบสมรรถภาพ, ทดสอบพลัง, และ ทดสอบไหวพริบ น่าจะเรียกว่าเบสิกมั้ง กระนั้นแค่การทดสอบแรกก็ทำให้ฉันเกิดคำถาม---ทำไมต้องมีการทดสอบสรรถภาพก่อนเข้าเรียน อ่า เพื่อคัดนักเรียนที่เป็นอันตรายออกจากนักเรียนปกติ เรื่องนั้นฉันรู้ การทดสอบแบบธรรมดาเกินชนิดที่ว่ามีไว้เพื่ออะไร ศาสตราจารย์เบนลาทอร์เป็นคนออกแบบสินะ ออกแบบด้วยความชอบส่วนตัวหรือเปล่าล่ะนั่น การทดสอบแรกคือการวิ่ง 400 เมตร ที่ดูเหมือนไกล แต่อนุญาตให้ใช้พลัง เราจะได้เห็นพลังหลากหลายที่ร่นเวลาในการวิ่ง
แต่ที่ติดใจสุดคือองค์ชายอีกแล้ว จำเป็นต้องดูดี แม้กระทั่งตอนวิ่งเหรอ ว่าแต่ว่าเผ่าเขาเป็นคาริสม่า? เพราะงั้นเลยดูดีตลอด
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทำเอาหรี่ตามองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่เป็นแค่การทดสอบ แต่ทำไมทุกคนเอาจริงเอาจังกันเกินไป ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย อย่างไรองค์ชายเข้าเส้นชัยคนแรก ตามด้วยบุตรชายดยุค และ องครักษ์ข้างกายองค์ชาย แน่นอนทั้งสามล้วนเป็นพระเอก
กลุ่มธีโอเป็นกลุ่มเกือบสุดท้ายของฝ่ายสุภาพบุรุษ พูดตามตรงพวกเขาเป็นกลุ่มที่ฉันเดาได้เลยว่าใครจะไปถึงเส้นชัยก่อน และ ใครจะไปถึงท้าย เผลอๆ ไม่ถึงมากกว่า ทันทีที่ศาสตราจารย์ให้สัญญาณออกวิ่ง สองบุรุษแปลกหน้าวิ่งอย่างตั้งอกตั้งใจ เฉกเช่นเดมาริมที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย อีกสองคนหรือ เซเนทซ์ยืนย่นคิ้วมองลู่วิ่งด้วยสีหน้าหงุดหงิด ส่วนธีโอยืนกลั้นขำปล่อยให้คนอื่นนำไปไกลเกินครึ่งทาง พลันนัยน์ตาเด็กหนุ่มช้อนมองราวกับอยากให้ฉันส่งกำลังใจ
ส่งเสียงเชียร์ไม่ตอบโจทย์ ฉะนั้นยืนมองด้วยสีหน้าแน่วแน่แล้วกัน
แต่จู่ๆ ธีโอหลบสายตาหัวเราะทำเอาฉันเริ่มไม่มั่นใจกับสีหน้าแน่วแน่ ในอนาคตอย่าได้พลาดเชียว คุณคู่หมั้น คุณคงรู้ดีทั้งคู่หมั้น และ เพื่อนสนิทกำลังรอซ้ำอยู่---บางทีศาสตราจารย์อาจลืมไปว่าในหมู่นักเรียนใหม่มีคนที่สามารถข้ามโลกได้อย่างรวดเร็ว ร่างเด็กหนุ่มผมบลอนด์หมุนตัวกลับมองลู่ข้างหน้า เสี้ยววินาทีร่างกายคู่หมั้นหายจากตำแหน่งที่เคยยืน เพียงกะพริบตาอีกครั้ง ธีโอเดอมาร์โบกมือหัวเราะหน้าเส้นชัย แน่นอนการเคลื่อนย้ายระดับนี้ทำเอานักเรียนหลายคน รวมถึงรุ่นพี่แอบเหวอกันพักใหญ่ ปกติถ้าไม่เห็นจนชินตาคงมีตกใจกันนั่นแหละ เพราะไวเกินไปจริงๆ
“เอ่อ นายน้อยเฮเลเกลล่า ท่าน---” รุ่นพี่ส่งเสียงเรียกด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความตื่นตระหนกเจือปน ทว่าธีโอที่รู้ว่าเจ้าตัวจะถามส่งผลให้เด็กหนุ่มเลือกตอบโดยไม่รีรอ แต่ก็นะ คำตอบนั่นไขข้อสงสัยทุกคนได้พริบตาเลยล่ะ
“ลักษณะพิเศษนักเดินทางครับ”
ลักษณะพิเศษที่รู้คุณสมบัติกันอย่างทั่วถึงในหมู่ขุนนาง ว่าด้วยความว่องไว
ไม่กี่นาทีต่อมานักเรียนคนที่สองวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยอาการหอบนิดๆ แต่ทันทีที่ขาหยุดขยับ เดมาริมกลับพุ่งตัวออกจากเงาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก็ว่าหายไปไหนตั้งแต่เริ่มออกวิ่ง ธีโอกุมขมับเบาๆ พร้อมพึมพำเสียงเอือมระอา
กินแรงชาวบ้านชะมัด
ถ้าเดมาริมได้ยินคงบ่นว่าฉันใส่ร้ายแหง แต่พูดจริงนะ เขากินแรงชาวบ้านสุดๆ
การคุ้มครองจากพริมโรสจะเข้ากันได้ดีกับมูเนก้า หรือ นิมฟา ดังนั้นเดมาริมที่เป็นฮอลล์เมซจึงไม่ค่อยกลมกลืนกับแม่มดมายา ทว่าในมุมมองฉันเผ่าแสนเจ้าเล่ห์กับแม่มดมายาดูอันตรายไม่แพ้กัน แค่มันเกิดลักษณะพิเศษยากก็เท่านั้น ตัวเด็กหนุ่มผมสีไวน์ ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เขาชอบปั่นหัวคนอื่น โดยเฉพาะพวกพ่อค้า โดยปกติผู้ได้รับการคุ้มครองจากแม่มดมายาย่อมมีพลังลวงตา ทว่าอีกหนึ่งสิ่งที่เดมาริมถนัดคือการเปลี่ยนร่างตัวเองให้อยูในรูปแบบมิอาจจับต้อง อันที่จริงฉันแอบคิดว่าถ้าเขาได้รับการคุ้มครองจากแม่มดเงาอาจเกิดลักษณะพิเศษขึ้นก็เป็นได้ ทว่าต่อให้ไม่มีลักษณะพิเศษเขาก็ดูมีความสุขดีนี่ และ ที่เจ้าตัวใช้ระหว่างวิ่งเมื่อครู่มันเป็นการเปลี่ยนรูปร่างเป็นควันสีดำก่อนเกาะติดนักเรียนคนดังกล่าว
และ ใช่ มันกินแรง เพราะระหว่างเกาะเดมาริมแทบไม่ต้องทำอะไร
“เอ่อ นายน้อย...ครับ ท่านต้องวิ่----”
“ให้ตายก็ไม่!”
เสียงตะโกนด้วยน้ำเสียงกระด้างจากจุดเริ่มต้น แม้นักเรียนคนที่สี่จะไปถึงเส้นชัยแล้ว ทว่าน้องชายฝาแฝดกลับยังยืนอยู่ที่เดิม เค้าหน้าเขาเชิดขึ้นเล็กน้อยพลางยกมือกอดอกอย่างจองหอง ความเอาแต่ใจระดับเต็มพิกัด เราต่างรู้ดีนิสัยเซเนทซ์ไม่เคยยอมฟังคำสั่ง หรือ คำขอใครง่ายๆ ยิ่งถ้าเห็นว่าทำแล้วเหนื่อยยิ่งไม่ทำไปเลย เหมือนตอนนี้ไง ความจริงการทดสอบแบบนี้ไม่เหมาะกับเซเนทซ์หรอก ทดสอบไปก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลัง ในเมื่อน้องชายฉันมีพลังสไตล์ที่ไม่ต้องออกแรงมากมาย
“แต่นี่มันทดสอบวิ่ง ท่านช่วยก้าวเท้าให้เร็วขึ้นได้หรือไม่?”
ต้องพูดว่าช่วยก้าวเท้าออกจากจุดเริ่มต้นได้หรือไม่มากกว่านะ
“มันเหนื่อย ดังนั้นผมจะไม่วิ่ง”
โคตรไม่น่าคบเลย คนอะไรเนี่ย
สุดท้ายการทดสอบของกลุ่มธีโอก็จบลงด้วย เด็กหนุ่มผมบลอนด์ต้องวาร์ปไปลากฝาแฝดฉันเข้าเส้นชัย มิเช่นนั้นคงไม่จบกันพอดี เมื่อการทดสอบวิ่งฝ่ายชายจบลง ก็ต้องต่อด้วยฝ่ายหญิง กลุ่มของฉันเป็นกลุ่มที่ 5 ที่เข้ารับการทดสอบ สบายใจได้ ฉันไม่ถึงขั้นยืนนิ่งตรงเส้นชัยเหมือนน้องชายหรอก แค่ไม่รู้ว่าจะแข่งกับคนอื่นไปเพื่ออะไร เอาเป็นว่าไปด้วยความเร็วปกติ อ่า ลืมบอกไป ฉันไม่ได้วิ่งนะ ลอยต่างหาก สตรีผู้เข้าเส้นชัยคนแรก ไอมีน่า วิลเลียโลบัส ในความทรงจำแม่มด เธอมีบทบาทในฐานะนางร้าย ผู้มีเสียงหัวเราะเป็นเอกลักษณ์
ต่อจากไอมีน่า เป็น เชลลิก้า อิลต้า หรือ คุณหนูอิลต้าเจ้าของงานเลี้ยงฝูงแมลงบุก
สองฝาแฝดตระกูลลิโอเพย์ลอสตามหลังกันติดๆ และ จบลงด้วยความสุดท้ายนั่นคือฉัน
“ทำไมไม่ยอมเอาจริง”
ทันทีที่ก้าวออกมาจากสนาม เดมาริมตั้งคำถามด้วยสีหน้าเข้าเล่ห์ ฉันถอนหายใจเบาๆ พลางตอบกลับ
“เปลืองพลังงานค่ะ”
“สมเป็นแฝดกันจริงๆ” ธีโอพึมพำพร้อมยิ้มมุมปาก
การทดสอบฝั่งหญิงดำเนินต่อ กระทั่งถึงกลุ่มสุดท้าย บางทีตามเนื้อเรื่องอาจเป็นได้รับการความสนใจอย่างท่วมท้น แม้จะวิ่งไปถึงคนสุดท้าย แต่ในคัทซีนจะเห็นความพยายาม และ ฝืนตัวเองอย่างมากของนางเอก เธอไปถึงเส้นชัยท่ามกลางสายตาขุนนางที่ดูแคลน ทว่าโมนิก้ากลับคิดว่าคำกล่าวเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เธอควรนำว่าพัฒนาตนเอง แน่นอนส่วนนี้เป็นบทในเกมน่ะนะ
จากสถานการณ์ปัจจุบัน บางครั้งคนที่ไปถึงเส้นชัยคนแรกอาจมิใช่เรเกรซ
นอกจากเป็นกำแพงเหล็กแล้วยังเป็นชีตาห์ด้วยงั้นเหรอ
นั่นกายภาพล้วนๆ เลยไม่ใช่เหรอไง
“มิน่าถึงหลบอราเนียได้สบายๆ”
เซเนทซ์เอ่ยเสียงเบื่อหน่ายพลางเอนตัวพิงด้านหลัง ตอนนี้โมนิก้านำไปไกลจนหลายคนแทบตามไม่ทัน มีเพียงเรเกรซที่มีลุ้น ทว่าในสายตาฉันความเร็วคุณหนูโรซิลเวนีสกำลังตกลง ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แม้ฉันไม่รู้จักเด็กสาวผู้ได้รับการคุ้มครองจากแม่มดรัตติกาลมากมาย แต่เธอเป็นพวกชอบเอาชนะ เธอกำลังฝืนตัวเองไม่แพ้กับโมนิก้าในเกม กระนั้นยิ่งฝืนยิ่งแย่ลงกว่าเดิม คุณหนูโรซิลเวนีสเกิดมาพร้อมพรสวรรด์นั่นคือการคุ้มครองจากแม่มดที่ขึ้นชื่อความหายากตนหนึ่ง เฉกเช่นโมนิก้าคาดว่าน่าจะได้รับการคุ้มครองจากแม่มดรุ่งอรุณ หากแต่ด้วยพื้นฐานการใช้ชีวิตต่างกัน ขณะคนหนึ่งเป็นคุณหนูผู้ถูกดูแลอย่างดี แต่อีกคนกลับเป็นถึงอดีตนักผจญภัยระดับสูงสุด
เวทอาจเทียบเท่ากัน ทว่าร่างกาย ฟันธง--โมนิก้านำไปไกลลิบเลยล่ะ
ขนาดวิ่งไวปานนั้นยังไม่มีอาการหอบเลย หล่อนคงฝึกมาดีจริงๆ
อันที่จริงบุตรบุญธรรมตระกูลเบลูมนี่ ฉันยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าควรเอาใครไปเปรียบเทียบกับเธอดี หลังการทดสอบสมรรถภาพจบลง ทางศาสตราจารย์เบนลาทอร์ได้ทำการเปลี่ยนสนามทดสอบรอบถัดไปต่อ การทดสอบถัดไปคือการทดสอบไหวพริบของแต่ละคน ไม่มีอะไรมากหรอก แค่การโจมตีทีเผลอจากเหล่าสภานักเรียน หลบ, ป้องกัน, โจมตีกลับจะใช้วิธีไหนก็ได้ ขอแค่อย่าถูกฟาดจนหมดสภาพพอ
ธีโอ, เดมาริมใช้วิธีหลบ อ๊ะ ฉันขอนำเสนอหลบยังไงให้ฝ่ายโจมตีหัวร้อน หลบไปปั่นหัวไปไงล่ะ แค่การทดสอบก็ยังจะทำนะ
เซเนทซ์, เรเกรซ, เอนเดทริกซ์เน้นชิวๆ ยืนสร้างโล่ป้องกัน ถ้านั่งจิบชาไปด้วยได้ คงทำไปแล้วมั้ง พวกนี้
โมนิก้า และ ตัวละครสายบ้าพลังหลายๆ คนใช้วิธีโต้กลับ นิยามสั้นๆ รุนแรง ขอพูดแล้วกัน รุนแรงจนนึกว่าจะไล่หวดฝ่ายโจมตีแทน
ส่วนฉันกึ่งป้องกันกึ่งโต้กลับล่ะมั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะสวน แต่จังหวะสร้างลูกบาศก์มันดันเหมือนโต้กลับ
หากมองในมุมมองคนที่มีพลังไม่ได้สูงเหมือนตัวเอกเกม ฉันคิดว่าการทดสอบนี่หินพอตัวสำหรับพวกเขาล่ะมั้ง
ความคิดเห็น