คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - P R O L O G U E
คุณน่ะ ได้อะไรจากการสงครามงั้นหรือ?
หากให้ตอบคำตอบข้อนี้ละก็ มันไม่ได้ยากแม้แต่นิด บทเรียนอันล้ำค่า, ความอดทน, ความสามัคคี, กำเนิดวีรบุรุษ วีรสตรี นั่นแหละ สิ่งที่ได้รับจากการกระทำที่ถูกเรียกว่า สงคราม ทว่าลองถามในมุมกลับกันดูสักครั้งสิ
คุณเสียอะไรให้กับสงครามบ้าง?
แล้วคุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่างั้นหรือ?
ตราบเท่าที่ยังคงมีความขัดแย้ง
ไฟสงครามยังคงรอเวลาลุกไหม้
ตราบเท่าที่ต้องการอำนาจ สงครามก็ยังคงดำเนิน
ตราบเท่าที่เกลียดชังยังคงเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆ
ตราบเท่าที่มีมนุษย์อยู่สงครามอันยาวนานนี้ก็ไม่มีวันจบสิ้น
สันติภาพ และ สงครามคือสิ่งที่ขัดแย้งกัน
หากแต่กระนั้นพวกมันกลับค่อยอยู่ข้างกันตลอดดังเช่นกลางวัน และ กลางคืน
แท้จริงแล้วสงครามก็แค่ความผิดพลาด
และ บิดเบี้ยวที่ไม่อาจแก้ไข
ดินแดนที่ชอกช้ำสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน มีใครสามารถนึกภาพดินแดนแห่งนั้นในอนาคตได้หรือไม่ว่าจะมีสภาพเช่นไร แผ่นดินถูกเปลี่ยนแปลงอารยธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ไม่ว่าจบลงด้วยสันติภาพ หรือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะก็ตาม
สุดท้ายอารยธรรมของทั้งสองยังคงหลงเหลืออยู่ในดินแดนอย่างแน่นอน หรือ อารยธรรมทั้งสองอาจจะหลอมรวมกันจนผู้คนในอนาคตหลงลืมอารยธรรมต้นกำเนิดไป
ความจริงดินแดนดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมองหาไกลมากหรอก ลองมองมาทางนี้สิ คุณจะเห็นภาพดินแดนที่ชอกช้ำด้วยสงครามมานับครั้ง ‘รอสเพล่าร์’ ดินแดนคาบสมุทรอันอุดมสมบูรณ์
ฤดูกาลแสนหลากหลายก่อกำเนิดผลผลิตมากมาย สภาพภูมิประเทศสร้างสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ โดยรวมคือนิยมของดินแดนแสนสมบูรณ์แบบที่แท้จริง ทว่าใครจะไปนึกไปฝันว่าความสมบูรณ์นี้จะกลายเป็นบ่อเกิดของหายนะยากต่อการสิ้นสุด
ย้อนกลับไปเจ็ดร้อยปีก่อนหน้านี้
ระยะเวลาประมาณนี้สำหรับมนุษย์ยาวนานอย่างมาก แต่ไม่มีวันปฏิเสธได้หรอกว่าจุดเริ่มต้นของสงรามชิงดินแดนผ่านมานานนับเจ็ดร้อยปี
มนุษย์เริ่มต้นยุคสมัยที่เรียกว่า
ยุคล่าอาณานิคม การขยายอำนาจได้จุดประกายขึ้นมาจากจุดเล็กๆ
จักรวรรดิที่มีอำนาจทั้งหลายเริ่มขยายอาณาเขตตนเองเพื่อเพิ่มพูนทรัพยากร
หนึ่งในนั้นคือจักรวรรดิเดียมาน จักรวรรดิทรงอำนาจเริ่มล่าอาณานิคมลงมาทางใต้เพื่อหาทรัพยากร และ เผยแพร่วัฒนธรรมจนกระทั่งถึงดินแดนรอสเพล่าร์
ด้วยความสมบูรณ์แบบทำให้จักรวรรดิตัดสินใจเข้าทำสงครามเพื่อยึดอำนาจอย่างไม่ลังเล
ด้วยเหตุผลที่ว่ากำลังทางการทหารของฝ่ายรอสเพล่าร์ไม่พร้อมสำหรับทำสงครามทำให้เจ้าของดินแดนต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
และ อพยพชาวรอสส่วนหนึ่งออกห่างเพื่อทำการตั้งหลักใหม่
แม้ถูกยึดดินแดนบ้านเกิดไปใช่ว่าจะไม่มีทางทวงมันกลับคืนมาได้ นั่นคือสิ่งที่อยู่ในความคิดของชาวรอสบางส่วน
ทว่าถึงกระนั้นพวกเขากลับไม่มีผู้กล้าที่ค่อยนำทาง
หากหนึ่งในร้อยปีให้หลังได้กำเนิดผู้กล้าคนหนึ่งขึ้นมา
‘ดีแลน วอลเลอร์’ บุตรชายจากครอบครัวชาวไร่ธรรมดา
แต่บรรพบุรุษของเขาเคยร่วมรบ และ รอดชีวิตออกจากสงครามครั้งนั้น
เรื่องราวในสนามรบถูกเล่าขานต่อกันมาจนกระทั่งถึงตัวของดีแลนเอง
เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญ และ
เลือดร้อนยิ่งกว่าใคร
อีกประการหนึ่งที่ทำให้เขาเลือกจุดประกายสงครามครั้งนั้น
แม้ยังไม่มีข้อมูลอ้างอิงชัด
แต่มีคนกล่าวไว้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปในดินแดนอันเป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษ
ภาพความอุดมสมบูรณ์สร้างความเกลียดชังที่ถูกช่วงชิงดินแดนไป
ความคิดที่ว่าบรรพบุรุษของเขาเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้ได้ลุกโชนขึ้นมา
อีกทั้งส่วนหนึ่งตั้งแต่เล็กถูกปลูกฝังให้ยึดมั่นกับดินแดนแห่งนั้น
หลังตัดสินใจเช่นนั้นไปสงครามระหว่างชาวรอส กับ จักรวรรดิได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
สงครามครั้งที่สองกินเวลายาวนานกว่าสาบสิบปีจึงจบลงด้วยจักรวรรดิถอยร่นไปจากการสูญเสียแม่ทัพ
ดีแลน วอลเลอร์เข้าสู่วัยผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ เขามีครอบครัวเป็นของตนเอง
เมื่อจบสงครามลงดีแลนได้รับคฤหาสน์หรูหราเป็นรางวัล
นั่นคือจุดสิ้นสุดสงครามรอสเพล่าร์ครั้งที่สอง ช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูอารยธรรมบ้านเกิดได้เริ่มขึ้น ชาวรอสพยายามกอบกู้สภาพทุกอย่างให้เป็นดังเดิมนานนับยี่สิบปี ในขณะที่ดีแลนได้เข้าสู่วัยชราทีละนิด จนกระทั่งกลายเป็นชายชราอย่างสมบูรณ์ อีกไม่นานเขาคงจากโลกใบนี้ไปอย่างสงบสุข
ทว่ากลับไม่ใช่เช่นนั้น
สงครามรอสเพล่าร์ครั้งที่สามได้เริ่มขึ้นจักรวรรดิเดียมานได้บุกกลับมายังดินแดนแห่งนี้อีกครั้ง
ดีแลน วอลเลอร์ และ เชื้อพระวงศ์ของรอสเพล่าร์ส่วนหนึ่งถูกสังหาร
ศีรษะของพวกเขาถูกเสียบประจานเพื่อประกาศชัยชนะ และ สร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวรอส
แน่นอนวัฏจักรเดิมได้เริ่มขึ้น
ชาวรอสส่วนหนึ่งอพยพหนีเพื่อรอวันกลับมาทวงคืน ทว่าเมื่อสามารถทวงกลับมาได้
จักรวรรดิเดียมานกลับเข้าโจมตีเพื่อชิงดินแดนอีกครั้ง
สงครามรอสเพล่าร์เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งไม่สามารถระบุได้ว่าสงครามที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้คือครั้งที่เท่าไร
หากสงครามรอสเพล่าร์เกิดขึ้นไม่กี่ร้อยปีนั้นคงดูไม่แตกต่างจากสงครามทั่วไปเท่าไร ทว่าสงครามนี้เกิดขึ้นนานนับเจ็ดร้อยปี ด้วยความยาวนาน, วนเวียน, ภาพการสูญเสีย, ความเกลียดชังถูกฉายซ้ำไปมา ถ้าเลือกกล่าวคำที่ช่วยให้เรื่องนี้ดูดีขึ้นมานั้นคงต้องใช้คำว่า พวกเขารักดินแดนมาก ผูกพันจนยอมเผชิญสงครามนับครั้งไม่ถ้วน แต่ถ้าลองมองอีกมุมละก็ คล้ายพวกเขา ทั้งชาวรอส ทั้งจักรวรรดิถูกขังในเปลวเพลิงแห่งสงครามอันไร้จุดสิ้นสุด
แน่นอนสภาพเช่นนั้นของรอสเพล่าร์ทำให้นักเดินทาง หรือที่ผู้คนเรียกว่า เหล่าผู้ศรัทธาในธรรมชาติต่างขนานนามดินแดนแห่งนี้
ดินแดนต้องคำสาป
ความคิดเห็น