ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หมี่ไม่ได้เนิร์ด - end. (hermit books)

    ลำดับตอนที่ #4 : 04 : อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.55K
      984
      28 เม.ย. 62



    หมี่ไม่ได้เนิร์ด

    04 : อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ








              การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้แย่ ..
              แต่มันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้เลย

              เมฆเป็นเด็กบ้านนอก ดรอปเรียนมาสองปีเพราะต้องเก็บเงินไว้ส่งน้องขึ้นมัธยม สองปีที่เอาแต่ทำงานหาเงิน สองปีที่เมฆได้ทิ้งชีวิตวัยรุ่นไปโดยสมบูรณ์แบบ ไม่เที่ยว ไม่สังสรรค์ ไม่มีสังคม ..

              ใคร ๆ ก็บอกว่าเมฆโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดแบบนั้นไปเสียหมด ไม่เคยมีความคิดที่ว่าเออ เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ นั่นแหละ เพราะความจริงแล้วเมฆรู้ดีว่าตัวเองยังเด็กนัก .. กับหลาย ๆ เรื่องน่ะ

              จนกระทั่งได้กลับมาเรียนอีกครั้ง มีเพื่อนคนแรกที่ชื่อหมูแฮม เราดรอปเรียนมาสองปีเหมือนกันแต่เหตุผลโคตรจะต่างลิบลับ หมอนั่นเป็นคนที่ทางบ้านค่อนข้างจะมีฐานะ มันโดนพ่อแม่ดัดนิสัยเพราะใช้เงินไม่คิด ถูกส่งมาเรียนช่างเพราะที่บ้านอยากให้ลองทำงาน เมฆก็ไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือโกรธดีที่ส่งมันให้มาเป็นเพื่อนเมฆ ก็ดูมันสิ

              "เมฆเพื่อนรัก เสร็จแล้วเอามาให้กูดูมั่งนะเพื่อน"

              ก็เป็นซะอย่างนี้

              "ไม่ให้ มึงทำเองบ้างเหอะแฮม"
              "กูก็จะทำเองไง แค่เอามาเป็นเรฟเฉย ๆ น่า"

              เมฆส่ายหัวให้มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ บ่นมันก็ครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ปีนี้จะจบแล้วเหมือนมันยิ่งชิล ถ้าไม่ใช่คาบปฏิบัติก็ไม่เอาอะไรเลยจนเมฆเอือมระอา

              "เออ กูว่าจะถามมึงตั้งแต่เช้าละ ถามตอนนี้เลยแล้วกัน" เสียงนั้นพูดขึ้นมาอีกแล้ว เมฆหันไปมองมัน เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยเพราะสงสัยว่าสิ่งที่มันอยากรู้คืออะไร "เด็กที่มาหามึงวันนั้นเป็นใคร"

              แล้วก็ต้องพบว่าสิ่งที่มันสงสัยคือสิ่งนี้ ก็ไม่แปลกหรอก เคยมีคนมาหาเมฆที่ไหนล่ะ พอหมูแฮมมันเจอแบบนั้นก็เลยคาใจ แต่จะให้เขาตอบว่ายังไงล่ะ โรคจิตถามทางดีไหม

              "แค่เด็กหลงมาน่ะ"
              "เด็กหลง?"
              "อือ"

              ดูหน้ามันก็รู้แล้วว่าไม่เชื่อ ไอ้หมูแฮมเดินมาใกล้ ๆ กวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่ออะไรเมฆก็ไม่รู้เหมือนกัน

              "นี่มึงไม่ได้ผันตัวไปเป็นแก๊งรีดไถเด็กใช่ไหมวะ?"
              "แฮม...แต่ละอย่างที่มึงคิดนี่นะ"
              "เอ้า งั้นมึงก็บอกกูมาตามตรง อย่าเล่นลิ้น"

              เมฆถอนหายใจใส่มันอีกแล้ว มันจะอะไรนักแค่เด็กคนนึงน่ะ เด็กหมี่นั่นจะรู้บ้างไหมว่าเป็นต้นเหตุให้เมฆต้องมาคอยตอบคำถามไร้สาระกับเพื่อน

              "ถ้ากูบอก สัญญาก่อนว่าจะไม่ตกใจ" หนุ่มตี๋ยื่นข้อเสนอกับเพื่อน ซึ่งหมูแฮมเองก็พยักหน้ารับหงึกหงัก "คือมัน..."

              พอจะบอกจริง ๆ กลับสองจิตสองใจขึ้นมา เมฆไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ตกใจน่ะ

              "มันบอกว่าจะจีบกู"
              "ฮะ! เชี่ย!...แบบ...วอท!"
              "..."
              "วอทเดอะฟัค!"

              นั่นไง...

              "แฮม มึงบอกว่าจะไม่ตกใจ"
              "อ้าวเหรอ งั้นคัทใหม่อีกรอบ"
              "พอเลย!"

              เมฆเก็บของใส่กระเป๋าฟึดฟัด มันเป็นเวลาเลิกคาบพอดีและวันนี้เป็นวันศุกร์ แน่นอนเมฆต้องกลับไปอาบน้ำเพื่อไปให้ถึงที่ร้านก่อนสองทุ่ม สองเท้าก้าวออกมาตามทางโดยมีหมูแฮมวิ่งตามมาติด ๆ "เมฆรอกูด้วย!"

              "มึงจะตามมาทำไมเนี่ย?" เมฆหันไปถามไอ้คนที่ยืนหอบอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้ ตัวก็ใหญวิ่งแค่นี้กลับหอบเป็นหมาลิ้นห้อย เห็นแล้วอดขำไม่ได้จริง ๆ 

              "เดี๋ยวกูไปส่ง จะไปหาสาวแถวนั้นพอดี" มันว่า ก่อนจะเสยผมขึ้นลวก ๆ ทำเหมือนหล่ออะ

              "ให้มันน้อย ๆ หน่อยนะแฮม จะสอบแล้ว"
              "เออ ๆ บ่นเป็นเมียเลยมึงอะ"
              "เมียพ่อง!" 

              ว่าแล้วก็เพ่นกบาลมันไปหนึ่งทีจนไอ้โย่งมันหูหลูบเป็นหมา คนหวังดีมันยังมาหาว่าบ่น เดี๋ยวเมฆจะปล่อยให้มันได้ลงรีเกรดคนเดียวอีกเทอม

              "ไปกันเถอะจ้าเมียจ๋า" 

              แล้วมันก็ยังไม่จบด้วยนะ

              "ไอ้แฮม เดี๋ยวมึงจะโดน" เจ้าของผมหยักลอนหันไปง้างหมัดใส่เพื่อน ซึ่งนอกจากมันจะไม่กลัวแล้วยังมายิ้มเยาะอีก อย่าให้เขาสูงขึ้นกว่านี้อีกหน่อยนะ แม่จะซัดให้หมอบเลยพวกชอบแกล้ง






    //

              ทั้งสองชีวิตเดินขึ้นมาจนถึงห้องนอนเก่า ๆ ของเมฆ หมูแฮมล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างที่มันชอบทำ โดยมีเจ้าของห้องที่กำลังถอดเสื้อเตรียมจะอาบน้ำเพื่อไปทำงานคืนนี้

              "เออไอ้เมฆ แล้วมึงไปเจอไอ้เด็กนั่นได้ไงวะ" คนปากว่างเริ่มจะตั้งคำถามอีกแล้ว มันคงเป็นเพราะว่ามีคนพูดถึงเมฆถึงได้นึกถึงไอ้เด็กหมี่ขึ้นมา

              จะว่าไปวันนี้ไม่เห็นมาดักรอแฮะ สงสัยจะติดเรียนพิเศษ .. เดี๋ยว แล้วทำไมเขาต้องไปสนใจเด็กหมี่นั่นด้วยวะเนี่ย

              "มันเป็นลูกค้าที่ร้านบุฟเฟต์น่ะ" เจ้าของห้องว่าพร้อมกับถอดเสื้อสีขาวออกจากตัว โยนมันลงตะกร้าอย่างชำนาญเพราะว่าโยนมาทุกวันเกือบสองปีแล้ว

              "แล้วมันมาจีบมึงได้ไง ไปปิ๊งกันอีท่าไหนวะ?"

              มันเป็นคำนั้นที่ทำให้เมฆยืนนิ่ง ภาพรอยยิ้มจอมทะเล้นของมันลอยวับขึ้นมาในหัวอีกครั้ง มันมาปิ๊งเขาได้ยังไงเมฆเองก็ไม่รู้ ตัวเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยสักนิด นึกแล้วก็แค้นมัน ตัวไม่อยู่ก็ยังเอาชื่อมาทิ้งไว้ก่อกวนเขา เกิดมาเพื่อเป็นตัวป่วนจริง ๆ เลยนะไอ้หมี่ซั่ว

              "มันคงไม่ได้จริงจังหรอก เดี๋ยวมันเบื่อก็คงหายไป" เมฆพูดไปอย่างที่คิด มันน่ะยังเด็ก .. เด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำว่ารักว่าชอบ แล้วเด็กน่ะมันชอบอะไรไม่ยั่งยืนหรอก ก็เหมือนของเล่นชิ้นโปรดที่พอเจอชิ้นใหม่แล้วก็โยนทิ้ง

              "แล้วมันมีท่าทีว่าจะเบื่อยัง?"

              คำถามของเพื่อนทำให้เมฆหยุดคิดอีกครั้ง มีท่าทีว่าจะเบื่อหรือยังเหรอ .. 

              "กูถามตรง ๆ นะ มันจีบมึงมานานแค่ไหนแล้ว?" 

              นานแค่ไหน ..

              "เพิ่งจีบ มันก็มากินหมูกระทะทุกวันศุกร์ ซื้อทาร์ตไข่มาให้ แล้วก็ .. มารับไปส่งที่บ้าน ตลกดีมึงว่าป้ะ" 
              "ไม่ตลก"
              "..."
              "กูถามจริง ขนาดนั้นกูว่ามันไม่เล่นแล้วไหม"

              ตอบจริง...เมฆเองก็ไม่รู้ ชีวิตนี้เคยมีผู้ชายมาตามจีบที่ไหนล่ะ ก็มีไอ้เด็กนี่แหละที่โผล่มาไม่เหมือนชาวบ้านเขา อยู่ดี ๆ ก็โพล่งมาว่าจะจีบเลย ไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งนั้น

              "แฮม กูถามมึงจริงจังนะ" เมฆเดินไปนั่งข้างเพื่อนพร้อมกับมองหน้ามันด้วยสีหน้าจริงจังสุดขีด "กูมีตรงไหนที่ดึงดูดเพศเดียวกันเหรอ?"

              คำถามของเขาถึงกับทำให้เพื่อนสนิทหลุดขำพรืด หมูแฮมพยายามกลั้นขำเอาไว้อย่างที่สุดตอนที่เมฆส่งสายตาไปมองมันอย่างอาฆาต ก่อนจะค่อย ๆ ไล่สายตาขึ้นมองกันช้า ๆ 

              "อืม...มึงก็ไม่ได้แย่นะ ก็แค่เตี้ยไปนิด อ้วนไปหน่อย ปากหมาไปสักน้อย แล้วก็..."
              "แฮม มึงแน่ใจว่านั่นคือคำว่าไม่แย่"

              ไอ้โย่งหัวเราะลั่นออกมาอีกแล้ว นี่เมฆคิดผิดสินะที่มาพูดเรื่องนี้กับมันน่ะ เสียเวลาจริง ๆ 

              "ถ้าถามกู กูก็ไม่รู้หรอก มึงต้องไปถามไอ้คนที่ชอบมึงโน่น"
              "..."
              "มึงก็คงมีอะไรโดดเด่นสำหรับมัน ถึงได้มาชอบมึงน่ะ"
       
              โดดเด่น...คนมืดมนอย่างเมฆนี่นะ

              "ไม่เคยได้ยินเหรอ ธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่พิเศษที่สุดสำหรับเราอะ"

              อืม...
              ถ้าจะใช้ทฤษฎีนี้
              ก็คงจะมีแค่ไอ้เด็กหมี่เท่านั่นแหละที่ตอบได้


































              ไม่มีคำลาจากเธอสักคำ
              ฉันยืนเหม่อมองจนเธอลับห่างไกล 
              ปล่อยให้ฉันเคว้งคว้างเหมือนคนเจียนบ้า
             ไม่มีเธอดูแลแล้วฉันจะอยู่อย่างไร

              มันเป็นอีกวันที่ร้านหมูกระทะเนืองแน่นอีกแล้ว บางทีเมฆก็คิดว่า ถ้าเกิดมีสักวันที่พวกเขาใจตรงกันขึ้นมา ไม่มีใครมากินหมูกระทะเลยสักคนมันจะเป็นยังไงนะ 

             แต่ก็พบว่ามันไม่มีหรอก ไม่มีใครจะใจตรงกันขนาดนั้น ทุกคนมีความคิดต่างกันทุกคนทุกวัน เหมือนกับที่คนทุกคนมีความชอบไม่เหมือนกันยังไงล่ะ เหมือนกับที่ไอ้เด็กหมี่นั่นชอบเขา ..

              "พี่เมฆกลับยังไงคะ กลับกับหนูไหม?" เสียงของสาวเชียร์เบียร์ดังขึ้นตามหลังตอนที่เมฆกำลังสะพายกีตาร์ขึ้นบ่า

              "ไม่เป็นไรครับ พี่นั่งวินกลับดีกว่าไม่อยากกวน"
              "เอางั้นก็ได้ค่ะ งั้นกลับบ้านดี ๆ นะคะ"

              สาวน้อยพูดอย่างนั้นก่อนจะหันหลังกลับไป มันแค่วูบเดียวที่เมฆนึกไปถึงอะไรบางอย่างเลยเอ่ยเรียกเธอเอาไว้ "เดี๋ยวก่อนแมวน้ำ!"

              มีใครฝากทาร์ตไข่ไว้รึเปล่า...

              "มีอะไรไหมคะพี่เมฆ?"

              เมฆยังคงยืนนิ่งและยังไม่ได้ถามออกไป ทำไมเขาต้องมารอทาร์ตไข่จากหมอนั่นด้วยนะ เหลวใหลจริง ๆ "ไม่มีอะไรครับ พี่แค่จะบอกว่ากลับบ้านดี ๆ นะ"

              เป็นอีกครั้งที่สาวน้อยทำมือเป็นรูปโอเคส่งมาให้ นึกไปถึงก็เลยยกมือขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองตรงนั้น มันไม่มาสิดีแล้ว คิดอะไรของเขาอยู่นะเมฆ

              นักร้องหนุ่มเดินสะพายกีตาร์ออกมายืนรอวินมอเตอร์ไซค์ที่ค่อนข้างจะหายาก ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเป็นระยะ ๆ ชะโงกดูทางอยู่เป็นหน ๆ 

              "พี่ครับของหล่น"

              ตอนนั้นเองที่เสียงนั้นดังขึ้นข้างหลัง เมฆถึงได้รีบกูลีกูจอก้มลงไปมองพื้นว่าเขาทำอะไรหล่นไป "อะไรเหรอครับ?"

              เขาถามเพราะว่ามองหายังไงก็หาไม่เจอ แล้วก็เป็นตอนนั้นนั่นเองที่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่บอกเขา เมฆถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

              "ความน่ารักของพี่ไงครับ" :)

              ไอ้เด็กหมี่!

              "ทำความน่ารักหกเรี่ยราดแบบนี้หมี่ก็แย่สิครับปุยเมฆ" 

              เมฆยังคงยืนนิ่งและมองไปที่คนตรงหน้า ไอ้เด็กมอปลายตัวสูง ๆ ก็ยังคงยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น มันเป็นเพราะเมฆไม่คิดว่าจะเจอมันแล้ววันนี้ก็เลยตกใจ ไหงกลายเป็นมาโผล่อยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้

              "มาทำไม" เขาถามมันก่อนจะหันหลังให้เหมือนไม่สนใจ ทอดสายตาออกไปมองพี่วินที่ก็ไม่ยอมมาสักที ไม่รู้ไปส่งคนถึงทวีปไหน

              "ผมก็เอาทาร์ตไข่มาให้ไงครับ" เด็กโย่งเดินอ้อมมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกแล้ว พร้อมกันนั้นก็ยื่นถุงทาร์ตไข่มาไว้ตรงหน้าด้วย "เผื่อพี่ไม่ได้กินไข่ผมแล้วจะนอนไม่หลับ"
              "ทาร์ตไข่ มึงอย่าย่อ"
              "ฮ่า ๆ"

              เพลียจริง ๆ บอกแค่นี้เลย คนอะไรยิ้มอยู่ได้

              "รถยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอครับ" บทสนทนากวน ๆ ของมันถูกเปลี่ยนไปแล้ว "ทำไมซ่อมนานขนาดนี้ล่ะ"
              "ยังไม่ได้เอาไปซ่อม รอเงินเดือนออกก่อน"
              "กู้ผมก่อนไหม ไม่ต้องใช้หนี้แต่เอาตัวพี่มาจ่ายแทน"

              เมฆหันไปง้างหมัดใส่ไอ้คนที่กำลังยืนยิ้มจนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นมาห้าม แค่เปลี่ยนหัวเทียนเขาคงไม่ต้องกู้เงินมันหรอก แต่ต่อยมันแล้วเป็นเรื่องนี่สิคงต้องกู้

              "แล้วมาทำไมดึกขนาดนี้" เมฆถามเพราะว่าไม่เห็นมันเลยตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ร้องเพลงอยู่บนนั้น

              "มองหาผมด้วยเหรอครับเนี่ย"

              แล้วก็รู้ตัวว่าพลาดแล้ว...

              "ไม่เห็นจะมอง! ก็ไม่มีใครส่งจดหมายบ้า ๆ มาก่อกวนต่างหาก"
              "ไม่ได้ไปก่อกวนครับ ไปจีบ"

              เออนั่นแหละ!

              "ผมเพิ่งเลิกเรียนน่ะ ที่ผมบอกว่ามีเรียนพิเศษไงครับ วันนี้ไปเลตก็เลยกลับช้า" ได้ยินเด็กตัวยุ่งพูดแบบนั้นเมฆก็เลยพยักหน้ารับ มีเรียนแล้วก็ยังจะถ่อมาอยู่ได้ "แต่ตอนนี้ผมหิวมากเลย ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหมครับ"

              ไม่ว่าเปล่า มันยังทำหูตกคิ้วตกเป็นลูกแมวขี้อ้อน แถมยังถือวิสาสะจับแขนเมฆไปถูกับหน้ามันอีก

              "นะครับปุยเมฆ ไปกินข้าวกับหมี่นะครับ นะ" 

              ยอมเขาเลย มันจะเคยมองตัวเองในกระจกไหมนะ เวลามันทำท่าทางแบบนี้น่ะ โคตรจะไม่เข้ากับตัวโย่ง ๆ ของมันเลยสักนิด ไม่เข้ากับแว่นเนิร์ด ๆ นั่นด้วย

              "ไปก็ไป"
              "เย้!"

              ไม่น่ารักเลยแม้แต่นิดเดียว ..





    //

              "วันนี้ร้องเพลงเพราะเหมือนเดิมเลยนะครับ"
              "รู้ตัวน่ะ"
              "น่ารักเหมือนเดิมด้วย"
              "หมี่..."

              มันเป็นรอบที่ร้อยแล้วที่เมฆถอนหายใจใส่มันแบบนี้ ก็ดูมันสิ บ่นว่าหิวแต่พอพามากินจริง ๆ กลับไม่แตะเลยสักนิด เอาแต่หยอดเขาอยู่นั่น จะไม่ให้ดุได้ยังไง

              "กินเข้าไปเร็ว ๆ นี่ดึกแล้วนะ" เมฆเอ็ดคนที่เอาแต่จ้องหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม ไม่รู้อะไรของมันนัก 

              "กินเร็ว ๆ ก็ติดคอสิครับพี่ เดี๋ยวพี่ก็เป็นหม้ายกันพอดีอะ" 

              แล้วก็นั่น เกลียดนักยิ้มแบบนั้นของมันน่ะ ยิ้มกวน ๆ ที่เพิ่มความยียวนด้วยการยักคิ้วหนึ่งที ไม่มีใครทำแล้วน่าถีบเหมือนมันอีกแล้ว

              "บอกเลยนะ พี่อะ หาแฟนที่ทั้งเด็กและฟิตแบบผมไม่ได้อีกแล้ว"
              "หาไม่ได้ก็อยู่คนเดียว ไม่เห็นยาก"
              "ยากสิครับพี่ เวลาป่วยล่ะใครจะดูแล เหงาขึ้นมาล่ะใครจะคอยกอด เนี่ย มีแฟนดี ๆ แถมโปรโมชั่นดี ๆ ขนาดนี้ หาได้จากนายหมี่คนเดียวเท่านั้นนะจะบอกให้"

              มันว่า พูดโฆษณาชวนซื้อประหนึ่งขายประกัน เมฆได้แต่ส่ายหัวเนือย ๆ เขาอยู่คนเดียวได้มาตั้งนานแล้ว ปัญหาที่มันว่ามาทั้งหมดน่ะเขาผ่านมาแล้วทั้งนั้น 

              "กินได้แล้วอย่ามัวแต่พล่ามเพ้อเจ้อ"

              ป่วยคนเดียว...
              เหงาคนเดียว...

              "เอ้อ เพลงที่พี่ร้องวันนี้เพราะดีนะครับ เพลงสุดท้ายน่ะ ผมมาทันได้ยินพอดีเลย" เด็กตรงหน้ายังคงพูดเจื้อยแจ้วหลังจากที่มันยอมตักลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก "แต่เนื้อเพลงมันเศร้า ๆ นะ ทำไมจะจากกันถึงไม่บอกลาดี ๆ ก็ไม่รู้"

              เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเด็กหนุ่มที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดา มันยังคงตั้งหน้าตั้งตากินในขณะที่ปากก็ขยับยุกยิก 

              "บางทีการจากลามันก็ยากแหละ โดยเฉพาะการบอกลา" เขาเองเข้าใจดี การจากลาที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่น่ะ 

              โคตรเจ็บปวดเลย ..

              "ไว้โตขึ้นก็จะเข้าใจเอง"

              หมายถึงในวันพรุ่งนี้...ทุก ๆ วันพรุ่งนี้เราจะโตขึ้นอย่างน้อยก็หนึ่งวัน แล้วเมื่อเราโตขึ้น เราอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ เหมือนกับที่วันนี้มันบอกว่าชอบเขา พรุ่งนี้มันก็มีโอกาสที่จะเลิกชอบ ชีวิตก็เป็นแบบนั้นเลย มีแค่นั้นจริง ๆ 

              "ผมไม่รู้ว่าโตขึ้นแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมจำเป็นต้องไปไกลจากพี่เมฆ"
              "..."
              "ขอให้พี่รู้ได้ไหมว่าผมไม่อยากทำแบบนั้นเลย"

              มันเป็นคำพูดนั้นที่ดึงเมฆให้เงยหน้าขึ้นมองคนตรงนี้ เขาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงแม้แต่ความคิดของเราเอง มันไม่เหมือนเดิมทุกวัน เปลี่ยนไปได้ทุกวัน ..

              "เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว รีบกินเร็ว ๆ เข้า" 
              "ไม่เอา อยากกินช้า ๆ จะได้อยู่กับพี่นาน ๆ"
              "แต่มันดึกแล้วนะหมี่"
              "พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ"
              "มีรายงาน"
              "ผมก็มีเหมือนกัน"

              โอเค เมฆแพ้มันก็ได้
              คนอายุเยอะกว่าถอนหายใจออกมาเบา ๆ มองเด็กตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มเยาะเขา ดูมันจะพอใจเหลือเกินที่ได้เอาชนะเมฆ เอาเถอะ วันนี้จะยกให้หนึ่งวันเพราะเป็นวันสุดสัปดาห์...เกี่ยวไหมวะเนี่ย?

              มื้อเย็นที่แสนธรรมดาแต่ยุ่งยากจบลงแล้ว เด็กหมี่แย่งกีตาร์เมฆไปสะพายซึ่งเขาเองก็เหนื่อยจะเถียงเลยปล่อยไปแบบนั้น ตอนนี้เรากำลังเดินกลับมาที่รถของมันโดยมีเมฆเดินนำพร้อมกับถุงทาร์ตไข่ของมันในมือ

              "พี่เมฆครับ" เสียงของเด็กคนเดิมดังขึ้น พร้อมกับที่มันวิ่งมาหยุดเดินอยู่ข้าง ๆ เมฆ "ขอเดินจับมือได้ไหมอะ"

              "ไม่ได้!" แทบจะทันทีเลยที่ปฏิเสธมัน พร้อมกับพาตัวเองให้ถอยห่างจากเด็กจอมเจ้าเล่ห์ออกมาอีกหนึ่งก้าว

              "ทำไมครับ แค่จับมือเอง นะ ๆ"
              "ไม่ เป็นอะไรกันมาจับมือ"
              "เป็นคนที่จีบพี่ไง"
              "แค่จีบ ไม่ใช่แฟนซะหน่อย"
              "งั้นถ้าเป็นแฟนเมื่อไหร่ก็จับมือได้ใช่ไหมครับ?"

              เมฆเอาแต่กัดปากตัวเองแน่นหลังจากได้ยินคำนั้นของมัน เขาพยายามจะก้าวให้ยาวขึ้นเพื่อหนีเด็กนี่ แต่มันก็ยังเดินตามอยู่นั่น ซ้ำยังเอาตัวเข้ามาเบียดกันอยู่ได้

              "เนี่ย อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ" 

              มันก็ยังพูดเจื้อยแจ้ว เมฆพยายามเดินเงียบ ๆ ทำเหมือนไม่สนใจมัน จนคำนั้นหลุดออกมาจากปากเด็กจอมทะเล้นนั่นแหละ ..

              "สาบานเลยว่าถ้าถึงวันนั้นอะ .. ไม่ทำแค่จับมือแน่"

              เขาถึงได้รู้คำว่าฟิวส์ขาดมันเป็นยังไง

              "ไอ้เด็กทะลึ่ง!" 

              เมฆไล่เตะมันไปทั่ว ไม่สนใจเลยว่าทาร์ตไข่ในมืออาจจะเละได้ ซึ่งไอ้เด็กแสบเองก็วิ่งหนีให้วุ่น พูดออกมาได้คำทะลึ่งแบบนั้น ตัวเองเป็นเด็กแท้ ๆ วันนี้เขาต้องเตะมันสักป้าบให้ได้เลย

              ไอ้เด็กแก่แดด!

               









    tbc.
    ฝนจะตกฟ้าจะร้อง แม่ไม่ให้เปิดคอมกะเลยต้องรีบมาอัป
    ชอบกะชวนเพื่อนมาอ่านเยอะ ๆ นะครับ
    นายหมี่จะได้มีกะละมังใจ
    ฝันดีล่วงหน้าฮะ
    lafinz

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×