'ฮัลโหล'
"ดิน วันนี้ข้าวขออนุญาตออกไปเที่ยวนะครับ"
ทำเสียงออดอ้อนใส่พี่ชายทันทีที่ปลายสายกดรับมัน ก็กะว่าจะขอแค่คุณพลทหาร แต่ลืมไปว่าอาทิตย์ไม่ได้พกมือถือ ทางเดียวที่จะได้คุยกับคุณเขาได้ก็คือรอให้โทรมาเท่านั้น
'ก็ไปขอเจ้าของบ้านสิครับ มาขอดินทำไม'
"ก็มาขอพี่ชายก่อนไง เดี๋ยวไม่บอกก็งอนอีกอะ"
'ไม่งอนหรอกครับ แต่ต้องดูแลตัวเองดี ๆ อย่ากลับดึก'
"รู้แล้วน่า" บ่นได้ป๊ามาเลยพี่ชายคนนี้
'อย่าดื้อกับพี่เขานะ รู้ไหมข้าว?'
"รู้ครับรู้ ป๊าย้ำแล้ว ม้าย้ำแล้ว อาทิตย์ก็ย้ำแล้ว ย้ำทุกคนเลยยย"
ทำเหมือนกับว่าผมซนมากเลยอย่างนั้นน่ะ ผมไม่ดื้อกับพี่เขาสักหน่อย เชื่องกว่านี้ก็ลูกแมวแล้ว
'ถ้างั้นก็ไปเที่ยวเถอะครับ กลับบ้านค่อยโทรหาดิน'
"โอเคครับ ถ้างั้นข้าววางแล้วนะ"
'ครับ'
พูดเสร็จก็กดวางสายจากพี่ชายทันที ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วสูง ตอนนี้สิบเจ็ดนาฬิกาสามสิบนาที จัดการอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยก็เลยกะว่าจะไปขออนุญาตพี่ชายเจ้าของบ้านออกไปข้างนอก สาเหตุที่ผมต้องโทรขอพี่ชายแบบนี้ก็มาจากนัดกะทันหันของพี่คนนั้นนั่นแหละ เลยพรากวันหยุดสุดสบายของผมไปเลยหนึ่งวัน แต่อีกใจก็อยากไปเหมือนกันนะ อยากเห็นโรงหนังกรุงเทพฯ ว่าจะใหญ่สักแค่ไหนเชียว
"พี่ภูมิ ไม่ออกไปไหนเหรอครับ?"
ตัดสินใจเปิดประเด็นไปแบบนี้ก่อน เผื่อพี่เขาก็จะออกข้างนอกเหมือนกัน จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องทิ้งพี่เขาให้อยู่บ้านคนเดียวนัก
"ไม่ ถามทำไม"
แต่ก็ลืมไปว่าคน ๆ นี้เป็นพวกไม่สนใจโลก...
"อ๋อ เปล่าครับ พอดีว่า...ผมจะขออนุญาตออกไปข้างนอก..."
ยังไม่ทันจบประโยคนั้น สายตาคมก็ตวัดขึ้นมามองเสียจนคนตรงนี้ขนลุกวาบ ทำไมต้องทำคิ้วขมวดขนาดนั้น
"ไปกับเพื่อนเหรอ"
"เปล่าครับ ไปกับรุ่นพี่น่ะ"
ยิ่งคำว่ารุ่นพี่ที่พูดออกไปยิ่งทำให้พี่เขาคิ้วขมวดยุ่ง ทีนี้เขาวางมือถือที่เล่นอยู่ก่อนหน้ามานั่งจ้องผมแทน แถมยังจ้องแบบไม่พูดไม่จาอีกด้วย
"เอ่อ พี่ภูมิ..."
"รุ่นพี่ที่ไหน"
"ระ...รุ่นพี่สาขาคอมฯครับ"
"ทำไมถึงไปรู้จักรุ่นพี่ที่เรียนคนละสาขา"
คำถามที่ยิงมารัว ๆ ทำให้ผมพลอยจะประหม่าไปด้วยเลย ก็ดูสายตาที่พี่เขามองมาสิ อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกันอย่างนั้น
"พอดีว่า มันบังเอิญน่ะครับ คือ...บอกไม่ถูก"
ก็เดินผ่านไปได้ยินเขาบอกเลิกกับแฟน บังเอิญเจอกันในครัวแล้วก็ดันปากมากไปพูดถึงเรื่องแฟนเก่าเขา เลยต้องรับผิดชอบด้วยการไปดูหนังเป็นเพื่อนเขา อย่างนี้น่ะนะ? เล่าไปก็พาลแต่จะพางง
"แล้วจะกลับกี่โมง"
พี่ภูมิเปลี่ยนคำถามไปแล้ว ดีที่เขาไม่ได้ติดใจอะไร แต่นั่นก็ยังถือว่าเป็นเรื่องแปลกอยู่ดีกับคนที่ไม่สนใจอะไรอย่างเขา แล้วจะมาถามผมซะหลายคำถามแบบนี้
พี่ชายแท้ ๆ ยังไม่ถามเยอะขนาดนี้เลย ..
"ก็หนังจบล่ะมั้งครับ"
ไม่มีการขานรับ มีเพียงแค่การพยักหน้ารับเล็กน้อยเท่านั้นจากเขา ตอนนั้นเองที่มีเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน ผมจึงละจากคนนี้แล้วเดินออกไป
ข้างนอกรั้วนั่นเป็นรถเก๋งสีครีมกำลังจอดนิ่งสนิทอยู่ ก่อนที่กระจกฟิล์มสีดำจะค่อย ๆ ลดระดับลงเรื่อย ๆ จนเผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นตานั่น
"พี่ !"
ก็รู้อยู่เรื่องที่เขาบอกว่าจะมารับ แค่คิดไม่ถึงว่าคนอย่างเขาจะขับรถแบบนี้...แบบว่า เขาน่าจะเหมาะกับบิ๊กไบค์ เวสป้า หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่เก๋งน่ะนะ
"ตกใจอะไรไอ้หนู?"
"เปล่าครับ แค่แปลกใจนิดหน่อย"
พี่ชายคนนั้นเดินลงจากรถมายืนอยู่ตรงหน้าผม เป็นจังหวะเดียวกันที่มีพี่ชายอีกคนเดินออกมาจากในบ้านแล้วหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่คนตัวโย่งกว่าผมทั้งสองคนจะจ้องตากันไปมา จนบรรยากาศมันเริ่มจะอึดอัด
"เอ่อ นี่พี่ภูมิ...พี่ชายผม"
ผมตัดสินใจทำลายความเงียบสงัดนั้นลงด้วยการแนะนำพี่ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ให้อีกคนรู้จัก พี่คนนั้นยกมือขึ้นมาไหว้เขา ดีที่พี่ภูมิเองก็รับไหว้เหมือนกัน
"ส่วนนี่ เอ่อ...พี่..." แย่แล้ว พี่เขาชื่ออะไรล่ะเนี่ย "พี่ชื่ออะไรอะครับ ?"
ก็คิดว่าจะไม่ต้องเจอกันอีกก็ไม่ได้สนใจถามพี่เขาเลย โอกาสที่เจอกันก็มีแต่เรื่อง ไม่มีจังหวะให้ได้ถามสักที
"ผมชื่อเสือครับ"
ประโยคนั้นพี่เขาเหมือนจะหันไปพูดกับพี่ภูมิที่ยืนจ้องอยู่ ส่วนคนตรงนี้ก็เอาแต่ยืนทำหน้านิ่ง ไม่รู้จะจ้องพี่เขาอะไรขนาดนั้น ก็รู้ว่าอาทิตย์สั่งมาแต่ก็ทำไม่รู้ไม่เห็นบ้างก็ได้มั้ง
"ถ้าอย่างนั้น ผมไปแล้วนะครับพี่ภูมิ ถ้ามันดึกเกินไปพี่กินข้าวก่อนเลยนะ มีข้าวที่ผมทำไว้ในตู้เย็น เอามาอุ่นกินนะ"
เจ้าของบ้านพยักหน้าเล็กน้อย ผมจึงก้าวเท้าออกไปจากตรงนี้ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่งนึงของรถยนต์สีครีม
รถเคลื่อนตัวออกมาไกลจนมองไม่เห็นบ้านหลังสีส้มอยู่ในกระจกแล้ว บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างแปลกนิดหน่อย ปกตินั่งแต่รถพี่ภูมินี่นา เพิ่งเคยมานั่งคันอื่นแถมคนขับยังเป็นคนที่เพิ่งเคยเจอกันแค่สองครั้งอีก
"พี่มึงดูหวงน้องนะ"
เสียงที่พูดขึ้นมานั้นทำให้ผมหันกลับไปมองเขา เจ้าของรถกำลังใช้สองมือบังคับพวงมาลัยพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากนั่น ว่าแต่พี่ภูมินี่นะ จะหวงน้อง เขาทำไปเพราะหน้าที่เถอะ
"ก็มีน้องน่ารักนี่ ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา"
พูดออกไปอย่างนั้น หวังจะแหย่คนตรงนี้เล่นเฉย ๆ พูดแล้วก็มานั่งยิ้มอยู่คนเดียว แค่คิดว่าเขาหวงตัวเองก็ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่
เป็นอะไรมากไหมข้าว...
"อืม จริง"
"ครับ?"
ผมหันไปถามคนที่อยู่ดี ๆ ก็พูดออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนนั้นเองที่มือข้างซ้ายเอื้อมมาบีบแก้มผมจนยืดย้วย
"ก็มึง .. น่ารักไง"
ก่อนจะพูดคำ ๆ นั้น ..
คนฟังนั่งนิ่งไปแล้ว อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกว่าหน้าร้อนขึ้นมา จนต้องพาสายตาหลบไปทางอื่น ก็เคยโดนชมด้วยคำนี้มานักต่อนัก ทำไมคราวนี้มาใจเต้นเอาเสียดื้อ ๆ ไม่เป็นคนแบบนี้สิต้น...
ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นอีกต่อจากนั้น จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวมาจอดหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งนึงในเวลาหกโมงกว่า ทั้งสองชีวิตก้าวลงมาจากรถคันนั้น พร้อม ๆ กับท้องฟ้าที่เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
"มึงหิวไหม?" เขาหันมาถาม
"ไม่ครับ พี่หิวเหรอ?"
"เปล่าหรอก กูเพิ่งกินมา งั้นไปดูหนังกันเลยดีกว่า"
"โอเค !"
ผมเดินดี๊ด๊าตามพี่เขาไป บรรยากาศเย็น ๆ กับท้องฟ้ายามค่ำคืนแบบนี้ยิ่งทำให้ที่ตรงนี้สวยจนละสายตาไปไหนไม่ได้ เราเดินลัดเลาะมาเรื่อย ๆ จนขึ้นมาถึงชั้นโรงหนังที่มีคนอยู่ประปราย
"มึงอยากดูเรื่องอะไรไอ้หนู?"
"ครับ? ทำไมเป็นผมเลือกอะ ชวนมาดูนี่ไม่ได้มีเรื่องที่อยากดูอยู่แล้วหรอกเหรอ?"
คนตัวโตทำท่าเลิ่กลั่กจนผมเริ่มจะตามเขาไม่ทันแล้ว ก็เขาบอกว่าให้มาดูหนังเป็นเพื่อนนี่นา ก็นึกว่าจะมีเรื่องที่เล็งไว้ก่อนแล้วเสียอีก
"เออน่า มึงก็เลือกมาเรื่องนึง กูไปซื้อป๊อบคอร์นก่อน"
สุดท้ายก็จบลงด้วยการดูหนังผีที่ผมเป็นคนเลือก ส่วนพี่เขาก็ไม่ยอมให้ผมจ่ายเงินเอง บอกว่าจะเลี้ยงทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของเขาเลย แต่ก็นั่นแหละ ของฟรีใครก็ชอบเนอะ
แอร์เย็น ๆ กับบรรยากาศรอบตัวมืด ๆ ส่งให้ที่นี่ดูน่ากลัวมาก ๆ ยิ่งเป็นหนังผีอีกด้วย ทำไมทุกสิ่งรอบตัวมันเอื้ออำนวยขนาดนี้นะ
"มึงชอบดูหนังผีเหรอ" พี่ชายที่ผมเพิ่งรู้ว่าเขาชื่อเสือพูดขึ้น หลังจากที่เราเดินเข้ามาจนถึงที่นั่งที่อยู่ตรงกลางแถว
"ไม่ชอบเลยครับ แต่มันเป็นเรื่องเดียวที่ดูมีอะไรที่สุด ถ้าเทียบกับที่เหลือ"
"แต่เท่าที่กูรู้มา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลอนที่สุดเลยนะ ตายทั้งเรื่อง"
"..."
อึ้งไปแล้ว...ตะ ตายทั้งเรื่อง...
ได้ยินเสียงใครบางคนแค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่เขา ไม่นาน เสียงอินโทรสุดสยองก็เริ่มขึ้น มาพร้อมกับภาพขาวดำชวนขนลุก
หนังเรื่องนั้นดำเนินไปเรื่อย ๆ จุดไคลแม็กซ์ก็คงเป็นตอนที่มีผีโผล่ออกมา จำไม่ได้เลยว่าผมยกมือขึ้นมาปิดตาตัวเองกี่ครั้ง หรือหลุดกรีดร้องออกมากี่หน รู้แค่ว่าทุกครั้งที่ผมทำแบบนั้น หันไปมองคนข้าง ๆ เขาก็จะขำผมตลอด
คนกลัวผีนี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ !
"เลือกดูหนังผีแต่เสือกเอามือขึ้นมาปิดตา"
"ก็คนมันกลัวนี่"
เข้าใจอารมณ์อยากดูแต่ก็กลัวไหม ก็อยากดูอะไรที่มันตื่นเต้นนี่นา แต่ความกลัวมันก็มีเหมือนกันนะ
"เอามือมานี่"
ผมชะงักค้างไปเล็กน้อย มองมือใหญ่ ๆ นั่นที่กางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับมองเจ้าของมือนั่นตาปริบ ๆ เหมือนว่าผมจะทำอะไรไม่ทันใจเขา รุ่นพี่คนนั้นเอื้อมมาคว้ามือผมไปจับไว้โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเลยด้วยซ้ำ พยายามจะชักมันกลับมาหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย จนผมต้องปล่อยให้เขาจับอยู่อย่างนั้น
"ถ้ากลัวก็บีบมือกู"
แต่มันก็ ..
"มึงจะได้รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว"
อุ่นใจดีเหมือนกันนะ ..
หนึ่งชั่วโมงนิด ๆ ผ่านไป จบไปแล้วกับหนังที่สูบพลังงานในตัวไปเยอะมาก ราวกับว่าไปวิ่งรอบสนามมาแล้วสามสิบรอบ แน่นอน หมดพลังงานท้องมันก็หิว เดินผ่านร้านไหนท้องมันก็เลยร้องจ๊อก ๆ ไม่หยุดเลยแบบนี้
"หึ หิวก็เลือกเอาสักร้าน"
โดนจับได้แบบนั้นก็เลยทำให้คนตรงนี้เริ่มลนลาน "ผมไม่ได้หิว ! ใครหิว ไม่มี้..."
ไม่มีสักอย่างที่ไม่น่ากิน ..
คนตรงหน้าแค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะเอื้อมมือมาเขกหัวผมจนดังเป๊าะ "หิวก็กินไอ้หนู กูไม่ได้จะพามาทรมานนะ กูพามาเที่ยว"
"ตะ...แต่พี่ชวนมาแค่ดูหนัง ไม่ได้ชวนมากินข้าวนี่"
พูดอย่างนั้นก่อนจะก้มหน้างุดลงไป ความจริงผมกลับไปทำกินที่บ้านก็ได้ ไม่ใช่ไม่อยากกินกับเขา แต่ต้องประหยัดเงินที่ทางบ้านส่งมาให้ใช้ ผมเขียนงบรายได้กับค่าใช้จ่ายไว้แล้ว
"มึงอย่าซื่อได้ไหม ทำเหมือนไม่เคยไปเดตกับใคร"
คำพูดตรง ๆ นั่นทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของผมอีกครั้ง ก็ไม่เคยเดตจริง ๆ นั่นแหละ จะไปคบกับใครได้ มีพี่ชายสองคนเดินขนาบข้างขนาดนั้น กว่าจะเข้ามาถึงผมอาทิตย์กับดินก็คงจะสอยไปหมด
พูดแล้วเศร้าเนอะ
"งั้นผมกินราเมงแล้วกันง่ายดี"
ตัดสินใจพูดเปลี่ยนประเด็นไปอย่างนั้น ขืนบอกพี่คนนี้ไปว่าไม่เคยเดตนี่ต้องโดนล้อแน่ ๆ คนอย่าเขานี่นะ
เราเดินเข้าร้านราเมงแถวนี้ จัดการสั่งอาหารเรียบร้อยพี่เสือคนนี้ก็นั่งจ้องผมตาเขม็ง จนคนทางนี้ต้องยกเมนูขึ้นมาบังเอาไว้ทั้งที่สั่งไปแล้ว
"มากินข้าวกับกูก็คุยกับกู" มือนั้นเอื้อมมาแย่งเมนูแผ่นนั้นไปโยนไว้ข้างตัวเขา ก่อนจะวางแขนไปบนโต๊ะแล้วกลับมาจ้องหน้ากันเหมือนเดิม
"คุยอะไรล่ะครับ กินข้าวเขาห้ามคุยนะ"
"อันนั้นเก็บเอาไว้ใช้ที่บ้านนะไอ้หนู" เขาดุ "แล้วนี่...มึงมีแฟนรึยัง"
เกิดความเงียบขึ้นระลอกใหญ่เมื่อคน ๆ นั้นวกเข้าคำถามนี้ ผมพยายามหลบสายตาเขา จนพี่พนักงานเดินมาเสิรฟอาหารนั่นแหละ ถึงได้โอกาสเบี่ยงประเด็น แต่ก็โดนพี่ชายคนนี้แย่งถ้วยไปจากตรงหน้า
"พี่ ! นั่นของผมนะ !"
"ตอบคำถาม แล้วกูจะคืนให้"
ผมนั่งมองหน้าคนที่กำลังเท้าคางมองตัวเองอยู่ตรงนี้ หมู่นี้เจอคำถามแบบนี้บ่อยจัง พี่ภูมิถามยังพอเข้าใจว่าอาทิตย์ให้มาสืบ แล้วพี่คนนี้ถามเพราะอะไรล่ะเนี่ย
"ผมยังไม่มีแฟนครับ" แต่ถึงอย่างนั้นก็เลือกจะตอบเขาไปตามความจริง ก่อนจะแย่งถ้วยราเมงของตัวเองคืนมาแล้วจัดการส่งมันเข้าปากโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองใครอีก
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำหน้ายังไง ไม่รู้ว่าเขากำลังยิ้มหรือว่าทำหน้าบึ้ง ผมไม่ได้สนใจเขาอีกเลยหลังจากนั้น จนราเมงหายไปจากชามจนหมดนั่นแหละ ถึงหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม พร้อมกับเอามือลูบท้องตัวเองผล็อย ๆ
"กั๊ดต๊องขนาด"
พี่เขาหลุดยิ้มออกมาตอนที่ผมเผลอหลุดภาษาบ้านตัวเองออกไป ก็มันอร่อยจนกินเพลินเลยนี่นา
"ภาษาเหนือเหรอ?"
"ครับ แปลว่าอิ่มมาก ๆ เลย"
พอท้องตึงแล้วก็เริ่มสดชื่นขึ้นมาหน่อย อันที่จริงก็ต้องตบท้ายด้วยของหวาน แต่แค่นี้ก็รบกวนพี่เขามากแล้ว กลับไปกินขนมที่บ้านก็แล้วกันเนอะ
ตอนนั้นเองที่กำลังก้มลงไปหยิบเงินในกระเป๋าตัวเอง แต่ดันเหลือบไปเห็นราเมงในชามของอีกคนเสียก่อน ในสภาพที่ยังอยู่เหมือนเดิมเป๊ะ ไม่พร่องไปเลยสักนิด ไม่มีแม้แต่รอยเขี่ยสักนิดเดียว
"ทำไมพี่ไม่กินล่ะครับ มันไม่อร่อยเหรอ?" ผมถามเขา
"เปล่าหรอก กูอิ่มแล้ว"
"อิ่มเหรอครับ?" แต่เขาไม่ได้กินเลยนะ !
"อืม นั่งมองมึงกินก็อิ่มแล้ว"
"..."
นั่งมองแล้วอิ่ม...พี่เขาคิดว่ามันจะเหมือนกับการเอามือแตะที่ข้อศอกคุณย่าตอนกรวดน้ำแล้วเราจะได้บุญไปด้วยรึไง...
"ถ้างั้นผมจ่าย..."
"ไม่ต้อง กูเลี้ยง" เขาพูดอย่างนั้น ยังไม่ได้ปฏิเสธอะไรด้วยซ้ำเขาก็ลากแขนผมออกไปแล้ว จนคนทางนี้ก้าวขาตามแทบจะไม่ทัน
ผมถูกลากแขนออกมาจนถึงลานจอดรถ ท้องฟ้าปูทับไปด้วยสีดำสนิท มีแสงดาวแซมมาบ้างเป็นหย่อม ๆ เพราะไฟของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ที่มีมากกว่าเลยกลบความสวยของมันไปจนหมด
"มาเที่ยวกับกูสนุกไหม"
ตอนนั้นเองที่กำลังมองท้องฟ้าของเมืองกรุงเทียบกับท้องฟ้าที่บ้าน เสียงของใครบางคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ก็ดังขึ้นมา ผมหันไปมองเขา ใบหน้าของคนที่ถามคำถามนั้นจ้องมาที่ผมราวกับรอคอยคำตอบจากคำถามนั้น
"ก็...สนุกครับ"
ความจริงก็สนุกหมดเลยถ้าได้ไปเที่ยว ยิ่งได้เที่ยวในกรุงเทพด้วยแล้ว ความน่าตื่นเต้นมันก็เพิ่มทวีคูณสอง
"อืม กูก็สนุก"
"..."
ไม่ได้หันไปมองเจ้าของเสียงนั้น ได้แต่ทอดสายมองปลายเท้าของตัวเองอยู่ตรงนี้ กับข้อมือที่โดนใครอีกคนครอบครองไว้อยู่ ถึงจะไม่ค่อยเชื่อคำที่เขาพูดสักเท่าไหร่ก็เถอะ มาเที่ยวกับผมนี่สนุกตรงไหนกัน...
มั้งสองชีวิตเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงรถคันนั้นที่ผมจำได้ แต่สายตากลับไปโฟกัสกับรถอีกคันจอดอยู่ข้างกันที่ผมจำได้แม่นกว่า
มินิคูเปอร์คันนั้น...
"นี่มันรถพี่ภูมินี่นา"
ยืนยันด้วยป้ายทะเบียน สีของรถ แล้วที่ยิ่งกว่านั้น...คนที่นอนอยู่ข้างใน
"พี่ภูมิ"
ผมชักแขนของตัวเองกลับมาจากมือใหญ่ ๆ นั่น พร้อมกับเคาะไปที่กระจกเบา ๆ มองผ่านฟิล์มสีดำเข้าไปเห็นเจ้าของมันกำลังนอนหนุนแขนตัวเองอยู่ฝั่งนี้ ก่อนที่ร่างสูง ๆ จะขยับตัวและเปิดประตูออกมาหลังจากนั้น
"พี่ภูมิมาทำอะไรครับ?"
เขาอยู่ในชุดเดิมกับชุดก่อนที่ผมจะออกมาจากบ้านเลย แต่ของสดในตู้เย็นก็ยังเหลือนี่ รถก็ล้างไปแล้ว พี่เขามาทำไมกัน ?
"มาซื้อข้าวมันไก่"
แล้วก็ได้รู้คำตอบ ..
"มาซื้อข้าวมันไก่? ตอนนี้น่ะเหรอครับ?"
"อืม"
ยกมือขึ้นมาเกาหัวหย็อย ๆ กับข้าวผมก็ทำใส่ตู้เย็นให้แล้วนี่นา แต่ก็ช่างเถอะ สงสัยจะอยากกินข้าวมันไก่ขึ้นมาล่ะมั้ง
"ถ้าอย่างนั้น ผมกลับกับพี่ภูมิเลยก็ได้ครับ พี่จะได้ไม่ต้องลำบากไปส่ง" หันกลับไปพูดกับคนที่พามา พี่เสือหันไปมองพี่ภูมิเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็พยักหน้ารับแต่โดยดี
"ถ้างั้นเจอกันที่วิทลัยนะ"
เจอกัน? นี่เรายังจะเจอกันอีกใช่ไหม?
"ครับ" แต่ก็เอาเถอะ เดี๋ยวจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ "ขับรถดี ๆ ครับ ขอบคุณมากที่พามาเที่ยว"
คนตัวสูงพอ ๆ กับพี่ภูมิพยักหน้ารับ ก่อนจะหันกลับไปที่รถของตัวเอง แล้วขับหายไปในที่สุด ทีนี้ก็เหลือแค่ตรงนี้ ผมกำลังจะหันกลับไปหาพี่ชายตัวสูง แต่เจ้าตัวเดินขึ้นรถไปแล้ว ได้แต่เดินตามเขาไปงง ๆ นั่งเล่นปลายเล็บตัวเองเงียบ ๆ ภายในมินิคูเปอร์ที่แอร์เย็นเฉียบ ไม่มีคำพูดคำใดเล็ดลอดออกมาสักคำ
คนที่เดาอารมณ์เขาไม่ถูกก็เลยทำได้แค่นั่งเงียบจนมาถึงบ้าน มินิคูเปอร์จอดนิ่งสนิท ไม่มีการแวะซื้อข้าวมันไก่เลยเหมือนที่ใครอีกคนบอกไว้ก่อนหน้า ผมเลยตั้งใจจะถามเขาเพราะกลัวว่าเขาจะลืม
"พี่ภูมิ ไม่ซื้อข้าวมันไก่...เหรอ...ครับ"
แต่เขากลับไม่สนใจที่จะหันมาฟังกันเลย ทันทีที่ก้าวลงจากรถก็เดินดุ่ม ๆ เข้าบ้าน ปล่อยให้คนถามคำถามนั้นยืนเก้ออยู่ตรงนี้คนเดียว
ไปโกรธอะไรใครมาล่ะเนี่ย ..
TBC.
เจอกันพรุ่งนี้ครับ
#ไม่ชอบหวาน
-Lafinz-
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ว่าแต่หนูจะใจเต้นกับทุกคนบ่าด้ายเน่อ
อ่านแล้ว งง เพราะคำว่าพี่ชาย นึกว่าเป็นพี่ชายจริงๆ แล้วก็งงอีกว่าทำไมมีพี่หลายคน
แล้งหลงรักพี่ชายหรอ งง ไปอีก
พออ่านจบตอนถึงเก็ทว่า ไม่ใช่พี่ที่พ่อแม่เดียวกัน