เสียงเพลงดังคลอกับลมเย็น ๆ ใต้ต้นไม้ในสวนหย่อมภายในวิท'ลัย เนื่องจากใช้หน่วยกิตเทียบโอนในรายวิชานั้นเข้ามาได้ ผมจึงไม่ต้องเข้าเรียนในรายวิชานั้นเหมือนเพื่อน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมมีเวลาว่างชิล ๆ ไปเลยสองชั่วโมง
ไนซ์ยังไม่กลับมาเรียนเลย หลังจากบอกว่าจะไปทำธุระที่ต่างจังหวัดวันนั้นนี่ก็สองวันแล้ว ผมก็เลยต้องมานั่งเหงาหงอยเศร้าสร้อยอยู่คนเดียวแบบนี้
"อ้าว น้องที่ทำชิฟฟ่อนให้กินวันนั้นนี่นา"
ผมถอดสมอลทอล์คอันเล็กออกจากหู เนื่องจากได้ยินเสียงเอ่ยทักดังขึ้นที่ด้านหลัง เมื่อหันมาดูก็พบว่าน่าจะเป็นพี่ในชมรมทำขนมมั้ง หน้าตาคุ้น ๆ อยู่แต่จำไม่ได้ ผมจึงยกมือขึ้นสวัสดีเขาตามมารยาท "สวัสดีครับพี่"
"หวัดดีจ้ะ มานั่งทำอะไรตรงนี้?" พี่สาวร่างอวบเอ่ยถามขึ้น
"พอดีเป็นรายวิชาที่เทียบโอนได้น่ะครับ ผมเลยมาหาที่นั่งเล่นคนเดียวชิล ๆ"
อันที่จริงจะบอกว่าเพื่อนไม่คบก็กะไรอยู่ เพราะผมมีเพื่อนนะ ตั้งหนึ่งคนแน่ะ
"ดีจัง ถ้าว่าง ๆ ก็ไปทำขนมได้นะ มิสพิมพ์กำลังทำขนมตาลอยู่ในครัว"
"ผมไปได้เหรอครับพี่?"
"แน่นอน งั้นพี่ไปละ ลงมาเข้าห้องน้ำ"
"ขอบคุณครับพี่ สวัสดีครับ"
ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาสิบห้านาฬิกาสามสิบนาที มีเวลาอีกชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียวกว่าพี่ภูมิจะมารับ คิดได้ดังนั้นจึงรีบสะพายเป้พร้อมกับเดินตรงดิ่งไปที่ตึกชมรมทันที
✏
วันนี้ได้ก้าวขาเข้ามาในห้องครัวของชมรมอีกครั้ง ก่อนจะวางเป้ใบใหญ่ไว้เคาท์เตอร์ พร้อมกับเดินเข้าไปหาอาจารย์ที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับถาดใบใหญ่
"มิสสวัสดีครับ"
"อ้าว สวัสดีจ้ะลูก ไม่มีเรียนเหรอ?"
"พอดี คาบนี้ว่างครับ มิสทำอะไรอยู่เหรอครับ?"
ผมเดินเข้าไปใกล้อาจารย์มากขึ้น พลางมองไปที่วัตถุดิบในถาดนั้นอย่างตื่นเต้น
"มิสกะว่าจะทำขนมตาล พอดีเย็นนี้มีประชุมแล้วมิสหมดคาบสอนพอดี"
"อ๋อ ถ้าอย่างนั้นให้ผมช่วยนะครับ เรื่องขนมนี่ผมถนัด"
"หือ? งั้นดีเลยจ้ะ รบกวนหน่อยนะ"
"ครับผม ว่าแต่มิสทำถึงขั้นตอนไหนแล้วครับ?"
"เหลือแค่ตักใส่ถ้วยแล้วก็นึ่งนี่แหละลูก"
ได้ยินอย่างนั้นผมจึงเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวมแล้วลงมือตักขนมใส่พิมพ์ทีละถ้วย ขนมตาลก็ถือว่าทำยากระดับนึง คนไทยเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทานขนมไทยกันแล้วไม่รู้ทำไมทั้งที่มันก็อร่อยมาก ๆ ผมชอบตะโก้ไส้แห้วที่สุดเลย นึกถึงภาพกะทิมัน ๆ กับแห้วกรอบ ๆ แล้วอยากกินเลยแฮะ
ไว้ว่าง ๆ ทำกินที่บ้านพี่ภูมิดีกว่า
ขนมตาลทั้งยี่สิบถ้วยถูกนำลงไปนึ่งแล้ว รอประมาณเกือบยี่สิบนาทีขนมตาลในหม้อก็จะส่งกลิ่นหอมออกมาทักทายขนจมูก ผมเดินไปยกฝาลังถึงนึ่งเพื่อจะสูดดมความหอมเข้าเต็มปอดให้มากกว่านี้ แค่กลิ่นก็ฟินมากแล้ว ส่วนเรื่องรสชาติคงไม่ต้องถามถึง ก็มิสเป็นคนปรุงนี่เนอะ
"เดี๋ยวมิสฝากหนูดูหม้อหน่อยนะลูก จะขึ้นไปเตรียมห้องประชุม เดี๋ยวมิสกลับลงมา"
"ได้ครับมิส"
ร่างผอม ๆ ของอาจารย์เดินหายไปแล้ว ส่วนผมก็ยังทำหน้าที่เป็นลูกมือคอยสอดส่องดูแลหม้อขนมตาลอยู่ตรงนี้ จนมีเสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นจากประตูทางเข้านั่นแหละ ผมถึงต้องหันไปมอง
"ทำอะไรไอ้หนู"
ผู้ชายที่พรากมื้อเช้าอันแสนโอชะของผมไปเมื่อวาน !
คนผิวเข้มที่ผมบังเอิญเจอเขาเมื่อวานที่ตึกคอมพิวเตอร์ กำลังยืนพิงขอบประตูอยู่ตรงนั้น พร้อมกับมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย คนที่ควรจะสงสัยน่ะคือผมมากกว่าไหม
ทำไมถึงต้องได้เจอเขาอีก?
"ทำขนมครับ มีตาก็ดูเอาเอง"
ไม่ถูกชะตาก็ไม่เห็นจะต้องพูดดีด้วย คนอะไรแย่งข้าวคนอื่นกินหน้าตาเฉย ผมไม่ชอบคนนี้ แล้วถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ชอบเขา เหตุผลก็เพราะว่าเขามาแย่งข้าวผมกินยังไงล่ะ !
"กูถามดี ๆ นะ หาเรื่องเหรอเรา?" เขาเอ่ยพร้อมกับเดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้ามาใกล้ ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยเผลอถอยหลังกรูด
"ไม่ใช่นะ ! ก็พี่ไม่ดูดี ๆ เองอะ...โอ๊ย !"
เสียงป้าบดังขึ้นหลังจากที่พี่ผู้ชายตรงหน้าใช้มือตบเข้าที่หัวของผมเป็นรอบที่สอง ทำให้ถึงกับรู้สึกหัวร้อนขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปส่งสายตาพิฆาตให้เขา
"ทำไมไอ้หนู? จะทำอะไรกู?" เขาพูดพร้อมกับยืนกอดอกส่งสายตากวน ๆ มาให้ เห็นแล้วอยากจะเข้าไปเปิดอัลติเมตใส่หน้า
"ผมมีชื่อ จำได้ว่าบอกพี่ไปแล้วด้วย และอีกอย่างนะ อย่ามาตบหัวผมอีก!"
ผมพูดพร้อมกับยกช้อนที่เปื้อนคราบขนมอยู่ขึ้นมาชี้หน้าเขา เห็นใบหน้ากวน ๆ นั่นแล้วหงุดหงิดจึงหันกลับมาสนใจหม้อขนมที่อยู่ตรงนี้แทน
"ทำไม ไม่ชอบให้เล่นหัว?"
เสียงพูดเจื้อยแจ้วที่ยังคงดังมาจากด้านหลังนั่นไม่ได้ทำให้ผมหันไปสนใจเขา เพราะกำลังตั้งใจยกลังขนมลงจากเตา อีกอย่างคือเบื่อมาก เมื่อไหร่พี่เขาจะไปสักทีเนี่ย?
แปะ !
ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือก เมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีบางอย่างฟาดลงมาที่บั้นท้ายแรง ๆ จนส่งเสียงดังน่าเกลียด
ทนไม่ไหวแล้วนะ !
"พี่ !" ผมหันไปถลึงตาใส่เขา แต่คนตรงหน้ากลับไม่ได้มีท่าทีรู้สึกผิดอะไรเลย ตรงข้าม เขากำลังทำหน้ายิ้มระรื่นพร้อมกับยักคิ้วกวน ๆ ส่งให้ผมหนึ่งที
"ก็บอกไม่ให้เล่นหัว ก็เล่นอย่างอื่นแล้วนี่ไง"
กวนประสาทกันชัดๆ !
"ไปเลยนะ ! ห้ามมายุ่งเลย !"
ชี้นิ้วไล่เขาไปแล้วก็พาหัวร้อน ๆ ของตัวเองกลับมาจากตรงนั้น ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะออกมาจากคนที่อยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะหาวิธีเอาหม้อลงมาจากเตาอยู่
"เดี๋ยวกูช่วย"
ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธใด ๆ ตัวสูง ๆ ของอีกคนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหม้อขนมพร้อมกับยกลงมาจากเตาแบบสบาย ๆ
"มึงทำเองเหรอ"
"เปล่าครับ แค่มาเป็นลูกมือมิสพิมพ์" คนตัวสูงพยักหน้ารับเล็กน้อย ผมจึงหันไปยกลังถึงที่เหลืออีกหนึ่งลังขึ้นบนเตา
"เดี๋ยวกูยกให้" เขาพูดพร้อมกับแย่งซึงขนมในมือผมไปถือ ก่อนจะยกขึ้นไปวางบนเตา
"ขอบคุณครับ"
เห็นว่ามีน้ำใจเลยยอมขอบคุณหรอกนะ
"มึงวางมาดไปรึเปล่า พูดเพราะทำเหี้ยไรนักหนา"
เพราะคำพูดนั้นทำให้ผมต้องหันขวับไปมองคนด้านหลังทันทีหลังจากที่เขาพูดประโยคชวนโมโหออกมาอีกครั้ง
"ผมไม่ได้วางมาด ผมก็พูดกับทุกคนแบบนี้"
คนเรานี่ยังไง พอเราพูดเพราะก็หาว่าเราวางมาด เราไม่จำเป็นต้องหยาบคายใส่ทุกคนที่เจอสักหน่อย แล้วอีกอย่างที่บ้านผมก็พูดกันมาแบบนี้ พี่ชาย ป๊า ม้า ก็พูดครับพูดค่ะใส่กันเป็นประจำอยู่แล้ว
"แล้วไอ้ขนมนี่ด้วย ผู้ชายประเภทไหนวะ ที่ต้องทำขนมหวานเป็นอะ"
นี่ก็อีกเรื่อง ทำไมผู้ชายจะทำขนมหวานไม่ได้ ในเมื่อผู้หญิงก็ยังเป็นทหารได้เลย "ผู้ชายประเภทผมนี่แหละครับ"
แต่ก็นั่นแหละครับ พูดไปก็ไลฟ์บอย เลือกที่จะเดินหนีเขามาหาลังขนมที่อยู่ด้านหลังดีกว่า ถ้วยขนมสีเหลืองฟูถูกนำมาวางตรงหน้าก่อนที่จะใช้ช้อนตักมาคำนึงแล้วส่งเข้าไปในปาก
อร่อยจนคิดถึงม้าเลย...
ตอนนั้นเองที่นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง ผมจึงหันไปถามอีกคนที่อยู่ด้านหลัง "พี่อยากชิมรึเปล่าครับ?"
คนตรงหน้าดูจะงง ๆ เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เดินมาหยิบช้อนในมือผมไป ก่อนจะทำท่าวางมันลงบนขนม
"เดี๋ยวครับ ! นั่นมัน..."
"..."
"ช้อนที่ผมใช้แล้ว...นะ"
กว่าจะพูดจบก็ไม่ทันแล้ว พี่เขาส่งขนมเข้าปากไปแล้ว แถมยังเคี้ยวตุ้ย ๆ เต็มสองแก้มอีก
"กูไม่ถือ กินต่อจากปากมึงยังได้เลย"
ไม่พูดเปล่า คนตัวโตเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับใช้สองแขนดันร่างผมให้ชนกับเคาท์เตอร์ครัว ก่อนจะเอื้อมมือมากักตัวผมไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
"จะลองไหม"
!!
ใบหน้าเข้มโน้มลงมาใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรีบหันหน้าหลบเขาแทบไม่ทัน
"ผะ...ผมกลืนไปหมดแล้ว !"
สองมือยกขึ้นผลักไหล่กว้าง ๆ นั่นเอาไว้ เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาพาร่างของตัวเองถอยห่างออกไปแล้ว ผมจึงได้โอกาสกลับมาหายใจอีกครั้ง
"หึ มึงนี่หวานฉิบหาย" แต่ก็ยังไม่วายแซวกันอีก "เขินเหรอไอ้หนู"
"เขินบ้าอะไรล่ะครับ ! "
วีนใส่เขาจบแล้วก็เดินฟึดฟัดไปหยิบกระเป๋าเป้บนโต๊ะ หวังจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ก็โดนคว้าที่แขนเอาไว้จนได้
"จะไปไหน"
"กลับบ้านสิครับ"
"เดี๋ยวกูไปส่ง"
"ไม่ต้องครับ เอาเวลาไปส่งแฟนพี่เถอะ"
กำลังจะก้าวออกไปจากห้องพ้นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องชะงักไปอีกครั้งเพราะคำพูดของตัวเอง
พี่เขาเพิ่งเลิกกับแฟน...
ผมพาร่างของตัวเองหันกลับไปหาพี่คนนั้นอีกครั้ง พอเห็นว่าเขากำลังยืนนิ่งไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย พูดอะไรออกไปเนี่ยข้าว !
"ผมขอโทษ ผมลืมไปว่า..."
คำต่อมาที่เกือบจะหลุดพูดออกไปอีกครั้งถูกกลืนลงไปในลำคอ ผมไม่ได้ต้องการจะตอกย้ำเขานะ มันหลุดปากจริง ๆ นี่นา
"ไม่เป็นไร กูก็กำลังจะลืม"
คำพูดนั้นกับสีหน้าของเขามันไม่ได้ไปทางเดียวกันเลย จนผมต้องเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้เพราะแววตาเศร้า ๆ นั่น แต่ก็โดนคนตรงนี้เขกหัวเล่นอีกครั้ง
"ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย มึงทำให้กูคิดถึงฟาง มึงต้องรับผิดชอบ"
"ครับ?"
รับผิดชอบอะไรอีกล่ะเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ก็มันพลั้งปากอะ ให้อภัยกันไปไม่ได้รึไง...ทั้งหมดนั้นก็ได้แต่คิดในใจ ที่ทำตอนนี้ก็คือยืนมองตาเขาแป๋ว รอฟังว่าเขาจะให้รับผิดชอบยังไง
"พรุ่งนี้มึงต้องไปดูหนังเป็นเพื่อนกู"
"อะไรนะครับ?"
"ไม่อะไรนะทั้งนั้นแหละ แต่มึงต้องไป"
"ตะ...แต่ผมต้องขออนุญาตพี่ชายก่อนนะ"
ต้องขอทั้งพี่ชายแท้ ๆ ทั้งพี่ชายเจ้าของบ้าน ยิ่งหมู่นี้อาทิตย์ให้พี่ภูมิจับตาดูผมเป็นพิเศษอยู่ด้วย
"ก็ขอซะ เอาเบอร์มา พรุ่งนี้กูจะไปรับที่บ้าน"
"แต่ว่า..."
"เอาเบอร์มา"
เขาพูดย้ำด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ จนผมต้องหยิบมือถือของพี่เขามากดเบอร์ตัวเองลงไปในนั้นอย่างช่วยไม่ได้
ทำไมทุกคนต้องขู่ผมด้วย
"เก่งมาก" มือใหญ่ ๆ เอื้อมมายีหัวผมอีกครั้ง ทำอย่างกับผมเป็นลูกหมา "เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรหา ส่งที่อยู่มาในไลน์ด้วย"
ไลน์...ใช่ พอเมมชื่อก็จะขึ้นไลน์ด้วยนี่นา ทำไมลืมคิดไปเลยนะ
"แต่งตัวน่ารัก ๆ นะไอ้หนู"
มือนั้นบีบแก้มผมจนมันยับยู่ยี่ ก่อนจะเดินหายไปพร้อมกับรอยยิ้มแปลก ๆ แต่ว่าตอนนี้ ใจผมมันเต้นแรงพอ ๆ กับตอนนั้นที่โดนพี่ภูมิแกล้งเลย หรือที่จริงแล้วผมอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่ภูมิอย่างที่คิดไว้กันนะ อาจจะแค่อาการใจเต้นแรงที่โดนแกล้งด้วยระยะประชิดก็เท่านั้นเอง
เฮ้อ สับสนไปหมดแล้ว...
แต่เดี๋ยวก่อนนะ เหมือนผมจะลืมอะไร ..
หม้อขนมตาล !!
TBC.
ลงเรือลำไหนกันนน
#ไม่ชอบหวาน
-Lafinz-
ไม่ขึ้นเรืออิ่พี่เสือแน่ ๆ ไม่ชอบตอนตีตูดน้องง่ะ ตอนตีหัวด้วย เอาจริงไม่ชอบพี่เสือ เพราะขึ้นเรือพี่ภูมิ 🤭
ต้นข้าวจะซึนไปไหน ใครเข้าหานี่ไม่รู้ตัวเลยโธ่ววว -*-