ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 04 : อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ
หมี่ไม่ได้เนิร์ด
⭐
04 : อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ
การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้แย่ ..
แต่มันก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้เลย
เมฆเป็นเด็กบ้านนอก ดรอปเรียนมาสองปีเพราะต้องเก็บเงินไว้ส่งน้องขึ้นมัธยม สองปีที่เอาแต่ทำงานหาเงิน สองปีที่เมฆได้ทิ้งชีวิตวัยรุ่นไปโดยสมบูรณ์แบบ ไม่เที่ยว ไม่สังสรรค์ ไม่มีสังคม ..
ใคร ๆ ก็บอกว่าเมฆโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดแบบนั้นไปเสียหมด ไม่เคยมีความคิดที่ว่าเออ เราโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ นั่นแหละ เพราะความจริงแล้วเมฆรู้ดีว่าตัวเองยังเด็กนัก .. กับหลาย ๆ เรื่องน่ะ
จนกระทั่งได้กลับมาเรียนอีกครั้ง มีเพื่อนคนแรกที่ชื่อหมูแฮม เราดรอปเรียนมาสองปีเหมือนกันแต่เหตุผลโคตรจะต่างลิบลับ หมอนั่นเป็นคนที่ทางบ้านค่อนข้างจะมีฐานะ มันโดนพ่อแม่ดัดนิสัยเพราะใช้เงินไม่คิด ถูกส่งมาเรียนช่างเพราะที่บ้านอยากให้ลองทำงาน เมฆก็ไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือโกรธดีที่ส่งมันให้มาเป็นเพื่อนเมฆ ก็ดูมันสิ
"เมฆเพื่อนรัก เสร็จแล้วเอามาให้กูดูมั่งนะเพื่อน"
ก็เป็นซะอย่างนี้
"ไม่ให้ มึงทำเองบ้างเหอะแฮม"
"กูก็จะทำเองไง แค่เอามาเป็นเรฟเฉย ๆ น่า"
เมฆส่ายหัวให้มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ บ่นมันก็ครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ปีนี้จะจบแล้วเหมือนมันยิ่งชิล ถ้าไม่ใช่คาบปฏิบัติก็ไม่เอาอะไรเลยจนเมฆเอือมระอา
"เออ กูว่าจะถามมึงตั้งแต่เช้าละ ถามตอนนี้เลยแล้วกัน" เสียงนั้นพูดขึ้นมาอีกแล้ว เมฆหันไปมองมัน เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยเพราะสงสัยว่าสิ่งที่มันอยากรู้คืออะไร "เด็กที่มาหามึงวันนั้นเป็นใคร"
แล้วก็ต้องพบว่าสิ่งที่มันสงสัยคือสิ่งนี้ ก็ไม่แปลกหรอก เคยมีคนมาหาเมฆที่ไหนล่ะ พอหมูแฮมมันเจอแบบนั้นก็เลยคาใจ แต่จะให้เขาตอบว่ายังไงล่ะ โรคจิตถามทางดีไหม
"แค่เด็กหลงมาน่ะ"
"เด็กหลง?"
"อือ"
ดูหน้ามันก็รู้แล้วว่าไม่เชื่อ ไอ้หมูแฮมเดินมาใกล้ ๆ กวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่ออะไรเมฆก็ไม่รู้เหมือนกัน
"นี่มึงไม่ได้ผันตัวไปเป็นแก๊งรีดไถเด็กใช่ไหมวะ?"
"แฮม...แต่ละอย่างที่มึงคิดนี่นะ"
"เอ้า งั้นมึงก็บอกกูมาตามตรง อย่าเล่นลิ้น"
เมฆถอนหายใจใส่มันอีกแล้ว มันจะอะไรนักแค่เด็กคนนึงน่ะ เด็กหมี่นั่นจะรู้บ้างไหมว่าเป็นต้นเหตุให้เมฆต้องมาคอยตอบคำถามไร้สาระกับเพื่อน
"ถ้ากูบอก สัญญาก่อนว่าจะไม่ตกใจ" หนุ่มตี๋ยื่นข้อเสนอกับเพื่อน ซึ่งหมูแฮมเองก็พยักหน้ารับหงึกหงัก "คือมัน..."
พอจะบอกจริง ๆ กลับสองจิตสองใจขึ้นมา เมฆไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ตกใจน่ะ
"มันบอกว่าจะจีบกู"
"ฮะ! เชี่ย!...แบบ...วอท!"
"..."
"วอทเดอะฟัค!"
นั่นไง...
"แฮม มึงบอกว่าจะไม่ตกใจ"
"อ้าวเหรอ งั้นคัทใหม่อีกรอบ"
"พอเลย!"
เมฆเก็บของใส่กระเป๋าฟึดฟัด มันเป็นเวลาเลิกคาบพอดีและวันนี้เป็นวันศุกร์ แน่นอนเมฆต้องกลับไปอาบน้ำเพื่อไปให้ถึงที่ร้านก่อนสองทุ่ม สองเท้าก้าวออกมาตามทางโดยมีหมูแฮมวิ่งตามมาติด ๆ "เมฆรอกูด้วย!"
"มึงจะตามมาทำไมเนี่ย?" เมฆหันไปถามไอ้คนที่ยืนหอบอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้ ตัวก็ใหญวิ่งแค่นี้กลับหอบเป็นหมาลิ้นห้อย เห็นแล้วอดขำไม่ได้จริง ๆ
"เดี๋ยวกูไปส่ง จะไปหาสาวแถวนั้นพอดี" มันว่า ก่อนจะเสยผมขึ้นลวก ๆ ทำเหมือนหล่ออะ
"ให้มันน้อย ๆ หน่อยนะแฮม จะสอบแล้ว"
"เออ ๆ บ่นเป็นเมียเลยมึงอะ"
"เมียพ่อง!"
ว่าแล้วก็เพ่นกบาลมันไปหนึ่งทีจนไอ้โย่งมันหูหลูบเป็นหมา คนหวังดีมันยังมาหาว่าบ่น เดี๋ยวเมฆจะปล่อยให้มันได้ลงรีเกรดคนเดียวอีกเทอม
"ไปกันเถอะจ้าเมียจ๋า"
แล้วมันก็ยังไม่จบด้วยนะ
"ไอ้แฮม เดี๋ยวมึงจะโดน" เจ้าของผมหยักลอนหันไปง้างหมัดใส่เพื่อน ซึ่งนอกจากมันจะไม่กลัวแล้วยังมายิ้มเยาะอีก อย่าให้เขาสูงขึ้นกว่านี้อีกหน่อยนะ แม่จะซัดให้หมอบเลยพวกชอบแกล้ง
//
ทั้งสองชีวิตเดินขึ้นมาจนถึงห้องนอนเก่า ๆ ของเมฆ หมูแฮมล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างที่มันชอบทำ โดยมีเจ้าของห้องที่กำลังถอดเสื้อเตรียมจะอาบน้ำเพื่อไปทำงานคืนนี้
"เออไอ้เมฆ แล้วมึงไปเจอไอ้เด็กนั่นได้ไงวะ" คนปากว่างเริ่มจะตั้งคำถามอีกแล้ว มันคงเป็นเพราะว่ามีคนพูดถึงเมฆถึงได้นึกถึงไอ้เด็กหมี่ขึ้นมา
จะว่าไปวันนี้ไม่เห็นมาดักรอแฮะ สงสัยจะติดเรียนพิเศษ .. เดี๋ยว แล้วทำไมเขาต้องไปสนใจเด็กหมี่นั่นด้วยวะเนี่ย
"มันเป็นลูกค้าที่ร้านบุฟเฟต์น่ะ" เจ้าของห้องว่าพร้อมกับถอดเสื้อสีขาวออกจากตัว โยนมันลงตะกร้าอย่างชำนาญเพราะว่าโยนมาทุกวันเกือบสองปีแล้ว
"แล้วมันมาจีบมึงได้ไง ไปปิ๊งกันอีท่าไหนวะ?"
มันเป็นคำนั้นที่ทำให้เมฆยืนนิ่ง ภาพรอยยิ้มจอมทะเล้นของมันลอยวับขึ้นมาในหัวอีกครั้ง มันมาปิ๊งเขาได้ยังไงเมฆเองก็ไม่รู้ ตัวเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยสักนิด นึกแล้วก็แค้นมัน ตัวไม่อยู่ก็ยังเอาชื่อมาทิ้งไว้ก่อกวนเขา เกิดมาเพื่อเป็นตัวป่วนจริง ๆ เลยนะไอ้หมี่ซั่ว
"มันคงไม่ได้จริงจังหรอก เดี๋ยวมันเบื่อก็คงหายไป" เมฆพูดไปอย่างที่คิด มันน่ะยังเด็ก .. เด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำว่ารักว่าชอบ แล้วเด็กน่ะมันชอบอะไรไม่ยั่งยืนหรอก ก็เหมือนของเล่นชิ้นโปรดที่พอเจอชิ้นใหม่แล้วก็โยนทิ้ง
"แล้วมันมีท่าทีว่าจะเบื่อยัง?"
คำถามของเพื่อนทำให้เมฆหยุดคิดอีกครั้ง มีท่าทีว่าจะเบื่อหรือยังเหรอ ..
"กูถามตรง ๆ นะ มันจีบมึงมานานแค่ไหนแล้ว?"
นานแค่ไหน ..
"เพิ่งจีบ มันก็มากินหมูกระทะทุกวันศุกร์ ซื้อทาร์ตไข่มาให้ แล้วก็ .. มารับไปส่งที่บ้าน ตลกดีมึงว่าป้ะ"
"ไม่ตลก"
"..."
"กูถามจริง ขนาดนั้นกูว่ามันไม่เล่นแล้วไหม"
ตอบจริง...เมฆเองก็ไม่รู้ ชีวิตนี้เคยมีผู้ชายมาตามจีบที่ไหนล่ะ ก็มีไอ้เด็กนี่แหละที่โผล่มาไม่เหมือนชาวบ้านเขา อยู่ดี ๆ ก็โพล่งมาว่าจะจีบเลย ไม่มีพิธีรีตองอะไรทั้งนั้น
"แฮม กูถามมึงจริงจังนะ" เมฆเดินไปนั่งข้างเพื่อนพร้อมกับมองหน้ามันด้วยสีหน้าจริงจังสุดขีด "กูมีตรงไหนที่ดึงดูดเพศเดียวกันเหรอ?"
คำถามของเขาถึงกับทำให้เพื่อนสนิทหลุดขำพรืด หมูแฮมพยายามกลั้นขำเอาไว้อย่างที่สุดตอนที่เมฆส่งสายตาไปมองมันอย่างอาฆาต ก่อนจะค่อย ๆ ไล่สายตาขึ้นมองกันช้า ๆ
"อืม...มึงก็ไม่ได้แย่นะ ก็แค่เตี้ยไปนิด อ้วนไปหน่อย ปากหมาไปสักน้อย แล้วก็..."
"แฮม มึงแน่ใจว่านั่นคือคำว่าไม่แย่"
ไอ้โย่งหัวเราะลั่นออกมาอีกแล้ว นี่เมฆคิดผิดสินะที่มาพูดเรื่องนี้กับมันน่ะ เสียเวลาจริง ๆ
"ถ้าถามกู กูก็ไม่รู้หรอก มึงต้องไปถามไอ้คนที่ชอบมึงโน่น"
"..."
"มึงก็คงมีอะไรโดดเด่นสำหรับมัน ถึงได้มาชอบมึงน่ะ"
โดดเด่น...คนมืดมนอย่างเมฆนี่นะ
"ไม่เคยได้ยินเหรอ ธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่พิเศษที่สุดสำหรับเราอะ"
อืม...
ถ้าจะใช้ทฤษฎีนี้
ก็คงจะมีแค่ไอ้เด็กหมี่เท่านั่นแหละที่ตอบได้
⭐
ไม่มีคำลาจากเธอสักคำ
ฉันยืนเหม่อมองจนเธอลับห่างไกล
ปล่อยให้ฉันเคว้งคว้างเหมือนคนเจียนบ้า
ไม่มีเธอดูแลแล้วฉันจะอยู่อย่างไร
มันเป็นอีกวันที่ร้านหมูกระทะเนืองแน่นอีกแล้ว บางทีเมฆก็คิดว่า ถ้าเกิดมีสักวันที่พวกเขาใจตรงกันขึ้นมา ไม่มีใครมากินหมูกระทะเลยสักคนมันจะเป็นยังไงนะ
แต่ก็พบว่ามันไม่มีหรอก ไม่มีใครจะใจตรงกันขนาดนั้น ทุกคนมีความคิดต่างกันทุกคนทุกวัน เหมือนกับที่คนทุกคนมีความชอบไม่เหมือนกันยังไงล่ะ เหมือนกับที่ไอ้เด็กหมี่นั่นชอบเขา ..
"พี่เมฆกลับยังไงคะ กลับกับหนูไหม?" เสียงของสาวเชียร์เบียร์ดังขึ้นตามหลังตอนที่เมฆกำลังสะพายกีตาร์ขึ้นบ่า
"ไม่เป็นไรครับ พี่นั่งวินกลับดีกว่าไม่อยากกวน"
"เอางั้นก็ได้ค่ะ งั้นกลับบ้านดี ๆ นะคะ"
สาวน้อยพูดอย่างนั้นก่อนจะหันหลังกลับไป มันแค่วูบเดียวที่เมฆนึกไปถึงอะไรบางอย่างเลยเอ่ยเรียกเธอเอาไว้ "เดี๋ยวก่อนแมวน้ำ!"
มีใครฝากทาร์ตไข่ไว้รึเปล่า...
"มีอะไรไหมคะพี่เมฆ?"
เมฆยังคงยืนนิ่งและยังไม่ได้ถามออกไป ทำไมเขาต้องมารอทาร์ตไข่จากหมอนั่นด้วยนะ เหลวใหลจริง ๆ "ไม่มีอะไรครับ พี่แค่จะบอกว่ากลับบ้านดี ๆ นะ"
เป็นอีกครั้งที่สาวน้อยทำมือเป็นรูปโอเคส่งมาให้ นึกไปถึงก็เลยยกมือขึ้นมาทึ้งหัวตัวเองตรงนั้น มันไม่มาสิดีแล้ว คิดอะไรของเขาอยู่นะเมฆ
นักร้องหนุ่มเดินสะพายกีตาร์ออกมายืนรอวินมอเตอร์ไซค์ที่ค่อนข้างจะหายาก ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเป็นระยะ ๆ ชะโงกดูทางอยู่เป็นหน ๆ
"พี่ครับของหล่น"
ตอนนั้นเองที่เสียงนั้นดังขึ้นข้างหลัง เมฆถึงได้รีบกูลีกูจอก้มลงไปมองพื้นว่าเขาทำอะไรหล่นไป "อะไรเหรอครับ?"
เขาถามเพราะว่ามองหายังไงก็หาไม่เจอ แล้วก็เป็นตอนนั้นนั่นเองที่เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่บอกเขา เมฆถึงกับเบิกตาโพลงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
"ความน่ารักของพี่ไงครับ" :)
ไอ้เด็กหมี่!
"ทำความน่ารักหกเรี่ยราดแบบนี้หมี่ก็แย่สิครับปุยเมฆ"
เมฆยังคงยืนนิ่งและมองไปที่คนตรงหน้า ไอ้เด็กมอปลายตัวสูง ๆ ก็ยังคงยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น มันเป็นเพราะเมฆไม่คิดว่าจะเจอมันแล้ววันนี้ก็เลยตกใจ ไหงกลายเป็นมาโผล่อยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้
"มาทำไม" เขาถามมันก่อนจะหันหลังให้เหมือนไม่สนใจ ทอดสายตาออกไปมองพี่วินที่ก็ไม่ยอมมาสักที ไม่รู้ไปส่งคนถึงทวีปไหน
"ผมก็เอาทาร์ตไข่มาให้ไงครับ" เด็กโย่งเดินอ้อมมายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกแล้ว พร้อมกันนั้นก็ยื่นถุงทาร์ตไข่มาไว้ตรงหน้าด้วย "เผื่อพี่ไม่ได้กินไข่ผมแล้วจะนอนไม่หลับ"
"ทาร์ตไข่ มึงอย่าย่อ"
"ฮ่า ๆ"
เพลียจริง ๆ บอกแค่นี้เลย คนอะไรยิ้มอยู่ได้
"รถยังซ่อมไม่เสร็จอีกเหรอครับ" บทสนทนากวน ๆ ของมันถูกเปลี่ยนไปแล้ว "ทำไมซ่อมนานขนาดนี้ล่ะ"
"ยังไม่ได้เอาไปซ่อม รอเงินเดือนออกก่อน"
"กู้ผมก่อนไหม ไม่ต้องใช้หนี้แต่เอาตัวพี่มาจ่ายแทน"
เมฆหันไปง้างหมัดใส่ไอ้คนที่กำลังยืนยิ้มจนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นมาห้าม แค่เปลี่ยนหัวเทียนเขาคงไม่ต้องกู้เงินมันหรอก แต่ต่อยมันแล้วเป็นเรื่องนี่สิคงต้องกู้
"แล้วมาทำไมดึกขนาดนี้" เมฆถามเพราะว่าไม่เห็นมันเลยตลอดเวลาสองชั่วโมงที่ร้องเพลงอยู่บนนั้น
"มองหาผมด้วยเหรอครับเนี่ย"
แล้วก็รู้ตัวว่าพลาดแล้ว...
"ไม่เห็นจะมอง! ก็ไม่มีใครส่งจดหมายบ้า ๆ มาก่อกวนต่างหาก"
"ไม่ได้ไปก่อกวนครับ ไปจีบ"
เออนั่นแหละ!
"ผมเพิ่งเลิกเรียนน่ะ ที่ผมบอกว่ามีเรียนพิเศษไงครับ วันนี้ไปเลตก็เลยกลับช้า" ได้ยินเด็กตัวยุ่งพูดแบบนั้นเมฆก็เลยพยักหน้ารับ มีเรียนแล้วก็ยังจะถ่อมาอยู่ได้ "แต่ตอนนี้ผมหิวมากเลย ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหมครับ"
ไม่ว่าเปล่า มันยังทำหูตกคิ้วตกเป็นลูกแมวขี้อ้อน แถมยังถือวิสาสะจับแขนเมฆไปถูกับหน้ามันอีก
"นะครับปุยเมฆ ไปกินข้าวกับหมี่นะครับ นะ"
ยอมเขาเลย มันจะเคยมองตัวเองในกระจกไหมนะ เวลามันทำท่าทางแบบนี้น่ะ โคตรจะไม่เข้ากับตัวโย่ง ๆ ของมันเลยสักนิด ไม่เข้ากับแว่นเนิร์ด ๆ นั่นด้วย
"ไปก็ไป"
"เย้!"
ไม่น่ารักเลยแม้แต่นิดเดียว ..
//
"วันนี้ร้องเพลงเพราะเหมือนเดิมเลยนะครับ"
"รู้ตัวน่ะ"
"น่ารักเหมือนเดิมด้วย"
"หมี่..."
มันเป็นรอบที่ร้อยแล้วที่เมฆถอนหายใจใส่มันแบบนี้ ก็ดูมันสิ บ่นว่าหิวแต่พอพามากินจริง ๆ กลับไม่แตะเลยสักนิด เอาแต่หยอดเขาอยู่นั่น จะไม่ให้ดุได้ยังไง
"กินเข้าไปเร็ว ๆ นี่ดึกแล้วนะ" เมฆเอ็ดคนที่เอาแต่จ้องหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม ไม่รู้อะไรของมันนัก
"กินเร็ว ๆ ก็ติดคอสิครับพี่ เดี๋ยวพี่ก็เป็นหม้ายกันพอดีอะ"
แล้วก็นั่น เกลียดนักยิ้มแบบนั้นของมันน่ะ ยิ้มกวน ๆ ที่เพิ่มความยียวนด้วยการยักคิ้วหนึ่งที ไม่มีใครทำแล้วน่าถีบเหมือนมันอีกแล้ว
"บอกเลยนะ พี่อะ หาแฟนที่ทั้งเด็กและฟิตแบบผมไม่ได้อีกแล้ว"
"หาไม่ได้ก็อยู่คนเดียว ไม่เห็นยาก"
"ยากสิครับพี่ เวลาป่วยล่ะใครจะดูแล เหงาขึ้นมาล่ะใครจะคอยกอด เนี่ย มีแฟนดี ๆ แถมโปรโมชั่นดี ๆ ขนาดนี้ หาได้จากนายหมี่คนเดียวเท่านั้นนะจะบอกให้"
มันว่า พูดโฆษณาชวนซื้อประหนึ่งขายประกัน เมฆได้แต่ส่ายหัวเนือย ๆ เขาอยู่คนเดียวได้มาตั้งนานแล้ว ปัญหาที่มันว่ามาทั้งหมดน่ะเขาผ่านมาแล้วทั้งนั้น
"กินได้แล้วอย่ามัวแต่พล่ามเพ้อเจ้อ"
ป่วยคนเดียว...
เหงาคนเดียว...
"เอ้อ เพลงที่พี่ร้องวันนี้เพราะดีนะครับ เพลงสุดท้ายน่ะ ผมมาทันได้ยินพอดีเลย" เด็กตรงหน้ายังคงพูดเจื้อยแจ้วหลังจากที่มันยอมตักลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก "แต่เนื้อเพลงมันเศร้า ๆ นะ ทำไมจะจากกันถึงไม่บอกลาดี ๆ ก็ไม่รู้"
เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเด็กหนุ่มที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดา มันยังคงตั้งหน้าตั้งตากินในขณะที่ปากก็ขยับยุกยิก
"บางทีการจากลามันก็ยากแหละ โดยเฉพาะการบอกลา" เขาเองเข้าใจดี การจากลาที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่น่ะ
โคตรเจ็บปวดเลย ..
"ไว้โตขึ้นก็จะเข้าใจเอง"
หมายถึงในวันพรุ่งนี้...ทุก ๆ วันพรุ่งนี้เราจะโตขึ้นอย่างน้อยก็หนึ่งวัน แล้วเมื่อเราโตขึ้น เราอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ เหมือนกับที่วันนี้มันบอกว่าชอบเขา พรุ่งนี้มันก็มีโอกาสที่จะเลิกชอบ ชีวิตก็เป็นแบบนั้นเลย มีแค่นั้นจริง ๆ
"ผมไม่รู้ว่าโตขึ้นแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมจำเป็นต้องไปไกลจากพี่เมฆ"
"..."
"ขอให้พี่รู้ได้ไหมว่าผมไม่อยากทำแบบนั้นเลย"
มันเป็นคำพูดนั้นที่ดึงเมฆให้เงยหน้าขึ้นมองคนตรงนี้ เขาแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงแม้แต่ความคิดของเราเอง มันไม่เหมือนเดิมทุกวัน เปลี่ยนไปได้ทุกวัน ..
"เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว รีบกินเร็ว ๆ เข้า"
"ไม่เอา อยากกินช้า ๆ จะได้อยู่กับพี่นาน ๆ"
"แต่มันดึกแล้วนะหมี่"
"พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ"
"มีรายงาน"
"ผมก็มีเหมือนกัน"
โอเค เมฆแพ้มันก็ได้
คนอายุเยอะกว่าถอนหายใจออกมาเบา ๆ มองเด็กตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มเยาะเขา ดูมันจะพอใจเหลือเกินที่ได้เอาชนะเมฆ เอาเถอะ วันนี้จะยกให้หนึ่งวันเพราะเป็นวันสุดสัปดาห์...เกี่ยวไหมวะเนี่ย?
มื้อเย็นที่แสนธรรมดาแต่ยุ่งยากจบลงแล้ว เด็กหมี่แย่งกีตาร์เมฆไปสะพายซึ่งเขาเองก็เหนื่อยจะเถียงเลยปล่อยไปแบบนั้น ตอนนี้เรากำลังเดินกลับมาที่รถของมันโดยมีเมฆเดินนำพร้อมกับถุงทาร์ตไข่ของมันในมือ
"พี่เมฆครับ" เสียงของเด็กคนเดิมดังขึ้น พร้อมกับที่มันวิ่งมาหยุดเดินอยู่ข้าง ๆ เมฆ "ขอเดินจับมือได้ไหมอะ"
"ไม่ได้!" แทบจะทันทีเลยที่ปฏิเสธมัน พร้อมกับพาตัวเองให้ถอยห่างจากเด็กจอมเจ้าเล่ห์ออกมาอีกหนึ่งก้าว
"ทำไมครับ แค่จับมือเอง นะ ๆ"
"ไม่ เป็นอะไรกันมาจับมือ"
"เป็นคนที่จีบพี่ไง"
"แค่จีบ ไม่ใช่แฟนซะหน่อย"
"งั้นถ้าเป็นแฟนเมื่อไหร่ก็จับมือได้ใช่ไหมครับ?"
เมฆเอาแต่กัดปากตัวเองแน่นหลังจากได้ยินคำนั้นของมัน เขาพยายามจะก้าวให้ยาวขึ้นเพื่อหนีเด็กนี่ แต่มันก็ยังเดินตามอยู่นั่น ซ้ำยังเอาตัวเข้ามาเบียดกันอยู่ได้
"เนี่ย อยากเป็นแฟนพี่พรุ่งนี้เลยรู้ป้ะ"
มันก็ยังพูดเจื้อยแจ้ว เมฆพยายามเดินเงียบ ๆ ทำเหมือนไม่สนใจมัน จนคำนั้นหลุดออกมาจากปากเด็กจอมทะเล้นนั่นแหละ ..
"สาบานเลยว่าถ้าถึงวันนั้นอะ .. ไม่ทำแค่จับมือแน่"
เขาถึงได้รู้คำว่าฟิวส์ขาดมันเป็นยังไง
"ไอ้เด็กทะลึ่ง!"
เมฆไล่เตะมันไปทั่ว ไม่สนใจเลยว่าทาร์ตไข่ในมืออาจจะเละได้ ซึ่งไอ้เด็กแสบเองก็วิ่งหนีให้วุ่น พูดออกมาได้คำทะลึ่งแบบนั้น ตัวเองเป็นเด็กแท้ ๆ วันนี้เขาต้องเตะมันสักป้าบให้ได้เลย
ไอ้เด็กแก่แดด!
tbc.
ฝนจะตกฟ้าจะร้อง แม่ไม่ให้เปิดคอมกะเลยต้องรีบมาอัป
ชอบกะชวนเพื่อนมาอ่านเยอะ ๆ นะครับ
นายหมี่จะได้มีกะละมังใจ
ฝันดีล่วงหน้าฮะ
lafinz
☁
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น