ตำนานกรีก-โรมัน

ลำดับตอนที่ #3 : เทพโปไซดอน

    

      โปไซดอน มีชื่อในภาษาโรมันว่า เนปจูน เป็นลูกชายของโครนัสและเป็นพี่ชายของมหาเทพ
ซีอุส     หลังจากที่บัลลังก์แห่งเทพเจ้าเป็นของมหาเทพซีอุส  โปไซดอนก็ได้รับอำนาจให้ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแม่นำทั้งปวง จึงได้ถูกขนานนามว่าเจ้าสมุทรโปไซดอน    
    ซึ่งอำนาจนี้ถูกแบ่งมาจากโอเชียนัส หนึ่งในคณะเทพไตตัน ซึ่งยอมเข้ากับมหาเทพซีอุสโดยไม่มีการขัดข้องเหมือนคณะไตตันคนอื่น  จึงมีอำนาจปกครองเพียงส่วนมหาสมุทรรอบนอกเท่านั้น
  ถ้าวันไหนที่รถทองคำของเจ้าสมุทรโปไซดอนขึ้นมาเหนือนำ เมื่อนั้นท้องทะเลจะสงบ ผิวนำจะตึง
เหมือนผิวหนังที่คนวัยทองต้องการ
   แต่ถ้าวันไหนพิโรธละก็ เฮอะๆๆๆ   ส้อมพรวนต่อท่อพีพีซีจะแกว่งไปมา เรียกผิดต้องเรียกว่าตรีศูล
ซึ่งจะว่าไปก็เหมือนกับของหนุมาน เพียงแต่ต่อท่อให้ยาว ซึ่งเป็นอาวุธประจำกาย
     วันหนึ่งเจ้าพ่อแห่งท้องทะเลหงุดหงิดใจ คิดจะทำการรัฐประหารกับรัฐบาลแห่งทวยเทพ แต่เรื่องก็รู้ถึงมหาเทพซีอุสซะก่อน
    จึงโดนเนรเทศมายังโลกมนุษย์โดยทำงานสร้างกำแพงเมืองทรอยซึ่งมีท้าวเลือมมิดอนปกครองอยู่ซึ่งท้าวเธอสัญญาว่าจะให้ค่าตอบแทนอย่างงาม
   แต่เมื่อเทพโปไซดอนสร้างกำแพงเมืองเสร็จ ท้าวเลือมมิดอนกลับบิดพลิ้วเหมือนลูกหนี้ที่ไม่รักษา
สัญญา
    ป๋าโปไซดอนก็พิโรธเอางานนี้ส่งสัตว์ประหลาดขึ้นมากินชาวเมืองทรอยเป็นจำนวนมาก  เหล่าชาวเมืองทรอย ก็เซ่นทรวงเทพเจ้าเพื่อถามถึงทางแก้  โดยทางแก้คือให้สัตว์ประหลาดกินสาวพรหม
จารี 1 คน แล้วมันจะไม่อาละวาดไป 1 ปี   ทำเช่นนี้กันทุกปีจนกระทั่งหญิงสาวทุกคนรีบมีสามี  

    หากแต่สุดท้ายกรรมก็สนองท้าวเลือมมิดอนทั้งกรุงทรอยเหลือเพียงนางฮีไซโอนีธิดาของท้าวเธอเท่านั้นที่เป็นสาวพรหมจารี ท้าวเลือมมิดอนจึงป่าวประกาศหาผู้ที่จะปราบสัตว์ร้าย โดยมีนางฮี-ไวโอนีเป็นรางวัล
     และผู้กล้าผู้นั้นก็คือ เฮอร์คิวลิส วีรบุรุษจอมพลังที่ได้ล้มสัตว์ร้าย  ซึ่งสร้างความยินดีแก่ชาวทรอยเป็นอย่างมาก 
     หากแต่ท้าวเธอกลับไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ ทำเอาเฮอร์คิวลิสโกรธแค้น แต่ต้องเก็บไว้เพราะยังทำภารกิจยังไม่เสร็จจึงเก็บความแค้นไว้แล้วออกจากเมืองทรอยไป
    นับตั้งแต่วันนั้นป๋าโปไซดอนก็ไม่ส่งสัตว์ประหลาดมาอีก  แล้วกลับไปเป็นเจ้าสมุทรตามเดิม


ยังไม่จบค่ะ