ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE FORBIDDEN GARDEN++//[YuRI]\\++

    ลำดับตอนที่ #8 : พายุลูกเล็ก...เข้าใจผิด...

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 50




    ผ่านมาจนเกือบเย็นหลังจากที่ร่างบางกลับมาถึงบ้านได้สักพัก  ผู้เป็นบิดาก็กลับมาถึงบ้านเช่นกันและพ่วงแขกที่ดารินไม่ชอบใจเลยมาด้วย

                ...ธานิน....

                เอ้า  มาทางนี้ก่อนสิ ปุรินทร์เดินกอดคอหลานชายที่เค้าหมายจะให้มาเป็นคู่ของลูกสาวมาที่ห้องรับแขก  รอจนสาวใช้เสิร์ฟน้ำเสร็จจึงเอ่ยถามออกไป

                มีเรื่องอะไรจะปรึกษาลุงเหรอ?

                ธานินมองหน้าเพื่อนสนิทของพ่อผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเขาและว่าที่พ่อตาในอนาคต แล้วกล่าวออกมาเสียงแผ่ว

                เรื่องของ..น้องรินน่ะครับ...

                หืมม์?

                ธานินนิ่งไปอย่างใช้ความคิด  วันนี้เขาไปหาปุรินทร์ที่โรงแรมแล้วตามกลับมาที่บ้านเพราะต้องการจะปรึกษาเรื่องของดาริน...ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่รบกวนจิตใจของเขาได้  คู่หมายของเขาที่ไม่ค่อยสนใจเขาสักเท่าไร...เธอวางตัวกับเขาอย่างที่เขาไม่อาจจะเข้าถึงเธอได้  แม้เขาจะรักเธอแบบนั้นและแสดงออกสักเท่าไร  แต่ดารินก็แสดงชัดว่าคิดกับเขาแค่พี่ชายเท่านั้น..ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งถอยหนี  เมื่อก่อนยังไม่เท่าไร  เขายังมั่นใจว่าจะเอาชนะใจเธอได้  แต่มาบัดนี้อะไรบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกว่า...จะเฉยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

                เมื่อเข้าทางเจ้าตัวไม่ได้  ก็ต้องเข้าทางผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าเธอ....

                ดูน้องรินแปลกๆไปน่ะครับ  เมื่อก่อนผมชวนไปข้างนอกยังไปกับผมบ้าง  แต่มาระยะหลังน้องรินเย็นชากับผมเหลือเกินครับ ธานินทำสีหน้าให้น่าสงสาร เหมือนน้องรินตีตัวออกห่างผมยังไงไม่ทราบ...

                คิดไปเองรึเปล่า  ฉันก็เห็นเขาปกติดี ปุรินทร์พยายามปลอบ  แต่ธานินส่ายหน้า

                ไม่นะครับ...คุณลุงครับ  บอกผมตามตรงนะครับ  น้องรินมีใครอื่นรึเปล่า  ยังไงถึงผมจะรักเธอแต่ถ้าน้องรินไม่มีเยื่อใยกับผม  ผมก็ไม่อยากบังคับใจเธอนะครับ...

                ธานินพูดสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคิด  เขาต้องแสดงให้น่าสงสาร  เพราะถึงจะได้เป็นคู่หมายแต่บุคคลตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่รักลูกสาวมากช่นกัน  หากแสดงความเป็นเจ้าของมากไปจนน่าเกลียดเขาก็อาจจะไม่ได้ครอง....

                ไม่มีหรอกน่า...ถ้ามีลุงก็ต้องรู้สิ  ยัยรินก็เป็นแบบนั้น  ไม่ค่อยชอบแสดงออกสักเท่าไร  เอายังงี้สิ ปุรินทร์ตบบ่าหลานชาย เห็นเมื่อกี้เขารายงานว่ายัยรินกลับมาแล้ว  ต้นก็ชวนน้องออกไปข้างนอกสิเดี๋ยวลุงจะช่วยพูดให้รับรองยัยรินไม่ปฏิเสธหรอก

                ธานินยิ้มอย่างขอบคุณ...นั่นไง....

     

                ในระหว่างนั้นร่างสูงก็ก้าวเข้ามาในร้านที่นัดหมายไว้กับศศิกานดา  ร่างสูงมองหาเพื่อนสาว  แล้วก็พบร่างโปร่งนั่งอยู่ในมุมประจำ  ซุยก้าวเร็วๆตรงไปหาทันที

                รอนานมั้ย ส่งเสียงทักออกไป  ศศิกานดาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พลางส่ายหน้า

                ไม่หรอก ฉันเองก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน

                ซุยนั่งลงแล้วสั่งอาหารของตัวเอง  บรรยากาศตอนนี้เริ่มอึดอัด....ไม่มีใครพูดอะไร  บริกรนำอาหารของซุยมาเสิร์ฟ เดินจากไป  ซุยเริ่มลงมือทานอาหาร  การกระทำทั้งหมดก็ยังอยู่ภายใต้ความเงียบ  ศศิกานดานั่งเขี่ยอาหารในจานตัวเองไปมา  และจนกระทั่งทนไม่ไหวแล้ว....

                ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ...

                ซุยเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม  แต่ก็ยังเงียบ

                ฉันรู้นะว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา  เธอตั้งใจหลบหน้าฉัน

                เปล่า... ซุยปฏิเสธเสียงเบา  หลบสายตาของเพื่อนสาวที่จ้องมองมา....วันนี้จริงๆก็ตั้งใจจะมาบอกศศิเรื่องที่เราคบกันแล้วไม่ใช่รึไง...แล้วทำไมพอเห็นหน้า  มันถึงพูดไม่ออก?

                ซุยอาจจะมองศศิกานดาด้วยความรู้สึกผิด ที่ผิดคำพูด  แต่ศศิกานดามองคนตรงหน้าในอีกความรู้สึก

    ...เจ็บปวด

                คืนนั้น...เธอรู้...ทั้งสองคนหายไปด้วยกัน  แล้วนับจากวันนั้น  ซุยก็เริ่มหลบหน้าเธอ  ศศิกานดาพยายามดักพบซุยหลายครั้ง  แต่เหมือนร่างสูงจะรู้แล้วพยายามหลบ.... 

                .....เธอรู้บ้างมั้ยว่าตอนที่เธอหันหน้าหนีแล้วเดินไปจากฉัน...มันเจ็บปวดแค่ไหน...แต่มันก็แสดงออกอะไรมากไม่ได้  เพราะ....กลัวเธอจะรู้

                แล้วเราก็จะไม่อาจเหมือนเดิมได้อีก......

     

                และ...ดูจากสายตาของเธอในตอนนี้  ฉันรู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม...มันเหมือนคนที่กำลังมีความรัก....แต่ภาพที่ฉายชัดอยู่ในใจเธอมันไม่ใช่ฉัน  แล้วทำไม...ฉันต้องมารับรู้ด้วยว่าคนๆนั้นเป็นใคร  ฉันอาจจะเห็นแก่ตัวที่ห้ามใจของเธอเพื่อใจของตัวเอง  แต่ในวันนี้  เมื่อมันห้ามไม่สำเร็จแล้ว ฉันก็คง...เห็นจากแววตาของเธอในวันนี้...ฉันคงไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามเธอแล้วใช่ไหม?

                ศศิกานดายิ้มอย่างสมเพชตัวเอง....ก่อนเอ่ยประโยคต่อไป  ที่รู้ดีว่ามันจะทำให้ตัวเองเจ็บปวด

                อย่าโกหกกันเลยซุย...ฉันยังรู้ด้วยว่าซุยหลบหน้าฉันเพราะอะไร สีหน้าร่างสูงฉายแววตกใจ ศศิกานดายังพูดต่อไปเรื่อยๆ  ให้มันทิ่มแทงใจตัวเองอย่างนั้น ในเมื่อซุยเลือกแล้ว  ฉันก็คงห้ามอะไรเธออีกไม่ได้  แต่ตอนนี้...ฉันแค่อยากฟังจากปากของซุยเท่านั้น...

                ...อย่านะน้ำตา...อย่าเพิ่งไหล...

                ศศิ...ฉันขอโทษจริงๆ  เรารู้ดีว่ามันจะเป็นอนาคตที่ลำบาก  ฉันขอบคุณศศิมากนะ...ที่คอยเตือนและเป็นห่วงฉัน

                ...อย่าขอบคุณฉันเลย  ฉันก็แค่ทำเพื่อตัวเอง...

                ตอนนี้ฉันกับน้องริน....เราคบกันแล้ว...

                ประโยคสุดท้ายที่ตอกย้ำและซ้ำเติมจิตใจ....

                น้ำตาที่พยายามห้ามแล้ว..ก็ไหลออกมา....

     

                ดารินนั่งเงียบมาตลอดตั้งแต่ธานินขับรถออกมาจากคฤหาสน์วิริยะไพศาล  สีหน้าแววตา...ขุ่นข้องขัดใจ...

                รินไม่ไปค่ะ  ขอโทษนะคะ  พรุ่งนี้รินมีการบ้านต้องส่งเยอะ  คงต้องรีบทำ

                นั่นคือประโยคที่หล่อนปฏิเสธเค้าอย่างสุภาพ  เมื่อเขากล่าวชวนหล่อนให้ออกมาข้างนอกด้วยกัน  เป็นอย่างที่เค้าคาดไว้...แต่ปุรินทร์ก็ทำตามคำพูดที่ลั่นวาจาไว้เช่นกัน

                การบ้านอะไรกันลูก  พ่อเห็นลูกตั้งหน้าตั้งตาทำจนเสร็จเมื่อคืนแล้วไม่ใช่เหรอ

                เอ่อ... ดารินอึกอัก

                อย่าไปบังคับน้องรินเลยครับ ธานินตีสีหน้าให้น่าสงสาร  ดารินชำเลืองมองก่อนลอบหันไปทำหน้าหน่ายๆโดยไม่ให้ชายหนุ่มกับบิดารู้ตัว...ผู้ชายอะไรตีสีหน้าเก่งชะมัด....

                แต่ปุรินทร์ติดกับ นั่นไง  พี่เค้างอนแล้วเห็นมั้ย  เอาน่าไปกับพี่เค้าหน่อย  เราไม่ได้ออกไปไหนกับพี่เค้านานแล้วนา ....

                แล้วดารินก็เจอการคะยั้นคะยอแกมบังคับจากบิดา  จนต้องออกมาด้วยในที่สุด  สีหน้าธอจึงไม่ค่อยดีนัก  แต่ธานินไม่ยอมแพ้หรอก....ยังไงก็ต้องทำให้เธอเลิกทำหน้าแบบนั้นให้ได้  คอยดู...

                น้องรินอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษรึเปล่าจ๊ะ  เราไปทานอาหารญี่ปุ่นกันมั้ย  น้องรินชอบนี่นา ธานินกล่าวชวน  ดารินไม่อยากจะตอบ  แต่แล้วหน้าหวานก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

                วันนี้รินไม่อยากทานอาหารญี่ปุ่นหรอกค่ะ แต่ขอให้รินป็นคนเลือกร้านได้ไหมคะ

                ได้สิจ๊ะ ธานินกระหยิ่มในใจ  นั่นไง  จะทนหน้าบึงตึงได้ซักเท่าไรเชียว..

                งั้น... ดารินทำท่าคิด ก่อนจะชี้ไปที่ร้านที่หมายตาไว้ เอาร้านนั้น

                ร้านที่ดารินชี้ไปอาจจะเป็นร้านธรรมดาๆสำหรับคนอื่น  แต่มันเป็นร้านที่ บ้านๆและ ไม่เหมาะกับคนระดับเค้า  สำหรับธานิน

                ธานินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ในที่สุดก็ต้องตอบรับแบบอ่อยๆ ก็ได้จ้ะ...

                ถึงคราวดารินยิ้มเยาะในใจบ้าง....จะทนได้ซักกี่น้ำกัน...

                อาจจะเป็นความบังเอิญที่แสนร้ายกาจหรือโชตชะตาที่ชอบเล่นตลก  แต่คนอีกคู่ก็กำลังนั่งอยู่ในร้านนั้นเช่นกัน

                ธานินขับรถเข้าไปในร้านนั้น

     

                ในตอนนี้น้ำตาไหลรินบนแก้มของศิกานดาอย่างห้ามไม่อยู่จริงๆ  ถ้าซุยจะเฉลียวใจคิดบ้าง  ป่านนี้ก็คงจะรู้แล้วว่าเธอร้องไห้ทำไม  แต่ร่างสูงไม่คิดว่าเธอจะคิดแบบนั้นกับตนกระมังจึงเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้  พลางกล่าว

                ฉัน....ศศิไม่ต้องร้องไห้  ไม่ต้องห่วงน้องริน...ฉันสัญญาว่าจะดูแลลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของศศิให้ดีที่สุด

                ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนตอกย้ำ  ศศิกานดายิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม  ซุยทำอะไรไม่ถูก  ได้แต่กอดปลอบเพื่อนสาวเอาไว้  ศศิกานดาซบหน้าลงกับอกอุ่นปล่อยความรู้สึกทั้งมวลออกมา...สุดท้าย...ครั้งสุดท้าย  ขอซึมซับความอบอุ่นนี้ไว้   แล้วเธอจะยิ้มให้กับใครก็ตามที่คนๆนี้รัก  แม้จะไม่ใช่เธอ...ก็ตาม

                เรื่องในวันนี้คงจะจบลงด้วยดีแล้วถ้าหากร่างบางจะไม่ก้าวเข้ามาในร้านแล้วเห็น....

                เห็นสิ...แม้จะเป็นมุมที่ลับตาคนพอสมควร  แต่ถ้าเป็นคนที่ใจคิดถึงทุกเวลาแม้อยู่ในมุมอับแค่ไหนก็ต้องเห็น  ดารินมองภาพนั้นอย่างตกตะลึงพอๆกับอีกคนที่มองสบตากันพอดี

                ...น้องริน...ทำไมถึง...แต่ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น  ธานินก็เดินตามเข้ามาแล้วโอบไหล่บางให้เดินเคียงข้างกัน

                ซุยตะลึงอีกระลอก....

                ดารินเองก็ตกใจไม่คิดว่าธานินจะทำแบบนี้  ร่างบางขืนตัวไว้  สายตายังไม่ละไปจากซุย  ทำให้ธานินต้องมองตาม

                ศศิกานดาเองเห็นซุยนิ่งไป  สายตาจับจ้องอยู่กับอะไรบางอย่าง  ก็ผละออกจากอกซุยแล้วหันไปมองตามเช่นกัน

                หัวใจสี่ดวงกับความรู้สึกสับสนที่ต่างกันไป....มีแต่คำถามว่า ทำไมเท่านั้นที่ตรงกัน

                ไม่มีใครสามารถขยับตัวได้...เพราะหัวใจขัดข้อง  ไม่สามารถสั่งการได้อีกแล้ว.....

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ++++++++++++++++++++++++++++++++

    +++++++++++++++++++++++

    +++++++++++++++

    ++++++++

    +++

    +

    เย้  อัพแร้ว  ขอโทษที่แอบดอง

    เม้นกันด้วยนะ

    มันคือกำลังใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×