ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE FORBIDDEN GARDEN++//[YuRI]\\++

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบกัน...ของเรา

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 49


     

    เมื่อได้รู้ความจริงบางอย่าง..มันยากที่จะทำใจยอมรับ

    แต่การไม่ยอมรับความจริง   มันแย่ยิ่งกว่า..ใช่มั้ย?

               

    ดารินเร่งฝีเท้ากระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินเสียงที่เธอวิ่งตามมาดังอยู่ใกล้ๆ  เธอไกลออกมาจากรีสอร์ทพอสมควร เหลียวกลับไปมองด้านหลังเธอลังเลว่าจะไปต่อดีหรือไม่ แล้วก็ตัดสินใจก้าวเดินต่อ

                    เสียงไวโอลินหวานดังกังวานอยู่แว่วๆ ดารินเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจเพื่อจับทิศที่มาของเสียง บริเวณนี้...ดารินนึกแปลกใจ  เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทั้งๆที่เธอเองก็คุ้นเคยกับที่นี่มาก เพราะ...พ่อของเธอเป็นเจ้าของที่นี่  ปุรินทร์  วิริยะไพศาล เจ้าพ่อธุรกิจโรงแรมของประเทศไทย มีลูกสาวคนเดียวคือเธอนี่แหละ  ส่วนคุณแม่...เสียไปตั้งแต่เมื่อเธอยังเด็กๆ

                    ในที่สุดเสียงนั้นก็พาเธอมาพบกับบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง สร้างด้วยปูนทาสีขาว หลังคาสีแดงมีไม้กระถางเล็กๆประดับประดาดู กระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักราวกับบ้านในนิทาน

                    ไวโอลินยังคงบรรเลงเพลงเนิบช้า หวานซึ้งต่อไป ดารินยืนนิ่งราวต้องมนต์อยู่หน้าประตู เธอรู้ดีว่าไม่ควรจะเข้าไป  ดารินตัดสินใจนั่งลงข้างประตูเอาหลังพิงฝาหลับตาพริ้มฟังเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่อย่างมีความสุข เพลงแล้วเพลงเล่า ดารินเคลิ้มจนเผลอหลับไป

                    จนเวลาผ่านไปนานเท่าใด...เธอก็ไม่รู้  ดารินได้ยินเสียงนุ่ม กังวานดังปลุกเธอว่า

                    คุณ...คุณ ตื่นเถอะเย็นแล้ว

                    ดารินจึงค่อยๆลืมตาหรี่ปรือของเธอขึ้น ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือ...

                    ดงตายาวรีดำเข้มที่มองมามีแววอ่อนโยน คิ้วดำราวถ่านบัดนี้ขมวดเข้าหากันอย่างฉงน  ริมฝีปากสีจัดที่ตัดกับผิวขาวจัดเม้มจนเกือบจะเป็นเส้นตรง...สันจมูกโด่งตรงทำให้เค้าหน้านั้นเข้มขึ้น   เธอเห็นทั้งความจริงจังและแววอ่อนโยนบนใบหน้านั้น

                ....และรู้สึกถึงใจที่เต้นระรัวของตัวเอง

                    เป็นอะไรไป? ไม่สบายหรือเปล่าถึงมานั่งตรงนี้ เสียงนั้นถามมาอย่างเป็นห่วง ดารินกระพริบตาปริบๆก่อนจะลุกพรวดขึ้น

                    ..ตายแล้ว! นี่เธอเผลอหลับตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย...

                    ดารินสะบัดหน้าอย่างงงๆ  ร่างนั้นลุกขึ้นยืนบ้างเธอจึงเห็นว่า เขา...น่าจะเป็น เขา... สูงกว่าเธอมากทีเดียว

                    เป็นอะไรหรือเปล่า ร่างสูงถามมาอีกอย่างกังวล

                    เอ่อ...ขอโทษค่ะ  ฉันไม่เป็นอะไร ดารินตอบอึกอัก

    ร่างสูงพยักหน้ารับแต่ยังไม่คลายแววกังวลในสีหน้า  เขาวางไวโอลินพิงกับผนังบ้านแล้วหันมาทางเธอ

    คุณขึ้นมาบนนี้ได้ยังไง แล้ว... ร่างสูงจ้องเธอ มาคนเดียว?

    ดารินพยักหน้ารับ ฉัน...เดินตามเสียงไวโอลินมา

    ใบหน้าคมสันนั้นมีแววตกใจ  ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดุ

    คุณไม่ควรจะทำอย่างนี้ ร่างสูงกล่าวเสียงเข้ม นี่ถ้าเราเป็นผู้ชาย จะทำยังไง

    ดารินอึ้งจ้องคนตรงหน้าทั้งโล่งใจและตกใจ...ไม่ใช่ผู้ชายหรอกเหรอ...

                    ขอโทษ...ที่ทำให้ตกใจ ร่างสูงกล่าวมา  สีหน้าอ่อนลงเมื่อเห็นว่าเธอตะลึงไป

                    ดารินยังไม่ตอบ คุณพักอยู่ที่รีสอร์ทหรือเปล่า ดารินพยักหน้า ร่างนั้นจึงกล่าวต่อมาอีก เรากลับกันก่อนเถอะ ฝนชักตั้งเค้าแล้วล่ะ

                แต่ยังไม่ทันจะได้ออกเดิน ฝนที่ว่ากำลังตั้งเค้าก็เทลงมาอย่างหนักร่างสูงกระชากร่างบางที่กำลังก้าวพ้นหลังคาออกไปก่อนเข้ามา เบี่ยงตัวหลบฝนเข้าไปในบ้างหลังเล็กนั้น

                    ร่างสูงเข้ามาข้างในแล้วลืมไปว่าวางไวโอลินไว้ข้างนอก รีบวิ่งออกไปเอาคราวนี้พอกลับเข้ามาร่างสูงก็เปียกโชก สะบัดผมที่เปียกลู่แก้ม บ่นพึม

                    เปียกจนได้...

                ดารินมองฝนที่กำลังตกแบบไม่ลืมหูลืมตา แล้วมันจะหยุดเมื่อไหร่กันล่ะนี่...

                    ร่างสูงเดินดุ่มมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆเธอ ดารินเหลียวไปมอง ร่างนั้นเปียกโชก ดารินรู้สึกประหม่ากับคนแปลกหน้า แต่พอได้ยินเสียงจามดังๆทีหนึ่งก็อดหันไปมองไม่ได้

                    ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วซับที่ใบหน้านั้นให้ ร่างสูงสะดุ้งตกใจนิดหนึ่ง แล้วพึมพำขอบคุณ

                    “…ขอบคุณมือเรียวยาวรับผ้าเช็ดหน้าจากร่างบางมาเช็ดเอง ได้กลิ่นหอมบางๆจากผ้านั้น ร่างสูงนิ่งเงียบจนดารินต้องชวนคุยเอง

                    ตกหนักแบบนี้ไม่รู้เมื่อไรจะหยุดนะคะ...เอ่อ...คุณ...

                ซุย...ร่างสูงตอบโดยไม่หันมามองหน้า แล้วก็ชะงักไป ถามบ้าง เธอล่ะ...

                ดารินค่ะ

                หนักแบบนี้น่ากลัวพายุจะเข้า ฝนอาจจะตกถึงพรุ่งนี้...ซุยพูดเสียงเรียบแต่ดารินฟังแล้วใจวูบ แล้วเพื่อนเธอจะไม่วุ่นวายกันหรือนี่ ?  แต่ไม่เป็นไรหรอก อีกสักพักมันอาจจะหยุดตกก็ได้

                    คราวนี้ยิ้มให้อย่างปลอบใจ ดารินได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัว  ร่างบางหน้าแดง หลบสายตาที่มองมานั้น

                เอ่อ...ทำไมคุณถึงรู้จักที่นี่ละคะ คือ...หมายความว่าฉันมาพักที่นี่ตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยรู้จักที่นี่เลย

                    “…บังเอิญน่ะ เดินดูอะไรไปเรื่อยๆแล้วก็มาเจอเอง

                    บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง  จนเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นทีหนึ่ง ดารินร้องอย่างตกใจแล้วผวาเข้าหาร่างสูง ซุยไม่ว่าอะไรเพียงนั่งเฉยๆ จนร่างบางคลายความหวาดกลัว

                    ดารินรู้สึกตัว ผละออกจากซุย หน้าแดง

                    ขอโทษค่ะ...

                    ขอโทษอะไร? ซุยถามกลับ หันมายักคิ้วทำท่าประหลาดใจ  กลัวเหรอ?คราวนี้เปลี่ยนคำถามหน้าตาเฉย

                    ดารินพยักหน้าแทนคำตอบ

                    ซุยขยับเข้ามาใกล้จนชิด ดารินตกใจจะถอยหนี แต่ซุยใช้อุ้งมือแข็งแรงคว้าไหล่ไว้ พูดเสียงอ่อนโยน

                    เวลาที่รู้สึกกลัว มีคนคอยอยู่ใกล้ๆดีกว่านะ

                ดารินไม่ตอบแต่ก็อ่อนลง ความเงียบปกคลุมจนได้ยินเสียงใจตัวเองเต้น...แต่ไม่ได้เต้นเพราะความกลัว...เพราะคนที่เธอซุกอิงแอบอยู่นี่ต่างหาก ทำไมเธอถึงใจเต้นกับคนที่เพิ่งเจอกันได้? ดารินก็ตอบตัวเองไม่ได้  เธอเป็นอะไรไปกันแน่นะดาริน...

                    หญิงสาวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนเผลอหลับไป  ตื่นขึ้นมาอีกครั้งตอนกลางดึก พบว่าตัวเองยังซุกอยู่ที่อกนั้น ตากลมโตเหลือบช้อนขึ้นมองหน้าคนที่ให้เธอยืมอก ก็เห็นดวงตาคม ซึ้งมองมาอยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าซุยจะไม่ได้หลับเลย ทั้งคู่ประสานสายตากัน ต่างคน ต่างรู้สึกไม่ต่างกัน

                    ยังดึกอยู่นอนต่อก็ได้นะซุยก้มลงกระซิบบอกดาริน หญิงสาวส่ายหน้า

                    ฉันไม่ง่วงแล้วค่ะ

                    ดารินผละออกจากอ้อมอกนั้น กระเถิบมานั่งข้างๆ เธอสังเกตเห็นร่างสูงนั่งสัปงก

                    เอ่อ คุณนอนเถอะค่ะ นั่งให้ฉันพิงมาตลอด คงยังไม่ได้นอนใช่มั้ยคะ... ดารินรู้สึกผิด  ตอนแรกซุยส่ายหน้าแต่ก็ทนความง่วงไม่ไหวล้มตัวทอดร่างยาวไปตามเก้าอี้ แล้วจู่ๆก็รู้สึกถึงสิ่งที่นุ่มนิ่มมารองรับศีรษะของตนเอง  เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอกับดวงหน้าขาวใส  ที่แก้มกำลังซับสีเลือด

                    เมื่อกี้คุณยังให้ฉันพิง ผลัดกันไงคะ... ดารินรีบบอกตะกุกตะกัก  ซุยไม่ว่าอะไรและยิ้มให้น้อยๆ  ดูเหมือนซุยจะเป็นคนพูดน้อย..ชอบยิ้มมากกว่าชอบพูด ดารินคิด  ตาคู่คมค่อยๆหรุบลง ได้ยินเสียงพึมพำแผ่วๆ

                    ขอบใจนะ

                    ดารินนั่งมองใบหน้านั้นค่อยๆหลับ  นิ้วเรียวสวยเกลี่ยเส้นผมที่ระตามใบหน้าออก ผมของซุยเปียกจนแห้งแล้ว เวลาล่วงผ่านมานานเท่าใดแล้วหนอ?...

                    ร่างสูงนั้นในตอนแรกก็ง่วงจริงๆและตั้งใจว่าจะหลับแต่พออีกคนอาสาให้ยืมตักหนุนนอนใจของตัวเองก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ  กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมากระทบจมูก ซุยหลับไม่ลงอีกแล้ว

                    ซุยลุกพรวดขึ้น ไม่นอนแล้ว และถ้าอีกคนไม่ง่วงก็มานั่งคุยกันจนเช้าไปเลย  ดีกว่ามานอนไม่หลับแถมยังคิดฟุ้งซ่านไปคนเดียวอีกแบบนี้  แต่เมื่อลุกขึ้นมาก็กลับพบว่าร่างบางผล็อยหลับไปแล้วอีกรอบ...

                    ซุยยิ้มให้กับร่างบางนั้น  เนี่ยนะที่บอกว่าไม่ง่วงแล้ว  อากาศเริ่มเย็นลงอีก ซุยถอดเสื้อนอกที่เริ่มแห้งแล้วมาห่มคลุมให้หญิงสาว ตนเองยังมีเสื้อแขนยาวอยู่จึงไม่หนาวมาก  เธอนั่งจ้องร่างบางอย่างไม่รู้สึกเบื่อ

                    ราตรีสวัสดิ์...ซุยคิดแล้วผล็อยหลับไปบ้าง...

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++

    +++++++++++++++++++++++

    อิอิ ตอนแรกจ้า ตัวหนังสือติดกันหน่อยนะ ยังลงไม่ค่อยเป็นจ้ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×