นักศึกษา เภสัชฯ มช. ขอเล่าเรื่อง

ลำดับตอนที่ #4 : { ไดอารี่เด็กแอด } FAIL ครั้งแรก

{ ไดอารี่เด็กแอด }  FAIL ครั้งแรก

             


       เปิดเทอมมาสนามสอบแรกที่ผมได้ลองก็คือสนามสอบ SMART-I ของบัญชี มธ.ตอนนั้นคิดว่าพร้อมพอสมควร สอบที่ มธ.รังสิต ผมไปสอบคนเดียวไม่มีเพื่อนๆไปสอบด้วยเลยเพราะเพื่อนๆในห้องนั้นอยากเรียนหมอ ไม่ก็เภสัชกันทั้งนั้น ตอนนั้นไปพักที่บ้านน้าที่รังสิต ตอนเช้าไปถึงสนามสอบ ผมอึ้งมาก โอ่โหห ! คนสอบกันเยอะขนาดนี้เลยหรอ ตอนหลังมารู้ว่าคนสอบแต่ละรอบนั้นเป็นหมื่นเลยทีเดียว รับไม่กี่ร้อยแล้วเราจะติดมั้ยเนี่ยย  วิชาแรกที่สอบคือคณิตศาสตร์ มี 30 ข้อ ทำได้เยอะแต่ทำไม่ทัน วิชาการอ่านค่อนข้างทำได้และวิชานี้คนส่วนใหญ่จะได้คะแนนกันเยอะ  วิชาถัดมาคือวิชาภาษาอังกฤษ เจอข้อสอบถึงกับงง ยากมาก มีแต่ศัพท์ธุรกิจ ( หรือเราโง่ก็ไม่รู้ ) ทำไม่ถูกเลย มั่วไปเยอะมาก ไม่รู้จะผ่านเกณฑ์รึปล่าว และวิชาสุดท้ายวิชาความรู้รอบตัว เวลาที่ให้น้อยกว่าวิชาอื่น ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
        อ่อลืมบอกไปครับ การสอบ SMART-I นี้มีเกณฑ์ขั้นต่ำด้วย คือทุกวิชาต้องได้ 30 คะแนนขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์ยื่นคะแนน โดยเมื่อนำน้ำหนักคะแนนมาปรับแล้ว วิชาคณิตศาสตร์ การอ่าน และภาษาอังกฤษจะมีคะแนนวิชาละ 30% รวมเป็น 90%ส่วน วิชาความรู้รอบตัวนั้นมีน้ำหนัก 10% พอสอบเสร็จผมออกจากห้องสอบด้วยความไม่มั่นใจเท่าไรเพราะกลัววิชาภาษาอังกฤษมากๆ  ไม่นานนักผลก็ออกมา ได้คะแนนคณิตศาสตร์ 75คะแนน การอ่าน 55คะแนน ภาษาอังกฤษ 38คะแนน( รู้สึกงงๆปนดีใจที่ผ่านเกณฑ์) และความรู้ทั่วไป 49คะแนน เมื่อนำมาปรับน้ำหนักแล้วก็ได้คะแนนรวมเป็น 55.3คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ยังไม่ถึงคะแนนต่ำสุดของคนที่ติดเมื่อปีทีที่แล้วเลย T^T เอาล่ะ ! ถือว่าไปชิมลาง เพราะการสอบ SMART-I นี่สอบได้ปีนึง 9 ครั้ง (ตอนนั้นนะ) นี่เป็นครั้งแรก ถือว่าได้แค่นี้ก้โอเคแล้วล่ะ 
        การไปสอบครั้งนี้ได้คุยกับน้าที่ไปพักด้วยเค้าไม่สนับสนุนให้เรียนด้านนี้เท่าไหร่นัก น้าบอกว่าปวดหัว มันจะอยู่ในหัวเราตลอดเวลาไปจนกว่าจะหลับตาลงนอน ผมยืนยันว่าผมชอบมันและน่าจะเรียนได้ แต่ก็เริ่มลังเลใจนิดนึง    หลังจากสอบครั้งแรกเสร็จฝึกทำข้อสอบ SMART-I ไปเรื่อยๆตอนมีเวลาว่างที่โรงเรียน ผมคิดว่าถ้าเราพร้อมกว่าเดิมคงต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอนไม่ก็ทำโจทย์คณิตไว้สอบ PAT1 หรือทำข้อสอบเอนท์ไทย-สังคม ( เอาไว้สอบของบัญชีจุฬาฯรับตรง)  แต่ที่โรงเรียนเวลาว่างไม่ค่อยจะมี แถมการบ้านก็เยอะ รู้สึกว่าจะเยอะกว่าตอนม.4 ม.5 เสียอีก ช่างแตกต่างจาก รร อื่นโดยแท้  รู้สึกเวลาก็ผ่านไปเร็วมากๆ            
       หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงคราวของการสอบวิชาภาษาไทย-สังคม ที่เป็นส่วนหนึ่งใช้ยื่นบัญชี จุฬาฯ ผมรู้สึกว่าเตรียมพร้อมมาดีพอสมควร สอบที่อิมแพค และเด็กก็สอบเยอะอีกเช่นเคย  ข้อสอบภาษาไทยออกไดครีเอทมาก คือคำถามเชื่อมกันหลายข้อ ผิดก็ผิดหมด สังคมก็ยากมาก ออกจากห้องสอบนี่งงเลย ปล.แอร์ที่อิมแพคเย็นๆมาก T^T คะแนนออกมาได้ 48.89 เฮ้ยย ! ผ่านว่ะ แต่ได้ไม่ถึงครึ่ง แต่พอดูคะแนนค่าเฉลี่ยประเทศก็รู้สึกดีขึ้น คือ 30 กว่าๆ คะแนน และคนที่ได้คะแนนสูงสุดก็ได้ 60 กว่าๆ คะแนน  เรายังพอมีลุ้น ><” 
      คะแนนวิชาไทยสังคมผ่าน เกณฑ์ 30% แรกของโรงเรียนผ่าน เหลือแต่ GAT-PAT แล้วสินะ….   หลังจากนั้นก็สอบ GAT – PAT คะแนนออกมา GAT ผ่าน แต่ PAT1นี่สิ ดับอนาคตกันชัดๆ TT ได้ 99 คะแนนจากเต็ม 300 ไม่ผ่านเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้คือ 180 คะแนน อนาคตบัญชี จุฬาฯ ของผมดับวูบบลงทันที  อยากจะยื่นรับตรงไปแต่ก็ไม่ผ่านเกณฑ์เลยตัดใจไม่ยื่นดีกว่า ปีนั้นบัญชี-บัญชี จุฬาฯ รับตรง 150 คน บัญชี-บริหารรับ 150 คน รวมเป็น 300 คน จำนวนผู้ที่มีสิทธิ์สัมภาษณ์มีเพียง 80 กว่าคน จาก 300 คน   ผมก็คิดในใจว่าก็แน่ล่ะ เกณฑ์โหดซะขนาดนี้ ผมพยายามคิดในแง่บวกว่าอะไรที่เป็นของเรามันก็เป็นของเรา สิ่งที่อาจไม่ใช่ของเรา เอาเวลาที่เสียใจไปเตรียมต่อสู้กับ SMART-I รอบที่จะมาถึงดีกว่า
      การสอบ SMART-I รอบที่สองก็มาถึง ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการจัดสอบที่ภูมิภาคต่างๆ ทั้งสามภาค คือ สนามสอบ เชียงใหม่ สุราษฏร์ และ ขอนแก่น ( วันเวลาไม่ตรงกัน )ผมสมัครสอบที่สุราษฏร์รอบเดียวเพราะใกล้บ้านผม ถ้าสอบที่อื่นคงเสียค่าเดินทางอีกหลายบาท ยังไงก็ยังมีรอบสุดท้ายที่กรุงเทพอีกรอบนึง  รอบนี้ที่สุราษฏร์ผมไปสอบกับเพื่อน เพื่อนผมอยากไปลองสอบ จำนวนคนสอบก็ไม่เยอะเท่าไร ความรู้สึกผมคือทำข้อสอบได้น้อยกว่ารอบแรก รู้สึกว่าข้อสอบยากกว่าและเราก็ไม่ค่อยสบาย แต่คะแนนออกมาผิดคาด กลับได้มากกว่ารอบแรก ผมได้คะแนนคณิตศาสตร์ 76คะแนน   การอ่าน 76คะแนน ภาษาอังกฤษ 33คะแนน( รู้สึกงงๆปนดีใจที่ผ่านเกณฑ์) และความรู้ทั่วไป 51คะแนน  และผมก็ตัดสินใจจะสมัครสอบ SMART-I รอบสุดท้าย  ผมจองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้าเพราะตอนนั้นมีโปรโมชั่น (แอบงก 55) และรอวันเปิดรับสมัคร และตอนนี้นี่แหละ ผมผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ผมสมัครสอบไม่ทัน ผมพลาดโอกาสสุดท้าย เสียเงินค่าตั๋วฟรีๆ ไปเกือบสามพัน ผมเสียใจ ไม่กล้าบอกแม่ แต่สุดท้ายเมื่อบอกไปแม่ก็ไม่ว่าอะไร ด้วยไม่ค่อยอยากให้เราเรียนทางนี้อยู่แล้วด้วย  เมื่อถึงเวลายื่นคะแนนผมก็ลองยื่นๆไปดู เราอาจจะติดก็ได้วะ และสุดท้ายผมก็ไม่ติดผมได้คะแนน60.6    และคนที่ได้คะแนนต่ำสุดที่ติดไปคือ 64.9  มันไม่ใช่ทางของเรา
ผมบอกตัวเองอีกครั้ง T^T