ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ' Policier ' - YugMark ft.GOT7

    ลำดับตอนที่ #6 : ' Policier ' : Chapter 5 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 60








    Chapter 5




    .
    .
    .

    ยูคยอม...


    เสียงกระทบในโสตประสาทของต้วนอี้เอิน ทำเอาเจ้าตัวมึนงงชั่วขณะ... ภาพการต่อสู้ระหว่างคนร่างสูงที่คุ้นเคยกับอดีตเพื่อนร่วมงานและชายหนุ่มอีกคน กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวช้าๆ..

    ดวงตาเรียวของอี้เอินเกือบจะปิดลงพร้อมกับความโล่งใจในอก... ไหล่บางสั่นไหวน้อยๆจากอาการสะอื้นเพราะความหวาดกลัวจากความตายที่เพิ่งจะผ่านไปอย่างหวุดหวิด


    ถ้ายูคยอมมาไม่ทัน...


    ไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพตัวเองจะเป็นอย่างไร


    อี้เอินคนนี้คงจะเหมือนผู้ถูกกระทำเหมือนอย่างในหนังฆาตกรรมอะไรประมาณนั้น...


    อ่า ปวดหัวจัง...


    อี้เอินกระพริบตาถี่ๆ ความเจ็บจี๊ดในขมับข้างขวาทำเอาคนที่ถูกพันธนาการต้องมุ่ยหน้า... เหมือนสมองจะขาดออกซิเจน ร่างบางหายใจติดขัด ไม่สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้


    “อ๊ากกก..”


    ไม่ไหวแล้ว ต้วนอี้เอินทนไม่ไหว...


    มันเจ็บเกินไป..


    “ยูคยอม..” มือสองข้างของเขาที่ถูกมัดด้วยเชือกโดนตัดออกโดยปาร์คจินยอง...ผ้าที่คาดปากก็เช่น...


    “...เจ็บบ...” ความปวดเมื่อยตามร่างกายจากการถูกมัดเป็นเวลานาน ทำเอาอี้เอินแทบจะขยับตัวไม่ได้ เขาไม่อยากจะรับรู้เลยว่าสภาพของตัวเองตอนนี้จะเป็นอย่างไร


    รอดตายมาอย่างหวุดหวิด...


    “อี้เอิน...ผมอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะครับ” ร่างสูงที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อไคล กดหัวของอี้เอินให้แนบกับอก เสียงสะอื้นที่เขาได้ยินจากคนตัวเล็กทำเอาใจของยูคยอมวูบไหว


    “...ฮึกก...ฮึก กลัวว” ร่างบางกดตัวเองเข้าหายูคยอมราวกับลูกแมวที่จะหาความอบอุ่นในฤดูหนาว ไหล่เล็กยู่ลง ไม่มีคราบของผู้กล้าเหลืออยู่สักนิดเดียว...



    อี้เอินตอนนี้ก็เหมือนชายหนุ่มธรรมดาที่เพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายที่สุดของชีวิตมา...


    คิมยูคยอมเข้าใจ เขาเข้าใจทั้งหมด


    ความรู้สึกที่อีกคนกำลังส่งมาหาเขา กับดวงตาใสๆที่เคยมีแต่ความแข็งกร้าว แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่ความกลัว กลัวที่จะต้องหายไป...


    “...ฮึก...ฮืออ” เสียงสะอื้นยังคงดังต่อเนื่อง คนในเหตุการณ์อย่างปาร์คจินยองยังต้องแอบกลั้นน้ำตา เมื่อร่างคุ้ดคู้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน...


    “ยูคยอม พาอี้เอินออกไปก่อนดีกว่า ก่อนพวกนั้นจะฟื้นขึ้นมา” จินยองช่วยประคองร่างบางขึ้นให้ยูคยอมช้อนตัวในท่าเจ้าสาว...ร่างสองร่างสาวเท้าไวๆ ไปถึงรถยนต์ที่จอดไว้กลางถนน ติดเครื่องและรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว...


    “คุณอี้เอิน ไหวมั้ยครับ?” คนนั่งข้างๆถามขึ้น หลังจากสังเกตว่าคนตัวเล็กนั่งตัวสั่นมาตลอดทาง..


    “...ครับ” อี้เอินตอบสั้นๆและพยักหน้าเบาๆเพื่อเป็นการบอกว่าเขาโอเค ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงสักเท่าไหร่ แค่นี้ก็แย่พอแล้วอย่าให้ใครมาเป็นอันตรายเพราะเขาอีกเลย โดยเฉพาะคนที่นั่งอยู่ที่คนขับ


    คิมยูคยอม...


    “...” หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากคนทั้งสามอีกเลย... ร่างสูงซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปตามทาง คอยเหลียวมองคนตัวบางผ่านกระจกมองหลังที่สามารถมองเห็นด้านหลังคนขับอย่างเขา บังเอิญว่าเป็นจังหวะเดียวกับที่อี้เอินเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาพอดี


    “...” อี้เอินสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่นึกว่าอีกคนจะมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ยูคยอมยกยิ้มมุมปากให้ร่างบางที่ยังไม่ได้ละสายตาไป


    ราวกับว่าอี้เอินตกอยู่ในภวัง รอยยิ้มของยูคยอมทำให้เค้ารู้สึกปลอดภัยและสบายใจขึ้นอย่างน่าประหลาด ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้ทำอะไรเลย...


    อี้เอินรู้ว่าเขาปลอดภัยแล้วเมื่ออยู่กับยูคยอม


    ก็แค่นั้นจริงๆ...


    ‘...บ้าเอ้ย’ ใจจะเต้นแรงทำไมเนี่ย! ทำตัวเหมือนสาวน้อยที่เพิ่งจะตกหลุมรักซะอย่างงั้น..


    เดี๋ยวนะ...


    นี่เขาชอบยูคยอมหรอ!? ไม่จริงน่า....


    แก้มใสๆแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ คิดอะไรบ้าๆ เขาคงกลัวจนประสาทกลับไปแล้วแน่นอน ก็มันใช่เวลามาคิดเรื่องอย่างนี้มั้ยเล่า!!


    “.....จิ๊” ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อจองตัวเองออกไป...ก่อนจะลืมไปเสียสนิทว่ายังคงมีอีกคนมองตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา...


    ร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านหน้ายกยิ้มกว้างกว่าเดิม คิมยูคยอมเห็นทั้งหมดนั่นแหละ...ทั้งตอนคนตัวเล็กสะดุ้งแล้วก็ยิ้มตอบเขาเบาๆ หลังจากนั้นแก้มก็เริ่มแดง ขมวดคิ้วและสะบัดหัวจนปอยผมกระจายออกเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด...


    คิดอะไรอยู่หรอครับ คุณตำรวจ? ทำไมต้องหน้าแดงด้วย


    ตายแล้ว ฮือ อี้เอินไม่เคยอยากจะซุกหน้าเข้าหาเบาะรถขนาดนี้มาก่อนเลย



    .


    .


    .


    (1%)




    มาต่อแล้วค่ะ :)))


    .


    .


    .


    - Policier   -




    รถคันสวยเดินทางมาถึงบ้านเดี่ยวหลังนึงที่ถูกสร้างอยู่ค่อนข้างจะห่างไกลจากตัวเมืองและร้านค้า เพื่อให้ยากต่อการค้นหาจากคนภายนอก ที่ถึงแม้จะเป็นในพื้นที่ก็ยังหาเจอยากเลย…



    “ไหวมั้ยครับ? คุณอี้เอิน” จินยองถามขึ้นเมือเห็นอีกคนมีท่าทีลำบากในการขยับตัวก้าวลงจากรถ…



    “คิดว่าไม่เป็นไรมากครับ...โอ๊ย” ในขณะที่อี้เอินกำลังก้าวเท้าลงจากรถ ความเจ็บก็แล่นริ้วขึ้นมายังท่อนขาข้างบน เหมือนว่าขาจะแพลง



    “อี้เอิน!...อย่าเพิ่งขยับ ข้อเท้าน่าจะพลิก” ยูคยอมรีบวิ่งลงจากฝั่งคนขับมาดูอาการคนตัวเล็ก…



    “เดินไหวน่ะ ไม่เป็นไร” ร่างบางเอ่ยเบาๆ ก้มหน้างุดลงกับอก… ร่างสูงจับข้อเท้าของเขาขึ้นมาดูอย่างแผ่วเบา ทำเอาคนนั่งอยู่ไปไม่เป็นเลย



    “อ่ะ ไหวก็ลอง” ยูคยอมล่ะเบื่อคนดื้อจริงๆ ข้อเท้าบวมเป่งผิวออกจะสีม่วงด้วยซ้ำ...ดื้อนักจะได้ดัดนิสัยซะบ้าง… ว่าแล้วเขาก็ปล่อยข้อเท้าลงอย่างไม่ใยดี



    “อ๊ะ! นี่ปล่อยแบบนี้มันเจ็บนะโว้ย” ร่างบางร้องแหวขึ้นมา เมื่ออีกคนเล่นจู่ก็ปล่อยขาเขาลงแบบไม่ทันตั้งตัว…



    ฮืออ มันกระแทกกับขอบประตูซ้ำด้วยอ่ะ



    “ไง บอกแล้วว่าไม่ไหว” ยูคยอมยกยิ้มมุมปาก คนนี้ก็ดื้อไม่ดูเวร่ำเวลา ยูคยอมถือวิสาสะช้อนตัวอีกคนขึ้นในท่าเจ้าสาวก่อนจะใช้สะโพกตัวเองดันประตูรถให้ปิดลง



    “...” อี้เอินไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นนอกจากทำปากยื่นปากงอใส่อีกคน แต่ก็ยอมให้เขาอุ้มเข้าบ้านแต่โดยดี โวยวายไปเขาเองนี่แหละจะเจ็บตัวหนักกว่าเดิม



    เสี้ยวหน้าคมที่เประเปื้อนจากการต่อสู้ คราบรอยเลือดที่แห้งกรังตามหางคิ้วและมุมปาก ไหนจะรอยช้ำอมม่วงตามผิวหนัง ทำเอาร่างที่ถูกอุ้มอยู่ใจกระตุกเล็กน้อย เมื่อสำรวจดีๆแล้ว สภาพของยูคยอมก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาสักเท่าไหร่เลย เห็นแบบนี้ทำเอาเขารู้สึกผิดไม่ได้ แค่ตัวเองบาดเจ็บก็เกินพอแล้ว ยังต้องมาดูแลคนอย่างต้วนอี้เอินอีก…



    “เฮ้อ..” เสียงถอนหายใจเบาๆดังมาจากร่างบนอก พร้อมกับนิ้วโป้งที่ขยับมาเขี่ยแก้มเขาเบาๆเป็นเชิงสำรวว่ามีรอยช้ำตรงไหนอีกบ้าง



    “...เอ่อ” ยูคยอมหันมามองคนในอ้อมกอดแบบงงๆ แต่อี้เอินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำเอาร่างสูงเดินเกร็งหน้าไปตลอดทางเข้าบ้าน




    ทำแบบนี้ก็เขินเป็นเหมือนกันนะครับ…



    .

    .

    .



    “..ขอบคุณ” ยูคยอมวางคนตัวเล็กกว่าบนโซฟาหนังสีน้ำตาล เสียงหวานเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะหันไปมองคนอีกคนที่เพิ่งเดินมาจากส่วนที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นห้องเก็บของหรืออะไรสักอย่าง



    “ยูคยอม เราเอาพวกผ้าพันแผลแล้วก็พวกสำลีกับยาไว้ตรงนี้นะ…” จินยองบอกพร้อมกับวางกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่มีไว้ติดบ้านลงบนโต๊ะกระจกที่มีร่างสูงและร่างบางนั่งอยู่…



    “ขอบคุณนะจินยอง ไปพักเถอะ” ยูคยอมกล่าวก่อนที่ตัวเองจะเอื้อมไปหยิบกล่องมาเปิดออกแล้วเริ่มหยิบของที่ต้องใช้ในการทำแผลออกมา



    “โอเค ดูแลตัวเองนะครับคุณอี้เอิน” ปาร์คจินยองก้มหัวให้เขาเล็กน้อย พลางเดินขึ้นยังชั้นสองของบ้าน



    “...ครับ” อี้เอินตอบรับพร้อมกับยกยิ้มบางๆให้อีกคน…



    บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเขาและร่างสูงที่กำลังจัดการกับสิ่งของในมือ ดวงตาคมปรายมองไปทุกส่วนของร่างกายเขา ราวกับจะสำรวจว่ามีอะไรผิดปกติไปบ้าง อี้เอินได้แต่มองเสี้ยวหน้าอีกคนเช่นกัน จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่ที่หน้าหรอก เขาเองก็สำรวจทุกส่วนของร่างกายอีกคนเช่นกัน…



    หลังมือก็มีรอยถลอกเป็นแนวยาว เสื้อเชิตที่ใส่อยู่ก็เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยดำ หางคิ้วแตก ไหนจะปากนั่นอีก



    คิมยูคยอม...



    ปล่อยให้ความเงียบเกาะกุมมาได้สักระยะหนึ่งจนอี้เอินก็ทนไม่ไหว เขาเลยตัดสินใจทำลายความเงียบนี้เอง



    “...เจ็บมั้ย?/...เจ็บมั้ยครับ?”



    “อ่ะ.../เอ่อ…” เอ่า ไปไม่เป็นเลยแฮะ แล้วทำไมต้องมาพูดพร้อมกันด้วยล่ะ



    แก้มของทั้งคู่ขึ้นสีจางๆ ทั้งสองคนเสหน้าไปคนละทาง ยูคยอมทำเป็นวุ่นอยู่กับการแกะห่อพลาสติก แล้วก็หยิบขวดน้ำเกลือ หยิบขวดยา หยิบสลับไป หยิบสลับมาอยู่นั่นแหละ จนคนมองอยู่เขาเกือบจะหลุดขำออกไปแล้ว



    “นิดหน่อย...นายล่ะ?” อี้เอินพยายามแล้วนะ พยามจะไม่จำแล้วนะ แต่มันก็เหมือนจะทำไม่ค่อยได้เท่าไหร่



    “สบายมากครับ แค่นี้เอง...ขำไร” ยูคยอมตอบพลางเงยหน้าขึ้นมามองเขา เขาที่ยังยิ้มล้อเลียนอีกคนอยู่ อี้เอินกลั้นไม่ไหวแล้ว สายตาคาดโทษของยูคยอมมันน่าหมั่นเขี้ยวเกินไป



    “ฮ่าๆๆ อุ๊ป” มือบางยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทัน ไม่ได้อี้เอินหยุดขำไม่ได้ ไม่คิดว่าคนอย่างคิมยูคยอมจะมีมุมนี้กับเขาด้วย…



    เราควรจะดีใจใช่มั้ยนะที่ได้เห็นมุมนี้



    “...” เคยรู้จักอาการคว่ำปากมั้ยครับ ที่มันยิ่งกว่าเบะ คว่ำยิ่งกว่าเด็กร้องไห้ซะอีก ไหนจะยังตาที่ถูกหรี่ลงแล้วมองมาทางเขาอีก



    “โอ๋ๆ...เดี๋ยวทำแผลคืน” อย่างน้อยอี้เอินก็พูดปลอบใจอีกคนด้วยการเสนอว่าเขาจะอาสาจัดการทำความสะอาดบาดแผลให้ทั้งหมด ปากอีกคนถึงได้คว่ำน้อยลงนิดหน่อย ย้ำว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น



    “...” ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่กลับตั้งใจหยิบสำลีชุบน้ำเกลือแล้วมาเช็ดที่หน้าเขาอย่างเบามือ ดวงตาคมมองใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างพิถีพิถัน ทำเอาเขาหน้าร้อนไปหมด ไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ที่ไหนดี หลับตาเลยละกัน ไม่ต้องมงต้องมองอะไรทั้งนั้น



    “...” สัมผัสบนหางคิ้วของเขาหยุดลง แล้วมันก็เลื่อนจากส่วนบนของใบหน้า ลากมาตรงกลาง แล้วมาหยุดที่มุมปากสวย อี้เอินรู้สึกได้ว่าอีกคนอ้อยอิ่งอยู่ตรงริมฝีปากเขานานเหลือเกิน นานเกินความจำเป็น…ลมหายใจร้อนที่รดอยู่บนใบหน้าทำเอาอี้เอินสะดุ้งเฮือก คิดว่าตัวเองพลาดแล้ว ไม่น่าเลยกู เข้าทางมัน ฮือ



    “หลับตาทำไม อยากให้จูบหรอครับ?” นี่สิถึงจะเรียกว่าเป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุดของคิมยูคยอม เป็นสิ่งที่เรียกร้องมาจากหัวใจ คิคิ



    “...คุณตำรวจครับ~…” เสียงเรียกเขาที่ฟังก็รู้ว่าตั้งใจแกล้งกันชัดๆ ก็เรียกธรรมดาก็ได้ ไม่ต้องเรียกกระเส่าแบบนั้น… ลมร้อนเป่ารดที่หูข้างขวาของเขาแล้วตามลงมาตรงซอกคอขาว อี้เอินตั้งใจจะถอยหลัง แต่ถูกมืออีกคนรั้งเอวไว้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาถูกปิดกั้นทางหนีไว้ทุกทาง…



    ยังสมกับเป็นตำรวจอีกหรอเนี่ยต้วนอี้เอิน!?!



    โดนจับแค่ตัวก็ว่าหนักแล้ว นี่ยังโดนจับใจอีก เฮ้อ…



    “หื้ออ~...” อี้เอินตัวแข็งไปหมด เขาไม่กล้าจะขยับตัวใดๆทั้งสิ้น ไอร้อนจากร่างกายอีกฝ่ายยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ


    .

    .



    “ยูคยอมเก็บกุญแจสำรองไว้ไหน ประตูมันล็อคอยู่อ่ะ…อ่าว...”



    “!!!/!!!”  ชิบหาย…



    ร่างสองร่างผละออกจากกันในเวลาเสี้ยววินาที แก้มที่แดงอยู่แล้วของทั้งคู่ก็ดันแดงมากขึ้นไปอีก คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าเพราะอะไร...



    “อ่อ เอ้อ อยู่ในเกะไม้หน้าตรงนั้นแหละ” ยูคยอมทำเนียนตีหน้าซื่อหันไปบอกปาร์คจินยองเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...



    “อ๋อออๆ โอเค๊ เราคงหาไม่ดีเองแหละ ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะจริงๆ ตามสบายนะทั้งสองคน คิๆ” คนมาใหม่ยกยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสนิทตัวโต… ก็ไม่เคยจะเห็นมันอายเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นแบบนี้บ่อยๆ ปกติหน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าอะไร…



    “...” คนบนชั้นสองหันมายิ้มให้ต้วนอี้เอินเช่นกัน สายตาล้อเลียนทำเอาอี้เอินต้องกุมใจ น้ำตาตกในอีกเช่นเคย พลาดซ้ำพลาดซ้อนจริงๆ วันนี้คงเป็นวันที่ซวยที่สุดของชีวิตเขาแล้วซินะ



    และก็คงเป็นวันที่ดีที่สุดของชีวิตเขาเช่นกัน…



    ทุกคนคิดแบบนั้นเหมือนกันใช่มั้ย?



    .


    .


    .




    แดดยามเช้าส่องเข้ามาตามบานหน้าต่าง ถึงแม้จะมีม่านบางๆกั้นไว้แต่ก็ทำให้คนอย่างเขาตื่นมาได้เพราะความรำคาญ…



    เมื่อคืนหลังจากที่เขาจัดการทำแผลตอบแทนให้อีกคนตามสัญญา ยูคยอมก็อุ้มเขาขึ้นมาบนห้องนอนที่ไม่มีใครใช้งานเป็นประจำเพราะว่าบ้านหลังนี้ไม่ค่อยต้อนรับแขกสักเท่าไหร่…



    ก็ถ้าอุ้มขึ้นมาอย่างเดียวก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรมาก ถ้าอีกคนไม่ดึงดันว่าจะเช็ดตัวให้ด้วย จะได้นอนหลับสบาย…




    คิดว่าต้วนอี้เอินคงจะปฏิเสธใช่มั้ย?...




    ใช่! ถูกแล้ว เขาปฏิเสธแบบทันที ไม่มีการลังเลใดๆทั้งสิ้น แถมยังสั่งให้คิมยูคยอมไปเอากะละมังรองน้ำและผ้าผืนเล็กมาให้อีกต่างหาก…ช่วยเป็นเบ้ให้เขาต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน…



    “เดี๋ยวเช็ดเองได้น่า! มือไม่ได้เจ็บ แค่ขาเดี้ยงเฉยๆ” นี่คือคำที่เขาพูดออกไป ก่อนจะพยักเพยิดให้อีกคนกลับห้องตัวเองไปชำระล้างร่างกายให้สะอาด…



    “...” เหมือนเดจาวู อาการปากคว่ำก็มาด้วย...ร่างสูงยอมแพ้ วันนี้เขาก็เหนื่อยมามากเหมือนกัน คนตัวโตกว่าวางอุปกรณ์และเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ข้างหัวเตียง ก่อนจะบอกว่าใช้เสร็จแล้วก็ให้วางไว้แบบนั้น เดี๋ยวเขาค่อยมาเก็บอีกทีตอนเช้า



    ยูคยอมคิดว่าก็คงจะได้พักอีกหลายวันล่ะเพราะว่าช่วงนี้คงไม่ปลอดภัยที่จะออกไปไหนเลย...




    “...ขอบคุณนะ ...ที่ทำแผลให้ แล้วก็ที่มาช่วยจริงๆ” อี้เอินพูดเสียงแผ่วลงพร้อมกับเสหน้าไปด้านข้าง…




    ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่ได้หันกลับมามองทางข้างหลัง มือหนายังคงจับค้างอยู่ที่ลูกบิดประตู…



    แต่อี้เอินสัมผัสได้ว่าคนที่ยื่นหันหลังให้เขากำลังยิ้มกว้างให้กับแผ่นไม้ เสียงออกทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วก็หัวเราะตามออกมา...



    .


    .


    .



    “คุณเป็นหนี้ชีวิตผมอีกแล้วนะ ต้วนอี้เอิน ฮ่ะๆ…”






    TBC…








    TALK :



    สั้นสไตล์ อะโหยๆๆ อ่านแล้วต้องกุมใจมั้ย ดราม่าแล้วต้องเติมความหวานบ้างไรบ้าง #กรี้ดแปบบ (ดราม่าเดี๋ยวก็มีอีก55555 )


    มีคนถามว่าไรท์หายไปไหนมา คือจะบอกว่า2-3ปีคือเจอมรสุมชีวิตหนักมาก ไม่มีอารมณ์แต่งเลย + กับขี้เกียจตามเคย ก็เลยดอง แต่ตอนนี้พร้อมจะคัมแบ็คแล้วนะ อิอิ

    (วางพล้อตไว้จนจบเรื่องแล้วด้วย แอบบอกๆ)


    อีกเรื่องก็ไม่ทิ้งนะ แค่ช้า5555 ไม่รู้10ปีจะแต่งจบมั้ย

    จริงๆมีแต่งไว้แล้วหน่อยนึง แต่จะเอามาลงแค่1% ก็จะหน้าด้านเกินไป555


    ชอบก็ช่วยไปสกรีมแท็คด้วยน้า #ฟิคPolicier


    ปล.ขอบคุณทุกคนที่ยังรอตลอด3ปี เห็นคอมเม้นอยากจะร้องไห้ ดีใจมากจริงๆ ไม่ทิ้งเรื่องนี้ เพราะรักมาก





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×