คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 [100%]
Chapter 3
‘ อดีตแก้ไขไม่ได้ ’
เอี๊ยดดดดดดดด….
ภาพของชายวัยกลางคนที่เขาเห็นถูกเจือจางไปกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก กลางถนนใหญ่ในคืนนั้น… ร่างกายที่เปียกโชกได้แต่เอื้อมมือออกไปหวังว่าจะได้สัมผัสร่างกายของผู้เป็นพ่อ…เลือดที่ไหลออกมาถูกล้างไปด้วยสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน…
“พะ พ่อ…พ่อครับ….”
รถคันสีดำที่คุ้นเคยบัดนี้มีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก… ชิ้นส่วนต่างๆกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง ตัวรถด้านหลังถูกยกลอยจากการกระแทกอย่างแรงจากด้านหน้า ล้อรถที่ยังติดอยู่ยังคงหมุนค้างอยู่อย่างนั้น แสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อชั่วครู่นี้เอง…
“พ่อ…… พ่อ…..” เขาได้แต่ภาวนาว่านี่คือความฝัน ความฝันที่ว่าเมื่อเขาตื่นมา ทุกความรู้สึกและทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะหายไป….
เสียงรถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยที่ได้ยินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ… พื้นที่ถูกกันไว้เพื่อไม่ให้รถผ่าน ทุกฝ่ายต่างกรูเข้ามาหาเขาและร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นข้าง… ความรู้สึกเจ็บจี้ดในหัวเริ่มปะทุขึ้นมาราวกับว่ามีคนสั่งกดสวิตช์เปิดมัน… บาดแผลฉกรรจ์ตามแขนและขาของเขาเริ่มออกฤทธิ์ ไหล่ทั้งสองข้างถูกยกขึ้นโดยหน่อยกู้ภัยสองคนที่พยายามจะดึงเขาออมาจากรถ… ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่ที่จะพยุงตัวเองให้ยืนได้…
‘พาคนเจ็บไปก่อน…เร็ว!!’
ร่างกายของเขาถูกวางลงบนเตียงนอนฉุกเฉิน ภาพที่เห็นก่อนที่ประตูจะปิดคือภาพที่พยาบาลและหน่วยกู้ภัยรวมสี่คนกำลังทำ CPR ให้กับผู้เป็นพ่อของเขา…
“พ่อ….”
สติของเขาดับวูบลงไปพร้อมกับเสียงปิดประตูรถด้านหลัง….
.
.
:: l o v e n a t i o n ::
.
.
"เฮือก!!" สัมผัสที่เหมือนจะดิ่งลงหน้าผาทำให้คนที่นอนอยู่สะดุ้งตัวลึกขึ้นมาอย่างฉับพลัน เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามขมับ อากาศภายในห้องนอนของตัวเองร้อนอับอ้าวทั้งๆที่ข้างนอกนั้นดันมีพายุฝนให้เห็นอยู่....
'พ่อ'
คำเดียวที่ยูคยอมจำได้จากความฝันเมื่อครู่ เหตุการ์ณครั้งนั้นในอดีตตามมาหลอกหลอนเขาอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คนๆนั้นก็คงไม่ตาย....
ความรู้สึกผิดยังคอยเกาะกินหัวใจของเขาเรื่อยมา ตอนนี้เขาเหลือตัวคนเดียวแล้วจริงๆ ที่เหลือก็คงจะมีก็แต่แม่เลี้ยงที่ยังไงก็ไม่มีวันที่จะเขาจะได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวจริงหรอกๆ...
ใช่สิ... เขามันก็แค่ลูกติดพ่อ...
"อ่าา ร้อนชะมัด!" ร่างสูงสะบัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง...ในใจก็พาลคิดไปถึงความฝันบ้าๆที่ปลุกเขาขึ้นมากลางดึก...
'ผ่านมาตั้ง 7 ปีแล้ว จะไปฝันถึงมันทำไม...'
เข็มนาฬิกาบนผนังชี้ไปที่เลขสอง....เวลาตีสองสิบสี่นาที...
.
.
.
2:14 am
'คุณพ่อหนูเสียแล้วนะ น้าเสียใจด้วยนะยูคยอม...'
เด็กชายที่เพิ่งฟื้นตัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้แต่นั่งนิ่งงันอยู่บนเตียงคนไข้สีขาวหลังจากที่ได้รู้ถึงการสูญเสียครอบครัวคนสุดท้ายของเขา น้ำใสๆไหลลงมาเป็นทาง แต่คนบนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะเช็ดมันออกไป....เขาไม่มีเรียวแรงเหลือที่จะทำอะไรแล้วก็แค่นั่น....
.
.
.
"ยูค...ยูคยอมม!" ลิสซี่มองร่างสูงที่เอาแต่เช็ดแก้วที่มันแห้งแล้วให้มันแห้งเข้าไปอีกแล้วก็ต้องส่ายหน้า...
"หื้อ ว่าไงนะ?" คนตัวสูงสะดุ้งสุดตัวหลังจากที่หลดอยู่ในภวังของตัวเองจนไม่ได้คอยสอดส่องมองลูกค้าที่เรียกใช้บริการเหมือนอย่างเคย… เขาก้มมองผ้าผืนสีขาวกับแก้วที่แห้งสนิทแล้วในมือของเขาเอง… ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเหม่อได้ถึงขนาดนี้…
เหม่ออะไร ตั้งใจทำงานสิยูคยอม!
"เรียกตั้งนานไม่หัน...ลูกค้าโต๊ะนู้นเรียกน่ะ ไปสิ" หญิงสาวโบ้ยหน้าไปทาโต๊ะด้านซ้ายมือ...
"อ่อ ครับ...” ยูคยอมพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับออกตัวเดินไปที่โต๊ะที่มีชายหญิงนั่งอยู่... ความรู้สึกตึงๆแล่นขึ้นมาที่ขมับทันทีที่เขาก้าวขาออกไป….
เพล้งงงง !!! ตุ้บบบบ !!!
"ยูคยอม!! /ยูคค!! "
.
.
.
ตึกก ตึกก ตึกก ….
เสียงย้ำเท้าถี่ๆของคนที่เพิ่งได้รับสายจากเพื่อนสาวที่ทำงานว่าคิมยูคยอมเป็นลมล้มพับไปตอนทำงานทำให้เขาต้องรีบเรียกแท็กซี่ตรงจากบ้านเขามาถึงโรงพยาบาลแห่งนี้….
‘มาร์ค!! ยูคยอมเป็นลมมาที่โรงพยาบาลxxx ด่วนเลย’ เสียงปลายสายดูร้อนรนมากจนเขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ….
“ห้อง 506 ไปทางไหนครับ?” มาร์ควิ่งเหยาะๆมาหยุดอยู่ที่เค้าท์เตอร์ เขาพยายามเบาเสียงเดินของตัวเองให้ดีที่สุดเพราะกลัวว่าอาจจะไปรบกวนคนอื่นๆ…เสียงหอบหายใจดังเบาลงเล็กน้อยจากการหยุดวิ่งเมื่อครู่ แต่จังหวะการเต้นของก้อนเนื้อในอกมันไม่ได้ลดลงเลย… ในใจก็กลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรมากรึป่าว…
“ชั้น 2 ห้องอยู่ด้านขวามือนะคะ…” พยาบาลสาวตอบด้วยสีหน้ายิ้มน้อยเมื่อเห็นสภาพของคนที่มาถามทาง… เธอไม่รู้หรอกว่าอีกคนจะต้องเจอสถานการ์ณเลวร้ายขนาดไหนแต่เธอก็ขอให้คนไข้ทุกคนของเธอปลอดภัยดี…
“ขอบคุณครับ” มาร์คก้มหัวเล็กน้อยเป้นเชิงขอบคุณแล้วออกเดินไปตามทางที่เธอคนนั้นบอกมา…
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เขาก็ย้ายตัวเองมาอยู่หน้าห้องพักคนไข้ที่มีป้ายชื่อบอกไว้ว่าเป็นของคนไข้ที่เขารู้จักแน่นอน…
‘Kim Yugyeom’
เสียงบิดประตูทำให้เขาต้องถอยออกมาก้าวนึง มือที่กำลังจะบิดประตูชะงักลงเมื่อคนที่อยู่ด้านไหนดันเปิดออกมาซะก่อน… หญิงสาวผมสีบลอนด์ทองหน้าตาคุ้นเคยมีสีหน้าเป็นกังวล เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเจอร่างบางที่เพิ่งมาถึงเธอก็สวมกอดอีกคนทันที…
“ลิสซี่ เป็นอะไร? ใจเย็นๆนะ ยูคยอมไม่เป็นอะไรหรอกนะ” เขากอดตอบหญิงสาว เธอคงจะตกใจมิใช่น้อยเมื่อจู่ก็มีคนมาเป็นลมล้มพับไปตรงหน้า…
“…”
“ไม่เป็นไรแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะ” เขาโอบไหล่เพื่อนสาวเข้าไปด้านในห้องผู้ป่วย…
.
.
.
สภาพของคนที่นอนอยู่บนเตียงมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ที่ข้อมือ ผิวหน้าที่ดูซีดเซียวน่าสงสารทำให้มาร์คอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่และเศร้าใจ…
คิมยูคยอมที่ดูไม่เหมือนคิมยูคยอมเมื่ออาทิตย์ก่อนเลยซักนิด… เขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่ายูคยอมนั้นพูดน้อยลงมากและมีสีหน้าเหนื่อยๆ เพราะว่าร่างสูงเพิ่งจะมาอยู่ต่างประเทศเหตุผลเดียวที่ทำให้มาร์คนึกได้คือ ยูคยอมอ่านจะคิดถึงที่บ้านเลยพาลให้ไม่สบาย…แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดเป็นลมเป็นแล้งขนาดนี้…
ไม่รู้ว่าทำยังไงถึงปล่อยให้ตัวเองไม่สบายขนาดเป็นลมแบบนี้…
คิ้วของมาร์คขมวดมุ่นเมื่อนึกถึงคนที่ไม่ดูแลตัวเองและทำให้เขายังต้องมาห่วงอีกด้วย… เขาไม่ใช่คนพูดมากและจะไม่พูดอะไรพร่ำเพรื่อ…แถมสิ่งที่เขาเกลียดไม่ใช่ว่าจะต้องมารับภาระคอยดูแลคนป่วยแต่สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่ไม่ดูแลตัวเองให้ดีต่างหาก…
ไม่ชอบเลยจริงๆ ทำไมต้องคอยทำให้เป็นห่วงด้วยนะ!.....
“ลิสซี่กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวมาร์คเฝ้ายูคยอมต่อให้เอง” ชายหนุ่มบอกกล่าวเพื่อสาวคนสนิทให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน เพราะท่าทางเธอดูอิดโรยจากการทำงานมาทั้งวัน… ลิสซี่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะขอตัวลากลับก่อน…
.
.
.
บรรยากาศให้ห้องกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิมหลังจากที่หญิงสาวกลับไป…
“เฮ้ออออ ไอหมีเอ้ย ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย..” มาร์คพูดกับคนที่ยังนอนสลบสไลอยู่บนเตียงเบาๆ ว่าแล้วร่างบางก็จัดการเตรียมน้ำอุ่นและผ้าสะอาดสำหรับเช็ดตัวให้อีกคน… นิ้วเรียวจัดการจุ่มผ้าลงในอ่างน้ำแต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แก้เชือกของเสื้อผู้ป่วยเลย…
“ /////// ” สายตาของเขาไล่ลงไปที่อกหนาที่มีเสื้อผู้ป่วยที่ถูกผูกไว้อย่างหมิ่นเหม่ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรืออะไรหรอกนะ หน้าของเขาดันร้อนขึ้นมาเองทันที่ๆคิดว่าจะต้องแก้เชือกสองเส้นนั้น…
‘ยูคยอมอย่าเพิ่งตื่นมานะ เรายังไม่อยากกลายเป็นไอโรคจิตตอนนี้’….
“ฟู่ววววว…..” คนร่างบางเตรียมใจอยู่ครู่นึงแล้วก็จัดการแก้เชือกและแหวกสาบเสื้อออกจากกันเผยให้เห็นอกเปลื่อยปล่าว…
“อื้ออ ไอบ้า…” ต้วนอี้เอินได้แต่ด่าคนที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ในใจ…ส่วนมือเรียวก็รีบจัดการเช็ดตัวให้เสร็จอย่างรวดเร็วแถมผูกเชือกให้ซะแน่นหนาเลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะแกะออกรึป่าว…
.
.
.
“…” แค่เช็ดตัวให้ก็เหมือนมาร์คต้วนคนนี้ไปออกกำลังกายมาเป็นชั่วโมง… พอนึกไปถึงอกเปลื่อยๆนั่น หน้าก็แดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้…
“โอ้ยยยยยย…..” คนตัวเล็กที่ตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวหนาข้างเตียงผู้ป่วยเมื่อ 20 นาทีที่แล้วได้แต่สบถแบบไม่มีเสียง… พอจะหลับตาทีไรกะละมังกับผ้าขาวก็ลอยมาทุกที….
ตอนนี้เริ่มตกดึก ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงจนมองไม่เห็นอะไรเลย… ด้วยความที่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบเจอเรื่องอะไรลี้ลับในโรงพยาบาลเขาก็ควรที่จะปิดผ้าม่านไปซะ… จะได้ไม่ต้องมากังวลกับเงาสะท้อนหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ข้างนอกหน้าต่าง…
“…” ร่างบางพลิกตัวหันมาทางเตียงผู้ป่วย ไฟสลัวๆจากโคมไฟบนหัวเตียงทำให้เขาเห็นแค่ใบหน้าซีกซ้ายของร่างหนาบนเตียง… มาร์คได้แต่มองสำรวจไปทั่วใบหน้าส่วนที่เขาเห็น… ดวงตาที่ปิดสนิทและจมูกโด่งเป็นสันที่เข้ากับปากเรียวแต่ติดที่ยังดูซีดหน่อยๆ…. ลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่องทำให้มาร์คนึกว่าอีกคนเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด…
เขาก็มีน้องชายที่น่าเอ็นดูเช่นกันแต่ติดที่ว่าน้องชายและเขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้วเนื่องจากชีวิตครอบครัวที่แยกกันไปเมื่อ 5 ปีก่อน…
.
.
ก็อยากจะได้น้องชายเพิ่มอีกคนจะเป็นอะไรมั้ยนะ?
.
.
เสียงอื้ออึงในลำคอของคนที่นอนอยู่บนเตียงทำให้คนที่เผลอหลับไปแล้วตื่นขึ้นมากลางดึก…มาร์คผุดตัวลุกขึ้นมาแล้วรีบมาดูคนที่ส่งเสียงงึมงำจับใจความไม่ได้…
“พ่อ…พ่อครับบ…” เสียงที่หลุดออกมาที่พอจะจับเป็นคำได้ก็มีแต่คำนี้เท่านั้น…. เป็นอย่างที่คิดเลยยูคยอมคงจะคิดถึงพ่อสินะ…
“…” มือบางเอื้อมไปจับมือของอีกคนเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็คอยลูบหัวเบาๆเพื่อกล่อมให้อีกคนสงบลง…
คนบนเตียงดูท่าจะหลับสนิทอีกครั้งแต่ทว่ามือของเขาดันถูกจับเอาไว้ซะแน่นและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ…ต้วนอี้เอินเลยปล่อยให้อีกคนจับมือไว้อย่างนั้น ร่างบางลากเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเขาให้มาเพื่อให้ตัวเองนั่งลงข้างๆเตียง…
.
.
วันนี้จะยอมปล่อยไปแล้วกันถือว่าคิมยูคยอมไม่สบายหรอกนะ…
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยังผสานกันอยู่อย่างนั้น…ถ้าหากมีใครได้เห็นภาพนี้คนๆนั้นก็อาจจะเป็นผู้โชคดีที่สุดเลยก็ได้….
.
.
“…”
เงาดำรูปร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ปลายเตียงทอดสายตามองมาที่ทั้งสองคนแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ…แล้วเงาดำนั้นก็หายไปกับความมืด….
.
.
.
อ่าาา ทำไมมันปวดแบบนี้? เหมือนหัวจะระเบิดให้ได้...
"....อื้อ" ร่างสูงโปร่งที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดขยับตัวเล็กน้อย ความรู้สึกชาที่แขนซ้ายเรียกให้เขาหันหน้าไปดู...
มาร์ค ?
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?
สัมผัสจากเส้นผมสีน้ำตาลแดงของคนที่หลับอยู่บนมือของเขาทำให้คนที่เพิ่งตื่นจากอาการปวดหัวไม่กล้าที่จะขยับตัว ตัวของเขาเองก็ดูเหมือนจะลืมความเจ็บปวดไปครู่หนึ่งเมื่อเสียงโครมครามในใจเหมือนมันจะดังออกมา ยูคยอมหันมองไปรอบๆตัว...ร่างบนเตียงไม่รู้ว่าจะหาคำอธิบายอย่างไรให้ตัวเองดีเพราะที่ๆเขานอนอยู่คือโรงพยาบาล...
"...” แก้มขาวๆที่โผล่พ้นกลุ่มผมนิ่มทำให้คนที่ตื่นแล้วทนไม่ได้ที่จะส่งมือไปเขี่ยมันอย่างเบามือ...
"อืออ..." มาร์คส่งเสียงร้องงัวเงียเมื่อถูกปลุกให้ตื่นด้วยสัมผัสขยุกขยิกที่แก้ม...
“โอ้ยยย!!” คิมยูคยอมรีบชักนิ้วออกมาดู ผิวที่นิ้วของเขาแดงเป็นแถบแถมยังมีรอยฟันแถมมาอีกต่างหาก…
“สมน้ำหน้า หึ!” คนตัวเล็กที่ออกจะหัวยุ่งๆหน่อยเพราะเมื่อคืนเขาดันหลับคาเก้าอี้ถึงเช้า เลยทำให้สภาพเหมือนผีแบบนี้….
“กัดทำไมอ่ะครับ…เนี่ย แดงเลย มีรอยฟันด้วย” คิมยูคยอมทำหน้าเหมือนสุนัขขาดความอบอุ่บแถมยังทำปากยื่นปากงออีก… แหม ถ้าเป็นลูกจะจับตีซะให้เข็ด!
“ก็ใครใช้ให้มาเขี่ยแก้มเล่า! ชิ!....โอะ ปวดหลัง” มาร์คพูดพร้อมกับขยับตัวลุกจากเก้าอี้…แต่ด้วยความที่ความเจ็บปวดตรงหลังทำให้เขาเสียหลักเล็กน้อย…
“ระวังครับ!! / อ้ะ!”
กริ้ก …
“คิมยูคยอมม พวกเรามาเยี่ยมละ…แล้ว…” แบมแบมและผู้มาใหม่อีกสามได้แต่ยืนมองมาที่เตียงคนไข้ตรงกลางห้อง….
“ !!! / !!!”
“…”
“ ดะ เดี๋ยว! มันไม่ใช่แบบนั้น” ร่างบางที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่อยู่บนเตียงเรียบร้อยหันไปมองทางผู้มาเยือนอีกสี่คนที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“ไม่….” แล้วหันกลับมามองคนที่กอดเขาอยู่ ร่างบางมองสลับกันไปมาอย่างนั้น…
ไม่ทันแล้วล่ะ ต้วนอี้เอิน….
.
.
.
Talk ….
มาต่อให้ครบ 100% แล้วนะคะ >< แอบกรี้ดเบาๆตอนแต่ง 555555
เขินอ่ะ ง่อวววววว โมเม้นยูคมาร์ค มี่เอิน มาทีฟิคมาอย่างรวดเร็ว 5555
กรี้ดดดดด จะตายแล้วจ้า XX ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ รีบปั่นสุดกำลังเลย
ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะ ^o^ #ฟิคเลิฟเนชั่น
ความคิดเห็น