ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] :: l o v e - n a t i o n :: [YugMark]*

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 57





     

     

     

     

    Chapter 3

    อดีตแก้ไขไม่ได้ ’

      


    เอี๊ยดดดดดดดด….

     

    ภาพของชายวัยกลางคนที่เขาเห็นถูกเจือจางไปกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก กลางถนนใหญ่ในคืนนั้น… ร่างกายที่เปียกโชกได้แต่เอื้อมมือออกไปหวังว่าจะได้สัมผัสร่างกายของผู้เป็นพ่อเลือดที่ไหลออกมาถูกล้างไปด้วยสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน

     

    พะ พ่อพ่อครับ….”

     

    รถคันสีดำที่คุ้นเคยบัดนี้มีสภาพไม่ต่างจากเศษเหล็ก… ชิ้นส่วนต่างๆกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง ตัวรถด้านหลังถูกยกลอยจากการกระแทกอย่างแรงจากด้านหน้า ล้อรถที่ยังติดอยู่ยังคงหมุนค้างอยู่อย่างนั้น แสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อชั่วครู่นี้เอง

     

    พ่อ…… พ่อ…..”  เขาได้แต่ภาวนาว่านี่คือความฝัน ความฝันที่ว่าเมื่อเขาตื่นมา ทุกความรู้สึกและทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะหายไป….

     

    เสียงรถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยที่ได้ยินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ… พื้นที่ถูกกันไว้เพื่อไม่ให้รถผ่าน ทุกฝ่ายต่างกรูเข้ามาหาเขาและร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นข้าง… ความรู้สึกเจ็บจี้ดในหัวเริ่มปะทุขึ้นมาราวกับว่ามีคนสั่งกดสวิตช์เปิดมัน… บาดแผลฉกรรจ์ตามแขนและขาของเขาเริ่มออกฤทธิ์ ไหล่ทั้งสองข้างถูกยกขึ้นโดยหน่อยกู้ภัยสองคนที่พยายามจะดึงเขาออมาจากรถ… ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่ที่จะพยุงตัวเองให้ยืนได้

     

    พาคนเจ็บไปก่อนเร็ว!!’ 

     

    ร่างกายของเขาถูกวางลงบนเตียงนอนฉุกเฉิน ภาพที่เห็นก่อนที่ประตูจะปิดคือภาพที่พยาบาลและหน่วยกู้ภัยรวมสี่คนกำลังทำ CPR ให้กับผู้เป็นพ่อของเขา

     

    พ่อ….”

     

    สติของเขาดับวูบลงไปพร้อมกับเสียงปิดประตูรถด้านหลัง….

     

     

     

     

    .

     

    .

     

    ::  l o v e  n a t i o n  ::

     

     

    .

     

    .

     

     

    "เฮือก!!"  สัมผัสที่เหมือนจะดิ่งลงหน้าผาทำให้คนที่นอนอยู่สะดุ้งตัวลึกขึ้นมาอย่างฉับพลัน เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามขมับ อากาศภายในห้องนอนของตัวเองร้อนอับอ้าวทั้งๆที่ข้างนอกนั้นดันมีพายุฝนให้เห็นอยู่....

     

    'พ่อ

     

    คำเดียวที่ยูคยอมจำได้จากความฝันเมื่อครู่ เหตุการ์ณครั้งนั้นในอดีตตามมาหลอกหลอนเขาอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา คนๆนั้นก็คงไม่ตาย....

     

    ความรู้สึกผิดยังคอยเกาะกินหัวใจของเขาเรื่อยมา ตอนนี้เขาเหลือตัวคนเดียวแล้วจริงๆ ที่เหลือก็คงจะมีก็แต่แม่เลี้ยงที่ยังไงก็ไม่มีวันที่จะเขาจะได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวจริงหรอกๆ...

     

    ใช่สิ... เขามันก็แค่ลูกติดพ่อ...

     

    "อ่าา ร้อนชะมัด!" ร่างสูงสะบัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง...ในใจก็พาลคิดไปถึงความฝันบ้าๆที่ปลุกเขาขึ้นมากลางดึก...

     

    'ผ่านมาตั้ง 7 ปีแล้ว จะไปฝันถึงมันทำไม...'

     

    เข็มนาฬิกาบนผนังชี้ไปที่เลขสอง....เวลาตีสองสิบสี่นาที...

     

    .

    .

    .

     

     2:14 am

    'คุณพ่อหนูเสียแล้วนะ น้าเสียใจด้วยนะยูคยอม...

    เด็กชายที่เพิ่งฟื้นตัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้แต่นั่งนิ่งงันอยู่บนเตียงคนไข้สีขาวหลังจากที่ได้รู้ถึงการสูญเสียครอบครัวคนสุดท้ายของเขา น้ำใสๆไหลลงมาเป็นทาง แต่คนบนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะเช็ดมันออกไป....เขาไม่มีเรียวแรงเหลือที่จะทำอะไรแล้วก็แค่นั่น....

     

    .

    .

     

    .

     

    "ยูค...ยูคยอมม!" ลิสซี่มองร่างสูงที่เอาแต่เช็ดแก้วที่มันแห้งแล้วให้มันแห้งเข้าไปอีกแล้วก็ต้องส่ายหน้า...

     

    "หื้อ ว่าไงนะ?"  คนตัวสูงสะดุ้งสุดตัวหลังจากที่หลดอยู่ในภวังของตัวเองจนไม่ได้คอยสอดส่องมองลูกค้าที่เรียกใช้บริการเหมือนอย่างเคย เขาก้มมองผ้าผืนสีขาวกับแก้วที่แห้งสนิทแล้วในมือของเขาเอง ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเหม่อได้ถึงขนาดนี้

     

    เหม่ออะไร ตั้งใจทำงานสิยูคยอม!

     

    "เรียกตั้งนานไม่หัน...ลูกค้าโต๊ะนู้นเรียกน่ะ ไปสิ" หญิงสาวโบ้ยหน้าไปทาโต๊ะด้านซ้ายมือ...

     

    "อ่อ ครับ...” ยูคยอมพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับออกตัวเดินไปที่โต๊ะที่มีชายหญิงนั่งอยู่... ความรู้สึกตึงๆแล่นขึ้นมาที่ขมับทันทีที่เขาก้าวขาออกไป….

     

    เพล้งงงง !!! ตุ้บบบบ !!!

     

    "ยูคยอม!! /ยูคค!! " 

     

    .

    .

    .

     

     

    ตึกก  ตึกก  ตึกก ….

     

    เสียงย้ำเท้าถี่ๆของคนที่เพิ่งได้รับสายจากเพื่อนสาวที่ทำงานว่าคิมยูคยอมเป็นลมล้มพับไปตอนทำงานทำให้เขาต้องรีบเรียกแท็กซี่ตรงจากบ้านเขามาถึงโรงพยาบาลแห่งนี้….

     

    มาร์ค!! ยูคยอมเป็นลมมาที่โรงพยาบาลxxx ด่วนเลย  เสียงปลายสายดูร้อนรนมากจนเขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ….

     

    ห้อง 506 ไปทางไหนครับ?” มาร์ควิ่งเหยาะๆมาหยุดอยู่ที่เค้าท์เตอร์ เขาพยายามเบาเสียงเดินของตัวเองให้ดีที่สุดเพราะกลัวว่าอาจจะไปรบกวนคนอื่นๆเสียงหอบหายใจดังเบาลงเล็กน้อยจากการหยุดวิ่งเมื่อครู่ แต่จังหวะการเต้นของก้อนเนื้อในอกมันไม่ได้ลดลงเลยในใจก็กลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรมากรึป่าว

     

    ชั้น 2 ห้องอยู่ด้านขวามือนะคะ…” พยาบาลสาวตอบด้วยสีหน้ายิ้มน้อยเมื่อเห็นสภาพของคนที่มาถามทางเธอไม่รู้หรอกว่าอีกคนจะต้องเจอสถานการ์ณเลวร้ายขนาดไหนแต่เธอก็ขอให้คนไข้ทุกคนของเธอปลอดภัยดี

     

    ขอบคุณครับมาร์คก้มหัวเล็กน้อยเป้นเชิงขอบคุณแล้วออกเดินไปตามทางที่เธอคนนั้นบอกมา

     

    ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เขาก็ย้ายตัวเองมาอยู่หน้าห้องพักคนไข้ที่มีป้ายชื่อบอกไว้ว่าเป็นของคนไข้ที่เขารู้จักแน่นอน

     

    ‘Kim Yugyeom’

     

    เสียงบิดประตูทำให้เขาต้องถอยออกมาก้าวนึง มือที่กำลังจะบิดประตูชะงักลงเมื่อคนที่อยู่ด้านไหนดันเปิดออกมาซะก่อนหญิงสาวผมสีบลอนด์ทองหน้าตาคุ้นเคยมีสีหน้าเป็นกังวล เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเจอร่างบางที่เพิ่งมาถึงเธอก็สวมกอดอีกคนทันที

    ลิสซี่ เป็นอะไร? ใจเย็นๆนะ ยูคยอมไม่เป็นอะไรหรอกนะ”  เขากอดตอบหญิงสาว เธอคงจะตกใจมิใช่น้อยเมื่อจู่ก็มีคนมาเป็นลมล้มพับไปตรงหน้า

    “…”  

    ไม่เป็นไรแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะเขาโอบไหล่เพื่อนสาวเข้าไปด้านในห้องผู้ป่วย

    .

    .

    .

    สภาพของคนที่นอนอยู่บนเตียงมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ที่ข้อมือ ผิวหน้าที่ดูซีดเซียวน่าสงสารทำให้มาร์คอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่และเศร้าใจ

    คิมยูคยอมที่ดูไม่เหมือนคิมยูคยอมเมื่ออาทิตย์ก่อนเลยซักนิด เขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่ายูคยอมนั้นพูดน้อยลงมากและมีสีหน้าเหนื่อยๆ เพราะว่าร่างสูงเพิ่งจะมาอยู่ต่างประเทศเหตุผลเดียวที่ทำให้มาร์คนึกได้คือ ยูคยอมอ่านจะคิดถึงที่บ้านเลยพาลให้ไม่สบายแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดเป็นลมเป็นแล้งขนาดนี้

    ไม่รู้ว่าทำยังไงถึงปล่อยให้ตัวเองไม่สบายขนาดเป็นลมแบบนี้

    คิ้วของมาร์คขมวดมุ่นเมื่อนึกถึงคนที่ไม่ดูแลตัวเองและทำให้เขายังต้องมาห่วงอีกด้วยเขาไม่ใช่คนพูดมากและจะไม่พูดอะไรพร่ำเพรื่อแถมสิ่งที่เขาเกลียดไม่ใช่ว่าจะต้องมารับภาระคอยดูแลคนป่วยแต่สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่ไม่ดูแลตัวเองให้ดีต่างหาก

    ไม่ชอบเลยจริงๆ ทำไมต้องคอยทำให้เป็นห่วงด้วยนะ!.....

    ลิสซี่กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวมาร์คเฝ้ายูคยอมต่อให้เองชายหนุ่มบอกกล่าวเพื่อสาวคนสนิทให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน เพราะท่าทางเธอดูอิดโรยจากการทำงานมาทั้งวันลิสซี่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะขอตัวลากลับก่อน

    .

    .

    .

    บรรยากาศให้ห้องกลับมาเงียบสงบเหมือนเดิมหลังจากที่หญิงสาวกลับไป

    เฮ้ออออ ไอหมีเอ้ย ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย..”  มาร์คพูดกับคนที่ยังนอนสลบสไลอยู่บนเตียงเบาๆ ว่าแล้วร่างบางก็จัดการเตรียมน้ำอุ่นและผ้าสะอาดสำหรับเช็ดตัวให้อีกคน นิ้วเรียวจัดการจุ่มผ้าลงในอ่างน้ำแต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แก้เชือกของเสื้อผู้ป่วยเลย

    “ /////// ” สายตาของเขาไล่ลงไปที่อกหนาที่มีเสื้อผู้ป่วยที่ถูกผูกไว้อย่างหมิ่นเหม่ ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรืออะไรหรอกนะ หน้าของเขาดันร้อนขึ้นมาเองทันที่ๆคิดว่าจะต้องแก้เชือกสองเส้นนั้น

    ยูคยอมอย่าเพิ่งตื่นมานะ เรายังไม่อยากกลายเป็นไอโรคจิตตอนนี้’….

    ฟู่ววววว…..คนร่างบางเตรียมใจอยู่ครู่นึงแล้วก็จัดการแก้เชือกและแหวกสาบเสื้อออกจากกันเผยให้เห็นอกเปลื่อยปล่าว

    อื้ออ ไอบ้า…” ต้วนอี้เอินได้แต่ด่าคนที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ในใจส่วนมือเรียวก็รีบจัดการเช็ดตัวให้เสร็จอย่างรวดเร็วแถมผูกเชือกให้ซะแน่นหนาเลยทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะแกะออกรึป่าว

    .

    .

    .

     

    “…” แค่เช็ดตัวให้ก็เหมือนมาร์คต้วนคนนี้ไปออกกำลังกายมาเป็นชั่วโมงพอนึกไปถึงอกเปลื่อยๆนั่น หน้าก็แดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

    โอ้ยยยยยย…..คนตัวเล็กที่ตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวหนาข้างเตียงผู้ป่วยเมื่อ 20 นาทีที่แล้วได้แต่สบถแบบไม่มีเสียงพอจะหลับตาทีไรกะละมังกับผ้าขาวก็ลอยมาทุกที….

     

    ตอนนี้เริ่มตกดึก ท้องฟ้าข้างนอกมืดลงจนมองไม่เห็นอะไรเลย ด้วยความที่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบเจอเรื่องอะไรลี้ลับในโรงพยาบาลเขาก็ควรที่จะปิดผ้าม่านไปซะจะได้ไม่ต้องมากังวลกับเงาสะท้อนหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ข้างนอกหน้าต่าง

     

    “…” ร่างบางพลิกตัวหันมาทางเตียงผู้ป่วย ไฟสลัวๆจากโคมไฟบนหัวเตียงทำให้เขาเห็นแค่ใบหน้าซีกซ้ายของร่างหนาบนเตียง มาร์คได้แต่มองสำรวจไปทั่วใบหน้าส่วนที่เขาเห็นดวงตาที่ปิดสนิทและจมูกโด่งเป็นสันที่เข้ากับปากเรียวแต่ติดที่ยังดูซีดหน่อยๆ…. ลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่องทำให้มาร์คนึกว่าอีกคนเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด

    เขาก็มีน้องชายที่น่าเอ็นดูเช่นกันแต่ติดที่ว่าน้องชายและเขาไม่ได้เจอกันนานมากแล้วเนื่องจากชีวิตครอบครัวที่แยกกันไปเมื่อ 5 ปีก่อน

    .

    .

    ก็อยากจะได้น้องชายเพิ่มอีกคนจะเป็นอะไรมั้ยนะ?

    .

    .

     

    เสียงอื้ออึงในลำคอของคนที่นอนอยู่บนเตียงทำให้คนที่เผลอหลับไปแล้วตื่นขึ้นมากลางดึกมาร์คผุดตัวลุกขึ้นมาแล้วรีบมาดูคนที่ส่งเสียงงึมงำจับใจความไม่ได้

    พ่อพ่อครับบ…” เสียงที่หลุดออกมาที่พอจะจับเป็นคำได้ก็มีแต่คำนี้เท่านั้น…. เป็นอย่างที่คิดเลยยูคยอมคงจะคิดถึงพ่อสินะ

    “…” มือบางเอื้อมไปจับมือของอีกคนเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็คอยลูบหัวเบาๆเพื่อกล่อมให้อีกคนสงบลง

    คนบนเตียงดูท่าจะหลับสนิทอีกครั้งแต่ทว่ามือของเขาดันถูกจับเอาไว้ซะแน่นและไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆต้วนอี้เอินเลยปล่อยให้อีกคนจับมือไว้อย่างนั้น ร่างบางลากเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเขาให้มาเพื่อให้ตัวเองนั่งลงข้างๆเตียง

    .

    .

    วันนี้จะยอมปล่อยไปแล้วกันถือว่าคิมยูคยอมไม่สบายหรอกนะ

    ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ยังผสานกันอยู่อย่างนั้นถ้าหากมีใครได้เห็นภาพนี้คนๆนั้นก็อาจจะเป็นผู้โชคดีที่สุดเลยก็ได้….

    .

    .

    “…”

    เงาดำรูปร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ปลายเตียงทอดสายตามองมาที่ทั้งสองคนแล้วยกยิ้มอย่างพอใจแล้วเงาดำนั้นก็หายไปกับความมืด….

     

    .

    .

    .

     

     อ่าาา ทำไมมันปวดแบบนี้? เหมือนหัวจะระเบิดให้ได้...


    "....อื้อ" ร่างสูงโปร่งที่นอนอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดขยับตัวเล็กน้อย ความรู้สึกชาที่แขนซ้ายเรียกให้เขาหันหน้าไปดู...

     

    มาร์ค


    ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่


    สัมผัสจากเส้นผมสีน้ำตาลแดงของคนที่หลับอยู่บนมือของเขาทำให้คนที่เพิ่งตื่นจากอาการปวดหัวไม่กล้าที่จะขยับตัว ตัวของเขาเองก็ดูเหมือนจะลืมความเจ็บปวดไปครู่หนึ่งเมื่อเสียงโครมครามในใจเหมือนมันจะดังออกมา ยูคยอมหันมองไปรอบๆตัว...ร่างบนเตียงไม่รู้ว่าจะหาคำอธิบายอย่างไรให้ตัวเองดีเพราะที่ๆเขานอนอยู่คือโรงพยาบาล...

     

    "...” แก้มขาวๆที่โผล่พ้นกลุ่มผมนิ่มทำให้คนที่ตื่นแล้วทนไม่ได้ที่จะส่งมือไปเขี่ยมันอย่างเบามือ...

     

    "อืออ..." มาร์คส่งเสียงร้องงัวเงียเมื่อถูกปลุกให้ตื่นด้วยสัมผัสขยุกขยิกที่แก้ม...

     

    โอ้ยยย!!” คิมยูคยอมรีบชักนิ้วออกมาดู ผิวที่นิ้วของเขาแดงเป็นแถบแถมยังมีรอยฟันแถมมาอีกต่างหาก

     

    สมน้ำหน้า หึ!” คนตัวเล็กที่ออกจะหัวยุ่งๆหน่อยเพราะเมื่อคืนเขาดันหลับคาเก้าอี้ถึงเช้า เลยทำให้สภาพเหมือนผีแบบนี้….

     

    กัดทำไมอ่ะครับเนี่ย แดงเลย มีรอยฟันด้วยคิมยูคยอมทำหน้าเหมือนสุนัขขาดความอบอุ่บแถมยังทำปากยื่นปากงออีกแหม ถ้าเป็นลูกจะจับตีซะให้เข็ด!

     

    ก็ใครใช้ให้มาเขี่ยแก้มเล่า! ชิ!....โอะ ปวดหลัง”  มาร์คพูดพร้อมกับขยับตัวลุกจากเก้าอี้แต่ด้วยความที่ความเจ็บปวดตรงหลังทำให้เขาเสียหลักเล็กน้อย

     

    ระวังครับ!! / อ้ะ!”

    กริ้ก

     

    คิมยูคยอมม พวกเรามาเยี่ยมละแล้ว…” แบมแบมและผู้มาใหม่อีกสามได้แต่ยืนมองมาที่เตียงคนไข้ตรงกลางห้อง….

     

    “ !!! / !!!”

     

    “…”

     

    ดะ เดี๋ยว! มันไม่ใช่แบบนั้น”  ร่างบางที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่อยู่บนเตียงเรียบร้อยหันไปมองทางผู้มาเยือนอีกสี่คนที่ยืนอยู่หน้าห้อง

     

    ไม่.แล้วหันกลับมามองคนที่กอดเขาอยู่ ร่างบางมองสลับกันไปมาอย่างนั้น

     

    ไม่ทันแล้วล่ะ ต้วนอี้เอิน….

     

    .

    .

    .

     

     

    Talk ….

    มาต่อให้ครบ 100% แล้วนะคะ >< แอบกรี้ดเบาๆตอนแต่ง 555555

    เขินอ่ะ ง่อวววววว โมเม้นยูคมาร์ค มี่เอิน มาทีฟิคมาอย่างรวดเร็ว 5555

    กรี้ดดดดด จะตายแล้วจ้า XX ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ รีบปั่นสุดกำลังเลย

    ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะ ^o^ #ฟิคเลิฟเนชั่น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×