คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ' Policier ' : Chapter 3
Chapter 3
.
.
.
.
"แฮ่ก...แฮ่ก..." เสียงดังจ๊วบดังขึ้นหลังจากที่เขาผละหน้าออกมาและดันอกอีกคนออกจากตัวเอง...ร่างบางหอบหายใจขึ้นลงเล็กน้อย...เขาดึงสติตัวเองกลับมา...
'ไม่ได้ ต้วนอี้เอิน!'
"อือออออ~" เสียงครางต่ำดังอยู่ในลำคอของร่างหนาที่ทำหน้าที่เป็นเบาะรองนั่งให้เขาอยู่ตอนนี้...
เบาะมันเริ่มแข็งแล้วสิ... ทำยังไงดี...
"นี่! คิมยูคยอม มีสติหน่อย" ร่างบางตบหน้าอีกคนเบาๆ...แถมยังส่งมืออีกข้างไปหยิกเอวอีกคนด้วย...แต่ดูเหมือนว่าคนโดนทำร้ายจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย...
"...ครับบบบ...." เสียงตอบรับเบาๆจากร่างสูงที่เอาแต่ซุกไซ้และสูดดมความหอมจากตัวของคนตัวเล็ก...
"อ้ะ...!!" มือหนาเริ่มความหาปลายเสื้อและทำการสอดมือเข้าไปทางปลายด้านหลังของเสื้อเชิตตัวบางที่หลุดลุ่ยออกมาของร่างเล็ก...
"หยุดด!!!" ใบมีดเล็กถูกวางไว้ตรงลำคอหนาเป็นคำเตือนจากคนถูกเอาเปรียบ... ร่างสูงชะงักไปนิดหน่อย...
อย่าลืมสิ เขาเองก็ตำรวจนะ... เขาไม่ได้อ่อนแอ...
"ถ้าไม่หยุดจะปาดคอเดี๋ยวนี้แหละ" ร่างบางเอนตัวเข้าหาอีกคนมากขึ้นเพื่อซ่อนของมีคมทีติดตัวเขาตลอดเวลา...พร้อมกับสายตาที่บอกว่าเขานั้นกล้าพูดก็กล้าทำ...
"แต่ถ้าอยากให้เพื่อนคุณเห็นก็ตามใจ...แต่ผมยังอยากทำงานกับคุณ..." คิมยูคยอมฝืนตัวกับแรงบนมีดที่กดลงมา...เขาเองกลับเป็นคนที่ขยับเข้าหาความคมนั้นเอง... ผิวเนียนเริ่มเกิดรอยแดงและเลือดที่ไหลซิบออกมาทำให้ต้วนอี้เอินต้องผ่อนแรงลง...
"อื้อ!" มือหนาส่งมาประคองใบหน้าของเขาให้หลบจากรัศมีการมองเห็นของเพื่อนร่วมงานคนทรยศของเขา...ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกับอีกครั้ง...แต่ไม่มีการรุกล้ำ...
ดวงตาคมมองไปด้านหลังเขาหรือทางที่แบมแบมยืนอยู่.... เขาเองก็เกือบจะตามไม่ทันความคิดของอีกคนเช่นกัน...แต่พอเห็นสายตาที่ไม่ได้มองมาทางเขาแล้วก็เข้าใจในการกระทำของอีกคน…
“หึ…ทุเรศลูกตาชะมัด” เสียงพูดจากทางด้านหลังพร้อมกับยิ้มเหยียดๆที่ถูกส่งมาให้คนสองคนที่ดูเหมือนว่าจะกำลังนัวเนียกันอยู่บนโซฟาทำให้อี้เอินเกือบจะหันกลับไปมองแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามือสองข้างที่รั้งใบหน้าของเขาไว้อยู่ แม่จะหันไปด่าให้เสียหมาเลยคอยดู!
“อื้อ!!” มือบางสองข้างกระตุกชายเสื้ออีกคนเป็นสัญญาณบอกให้ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้ แต่อีกคนยังคงค้างอยู่อย่างนั้นแถมยังมาทำตายิ้มใส่อีกต่างหาก…
คิมยูคยอม!!
อี้เอินเป็นตำรวจ…ถ้าจะฆ่าผู้ร้ายคงไม่ผิดใช่มั้ยครับ!?
“…อื้อออ ” ครั้งนี้เขาเองมั่นใจว่าเพื่อนร่วมงานของเขาคงเดินจากไปแล้วแน่ๆ แต่ที่อีกคนไม่ยอมปล่อยเพราะคงอยากจะแกล้งเขาอีกน่ะสิ…ความชุ่มแฉะบนริมฝีปากทำให้เขาต้องสะดุ้งอีกรอบ…
คิมยูคยอม!! ไม่เอาลิ้น!!!
.
.
.
ฮึ้ยยยยย!! เปลืองตัวชะมัด…
ร่างบางที่นั่งอยู่ในรถโดยสารคันใหญ่ที่ตอนนี้ไม่มีผู้ใช้บริการเหลือแล้วได้แต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ริมหน้าต่างโดยมีคนที่สร่างเมาแล้วนั่งเป็นเพื่อน…
ต้วนอี้เอิน…ไม่ได้ขับรถมาวันนี้…
คิมยูคยอมก็เช่นกัน…
กริ๊งงงง
ร่างบางตัดสินใจกดกริ่งลงป้ายหน้าเพราะเขาอยากจะลงมันซะตอนนี้ แต่อีกคนยังไม่วายตามลงมาอีกจนได้… ไม่มีบทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่… ระหว่างคุณตำรวจและคุณผู้ร้ายยังคงมีแต่ความเงียบ… ร่างสองร่างเดินไปตามทางเรื่อยๆ
ทางเดินในสวนสาธรณะเลียบแม่น้ำในตอนดึกๆก็สวยงามดีจนตัวเขาก็อดยิ้มไม่ได้ โอกาสที่จะได้มาเดินเล่นเรื่อยเปื่อยแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยซะหน่อย… คนตัวเล็กอดที่จะชื่นชมความงามของธรรมชาติไม่ได้ สายน้ำไหลเอื่อยกับอากาศที่ไม่ได้เย็นมากจนเขาต้องห่อตัว ทำให้รู้สึกสดชื่นกว่าอยู่ในที่แคบๆมืดๆเมื่อไม่กี่นาทีก่อนมากเลย…
“…” เสื้อสูทสีดำตัวใหญ่กว่าตัวเขาถูกวางอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเขา…อี้เอินหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆที่ตอนนี้สวมแค่เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมเม็ดบนพร้อมกับทำหน้าสงสัย…
“ไม่หนาวเอามาให้ทำไม?” ถึงคนตัวเล็กจะพูดแบบนั้นแต่มือก็กระชับเสื้อคลุมบนไหล่ของตัวเอง…มีเสื้อคลุมก็ดีนะ ก็ว่าอยู่ว่าเสื้อตัวเองบางไปหน่อย…
“คลุมไว้น่ะ.." เสียงที่ติดจะรำคาญหน่อยๆของอีกคนทำให้อี้เอินเองสะดุ้งไปเล็กน้อยเมื่ออีกคนย้อนกลับมา...ก็ปกติมีแต่เขาเองนี่แหละที่ทำน้ำเสียงรำคาญอีกคน... สะอึกไปสิ ต้วนอี้เอิน...
"...อืม...แล้ว...แปบนะ.." มือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาถูกหยิบออกมารับสาย... สายตรงจากเจ้าหน้าที่ประสานงานบอกกล่าวให้คนถูกโทรตามให้ไปที่สถานที่อย่างเร็วที่สุด...
"ได้ครับ ผมน่าจะถึงอีกประมาณ 15 นาทีครับ..." ร่างบางตัดสายทิ้งก่อนจะหันไปถามอีกคนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด...
"คิมยูคยอม นายไปกับฉันได้ไหม?" คุณตำรวจหนุ่มถามคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา... ที่เขาหมายถึงคือมีใครรู้รึเปล่าว่าคนๆนี้จริงๆแล้วคือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชวยองจุนแถมยังทำงานให้ฝ่ายตำรวจอย่างเขาอีก...
"ได้ ไปสิ”
- Policier -
.
.
.
“โกดังนี่มัน…” สถานที่ๆถูกแจ้งมาทางตำรวจว่าให้เขาเข้ามาสำรวจความเรียบร้อยในตอนกลางคืนอย่างเร่งด่วน…
ทำไม?
หลังจากที่ตามโลเคชั่นที่ถูกแชร์มาจากสำนักงานตำรวจแล้ว ร่างบางก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะว่าที่นี่เหมือนโกดังที่เขาเคยเกือบถูกลอบฆ่ามาแล้วจากการทำคดีโหด… มันเหมือนมาก แต่ว่าไม่ใช่…
“มันมีสองที่ใช่มั้ย?” คิมยูคยอมถามเหมือนจะเดาความคิดของเขาออก… ร่างสูงยังคงเดินสำรวจรอบๆอย่างสงสัยเช่นกัน…
ทำไมถึงต้องมีโกดังสองที่ๆเหมือนกัน?
“…” ทั้งสองคนแยกย้ายกันสำรวจรอบๆโกดัง โต๊ะตัวนึงถูกวางไว้ทางด้านซ้ายมือสุด ถัดจากกองกระดาษและกล่องไม้ที่ถูกเปิดทั้งหลาย… อี้เอินเดินเข้าไปสำรวจบนโต๊ะและลองเปิดลิ้นชักดูเช่นกันแต่ก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ…
“นี่อะไร?” ปืนกระบอกเล็กถูกหยิบขึ้นมาโดยร่างเล็กที่ไปเตะมันเข้าโดยบังเอิญ… ร่างสูงหันกลับมามองเขาเช่นกัน….
ปั้งงงงงง!!
เสียงกระแทกประตูบานใหญ่อย่างแรงทำให้เขาตกใจมากจนเผลอยกปืนขึ้นมาจ่อไปทางประตู…แสงไฟสีขาวจ้าทำให้มองไม่เห็นสิ่งที่อยู่อีกฟากหนึ่งของประตู… จุดไฟแดงๆที่แขนและขาของเขาเรียกความสนใจไปได้ไม่น้อย…
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!?
“วางปืนลงซะคุณต้วนอี้เอิน!…คุณถูกจับในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดกับเชวยองจุนแล้ว” เสียงที่ดังมาจากลำโพงบนรถสีขาวน้ำเงินที่ทุกคนคุ้นเคย…
“วางปืนลงเถอะคุณอี้เอิน” น้ำเสียงคุ้นเคยที่เหมือนเพิ่งจะได้ยินเมื่อไม่นานช่วยพูดให้เขาวางปืนลง…
“แบมแบมหรอ?” หึ เสียงที่ดังออกมาจากรอยยิ้มของเจ้าของชื่อทำให้ร่างบางต้องกำมือแน่น… มุมปากของคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมงานยกยิ้มขึ้นอย่างมีชัย…
ต้วนอี้เอิน ตั้งสติสิ! ในสถานการ์ณแบบนี้นายควรทำอย่างไร… ร่างบางมองไปทางขวาที่เคยมีอีกคนยืนอยู่…
หายไปแล้ว…
“คิมยูคยอม…” เขาเรียกชื่ออีกคนเบาๆอย่างหมดหวัง…แถมตอนนี้มือที่ถือปืนกระบอกเล่นก็เริ่มสั่นแล้วด้วย…
ร่างเล็กกำลังถูกรุมเร้าด้วยความงงงวย…จู่ๆตัวเองที่กำลังตามสืบเกี่ยวกับเชวยองจุนดันมาถูกจับซะเองด้วยข้อหาที่ไม่มีความเป็นไปได้เลยซักนิด… ความรู้สึกเหมือนโดนทุกคนหักหลังมันทำให้เขาหมดหวังในการที่จะคิดอะไรแล้ว…
“อี้เอิน!…ทางนี้!!…” เสียงเรียกจากด้านหลังกล่องไม้กล่องใหญ่พร้อมกับคนที่โผล่เสี้ยวหน้ามาให้เขาเห็น...ความรู้สึกโล่งใจที่ร่างสูงไม่ได้ทิ้งไปอย่างที่เขาคิดทำให้เขาทิ้งปืนแล้วออกตัววิ่งทันที….
“ไป!!….” ยูคยอมจับมือเขาพร้อมกับออกตัววิ่งไปด้านหลังของโกดังที่มีช่องทางแค่พอดีตัวสำหรับการหนีออกจากสถานที่ดังกล่าว…เสียงฝีเท้าคนนับสิบยังคงตามพวกเขามาเรื่อยๆ… เขาสองคนวิ่งมาตามทางที่ตรอกแคบด้านหลังของโกดัง ความมืดยังคงปกคลุมท้องฟ้าทำให้เขาไม่อาจจะมองเห็นทางข้างหน้าได้มากมายนัก…
“เวรเอ้ย!” กำแพงสูงเกือบสองเมตรทำให้เขาทั้งคู่ชะงัก…เหงื่อผุดพรายตามขมับของทั้งคู่จากการวิ่งมาราธอนครั้งใหญ่ที่ไม่ได้หยุดพักเลย… สายตามองหาทางรอดอื่นที่น่าจะเป็นไปได้…แสงจากไฟฉายหลายอันส่องมาจากทางด้านหลังยิ่งทำให้ใจของต้วนอี้เอินเต้นเร็วขึ้นเป็นร้อยเท่า…
“อี้เอิน…ปีนเลย!” ไม่ทันจะได้ตั้งตัว…ร่างทั้งร่างถูกยกลอยขึ้นจากพื้น มือบางคว้าขอบกำแพงเอาไว้ก่อนที่ตะกายตัวเองขึ้นไปเพื่อข้ามไปอีกฟากนึง…มือบางยื่นออกไปพร้อมที่จะช่วยดึงอีกคนให้ข้ามมาด้วยกัน… แต่อีกคนยังคงยื่นนิ่ง…
“ทำไมไม่ขึ้นมา?” เขาละงงกับการกระทำของร่างสูงตรงหน้าจริงๆ…เวลาน่าสิ่วน่าขวานแบบนี้ยังมายิ้มอยู่ได้…
“เดี๋ยวผมตามไปนะครับ…” สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากหน้าที่ฝ่ามือที่ยื่นออกไปของเขาทำให้หน้าที่ร้อนอยู่แล้วร้อนเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า…
อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ!!
“!!!” แรงดึงจากด้านหลังทำให้เขาร่วงลงจากกำแพงอย่างไม่ต้องสงสัย…ชายหนุ่มที่เป็นเบาะรองรับเขาอยู่ตอนนี้ได้แต่โอดครวญด้วยความเจ็บปวด…
“อ๊ะ! โอ๊ยย!!” ด้วยความเคยชินจากการที่เขาต้องป้องกันตัวเองจากเหตุฉุกเฉินตลอดเวลา ร่างบางรวบมือของคนแปลกหน้าไว้ด้านหลังพร้อมกับกดใบหน้าให้ติดลงไปกับพื้น…
“นายเป็นใคร!?” ต้วนอี้เอินสวมบทตำรวจหนุ่มทันที…
“คิมยูคยอม…หะ ให้มารับครับ” ชายแปลกหน้าที่รูปร่างเพรียวไม่ต่างกับเขาพูดขึ้นก่อนที่จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ…
“รับไปไหน?” ร่างบางถอนหายใจออกมาน้อยๆก่อนที่จะถามถึงสถานที่ๆพวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปเพื่อเป็นที่ซ่อนตัว…
“ไปบ้านคิมยูคยอม...”
“คิมยูคยอมจะตามมาใช่มั้ย?” เสียงใสเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เขาจะยอมขึ้นรถไปกับคนของหมอนั่น… ร่างเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับยิ้มกว้างให้เขา…
“ครับ…เดี๋ยวเขาจะตามไปเอง” ใบหน้าที่ดูเป็นมิตรทำให้เขาตายใจ…
“…” คุณตำรวจก้าวขึ้นมาบนรถที่กำลังจะมุ่งหน้าไปทางชานเมือง รถคันสวยวิ่งไปตามถนนด้วยความเร็วปานกลาง…
‘ปาร์ค จินยอง’
เข็มกลัดแวววาวที่วางอยู่หน้ารถดึงดูดสายตาของคนที่เคยทำหน้าที่เป็นตำรวจมากนัก จนต้องถึงกับเอ่ยถามคนขับรถให้เขา…
“นี่ทำงานอะไรถึงต้องมีเข็มกลัดแบบนั้นด้วย?”
“ผมทำงานที่โรงแรมน่ะครับ…คุณต้วนอี้เอิน” ร่างบางยกยิ้มให้อย่างเป็นมิตรทำให้เขาเองอดที่จะยิ้มตอบไปไม่ได้…
“…”
ถึงใบหน้าจะเป็นมิตรก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชื่อใจคนๆนี้ได้หรอกนะ…
มันแปลก…มันจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ…เขาเองในตอนนี้เชื่อใจใครไม่ได้อีกแล้ว แม้แต่ตำรวจด้วยกันเองยังหักหลัก ที่ทำได้ตอนนี้คือเชื่อใจอีกคน ที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน…
คนที่ฝากรอยจูบไว้บนฝ่ามือข้างขวาของเขา…
.
.
.
TBC.
กราบขออภัยในความช้า 555+
ฝากแท้กฟิคด้วยจ้า… #ฟิคPolicier
รักทุกคน <3
ความคิดเห็น