ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ' Policier ' - YugMark ft.GOT7

    ลำดับตอนที่ #4 : ' Policier ' : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 57



     

     
     

    Chapter 3

     

     
     

    .

    .
    .
    .

    "แฮ่ก...แฮ่ก..." เสียงดังจ๊วบดังขึ้นหลังจากที่เขาผละหน้าออกมาและดันอกอีกคนออกจากตัวเอง...ร่างบางหอบหายใจขึ้นลงเล็กน้อย...เขาดึงสติตัวเองกลับมา...


    'ไม่ได้ ต้วนอี้เอิน!'


    "อือออออ~" เสียงครางต่ำดังอยู่ในลำคอของร่างหนาที่ทำหน้าที่เป็นเบาะรองนั่งให้เขาอยู่ตอนนี้...


    เบาะมันเริ่มแข็งแล้วสิ... ทำยังไงดี...


    "นี่! คิมยูคยอม มีสติหน่อย" ร่างบางตบหน้าอีกคนเบาๆ...แถมยังส่งมืออีกข้างไปหยิกเอวอีกคนด้วย...แต่ดูเหมือนว่าคนโดนทำร้ายจะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย...


    "...ครับบบบ...." เสียงตอบรับเบาๆจากร่างสูงที่เอาแต่ซุกไซ้และสูดดมความหอมจากตัวของคนตัวเล็ก...


    "อ้ะ...!!" มือหนาเริ่มความหาปลายเสื้อและทำการสอดมือเข้าไปทางปลายด้านหลังของเสื้อเชิตตัวบางที่หลุดลุ่ยออกมาของร่างเล็ก...


    "หยุดด!!!" ใบมีดเล็กถูกวางไว้ตรงลำคอหนาเป็นคำเตือนจากคนถูกเอาเปรียบ... ร่างสูงชะงักไปนิดหน่อย...



    อย่าลืมสิ เขาเองก็ตำรวจนะ... เขาไม่ได้อ่อนแอ...



    "ถ้าไม่หยุดจะปาดคอเดี๋ยวนี้แหละ" ร่างบางเอนตัวเข้าหาอีกคนมากขึ้นเพื่อซ่อนของมีคมทีติดตัวเขาตลอดเวลา...พร้อมกับสายตาที่บอกว่าเขานั้นกล้าพูดก็กล้าทำ...


    "แต่ถ้าอยากให้เพื่อนคุณเห็นก็ตามใจ...แต่ผมยังอยากทำงานกับคุณ..." คิมยูคยอมฝืนตัวกับแรงบนมีดที่กดลงมา...เขาเองกลับเป็นคนที่ขยับเข้าหาความคมนั้นเอง... ผิวเนียนเริ่มเกิดรอยแดงและเลือดที่ไหลซิบออกมาทำให้ต้วนอี้เอินต้องผ่อนแรงลง...


    "อื้อ!" มือหนาส่งมาประคองใบหน้าของเขาให้หลบจากรัศมีการมองเห็นของเพื่อนร่วมงานคนทรยศของเขา...ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกับอีกครั้ง...แต่ไม่มีการรุกล้ำ...

    ดวงตาคมมองไปด้านหลังเขาหรือทางที่แบมแบมยืนอยู่.... เขาเองก็เกือบจะตามไม่ทันความคิดของอีกคนเช่นกัน...แต่พอเห็นสายตาที่ไม่ได้มองมาทางเขาแล้วก็เข้าใจในการกระทำของอีกคน

     

    หึทุเรศลูกตาชะมัดเสียงพูดจากทางด้านหลังพร้อมกับยิ้มเหยียดๆที่ถูกส่งมาให้คนสองคนที่ดูเหมือนว่าจะกำลังนัวเนียกันอยู่บนโซฟาทำให้อี้เอินเกือบจะหันกลับไปมองแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามือสองข้างที่รั้งใบหน้าของเขาไว้อยู่ แม่จะหันไปด่าให้เสียหมาเลยคอยดู!

     

    อื้อ!!”  มือบางสองข้างกระตุกชายเสื้ออีกคนเป็นสัญญาณบอกให้ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้ แต่อีกคนยังคงค้างอยู่อย่างนั้นแถมยังมาทำตายิ้มใส่อีกต่างหาก

    คิมยูคยอม!!

     

    อี้เอินเป็นตำรวจถ้าจะฆ่าผู้ร้ายคงไม่ผิดใช่มั้ยครับ!?
     

    “…อื้อออ ครั้งนี้เขาเองมั่นใจว่าเพื่อนร่วมงานของเขาคงเดินจากไปแล้วแน่ๆ แต่ที่อีกคนไม่ยอมปล่อยเพราะคงอยากจะแกล้งเขาอีกน่ะสิความชุ่มแฉะบนริมฝีปากทำให้เขาต้องสะดุ้งอีกรอบ

     

    คิมยูคยอม!! ไม่เอาลิ้น!!!

     

    .

    .

    .

     

    ฮึ้ยยยยย!! เปลืองตัวชะมัด

     

    ร่างบางที่นั่งอยู่ในรถโดยสารคันใหญ่ที่ตอนนี้ไม่มีผู้ใช้บริการเหลือแล้วได้แต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ริมหน้าต่างโดยมีคนที่สร่างเมาแล้วนั่งเป็นเพื่อน

     

    ต้วนอี้เอินไม่ได้ขับรถมาวันนี้

     

    คิมยูคยอมก็เช่นกัน

     

    กริ๊งงงง

     

    ร่างบางตัดสินใจกดกริ่งลงป้ายหน้าเพราะเขาอยากจะลงมันซะตอนนี้ แต่อีกคนยังไม่วายตามลงมาอีกจนได้ ไม่มีบทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ ระหว่างคุณตำรวจและคุณผู้ร้ายยังคงมีแต่ความเงียบร่างสองร่างเดินไปตามทางเรื่อยๆ

     

    ทางเดินในสวนสาธรณะเลียบแม่น้ำในตอนดึกๆก็สวยงามดีจนตัวเขาก็อดยิ้มไม่ได้ โอกาสที่จะได้มาเดินเล่นเรื่อยเปื่อยแบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยซะหน่อย คนตัวเล็กอดที่จะชื่นชมความงามของธรรมชาติไม่ได้ สายน้ำไหลเอื่อยกับอากาศที่ไม่ได้เย็นมากจนเขาต้องห่อตัว ทำให้รู้สึกสดชื่นกว่าอยู่ในที่แคบๆมืดๆเมื่อไม่กี่นาทีก่อนมากเลย

     

    “…” เสื้อสูทสีดำตัวใหญ่กว่าตัวเขาถูกวางอยู่บนไหล่ทั้งสองข้างของเขาอี้เอินหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆที่ตอนนี้สวมแค่เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมเม็ดบนพร้อมกับทำหน้าสงสัย

     

    ไม่หนาวเอามาให้ทำไม?” ถึงคนตัวเล็กจะพูดแบบนั้นแต่มือก็กระชับเสื้อคลุมบนไหล่ของตัวเองมีเสื้อคลุมก็ดีนะ ก็ว่าอยู่ว่าเสื้อตัวเองบางไปหน่อย

     

    คลุมไว้น่ะ.." เสียงที่ติดจะรำคาญหน่อยๆของอีกคนทำให้อี้เอินเองสะดุ้งไปเล็กน้อยเมื่ออีกคนย้อนกลับมา...ก็ปกติมีแต่เขาเองนี่แหละที่ทำน้ำเสียงรำคาญอีกคน... สะอึกไปสิ ต้วนอี้เอิน...

     

    "...อืม...แล้ว...แปบนะ.." มือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาถูกหยิบออกมารับสาย... สายตรงจากเจ้าหน้าที่ประสานงานบอกกล่าวให้คนถูกโทรตามให้ไปที่สถานที่อย่างเร็วที่สุด...

     

    "ได้ครับ ผมน่าจะถึงอีกประมาณ 15 นาทีครับ..." ร่างบางตัดสายทิ้งก่อนจะหันไปถามอีกคนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด...

     

    "คิมยูคยอม นายไปกับฉันได้ไหม?" คุณตำรวจหนุ่มถามคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา... ที่เขาหมายถึงคือมีใครรู้รึเปล่าว่าคนๆนี้จริงๆแล้วคือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชวยองจุนแถมยังทำงานให้ฝ่ายตำรวจอย่างเขาอีก...

     

    "ได้ ไปสิ

     

    -      Policier   -

     

    .

    .

    .

     

    โกดังนี่มัน…” สถานที่ๆถูกแจ้งมาทางตำรวจว่าให้เขาเข้ามาสำรวจความเรียบร้อยในตอนกลางคืนอย่างเร่งด่วน

     

    ทำไม?

     

    หลังจากที่ตามโลเคชั่นที่ถูกแชร์มาจากสำนักงานตำรวจแล้ว ร่างบางก็ต้องตกใจอย่างมาก เพราะว่าที่นี่เหมือนโกดังที่เขาเคยเกือบถูกลอบฆ่ามาแล้วจากการทำคดีโหด มันเหมือนมาก แต่ว่าไม่ใช่

     

    มันมีสองที่ใช่มั้ย?” คิมยูคยอมถามเหมือนจะเดาความคิดของเขาออก ร่างสูงยังคงเดินสำรวจรอบๆอย่างสงสัยเช่นกัน

     

    ทำไมถึงต้องมีโกดังสองที่ๆเหมือนกัน?

     

    “…” ทั้งสองคนแยกย้ายกันสำรวจรอบๆโกดัง โต๊ะตัวนึงถูกวางไว้ทางด้านซ้ายมือสุด ถัดจากกองกระดาษและกล่องไม้ที่ถูกเปิดทั้งหลาย อี้เอินเดินเข้าไปสำรวจบนโต๊ะและลองเปิดลิ้นชักดูเช่นกันแต่ก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ

     

    นี่อะไร?”  ปืนกระบอกเล็กถูกหยิบขึ้นมาโดยร่างเล็กที่ไปเตะมันเข้าโดยบังเอิญร่างสูงหันกลับมามองเขาเช่นกัน….

     

    ปั้งงงงงง!!

     

    เสียงกระแทกประตูบานใหญ่อย่างแรงทำให้เขาตกใจมากจนเผลอยกปืนขึ้นมาจ่อไปทางประตูแสงไฟสีขาวจ้าทำให้มองไม่เห็นสิ่งที่อยู่อีกฟากหนึ่งของประตูจุดไฟแดงๆที่แขนและขาของเขาเรียกความสนใจไปได้ไม่น้อย

     

    นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!?

     

    วางปืนลงซะคุณต้วนอี้เอิน!…คุณถูกจับในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดกับเชวยองจุนแล้วเสียงที่ดังมาจากลำโพงบนรถสีขาวน้ำเงินที่ทุกคนคุ้นเคย

     

    วางปืนลงเถอะคุณอี้เอินน้ำเสียงคุ้นเคยที่เหมือนเพิ่งจะได้ยินเมื่อไม่นานช่วยพูดให้เขาวางปืนลง

     

    แบมแบมหรอ?” หึ เสียงที่ดังออกมาจากรอยยิ้มของเจ้าของชื่อทำให้ร่างบางต้องกำมือแน่น มุมปากของคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมงานยกยิ้มขึ้นอย่างมีชัย

     

    ต้วนอี้เอิน ตั้งสติสิ! ในสถานการ์ณแบบนี้นายควรทำอย่างไรร่างบางมองไปทางขวาที่เคยมีอีกคนยืนอยู่

     

    หายไปแล้ว

     

    คิมยูคยอม…” เขาเรียกชื่ออีกคนเบาๆอย่างหมดหวังแถมตอนนี้มือที่ถือปืนกระบอกเล่นก็เริ่มสั่นแล้วด้วย

    ร่างเล็กกำลังถูกรุมเร้าด้วยความงงงวยจู่ๆตัวเองที่กำลังตามสืบเกี่ยวกับเชวยองจุนดันมาถูกจับซะเองด้วยข้อหาที่ไม่มีความเป็นไปได้เลยซักนิดความรู้สึกเหมือนโดนทุกคนหักหลังมันทำให้เขาหมดหวังในการที่จะคิดอะไรแล้ว

     

    อี้เอิน!…ทางนี้!!…” เสียงเรียกจากด้านหลังกล่องไม้กล่องใหญ่พร้อมกับคนที่โผล่เสี้ยวหน้ามาให้เขาเห็น...ความรู้สึกโล่งใจที่ร่างสูงไม่ได้ทิ้งไปอย่างที่เขาคิดทำให้เขาทิ้งปืนแล้วออกตัววิ่งทันที….

     

    ไป!!. ยูคยอมจับมือเขาพร้อมกับออกตัววิ่งไปด้านหลังของโกดังที่มีช่องทางแค่พอดีตัวสำหรับการหนีออกจากสถานที่ดังกล่าวเสียงฝีเท้าคนนับสิบยังคงตามพวกเขามาเรื่อยๆ เขาสองคนวิ่งมาตามทางที่ตรอกแคบด้านหลังของโกดัง ความมืดยังคงปกคลุมท้องฟ้าทำให้เขาไม่อาจจะมองเห็นทางข้างหน้าได้มากมายนัก

     

    เวรเอ้ย!” กำแพงสูงเกือบสองเมตรทำให้เขาทั้งคู่ชะงักเหงื่อผุดพรายตามขมับของทั้งคู่จากการวิ่งมาราธอนครั้งใหญ่ที่ไม่ได้หยุดพักเลยสายตามองหาทางรอดอื่นที่น่าจะเป็นไปได้แสงจากไฟฉายหลายอันส่องมาจากทางด้านหลังยิ่งทำให้ใจของต้วนอี้เอินเต้นเร็วขึ้นเป็นร้อยเท่า

     

    อี้เอินปีนเลย!” ไม่ทันจะได้ตั้งตัวร่างทั้งร่างถูกยกลอยขึ้นจากพื้น มือบางคว้าขอบกำแพงเอาไว้ก่อนที่ตะกายตัวเองขึ้นไปเพื่อข้ามไปอีกฟากนึงมือบางยื่นออกไปพร้อมที่จะช่วยดึงอีกคนให้ข้ามมาด้วยกันแต่อีกคนยังคงยื่นนิ่ง

     

    ทำไมไม่ขึ้นมา?” เขาละงงกับการกระทำของร่างสูงตรงหน้าจริงๆเวลาน่าสิ่วน่าขวานแบบนี้ยังมายิ้มอยู่ได้

     

    เดี๋ยวผมตามไปนะครับ…” สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากหน้าที่ฝ่ามือที่ยื่นออกไปของเขาทำให้หน้าที่ร้อนอยู่แล้วร้อนเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า

     

    อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ!!

     

    “!!!” แรงดึงจากด้านหลังทำให้เขาร่วงลงจากกำแพงอย่างไม่ต้องสงสัยชายหนุ่มที่เป็นเบาะรองรับเขาอยู่ตอนนี้ได้แต่โอดครวญด้วยความเจ็บปวด

     

    อ๊ะ! โอ๊ยย!!” ด้วยความเคยชินจากการที่เขาต้องป้องกันตัวเองจากเหตุฉุกเฉินตลอดเวลา ร่างบางรวบมือของคนแปลกหน้าไว้ด้านหลังพร้อมกับกดใบหน้าให้ติดลงไปกับพื้น

     

    นายเป็นใคร!?” ต้วนอี้เอินสวมบทตำรวจหนุ่มทันที

     

    คิมยูคยอมหะ ให้มารับครับชายแปลกหน้าที่รูปร่างเพรียวไม่ต่างกับเขาพูดขึ้นก่อนที่จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

     

    รับไปไหน?” ร่างบางถอนหายใจออกมาน้อยๆก่อนที่จะถามถึงสถานที่ๆพวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปเพื่อเป็นที่ซ่อนตัว

     

    ไปบ้านคิมยูคยอม... 

     

    คิมยูคยอมจะตามมาใช่มั้ย?” เสียงใสเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เขาจะยอมขึ้นรถไปกับคนของหมอนั่น ร่างเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับยิ้มกว้างให้เขา

     

    ครับเดี๋ยวเขาจะตามไปเองใบหน้าที่ดูเป็นมิตรทำให้เขาตายใจ

     

    “…” คุณตำรวจก้าวขึ้นมาบนรถที่กำลังจะมุ่งหน้าไปทางชานเมือง รถคันสวยวิ่งไปตามถนนด้วยความเร็วปานกลาง

     

    ปาร์ค จินยอง

     

    เข็มกลัดแวววาวที่วางอยู่หน้ารถดึงดูดสายตาของคนที่เคยทำหน้าที่เป็นตำรวจมากนัก จนต้องถึงกับเอ่ยถามคนขับรถให้เขา

     

    นี่ทำงานอะไรถึงต้องมีเข็มกลัดแบบนั้นด้วย?”

     

    ผมทำงานที่โรงแรมน่ะครับคุณต้วนอี้เอินร่างบางยกยิ้มให้อย่างเป็นมิตรทำให้เขาเองอดที่จะยิ้มตอบไปไม่ได้

     

    “…”

     

    ถึงใบหน้าจะเป็นมิตรก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชื่อใจคนๆนี้ได้หรอกนะ

     

    มันแปลกมันจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆเขาเองในตอนนี้เชื่อใจใครไม่ได้อีกแล้ว แม้แต่ตำรวจด้วยกันเองยังหักหลัก ที่ทำได้ตอนนี้คือเชื่อใจอีกคน ที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน

     

    คนที่ฝากรอยจูบไว้บนฝ่ามือข้างขวาของเขา

     

    .

    .

    .

     

    TBC.
     

    กราบขออภัยในความช้า 555+

    ฝากแท้กฟิคด้วยจ้า#ฟิคPolicier

    รักทุกคน <3



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×