ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แรงริษยา

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 50


    แรงริษยา

    ตอนที่ 1

                   

                    ภายในห้องนอนที่ถูกประดับอย่างหรูหรา ปรากฏให้เห็นร่างบางของหญิงสาว ดวงตากลมโต ผมสีน้ำตาลเข้มแผ่กระจายไปทั่วที่นอน ที่อยู่ในชุดนอน สายเดี่ยวสีฟ้า กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างไม่สนใจเลยว่า ขณะนี้เวลากี่โมง  หญิงสาวนอนรับอยู่ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงจากมารดาของเธอ ดังขึ้น

                    เนตรดาว ตื่นรึยังลูก วันนี้ลูกต้องไปมหาลัยวันแรกน่ะจ๊ะ

                    ค่ะแม่ ดาวตื่นแล้วค่ะ หญิงรับคำมารดา พร้อมเคลื่อนกายตัวเอง ลุกออกจากเตียง ตรงไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดไว้หน้าห้องน้ำ เพื่อที่จะทำธุระส่วนตัวของเธอ

     

                    เวลาผ่านไปได้ไม่นานนัก ก็ปรากฏร่างของ เนตรดาว ในชุดนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ กำลังเคลื่อนกายมายังโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งขณะนี้ ทุกคนภายในบ้านของเธอต่างก็พากันรอเธอเพื่อที่จะรับประทานอาหาร เมื่อเธอมาถึง เธอก็ไม่รอช้ารีบนั่งบนเก้าอี้ที่ยังเหลือว่างอยู่พร้อมกับส่งยิ้มให้กับทุกคนบนโต๊ะอาหาร เหมือนเป็นนัยในการกล่าวคำขอโทษที่เธอมาสาย

                    ดาว รีบทานน่ะลูกเดี๋ยวพ่อจะไปแล้ว

    หญิงสาวหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อก่อนจะพูดว่า คุณพ่อค่ะ เดี๋ยวดาวเอารถไปเองก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร ดาวนัดกำเพื่อนไว้ค่ะ  ทันทีที่พูดจบหญิงสาวก็ไม่ลืมที่จะ ทำสีหน้าอ้อนวอนให้กับผู้เป็นพ่อของเธอ

                    อ่ะๆ ตามใจล่ะกันลูก

                    ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ ไปก่อนน่ะค่ะ

                    คุณพ่อ คุณแม่ ทันทีที่พูดจบเธอก็ไม่ลืมที่จะอำลาคุณพ่อ คุณแม่ของเธอโดยการเข้าไปกอด เธอทำอย่างนี้เป็นประจำจนเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอ

     

                    เวลาผ่านไปราว 2 ชั่วโมง ปรากฏให้เห็นรถเก่งสีบรอนเงินกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่รั้วของมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง อย่างรวดเร็ว พร้อมกับเพื่อนสาวของเธอ น้ำทิพย์ เพื่อนสนิทของเธอที่ซี้กันมาตั้งแต่มัธยม เมื่อรถถูกจอดไม่นานก็ปรากฏร่างของหญิงสาว กับกับเพื่อนสนิทของเธอเดินจับมือพากันไปที่คณะอย่างรวดเร็ว

                    ทิพย์ เร็วๆหน่อยซิ สายแล้วน่ะ เสียงของเนตรดาวคะยั้นคะยอเพื่อนสาวที่กำลังเดินอย่างเชื่องช้าซึ่งนี้อาจเป็นต้องเหตุให้เธอถูกรุ่นพี่ที่คณะดุเอาเป็นได้

                    เอาเถอะดาว จะรีบไปถึงไหน ทีแกช้าฉันยังไม่ว่าอะไรแกเลย คำพูดของน้ำทิพย์ที่พูดค้อนเธอกลับทำให้เธอถึงกลับพูดไม่ออก ทำให้เธออดคิดไม่ได้เลยว่า ถ้าเธอไม่ตื่นสาย ก็คงไม่ต้องรีบขนาดนี้

     

                    หญิงสาวทั้ง 2 เดินต่อไปอย่างรีบเร่งจนในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางของพวกเธอ ซึ่งทำให้พวกเธอต่างก็ตกตะลึงกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า นักศึกษาน้องใหม่มากมายที่นั่งเรียงรายกันอยู่ในห้องประชุมคณะที่กว้างขวาง พร้อมด้วยรุ่นพี่ ร่วมนับ 10 คนเห็นจะได้ ทำให้เธอกับเพื่อนถึงกับมีไปหน้าที่ซีดเผือดแฝงไปด้วยความอับอายที่ตอนนี้สถานะของเธอทั้งคู่ตกอยู่ใน ผู้ตกเป็นเป้าสายตา

                    น้อง 2 คนนั้นน่ะมาจากไหนเสียงจากรุ่นพี่คนหนึ่งดังขึ้นถึงกับทำให้คนทั้งคู่ถึงกับสะดุ้งโหย่ง

                    คือ..พวกเราขอโทษค่ะที่มาสาย แต่พวกเรารีบสุดๆแล้วน่ะค่ะพี่ เนตรดาวรีบตอบแทนที่จะยืนหน้าซีด ตัวสั่น เหมือนกับน้ำทิพย์เพื่อนของเธอ

                    บริหารธุรกิจน่ะน้อง ต้องตรงต่อเวลา ขนาดน้องมาเรียนวันแรกน้องยังสาย แล้วถ้าน้องไปทำธุรกิจน้องจะไม่สายรึไง รุ่นพี่คนเดิมยังคงไม่ปล่อยให้เธอกับเพื่อนของเธอเป็นอิสระแถมยังเพิ่มความอับอายให้กับเธออีก

                    พี่ ก็เพื่อนหนูบอกไปแล้วไงว่าขอโทษพี่ยังไม่ให้เข้าไปนั่งอีกเหรอ ในตอนนี้น้ำทิพย์เริ่มที่จะพูดบ้างแล้วหลังจากที่ทนมานาน

                    น้องคับแล้วใครไม่ให้น้องเข้าไปนั่งล่ะ ใครห้ามไว้คับ  อยากนั่งก็นั่งซิคับ รุ่นพี่คนเดิมยังคงพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะที่อยู่ในลำคอ  ทันทีที่พูดจบเนตรดาวและน้ำทิพย์ก็จับมือพากันไปนั่งในที่ที่ว่างอยู่ตรงแถวกลางของห้องประชุม

                    หลังจากที่ทั้งคู่นั่งลงไม่นานน้ำทิพย์ก็เอ่ยถามเนตรดาว ดาว แกว่าพี่คนเมื่อกี้กวนป่ะ

    น้ำทิพย์เอ่ยถามเนตรดาวพลางก็ทำสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก ท่าเทียบกลับการที่เธอต้องอับอายคนทั้งที่ประชุม

                    อืม เนตรดาวตอบอย่างสั้นๆ เพื่อตัดปัญหาไม่อยากที่จะเอาเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้วมาคิดให้เปลืองสมอง เนื่องจากเธอคิดว่า เธอกลับน้ำทิพย์เพื่อนของเธอก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อยที่ไม่ทำตามกฎที่พี่เค้าวางไว้

     

                    หลังจากที่หญิงสาวทั้ง 2 ทนนั่งหลังขด หลังแข็ง เป็นเวลานับ 2 ชั่วโมง กับการฟังรุ่นพี่ที่คณะอธิบายถึงแนวทางการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย หญิงสาวทั้ง 2 ก็เป็นอิสระ เมื่อเดินออกมาจากห้องประชุม หญิงสาวตัดสินใจที่จะเดินไปหาร้านค้าซักร้าน บรรยากาศดีๆในรั้วมหาลัย ซักร้านเพื่อที่จะปรึกษาหาลือกันในเรื่องต่างๆ

     

                    เนตรดาวและน้ำทิพย์ใช้เวลาไม่นานนักก็ย่างกรายเข้ามาถึงร้านค้ารึมบึง ที่มีโต๊ะสำหรับให้นักศึกษานั่งชมวิวทิวทัศน์ของมหาลัย คนทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเลือกร้านนี้เป็นที่นั่งผักผ่อน จึงเดินเข้าไปภายในร้านเพื่อจับจ่ายซื้อของกิน ที่ต้องการ แล้วพากันเดินไปที่โต๊ะหินอ่อนรึมบึง

                    ดาว เดี๋ยวฉันมาน่ะ ไปเข้าห้องน้ำหน่อย ไม่ไหวแล้วว่ะ น้ำทิพย์บกกับเนตรดาวก่อนที่จะลุกเพื่อไปห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

     

                    น้ำทิพย์ใช้เวลาไม่นานที่จะทำธุระของเธอภายในห้องน้ำ ทันทีที่เธอเปิดประตูออกมาก็พบกับหญิงร่างบาง ดวงตากลมโต ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวนวล ซึ่งทำให้เธอถึงกับตกตะลึงเป็นอย่างมาก น้ำทิพย์ใช้เวลาไม่นานนักในการที่จะมองหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ ในการที่จะตัดสินใจได้ว่า หน้าตาของหญิงสาวผู้นี้ ช่างเหมือนกับเพื่อนซี้ของเธอ เหมือนแฝดกัน แต่เท่าที่เธอจำได้ เนตรดาวไม่มีฝาแฝด ถ้ามีหล่อนก็ต้องเล่าให้เธอฟัง

                    ขอโทษน่ะ มีอะไรรึป่าว เห็นมองหน้าเรา ผู้หญิงที่น้ำทิพย์กำลังมองหน้าเอ่ยขึ้น ทำให้สติของน้ำทิพย์กลับมาอีกครั้ง

                    ดาว เธอหน้าเหมือนดาวเพื่อนเราเลยอ่ะ น้ำทิพย์เอ่ยขึ้น เพื่อบอกให้หญิงสาวตรงหน้ารู้ว่าเหตุใดเธอจึงมองหน้าหล่อน

                    หญิงผู้นี้ยังคงยิ้ม แต่ภายในเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า คงเป็นแฝดกันมั้ง แล้วเราจะเข้าห้องน้ำได้ยัง ทันทีที่น้ำทิพย์ได้ยิน ก็หลีกทางให้หญิงสาวผู้นี้เดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนน้ำทิพย์เองเดินกลับไปยัง โต๊ะริมบึงอย่าง งงๆ ซึ่งขณะนี้เนตรดาวกำลังนั่งรอเธออยู่ และทันทีที่ถึงโต๊ะ

                    ดาว แกลองทายซิว่าเมื่อกี้ฉันเจอใครที่ห้องน้ำ น้ำทิพย์ถามเพื่อนสาว ซึ่งทำให้เพื่อนสาวของเธอสงใสเป็นอย่างมาก

                    เจอไอพจน์ แฟนแก อยู่กับกิ๊กหน้าห้องน้ำรึงย่ะ เนตรดาวตอบเพื่อนสาวพลางหัวเราะ   นิดาว แกอย่ามาแช่งกันซิ น้ำทิพย์เริ่มทำสีหน้าเป็นกังวล หลังจากที่เนตรดาวพูดถึงแฟนตัวเองที่เจ้าชู้ขนาดนัก จัดอยู่ในขั้นเพลบอยเห็นจะได้

                    เออ ฉันขอโทษ แล้วตกลงแกเจอใครล่ะ บอกได้ยัง ลีลาอยู่นั้นแหละ

                    ฟังให้ดีน่ะดาว ฉันเจอแฝดแกว่ะ คำพูดของน้ำทิพย์ถึงกับทำให้เนตรดาวถึงกับแปลกใจอยู่ได้ไม่นาน หล่อนก็หัวเราะล้าออกมา

                    แฝดฉันงั้น…… ทิพย์แกคบกับฉันมากี่ปี แกก็รู้ว่าฉันเป็นลูกคนเดียว ไม่มีทางที่ฉันจะมีแฝดหรอก น่าคล้ายฉันมากกว่ามั้ง เนตรดาวพูดกับน้ำทิพย์อย่างมั่นใจเป็นอย่างมากที่เธอเป็นลูกคนเดียวของบ้าน ถ้าเธอมีแฝดพ่อแม่ของเธอก็ควรจะบอกแต่นี่ทางบ้านของเธอกลับบอกว่าเธอเป็นลูกคนเดียว

                    ดาว ถ้าวันนี้แกดัดผมล่ะก็ ฉันต้องคิดว่าแกตามฉันไปห้องน้ำแน่ๆ คนอะไรถ้าไม่ใช่แฝดจะเหมือนกันขนาดนี้ อีกอย่างพอฉันพูดชื่อแก เค้าทำท่าเหมือนกับรู้จักแก แกต้องปิดบังฉันแน่ๆเลย ดาว แกมีแฝด ทำไมแกไม่บอกฉันว่ะ น้ำทิพย์ยังคงปักใจเชื่อว่าหญิงสาวที่หล่อนเห็นที่ห้องน้ำ ต้องเป็นฝาแฝดของเนตรดาวอย่างแน่นอน ทั้งๆที่ เนตรดาวปฎิเสธอย่างหนักว่าตนไม่มีฝาแฝด

                    เนตรดาวยังคงยืนยันว่าเธอไม่มีฝาแฝดอย่างแน่นอนด้วยการส่ายหน้าปฏิเสธ ทุกคำกล่าวหาจากเพื่อนของเธอ ในลึกๆในใจของเธอเองนั้น เธอเองก็อยากที่จะเห็นผู้หญิงคนนี้ คนที่เพื่อนสนิทของเธอเชื่อหนัก เชื่อหนา ว่าเป็นแฝดของเธอ เธออยากที่จะเห็นด้วยตาว่าจะเหมือนกับเธอซักแค่ไหน      

                                                     

                    หญิงสาวทั้ง 2 ใช้เวลาไม่นานมากนักในการสนทนากันในเรื่องต่างๆ ซึ่งก็รวมไปถึงเรื่องว่าที่ฝาแฝดของเนตรดาวด้วย จึงตัดสินใจที่จะผ่อนคลายโดยการไปเดินห้างสรรพสินค้า จับจ่ายซื้อของใช้ ที่ตนต้องการ ทั้งเนตรดาว และน้ำทิพย์ ต่างก็มีความสุขกับการที่ได้เดินซื้อของตามที่ตนต้องการ หญิงสาวทั้ง 2 ไม่ลำบากใจมากนักกับการซื้อของตามใจ เนื่องจากฐานะของครอบครัวทั้งคู่อยู่ในเกิน นักธุรกิจแนวหน้าของประเทศ ซึ่งร่ำรวยเอาการอยู่

                    ทั้งเนตรดาวและน้ำทิพย์ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจได้ จนในที่สุดคนทั้งคู่ก็ตัดสินใจกลับบ้าน และได้เสื้อผ้าแฟชั่นไปคนล่ะชุด เนตรดาวขับรถไปส่งน้ำทิพย์ที่บ้าน เพราะน้ำทิพย์มากับเธอในตอนเช้าจึงไม่ได้เอารถมาด้วย แต่ก็ไม่เป็นปัญหามากนักเพราะบ้านของทั้งสอง อยู่ในซอยเดียวกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×