กิ๊ก กะ แฟน คุณจะเลือกใคร - กิ๊ก กะ แฟน คุณจะเลือกใคร นิยาย กิ๊ก กะ แฟน คุณจะเลือกใคร : Dek-D.com - Writer

    กิ๊ก กะ แฟน คุณจะเลือกใคร

    กิ๊กกับแฟนคุณให้ใครสำคัญ

    ผู้เข้าชมรวม

    299

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    299

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 เม.ย. 50 / 17:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                " ต้องเลือกแฟนอยู่แล้ว กิ๊กนี่มีไว้ยังงั้นๆ แหละ เวลาเหงาๆ ไม่มีแฟนคุยด้วยก็คุยกับกิ๊กแทน เพราะบางเรื่องก็พูดกับแฟนไม่ได้เหมือนกัน แต่กับกิ๊กนี่พูดกันได้ทุกเรื่อง ปรึกษาได้เรื่องได้ราวมากกว่า แต่ก็ไม่คิดจะเอากิ๊กมาเป็นแฟนหรอกนะ"
                " ยังไม่มีแฟนหรอกค่ะ แค่มีกิ๊กอยู่ 2-3 คนเท่านั้น ไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไรกันมากนัก นอกจากเป็นคนสนิทเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ไม่อยากจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เพราะต้องเสียเวลาเอาอกเอาใจ ต้องรับผิดชอบความรู้สึกและอารมณ์ของแฟน แถมมีแฟนของเพื่อนหลายต่อหลายคน ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจนไม่เป็นตัวของตัวเอง 

                " มีกิ๊กดีกว่าเยอะ มาสั่งให้เราทำโน่นทำนี่ไม่ได้ และเราก็ไม่ต้อง คอยไปเอาอกเอาใจด้วย มีใจเมื่อไหร่ก็มาพูดคุยกัน ไปเที่ยวกัน แค่ระวังไม่ให้อะไรต่อมิอะไรเกินเลยไป จนควบคุมไม่ได้ก็พอ"

                " มีแฟนแล้วครับ แต่แฟนเล่นตัวมากและงอนเก่ง จนบางครั้งหงุดหงิด และคิดว่าในอนาคตบางทีก็อาจจะไปด้วยกันไม่ได้ เลยต้องแอบหากิ๊กเอาไว้อีกคนหนึ่งไม่ให้แฟนรู้ พอเลิกรากับแฟนไป อย่างน้อยก็ยังมีกิ๊กเป็นตัวสำรองอยู่"

                " แฟน
      หนุ่มนะคะ ได้แล้วก็ทำเฉยๆ ไม่ค่อยอินังขังขอบเหมือนก่อนที่จะได้เราเท่าไหร่ เลยเกิดความไม่แน่ใจว่าจะโดนเขาทิ้งไปหลังจากได้เราหรือเปล่า เพราะเพื่อนๆ ก็โดนกันบ่อย เลยคิดว่าถ้าแอบมีกิ๊กไว้อีกคน เอาไว้กุ๊กกิ๊กกันเล่นๆ บ้าง
       
                " อย่างกิ๊กนี่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร น่าจะดี เราก็ไม่ต้องไปเอาใจเขา เขาก็ไม่มีข้อผูกพันอะไรกับเรา แค่มีความสุขและสนุกด้วยกันก็น่าจะพอใจแล้วจริงไหมคะ อย่างน้อยเวลาที่แฟนเลิกไปก็จะได้บอกเขาว่า ฉันก็ยังมีคนที่รอคอยฉันอยู่เหมือนกัน มันทำให้รู้สึกดีขึ้น และมั่นใจขึ้นน่ะค่ะ ไม่ใช่เป็นคนหลายใจหรอก แค่ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นเท่านั้นเอง"

                " ที่
      จริงก็ไม่อยากจะทำเหมือนคนหลายใจ ที่มีนอกมีในแบบที่คนเขาว่ากันหรอกนะครับ ถึงผมจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน แบบว่าจะแต่งงานกันในอนาคตแล้ว แต่ตามประสาหนุ่มๆ น่ะ ถ้ามีโอกาสแล้วผู้หญิงเขาสมยอม ว่าจะเป็นกิ๊กของเราโดยไม่มีอะไรผูกพัน ผมว่าผู้ชายคนไหนไม่โอเคก็คงจะโง่บัดซบจริงไหมครับ
       
                " แน่นอนครับ ผมไม่มีทางบอกให้แฟนผมรู้หรอก เพราะเธอไม่มีทางรับได้ ถ้าเธอรู้จะทำอย่างไรหรือครับ อ๋อ ก็คงจะบอกไปว่าไม่มีอะไรหรอก แค่คบเล่นๆ เท่านั้น หวังว่าเธอคงจะเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจแล้วจะเลิกกันไป ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวสักหน่อย"

                " เดี๋ยวนี้ผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมกันนะคะ ผู้ชายแอบมีแฟนทีเดียว 2 คน ทำไมผู้หญิงเราจะแอบมีกิ๊กบ้างไม่ได้ ก็ไม่ได้มีความผูกพันหรือผูกมัดอะไรกันสักหน่อย คบกันเฉยๆ แบบว่าเป็นคนที่รู้ใจมากกว่าเพื่อนเท่านั้น 

                " อ๋อ เรื่องนั้นน่ะหรือคะ ก็ถ้ามันจะต้องมีบ้างเพื่อรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ คงจะต้องยอมบ้างเหมือนกัน ก็คนสนิทรู้ใจกันนี่นา แล้วเดี๋ยวนี้ใครๆ เขาก็ไม่ได้ซีเรียสในเรื่องแบบนั้นกันมาก แค่รักกันก็พอ จะมาถามหาพรหมจารีบ้าบออะไรกันอีก"


      ...นั่นก็คงจะเป็นหลากหลายความคิดเห็น เท่าที่ลองสอบถามคนที่ยอมรับว่ามี 'กิ๊ก' แล้วดู
      บางความเห็นก็น่ากลัวเหมือนกันว่า ถ้านี่เป็นความคิดของคนรุ่นใหม่แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมของเรา บางคนก็มองว่า ท่ามันจะไปไกลกันหนักหนาแล้ว!!

      แม้กระทั่งการสำรวจพฤติกรรมทางเพศของคนทั่วโลกที่กระทำกันทุกปี ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมหลายใจ หรือมีหลายรัก โดยเมื่อถามว่า
      " คุณมีพฤติกรรมที่มีคนรักแล้ว แต่ไปมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นโดยไม่ยอมบอกให้คนรักรู้ตัวบ้างไหม"
      ...จะเรียกว่า พฤติกรรมนอกใจหรือหลายรักก็คิดเอาเอง
      แต่ก็คล้ายๆ กับถามว่า คุณมี 'กิ๊ก' ไหมนั่นแหละ!!

      ผลออกมาน่าตกใจตรงที่ หญิงสาวอายุ 20-25 ปี ชาวไทยครองแชมป์ชนะเลิศในกรณีนี้ ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป็นความจริง เพราะการสำรวจในครั้งนั้นทำการสำรวจผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องเจอกันระหว่างคนถามกับคนตอบ
      ก็แปลว่า ถ้าให้เกียรติคนตอบว่า ...ตอบตามความจริง
      ข้อมูลที่ได้ก็น่าจะพอยอมรับได้ในระดับหนึ่ง... ว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเท่าเทียมกันแล้ว ในเรื่องของการมีหลายรัก หรือมีรักเผื่อเลือก... รักสำรอง
      ...ไม่ว่าจะเรียกอะไร 'กิ๊ก' หรือไม่ใช่ 'กิ๊ก' ก็ตาม
      แต่ห้ามเรียกว่าเป็น... แฟนฉัน

                ก็เลยต้องมาเขียนให้อ่านกันว่า ในยุคที่ไม่มีทางรู้ว่าตัวเองนั้นเป็น 'แฟน' หรือเป็น 'กิ๊ก' กันแน่ๆ แบบนี้จะทำอย่างไรดี
      ก่อนอื่นก็ต้องรู้ก่อนว่า กิ๊กนั้นหมายถึงใครสักคนที่ลึกซึ้งกว่าคำว่าเป็น 'เพื่อน' แต่ยังไม่ซาบซึ้งขนาดยอมรับว่าเป็นคนรักหรือ 'แฟน'
      แล้ว 'กิ๊ก' นี้จะมีพร้อมๆ กับมีแฟนตัวจริงก็ได้
      หรือจะมีแต่ 'กิ๊ก' หลายๆ คนก็ได้
      จะมีความสัมพันธ์แค่เป็นเพื่อนผู้รู้ใจไว้คุยกัน ปรับทุกข์กัน หรือปรึกษาหารือกันในเรื่องราวต่างๆ ที่อยากจะปรึกษากัน ...หรือจะมีความสัมพันธ์ที่ซาบซึ้งทางกายด้วยเพียงภายนอกก็ได้
      แน่นอนว่า อาจจะถึงขั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งประเภทเนื้อแนบเนื้อ และทุกสัดส่วนหลอมรวมกันเลยก็ได้ เช่นเดียวกับที่มีกับคนรักหรือแฟน

      แต่ห้ามโดย!!!
      ห้ามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ห้ามมีความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินไป และห้ามคิดครอบครองอย่างเด็ดขาด
      เพราะมีไว้แค่เป็น... ตัวสำรอง ไว้เผื่อเลือก
      หรือแค่มีไว้ปลอบใจเวลาโดนแฟนทิ้งก็ไม่รู้!!

      การจะมีชีวิตอย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในยุคที่อะไรต่อมิอะไรก็ไม่แน่นอนเช่นยุคนี้ จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่จะต้องเรียนรู้
      • ถึงเป็นแฟนกัน ก็อาจจะไม่ได้แต่งงานกันในอนาคต อาจจะต้องเลิกรากันไปก่อนเวลานั้นก็ย่อมได้ และจะเชื่อบ้างไหมว่า เดี๋ยวนี้ผู้หญิงยุคใหม่บอกเลิกกับผู้ชายก่อนแล้ว ถ้าไม่ถูกใจหรือไม่ตรงสเปค

      • ถึงเป็นแฟนกัน ก็ไม่แน่ที่แต่ละคนอาจจะมี 'กิ๊ก' อยู่ด้วย โดยไม่ยอมเปิดปากออกมาให้รับรู้ เพราะในยุคที่การติดต่อสื่อสารไร้พรมแดนแบบนี้ ความก้าวไกลทางข้อมูลก็เกิดขึ้นง่าย การปกปิดก็จะถูกค้นพบได้ยากขึ้น

      • ควรทำตัวเป็นคนไม่ยึดมั่นถือมั่นมากนัก คิดเสียว่าถ้าเป็นเนื้อคู่แล้วย่อมไม่แคล้วกัน ถ้าเป็นคู่กรรมก็ขอให้ล้มหายตายจากไปแต่เร็วไว ใครเป็นคู่แท้ก็ขอให้เจอกันเร็วๆ หน่อยก่อนที่จะสิ้นหวังไป

      • การมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งถึงขนาดที่ว่าเป็นเพศสัมพันธ์นั้น ไม่ได้หมายความว่า ความรักจะยั่งยืน และอวัยวะบางสิ่งบางอย่างก็อย่านึกว่าเป็นของใช้ส่วนตัว เพราะอาจจะเป็นของสาธารณะที่ใช้ร่วมกันก็ได้ใครจะรู้

      • การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด ถ้าคิดจะร่วมรักกับใครสักคน ชวนกันไปตรวจเลือดก่อนดีกว่าว่า มีโรคภัยไข้เจ็บที่จะถ่ายทอดถึงกันไหม การตรวจก่อนแต่งไม่พอแล้วในยุคนี้ ต้องตรวจก่อนมีเซ็กซ์กัน ถ้ายังไม่แน่ใจ ให้คิดถึงความปลอดภัยไว้ก่อนการแสวงหาความสุขทางกายเสมอๆ จำไว้เลยว่า ครั้งเดียวก็เหลือจะพอที่จะติดเอดส์... เตือนแล้วนะไม่เชื่อก็ตัวใครตัวมัน



      การอยู่เป็นโสด จึงกลายเป็นเรื่องที่ทันสมัยขึ้นมาอีกครั้ง เพราะในยุคที่ไม่สามารถจะมั่นใจอะไรๆ ได้แบบนี้ การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองและมีความสุขในความเป็นตัวของตัวเอง น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและปลอดภัย
      และไม่ว่าอย่างไร... รักแท้ยังรอคุณอยู่เสมอ
      ถ้าคุณรู้จัก...รอบ้าง
      จะทำอะไรอย่าใจร้อน... จะได้ไม่เป็นแค่กิ๊ก
      ...หรือตัวสำรอง ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม

      ที่มา คลีนิครัก

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×