ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE FRIEND รัก เลห์ ลวง [cnblue snsd exo f(x)] END

    ลำดับตอนที่ #9 : Part' 6 :: ความเครียดของมินฮยอก (?)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 56


    Ha .ha

    6





    ณ โรงเรียนมัถยม A

       หลังจากนั้น 3วัน วันนี้คือวันแรกที่มินฮยอกมาโรงเรียนอีกครั้ง หลังจากที่เข้ามานั่งในห้องปุ๊บ เพื่อนๆก็รุมเข้าไปถามอาการของเขาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่ยกเว้นคนเดียวนั้นคือ ...คริสตัล

     

    “มินฮยอกอาการเป็นไงบ้าง..?”

     

    “ก็ดีขึ้นแล้วแหล่ะ” เขาพูด และสายตาก็ยังมองคริสตัลโดยไม่ละ

     

    “มินฮยอก! นี่งานและเนื้อหาย้อนหลัง อ่านเสร็จแล้วค่อยเอามาคืนก็ได้” กายุนเดินมาพร้อมกับสมุดบัดทึกเล่ม 3-4 เล่มตรงหน้าเขา เขาก้มลงไปมองหนังสือนั้นทันที

     

    “อ่า.. ขอบใจเธอมากนะ” เมื่อดูเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นไปขอบใจเพื่อนของเขา และหันไปมองคริสตัลอีกครั้ง แต่...เธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาพยายามชะเง้อมองและก็หาไม่เจอเลย

     

    “หาใครว่ะมินฮยอก” แอลถามมา

     

    “เอ่อ.. ขอตัวก่อนนะ” มินฮยอกพูดจบก็เดินออกไปทันที

     

     

    Krystal’ Part

    5 นาทีก่อน

       ฉันหันหน้าไปมองเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่กำลังถามไถ่มินฮยอกด้วยความเป็นห่วง หึ! หมอนั่นแค่ป่วยนะ ไม่ใช่ประสบอุบัติเหตุสักหน่อยทำเหมือนว่าหมอนั้นจะตายใน3วัน 7วันนี้ยังไงอย่างนั้น

     

       หลังจากมองภาพที่หน้ามั่นใส้ตรงหน้าอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ ฉันก็ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องเรียนทันที ขณะนี้เวลา บ่ายสามสิบนาที ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่โรงเรียนจะเลิกสักที เหลืออีกแค่สิบนาทีก็จะเลิก ทำไมเวามันถึงได้เดินช้าอย่างนะ!!

     

    “ย๊า!! จอง คริสตัล!” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกฉัน

     

    “วันนี้จะเป็นพวกไหนอีกล่ะ” ฉันหันไปมองอย่างเหนื่อยใจ “โอ๊ะ!! ฮารา! เธอก็เป็นไปด้วยเหรอ?!

     

    “ฉันไม่มีทางเลือกหรอกนะ แต่เธอก็เคยแกล้งฉันเอาไว้เยอะเหมือนกันหนิ!” ยัยนั่นพูด ดูท่าทางหวั่นอยู่นิดๆ

     

    “ใครใช้เธอมา! คนอ่อนแออย่างเธอไม่มีทางทำอะไรแบบนี้แน่!” ฉันถามไปแบบตรงๆ

     

    “ถ้าจะฉลาดมากไปอย่างนั้น ...ก็มาจบมันเร็วๆกันเถอะ ... คริสตัล” แล้วตัวการก็ออกมาจากที่ซ่อน พร้อมกับเพื่อนๆอีกหลายคน

     

    “อยากจะทำอะไรก็เชิญ!! ฉันก็ไม่หวังพึ่งบารมีของมินฮยอกอยู่แล้ว”

     

    “ถึงเธอหวังฉันก็ไม่ยอมหรอกย๊ะ!!” ยัยนั่นพูดก่อนจะคว้าไข่ไก่ออกมาจากกระเป๋า ส่วนฮาราก็ไปยื่นขวัญเสียอยู่ข้างๆด้วยความกลัว

     

    “เธอต้องการจะจัดการฉันกับไอ่นั้นหน่ะเหรอ?” ฉันเดินถอยหลังมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงพูดไปด้วยความไม่เกรงกลัวใดๆ

     

    “ถ้าเป็นไข่ไก่10กว่าใบเธอก็ไม่มีทางรอดไปได้แน่นอน คงต้องรอถึงหนึ่งทุ่มล่ะมั้งกว่าจะได้กลับบ้าน หรือไม่ก็เน่าตายเป็นผีเฝ้าโรงเรียนไปเลย” เพื่อนอีกคนว่าพร้อมหยิบไข่ไก่ออกมาเช่นกัน

     

    ตึก!

       ตอนนี้หลังของฉันชนกับกำแพง แปลว่าฉันไม่มีทางหนีแล้ว! ในขณะที่ยัยพวกนั้นนับสิบยังเดินมาเรื่อยๆเพื่อจะเผด็จศึกกับฉัน

     

    “ตายแน่!!” ยัยคนเดิมพูดพลางโยนไข่มาใส่ฉัน ฉันก็ยกมือขึ้นมาทั้งสองข้างขึ้นมาบังหน้าเพื่อนกันเลอะถึงรู้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็ตาม

     

    ตึก!

       กลิ่นคาวของไข่ไก่อบอวนไปเต็มเบื้อหน้าของฉัน แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกเหนี่ยว หรือเปียกเลย กลับรู้สึกว่าอบอุ่น อุ่นมากๆ ฉันค่อยๆลืมตาที่หลับปี๊ช้าๆ และสัมผัสที่รู้สึกว่ามีมือสองข้างของใครสักคนเกาะอยู่ที่หลังฉันก็เข้ามา ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองว่าเขานนั้นที่มาช่วยฉันจะสงครามไข่ไก่คือใคร ...และมันก็คือเขา มินฮยอก

     

       ตอนนี้สีหน้าของเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดมาก เขามาตั้งแต่ตอนไหน ถึงได้ช่วยฉันจะสงครามไข่ไก่ได้ทันเวลาแบบนี้ หรือจะวิ่งมาอีกงั้นเหรอ

     

    “นาย...”

     

    “อย่าเพิ่งต่อว่าอะไรฉันเลย ...ฉันเป็นห่วงเธอนะ..” แล้วใครว่าฉันจะด่านายหล่ะ! ฉันแค่จะถามว่านายมาได้ไงเท่านั้นเอง

     

    “นั้นมันมินฮยอกหนิ!! หยุดๆได้แล้ว” เสียงของใครบางคนจากกลุ่มยัยนั่นพูดก่อนจะหยุดกระหน่ำโยนไข่ไก่มา และเดินจากไปในที่สุด

     

       ตอนนี้ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะไปแล้ว แต่มือทั้งสองข้างของมินฮยอกยังคงกอดฉันเอาไว้อย่างนั้นไม่ปล่อย และหน้าตาของเขาก็ดูเจ็บปวดเหมือนเดิม เกิดอะไรขึ้นกับเขา คงจะไม่เจ็บปวดเพราะฉันอีกใช่ไหม?

     

    “ปล่อย..” ฉันพูดเสียงเบา แต่มั่นใจว่าเขาได้ยินมันอย่างชัดเจน เขาเลยปล่อยฉันออกจากตัวเขา

     

    “ฉันขอโทษนะ” เขาถอยออกห่างฉันก่อนจะพูดขึ้น

     

    “เจ็บเหรอ..?” เงยเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยความรู้สึกผิด ถึงแม้เขาจะมองมันเป็นแค่อารมณ์และสีหน้าธรรมดานิ่งๆก็ตาม

     

    “ป..เปล่านี่ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” เขาพูดยิ้มแห้งๆ ก่อนจะถอดเสื้อสูทของตัวเองที่เต็มไปด้วยไข่ไก่ออก

     

    “งั้นก็ดี! ไว้บุญคุณครั้งนี้ฉันจะชดใช้ให้” ฉันพูดจบก็รีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้นทันที เมื่อเดินมาได้สักพักก็หันกลับไปมองเขา แต่ไม่เห็นเขาอยู่แล้วจึงเดินออกมาจากในโรงเรียนในที่สุด

     

     

    ณ โรงพยาบาล

       ฉันเปิดประตูห้องเข้าไปและพบกับพี่จงฮยอน และพี่สิก้าที่กำลังนั่งคุยกันอยู่สองคนอย่างสนุกสนาน นี่ฉันมาขัดจังหวะพี่ทั้งสองเหรอเนี่ย ??

     

    “คริสตัล! เป็นอะไรหน้ามุ้ยมาเชียว” ฉันเดินดุ่มๆไปนั่งที่โซฟาสักพัก พี่จงฮยอนก็ถามขึ้น

     

    “ไม่เป็นอะไรค่ะ” ฉันตอบไปก่อนจะนอนเอาหัวซุกลงกับโซฟาอย่างไร้จิตวิญญาณ

     

    “นี่เนี่ยน่ะเหรอที่บอกว่าไม่เป็นอะไร..” พี่จงฮยอนเดินมานั่งลงใกล้ฉันก่อนจะถามขึ้น

     

    “คงงั้นมั้งค่ะ” ฉันลุกขึ้นนั่งและหันหน้าหนีพี่จงฮยอน

     

    “ไหนมาดูหน่อยสิยัยเด็กดื่อ” พี่จงฮยอนจับฉันให้หันไปปะทะหน้ากับพี่จงฮยอน จะยังไงก็ช่าง หน้าเซงโลกอย่างนี้มันก็เป็นหน้าปกติของฉันอยู่แล้ว

     

    “ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะค่ะ” ฉันเบ่ะปาก ก็พี่จงฮยอนเล่นหยิกแก้มฉันเล่นอย่างกับเด็กสามขวบ พี่สิก้ายังไม่เคยทำกับฉันอย่างนี้เลยนะ จะมีก็แต่อิตาพี่จงฮยอนนี่แหล่ะ ชอบจับนู๊นจับนี่ของฉันอยู่ได้

     

    “สำหรับพี่เธอยังเป็นเด็กเสมอแหล่ะ” คำนี้อีกแล่ะ! - -! พูดทุกวันไม่เบื่อเหรอพี่จงฮยอน

     

    “แล้วเมื่อไหร่ฉันจะโตสักทีล่ะค่ะ” ฉันถามตาละห้อยเพราะกำลังคิดบางอย่างอยู่

     

    “ก็จนกว่าเธอจะสอบได้ที่ 1ของห้องไงล่ะ” พี่จงฮยอนพูดพลางขยี้ผมฉันเล่น

     

    “ถึงฆ่ามินฮยอกให้ตายฉันก็ไม่มีวันได้ที่ 1ของห้องหรอกค่ะ” ฉันจัดผมให้เรียบร้อยก่อนจะพูดขึ้น

     

    “ทำไมเธอไม่เชื่อในตัวเองล่ะ? เธอเป็นคนเก่งมากเลยนะคริสตัล ดูพี่สาวเธอสิเมื่อก่อนก็โง่จะตายไป แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะเก่งไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” พี่จงฮยอนพูดให้กำลังใจฉัน คือขอบคุณนะค่ะที่ปลอบใจฉันด้วยการว่าพี่สาวฉันโง่ - -!

     

    “ย๊า!!! อี จงฮยอน!!!

     

    ตุบ!!

       เสียงตะโกนของพี่เจสสิก้าดังขึ้นพร้อมกับหมอนที่ลอยมาใส่พี่จงฮยอน สมควรอยากหลอกด่าพี่เจสสิก้าว่าโง่ทำไม! (เข้าข้างพี่-ไรท์)

     

       เพราะพี่จงฮยอนเป็นคนควบคุมพี่สิก้าของฉันทั้งหมด ต่อให้ใครบอกว่าเขาไม่ใช่พี่จงฮยอนฉันก็ไม่มีทางเชื่อแน่ พี่จงฮยอนคนหล่อที่คอยทำเรื่องแผลงๆ แปลกๆ ผิดมนุษย์ นั้นแหล่ะอิพี่คนนี้เลย ฉันควรจะเชื่อใจพี่คริสตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่เอาแต่พูดว่าเป็นห่วงฉัน แต่ก็โกหกฉันอยู่เรื่อยๆอย่างมินฮยอก (แค้นไม่หาย-ไรท์)

     

    “ทะเลาะกันไปนะค่ะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้ออะไรมาให้กิน” ฉันบอกพี่สิก้ากับพี่จงฮยอน ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ฟังฉันก็ตาม

     

     

    ณ ร้านกาแฟในโรงพยาบาล

       เมื่อฉันซื้อกาแฟนเสร็จก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้าทันที ภาพที่มินฮยอกกำลังนั่งคุยกับใครอยู่ เธอคนนั้นเป็นผู้หญิงผมยาวเป็นลอนสวย ใส่ชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ธรรมดา แต่ดูก็รู้ว่าหุ่นดีมาก นับได้ว่าเธอสวยมากเลย

     

       ตอนนี้สองคนนั้นกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่นะ ดูแหมือนว่ามินฮยอกจะเครียดมากด้วย แต่กลับกันเธอคนนั้นกับไม่มีทางทางเครียดเลย หน้าตาเธอยิ้มแย้มด้วยซ้ำไป ฉันไม่สงสัยเปล่าเดินเข้าไปซุ่มฟังแบบเนียนๆ

     

    “พี่ทำอย่างนั้นไม่คิดจะเห็นใจผมเลยเหรอครับ?!

     

    “นั้นมันก็เรื่องของนาย ฉันแค่ทำสิ่งที่ฉันต้องการเท่านั้น ถ้านายทำใจไม่ได้ก็แล้วแต่..”

     

    “แต่ผมไม่ยอมให้พี่ทำแน่! ผมไม่มีวันปล่อยพี่ไปแน่นอน!

     

    “งั้นนายก็พิสูทธิ์สิ! ผู้ชายอย่างนายมันจะต่างจากผู้ชายคนอื่นยังไงกัน! มันก็เหมือนๆกันหมด!! ...ถ้านายจะเรียกฉันมาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้หล่ะก็ ทีหลังก็อย่าเรียกมาอีก!! คงรู้นะว่าเรื่องอะไรที่ฉันอยากได้ยิน” เธอคนนั้นพูดจบก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าและเดินออกไปทันที

     

       ส่วนมินฮยอกก็มองตามไปไม่ละสายตา ก่อนจะหันกลับมาและถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเครียด พร้อมกับเอามือมากุมขมับตัวเองเอาไว้ ตอนนี้มินฮยอกดูเหมือนคนอายุ 20กว่ามาก ทำไมมินฮยอกถึงดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่พี่จงฮยอนบอกว่าฉันเหมือนเด็ก ทั้งๆที่ฉันกับมินฮยอกอายุเท่ากัน!

     

     

    ณ บ้านของมินฮยอก

       เมื่อคนขับรถ ขับเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ราวคฤหาสแล้ว มินฮยอกก็เดินลงจากจะรถและมุ้งเข้าบ้านด้วยท่าทางละห้อย อย่างกับคนไม่มีวิญญาณ

     

    “มินฮยอกลูก..” เสียงของแม่ของมินฮยอกพูดทัก แต่ก็ต้องอึ้งไป เพราะมินฮยอกไม่ฟังยังคงเดินอย่างไร้วิญญาณขึ้นไปชั้นบน

     

    “คุณ.. ลูกเป็นอะไร ?” ผู้เป็นพ่อที่เดินออกจากมุมหนึ่งของบ้านพูดขึ้น พลางมองไปที่ลูกชายของตัวเอง

     

    “ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่คงหนัก” ผู้เป็นแม่พูดและมองตามลูกไป

     

    เวลา 20:00 น.

       ผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่ยังคงเครียดเรื่องงลูกชายคนเดียวของบ้านไม่หาย ถึงขั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอน ต้องมานั่งปรึกษากันสองคนในห้องนอนของตัวเอง

     

    “คุณคิดว่าลูกเป็นอะไร” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น

     

    “ฉันคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่โรงเรียนแน่ๆเลย” ผู้เป็นแม่ตอบไป แต่ก็ยังหาไม่ได้ว่าเรื่องอะไร

     

    “ลูกเราก็สอบได้ที่1 เก่งที่สุดในโรงเรียน แล้วฐานะทางบ้านก็ไม่ใช่เล่นๆ ชีวิตของเขานับว่าเพอร์เฟ็กมากแล้วเขายังต้องการอะไรอีก” ผู้เป็นพ่อตั้งข้อสงสัย

     

    “ใช่! ความรักจากพวกเราเขาก็ได้อย่างเกินพอ หรือว่า..” ผู้เป็นแม่พูดและทำท่าตกใจเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก “เขาต้องการความรักจากคนอื่นค่ะ?”

     

    “ใช่!! ลูกเราก็โตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีแฟนเลยสักคน ปีหน้าก็จะจบชั้นมัธยมแล้วด้วย.. ผมลืมคิดไปได้ไง” ทั้งสองตื่นเต้นในข้อสัญณิฐานของตัวเองมาก ใช่แล้ว!ตอนนี้เขากำลังเครียดเรื่องความรักอยู่

     

    “แล้วเราจะทำไงดีล่ะคุณ ลูกเราไม่เคยออกตัวแรงเลยว่ากำลังชอบใครอยู่...” ผู้เป็นแม่ทำหน้าเซงอีกครั้ง

     

    “เราก็หามาให้ลูกสิ! เราหาของทุกอย่างบนโลกให้ลูกได้ทุกอย่าง ไอแค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมจะหาไม่ได้ล่ะ?” ผู้เป็นพ่อพูดยิ้มๆ

     

    “แต่สิ่งที่เขาต้องการคือความรักนะ! เขาต้องการไม่ใช่แค่ผู้หญิงธรรมดา แต่เป็นผู้หญิงที่เขารัก!

     

    “อยู่ๆกันไปก็รักกันเองแหล่ะคุณ ขนาดคุณยังรักผมได้เลย” ผู้เป็นพ่อตัดบทพูดของภรรยาไว้ด้วยการโน้มร่างของภรรยามากอดเอาไว้ในอ้อมอก

     

       การแต่งงานของทั้งสองไม่ดีนัก... การคลุมถุงชนตั้งแต่เด็กทำให้พวกเขาทรมานมาก แต่นับวันความรู้สึกก็ค่อยๆเปลี่ยนไป การอยู่ด้วยกัน ทำสิ่งดีๆให้กันทุกวัน ก่อเกิดความรักขึ้นมาในที่สุด และกลายเป็นคุณพ่อและคุณแม่ของมินฮยอกที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกจนวันนี้





    ______________________________________________________

    มาต่อให้แล้วจ้าา
    อย่าลืมติดตามเรื่องใหม่(ที่ยังไม่อัพ)ของไรท์ด้วยนะ
    และ เม้น+โหวต เป็นกำลังใจให้ไรท์รีบแต่งด้วยนะ ^^






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×