คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Part' 2 :: ใครกันแน่ (?)
ณ โรงพยาบาล
เวลา 20:20 น.
ในขณะที่เจสสิก้ากำลังนั่งฟังเรื่องราวของตัวเองจากปากของคริสมาเกือบทั้งวัน ในที่สุดเสียงของคริสก็ต้องหยุดลงทันที เพราะเสียงเปิดประตูเข้ามาของใครบางคน และคนๆนั้นคือน้องสาวแท้ๆของเธอ คริสตัล
“อ่าว! คริสตัลมาแล้วเหรอ?” คริสหันไปหาตัวต้นเหตุทำให้เกิดเสียงและทักทายอย่างเป็นมิตร
“คริสตัล! คริสตัลที่เป็นน้องสาวฉันไหม?” แล้วจู่ๆเสียงของคนที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆคริสก็พูดขึ้น วายตาทั้งสองคู่ของคริสตัลและคริสหันไปมองเธอเป็นสายตาเดียวกัน และคริสตัลก็รีบเดินเข้าไปกอดเจสสิก้าที่นอนอยู่ทีนทันที
“พี่สิก้า... ฮือๆ” คริสตัลร้องไห้อีกครั้งและกอดพี่สาวตัวเองให้แน่นขึ้น “ฉันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว ฮือๆ”
“พี่ไม่เป็นอะไรหรอก พี่จะพยายามจำเธอให้ได้นะ คริสตัล” เจสสิก้าผละกอดออกและพูดกับน้องสาวตัวเอง พลางใช้นิ้วเรียวเช็ดน้ำตาที่ไหลงมาข้างแก้มทั้งสองข้างๆของคริสตัล
“ขอบคุณนะค่ะพี่สิก้าที่ดูแลฉันมาตลอด ฮึก! ฉันสัญญาว่าหลังจากนี้จะปฏิบัติตัวใหม่ให้ดีกว่าเดิมแน่นอนค่ะ” คริสตัลพูดกับพี่สาวตัวเองก่อนจะเข้าไปกอดอีกครั้ง
คริสที่เห็นอย่างนั้นก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินออกไปจากห้องเพื่อให้สองสาวได้ใช้เวลาร่วมกับตามภาษาพี่น้อง แต่เสียงของคริสตัลก็ห้ามเขาเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องไปไหนหรอกค่ะ! เดี๋ยวฉันจะไปแล้ว พี่ดูแลพี่สิก้าต่อเถอะค่ะเพราะยังไงใครบางคนก็ไม่มีวันได้ดูแลพี่สิก้าอีกต่อไปแล้ว” คริสตัลพูดจบก็คว้ากระเป๋าและเดินไปหยุดที่ข้างๆคริส คริสตัลหันไปมองคริสนิดหน่อยก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ฝากด้วยนะค่ะ” และเดินออกไปจากห้องทันที
5 นาทีต่อมา
หลังจากที่คริสตัลเดินออกไปสักพักคริสก็กลับมานั่งประจำที่ และทำหน้าที่เฝ้าเจสสิก้าต่อไปเช่นเดิม โดยที่ไม่มีคำพูดใดๆเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองในระหว่างนั้นทั้งสิ้น และในที่สุดเจสสิก้าก็เริ่มบทสนทนาขึ้นในที่สุด
“คริส! ฉันมีอะไรจะถามสักหน่อยค่ะ”
“ว่ามาสิ” คริสหันไปมองเธอและพูดตอบไป
“ถ้าเกิดวันนึงฉันจำทุกอย่างได้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ?” เพราะคำถามของเจสสิก้าทำให้คริสต้องถอนหายใจออกมา
ใช่! ถ้าเกิดวันนึงเธอเกิดจำทุกอย่างได้จะเกิดอะไรขึ้น เธอจะเรียกหาจงฮยอนไหม? เธอจะตามหาจงฮยอนหรือเปล่า? แล้วเธอจะว่าอะไรหรือเปล่าถ้าว่าจงฮยอนตายไปแล้ว!!
“มันก็เป็นเหมือนเดิมนั้นแหล่ะ...ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน” คริสพูดด้วยสายตาละห้อย เขากำลังคิดเรื่องที่เธอกำลังพูด เขาจะทำเช่นไรหากเธอจำได้อีกครั้ง ภายในใจเขาอยากจะให้เธอจำได้แค่เขาอย่างนี้ตลอดไป
“งั้นสินะ แต่คริส! ฉันมีความรู้สึกว่า...ฉันกำลังรักใครอยู่คนนึง เขาคนนั้นอยู่ใกล้ตัวฉันมาก แต่ฉันก็มองไม่เห็นเลยว่าเป็นใคร นายพอรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? ใครที่อยู่ใกล้ฉันตลอดเวลา” เจสสิก้าหันกลับมาถามเขาอีกครั้ง ด้วยแววตาสดใส เขาคนนั้นทำให้เธอยิ้มได้ คนที่เจสสิก้ารัก...
“คนที่อยู่ใกล้เธอตลอดเวลางั้นเหรอ?” คริสพูดพลางทำท่าครุ่นคิด
_______________________
10 ปีก่อน
ตุบ!!!
“โอ้ย!!” เสียงร้องโอดโอยของเจสสิก้าดังขึ้นหลังจากที่เธอสดุดล้มลงกับพื้นหินอ่อน
“สิก้า!!” เสียงของชายสองคนดังขึ้นพร้อมกันจงฮยอน และคริสวิ่งมาช่วยพยุงเจสสิก้าให้ยืนขึ้น
“ไหวไหมเจสสิก้า?” จงฮยอนพูดขึ้นในขณะที่กำลังดูแผลที่หัวเข่าให้กับเจสสิก้า หลังจากที่จงฮยอนและคริสพาเจสสิก้ามานั่งที่เก้าอี้แถวๆนั้นแล้ว
“ฮือๆ เจ็บ ฮึก!” เจสสิก้าร้องไห้ออกมายกใหญ่ พลางใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณแผลเพื่อไม่ให้ความเจ็บลามไปส่วนอื่นของร่างกาย
“อะนี่ เช็ดน้ำตาซะนะสิก้า เดี๋ยวฉันไปเอายามาให้” คริสยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เจสสิก้าก่อนจะพูดขึ้น หลังจากที่เจสสิก้ารับไปแล้วเขาก็รีบวิ่งไปยังห้องพยาบาลเพื่อหาของมาทำแผลให้เธอทันที
ภายในจิตใจคิดแค่อย่างเดียวว่าเพื่อนรักวัย 13ของเขาในตอนนั้นต้องไม่เป็นไร เขาวิ่งเหมือนกับจะตายไปให้ได้ หวังเพียงแค่อย่าให้เธอเป็นอะไรก็พอ และความเหนื่อยก็ถูกหยุดลง ใช่!เขาเตรียมของมาสำเร็จแล้ว เขาหอบสักพักก่อนจะหันไปมองเจสสิก้าตรงหน้าที่กำลังร้องไห้เพราะความเจ็บปวด
แต่สิ่งที่เขากลับเป็นผ้าเช็ดหน้าที่เขาให้เจสสิก้าเช็ดน้ำตา ถูกจงฮยอนเอาไปพันรอบแผลให้กับเจสสิก้า หลังจากนั้นเขาก็เช็ดน้ำตาให้เธอ และโน้มร่างเพื่อนสาวตรงหน้าเข้ามากอดเอาไว้ จงฮยอนได้ทำแผลและบรรเทาความเจ็บทางกายและทางใจให้เจสสิก้าแล้ว ตอนนี้กล่องยาของเขาไม่มีประโยชน์แล้ว
5 ปีก่อน
หลังจากดูผลเอ็นเรียบร้อยแล้วเจสสิก้า คริส และจงฮยอนก็แทบจะกระโดดกอดกันทันที เพราะพวกเขาสอบติดคณะเดียวกันทั้งสาม
“ว๊า~ ไม่อยากเชื่อเลย” เจสสิก้าตื่นตันจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“อย่าร้องสิยัยขี้แย่” คริสพูดและเอามือไปปาดน้ำตาให้
“ไปหาไรกินฉลองกันดีกว่า เช่น.. คาราโอเกะ” จงฮยอนเสนอความคิด ทั้งสามหันมามองหน้ากันสักพักก่อนจะวิ่งและมุ่งไปที่คสราโอเกะร้านประจำของทั้งสาม
10 นาทีต่อมา
หลังจากที่ทั้งสามเลือกเพลงได้แล้วก็ลุกขึ้นเต้นกันสุดฤทธิ์ โดยมีจงฮยอนยืนทางขวา คริสยืนทางซ้าย และเจสสิก้ายืนตรงกลางและใช้มือสองข้างกอดคอเพื่อนรักทั้งสองคน
“โอเค! วันนี้ไม่มืดไม่กลับ โย่วววว~” จงฮยอนพูดเสียงดังแบบมันส์สุดฤทธิ์
“ใช่!! ไม่กลับ!!” เจสสิก้าและคริสก็เอาด้วย ทั้งสามเล่นกันจนลืมวัน ลืมเวลา
เวลา 20:57 น.
ณ บ้านเจสสิก้า
หลังจากเล่นกันมันส์จนลืมเวลา จงฮยอนและคริสก็มาส่งเจสสิก้าที่หน้าบ้านของเธอ เจสสิก้าลาเพื่อนก่อนจะค่อยๆย่องเข้าบ้าน แต่น้องสาวตัวน้อยของเจสสิก้าวิ่งออกมาหาเธอที่หน้าบ้านเสียก่อน
“พี่สิก้า! รีบๆไปไหนก็ได้เร็วๆเลยค่ะ! ตอนนี้พ่อโกรธมาก ตอนนี้กำลังจะเอาปืนมาไล่ยิงพี่คริสกับพี่จงฮยอนแล้ว” คริสตัลพูดด้วยสีหน้าตื่นตัว เจสสิก้าที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบวิ่งไปเปิดประตูเพื่อจะออกจากบ้านไปอีกครั้ง
ปัง!!!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทำให้ทุกอย่างหยุดเหมือนกับนาฬิกาหยุดเดินไปทันตา สายตาทั้งสี่คู่จับจ้องมาที่เจ้าของปืนที่ยืนอยู่หน้าบ้านเป็นสายตาเดียว
“พ...พ่อ” ทั้งเจสสิก้าและคริสตัลอุทานออกมาพร้อมกัน
“ค...คุณอา” จงฮยอนและคริสก็อุทานออกมาพร้อมกันเช่นกัน
“ถ้าใครขยับนัดต่อไป โดนที่หัวคนนั้นแน่!!!” พ่อของเจสสิก้าขู่ ทั้งสี่ยกมือขึ้นเหนือหัวด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนจะเดินตามๆกันเข้าบ้านไป
“ไหนบอกมาสิว่าใครเป็นต้นคิดพากันหนีเที่ยวแล้วกลับมามืดค่ำแบบนี้!!” ผู้เป็นแม่ของเจสสิก้าพาดไม้เรียวลงบนโต๊ะยาว จนเด็กๆที่นั่งอยู่ตกใจไปตามๆกัน
“ผ...ผมครับ” จงฮยอนค่อยๆยกมือขึ้นมาทีละนิดด้วยความกลัว
“ดี!! ยอมรับมาก็ดี! จงฮยอนทำไมถึงทำอย่างนี้!” แม่เจสสิก้าดุด่าจงฮยอนยิ่งกว่าเป็นลูกของตัวเอง แต่ยังไงเขาทั้งสองก็นับคุณพ่อและคุณแม่ของเจสสิก้าเป็นพ่อแม่คนที่ 3 ของพวกเขาอยู่แล้ว
“ค...คือผม....” จงฮยอนอ้ำอึ้งเพราะไม่กล้าตอบ
“ไม่ใช่นะค่ะแม่! ก็วันนี้พวกเราสอบติดคณะเดียวกัน พวกเราเลยไปเลี้ยงกัน... นิดๆหน่ะค่ะ” เจสสิก้าเถียงเพื่อลบความผิดให้จงฮยอนได้บ้างนิดหน่อย
“ใช่ครับ! ความจริงแล้วผมก็ชวนให้กลับดึกเองครับ” คริสก็รับผิดแทนเพื่อนตัวเองด้วยเช่นกัน
“เอาหล่ะ! ไม่ต้องแล้ว!! รักกันจริงๆนะพวกเธอนี่! ช่างมันเถอะพ่อกับแม่ไม่เอาความแล้วก็ได้ แต่คราวหน้าคราวหลังให้โทรมาบอกกันบ้างเข้าใจไหม?” พ่อพูด
“ค่ะ/ครับ” ทั้งสี่ตอบพร้อมกัน (คริสตัลขอแจม – ไรท์)
“งั้นก็กลับไปได้แล้ว ป่านี้พ่อแม่พวกเธอเป็นห่วงกันแล้วมั้ง” แม่ของเจสสิก้าพูด พอพูดจบท่านก็เดินเอาปืนไปเก็บ ทั้งสี่ค่อยๆถอนหายใจออกมาช้าๆ แล้วค่อแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เฮ้อ... คิดว่าจะแย่ซะแล้ว” เจสสิก้าบ่นออกมาเป็นคนแรก หลังจากผ่านเหตุการณ์คับขัน
“งั้นฉันกลับก่อนนะ” จงฮยอนพูดและหันกลับพร้อมกับคริสที่เดินตามไปติดๆ
“บายจงฮยอน ฝันดีนะคุณคริสจ๋า” เจสสิก้าตะโกนไล่หลังเพื่อนทั้งสองของเธอ ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านไปเช่นเดิม
Kris’ Part
ใช่! ใครกันแน่ ใครกันที่สิก้าหมายถึง ‘ฉัน’ หรือ ‘จงฮยอน’ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันกับความรู้สึกคลุมเครือนี้ นี่มันอะไรกันแน่ ทั้งๆที่อยากให้เป็นฉัน แต่ทำไมยังรู้สึกหวั่นๆอยู่นะ การที่ฉันผิดนัดทั้งสองครั้งในวันครบรอบมันอาจทำให้พวกเราห่างกันมากขึ้นก็ได้
“นายกลับไปทำงานเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรตอนนี้ก็ได้” จู่ๆเจสสิก้าก็จับแขนผมเบาๆ และพูดขึ้น
“แต่ฉันไม่อยากทิ้งเธอ...”
“ไม่เป็นไรหรอก นายเฝ้าฉันมาตั้งหลายวัน กลับไปทำงานเถอะฉันดีขึ้นมากแล้ว” เจสสิก้าขัดผม และพยายามไล่ผมให้ไปทำงาน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เธอพยายามให้ผมโดดงาน
“งั้นพรุ่งนี้ตอนเที่ยงฉันจะมาเยี่ยมนะ” ผมพูดกับเธอ และเดินออกมาจากห้องในที่สุด
หลังจากนั้นผมก็มุ่งตรงไปที่บริษัทเพื่อเคลียงานบางอย่างที่ค้างคาเอาไว้หลายวัน เพราะมั่วแต่นั่งเฝ้าสิก้าจนลืมงานลืมหน้าที่ แต่ไม่รู้ผมจะกังวลไปทำไม?! ไหนๆจงฮยอนมันก็ตายไปแล้ว สิก้าก็เป็นของผมคนเดียวแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในสายตาของเธอนอกจากผม... แน่นอนว่าคนที่เธอรักคือ ‘ผม!’
ห้องของเจสสิก้า
หลังจากที่คริสเดินออกไปสักพัก เจสสิก้าก็ค่อยๆล้มตัวลงนอนอย่างเดิม พลางคิดถึงสิ่งที่ค้างคาใจของเธออยู่ไม่ตก ‘คนที่เธอรัก...’ ‘คนที่อยู่ในสายตาเธอตลอดเวลา’ เขาคนนั้นเป็นใคร..?
แอ๊ด....
เสียงประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างของชายบางคนที่เดินมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เขาวางช่อดอกไม้นั้นลงบนโต๊ะ และเดินมาที่เตียงของเธอ
ใบหน้าขาวได้รูป ดวงตาคมที่ไร้ความรู้สึก และกับทรงผมมั่วๆสีดำมิดที่ขัดกับสีผิวขาวๆของเขา บวกกับเสื้อเชิตตัวขาวราวกับนักธุรกิจ เขาช่างเป็นชายเต็มตัวที่หล่อราวกับเทพบุตรจุติลงมาเกิดยังไงอย่างนั้น เพียงแต่ว่าคนที่เขามาหานั้นไม่รู้จักเขา!
“คุณ... เป็นใครค่ะ?” เจสสิก้าถามเขาคนนั้นไป
“คนที่คุณรัก” เขาตอบมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ความรู้สึกพอๆกับใบหน้าของเขา
“คนที่ฉันรัก?! แต่ฉันไม่รู้จักคุณขอโทษด้วยนะค่ะ” เจสสิก้ามองใบหน้าเขาอย่างชัดๆ เผื่อจะจำอะไรขึ้นมาได้บางแต่มันก็ไม่เป็นผลอะไรเลย
“ไม่แปลกถ้าคนที่ความจำเสื่อมจะจำอะไรไม่ได้ ...งั้นเรามาเริ่มต้นกันไหมเถอะ เจสสิก้า!” เขาเน้นที่ชื่อของเจสสิก้า และดวงตาที่คมกริบราวกับมีดของเขาก็เลือนมาที่ดวงตาของเธอ ดวงตาทั้งสองสบกันสักพักก่อนที่เจสสิก้าจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“แล้วคุณ...ชื่ออะไรค่ะ?”
“จงฮยอน ...ลี-จง-ฮยอน ถ้าเธอลืมฉันอีกเธอจะต้องเจอบทลงโทษแบบนี้” พอเขาพูดจบก็โน้มหน้าตัวเองลงมาประกบปากกับเจสสิก้าอย่างกระทันหัน
เจสสิก้าเบิกตากว้างและรีบถอยหนี แต่เขาดึงร่างของเธอกลับมาประกบปากกับเขาอย่างนั้นเช่นเดิม และใช้มืออีกข้างรั้งหลังของเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ...
_____________________________________________________________
ความคิดเห็น