คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part' 1 :: ความเชื่อใจ(?)
Kris’ Part
“คริสตัล... คริสตัล...” ผมเรียกคริสตัลที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายบนเกาอี้
“พี่สิก้าเป็นไงบ้างค่ะ หมอออกมาแล้วเหรอค่ะ?!!” เมื่อเธอได้สติก็รีบถามทันที
“อื้ม... ออกมาแล้ว” ผมพยักหน้า และหลบหน้าเธอ เพราะไม่กล้าสู้หน้าเธอ
“หมอบอกว่าไงบ้างค่ะ พี่สิก้าเป็นไงบ้าง! แล้วพี่จงฮยอนล่ะค่ะ” คริสตัลยังคงถามคำถามที่ผมไม่สามารถที่จะให้คำตอบกับเธอได้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เพราะไม่อยากยอมรับความจริงมากกว่า
“สิก้าปลอดภัย ตอนนี้หมอพาเธอไปพักที่ห้องแล้ว พี่ก็เลยมาปลุกเธอ”
“จริงเหรอค่ะ?! งั้นเรารีบไปหาพี่สิก้ากันเถอะค่ะ” คริสตัลพูดด้วยความตื่นเต้นแล้วผมก็นำทางเธอไปที่ห้องของสิก้า
Rrr
“ครับคุณน้า” ผมรับโทรศัพท์จากแม่ของจงฮยอน ผมคิดว่าตอนนี้ท่านคงจะรู้แล้วว่าลูกชายคนเล็กของท่านเสียชีวิต
(ตอนนี้น้ารับศพของจงฮยอนมาแล้ว น้ากะว่าจะจัดงานให้วันมะรืนที่บ้าน อย่าลืมมาด้วยนะจ๊ะ) เสียงของคุณน้าดูเศร้านิดๆ แต่เหมือนจะพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้
“ผมทราบแล้วครับ ไว้ผมจะแว่ะไปนะครับ”
(ขอบใจนะ ที่ยังอุตส่าห์อยู่ข้างๆจงฮยอนตลอดมา งั้นเจอกันจ๊ะ)
เมื่อผมวางสายเสร็จก็กลับไปเฝ้าสิก้าอย่างเดิม เวลานี้ผมไม่รู้ว่าจะบอกกับสิก้าบอกกับคริสตัลยังไงว่าจงฮยอนนั้นตายแล้ว พอยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
Minhyuk’ Part
ณ โรงเรียนมัธยม A
“ฝากด้วยนะ” อาจารญ์ห้องปกครองพูดฝากงานให้ผม ก่อนที่ผมจะโค้งรับและเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์
“เฮ้อ... ทำไมวันนี้รู้สึกปวดหัวจังนะ” ผมนั่งลงที่เก้าอี้แถวๆนั้นก่อนจะยกมือขึ้นมาจับหัวและบีบๆนวดๆบรรเทาความเจ็บ
...ตึ่ง ตึ้ง ตึ๊ง... หลังจากเสียงอ๊อดเตือนหมดเวลาพัก ผมก็ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปที่ห้องสมุดต่อ ผมเลือกโต๊ะที่หลบมุมที่สุด และเดินตรงเข้าไปนอนลงที่โต๊ะนั้นทันที
“ถ้าฉันพูดไป... คริสตัลจะโกรธไหมนะ” ผมคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้ง วันนี้มันช่างเป็นวันที่ยุ่งยากจริงๆ
“พี่สิก้า...” จู่ๆ เสียงของหญิงสาวก็ลอดเข้ามาในหูของผม ผมตัดสินใจลุกขึ้นและเดินหาเจ้าของเสียงที่คุ้นหูนั้น
“คริสตัลเหรอ?” ผมพูดขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้านั้นคือ คริสตัล ผู้หญิงที่ผมอยากจะหนีไปให้ไกลที่สุดในตอนนี้
“พี่สิก้า...” เสียงนั้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ และท่าทางที่ดูท่าจะฝันร้ายของเธอนั้นมันทำให้ผมอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ ผมอยากจะเข้าไปดูเธอตอนนี้เลย แต่กลัวว่าเธอจะโมโหใส่
“ม...มินฮยอก!!” คริสตัลเงยหน้าขึ้นมา และเอ๋ยชื่อผม ก่อนที่จะเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้และจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่
“เธอมาทำอะไรที่นี่!? ไม่ไปเรียนเหรอ!?” ผมถามเธอ และเดินออกมาจากที่หลบนั้น
“แล้วทำไมนายไม่ไปเรียน” คริสตัลถามมาพร้อมกลับสู่โหมดปกติของเธอนั้น คือ เย็นชา
“ฉัน... แค่ไม่อยากเข้าเรียน” ผมตอบเธอไป แต่ดูแล้วเธอยังไม่มีท่าทีโกรธผม ถึงแม้ว่าสีหน้าของเธอจะเป็นสีหน้าเดียวก็เถอะ
“ฮึ! หน้าแปลกใจจริงๆ” คริสตัลพูดก่อนทำท่าจะเดินออกไป และแผ่นหลังของเธอนั้นทำให้ผมต้องเรียกเธออีกครั้ง
“คริสตัล!!” ผมตัดสินใจอยู่ 0.1 วินาที ก่อนเรียกเธอไปเสียงดัง
“ทำไม?” เธอขานรับ แต่ไม่หันกลับมาทีเดียว
“รุ่นพี่จงฮยอน... ฉันเสียใจด้วยนะ” พอผมพูดจบคริสตัลก็หันกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันแรงไปหรือเปล่า?
“นายไปรู้เรื่องอะไรมา! นายรู้มามากแค่ไหน?!” คริสตัลเดินตรงมาถามผมด้วยท่าทีไม่พอใจ ผมว่าเธอคงโกรธอยู่มากแน่
“ไม่หรอก... ฉันรู้แค่นั้นแหล่ะ เธอไม่รู้เหรอ?” ผมย้อนถามเธอกลับไปทั้งๆที่รู้คำตอบในใจดี คนอย่างเธอจะไม่รู้ได้ไง ในเมื่อเธอเป็นคงเฝ้าหน้าห้องฉุกเฉินอย่างไม่คลาดสายตา
“มันไม่มีอะไรที่นายต้องรู้” เธอพูดจบก็หันหลังกลับทำท่าจะเดินออกไป แต่ผมคว้าแขนของเธอไว้ก่อน
“แต่ฉันเป็นห่วงเธอนะ” ผมพูดไปในขณะที่มือของผมยังจับแขนของเธอไว้
“เก็บความเป็นห่วงของนาย ไปให้คนมีรักนายจะดีกว่า” เธอพูดโดยที่ไม่หันหน้ามามองผม และก็สบัดแขนออก จากนั้นก็เดินออกไปทันที
‘แต่ฉันรักเธอนะคริสตัล’ คำพูดที่พูดได้เพียงในใจของผมดังลั่นออกมา ถึงแม้ผมจะแสดงออกมากมายแค่ไหน แต่ผมก็ยังไม่เคยมีความกล้าที่จะบอกเธอเลย
ณ โรงยิม
Krystal’ Part
ฉันเดินมาหยุดที่เก้าอี้ชั้นบนสุดของโรงยิม ร่างกายอ่อนแรงของฉันในขณะนี้ไม่รู้ว่าฉันต้องทำยังไงต่อไป ฉันเสียไปทั้งพี่จงฮยอน และความรู้สึกดีๆที่มีให้กับพี่คริส ตอนนี้ฉันควรทำยังไงกับชีวิตอันหน้าอัปยศนี้ดี ชีวิตที่ไม่เหลืออะไรแม้แต่ความเชื่อใจที่มีให้กับเพื่อนสนิทของพี่สาวคนเดียวของฉัน
ฉันตัดสินใจหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ของพี่คริสออกไป ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมพี่คริสถึงได้โกหกฉัน ทำไมพี่คริสต้องทำลายความเชื่อใจของฉันที่มีให้ ทำไมต้องทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้แตกเป็นเสี่ยงๆขนาดนี้
“พี่คริสค่ะ” เมื่อพี่คริสรับโทรศัพท์ฉันก็เรียกชื่อเจ้าของเบอร์ทันที
(มีอะไรงั้นเหรอ?) พี่คริสถามมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไร
“พี่คริสเจอพี่จงฮยอนยังค่ะ?” ฉันเลือกถามไปคริสไปตรงๆ
(ญาติมารับกลับไปแล้วน่ะ มีอะไรเหรอ?)
“พี่จงฮยอนเป็นยังไงบ้างค่ะ? มีแผลมากหรือเปล่า?” ณ จุดนี้ฉันพยายามกลั่นสะอื้นเอาไว้สุดๆ เพราะฉันไม่อยากปล่อยโฮออกมาต่อหน้าใครต่อใคร
“แค่ถลอกหน่ะ เทียบกับสิก้าไม่ได้เลย แล้วทำไมเสียงถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? ร้องไห้เหรอ?”
ฉันตัดสินใจเอาโทรศัพท์ออกจากหูและกดวางไปทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หนักจนคิดว่าชาตินี้คงร้องไห้ขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว
“ฮือๆ ทำไมต้องทำกับพี่จงฮยอนอย่างนี้!!! ทำไมต้องทำเหมือนพี่จงฮยอนไม่ใช่เพื่อน ฮือๆๆๆๆ” T^T ฉันเปิดปากร้องออกมาอย่างไม่อายลม ไม่อายอากาศ
ฉันยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดกับตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เอาแต่นั่งร้องไห้อย่างกับเด็กอายุ 10ขวบ
“พี่จงฮยอน ฮือๆ พี่จงฮยอนฉันขอโทษ!!” ฉันตะโกนออกไปจนสุดเสียงและร้องไห้ไปด้วย
“คริสตัล!! คริสตัล!!!” เสียงของชายบางคนดังขึ้นและวิ่งเข้ามาหาฉันด้วยหน้าตาแตกตื้น และสัญชาตญาติของฉันตอนนี้คือบอกให้วิ่ง! วิ่งไปให้ไกลจากหน้าของเขา จะให้เขาเห็นน้ำตาของฉันไม่ได้เด็ดขาด!!
“อย่ามายุ่งกันฉัน” ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อเขาคนนั้นจับแขนฉันและดึงเข้าไปกอดแนบอก
“ตั้งสตินะคริสตัล! นี้ฉันเอง ...มินฮยอกไง” เขาพยายามพูดให้ฉันสงบอารมณ์ แต่เขานั้นแหล่ะคือคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้
“ปล่อยฉันนะ!!” ฉันพลักอกเขาออกไป แต่มันก็ไม่ได้ผล เขายิ่งกอดรัดฉันแน่นเข้าไปอีก พลางมือหนึ่งยกขึ้นมาลูบหัวฉันช้าๆอย่างกับเป็นลูกแมวของเขา
“ไม่เป็นไรนะ ร้องไห้ออกมาเถอะไม่เป็นไร” เขาพูดและยังคนลูบหัวอย่างนั้นต่อไป ตอนนี้แข้งขาของฉันไม่มีแรงแม้แต่จะยืน หากไม่มีมือข้างหนึ่งของมินฮยอกที่ประคองฉันไว้ ป่านี้ฉันคงต้องล้มลงไปกองกับพื้นแน่นอน
“ฮือๆ ฮึก ฮือ” ฉันกรีดร้องออกมาอย่างหนักและพยายามทุบอกเขาเพื่อแยกตัวเองออกมา แต่มันก็ไม่ได้ผล ฉันจึงยื่นมือออกไปทุบที่หลังของเขา2-3ที ก่อนจะกอดแผ่นหลังนั้นเอาไว้แน่น
“เธอยังมีฉันนะ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” มินฮยอกยังคงปลอบใจฉันเช่นเดิม คำพูดของเขาในตอนนี้มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ ให้ตายสิ! ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ! ทำไมต้องเป็นเขา!
“นายต้องการอะไร! นายทำดีกับฉันเพื่ออะไร! นายทำแบบนี้เพื่ออะไร ฮือๆ ทั้งๆที่ฉันร้ายกับนายมาขนาดนี้ นายยังทำดีกับฉัน นายทำสิ่งนั้นเพื่ออะไร” สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจฉันถูกพูดออกไปอย่างหมดสิ้น! เขาทำดีกับฉันเพื่ออะไร?! เขาทำมันทำไมกัน
“มันไม่มีเหตุผล! ฉันตอบไม่ได้ ฉันแค่ต้องทำดีกับเธอเอาไว้ ถึงแม้รู้ว่าเธอจะไม่คิดอะไรเกินไปมากกว่าคำว่า คนที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่ฉันก็ยังอยากปกป้องเธอ!” แบบนี้คืออะไร คำตอบของเขา?! นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง! ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้จริงๆ
“งั้นก็ออกไปให้ห่างฉัน มันจะดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันไม่ต้องการจะให้นายจำว่าฉันเคยเป็นแบบนี้!” พอฉันพูดจบไป ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเย็นที่เข้ามาแทรกระหว่างฉันกับมินฮยอก
ใช่! ตอนนี้เขาปล่อยมือที่กอดฉันออกแล้ว ส่วนฉันก็ทำได้แค่ก้มหน้าและหัหลังให้เขา และเดินจากไปตามทางของฉัน ผู้หญิงเลวอย่างฉันคงรักนายไม่ได้หรอกมินฮยอก ฉันไม่รู้จักแม้แต่ความรักเลยด้วยซ้ำ นายเองก็ไม่ควรเอาตัวที่ขาวสะอาดของนายมาเปื้อนเนื้อตัวของฉันด้วย
ณ โรงพยาบาล
หลังจากที่หลบไหลไปหลายชั่วโมง ในที่สุด!เปลือกตาของเจสสิก้าก็ค่อยๆเปิดออก จนลืมตาได้เต็มดวงอีกครั้ง
“สิก้า!! ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงของคริสที่นั่งข้างๆเธอดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“คุณ...” เจสสิก้าหันหน้าไปมองคนข้างๆเธอ และพูดพึมพำขึ้นในลำคอ
“เธอจะเอาอะไร บอกมาสิ บอกฉันมา” คริสที่ดูจะตื่นเต้นมากๆพูดขึ้นกับเธอ
“น้ำ... ขอน้ำหน่อย” เจสสิก้าพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงที่อ้อยอิง พลางเอามือขึ้นมาจับที่คอของเธอ
“น้ำ!! ได้ๆ!! รอแปปนะ” คริสหันซ้ายหันขวาไปหาน้ำและรีบรินมาให้เธอทันที เจสสิก้าค่อยๆจิบน้ำทีละนิดจนหมดแล้วและวางหัวลงที่หมอนอีกครั้ง
“คุณ...เป็นใครเหรอค่ะ?”
เปรี๊ยง!!
ความรู้สึกที่เหมือนฟ้าผ่าเกิดขึ้นกลางใจของคริส เธอจำเขาไม่ได้!! เมื่อสิ้นเสียงของเจสสิก้า คริสก็แทบจะล้มลงไปทั้งยืน เขาค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้งและเลื่อนมือไปจับมือของเจสสิก้าขึ้นมา
“ฉันชื่อคริส จำฉันได้ไหม?” คริสพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดหวังที่สุด
“...” เจสสิก้าไม่ปริปากพูดอะไรมาทั้งสิ้น แต่เธอส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้รู้ว่าเธอจำไม่ได้ และดึงมือตัวเองกลับมา
“เธอ... คงจะจำไม่ได้จริงๆสินะ” คริสพูดและก้มหน้าลง เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตา หากวันนั้นเขาไปตามนัดเธอคงไม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้
“... แล้วฉันเป็นใครเหรอค่ะ?” เจสสิก้าถามเขากลับไป คริสเงยหน้าขึ้นมามองเธอก่อนจะพูดขึ้น
“เธอชื่อเจสสิก้า มีน้องสาวหนึ่งคน ชื่อคริสตัล ตอนนี้เธออายุ 23ปี” เขาพยายามพูดประวัติของเธอให้ฟังเพื่อหวังว่าเธอจะจำได้บ้าง
“เจสสิก้าเหรอ? คริสตัล? ฉันจำไม่ได้!!!” เจสสิก้าพูดพลางเอามือสองข้างมากุมที่หัวเอาไว้
“ไม่เป็นไร!! จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้” คริสพูดและคว้ามือเจสสิก้ามากุมเอาไว้อีกครั้ง และหันไปยิ้มให้เธอ
“คุณคือคนที่ฉันไว้ใจได้ใช่ไหม?” เจสสิก้าเอ๋ยเสียงถามมา
“ช..ใช่ เธอไว้ใจฉันได้แน่นอน เพราะเธอไว้ใจฉันตลอด” คริสยืนยันกับเธอไป และยิ้มออกมาจนหน้าบาน
หลังจากนี้เขาเท่านั้นที่จะปกป้องเธอ ไม่มีจงฮยอนที่คอยขัดขวางพวกเรา แต่จะมีแค่คริสที่จะปกป้องเจสสิก้าตลอดไป
________________________________________________________________________
ความคิดเห็น