ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE FRIEND รัก เลห์ ลวง [cnblue snsd exo f(x)] END

    ลำดับตอนที่ #3 : Part' 1 :: ความเชื่อใจ(?)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 56


    Ha .ha


    1

     


     


     

    Kris’ Part

     

    “คริสตัล... คริสตัล...” ผมเรียกคริสตัลที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายบนเกาอี้

     

    “พี่สิก้าเป็นไงบ้างค่ะ หมอออกมาแล้วเหรอค่ะ?!!” เมื่อเธอได้สติก็รีบถามทันที

     

    “อื้ม... ออกมาแล้ว” ผมพยักหน้า และหลบหน้าเธอ เพราะไม่กล้าสู้หน้าเธอ

     

    “หมอบอกว่าไงบ้างค่ะ พี่สิก้าเป็นไงบ้าง! แล้วพี่จงฮยอนล่ะค่ะ” คริสตัลยังคงถามคำถามที่ผมไม่สามารถที่จะให้คำตอบกับเธอได้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เพราะไม่อยากยอมรับความจริงมากกว่า

     

    “สิก้าปลอดภัย ตอนนี้หมอพาเธอไปพักที่ห้องแล้ว พี่ก็เลยมาปลุกเธอ”

     

    “จริงเหรอค่ะ?! งั้นเรารีบไปหาพี่สิก้ากันเถอะค่ะ” คริสตัลพูดด้วยความตื่นเต้นแล้วผมก็นำทางเธอไปที่ห้องของสิก้า

     

    Rrr

     

    “ครับคุณน้า” ผมรับโทรศัพท์จากแม่ของจงฮยอน ผมคิดว่าตอนนี้ท่านคงจะรู้แล้วว่าลูกชายคนเล็กของท่านเสียชีวิต

     

    (ตอนนี้น้ารับศพของจงฮยอนมาแล้ว น้ากะว่าจะจัดงานให้วันมะรืนที่บ้าน อย่าลืมมาด้วยนะจ๊ะ) เสียงของคุณน้าดูเศร้านิดๆ แต่เหมือนจะพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้

     

    “ผมทราบแล้วครับ ไว้ผมจะแว่ะไปนะครับ”

     

    (ขอบใจนะ ที่ยังอุตส่าห์อยู่ข้างๆจงฮยอนตลอดมา งั้นเจอกันจ๊ะ)

     

       เมื่อผมวางสายเสร็จก็กลับไปเฝ้าสิก้าอย่างเดิม เวลานี้ผมไม่รู้ว่าจะบอกกับสิก้าบอกกับคริสตัลยังไงว่าจงฮยอนนั้นตายแล้ว พอยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด

     

    Minhyuk’ Part

    ณ โรงเรียนมัธยม A

     

    “ฝากด้วยนะ” อาจารญ์ห้องปกครองพูดฝากงานให้ผม ก่อนที่ผมจะโค้งรับและเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์

     

    “เฮ้อ... ทำไมวันนี้รู้สึกปวดหัวจังนะ” ผมนั่งลงที่เก้าอี้แถวๆนั้นก่อนจะยกมือขึ้นมาจับหัวและบีบๆนวดๆบรรเทาความเจ็บ

     

    ...ตึ่ง ตึ้ง ตึ๊ง... หลังจากเสียงอ๊อดเตือนหมดเวลาพัก ผมก็ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปที่ห้องสมุดต่อ ผมเลือกโต๊ะที่หลบมุมที่สุด และเดินตรงเข้าไปนอนลงที่โต๊ะนั้นทันที

     

    “ถ้าฉันพูดไป... คริสตัลจะโกรธไหมนะ” ผมคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้ง วันนี้มันช่างเป็นวันที่ยุ่งยากจริงๆ

     

    “พี่สิก้า...” จู่ๆ เสียงของหญิงสาวก็ลอดเข้ามาในหูของผม ผมตัดสินใจลุกขึ้นและเดินหาเจ้าของเสียงที่คุ้นหูนั้น

     

    “คริสตัลเหรอ?” ผมพูดขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้านั้นคือ คริสตัล ผู้หญิงที่ผมอยากจะหนีไปให้ไกลที่สุดในตอนนี้

     

    “พี่สิก้า...” เสียงนั้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ และท่าทางที่ดูท่าจะฝันร้ายของเธอนั้นมันทำให้ผมอดเป็นห่วงเธอไม่ได้ ผมอยากจะเข้าไปดูเธอตอนนี้เลย แต่กลัวว่าเธอจะโมโหใส่

     

    “ม...มินฮยอก!!” คริสตัลเงยหน้าขึ้นมา และเอ๋ยชื่อผม ก่อนที่จะเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้และจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่

     

    “เธอมาทำอะไรที่นี่!? ไม่ไปเรียนเหรอ!?” ผมถามเธอ และเดินออกมาจากที่หลบนั้น

     

    “แล้วทำไมนายไม่ไปเรียน” คริสตัลถามมาพร้อมกลับสู่โหมดปกติของเธอนั้น คือ เย็นชา

     

    “ฉัน... แค่ไม่อยากเข้าเรียน” ผมตอบเธอไป แต่ดูแล้วเธอยังไม่มีท่าทีโกรธผม ถึงแม้ว่าสีหน้าของเธอจะเป็นสีหน้าเดียวก็เถอะ

     

    “ฮึ! หน้าแปลกใจจริงๆ” คริสตัลพูดก่อนทำท่าจะเดินออกไป และแผ่นหลังของเธอนั้นทำให้ผมต้องเรียกเธออีกครั้ง

     

    “คริสตัล!!” ผมตัดสินใจอยู่ 0.1 วินาที ก่อนเรียกเธอไปเสียงดัง

     

    “ทำไม?” เธอขานรับ แต่ไม่หันกลับมาทีเดียว

     

    “รุ่นพี่จงฮยอน... ฉันเสียใจด้วยนะ” พอผมพูดจบคริสตัลก็หันกลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันแรงไปหรือเปล่า?

     

    “นายไปรู้เรื่องอะไรมา! นายรู้มามากแค่ไหน?!” คริสตัลเดินตรงมาถามผมด้วยท่าทีไม่พอใจ ผมว่าเธอคงโกรธอยู่มากแน่

     

    “ไม่หรอก... ฉันรู้แค่นั้นแหล่ะ เธอไม่รู้เหรอ?” ผมย้อนถามเธอกลับไปทั้งๆที่รู้คำตอบในใจดี คนอย่างเธอจะไม่รู้ได้ไง ในเมื่อเธอเป็นคงเฝ้าหน้าห้องฉุกเฉินอย่างไม่คลาดสายตา

     

    “มันไม่มีอะไรที่นายต้องรู้” เธอพูดจบก็หันหลังกลับทำท่าจะเดินออกไป แต่ผมคว้าแขนของเธอไว้ก่อน

     

    “แต่ฉันเป็นห่วงเธอนะ” ผมพูดไปในขณะที่มือของผมยังจับแขนของเธอไว้

     

    “เก็บความเป็นห่วงของนาย ไปให้คนมีรักนายจะดีกว่า” เธอพูดโดยที่ไม่หันหน้ามามองผม และก็สบัดแขนออก จากนั้นก็เดินออกไปทันที

     

    แต่ฉันรักเธอนะคริสตัล คำพูดที่พูดได้เพียงในใจของผมดังลั่นออกมา ถึงแม้ผมจะแสดงออกมากมายแค่ไหน แต่ผมก็ยังไม่เคยมีความกล้าที่จะบอกเธอเลย

     

    ณ โรงยิม

     

    Krystal’ Part

     

       ฉันเดินมาหยุดที่เก้าอี้ชั้นบนสุดของโรงยิม ร่างกายอ่อนแรงของฉันในขณะนี้ไม่รู้ว่าฉันต้องทำยังไงต่อไป ฉันเสียไปทั้งพี่จงฮยอน และความรู้สึกดีๆที่มีให้กับพี่คริส ตอนนี้ฉันควรทำยังไงกับชีวิตอันหน้าอัปยศนี้ดี ชีวิตที่ไม่เหลืออะไรแม้แต่ความเชื่อใจที่มีให้กับเพื่อนสนิทของพี่สาวคนเดียวของฉัน

     

       ฉันตัดสินใจหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ของพี่คริสออกไป ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมพี่คริสถึงได้โกหกฉัน ทำไมพี่คริสต้องทำลายความเชื่อใจของฉันที่มีให้ ทำไมต้องทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนให้แตกเป็นเสี่ยงๆขนาดนี้

     

    “พี่คริสค่ะ” เมื่อพี่คริสรับโทรศัพท์ฉันก็เรียกชื่อเจ้าของเบอร์ทันที

     

    (มีอะไรงั้นเหรอ?) พี่คริสถามมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไร

     

    “พี่คริสเจอพี่จงฮยอนยังค่ะ?” ฉันเลือกถามไปคริสไปตรงๆ

     

    (ญาติมารับกลับไปแล้วน่ะ มีอะไรเหรอ?)

     

    “พี่จงฮยอนเป็นยังไงบ้างค่ะ? มีแผลมากหรือเปล่า?” ณ จุดนี้ฉันพยายามกลั่นสะอื้นเอาไว้สุดๆ เพราะฉันไม่อยากปล่อยโฮออกมาต่อหน้าใครต่อใคร

     

    “แค่ถลอกหน่ะ เทียบกับสิก้าไม่ได้เลย แล้วทำไมเสียงถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? ร้องไห้เหรอ?”

     

       ฉันตัดสินใจเอาโทรศัพท์ออกจากหูและกดวางไปทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หนักจนคิดว่าชาตินี้คงร้องไห้ขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว

     

    “ฮือๆ ทำไมต้องทำกับพี่จงฮยอนอย่างนี้!!! ทำไมต้องทำเหมือนพี่จงฮยอนไม่ใช่เพื่อน ฮือๆๆๆๆ” T^T ฉันเปิดปากร้องออกมาอย่างไม่อายลม ไม่อายอากาศ

     

       ฉันยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดกับตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เอาแต่นั่งร้องไห้อย่างกับเด็กอายุ 10ขวบ

     

    “พี่จงฮยอน ฮือๆ พี่จงฮยอนฉันขอโทษ!!” ฉันตะโกนออกไปจนสุดเสียงและร้องไห้ไปด้วย

     

    “คริสตัล!! คริสตัล!!!” เสียงของชายบางคนดังขึ้นและวิ่งเข้ามาหาฉันด้วยหน้าตาแตกตื้น และสัญชาตญาติของฉันตอนนี้คือบอกให้วิ่ง! วิ่งไปให้ไกลจากหน้าของเขา จะให้เขาเห็นน้ำตาของฉันไม่ได้เด็ดขาด!!

     

    “อย่ามายุ่งกันฉัน” ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อเขาคนนั้นจับแขนฉันและดึงเข้าไปกอดแนบอก

     

    “ตั้งสตินะคริสตัล! นี้ฉันเอง ...มินฮยอกไง” เขาพยายามพูดให้ฉันสงบอารมณ์ แต่เขานั้นแหล่ะคือคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้

     

    “ปล่อยฉันนะ!!” ฉันพลักอกเขาออกไป แต่มันก็ไม่ได้ผล เขายิ่งกอดรัดฉันแน่นเข้าไปอีก พลางมือหนึ่งยกขึ้นมาลูบหัวฉันช้าๆอย่างกับเป็นลูกแมวของเขา

     

    “ไม่เป็นไรนะ ร้องไห้ออกมาเถอะไม่เป็นไร” เขาพูดและยังคนลูบหัวอย่างนั้นต่อไป ตอนนี้แข้งขาของฉันไม่มีแรงแม้แต่จะยืน หากไม่มีมือข้างหนึ่งของมินฮยอกที่ประคองฉันไว้ ป่านี้ฉันคงต้องล้มลงไปกองกับพื้นแน่นอน

     

    “ฮือๆ ฮึก ฮือ” ฉันกรีดร้องออกมาอย่างหนักและพยายามทุบอกเขาเพื่อแยกตัวเองออกมา แต่มันก็ไม่ได้ผล ฉันจึงยื่นมือออกไปทุบที่หลังของเขา2-3ที ก่อนจะกอดแผ่นหลังนั้นเอาไว้แน่น

     

    “เธอยังมีฉันนะ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” มินฮยอกยังคงปลอบใจฉันเช่นเดิม คำพูดของเขาในตอนนี้มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆ ให้ตายสิ! ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ! ทำไมต้องเป็นเขา!

     

    “นายต้องการอะไร! นายทำดีกับฉันเพื่ออะไร! นายทำแบบนี้เพื่ออะไร ฮือๆ ทั้งๆที่ฉันร้ายกับนายมาขนาดนี้ นายยังทำดีกับฉัน นายทำสิ่งนั้นเพื่ออะไร” สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจฉันถูกพูดออกไปอย่างหมดสิ้น! เขาทำดีกับฉันเพื่ออะไร?! เขาทำมันทำไมกัน

     

    “มันไม่มีเหตุผล! ฉันตอบไม่ได้ ฉันแค่ต้องทำดีกับเธอเอาไว้ ถึงแม้รู้ว่าเธอจะไม่คิดอะไรเกินไปมากกว่าคำว่า คนที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่ฉันก็ยังอยากปกป้องเธอ!” แบบนี้คืออะไร คำตอบของเขา?! นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง! ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้จริงๆ

     

    “งั้นก็ออกไปให้ห่างฉัน มันจะดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันไม่ต้องการจะให้นายจำว่าฉันเคยเป็นแบบนี้!” พอฉันพูดจบไป ฉันก็รู้สึกได้ถึงความเย็นที่เข้ามาแทรกระหว่างฉันกับมินฮยอก

      

       ใช่! ตอนนี้เขาปล่อยมือที่กอดฉันออกแล้ว ส่วนฉันก็ทำได้แค่ก้มหน้าและหัหลังให้เขา และเดินจากไปตามทางของฉัน ผู้หญิงเลวอย่างฉันคงรักนายไม่ได้หรอกมินฮยอก ฉันไม่รู้จักแม้แต่ความรักเลยด้วยซ้ำ นายเองก็ไม่ควรเอาตัวที่ขาวสะอาดของนายมาเปื้อนเนื้อตัวของฉันด้วย

     

    ณ โรงพยาบาล

       หลังจากที่หลบไหลไปหลายชั่วโมง ในที่สุด!เปลือกตาของเจสสิก้าก็ค่อยๆเปิดออก จนลืมตาได้เต็มดวงอีกครั้ง

     

    “สิก้า!! ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงของคริสที่นั่งข้างๆเธอดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น

     

    “คุณ...” เจสสิก้าหันหน้าไปมองคนข้างๆเธอ และพูดพึมพำขึ้นในลำคอ

     

    “เธอจะเอาอะไร บอกมาสิ บอกฉันมา” คริสที่ดูจะตื่นเต้นมากๆพูดขึ้นกับเธอ

     

    “น้ำ... ขอน้ำหน่อย” เจสสิก้าพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงที่อ้อยอิง พลางเอามือขึ้นมาจับที่คอของเธอ

     

    “น้ำ!! ได้ๆ!! รอแปปนะ” คริสหันซ้ายหันขวาไปหาน้ำและรีบรินมาให้เธอทันที เจสสิก้าค่อยๆจิบน้ำทีละนิดจนหมดแล้วและวางหัวลงที่หมอนอีกครั้ง

     

    “คุณ...เป็นใครเหรอค่ะ?”

     

    เปรี๊ยง!!

       ความรู้สึกที่เหมือนฟ้าผ่าเกิดขึ้นกลางใจของคริส เธอจำเขาไม่ได้!! เมื่อสิ้นเสียงของเจสสิก้า คริสก็แทบจะล้มลงไปทั้งยืน เขาค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้งและเลื่อนมือไปจับมือของเจสสิก้าขึ้นมา

     

    “ฉันชื่อคริส จำฉันได้ไหม?” คริสพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าคาดหวังที่สุด

     

    “...” เจสสิก้าไม่ปริปากพูดอะไรมาทั้งสิ้น แต่เธอส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้รู้ว่าเธอจำไม่ได้ และดึงมือตัวเองกลับมา

     

    “เธอ... คงจะจำไม่ได้จริงๆสินะ” คริสพูดและก้มหน้าลง เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตา หากวันนั้นเขาไปตามนัดเธอคงไม่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้

     

    “... แล้วฉันเป็นใครเหรอค่ะ?” เจสสิก้าถามเขากลับไป คริสเงยหน้าขึ้นมามองเธอก่อนจะพูดขึ้น

     

    “เธอชื่อเจสสิก้า มีน้องสาวหนึ่งคน ชื่อคริสตัล ตอนนี้เธออายุ 23ปี” เขาพยายามพูดประวัติของเธอให้ฟังเพื่อหวังว่าเธอจะจำได้บ้าง

     

    “เจสสิก้าเหรอ? คริสตัล? ฉันจำไม่ได้!!!” เจสสิก้าพูดพลางเอามือสองข้างมากุมที่หัวเอาไว้

     

    “ไม่เป็นไร!! จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้” คริสพูดและคว้ามือเจสสิก้ามากุมเอาไว้อีกครั้ง และหันไปยิ้มให้เธอ

     

    “คุณคือคนที่ฉันไว้ใจได้ใช่ไหม?” เจสสิก้าเอ๋ยเสียงถามมา

     

    “ช..ใช่ เธอไว้ใจฉันได้แน่นอน เพราะเธอไว้ใจฉันตลอด” คริสยืนยันกับเธอไป และยิ้มออกมาจนหน้าบาน

     

       หลังจากนี้เขาเท่านั้นที่จะปกป้องเธอ ไม่มีจงฮยอนที่คอยขัดขวางพวกเรา แต่จะมีแค่คริสที่จะปกป้องเจสสิก้าตลอดไป


    ________________________________________________________________________





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×