ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #11 : Ep.11 - Seraph

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.35K
      205
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.11 – Seraph

    หวา...สูงชะมัดเลยแฮะ

    เกลเปรยขึ้นเล็กน้อยขณะมองลงไปเบื้องล่าง ณ เวลานี้ชายหนุ่มกำลังขนาบสองเท้าติดกับเสาดำซึ่งสูงเกือบตึกสิบชั้น การกระทำอันบ้าบิ่นอย่าง <ปีนเสานั้นได้ถูกเกลกระทำไปแล้วเรียบร้อย

    แน่นอนว่าไม่ใช่การปีนสดโดยไร้สลิง เพราะเกลได้ใช้โซ่เส้นที่สองต่างเชือกค้ำแทน,กล่าวคือการ <ปีนเสาจึงกลายเป็นการ <เดินเสาโดยใช้โซ่จากปลอกคอเป็นตัวรั้ง นับว่าโชคดีที่สุดปลายโซ่อยู่เหนือสุดบนยอดเสา ดังนั้นการเดินทางร่วมตึกสิบชั้นนี้จึงไม่ได้ลำบากลำบนอะไรมากนัก

    จะมีก็แค่ความรู้สึกหวาดเสียวเล็กๆเท่านั้น

    เข้าใจความรู้สึกของพวกทำงานเช็ดกระจกเลยล่ะ

    เกลนึกขำ,ก่อนจะปีนขึ้นไปเรื่อยๆอย่างราบรื่น กระทั่งผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เกลจึงมองเห็นยอดเสาในที่สุด————เมื่อเห็นเส้นชัยอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มจึงบังเกิดแรงเฮือกหนึ่งปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

    และแล้วก็มาถึง

    ฮึบ..! ฮ่า!”

    เกลปีนขึ้นไปยืนบนยอดเสา แทบจะทันทีก็ลงไปนอนแผ่หลาอยู่อย่างนั้นด้วยความเหนื่อยอ่อน————กระทั่งพอหายเหนื่อย เกลจึงตบหน้าตนดังแปะเพื่อเรียกคืนสติ

    เกลเหยียดกายขึ้นพลางจับจ้องไปยังเทือกเขาทั้งสองด้าน ตำแหน่งที่เขายืนอยู่นี้นับว่าสูงกว่าเขาทั้งสองลูกอยู่ประมาณ 10 เมตรเห็นจะได้ ส่วนความกว้างก็ห่างออกไป 30 เมตรอย่างละด้าน เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น,เกลจึงฉีกยิ้มขึ้นมุมปาก————ทุกอย่างช่างเหมาะเจาะดังที่เขาคาดการณ์ไว้

    นี่คือแผนการของเกล

    ตลอดมาเขาไม่ได้หวังอะไรมากกับทางเดินไร้ที่สิ้นสุด เพราะกระทั่ง <วิชาอาคมยังมีให้เห็น งั้นหากจะเป็นอะไรที่แฟนตาซีหน่อยอย่าง <มนต์บังตาหรืออะไรทำนองนั้นบ้าง เกลก็คงไม่แปลกใจนัก

    ในกรณีนี้เพราะทางตรงมันไม่แน่นอน เกลจึงเลือกเป็นทางบนซึ่งอยู่เหนือหัวแทน อย่างน้อยเส้นทางนี้ก็ยังมองเห็นสุดปลายทางบนเทือกเขาได้เด่นชัดผิดกับกรณีแรก————ดังนั้นที่เกล <ปีนขึ้นมาก็เป็นเพราะคิดจะข้ามเทือกเขาออกไปนั่นเอง

    จังหวะนี้ก็ได้แต่รอ <คลื่นระลอกต่อไปให้เขาทั้งสองลูกมาใกล้พอที่เกลจะโดดข้ามไปได้

    ฉะนั้นช่วงเวลานี้เกลจึงได้แต่นั่งว่างอย่างเบื่อหน่าย

    ฮ้าว~! เมื่อไหร่จะมาซักทีเนี่ย?”

    เกลหาวขึ้นหวอดหนึ่งพลางยกมือป้องปาก จากที่เห็นมาแต่ละครั้ง,ดูเหมือนการปรากฏตัวของ <คลื่นจะมีเวลาที่ไม่ค่อยแน่นอนนัก บางครั้งก็เกือบชั่วโมงหรือบางครั้งก็ห้านาที

    เกลที่ว่างจัดจึงถอนหายใจเฮือกก่อนจะเดินสำรวจรอบบริเวณเสาสูงแห่งนี้ กระนั้นถึงจะเอ่ยคำว่า <สำรวจทว่าพื้นที่ชั้นบนนี้กลับมีความกว้างเพียงสามคนโอบ ดังนั้นคำว่า <สำรวจจึงควรเป็น <มองกวาดไปเสียซะมากกว่า————กระทั่งเกลเจอสิ่งผิดแปลกอยู่ ณ ใจกลางยอดเสา

    สิ่งนั้นเป็นบ่วงเหล็กสีดำเฉกเดียวกับตัวเสา และเหนือสิ่งอื่นใดคือบ่วงเหล็กนี้กำลังคล้องติดโซ่เส้นที่สองของเกลอยู่————ที่สำคัญกว่านั้นคือโซ่คล้องอยู่มันไม่ได้มีเพียงแค่เส้นเดียว

    แต่เป็นสี่เส้น

    ....

    หมายความว่ายังไงกัน?

    ไม่สิ..คำตอบของคำถามนี้ เราเองก็รู้อยู่แล้วนี่

    มีสามคน..งั้นเหรอ?”

    คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ หากเกลเข้าใจไม่ผิด,เพราะการที่เขาสัมผัสเสาต้นนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ดังนั้นโซ่เส้นใหม่จึงผุดขึ้นมาเชื่อมติดกับปลอกคอ ถ้างั้น..ในกรณีนี้ก็จะกล่าวได้อีกแง่หนึ่ง

    ก่อนหน้านี้,ก็มีคนทำแบบเดียวกันกับเกล————มีคนมาถึงเสาต้นนี้และแตะมัน...แถมยังมีด้วยกันถึงสามคนอีก

    ใครกันนะ?

    พอดูทิศทางของโซ่ทั้งสามเส้นก็พบว่าชี้กระจัดกระจายไปทั่วยากคาดเดาว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด กระนั้นที่เห็นได้ชัดก็คือไม่มีเส้นมุ่งทางเดิมซึ่งอยู่ด้านหลัง————หรือก็คือไม่มีใครกลับไปยังจุดเดิมเลยแม้แต่น้อย

    งั้นแสดงว่าพวกเขาหนีออกไปได้แล้วงั้นเหรอ?

    เกลตั้งคำถามเช่นนั้น ทว่าก่อนจะทันใดขบคิดไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นรอบอาณาบริเวณของสถานีที่สามแซมกาด้าก็พลันบังเกิดเสียงระฆังก้องสั่นสะท้านไปทั่ว

    มาแล้ว!

    เกลใจเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันก็สาดส่องสายตาไปยังสองข้างทางซึ่งปรากฏเขาสูงทั้งสองกำลังเคลื่อนขยับเข้ามาใกล้ ในห้วงเวลานี้เกลได้แต่ย้ำเตือนตัวเองว่าต้องไม่สติแตกจนเตลิดอีก

    ใจเย็นเข้าไว้..ทุกอย่างมันต้องราบรื่น————ได้แต่ย้ำตนเองอย่างนั้น กระทั่งพอเขาทั้งสองลูกเคลื่อนมาใกล้ห่างไม่ถึง 5 เมตร เกลจึงกลืนน้ำลายเอื้อกเตรียมพร้อม จากนั้นพอเข้ามาในระยะ 2 เมตร...

    เกลจึงโดดออกไปทันทีโดยไม่ลังเล

    ตึง!

    เสียงย่ำเท้าหนักดังขึ้นพร้อมเพรียงกับความเจ็บปวดที่แล่นปลาบขึ้นมาในใจ ก็นับว่าไม่แปลกเพราะเกลเพิ่งโดดลงมาจากความสูง 10 เมตร กระนั้นความเจ็บปวดนี้ก็ไม่ร้ายแรงนัก ที่รู้สึกก็แค่ขาชาไปหมดกับความเจ็บปวดเหมือนถูกเข้มนับร้อยจิ้มก็เท่านั้น————ยังดีที่ขาไม่หัก

    แต่เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ

    ฟู่..

    เกลยืนนึ่งขณะเดียวกันก็เป่าปากราวกับยกเขาลูกใหญ่ออกจากอก เหงื่อกาฬตามตัวกำลังไหลรินชโลมกายผสมปนเปกับเลือดที่แห้งกรัง สายตาของเขาจับจ้องไปยังท้องฟ้าสีแดงฉานอย่างมีความหวังยิ่งกว่าเก่า บางทีการออกไปจากที่นี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน

    เราทำได้————

    ในที่สุดก็หนีออกมาจาก <คลื่นและนรกขุมที่สามแซมกาด้าได้แล้ว

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×